ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
การค้นหาขั้นสูง

149721 กระทู้ ใน 4435 หัวข้อ- โดย 847 สมาชิก - สมาชิกล่าสุด: axlrose

16 พฤษภาคม 2024 | 12:22:38 AM
หน้า: 1 ... 15 16 [17] 18 19 ... 30
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: 24-Bit File  (อ่าน 206571 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
TRON
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 12866



ดูรายละเอียด
« ตอบ #240 เมื่อ: 19 พฤษภาคม 2011 | 10:52:43 AM »

pioneer ไม่ต้องเลือกเลยครับ ขึ้น dvd-audio ฟังแล้วเสียงต่างจาก cd ชัดเจน
dune ขึ้นแต่ optical disc ครับ ฟังแล้วไม่ต่างมากครับ

ประเด็น dts-cd ผมว่า ผู้ขายเขาคงเข้าใจว่า ผู้เล่นต้องใช้เครื่อง dvd ที่เล่น dts ได้เล่น เลยเรียกไปเป็น dvd-audio เสีย ซึ่งไม่ใช่อย่างที่คุณ TRON ว่า

ครับ Pioneer ไม่ต้องเลือกเพราะมันอ่าน DVD-Audio ได้ ส่วน Dune มันไม่อ่าน DVD-Audio แล้วเมนูหน้าจอเวลาเล่นกับ Dune ที่ขึ้น(หมายถึงเมนูในแผ่นนะครับ ไม่ใช่เมนูในเครื่อง Dune) อยากทราบว่ามันให้เลือกเป็น Stereo, Dolby 5.1 อะไรประมาณนี้ใช่หรือเปล่าครับ?

กรณี DTS CD ที่คนทั่วไปทำเองกันนี่ เขาเปิดกับเครื่องเล่นซีดีธรรมดานะครับ ไม่ต้องใช้เครื่องเล่นดีวีดีเปิด แต่แผ่น The Moody Blues ของคุณ polotoon คงไม่ใช่ DTS CD เพราะต้องเข้าเมนูเหมือน DVD-Audio เพียงแต่ขับเสียง DTS 24/96 อย่างเดียว ไม่มีเสียงแบบ Hi-Res ของ DVD-Audio แต่คุณภาพเสียงก็น่าจะเท่ากัน
ต้องเป็น CD players with a digital (S/PDIF) output นะครับ จะได้เอาสัญญาณไปถอดรหัสที่ AV Amp. อีกที

ครับ พวก Digital Out ที่เป็นสาย optic ใช่ไหมครับ?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19 พฤษภาคม 2011 | 10:54:19 AM โดย TRON » บันทึกการเข้า
.. polotoon ..
The Snow Goose
**********
กระทู้: 18602



ดูรายละเอียด
« ตอบ #241 เมื่อ: 19 พฤษภาคม 2011 | 11:10:51 AM »

pioneer ไม่ต้องเลือกเลยครับ ขึ้น dvd-audio ฟังแล้วเสียงต่างจาก cd ชัดเจน
dune ขึ้นแต่ optical disc ครับ ฟังแล้วไม่ต่างมากครับ

ประเด็น dts-cd ผมว่า ผู้ขายเขาคงเข้าใจว่า ผู้เล่นต้องใช้เครื่อง dvd ที่เล่น dts ได้เล่น เลยเรียกไปเป็น dvd-audio เสีย ซึ่งไม่ใช่อย่างที่คุณ TRON ว่า

ครับ Pioneer ไม่ต้องเลือกเพราะมันอ่าน DVD-Audio ได้ ส่วน Dune มันไม่อ่าน DVD-Audio แล้วเมนูหน้าจอเวลาเล่นกับ Dune ที่ขึ้น(หมายถึงเมนูในแผ่นนะครับ ไม่ใช่เมนูในเครื่อง Dune) อยากทราบว่ามันให้เลือกเป็น Stereo, Dolby 5.1 อะไรประมาณนี้ใช่หรือเปล่าครับ?

กรณี DTS CD ที่คนทั่วไปทำเองกันนี่ เขาเปิดกับเครื่องเล่นซีดีธรรมดานะครับ ไม่ต้องใช้เครื่องเล่นดีวีดีเปิด แต่แผ่น The Moody Blues ของคุณ polotoon คงไม่ใช่ DTS CD เพราะต้องเข้าเมนูเหมือน DVD-Audio เพียงแต่ขับเสียง DTS 24/96 อย่างเดียว ไม่มีเสียงแบบ Hi-Res ของ DVD-Audio แต่คุณภาพเสียงก็น่าจะเท่ากัน
ต้องเป็น CD players with a digital (S/PDIF) output นะครับ จะได้เอาสัญญาณไปถอดรหัสที่ AV Amp. อีกที

ครับ พวก Digital Out ที่เป็นสาย optic ใช่ไหมครับ?
ประมาณนั้นน่ะครับ ผมไม่ค่อยรู้จักดีเท่าไรครับ

เอาข้อมูลมาเพิ่มครับ เมื่อวานเอามาไม่ครบ เสียดายจัง


HDCD
เริ่มทำมาจากบริษัทในอเมริกาชื่อ  Pacific Microsonics  ซึ่งต้องการพัฒนาซีดีให้มีคุณภาพดีเพื่อใช้นำมาขายให้กับพวก  Audiophile  ทั้งหลาย  โดยได้เริ่มที่ความละเอียด  20 bit  48 kHz  และก็มาถึง  24 bit 96 kHz  ในปัจจุบันเช่นเดียวกัน

HDCD  ไม่ได้ใช้เทคนิค  2  Layer  เหมือนกับ  SACD  แต่ใช้เทคนิคเขียนโค้ดแทรกเอาไว้ที่แทรคสุดท้าย  (แทรคที่  16)  ถ้าคุณใช้เครื่องเล่น  CD  ธรรมดาก็จะอ่านได้  16 bit  ครับ  แต่ถ้าคุณมีเครื่องเล่น  HDCD   ตัวเครื่องจะทำการแปลงโค้ดตัวสุดท้ายให้  คุณก็จะได้ข้อมูล  20 bit  หรือ  24 bit  ตามแต่ที่เขาใส่มาครับ  เพราะฉะนั้นถ้าคุณไม่มีเครื่องเล่นก็หมดสิทธิ์ครับ  555

บริษัท  Pacific Microsonics  ผลิตแผ่น HDCD  ออกมาได้ระยะหนึ่ง  Microsoft  ซึ่งรวยมากไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไร  (บริจาคก็เยอะแยะแล้วไม่หมดสักที  555)  เลยมาซื้อบริษัทต่างๆ  รวมถึงบริษัทนี้ด้วย  ช่วงหลังจึงเห็นตรา  HDCD  นี้พ่วงตรา  Microsoft  ไปด้วย  (ทำเอาผมซึ่งช้อบชอบตาบิล  เกตต์  เซ็งเลย)  Microsoft  ได้นำระบบเสียงนี้มาใช้กับเทคโนโลยีของตัวเอง  แผ่น  HDCD  ส่วนใหญ่จะเป็นแผ่นจาก  อเมริกา  ค่ายเพลงเล็กบ้างใหญ่บ้าง  แล้วแต่ซื้อลิขสิทธิ์ได้  ส่วนใหญ่จะเป็นงานเก่าๆ  แจ๊ส  บูลส์  คลาสสิกจะเยอะสักหน่อย  ไม่ค่อยเห็นร็อค

XRCD
JVC  เขามีห้องอัดเป็นของตัวเอง  ก็อยากจะมีแผ่นซีดีความละเอียดสูงขายกับเขาบ้างก็เลยเริ่มทำ  โดยใช้เทคนิคในห้องอัดของตัวเองที่เรียกว่า  K2  ในการบันทึก  ซึ่งก็เริ่มทำที่  20  bit  48 kHz  เช่นเดียวกัน  และก็ได้ออก  XRCD2  ซึ่งใช้ความละเอียด  24 bit  96 kHz  ตามมาทีหลัง

XRCD  ใช้เทคนิคไม่เหมือนคนอื่นคือไม่ได้มีโค้ด  20 bit  หรือ  24 bit  จริง  มีแค่  16  bit  เท่ากับ  CD  ธรรดาเท่านั้น  แต่ไปใช้ความสามารถในขั้นตอนการผลิตพยายามเข้ารหัส  (K2 Encoding)  ให้ได้เสียงเทียบเท่ากับ  20 bit  และ  24  bit  (ขั้นตอนตรงนี้ไปหาข้อมูลอ่านดูจะรู้ว่าวุ่นวายมากๆ  เลยครับ)  ทำให้เล่นกับเครื่องเล่น  CD  ธรรมดาได้เลย  ไม่ต้องใช้ตัวแปลงอะไรอีก  แผ่นที่ผลิตออกมาส่วนใหญ่จะเป็นของสังกัด  JVC  เองครับ  มีเพลงญี่ปุ่นเยอะครับ  ช่วงหลังเห็นมีการซื้อ  Master Tape  ดังๆ  มาทำด้วยครับ
บันทึกการเข้า

ท่านผีเพลง
Voyage Of The Acolyte
*********
กระทู้: 4733


Phantom of the Paradise


ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #242 เมื่อ: 19 พฤษภาคม 2011 | 11:14:07 AM »

อ่านแล้วมึน ฮืม
รู้กันอยู่สองคน ตกใจ
(รักนะเด็กโง่ อิๆ) จุมพิต จุมพิต
บันทึกการเข้า

TRON
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 12866



ดูรายละเอียด
« ตอบ #243 เมื่อ: 19 พฤษภาคม 2011 | 11:15:07 AM »

HDCD สมัยก่อนเห็นมี Mike Oldfield กับ King Crimson ออกมาทุกชุด แต่ผมไม่มีเครื่องเล่น ส่วน XRCD ถ้าเสียง 20 bit หรือ 24 bit ก็ถือว่าสุดยอดครับ แบบนี้ต้องให้พี่อั๋นมาแถลงหน่อยครับ ว่าซีดีบางอย่างก็ให้เสียงเกิน 16 bit ได้นี่นา ว่าแต่ XRCD หายไปไหนแล้วครับ?
บันทึกการเข้า
อั๋น501
Voyage Of The Acolyte
*********
กระทู้: 4240



ดูรายละเอียด
« ตอบ #244 เมื่อ: 19 พฤษภาคม 2011 | 11:16:29 AM »

pioneer ไม่ต้องเลือกเลยครับ ขึ้น dvd-audio ฟังแล้วเสียงต่างจาก cd ชัดเจน
dune ขึ้นแต่ optical disc ครับ ฟังแล้วไม่ต่างมากครับ

ประเด็น dts-cd ผมว่า ผู้ขายเขาคงเข้าใจว่า ผู้เล่นต้องใช้เครื่อง dvd ที่เล่น dts ได้เล่น เลยเรียกไปเป็น dvd-audio เสีย ซึ่งไม่ใช่อย่างที่คุณ TRON ว่า

ครับ Pioneer ไม่ต้องเลือกเพราะมันอ่าน DVD-Audio ได้ ส่วน Dune มันไม่อ่าน DVD-Audio แล้วเมนูหน้าจอเวลาเล่นกับ Dune ที่ขึ้น(หมายถึงเมนูในแผ่นนะครับ ไม่ใช่เมนูในเครื่อง Dune) อยากทราบว่ามันให้เลือกเป็น Stereo, Dolby 5.1 อะไรประมาณนี้ใช่หรือเปล่าครับ?

กรณี DTS CD ที่คนทั่วไปทำเองกันนี่ เขาเปิดกับเครื่องเล่นซีดีธรรมดานะครับ ไม่ต้องใช้เครื่องเล่นดีวีดีเปิด แต่แผ่น The Moody Blues ของคุณ polotoon คงไม่ใช่ DTS CD เพราะต้องเข้าเมนูเหมือน DVD-Audio เพียงแต่ขับเสียง DTS 24/96 อย่างเดียว ไม่มีเสียงแบบ Hi-Res ของ DVD-Audio แต่คุณภาพเสียงก็น่าจะเท่ากัน
ต้องเป็น CD players with a digital (S/PDIF) output นะครับ จะได้เอาสัญญาณไปถอดรหัสที่ AV Amp. อีกที

ครับ พวก Digital Out ที่เป็นสาย optic ใช่ไหมครับ?
ประมาณนั้นน่ะครับ ผมไม่ค่อยรู้จักดีเท่าไรครับ

เอาข้อมูลมาเพิ่มครับ เมื่อวานเอามาไม่ครบ เสียดายจัง


HDCD
เริ่มทำมาจากบริษัทในอเมริกาชื่อ  Pacific Microsonics  ซึ่งต้องการพัฒนาซีดีให้มีคุณภาพดีเพื่อใช้นำมาขายให้กับพวก  Audiophile  ทั้งหลาย  โดยได้เริ่มที่ความละเอียด  20 bit  48 kHz  และก็มาถึง  24 bit 96 kHz  ในปัจจุบันเช่นเดียวกัน

HDCD  ไม่ได้ใช้เทคนิค  2  Layer  เหมือนกับ  SACD  แต่ใช้เทคนิคเขียนโค้ดแทรกเอาไว้ที่แทรคสุดท้าย  (แทรคที่  16)  ถ้าคุณใช้เครื่องเล่น  CD  ธรรมดาก็จะอ่านได้  16 bit  ครับ  แต่ถ้าคุณมีเครื่องเล่น  HDCD   ตัวเครื่องจะทำการแปลงโค้ดตัวสุดท้ายให้  คุณก็จะได้ข้อมูล  20 bit  หรือ  24 bit  ตามแต่ที่เขาใส่มาครับ  เพราะฉะนั้นถ้าคุณไม่มีเครื่องเล่นก็หมดสิทธิ์ครับ  555

บริษัท  Pacific Microsonics  ผลิตแผ่น HDCD  ออกมาได้ระยะหนึ่ง  Microsoft  ซึ่งรวยมากไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไร  (บริจาคก็เยอะแยะแล้วไม่หมดสักที  555)  เลยมาซื้อบริษัทต่างๆ  รวมถึงบริษัทนี้ด้วย  ช่วงหลังจึงเห็นตรา  HDCD  นี้พ่วงตรา  Microsoft  ไปด้วย  (ทำเอาผมซึ่งช้อบชอบตาบิล  เกตต์  เซ็งเลย)  Microsoft  ได้นำระบบเสียงนี้มาใช้กับเทคโนโลยีของตัวเอง  แผ่น  HDCD  ส่วนใหญ่จะเป็นแผ่นจาก  อเมริกา  ค่ายเพลงเล็กบ้างใหญ่บ้าง  แล้วแต่ซื้อลิขสิทธิ์ได้  ส่วนใหญ่จะเป็นงานเก่าๆ  แจ๊ส  บูลส์  คลาสสิกจะเยอะสักหน่อย  ไม่ค่อยเห็นร็อค

XRCD
JVC  เขามีห้องอัดเป็นของตัวเอง  ก็อยากจะมีแผ่นซีดีความละเอียดสูงขายกับเขาบ้างก็เลยเริ่มทำ  โดยใช้เทคนิคในห้องอัดของตัวเองที่เรียกว่า  K2  ในการบันทึก  ซึ่งก็เริ่มทำที่  20  bit  48 kHz  เช่นเดียวกัน  และก็ได้ออก  XRCD2  ซึ่งใช้ความละเอียด  24 bit  96 kHz  ตามมาทีหลัง

XRCD  ใช้เทคนิคไม่เหมือนคนอื่นคือไม่ได้มีโค้ด  20 bit  หรือ  24 bit  จริง  มีแค่  16  bit  เท่ากับ  CD  ธรรดาเท่านั้น  แต่ไปใช้ความสามารถในขั้นตอนการผลิตพยายามเข้ารหัส  (K2 Encoding)  ให้ได้เสียงเทียบเท่ากับ  20 bit  และ  24  bit  (ขั้นตอนตรงนี้ไปหาข้อมูลอ่านดูจะรู้ว่าวุ่นวายมากๆ  เลยครับ)  ทำให้เล่นกับเครื่องเล่น  CD  ธรรมดาได้เลย  ไม่ต้องใช้ตัวแปลงอะไรอีก  แผ่นที่ผลิตออกมาส่วนใหญ่จะเป็นของสังกัด  JVC  เองครับ  มีเพลงญี่ปุ่นเยอะครับ  ช่วงหลังเห็นมีการซื้อ  Master Tape  ดังๆ  มาทำด้วยครับ

ทั้งหมดที่กล่าวมานี่เป็นขั้นตอนทำมาสเตอร์เทปต้นฉบับ แต่เวลาเล่นกลับก็คือมาตรฐานซีดีครับ
บันทึกการเข้า
อั๋น501
Voyage Of The Acolyte
*********
กระทู้: 4240



ดูรายละเอียด
« ตอบ #245 เมื่อ: 19 พฤษภาคม 2011 | 11:18:38 AM »

อ่านแล้วมึน ฮืม
รู้กันอยู่สองคน ตกใจ
(รักนะเด็กโง่ อิๆ) จุมพิต จุมพิต

"รักนะเด็กโง่" นี่แสดงว่าพี่ผีรักเด็กโง่ไม่รักเด็กฉลาดกลัวรู้ทันหรือเปล่า
บันทึกการเข้า
Pong-Wanchai
The Snow Goose
**********
กระทู้: 8464



ดูรายละเอียด
« ตอบ #246 เมื่อ: 19 พฤษภาคม 2011 | 11:27:58 AM »

อ่านแล้วมึน ฮืม
รู้กันอยู่สองคน ตกใจ
(รักนะเด็กโง่ อิๆ) จุมพิต จุมพิต

"รักนะเด็กโง่" นี่แสดงว่าพี่ผีรักเด็กโง่ไม่รักเด็กฉลาดกลัวรู้ทันหรือเปล่า

อ่านแล้ว "มึน" จริงๆ ครับ ยิ่งกว่าน้ำเขียวซะอีก !!!

ไม่เอาละ...ไปดีกว่า   ฟิ้ว...ว...ว...ว
บันทึกการเข้า
อั๋น501
Voyage Of The Acolyte
*********
กระทู้: 4240



ดูรายละเอียด
« ตอบ #247 เมื่อ: 19 พฤษภาคม 2011 | 11:51:21 AM »

pioneer ไม่ต้องเลือกเลยครับ ขึ้น dvd-audio ฟังแล้วเสียงต่างจาก cd ชัดเจน
dune ขึ้นแต่ optical disc ครับ ฟังแล้วไม่ต่างมากครับ

ประเด็น dts-cd ผมว่า ผู้ขายเขาคงเข้าใจว่า ผู้เล่นต้องใช้เครื่อง dvd ที่เล่น dts ได้เล่น เลยเรียกไปเป็น dvd-audio เสีย ซึ่งไม่ใช่อย่างที่คุณ TRON ว่า

ครับ Pioneer ไม่ต้องเลือกเพราะมันอ่าน DVD-Audio ได้ ส่วน Dune มันไม่อ่าน DVD-Audio แล้วเมนูหน้าจอเวลาเล่นกับ Dune ที่ขึ้น(หมายถึงเมนูในแผ่นนะครับ ไม่ใช่เมนูในเครื่อง Dune) อยากทราบว่ามันให้เลือกเป็น Stereo, Dolby 5.1 อะไรประมาณนี้ใช่หรือเปล่าครับ?

กรณี DTS CD ที่คนทั่วไปทำเองกันนี่ เขาเปิดกับเครื่องเล่นซีดีธรรมดานะครับ ไม่ต้องใช้เครื่องเล่นดีวีดีเปิด แต่แผ่น The Moody Blues ของคุณ polotoon คงไม่ใช่ DTS CD เพราะต้องเข้าเมนูเหมือน DVD-Audio เพียงแต่ขับเสียง DTS 24/96 อย่างเดียว ไม่มีเสียงแบบ Hi-Res ของ DVD-Audio แต่คุณภาพเสียงก็น่าจะเท่ากัน
ต้องเป็น CD players with a digital (S/PDIF) output นะครับ จะได้เอาสัญญาณไปถอดรหัสที่ AV Amp. อีกที

ครับ พวก Digital Out ที่เป็นสาย optic ใช่ไหมครับ?
ประมาณนั้นน่ะครับ ผมไม่ค่อยรู้จักดีเท่าไรครับ

เอาข้อมูลมาเพิ่มครับ เมื่อวานเอามาไม่ครบ เสียดายจัง


HDCD
เริ่มทำมาจากบริษัทในอเมริกาชื่อ  Pacific Microsonics  ซึ่งต้องการพัฒนาซีดีให้มีคุณภาพดีเพื่อใช้นำมาขายให้กับพวก  Audiophile  ทั้งหลาย  โดยได้เริ่มที่ความละเอียด  20 bit  48 kHz  และก็มาถึง  24 bit 96 kHz  ในปัจจุบันเช่นเดียวกัน

HDCD  ไม่ได้ใช้เทคนิค  2  Layer  เหมือนกับ  SACD  แต่ใช้เทคนิคเขียนโค้ดแทรกเอาไว้ที่แทรคสุดท้าย  (แทรคที่  16)  ถ้าคุณใช้เครื่องเล่น  CD  ธรรมดาก็จะอ่านได้  16 bit  ครับ  แต่ถ้าคุณมีเครื่องเล่น  HDCD   ตัวเครื่องจะทำการแปลงโค้ดตัวสุดท้ายให้  คุณก็จะได้ข้อมูล  20 bit  หรือ  24 bit  ตามแต่ที่เขาใส่มาครับ  เพราะฉะนั้นถ้าคุณไม่มีเครื่องเล่นก็หมดสิทธิ์ครับ  555

บริษัท  Pacific Microsonics  ผลิตแผ่น HDCD  ออกมาได้ระยะหนึ่ง  Microsoft  ซึ่งรวยมากไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไร  (บริจาคก็เยอะแยะแล้วไม่หมดสักที  555)  เลยมาซื้อบริษัทต่างๆ  รวมถึงบริษัทนี้ด้วย  ช่วงหลังจึงเห็นตรา  HDCD  นี้พ่วงตรา  Microsoft  ไปด้วย  (ทำเอาผมซึ่งช้อบชอบตาบิล  เกตต์  เซ็งเลย)  Microsoft  ได้นำระบบเสียงนี้มาใช้กับเทคโนโลยีของตัวเอง  แผ่น  HDCD  ส่วนใหญ่จะเป็นแผ่นจาก  อเมริกา  ค่ายเพลงเล็กบ้างใหญ่บ้าง  แล้วแต่ซื้อลิขสิทธิ์ได้  ส่วนใหญ่จะเป็นงานเก่าๆ  แจ๊ส  บูลส์  คลาสสิกจะเยอะสักหน่อย  ไม่ค่อยเห็นร็อค

XRCD
JVC  เขามีห้องอัดเป็นของตัวเอง  ก็อยากจะมีแผ่นซีดีความละเอียดสูงขายกับเขาบ้างก็เลยเริ่มทำ  โดยใช้เทคนิคในห้องอัดของตัวเองที่เรียกว่า  K2  ในการบันทึก  ซึ่งก็เริ่มทำที่  20  bit  48 kHz  เช่นเดียวกัน  และก็ได้ออก  XRCD2  ซึ่งใช้ความละเอียด  24 bit  96 kHz  ตามมาทีหลัง

XRCD  ใช้เทคนิคไม่เหมือนคนอื่นคือไม่ได้มีโค้ด  20 bit  หรือ  24 bit  จริง  มีแค่  16  bit  เท่ากับ  CD  ธรรดาเท่านั้น  แต่ไปใช้ความสามารถในขั้นตอนการผลิตพยายามเข้ารหัส  (K2 Encoding)  ให้ได้เสียงเทียบเท่ากับ  20 bit  และ  24  bit  (ขั้นตอนตรงนี้ไปหาข้อมูลอ่านดูจะรู้ว่าวุ่นวายมากๆ  เลยครับ)  ทำให้เล่นกับเครื่องเล่น  CD  ธรรมดาได้เลย  ไม่ต้องใช้ตัวแปลงอะไรอีก  แผ่นที่ผลิตออกมาส่วนใหญ่จะเป็นของสังกัด  JVC  เองครับ  มีเพลงญี่ปุ่นเยอะครับ  ช่วงหลังเห็นมีการซื้อ  Master Tape  ดังๆ  มาทำด้วยครับ

ทั้งหมดที่กล่าวมานี่เป็นขั้นตอนทำมาสเตอร์เทปต้นฉบับ แต่เวลาเล่นกลับก็คือมาตรฐานซีดีครับ

ผมจะอธิบายง่ายๆแบบให้เห็นภาพ  เมื่อเวลาเราดูคอนเสิร์ตจากดีวีดีแล้วอาจจะใช้กล้องระดับไฮเด็ฟ, กล้องถ่ายภาพยนต์แบบฟิล์มหนัง 35 มม.
หรือเอากล้องแบบสามมิติ(3D)ของไอแม็กเลยครับ แต่เวลามาทำเป็นฟอร์แม็ตดีวีดีมันก็คือความละเอียด 480i จะถ่ายด้วยกล้องความละเอียด
สูงระดับใดภาพที่ได้ก็เป็นก็แค่ระดับดีวีดีเท่านั้น ยังไงก็ให้คุณภาพเท่าบูลเรย์ความละเอียด 1080pไม่ได้หรอกครับ
บันทึกการเข้า
.. polotoon ..
The Snow Goose
**********
กระทู้: 18602



ดูรายละเอียด
« ตอบ #248 เมื่อ: 19 พฤษภาคม 2011 | 02:40:09 PM »

เอาไว้ผมจะหามาฟังเทียบกันครับ ขอบคุณทุกความเห็นเลยครับ
บันทึกการเข้า

.. polotoon ..
The Snow Goose
**********
กระทู้: 18602



ดูรายละเอียด
« ตอบ #249 เมื่อ: 19 พฤษภาคม 2011 | 10:44:02 PM »

ไว้ว่างๆคุณ polotoon ลองเอาแผ่น DVD-Audio (ไม่ใช่ DTS CD) ที่มีอยู่ลองเปรียบเทียบเมนูที่ขึ้นให้เืลือกหน้าทีวีระหว่างเครื่อง Pioneer กับเครื่อง Dune หน่อยสิครับ ว่าเสียงที่ให้เลือกเหมือนกันหรือไม่?


เหมือนกันแหละครับ
บันทึกการเข้า

TRON
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 12866



ดูรายละเอียด
« ตอบ #250 เมื่อ: 19 พฤษภาคม 2011 | 10:46:56 PM »

ไว้ว่างๆคุณ polotoon ลองเอาแผ่น DVD-Audio (ไม่ใช่ DTS CD) ที่มีอยู่ลองเปรียบเทียบเมนูที่ขึ้นให้เืลือกหน้าทีวีระหว่างเครื่อง Pioneer กับเครื่อง Dune หน่อยสิครับ ว่าเสียงที่ให้เลือกเหมือนกันหรือไม่?


เหมือนกันแหละครับ

น่าแปลกครับ จริงๆถ้าเล่นกับเครื่องเล่นที่อ่าน DVD-Audio น่าจะไม่มี Dolby Surround กับ DTS Surround ให้เลือกครับ
บันทึกการเข้า
.. polotoon ..
The Snow Goose
**********
กระทู้: 18602



ดูรายละเอียด
« ตอบ #251 เมื่อ: 19 พฤษภาคม 2011 | 10:47:11 PM »



เสียดายตอนเล่น ไม่แสดงรายละเอียดของเสียง เลยไม่รู้ว่าให้สียงอย่างไร แต่ผมฟังดูไม่ต่างจากซีดีมาก ไม่เหมือนเล่นด้วย Universal Player ครับ
บันทึกการเข้า

.. polotoon ..
The Snow Goose
**********
กระทู้: 18602



ดูรายละเอียด
« ตอบ #252 เมื่อ: 19 พฤษภาคม 2011 | 10:49:03 PM »

ไว้ว่างๆคุณ polotoon ลองเอาแผ่น DVD-Audio (ไม่ใช่ DTS CD) ที่มีอยู่ลองเปรียบเทียบเมนูที่ขึ้นให้เืลือกหน้าทีวีระหว่างเครื่อง Pioneer กับเครื่อง Dune หน่อยสิครับ ว่าเสียงที่ให้เลือกเหมือนกันหรือไม่?

เหมือนกันแหละครับ

น่าแปลกครับ จริงๆถ้าเล่นกับเครื่องเล่นที่อ่าน DVD-Audio น่าจะไม่มี Dolby Surround กับ DTS Surround ให้เลือกครับ
อันนี้เล่นด้วย dune น่ะครับ
pioneer ไม่ได้ต่อทีวี เพราะเอาไว้ฟังอย่างเดียวน่ะครับ แต่ที่จำได้ก็มีให้เลือก ลักษณะเดียวกันครับ ผมว่ามันต่างกันที่เสียงที่ได้ฟังมากกว่าครับ
บันทึกการเข้า

TRON
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 12866



ดูรายละเอียด
« ตอบ #253 เมื่อ: 19 พฤษภาคม 2011 | 10:51:31 PM »

ไว้ว่างๆคุณ polotoon ลองเอาแผ่น DVD-Audio (ไม่ใช่ DTS CD) ที่มีอยู่ลองเปรียบเทียบเมนูที่ขึ้นให้เืลือกหน้าทีวีระหว่างเครื่อง Pioneer กับเครื่อง Dune หน่อยสิครับ ว่าเสียงที่ให้เลือกเหมือนกันหรือไม่?

เหมือนกันแหละครับ

น่าแปลกครับ จริงๆถ้าเล่นกับเครื่องเล่นที่อ่าน DVD-Audio น่าจะไม่มี Dolby Surround กับ DTS Surround ให้เลือกครับ
อันนี้เล่นด้วย dune น่ะครับ
pioneer ไม่ได้ต่อทีวี เพราะเอาไว้ฟังอย่างเดียวน่ะครับ แต่ที่จำได้ก็มีให้เลือก ลักษณะเดียวกันครับ ผมว่ามันต่างกันที่เสียงที่ได้ฟังมากกว่าครับ

ถ้างั้นจะเปรียบเทียบกันอย่างไรครับ? ยิ้มกว้างๆ แผ่น DVD-Audio ต้องเล่นกับ Pioneer เท่านั้น และต้องต่อทีวีด้วยครับ ไม่เป็นไรครับไม่ต้องเทียบก็ได้ครับ  ยิ้ม
บันทึกการเข้า
.. polotoon ..
The Snow Goose
**********
กระทู้: 18602



ดูรายละเอียด
« ตอบ #254 เมื่อ: 19 พฤษภาคม 2011 | 10:53:19 PM »



ผมว่ามันเป็นเมนูที่เขาทำมาให้แล้วแต่แผ่นน่ะครับ เล่นด้วยเครื่องไหนที่เล่นได้ก็มีให้เลือกเหมือนกัน แล้วแต่ว่าคุณภาพที่ได้ฟังจะดีแค่ไหนเท่านั้นเอง
hi-res ที่ได้ฟังจาก universal player ก้เลือกจากทั้ง dd dts หรือ stereo นั่นเอง
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 ... 15 16 [17] 18 19 ... 30
พิมพ์
กระโดดไป:  

ThaiProg.net Ver 4.0 by tisanai,Shineon,kongbei
Top 10 Best Sellers in Kindle eBooks Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers In Automotive Parts And Accessories Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers in Tools and Home Improvement Under $10, Reviewer 2016
Top 10 Best Sellers in Clothing for 2017 Top 10 Best Sellers in Clothing Best Sellers in Clothing
Top 10 Best Sellers in Books reviewer 2017 Top 10 Best Sellers in Books Best Sellers in Books
Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Reviewer 2017 Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Best Sellers In Grocery