ต่อจากกระทู้ ดูหนังแล้วมาคุยกันนะครับ คือเห็นว่าคนในเมืองส่วนใหญ่ตอนนี้ติดกันงอมแงม ผมเคยไปเที่ยวกับแฟนและเพื่อนๆของเขา ซึ่งทุกคนใช้ บีบี กันหมครับ พอไปทานข้าว ต่างคนแทบจะไม่พูดอะไรกัน กินข้าวหนึ่งคำ กดบีบี หันมาคุยกันไม่กี่คำ มากดบีบี ผมเห๋นแล้วแปลกๆยังไงไม่ทราบ
เมื่อสองเดือนก่อน ผมนัดทานอาหารเย็นกับเพื่อนอีกสองคน คนหนึ่งเคยทำงานอยู่ที่เดียวกันกับผม แต่ลาออกไปทำที่อื่นนานแล้ว สมัยที่ยังทำงานอยู่ที่เดียวกัน เขาเป็นคนร่าเริง ตลกโปกฮา เป็นตัวโจ๊กในวงเหล้า แต่พอกลับมาเจอกันอีกคราวนี้ เขาเปลี่ยนไป ดูขรึม พูดน้อยลง ทานอาหารไป พลางก้มหน้าก้มตาดูเครื่องมือสื่อสารในมือแทบจะตลอดเวลา ไม่สรวลเสเฮฮากับเพื่อนเหมือนแต่ก่อน ผมยังออกปากกับเขาเลยว่า "เจอกันคราวนี้ดูขรึมและพูดจาน้อยลงนะ อยากให้เฮฮาเหมือนแต่ก่อน" ก็ไม่รู้ว่าเขาจะเข้าใจนัยที่ผมต้องการสื่อหรือเปล่า และผมก็แอบกระซิบกับเพื่อนอีกคนหนึ่งด้วยว่า "นาน ๆ เจอกันที เจ้านี่มันสนใจแต่ไอ้เครื่องที่ถืออยู่ในมือมากกว่าจะสนใจคุยกับเพื่อนหรือไงวะ" เพื่อนอีกคนหนึ่งก็ว่า "มันคงบ้าเป็นพัก ๆ มั้ง ปล่อยมันเถอะ" ผมตอบว่า "ข้ากลัวมันบ้ายาวว่ะ อาการน่าเป็นห่วง"
ผมมีความแปลกใจมากกับเทคโนโลยีสมัยนี้ที่ต้องเล่น Facebook หรือ Twitter อะไรพวกนี้ ทำไมไม่ใช้โทรศัพท์มือถือพูดคุยกันไปเลย
ผมว่าการพูดคุยกันมันส์กว่าการมานั่งอ่านอีกครับ เมื่อสมัยก่อนช่วงที่ผมเป็นวัยรุ่นมือถือยังไม่เกิดมีแต่โทรศัพท์บ้าน พวกวัยรุ่นเวลาพูดคุยกัน
หรือหนุ่มสาวจีบกันนั่งโทรนอนโทรศัพท์กันเป็นชั่วโมงๆก็ยังได้เลยไม่เห็นต้องมานั่งพิมพ์ตัวหนังสือเหมือนกับเวลาพิมพ์งานส่งอาจารณ์เลย
ขนาดทุกวันนี้ผมนั่งพิมพ์ข้อความลงในเว็บเรานี้ สนุกสู้เวลาพวกเรามาเจอกันไม่ได้เลย ผมถึงเข้าใจที่เฮียโป่งมีนัดกันทุกวันศุกร์ที่เก่าเวลาเดิม