Thai Progressive Rock Community

หลังจากที่เราเล่นกันมาซักพักนึง หยุดบ้าง เว้นบ้าง ทำให้มันดูขาดตอนยังไงชอบกล พี่พยายามอยากจะนัดวันซ้อมประจำให้น้องๆ ไปเลย คือวันอาทิตย์ ถ้าเป็นไปได้คือเราจะซ้อมแบบติดๆ กันไปเรื่อยนะครับ เป็นไปได้อยากจะให้ล็อควันไว้เลย ถ้าวันไหนอาทิตย์ไหนใครไม่ว่างก็ขอให้รีบบอกกันแต่เนิ่นๆ เราจะได้ยกเลิกการซ้อมอาทิตย์นั้นๆ ไปได้

วิธีการซ้อมของเราอาจต้องปรับเปลี่ยนไปบ้าง เพราะจากที่เราเล่นๆ กันมาในช่วงแรก มันเปรียบเสมือนการทดลองว่าเราเล่นเพลงนั้นๆ ได้รึเปล่า ซึ่งเราก็พิสูจน์กันแล้วว่าเราเล่นได้จริง ทีนี้พอเราวางเซ็ทลิสต์เสร็จปั๊ป ขั้นตอนต่อไปก็คือการทำให้การเล่นของเราเนียนขึ้น สมบูรณ์แบบขึ้น เพราะฉะนั้นการซ้อมในช่วงต่อไปของเราควรจะหันมาเน้นที่ตรงนี้ให้มากขึ้น เวลาที่เราเล่นแล้วเราเจอที่ที่มันผิด ยังไม่ดีเท่าที่ควร หรือไปต่อไม่ได้ เราไม่ควรข้ามมันไปเลย แต่ควรจะกลับมาเล่นที่พาร์ตนั้นจนกว่าจะเล่นได้ แล้วจึงค่อยเล่นเพลงนั้นให้จบๆ ต่อไป ยกตัวอย่างเช่น ท่อนเชื่อมระหว่างท่อนอินโทรกับท่อนร้องของเพลง Echoes ที่ตอนแรกเริ่มจะเป็นการจิ้มเปียโนที่ผ่านเลสลี่ของโอ๊ค คู่ไปกับกีตาร์โซโล่ดันสายช้าๆ ของพี่ แล้วมันจะเข้าสู่ท่อนร้องโดยที่จะมีกลองกับเบสเข้ามา แล้วมันจะมีการไล่คอร์ด A ไป G# แล้วไปหา C#m อะไรประมาณนี้ เรายังเล่นตรงนี้กันไม่ได้เลย แล้วเราก็มักจะข้ามมันไปเสมอ แล้วก็เข้าสู่ท่อนร้องเลย คราวหน้าพอเราเล่นเพลงนี้ เราควรจะเล่นพาร์ตนี้ใหม่ซ้ำไปซ้ำมาจนกว่าจะเล่นได้จริง ไม่ใช่ข้ามไปท่อนร้องเลยแบบที่เคยทำกันอยู่

ส่วนใหญ่เวลาพี่เล่น พี่ก็ไม่ค่อยได้ฟังภาพรวมของ Performance ซักเท่าไหร่ เพราะพี่เองก็ต้องพุ่งสมาธิไปที่กีตาร์ของพี่เป็นหลัก แต่ก็ยังพอฟังอะไรได้บ้าง วันนี้พี่เลยขอเอาสิ่งที่คิดว่าพวกเราน่าจะแก้ไขออกมาลิสต์ให้หมด ซึ่งก็จะมีเป็นบางเพลง บางเพลงเราก็เล่นกันได้ดีอยู่แล้ว อีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องคีย์บอร์ดสองคนของเรา พี่ยังไม่แน่ใจว่าใครเล่นพาร์ตไหน อะไรบ้าง คือตอนเล่นไม่ค่อยได้ฟัง ถึงฟังก็จำไม่ได้ เดี๋ยวก็จะลองลิสต์ๆ แล้วถามดูว่าใช่แบบนี้ไหม

Speak To Me/Breathe
เพลงนี้เราเล่นกันได้ดีอยู่แล้ว สำหรับอินโทรที่เป็นสไลด์นั้น เวลาเล่นจริงพี่จะเอา Lap Steel ตัวเล็กของพี่ไปใช้เล่นด้วย แต่ทุกวันนี้ที่ไม่อยากเอาไปเพราะขี้เกียจแบก เอาเป็นว่าท่อนสไลด์นั้นให้ฟิวเล่นตรงนี้ไปก่อน ไว้เดี๋ยวพี่เอา Lap Steel มาเล่นจริงๆ แล้วค่อยนัดแนะกันอีกที

---

On The Run
ไม่มีปัญหา เพราะเปิดเอา

---

Time/Breathe Reprise
อย่างที่ตกลงกันไว้ว่า เราจะนับเสียงหัวใจเต้น ตึกๆ ตึกๆ หลังเสียงกริ่งนาฬิกาให้ผ่านไปสี่ครั้ง แล้วพอครั้งที่ห้าเราก็จะเล่นโน้ตตัว E ขึ้นมาเลย ซึ่งก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร สำคัญว่าอย่าหลง เพราะอินโทรเพลงนี้มันหลงง่าย ขนาดเดฟเล่นเองยังหลงเลย ท่อนร้องกับท่อนโซโล่ก็ไม่มีอะไร มีเพิ่มเติมนิดหน่อยตรงท่อน Counter นั่นแหละ คือเรื่องเสียงประสาน Tired of lying in the sunshine…… ก็ลองซักซ้อมกันดูว่าใครจะร้องเป็นเสียงริก ร้องให้ถูกไลน์แล้วกัน แล้วพี่จะร้องรองเสียงให้ตอนที่ถึงท่อน And then one day you find…… ส่วน Breathe Reprise ก็ไม่มีปัญหา

เพิ่มเติมเรื่องคีย์บอร์ด เพลงเนี้ย ขอให้ใช้สูตรว่าโอ๊คเล่น Electric Piano ทั้งเพลง ส่วนฟิวรับหน้าที่ Organ ไปนะ ช่วงอินโทร โอ๊คจะเล่นคอร์ดจิ้มๆ (ใช้ศัพท์วิชาการไม่เป็น) ไปเรื่อย ส่วนฟิวก็รองด้วยเสียงคอร์ดออร์แกนแบบเบาๆ ท่อนร้องนั้น โอ๊คเล่น Electric Piano ซะ ฟิวอยู่เฉยๆ จนถึงท่อน Counter และโซโล่ ฟิวถึงค่อยใส่เสียงออร์แกนเข้ามา โอเคไหมครับ?

---

The Great Gig in the Sky
เพลงนี้เป็นมีปัญหาหลายอย่าง ความจริงเราจะร้องกันเองไปก่อนก็ได้ แต่เวลาขึ้นเวทีจริง ขอร้องว่าอย่าทำแบบนี้ ไปหาผู้หญิงเสียงดีๆ มาร้องดีกว่านะ สิ่งที่เราควรจะทำให้ดีที่สุดในตอนนี้คือ เล่นดนตรีให้สมบูรณ์แบบที่สุด เพลงนี้ฟิวเล่นเปียโนใช่ไหม ส่วนโอ๊คเล่นออร์แกน พี่อยากให้ดูในส่วนของออร์แกน เพลงนี้สปีดของตู้ลำโพงเลสลี่มีความสำคัญมาก ในท่อน Heavy Part น้องต้องปรับเอฟเฟคต์ Rotary ของน้องให้เป็นตู้เลสลี่สปีดหมุนเร็ว ส่วนในท่อนท้ายๆ ที่ดนตรีเริ่มเบาลง น้องก็ต้องปรับสปีดให้กลายเป็นหมุนช้า พูดง่ายๆ คือน้องต้องเล่นไปปรับไปนั่นเอง สำหรับ Lap Steel ก็เหมือน Breathe นั่นแหละ คือไว้พี่จะเอาไปเล่นด้วยบ้างแล้วกันนะครับ เพราะว่าเพลงนี้พี่ก็ยังไม่เคยเล่นซ้อม Lap Steel กับวงเต็มๆ เลย ก็ต้องลองดู

---

Money
เพลงนี้ดูเผินๆ ก็เล่นกันได้ แต่ปัญหามีอยู่หลายอย่างเหมือนกัน อย่างแรกคือพี่โซโล่ได้มั่วมาก ไม่เคยมีแบบแผน คือว่ามั่วตลอด อันนี้พี่ต้องปรับปรุงให้โซโล่ของพี่มีความแน่นอนกว่านี้ อย่างที่สองคือเรื่องเทมโปของเพลง ที่เรามักจะเล่นกันได้เร็วเกินกว่าปรกติ สังเกตได้จากกลองของเหม่งจังหวะจะเร็วเกินไป เมื่อเทียบกับต้นฉบับ ซึ่งอันนี้ความผิดพลาดไม่ได้เกิดจากเหม่งเพียงคนเดียว เพราะว่าทุกคนเล่นเร็วกัน เหม่งก็ต้องตีตามให้มันเร็วขึ้น เพราะฉะนั้นพี่อยากให้ช่วยปรับเทมโปของเพลงใช้ช้าลง ให้ถูกต้อง พี่ขอยกตัวอย่างว่าสมมุติเพลงนี้จริงๆ ยาวประมาณ 6 นาที แล้วพวกเราเล่นกันเทมโปเร็วเกินไป มันอาจจะใช้เวลาแค่ 5 นาที ก็จบแล้ว ซึ่งความจริง ระยะเวลาที่เราเล่นเพลงนั้นๆ จะเป็นตัวบอกถึงเรื่องความแม่นยำของเทมโปที่เราเล่นได้เป็นอย่างดี (ถ้าอยากให้เม่นเป๊ะๆ ให้ใช้ดรัม แมชชีนนะคร้าบ 555+) ประเด็นสุดท้ายคือเรื่องท่อนโซโล่ที่เหมือนกับว่ามันตะกุกตะกัก เวลาพี่เล่นโซโล่แล้ว รู้สึกว่าเหมือนมันข้ามท่อนบางท่อนไป คือว่ามันจบเร็วเกินไปนั่นเอง อันนี้ก็ขอให้ลองฟังโซโล่กีตาร์ของเดฟจริงๆ ให้ดีๆ ว่ามันจะจบตอนไหน คืออารมณ์มันเหมือนกับว่า พี่โซโล่อยู่ดีๆ น้องก็จะพากันจบแล้วซะงั้นน่ะครับ ก็ลองดู

คีย์บอร์ดเพลงนี้ โอ๊คเล่น Electric Piano ทั้งเพลงเหมือนเดิม สำหรับฟิวก็ให้เล่นออร์แกนในท่อนโซโล่กีตาร์ ส่วนเสียงแซ็กโซโฟน ฟิวก็เล่นแทนไปก่อนแล้วกัน ลองฟังในเพลงจริงๆ ดูแล้วกันนะครับ สำหรับออร์แกน ว่าต้องเล่นประมาณไหน อ้อ! อย่าลืมว่าสปีดเลสลี่ต้องเป็นหมุนเร็วนะครับ

---

Us And Them
เพลงนี้พี่ขอภูมิใจเสนอ และขอบอกว่าเล่นกันได้ดีทุกคน เหม่งตีได้ดีมากตรงท่อนที่เป็นท่อนคอรัส ทุกอย่างค่อนข้างโอเคเลยทีเดียว เพลงนี้โอ๊คเล่นเปียโนใช่ไหม ส่วนฟิวเล่นออร์แกน ก็เหมือนเดิม ขอให้ดูสปีดของตู้เลสลี่ด้วย ในท่อนอินโทร-เวิร์ส สปีดจะช้า แล้วพอเป็นคอรัสสปีดจะเป็นเร็ว ก็เล่นไปปรับไปเหมือนเดิมจ้า ทุกอย่างโอเค ด้านเสียงร้องอาจต้องมาฝึกฝนการประสานกัน ถ้าเรามีนักร้องหญิงแล้วล่ะก็ จะเอามาช่วยประสานด้วยก็คงดีไปเลย

---

Any Colour You Like
เพลงนี้ปัญหาหลักๆ มาจากพี่เลยแหละ เพราะหาทางกลับบ้านไม่ถูก (ลงท่อนจบไม่ได้) เพลงนี้โอ๊คเล่นออร์แกนใช่ไหม ส่วนฟิวโซโล่เสียงซินธ์ไป พอฟิวโซโล่จนพอใจแล้ว ก็ให้ส่งสัญญาณมาทางพี่ พี่ก็จะโซโล่กีตาร์ต่อไปเลย พี่มักจะชอบอิมโพรไวส์ในเพลงนี้มากๆ (เพราะไม่เคยแกะเล่นมาก่อน 555+) ที่นี้พออิมฯ ไปเรื่อยๆ แล้วมันจะหาที่ลงไม่ได้ ก็อิมฯ ต่อไปอีก สุดท้ายคือไม่รู้จะจบลงตรงไหน อันนี้พี่ก็ต้องไปแก้ไขและฝึกฝนให้ลงได้อย่างสวยงาม อีกเรื่องที่อยากให้ช่วยดูคือเทมโปของเพลงครับ รักษาให้คงที่กันด้วยล่ะ

---

Brain Damage/Eclipse
เพลง Brain Damage นี้ก็ไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ ท่อนเวิร์สก็โอเคอยู่ เพราะมีแค่กีตาร์กับเสียงร้อง ท่อนคอรัสมีกลอง เบส ออร์แกนเข้ามา ก็พยายามทำให้เนียนๆ แล้วกันนะ เพลงนี้โอ๊คเล่นออร์แกนซะ แล้วฟิวก็โซโล่เสียงซินธ์ไปเหมือนเดิม ปัญหาของพี่อีกเรื่องนึงคือ ช่วงที่เป็นท่อนเชื่อมของสองเพลงนี้ พี่มักจะหยุดเล่นไปดื้อๆ เพราะว่าจำคอร์ดตรงช่วงท่อนเชื่อมไม่ได้ ก็เป็นเรื่องที่พี่จะต้องกลับไปแก้ไขล่ะครับ ส่วนเพลง Eclipse นั้น ก็พยายามบิวท์ ให้อารมณ์มันพีคๆ กันหน่อย เล่นออร์แกนสองตัวพร้อมกันไปเลยนะ ให้มันฟังดูหนาแน่นเต็มที่ สปีดเลสลี่ต้องหมุนเร็วล่ะ อย่าลืม เสียงประสานก็คงต้องซักซ้อมกันอีกที เพราะเราจะต้องมีสองไลน์ ไลน์ร้องนำ เป็นเสียงคีย์ต่ำของโรเจอร์ ส่วนไลน์สูงอาจจะช่วยกันร้องสองคน หรือคนเดียวก็ได้ เป็นไลน์ของเดฟกับริก ต้องซ้อมกันให้ดี อย่าให้หลงทางเป็นอันขาด ไม่งั้นมันจะมั่ว

---

Shine On
อันนี้คงต้องคุยกันยาวนิดนึงนะครับ เพลง Shine On นี้เป็นเพลงใหม่ที่เราเพิ่งได้เล่นกันเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมานี่เอง คือวางแผนกับโอ๊คว่าจะเล่นกันมานานแล้ว แต่ว่าไม่ได้เล่นซะที ก็ลองกันหลายเวอร์ชั่น เหม่งอยากเล่นเวอร์ชั่นแบบใน Pulse ซึ่งเราก็ลองกันไปแล้ว หลังจากนั้นก็ได้ลองแบบที่เล่นกีตาร์กับเปียโนอย่างเดียวแบบ Remember That Night ด้วย ซึ่งพี่คิดว่าใช้ได้ทีเดียว เพราะอยากจะเบรกบรรยากาศมาเป็นเหงาๆ บ้าง แล้วก็อยากให้เล่นแบบที่เป็น Wine Glasses Version ด้วย สำหรับคนที่ยังไม่รู้จัก Wine Glasses Version ก็ขออธิบายดังนี้ครับ

ทัวร์ On An Island เมื่อปี 2006 ที่ผ่านมา ในช่วงครึ่งแรกของทัวร์ คือตั้งแต่ทัวร์ยุโรป อเมริกา และมาปิดท้ายครึ่งแรกที่ Royal Albert Hall ที่ London ซึ่งได้บันทึกภาพและเสียงมาเป็นเวอร์ชั่นที่อยู่ในดีวีดี Remember That Night นั้น ในช่วงอินโทรของเพลง เดฟจะสร้างเสียงคอร์ด Gm, Dm, Cm มารองรับการโซโล่กีตาร์ในท่อนอินโทรของเค้าด้วยเอฟเฟคต์ Sound on Sound คือการดีดคอร์ด แล้วค่อย Swell หรือ Fade เสียงขึ้น เพื่อให้เสียงนี้ผ่านเข้าไปในเอฟเฟคต์ Long Delay มันก็จะเกิดเป็นเสียงคล้ายๆ เสียงคอร์ดของคีย์บอร์ดประเภทซินธ์อะไรซักอย่างขึ้นมา เทียบกับเวอร์ชั่นในสตูดิโออัลบั้มแล้วจะแตกต่างกันมาก เวอร์ชั่นสตูดิโอและแบบ Pulse คือแบบที่เราเล่นกันอยู่คือจะสร้างเสียงของคอร์ด Gm, Dm, Cm เหล่านี้ขึ้นมาจากเสียงคีย์บอร์ดที่เป็นเสียง Strings (เสียงเครื่องสาย)

แต่พอครึ่งหลังของทัวร์ ตั้งแต่ทัวร์ที่เวียนนา เวนิช และที่โปแลนด์ เดฟเปลี่ยนการสร้างเสียงคอร์ดของอินโทรเพลงนี้ขึ้นมาใหม่ด้วยการใช้ Glass Harp หรือไอเจ้าแก้วน้ำที่มีระดับน้ำต่างๆ กันแล้วเอามือมาลูบนั่นแหละ สร้างเป็นเสียงคอร์ด Gm, Dm, Cm ขึ้นมา โดยใช้คนสามคนเล่น พออ่านมาถึงตรงนี้แล้วหลายคนอาจนึกสงสัยว่า แล้วเราจะสามารถเอาวิธีนี้มาทำได้แบบเขาจริงๆ เหรอเนี่ย? มันเป็นไปได้เหรอ?

คำตอบคือเป็นไปได้ครับ เราต้องมีแก้วน้ำทั้งหมด 9 ใบ เพื่อจูนเป็นเสียงโน้ตที่ 9 ตัวแตกต่างกัน โดยโน้ต 9 ตัวจะถูกแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 3 ตัว (ก็คือแก้ว 3 ใบนั่นแหละ) เราสามารถใช้โน้ต 3 ตัวสร้างเป็นคอร์ดขึ้นมาได้หนึ่งคอร์ดครับ โดยวิธีการคือเราต้องทราบว่าในคอร์ดๆ นั้นมีโน้ตอะไรประกอบอยู่บ้าง ยกตัวอย่างเช่น คอร์ด Dm ประกอบด้วยโน้ตตัว D ตัว F และตัว A เราก็ต้องจูนน้ำในแก้วสามใบให้เป็นตัวโน้ตเหล่านี้ แล้วก็แจกไปให้ผู้ที่รับหน้าที่ถูแก้ว ซึ่งต้องมีทั้งหมด 3 คน คนละใบ ซึ่งถ้าทำทั้งหมดสามคอร์ด แต่ละคนก็จะมีแก้วคนละสามใบ เวลาเล่นจริงก็ให้แต่ละคนเรียงแก้วไว้ แล้วก็ถูแก้วให้ออกมาเป็นคอร์ดๆ นั้นพร้อมกัน เราก็จะสามารถสร้างเสียงอินโทรที่เป็นคอร์ดได้แล้วครับ ยิ่งถ้าใส่ Reverb ที่มอนิเตอร์ไปหน่อยละก็ ซาวน์จะยิ่งกลมกล่อมมากเลยทีเดียว

ถ้าใช้น้ำเปล่า อย่าลืมซื้อน้ำแดงเฮลล์บลูบอยมาด้วยล่ะ จะได้ผสมให้สีสวยๆ เวลาเล่นก็คงจะเท่ห์น่าดู มองไกลๆ นึกว่าไวน์ แต่ที่ไหนได้ กลายเป็นน้ำแดงซะนี่ ถูๆ ไป แล้วยังจิ้มกินได้อีกตะหาก เจ๋งไปเลย

เราคงไม่ได้ซ้อมด้วยวิธีการแบบนี้ทุกครั้งหรอกครับ บอกไว้เป็นไอเดียเฉยๆ เพื่อได้ออกงานขึ้นมาจริงๆ ค่อยซ้อม (จะซ้อมครั้งแรกตอนวันออกงานกับสถานที่จริงเลยก็ได้ครับ 555+) แต่พี่รับรองได้เลยว่า ถ้าเล่นอะไรแบบนี้ จะสามารถเรียกร้องความสนใจจากคนดูได้อย่างแน่นอน ยิ่งถ้าเล่นในที่มืดๆ ตอนกลางคืนล่ะก็ สุดยอดไปเลยนะเนี่ย ระหว่างนี้ก็ซ้อมแบบธรรมดาๆ ไปก่อนคือใช้คีย์บอร์ดกดเป็นเสียง Strings นี่แหละ

Shine On เป็นเพลงที่ซับซ้อนและมีหลายท่อนบรรเลงมาก เวลาแสดงสดบางทีก็มีโซโล่ตรงโน้น ตรงนี้ บางทีก็ไม่มี พี่เลยขอกำหนด Step ให้ชัดเจนว่าเราจะเล่นอะไรตรงไหนบ้าง เพื่อที่จะได้มีหลัก และเห็นกันชัดๆ ไปเลย

-   อินโทร เสียง Strings, Wine Glasses
-   โซโล่ซินธ์เลียนแบบเสียง Moog โดยโอ๊ค
-   โซโล่กีตาร์เสียงคลีน โดยพี่เอง
-   เมื่อจบท่อนโซโล่กีตาร์เสียงคลีน พี่จะเล่นกีตาร์โน้ตสี่ตัว ของ Syd’s Theme ตรงนี้คนที่เล่น Wine Glasses สามคนให้หยุดเล่นและเดินกลับเข้ามาประจำที่เครื่องดนตรีของตนเอง
-   Syd’s Theme + โซโล่กีตาร์ที่สองที่เป็นเสียง Overdrive ตรงนี้กลองกับเบสจะเข้ามาเป็นจุดแรก
-   โซโล่เสียงซินธ์เลียนแบบเสียง Moog รอบที่สอง โดยโอ๊ค กลองกับเบสยังเล่นอยู่ จนจบท่อนโซโล่ตรงนี้ กลองและเบสจะหยุดเล่น
-   ท่อนร้อง ตรงนี้เราจะเล่นกับแบบ Remember That Night คือมีแค่กีตาร์ เปียโน และเสียงร้องเท่านั้น (อาจมีออร์แกนเบาๆ คลอไปก็ได้) ที่ต่างกับ Remember That Night คือเราจะเน้นเสียงเปียโนให้เด่นขึ้นมาคู่กับกีตาร์ด้วย
-    ท่อนก่อนโซโล่แซ็กโซโฟน + ท่อนโซโล่แซ็กโซโฟน ตรงนี้พี่ยังคิดอยู่ว่าควรจะเอากลองกับเบสใส่เข้ามาตรงท่อนที่ร้องว่า Well you wore out your welcome… แบบใน Remember That Night ดี หรือจะปล่อยให้มันมีแค่กีตาร์ เปียโน ออร์แกน แล้วก็โซโล่แซ็กโซโฟนทับลงไปเหมือนในดีวีดี In Concert ดี ก็ลองพิจารณากันดูแล้วกันนะครับ

จบแล้วครับสำหรับเพลง Shine On You Crazy Diamond เวอร์ชั่นของเรา รวมความเบ็ดเสร็จแล้วน่าจะมีความยาวอยู่ที่ประมาณ 12 นาที

---

Echoes
เพลงนี้ก็เป็นอีกเพลงที่เราค่อนข้างตะกุกตะกัก เนื่องจากมันมีหลายพาร์ต ปัญหาหลักๆ ของเพลงนี้ก็อย่างที่พี่ชี้แจงไปแล้วข้างต้นนั่นแหละ ในเรื่องของท่อนที่เชื่อมระหว่างอินโทรกับท่อนร้องที่จะมีการไล่คอร์ด A ไป G# แล้วไปหา C#m ตรงนี้เราต้องทำให้เข้าล็อคให้ได้ ถ้าผิด หรือไม่สมบูรณ์ต้องย้อนไปเล่นใหม่ให้จนได้ สำหรับการประสานเสียงในเพลงนี้จะต้องมีสองไลน์ที่ร้องคู่กันไปตลอดทั้งเพลง คือถ้าฟังในเวอร์ชั่นสตูดิโอจาก Meddle หรือ Live At Pompeii เดฟจะเป็นคนร้อง ไลน์เสียงต่ำ ส่วนริกจะร้องไลน์ที่เป็นเสียงสูง ซึ่งจะต้องร้องแบบเทียบเคียงแบบนี้กันไปตลอดทั้งเพลง ทีนี้พี่คิดว่าน่าจะให้พิ่สิทธิ์ร้องเป็นเสียงเดฟ แล้วพี่จะเป็นคนร้องเสียงริกเอง เพราะว่าพี่ค่อนข้างเสียงใสและเสียงสูงเหลือเกิน แหะๆ บางทีก็ทนรับเสียงแหลมๆ ของตัวเองไม่ได้เหมือนกัน

ซ้อมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาครั้งล่าสุดเนี่ย รู้สึกว่าเหม่งจะลืมท่อนโซโล่ตรงกลางเพลงของพี่ไป ข้ามมากลายเป็นท่อน Heavy Riff เลย ก็อย่าลืมกันล่ะว่ามีท่อนที่พี่ต้องโซโล่กีตาร์ด้วย แล้วพอโซโล่จบก็เป็นท่อน Heavy Riff แบบรัวๆ จบด้วยการไล่คอร์ด E ไปหา B, C และ C#m ตามลำดับ

ท่อน Funky Part เราก็พอเล่นกันได้แบบมั่วๆ อยู่ พี่กับโอ๊คจะต้องแจมกัน โดยมีเบสกับกลองคุม ปัญหาก็เกิดจากพี่เอง พี่เล่นโซโล่แจมในท่อนนี้ได้สะเปะสะปะมาก แล้วก็บอกตามตรงว่าไม่เคยแกะเล่นอย่างจริงๆ จังๆ เลย ก็ใช้วิธีอิมฯ ไปเรื่อย ซึ่งมันก็พอได้อยู่แต่ว่าไม่ดีเท่าที่ควร โอ๊คก็ต้องพยายามฝึกตรงท่อนโซโล่ออร์แกนนี้ให้ดีๆ ล่ะ ถ้ามีเวลาว่างๆ ก็แกะไปเลย ยิ่งถ้าเราอยู่กับมันนานๆ เข้า เราก็สามารถอิมฯ ได้แม่นยำและใกล้เคียงของจริงมากยิ่งขึ้นนะ พอจบท่อนนี้ กลองกับเบสก็จะค่อยๆ เบาลง

เข้าสู่ตรงช่วงที่เป็น Seagull Effect อย่างที่พี่เคยเอา Wah-Wah ไปทำเสียงหอนให้ดู ก็ให้ทำแบบนั้นแหละครับ แล้วสันก็ต้องหาปิ๊คหรืออะไรมาถูๆ สายให้เป็นเสียงครืนๆ ส่วนพี่ก็จะทำ Seagull Effect ไป แต่ไอเจ้า Wah-Wah นื่เป็นเอฟเฟคต์ที่อันใหญ่แล้วก็หนักมาก ขี้เกียจแบกไปจริงๆ ใช้ก็นิดเดียวเองเนอะ

ต่อไปคือท่อน Build-Up Part ซึ่งตรงนี้ก็จะเริ่มต้นขึ้นมาเป็นเสียงคีย์บอร์ดจากโอ๊ค พี่ไม่แน่ใจว่าโอ๊คใช้ซาวน์ตัวไหนเล่นตรงนี้ เสียง Strings หรือเปล่า? ความจริงอยากให้หาเสียงที่เหมาะสมและใกล้เคียงกับเสียงของออร์แกนที่ริกเล่นใน Remember That Night ซึ่งริกจะใช้ Farfisa Compact Duo ซึ่งเป็น Combo Organ แบบโบราณ ก็ลองหาเสียงที่เหมาะสมดูแล้วกัน แล้วพี่ก็จะเล่นกีตาร์แบบ Palm Mute กับเสียงดีเลย์ที่ 300 ms เข้ามา ตรงนี้ก็ลองฝึกอีกซักนิด ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรมาก ก็เล่นไปเรื่อยจนถึงท่อน อเพคจิโอของพี่ ตรงนี้เบสของสันจะต้องทำหน้าที่ค่อนข้างเด่น แต่พี่เองก็ยังไม่ได้ตั้งใจฟังแบบละเอียด ก็จะลองไปฟังดูอีกที ก็ไล่ไปเรื่อยจนถึงท่อนร้องที่สองในช่วงครึ่งหลัง

ท่อนร้องให้ช่วงครึ่งหลังก็ไม่ค่อยต่างจากครึ่งแรกเท่าไหร่ ต่างกันนิดหน่อยตรง Heavy Riff ที่ไล่ในช่วงท้าย ที่มันจะมีจังหวะแบบที่โดดๆ ก่อน แล้วค่อยเล่นแบบรัวๆ แบบในตอนพาร์ตแรก (อธิบายค่อนข้างยากไว้ตอนซ้อมจริงจะไปเล่นให้ดูขยายความอีกที) สำหรับอาทิตย์ที่ผ่านมาเราข้ามตรงช่วงจังหวะโดดกันไป ก็ไม่น่ามีปัญหาไร ปรับปรุงเล็กน้อยก็คงผ่านได้ฉลุย

จบลงที่ท่อนโซโล่ท้ายเพลง ซึ่งเป็นการดวลกันระหว่างการจิ้มเปียโนของโอ๊คกับกีตาร์โซโล่ของพี่อีกครั้ง อันนี้ก็เป็นเรื่องของพี่กับโอ๊คที่ต้องฝึกร่วมกันให้ดีๆ ก็ต้องหาเวลาซ้อมแบบสองคนบ้าง เพราะว่าเราจะได้เน้นตรงนี้กันอย่างละเอียดเลยครับ

---

Comfortably Numb
เชื่อว่าเพลงนี้คงเป็นเพลงโปรดสำหรับหลายๆ คน เพราะว่าเล่นกันได้อย่างมีความสุขมากเท่าที่พี่ดู (ยกเว้นสัน ที่พี่คิดว่าไม่ตื่นเต้นเท่าคนอื่น แต่พี่ก็ดูผ่านๆ นะ) อย่างเช่นโอ๊คนี่เวลาพี่เล่นโซโล่ที่สองมักจะหันมาดูพี่เล่นเสมอๆ ส่วนเหม่งก็ตีได้รุนแรงและหนักหน่วงมาก (ระบายอารมณ์หรือเปล่า) ส่วนพี่ก็หลุดโลกอยู่หน้าตู้แอมป์ ตอนซ้อมครั้งก่อนโน้น ที่ฟอร์จูน พี่จำได้ว่า เราเล่นเพลงนี้กันไปสามรอบ แล้วมีพี่อ้อยมาดูด้วย พี่คิดว่าโซโล่ในการเล่นเพลงนี้รอบที่สองของวันนั้นพี่ทำได้โอเคเลย แล้วเวลาเล่นจริงก็อยากเล่นแบบนั้น คือไม่นิ่งไป แล้วก็ไม่บ้ามากจนเกินไป สมดุลดี (อาจเป็นเรื่องของแอมป์ที่มีส่วนช่วยให้ฟังออกมาดูดีด้วย) แต่เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ที่มีพ่อของพี่มายืนดูนี่ พี่ก็ใส่ซะ.... เต็มที่เลย ทำหยั่งกับตัวเองเป็น Gary Moore เล่นแบบบ้าบอสุดๆ แล้วก็ยังมีใช้คันโยก กลายเป็นโซโล่โรคจิต บ้าเถื่อน ดูไม่มีสกุลรุนชาติเอาซะเลย เพราะงั้นคราวหน้าพี่จะพยายามปรับปรุงตรงนี้ คือเล่นให้มันพอดี ไม่มากไม่น้อยไปจนเกินงาม เพลงนี้ทุกคนเล่นได้ปึ๊กและยอดเยี่ยมกันอยู่แล้ว พี่ขอเสนอแนะเพิ่มเติมบางประเด็นดังนี้

-   สงสัยว่าพาร์ตคีย์บอร์ดของทั้งสองคนแบ่งกันอย่างไร คนที่พี่เห็นว่าเล่นหลักๆ คือโอ๊ค ที่จะเล่นเสียงสตริงแบบไล่เสียง ซึ่งเป็นพาร์ตที่ปรกติ Jon Carin จะเป็นคนเล่น แล้วพอท่อนโซโล่ที่สองโอ๊คก็ไปเล่นออร์แกน ส่วนฟิวนั่นเล่นเสียงอะไรน่ะ พี่จำไม่ได้แล้ว พี่ขอเสนอว่า อยากให้แบ่งกันไปเลยคนละเสียง คือให้ฟิวเล่นเสียงสตริงตลอดทั้งเพลง ทั้งท่อนร้องและท่อนโซโล่ ส่วนโอ๊คก็ควรเล่นออร์แกนตลอดทั้งเพลงเช่นกัน เพราะว่าเห็นว่าตอนท่อนคอรัสไปเล่นซ้ำซ้อนพาร์ตเดียวกัน มันก็เลยตีกันมั่ว
-   ตอนท่อนโซโล่ที่สอง สันน่าจะเล่นแบบว่าโน้ตตัวสูงๆ เป็นลูก Fill-in ซะหน่อย แบบที่โรเจอร์เล่นตอน Live 8 นั่นแหละ มันจะช่วยทำให้เพลงดูมีสีสันมากขึ้น จะได้ดูไม่เลี่ยน เพราะมีแต่เสียงกีตาร์โซโล่ของพี่อย่างเดียว
-   เหม่งตีได้ดีและยอดเยี่ยมอยู่แล้วในท่อนโซโล่ที่สอง หนักแน่นดี แล้วก็ท่อนจบก็ทำได้เยี่ยมมากเลยคร้าบ ลงตัวมากๆ เลย
-   คอมเมนต์ตัวเองบ้าง อย่างแรกคือท่อนโซโล่ท่อนแรกพี่มักจะเล่นเพี้ยน ผิดโน่นผิดนี่อยู่เป็นประจำ บางครั้งมีตะกุกตะกักและไม่เนียน ส่วนท่อนโซโล่ท่อนที่สองเนี่ย เป็นอะไรทีพี่ต้องดูแลเป็นพิเศษเลย เพราะว่าพี่ต้องบาลานซ์ระหว่างตัวเมโลดี้หลักที่เดฟเล่นในต้นฉบับ กับการอิมโพรไวส์แบบบ้าๆ ของพี่ให้พอเหมาะ รวมถึงเรื่องไดนามิคที่ต้องควบคุมอย่าให้รุนแรงจนเกินไป และที่สำคัญคือต้องเล่นให้มีการบิวต์อารมณ์ของคนฟังที่ไล่ระดับจากระดับกลางๆ ไปจนถึงจุดพีค ก็เป็นการบ้านของพี่อีกเช่นกันที่ต้องไปฝึกฝนและพัฒนาในส่วนตรงนี้ครับ

โดยส่วนตัวแล้วรู้สึกแฮปปี้มากครับที่เห็นทุกๆ คนแฮปปี้เช่นกันเวลาที่เล่นเพลงนี้ เพลงนี้เป็นเพลงสุดท้ายที่เราจะใช้เป็นเพลงปิด ก็ควรจะทำให้สามารถสร้างความประทับใจให้กับคนดูให้ได้มากที่สุดครับ

---

เพลงเพิ่มเติมสำหรับเซ็ทลิสต์ที่อาจพิจารณาใส่เพิ่ม
Wish You Were Here
จริงๆ เพลงนี้เป็นเพลงที่ควรเล่นมาก เพราะว่ามันดัง และมันก็ฟังดูป๊อบมากๆ แล้วทั้งโรเจอร์และเดฟก็เล่นแทบทุกงาน ความจริงเพลงนี้ไม่ได้ยากเลย เพียงแต่ว่ามันต้องใช้กีตาร์โปร่ง ซึ่งตอนนี้กีตาร์โปร่งของพี่เป็นแบบอคูสติกจริงๆ คือต่อเข้ากับแอมป์ไม่ได้ ถ้าจะเล่นจริงก็คงต้องรอซื้อกีตาร์ตัวใหม่ที่เป็นโปร่งไฟฟ้า หรือไม่ก็ซื้อปิ๊คอัพที่ใช้แปลงมาใส่ อีกปัญหานึงคือเพลงนี้จะเล่นให้ได้ไพเราะจริงๆ มันต้องมีกีตาร์อคูสติกสองตัว ไม่งั้นมันจะแหว่งๆ ไป ให้ความรู้สึกแปลกๆ แก่ผู้ฟังอย่างยิ่ง ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดเพลง เพลงนี้เล่นง่ายแทบทุกชิ้นครับ

---

The Happiest Days of Our Lives / Another Brick in the Wall Part 2
เมื่อวานได้คุยกับเหม่งทางโทรศัพท์เป็นเวลานาน ก็มีความเห็นที่ตรงกันว่าเพลงนี้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่จะเอามาใส่ในช่วง Encore ของเราเหมือนกัน เพราะว่าเพลงอื่นๆ ที่เราเล่นค่อนข้างโอนเอียงไปทางฟลอยด์ฝั่งทางเดฟเสียมาก เพลงนี้ถือเป็นเพลงที่ดีที่จะมาช่วยสร้างความบาลานซ์ให้กับทางฝั่งโรเจอร์ เพลงสุดดังเพลงนี้น่าจะเรียกเสียงเฮจากคนดูได้ดี ถึงแม้ว่าแฟนพันธุ์แท้ฟลอยด์หลายคนจะไม่ชอบมันก็เถอะ แล้วตัวเพลงก็ไม่ได้ยากอะไรมากมายนัก ปัญหาอาจจะอยู่ตรงเสียงเด็กที่มาร้อง ว่าเราจะทำอย่างไร เราช่วยกันตะโกนกันเองหรือว่าอย่างไร ปัญหาหลักคือเราไม่สามารถสกัดเสียงเด็กจากตัวเพลงในอัลบั้มออกมาได้ ครั้นถึงสกัดออกมาได้ เวลาเอาไปเล่นสดจริงๆ เราจะเปิดมันให้ตรงกับจังหวะที่เราเล่นได้อย่างไร ซึ่งมันก็จะมีวิธีเดียวคือต้องซิงค์จังหวะกลองให้ตรง ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับฝีมือและอุปกรณ์ที่เรามี อีกประเด็นคือเรื่องกีตาร์ เพลงนี้ถ้าจะเล่นให้ฟังดูดีมันต้องมีกีตาร์ไฟฟ้าสองตัว ตัวนึงเล่นเสียงคอร์ดแบบคลีน อีกตัวเล่นเป็นไลน์เมโลดี้ ตื่อ ตือ ตื้อ ตือ...... เป็นเสียงดิสทอร์ทชั่น ดังนั้นก็ยังคิดๆ อยู่ เพลงนี้จึงดูเหมือนจะไม่สมบูรณ์แบบนักถ้าหากเราจะเอามาเล่นจริงๆ แต่ถ้าไม่คิดมาก ก็โอเคเลย เพราะว่าไม่ได้เล่นยากอะไรเท่าไหร่ แถมอาจเปิดโอกาสให้มือคีย์บอร์ดสองคนได้โซโล่แข่งกันด้วย

---

อะโจ้ว!!! :o
วันอาทิตย์ผมติดเรียนอ่ะ ยัน4โมงเย็น
ช่วงนี้ต้องเตรียมตัวสอบตรงแล้วง่ะ

เยี่ยมเลยครับพี่บาส ชัดเจนดีมาก สามารถชี้จุดที่เด่นหรือบกพร่องของสมาชิกทุกคนได้อย่างชัดเจนด้วย หวังว่าซ้อมคราวต่อไปจะสามารถเล่นได้ตามแผนและเป็นรูปเป็นร่างขึ้นครับ

ไม่เป็นไรครับ ไว้อาทิตย์หน้าก็ได้ครับ พี่พิมพ์ที่โรงงานแล้วก๊อบเอามาลงครับ พิมพ์ไปสองวัน เอาเวลาว่างงานมานั่งคิดๆ แล้วพิมพ์ไป เลยอัพเดตไม่ทันเหตุการณ์ครับ

ผมคุยกับน้องๆ เรื่องพี่สิทธิ์แล้วครับ ถ้าพี่สิทธิ์สนใจ จะมาร่วมเป็นสมาชิกวงของเราเลยก็ได้นะครับ จะได้มาช่วยร้องในหลายๆ เพลง เพราะว่าเสียงผมมันแหลมเหลือเกินให้ตายเถอะ ไม่เข้ากับพิงค์ฟลอยด์เลย

บางเพลง บางท่อน ผมขอร้องเองนะครับ เพราะเป็นความไฝ่ฝัน บางเพลงผมก็จะช่วยร้องประสานแล้วให้พี่ร้องนำไปเลย บางเพลงร้องคู่ (อย่างเช่น Echoes เป็นต้น)

ถามเล่นๆนะครับว่าเพลง Echoes ทำไมไม่ลองเล่นเวอร์ชั่น Echoes (The Best Of) เหรอครับ มันกระชับกว่าและสั้นกว่า 6 นาที ซึ่งเท่าที่ฟังก็ไม่ได้ตัดส่วนสำคัญออกเลยครับ ที่ถามนี่เผื่อว่ามันอาจจะเล่นง่ายขึ้นน่ะครับ แต่ถ้าชอบแบบ original ก็เข้าใจนะครับ  :D

ผมขอยึด Remember That Night เป็นหลักครับ อยากให้ได้แบบเต็มๆ และซาวน์ออก Modern หน่อย

ใช่ครับ เพลงนี้ต้องเล่นให้เต็มจึงจะถึงอารมณ์ครับี แต่อย่างไรก็ตามถ้าไปเล่นที่ใหนแล้วเวลาจำกัดก็อาจจะตัดเพลงนี้ออกไปเลย.....มั้ง

ดีใจนะครับที่น้องๆชวน พี่ยินดีมากๆนะครับเพียงแต่พี่ไม่ค่อยมั่นใจว่าจะทำได้ดีแค่ไหน เอาเป็นว่าเราลองซ้อมๆกันไปเรื่อยๆนะครับ ถ้ามันออกมาดีก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้วครับ ส่วนเรื่องร้องนี่พี่เข้าใจน้องบาสดีครับว่าความใฝ่ฝันมันเป็นยังไง เต็มที่เลยครับ จริงๆพี่ยังคิดเลยว่าต่อไปนี้น้องควรร้องพาร์ทของเดฟทั้งหมด จะได้สมบูรณ์แบบเหมือนเดฟจริงๆ พี่อายุเยอะแล้วให้โอกาสน้องๆดีกว่า พี่คอยช่วยร้องเสริมเท่าที่จำเป็นได้ครับ แค่นี้ก็ดีใจแล้วครับ  :D

หรือตอบง่ายๆสั้นๆว่า "ตกลงครับ"  ;D

ตอบง่ายๆสั้นๆว่า เย้!!!!!  :D

เย้ด้วยคน

Wish You Were Here เล่นแบบ Live 8 ดีใหมครับ
ให้สันมาเล่นกีต้ารองพื้น

ได้ครับ อาทิตย์นี้ซ้อมนะครับ เวลาเดิม 12.00 - 15.00 น.
คราวนี้ขอเป็นฟอร์จูนนะครับ

ดีใจมากครับที่ซ้อม เพราะทนกับการเรียน + ครู + เพื่อน + ทรงผมมานานแล้ว ขอไปปลดปล่อย ไปช๊อปปิ้งบ้างครับ

อิอิอิ

อาทิตย์นี้ผมติดสอบ Smart-I อ่ะ

ซ้อมกันแค่ 4 คนก่อนได้ไหม

นั่นสิครับ เพราะผมก็ไม่แน่ใจว่าอาทิตย์ต่อไปผมจะติดเข้าค่ายคณะกรรมการนักเรียนรึเปล่า เอาเป็นว่า่ซ้อมกันแค่นี้ก่อนและกัน ไม่อยากให้เลื่อนไปเรื่อยๆครับ (อาทิตย์หน้าถ้าผมติดค่ายก็ลองซ้อมโดยที่ไม่ต้องมีกลองก็ได้ครับ)

ซ้อมโดยไม่มีกลองนี่เป็นไปไม่ได้ครับ ไม่ค่อยมีใครเค้าทำกันหรอกครับ (ยกเว้นถ้าเล่นเพลงที่ไม่มีกลอง)

มือคีย์บอร์ดพอขาดได้ แต่ขาดมือกลองนี่เหมือนขาด นิค เมสัน พิงค์ ฟลอย ใช้ชื่อไม่ได้เลยนะ 555

ให้พี่สิทธิ์เล่นก็ได้ครับ  ;D ;D ;D

เอ่อ...ตีกลองไม่เป็นครับ  ;D

คอนเฟิร์มนะครับ พี่โทรจองห้องไปแล้วตะกี้นี้ ภายในไม่ถึง 5 นาทีที่ผ่านมา

วันอาทิตย์นี้ เที่ยงถึงบ่ายสาม ที่ห้องซ้อมมิวสิคเซ็นเตอร์ ฟอร์จูนทาวน์จ้า

เจอกันก่อนเที่ยงซัก 11:30 ดีมั๊ยครับ? ไม่ซีเรียสนะครับถ้าไม่สะดวก อาจนั่งทานอะไรเล่นๆ คุยเล่นๆ

ดีมากๆเลยครับ

ผมอาจจะไป late หน่อยนะครับ

เอโคเลยครับ

เมื่อวานซิมมือถือเสีย เบอร์โืทรน้องๆหายหมดเลย ช่วยแจ้งเบอร์หลังไมค์ด้วยนะครับ จะได้นัดหมายกันได้ โดยเฉพาะน้องโอ๊คกับน้องอั้มจะติดรถพี่ไปมั๊ย? เช้าวันอาทิตย์พี่อยู่แถวๆบ้านน้องๆนั่นแหละ  :)

ดีครับ รู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ดีกว่าเอาเวลาไปเล่นการพนันหรือเที่ยวแตร่ คิดถึงสมัยผมยังเรียนอยู่ เคยตั้งวง3 คนกับเพื่อนเล่นดนตรีแนว ELPแต่เล่นไม่ค่อยจบเพลงหรอก ฮ่าๆๆ

หมายถึงเพลงยาวๆ อย่าง Tarkus, Karn Evil 9, Pictures at an Exhibition หรือ Pirates หรือครับ

ใช่ครับ แล้วก็ได้หยุดเล่นไปสักระยะ จนเมื่อมีโอกาสได้ไปชม Ars Novaเล่นสดๆแล้วรู้สึกอายผู้หญิงที่เล่นได้ขนาดนั้น จำได้ว่าได้ตั๋วนั่งติดขอบเวทีเลย

ถ้าพี่ no7 ร้องนำนี่ ออกแสดงสดไม่ต้องใช้ไมค์เลยนะครับ

สรุปแล้วพรุ่งนี้เจอกันกี่โมงดีครับ? ผมอาจไป 11 โมงกว่าๆ นะครับ ไปหาข้าวเที่ยงทานก่อนเน้อ

ผมก็เวลาเดียวกัน ไปกินด้วยกัน 555+

มา กรุงเทพ ไม่เห็นชวนเจอเลย ระ คับ เหม่ง

ก็เข้ามาซ้อมดนตรีอ่ะครับ แล้วก็เล่นพิงค์ฟลอยด์เป็นหลักด้วย อาจจะไม่ถูกใจพี่ครับ เลยไม่ชวนดีกว่า

อืมมม ครั้งหน้าลองนัดดูก่อน ก็ดี ครับ อยากลองไปดูซ้อมเพลง PF บ้าง เหมือนกัน  ;D

ครั้งหน้าอย่าลืมชวนผมนะคับ จะไปดูกับคุณวันพระสักหน่อย

ด้วยความยินดียิ่งครับ

อยากให้น้อง GuroNeko มาดูบ้างจัง  ::)

Phi's Lastest Version Setlist

---

First Half : Dark Side of the Moon Suite

1. Speak to Me /
Sample played by Phil's keyboard

2. Breathe /
Sith : Lead Vocal
Agent Fox Mulder (Black Strat) : Guitar (Clean Signal), Lap Steel (Clean Signal with Delay), Backing Vocal
Oak : Electric Piano (Wurlitzer or Rhodes)
Phil : Hammond B-3 with Leslie (Enter on "Run... rabbit run."), Slide Solo
Sarn : Bass Guitar
Lilium : Drums

3. On The Run /
Sample played by Phil's keyboard

4. Time/Breathe Reprise /
Sith : Lead Vocal (Both Dave's & Rick's Part)
Agent Fox Mulder (Black Strat) : Guitar (Rhythm & Solo), Backing Vocal (Dave's Backing Part)
Oak : Electric Piano (Wurlitzer or Rhodes)
Phil : Organ
Sarn : Bass Guitar
Lilium : Drums, Intro Drums Solo

5. The Great Gig in the Sky /
?? : Lead Vocal
Agent Fox Mulder : Lap Steel (Clean Signal with Delay)
Phil : Acoustic Piano
Oak : Hammond B-3 with Leslie
Sarn : Bass Guitar
Lilium : Drums

6. Money /
Sith : Lead Vocal
Agent Fox Mulder (Black Strat) : Guitar (Rhythm & Solo)
Oak : Electric Piano (Wurlitzer or Rhodes) with Wah-Wah Effect add on Solo Part
Phil : Saxophone Solo, Hammond B-3 with Leslie
Sarn : Bass Guitar
Lilium : Drums

7. Us and Them /
Sith : Lead Vocal
Agent Fox Mulder (Black Strat) : Guitar (Rhythm), Backing Vocal
Oak : Acoustic Piano
Phil : Hammond B-3 with Leslie
Sarn : Bass Guitar
Lilium : Drums

8. Any Colour You Like /
Agent Fox Mulder (Black Strat) : Guitar (Rhythm & Solo)
Phil : Synth Solo (Minimoog)
Oak : Hammond B-3 with Leslie
Sarn : Bass Guitar
Lilium : Drums

9. Brain Damage /
Sith : Lead Vocal
Agent Fox Mulder (Black Strat) : Guitar (Rhythm), Backing Vocal
Oak : Hammond B-3 with Leslie
Phil : Synth Solo (Minimoog)
Sarn : Bass Guitar
Lilium : Drums

10. Eclipse /
Sith : Lead Vocal
Agent Fox Mulder (Black Strat) : Guitar (Rhythm), Backing Vocal (Dave's Backing Part)
Oak : Hammond B-3 with Leslie
Phil : Hammond B-3 with Leslie
Sarn : Bass Guitar
Lilium : Drums

---

<<<< INTERMISSION >>>>

---

Second Half : Long Epic Suite

11. Shine On You Crazy Diamond /

อยากร้องอ่ะ

พี่สิทธิ์เป็นนักร้องไปแล้ว...

หาก Voice of Pink Floyd คือ David Gilmour

Voice แห่ง วง Phi ก็คือ พี่สิทธิ์...

เท่ซะไม่มี  ;D

ซ้อมคราวนี้ไม่มี bootleg มาให้ฟัง-ดูกันบ้างหรือครับ  ::)

อยากร้องเพลงไหนยังไงครับ เสนอมา แล้วเดี๋ยวไปจัดคิวกันอีกทีตอนซ้อมครับ

ผมอยากร้อง Ghost of Perdition ครับ จัดให้ได้มั้ย 5555555+

รับสมัครสา่วๆมาเป็นนักร้องคอรัสและโหยหวนในเพลง Great Gig in the Sky ครับ  ;D

ลองชวนน้องฟ่างดูสิครับ

ไม่เอาค่ะ ฟ่างร้องเพลงเหมือนสวดอภิธรรมศพง่ะ 5555+

ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ ยังรู้สึกว่าร้องไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ  น้องบาสก็ร้องหลายเพลงครับ เสียงดีกว่าพี่ซะอีก  :D

ใช่ครับ บอกมาเลยครับ ช่วยกันร้องก็ได้นี่ครับ พี่จะได้ไม่เหนื่อย  ;D

ประกาศเรื่องซ้อมวันอาทิตย์นี้

จองไว้ตอน 12.00 - 15.00 น. นะครับ ห้ามเลต เพราะเลื่อนเป็นเที่ยงครึ่งไม่ได้นะ เพราะว่าเค้ามีจองไว้ตอนบ่าย 3

ช่วงนี้ผมจะไม่ค่อยว่างนะครับ มีอะไรโทรเข้ามือถือนะครับ ใครจะเปลี่ยนแปลงหรือมีปัญหาอะไรยังไงขอให้รีบบอก

สัปดาห์นี้ฟิวกับสันไม่ว่างก็ไม่เป็นไรนะครับ เราจะซ้อมในส่วนของคีย์บอร์ด กีตาร์ Vocal กันไปพลางๆ ก่อนครับ

ขอบคุณครับ

พูดแล้ว นึกถึงพวกแนวดูม เรย อ่ะ -*-

วันนี้สนุกมากครับ

พอไม่มีเบสแล้วรุ้สึกโหวงเหวง เล่นแบบฟอร์มหลุดกันทุกคนเลย 55555+

In Your Room = ในห้องซ้อม  ;D

ต้องขอบคุณน้องอั้มอีกทีที่ค้นพบวิธีสร้างเสียงเอฟเฟคในเพลง Echoes ได้ สุดยอดครับ น่าจะถ่ายรูปตอนทำเสียงเอฟเฟคอยู่ เหมือนเดฟนั่งเล่นกีตาร์ใน pompeii เลย  :D

ป.ล. แล้วนาฬิกาเป็นรอยมากมั๊ยครับ  ;D

เห็นว่าพี่เหม่งถ่ายไว้นี่ครับ

นาฬิกามันมีรอยใหญ่ๆอยู่รอยหนึ่งแล้ว เพิ่มอีกซักรอยคงไม่เป็นไร คลาสสิคดี  :D

เมื่อไรจะได้ซ้อมกันแบบเต็มๆวงสักทีน้า....คงจะมันส์และปึ้กน่าดูเลยล่ะ  :D

จุ๊ จุ๊ อย่าเอ็ดไป วงเรากำลังจะมีนักร้องหญิงรับเชิญ  ::)

ใคร?  :D

คนรู้จักน่ะครับ กำลังเจรจาอยู่ครับ  ;)

ซ้อมวันที่ 17 หรือไม่ก็ 18 กรกฎาคมได้มั้ยครับ รร.ผมหยุดพอดี จะได้ไปกันครบวงครับ :)

น่าจะได้ครับ เดี๋ยวใกล้ๆ นัดอีกทีนะ

ถ้าได้ 18 จะดีมากครับ เพราะ 17 วันทำงานครับ  :)

อ่าวเป็นวันพฤหัส-ศุกร์หรอกเหรอ เป็นวันหยุดอะไรหรือครับ

วันศุกร์เข้าพรรษาครับ

 ตอนนี้กำลังฝึกเพลง

wish you were here

แหะๆ ใช้กีต้า โปร่งเล่นอ่ะครับ ถ้า ฝีมือเทพๆแล้ว จะลอง เข้าร่วม วงกับพวกท่านดู

ป.ล. ข้าน้อย ถนัดซ้าย อ๊ากกกก

ซ้อมวงคราวที่จะถึงนี้ผมจะเล่น On the Run สดให้ดู

แต่ฝากเหม่งตีกลองด้วยนะ

พอดีวันเสาร์ผมมีเรียนถึงบ่ายโมงอ่ะครับ อาจจะมาช้าหน่อย ถ้าจะซ้อมกันจริงๆก็ซ้อมกันไปก่อนก็ได้ครับ แล้วผมตามไปทีหลัีง แต่ถ้าจะเปลี่ยนเวลาซ้อมยังไงก็ค่อยคุยกันอีกทีนะครับ

พี่แนะนำว่า ให้นัดซ้อมนอกรอบวันมีตติ้งดีกว่าครับ เพราะว่าการขนของอะไรต่อมิอะไรคงทำได้ไม่ค่อยสะดวกนัก ที่แพลนไว้คือเราจะนัดซ้อมกันวันอาทิตย์ของสัปดาห์ถัดมาจากที่เรามีตติ้งกันครับ

แจ้งให้ทราบว่า หลังจากตรวจสอบบุคคลว่าง-ไม่ว่าง ในวันอาทิตย์หน้าแล้ว พบว่า

บาส - ว่างสิ
เหม่ง - ว่าง อยากเล่นมาก
สัน - ว่าง แต่อาจจะไปถึงประมาณบ่ายครึ่ง เลตหน่อย
โอ๊ค - บอกว่าว่าง น่าจะมาได้
พี่สิทธิ์ - น่าจะว่างใช่ไหมครับ?
ฟิว - ไป ตจว.

จึงขอถามตรงนี้ว่า ถ้าวันอาทิตย์หน้า เราจะนัดซ้อมกันโดยไม่มีฟิวไปก่อน จะสนใจกันไหมครับ?

ใครเห็นด้วยไม่เห็นด้วยยังไง โปรดลงชื่อในกระทู้นี้เลยครับ

เห็นด้วยครับ อยากไปซ้อมมากครับ  :D

จริงๆแล้วอยากซ้อมครับ แต่ไม่มีชัพ ผมหลุดบ่อยเอามากๆเลยครับ  :-[

แต่ถ้าไม่มีเบสผมก็ตีกลองไม่ได้เลยนะครับ- -

ซ้อมเลยครับ อยากไปชม

อยากไปชมด้วยค้าบ

ว่างอยู่แล้วครับ

ตอนนี้เหลือโอ๊คคนเดียว ถ้าโอ๊คเข้ามาก็ช่วยมาลงชื่อที่กระทู้นี้ด้วยนะครับ

ผมว่างหลังสงกรานนะครับ

ครับผม หลังสงกรานต์คงได้นัดซ้อมอีกทีครับ

โทรไปหาโอ๊คมาแล้ว โอ๊คบอกว่าได้ งั้น พี่โทรจองห้องซ้อมเลยนะครับ โอเคไหม

แจ้งให้ทราบมา ณ ที่นี้ว่า โทรจองห้องซ้อมแล้ว บ่าย 1 ถึงบ่าย 4

วันอาทิตย์นี้นะครับ

คอนเฟิร์มตกลงแน่นอนครับ  :D

ไปด้วยได้ไหมคร้าบบบ

คุยกับตองแล้วครับ ให้น้องเค้าเล่นด้วยสามเพลงคือ Time, Money แล้วก็ Comfort แล้วก็ให้น้องเค้าโซโล่ Money ไปเลย ผมขี้เกียจเล่นเพลงนี้ ซะงั้น

อยากเล่น Astronomy Domine ครับ ถ้าจะเล่น เล่นกันได้ไหมครับ

นอกนั้นก็มีเพลงเพิ่มเติมเดิมๆ ที่เราเคยเล่นกัน นอกเหนือไปจากเซ็ทลิสต์ปรกติคือ
Coming Back To Life
On The Turning Away
A Great Day For Freedom

ยังอยากเล่ีนกันอยู่ไหมครับ

ว่าไงว่ากันครับ แต่ Astronomy ดูจะร้องยากเพราะกลัวหลงคีย์

Astro เอาไว้ก่อนละกันครับ รอบนี้เอาเป็นรอบปรับตัว+ฟื้นฟู ไปก่อน

แจ้งให้ทราบล่วงหน้าก่อนนะครับว่า ช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 4-5 พ.ค. ผมไม่สะดวกที่จะซ้อม

คำถามต่อไปคือ วันอาทิตย์ที่ 26 เมษา นี้ น้องเหม่งกลับมาว่างแล้วครับ แต่ฟิวไม่ว่างเหมือนเดิม เห็นบอกว่าไป ตจว. อีกแล้ว

วันที่ 26 นี้ อยากซ้อมกันอีกไหมครับ มีใครติดอะไรไหมครับ? หรือยังไง ถ้าซ้อมอาทิตย์นี้ ก็ไม่มีฟิว เหม่งว่าง ผมว่าง สันไม่แน่ใจ พี่สิทธิ์น่าจะว่าง โอ๊คนี่ต้องโทรถามเอา

ช่วยลงชื่อและเสนอความเห็นด้วยครับ

สะดวกและอยากซ้อมครับผม  :D

OK  :)

ไปด้วยได้ไหมเจ้าคะ  :D

ได้ครับ แต่รอสันกับโอ๊คคอนเฟิร์มก่อนนะครับ แล้วเราถึงจะมั่นใจได้ว่าได้ซ้อมแน่

Astro นี่อยากให้บาสช่วยร้องคีย์สูงด้วยได้มั๊ยครับ

ได้ครับ เด๋วลองไปซ้อมก่อน

รอบนี้ลองเน้นเพลงแปลกๆ บ้าง
Coming Back To Life > เล่นดีอยู่แล้ว น่าภูิมิใจครับ เอาให้ดีกว่านี้อีก
Astronomy Domine > ผมบอกให้โอ๊คไปทำการบ้านเพลงนี้แล้วครับ ถ้าโอ๊คเล่นได้ก็คงจะยอดไปเลย
A Great Day For Freedom > ขออีกทีได้ไหม ชอบๆ
Wearing Inside Out > ไม่มีใครชอบเพลงนี้หรือ?
On The Turning Away > เอาให้จบ ไม่ล่ม แค่นี้ก่อน ผมก็ดีใจแย่แล้วครับ
On An Island > อยากลอง อยากลอง ;D ;D ;D :D :D :D ขอนะ ขอนะ ขอนะ ขอร้องเองนะครับเพลงนี้

เลือกงานเดี่ยวของโรเจอร์มาเล่นซักเพลงดีไหมครับ
Perfect Sense, Amused to Death ???

เบื่อเล่นเพลงเก่าๆ แล้ว

เสนอเพลงอื่นๆไว้พิจารณาครับ (เอาไว้เล่นครั้งต่อๆไปก็ได้ครับ)

Sorrow, The Nile Song, Wot's...uh the Deal, Let There be more Light, Wish you Were Here, Empty Space / What Shall We Do Now? / Young Lust, Nobody Home (Live in Berlin Version), Marooned, Keep Talking

เสนอบ้างไว้โอกาสต่อๆไป Sorrow, Empty Spaces + What Shall We Do Now ?, One of These Days, Dogs, Keep Talking, Lost For Words

On The Turning Away เล่นเวอร์ชั่นไหนครับ ถ้าเป็นอัลบั้มเวอร์ชั่นกลองจะต้องขึ้นท่อนสุดท้ายที่ประโยคแรก No more turning... แต่ถ้าเป็นไลฟ์เวอร์ชั่น กลองจะขึ้นตอนท้ายที่ท่อนร้องจบพอดีแล้วก็ขึ้นโซโล่กีตาร์

โทรไปหาโอ๊คตะกี้นี้ โอ๊คบอกว่า "อาจจะ" ไปไม่ได้ สำหรับอาทิตย์นี้

ก็เลยถามไปว่า คือยังไง เค้าบอกว่าโอกาส "ที่จะไปไม่ได้" มีสูงกว่า "ไปได้"

เค้าบอกให้ผมโทรไปหาอีกที ตอนเย็นวันนี้ จะบอกได้ว่าไปได้หรือเปล่า

ขอแจ้งให้ทราบมา ณ ที่นี้ครับ

ของผมไม่น่ามีปัญหาครับ

โทรไปหาโอ๊คมาซักครู่ครับ โอ๊คไปไม่ได้ครับ ต้องจัดค่าย (น้องเค้าบอกมาเท่านี้)

จบข่าว

อดอีกแระ  :'(

อาทิตย์นี้อยากซ้อมกันไหมครับ

ส่วนตัวผม มีเรื่องเสียใจอยากเอามันไปทิ้งที่ห้องซ้อมครับ ถ้าซ้อมอาทิตย์นี้ได้ก็คงดีครับ ช่วยเสนอความเห็นและลงชื่อกันด้วยนะครับ

อยากมาก ครับ เก้าอี้ว่างก็ไปด้วยนะ  ;D

ต้องขออภัยจริงๆครับ เผอิญอาทิตย์นี้ผมไม่ว่าง ต้องกลับศรีราชาน่ะครับ ยังไงถ้าเป็นอาทิตย์หน้าก็น่าจะโอเคนะครับ

ครับผม อย่างนั้นไม่เป็นไรครับ ไ้ว้อาทิตย์หน้าแล้วกันครับ

อาทิตย์หน้าผมว่างครับ ;D

น่ายินดีอย่างยิ่ง คราวนี้ซ้อมนานๆ

เอาหนึ่งกะ = 8 ชม. ไปเลยไหม แต่ถ้าตกลง ช่วยโทรเรียกรถพยาบาลมารับพี่ด้วยครับ

เหลืออีกคนนึงที่ต้องโทรไปถาม

ล้อเล่นน่ะครับ ซ้อมปกติแหละ  :P

ซ้อมคราวนี้โอ๊คจะได้ไปมั้ยครับ

นานๆจะครบวงซักครั้ง

เราคงต้องส่งทูตไปเจรจาครับ

พี่อาสาเป็นฑูตให้แล้วครับ คิดว่าไม่มีปัญหาครับ (80%) แต่รอเฟริม์เป็นทางการอีกที  :D

เมื่อวานเหม่งบอกว่าเราน่าจะถ่ายวีดีโอ Coming Back To Life ครับ ซึ่งพี่เห็นด้วย เพราะคิดว่าเป็นเพลงที่เราน่าจะเล่นกันได้เนียนที่สุด นอกเหนือไปจากเซ็ทลิสต์ที่เราเล่นกันอยู่ประจำ

ดังนั้น อย่าลืมไปซ้อมเพลงกันมาให้ปึ๊กๆ นะครับ อ้อ แล้วอย่าลืม Astronomy Domine ด้วยนะ อิอิ

แจ้งให้ทราบว่าจองห้องซ้อมแล้วนะครับ

เวลาเดิม 13.00 - 16.00 น.

คราวนี้ผมไปได้ไหมเอ่ย

ก็คราวนี้มากันครบครับ เกรงว่าแอมป์จะเต็มครับผม

โอเคครับ

กระทู้นี้จะครบ 1 ปีแล้ว แต่ยัง active อยู่

สุขสันต์วันเกิดกระทู้เรื่องการซ้อม Part 3 ครับ  :D

วันนี้

- โอ๊คไม่มา
- ผมโซโล่ Comfort ไม่ออก
- ถ่ายวีดีโอมาสองเพลง คือ Coming Back To Life กับ Us And Them

ผมได้วีดีโอมาแล้วครับ และก็ได้ทำการแต่งเสียงไปนิดหน่อยแล้วครับ ไว้พรุ่งนี้จะเอามาลงให้โหลดเล่นๆ กันครับ

- มือกลองเล่นออกมาล้มเหลวทุกเพลง  :-\

มือเบสอีกคน

(คราวหน้าอยากเล่น Mike Patton ครับ)

ร้องมั้ง ไม่ใช่เล่น - -

(http://i237.photobucket.com/albums/ff55/basnaphon/Phi-ComingBackToLife_s_resize.jpg)
วีดีโอเพลง Coming Back To Life ขนาดประมาณ 40 MB ในรูปแบบฟอร์แมต avi
http://rapidshare.com/files/234239755/Phi_-_Coming_Back_To_Life.avi.html

(http://i237.photobucket.com/albums/ff55/basnaphon/Phi-UsAndThem_s_resize.jpg)
วีดีโอเพลง Us And Them ขนาดประมาณ 50 MB ในรูปแบบฟอร์แมต avi
http://rapidshare.com/files/234243661/Phi_-_Us_And_Them.avi

เสียงร้องแย่มากๆ (กรุณาฟังดนตรีเป็นหลัก) คนอื่นก็เยี่ยม โดยเฉพาะบาสเล่นดีมากๆกิลมอร์มาเองเลย ขโมยซีนทั้งวงเลย 

อ้อ ขอบคุณตากล้องด้วยครับ ถ่ายดีครับ  :D

คราวหน้าเล่น What Shall We Do Now ? กันจริงๆเลยนะครับ (วันนั้นร้องมั่วๆเอา)

เล่นตั้งแต่ Goodbye Blue Sky จนถึง Goodbye Cruel World เลยดีมั้ยครับ เป็นเซ็ตที่น่าเล่นนะ  :D

เอาเป็น Empty Spaces > What Shall We Do Now ? > Young Lust ไปเลยไหมครับ แล้วก็ถ่ายวีดีโอเก็บไว้เหมือนเดิม

ถ่ายวีดีโอเก็บไว้ แล้วเอามาเปิดให้ชมใน Meeting ครั้งหน้านะครับ

เอาสิครับ อยากเล่นเพลงแบบร๊อคๆบ้าง เดี๋ยวน้าโรเจอร์จะน้อยใจว่าเล่น The Wall น้อยจัง  ;D

อย่าเลยครับ ใครอยากดูโหลดไปดูดีกว่า เดี๋ยวเหมือนบังคับให้ดู  ;)

เอาอย่างนี้ดีกว่า คำถามนี้น่าจะเด็ดกว่า ซ้อมครั้งหน้าเมื่อไหร่ครับ?

ถ้าเด็ดกว่านี้คือ จะซ้อมแบบเต็มวงได้เมื่อไร?

ยอมเลยครับคำถามนี้ ต้องบอกว่าเด็ดจริงๆ

วันหยุดบางครั้งผมอยู่บ้านเล่นเน็ต กลับไม่ได้นึกถึงเพลงที่พวกน้อง ๆ เล่นกันเลยครับ  :D
ไม่เป็นไรครับ บางเพลงก็ได้ ผมอยากฟัง Time, WYWH, Comfortably numb ครับ  :D

+1000000

อืม..น่าคิด

Empty Spaces > What Shall We Do Now ? > Young Lust

3 เพลงนี้รู้สึกพี่สิทธิ์จะร้องเล่นๆ แต่ขึ้นดนตรีกันจนจบเลยนะครับ สุดยอดมาก

เชื่อว่าตากล้องที่ถ่ายเพลง Pink Floyd ต้องฟังเพลงของวงนี้ด้วย เพราะจะรู้ว่าช่วงไหน เครื่องดนตรีใดโซโล่ หรือ เล่น จะได้ไปถ่ายเครื่องดนตรีชิ้นนั้นแบบเน้นๆถูก ไม่ใช่ถ่ายมั่วๆเครื่อง

ถ้าได้แอมป์กีตาร์ Fender เสียงของกีตาร์ คงจะดีกว่านี้นิดนึง

เพิ่งเห็นเซ็ทที่เหม่งแนะนำก็น่าสนใจนะครับ แต่ Don't Leave Me Now นี่ไม่กล้าร้องอ่ะ มันหดหู่ที่สุดในอัลบั้มเลย กลัวอารมณ์ไม่ถึง เหมือนคนจิตหลอนๆหน่อยแล้วเพลงนี้  :D

ไม่แน่นะครับ ถ้าเราจะเล่น The Wall ทั้งอัลบั้ม (เขาคนนั้นอาจจะกลับมา) และเราอาจเป็นวง Pink Floyd - Tribute ไม่กี่วงในโลก (หรือวงเดียวหว่า?) ที่เล่นอัลบั้มนี้ทั้งเซ็ท :D

อะไรที่เราเล่นโดยไม่ตั้งใจมักจะออกมาดี แต่พอจะถ่ายวีดีโอนี่เกร็งไปเลย

 ;D ;D ;D

จริงครับ

...........
อยากเล่นThe Wall ทั้งอัลบั้มเหมือนกัน แต่บางเพลงจะยากหน่อย เสียงมันเยอะ

ผมว่าเราน่าจะตั้งกระทู้แยกใหม่สำหรับคิด list เพลงสำหรับการซ้อมรอบๆต่อไป(รวมถึง list หลัก)กันดีมั้ยครับ  :)

ดีครับ  :)

วง Phi ของเราห่างหายจากการซ้อมไปพอสมควร สมาชิกบางคนเท่าที่ทราบมาก็เริ่มเบื่อๆ แล้ว ผมขอตั้งข้อสังเกตไว้เกี่ยวกับวงเราดังนี้ครับ

ตอนนี้วงเราไม่ค่อยกระตือรือร้นที่จะซ้อม ไม่มีใครเป็นตัวตั้งตัวตีนัดซ้อม แล้วก็ดูเล่นได้แย่ลง สาเหตุเพราะ

1. สมาชิกวงเรามีความสนใจในดนตรีที่แตกต่างกันมาก
เนื่องด้วยวงเราเป็นวงที่ตั้งใจฟอร์มขึ้นมาเพื่อคัฟเวอร์แต่เพลงพิงค์ฟลอยด์โดยเฉพาะ แต่ปัจจุบันสมาชิกของเราฟังเพลงหลากหลายมาก แต่ละคนแทบฟังเพลงจะคนละเรื่องกันหมดเลย ทำให้เวลามาเล่นรวมกัน ก็จะเอาอิทธิพลในสิ่งที่ตัวเองชอบมาใส่ๆ ผสมปนเปจนเริ่มเละเทะไปหมด กลายเป็นว่าภาพรวมของเพลงเสียไป ที่สำคัญคือหลายๆ คนคงจะฟังพิงค์ฟลอยด์มากันจนเบื่อแล้ว ทำให้เวลาก่อนเล่นจริงไม่ค่อยมีใครฟังเพลงที่จะเล่นมาก่อนหน้า หรือศึกษามาก่อนอย่างจริงจัง ทำให้หลุดกรอบของฟลอยด์ไปค่อนข้างมาก

2. สมาชิกวงของเราอยู่ในต่างวัย ต่างสถานะ ต่างที่พัก
ตอนนี้สมาชิก 3 ใน 6 ของเราก็กำลังเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยแล้ว ซึ่งผมเชื่อว่าจะมีอะไรเปลี่ยนไปพอสมควร ฟิวเองอาจได้วงเล่นที่ ม.รังสิต เป็นวงใหม่ อาจจะทำดนตรีในแนวทางที่แปลกออกไป เหม่งวันนี้ก็อยู่ที่ค่ายชมรมดนตรีของ ABAC กำลังจะหาสมาชิกวงฟอร์มวงเมทัลเล่น ส่วนสันอาจเข้าสู่วงการอนิเมะเต็มตัว (ฮา) โอ๊คก็ไปไหนแล้วก็ไม่รู้ บางทีผมก็พูดตรงๆ ว่าเกรงใจน้องๆ เวลาที่จะนัดซ้อมทีนึง เพราะกลัวว่าทุกคนก็ต่างมีธุระเป็นของตัวเอง เรื่องการเดินทางก็สำคัญเหมือนกัน เพราะว่าหลายๆ คนก็พักอยู่ต่างสถานที่กัน เวลานัดมารวมตัวกันก็ต้องเดินทางกันยกใหญ่ ซึ่งเสียค่าใช้จ่ายพอสมควร สมัยก่อนตอนเหม่งอยู่ศรีราชา เหม่งต้องนั่งรถทัวร์มาหลายชั่วโมงมาเพื่อซ้อมวง แล้วก็ต้องนั่งรถทัวร์กลับศรีราชาอีก ค่ารถเหม่งไป-กลับ เผลอๆ ราคาเท่ากับค่าห้องซ้อมของพวกเราเลยมั้งครับ ด้วยเหตุปัจจัยเหล่านี้ ทำให้ผมไม่ค่อยกล้านัดซ้อมเท่าไหร่แล้ว

3. จำนวนสมาชิกที่มาก+การไม่ทำการบ้าน+เล่นเอามันส์อย่างเดียว
บางทีเราซ้อมๆ กันอยู่ พอถึงท่อนที่มีปัญหา อย่างเช่น ผมกับฟิวเล่นคอร์ดไม่ตรงกัน เราก็หยุดเล่น แล้วผมก็เดินเข้าไปคุยกับฟิวว่า เฮ้ย ตรงนี้มันคอร์ดอะไรกันนะ เราก็ต้องคุยกันตกลงกัน ระหว่างนั้นสมาชิกท่านอื่นที่ไม่มีปัญหากับการเล่นอะไรก็ต้องรอ รอเราสองคนคุยกัน ก็จะเล่นอะไรไปเรื่อยเปื่อย หรืออย่างไรก็ตามแต่ ซึ่งบางทีผมก็รู้สึกเกรงใจ ที่ต้องหยุดเล่น ผมก็เลยปล่อยๆ มันทิ้งไว้อย่างนั้น เล่นผิด เล่นไม่เนียนก็เล่นไป ทำให้สุดท้ายภาพรวมเพอร์ฟอร์มแมนซ์ของเราก็ไม่ดีขึ้น ด้วยความคิดที่ว่า "นานๆ เราจะมาได้เล่นกันซักที่ ก็ต้องเล่นให้คุ้ม ให้ได้หลายๆ เพลง" ซึ่งความจริงมันไม่ใช่ครับ สิ่งสำคัญคือถ้าเราเล่นแล้ว เราต้องพยายามเล่นให้ดีขึ้นด้วย ผมเองก็ขอยอมรับผิดตรงนี้ที่ชอบเอาเพลงอื่นๆ มาเล่นในเวลาซ้อมวงของ Phi เช่นกันครับ

และปัญหาอย่างสุดท้าย ที่ผมคิดว่าสำคัญและมีอิทธิพลมากที่สุด
4. เราไม่มีเป้าหมายในการซ้อม (ไม่ได้ออกงานซะที)
ผมเชื่อว่้า ถ้าวงของเรามีเป้าหมายว่าจะได้ขึ้นไปเล่นที่งานโน้น งานนี่ที่ไหนซักที่นึง ผมมั่นใจว่าวงเราทั้งหมดจะมีความกระตือรือร้นในการซ้อมเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนครับ เพลงที่เราว่าเบื่อๆ กัน อย่าง Dark Side, Money ความรู้สึกนั้นก็จะหมดสิ้นไปหมด เพราะเราจะกลัวว่าเราเล่นกันไม่ดีมากกว่า และในที่สุดเราก็จะเลิกพูดว่าเบื่อ แต่กลับมาตั้งหน้าตั้งตาเล่นให้ดีขึ้น และที่สำคัญคือมีกำลังใจในการเล่นมากขึ้นแน่นอนครับ แต่ปัญหานี้ผมไม่รู้จะแก้อย่างไร เพราะเท่าที่เคยเล่นดนตรีตามงานมาบ้างนิดหน่อย ถ้าหากเราไปเดินหาสถานที่หรืองานที่จะรองรับเพลงที่เราเล่นกัน แทบไม่มีทางเป็นไปได้เลยครับ ตอนผมเล่น Breathe, Time, Money ที่งานพันทิพ 10 ปี คนอื่นไม่มีใครรู้เลยว่าเราจะเล่นเพลงพวกนี้ เพราะถ้าเค้ารู้เค้าคงไม่ให้เราขึ้นเล่นในงานแบบนั้นแน่นอนครับ แล้วตอนที่ผมเล่นจริง คนดูเงียบกริบกันทั้งฮอลล์ (คงไม่ใช่เงียบเพราะตั้งใจฟังหรอก) หรือตอนสมัยที่ผมได้เล่นกับวง Beatles Jr. ผมก็ต้องเลือกเพลงเอง โดยมีโจทย์คือเราจะต้องเลือกเพลงที่ "ดีๆ น่าสนใจ" ไม่ใช่เลือกเพลงที่ "ดังและเป็นที่รู้จัก" ทำให้ท้ายที่สุดก็มีโอกาสได้เล่นเพลงอย่าง Isn't It A Pity, Something หรือ While My Guitar Gently Weeps ได้ครับ

ที่ผมมาเขียนอันนี้ไม่ได้มาหาเรื่องใครหรือมาโวยวายอะไรนะครับ แต่เป็นการมาแสดงความคิดเห็นและสอบถามถึงอนาคตทิศทางของวงเราว่าจะเอายังไง จะให้ผมนัดซ้อมอีกไหม หรือจะปล่อยให้เป็นอย่างงี้ไปก่อน จนเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมแล้วค่อยมาตั้งต้นใหม่อีกที (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าอีกเมื่อไหร่) เราควรหามือคีย์บอร์ดคนใหม่มาแทนคนเก่าหรือไม่ หรือยังไง สมาชิกวงช่วยแสดงความคิดเห็นกันด้วยครับ

เรื่องของวงไม่ใช่เรื่องของคนๆ เดียว แต่เป็นเรื่องของคน 6 คน ก็ช่วยกันออกความเห็นและตัดสินใจหน่อยนะครับ
คุยกันแบบสบายๆ นะครับ ถ้ายังไงผมซีเรียสเกินไปก็ขออภัยด้วยนะครับ

ไว้จะมาตอบครับ

ใจผมยังอยากจะเล่นวง Phi อยู่ครับ..






ไว้เดี๋ยวจะมาตอบเพิ่มเติมอีกทีครับ

ผมยังอยากเล่นกับวงนี้เป็นวงถาวรไปตลอดครับ

พูดตรงๆผมเพิ่งปฏิเสธเพื่อนผมในคณะไป เขามาชวนผมเล่นวง แต่ผมไม่เอา ผมบอกเขาว่าผมมีวงแล้ว

แต่ข้อ4นี่สำคัญจริงครับ หางานเล่นไม่ได้เลย :-\

ลองซ้อมมา แล้วนัดเล่นโชว์สมาชิกเว็บ Thaiprog ไหมครับ ไม่ต้องเล่นโชว์สมาชิกจำนวนมาก แค่เชิญมาดูกัน 4 5 คน ก็น่าจะถือเป็นการเริ่มงานโชว์แรกแล้วนะ

น่าสนใจดีครับ  :)

ก่อนอื่นขอตอบข้อ 4 ก่อนนะครับ ขอถามได้ไหมครับว่าจุดประสงค์ตอนตั้งวงตอนแรกจริงๆคืออะไร? เพราะผมมาทีหลังไม่เคยรู้น่ะครับ คือถ้าตั้งเพื่อเป็นวง Pink Floyd Tribute จริงๆแต่ถ้าตามงานเขาไม่ให้เราเล่น Pink Floyd แล้วจะทำกันอย่างไรครับ หรือถ้าจุดประสงค์ต้องการออกงานก็คงต้องทบทวนยอมเล่นเพลงหลากหลายขึ้น อาจมี Set List หลักที่เน้นเพลงที่เล่นออกงานได้บ้าง แล้วค่อยแซมเพลง PF ไปหน่อย เพลงหลากหลายที่ว่าก็เอาที่สมาชิกทุกคนในวงรู้จักหรือฟังบ้าง โดยต้องไม่เป็นเพลงที่นอกเหนือความสามารถ (อย่างพวกแนวอิเลคทรอนิคส์หรือเมทัลที่คงเล่นไม่ได้) อาจเป็นเพลงของวง Classic Rock พื้นฐานทั่วๆไป The Beatles, Cream, Led Zeppelin, Queen อะไรแบบนี้น่ะครับ คือยอมสูญเสียเอกลักษณ์ของวงเพื่อได้ออกงาน ส่วนข้อ 1-3 ไว้ตอบทีหลังครับ

เป็นคำถามที่ตอบยากครับ.... มันมีความรู้สึกหลายๆอย่างที่ทำให้ผมรู้สึก เอ่อ... หมดพลัง กำลังใจ และความกระหายในการเล่นวง phi น่ะครับ

....แต่บอกตามตรงว่าผมเองไม่ค่อยชอบการที่จะต้องเป็นวงที่เล่นคัฟเวอร์เฉพาะเพลงของวงใดวงหนึ่งเพียงวงเดียวเท่านั้นน่ะครับ ผมว่ามันจะทำให้เกิดการเบื่อหน่ายได้ง่าย (สำหรับคนโลเลไม่มีหลักแหล่งอย่างผมนะครับ แต่คนอื่นอาจไม่คิดอะไรก็ได้) พูดไปแบบนี้บางคนอาจจะโกรธผม อย่างไรก็ตามแต่ ผมไม่อยากอ้อมค้อมมาก และนี่ก็เป็นสิ่งที่ผมคิดอยู่จริงๆในทุกครั้งที่มีการซ้อมครับ...

อีกอย่างนึงครับ การตีกลองในวง phi นั้น ทำให้ผมเกิดอาการเครียดและสับสนอยู่พอสมควรทีเดียว ด้วยความที่ผมยังเป็นมือสมัครเล่น การที่จะมาเล่นในวงที่มีรายละเอียดทางดนตรีเยอะแยะและจุกจิกแบบนี้ บางทีก็เล่นเอาหัวหมุนได้เหมือนกันครับ (จะสังเกตได้ว่าผมเล่นพลาดบ่อยมาก) แต่กับการเล่นบลูส์สามชิ้นกับวง The Oreos มันทำให้ผมอิสระและรู้สึก Fresh กว่ามาก เพราะรายละเอียดของดนตรีที่ไม่หนาแน่นมากและค่อนข้างเคลียร์นี่แหละครับ ซึ่งนี่ก้เป้นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ผมรู้สึกหมดพลังกับการเล่นกับวง phi ครับ

ส่วนเรื่องการฟอร์มวงเมทัลของผมที่พี่บาสกล่าวถึงนั้นคือความฝันที่แท้จริงของผมครับ เพราะจริงๆแล้วตำแหน่งในวงดนตรีที่ผมอยากจะเล่นที่สุดนั้นไม่ใช่ตำแหน่งมือกลองนะครับ แต่มันคือการได้จับไมค์และสำรอกในแบบเดธเมทัลตังหาก (หรือจะตะคอกแบบ Thrash ก็ได้) เพราะการสำรอกคือสิ่งที่ผมสามารถฝึกซ้อมได้ทุกวัน แล้วตอนนี้ผมก็ฝึกร้องจนมั่นใจแล้วครับว่า "ผมทำได้แน่นอน" แต่ก็นั่นแหละครับ การหาสมาชิกเพื่อมาเล่นแนวเดธเมทัลของแท้นั้นมันค่อนข้างยาก และความฝันของผมอาจเป็นจริงได้ยากครับ

เรื่องเพลงที่เล่นนี่จริงๆไม่อยากออกความเห็นเพราะมาทีหลัง แต่แน่นอนที่ได้มาเล่นวงนี้เพราะผมชอบ Pink Floyd มาก แต่ถ้าวงเราตัองการเดินไปข้างหน้าจริงๆ ผมอยากแนะนำว่าวงเราต้องหาแนวของเราเอง ต้องเิริ่มแต่งเพลงเพื่อวงของเราจริงๆและเล่นมันออกมาจริงๆ ยังไม่ต้องคิดเรื่องเข้าสตูดิโอหรือทำเพลงเดโมอะไร ทำออกมาเพื่อเล่นสดๆเลย และไม่ต้องคิดว่าวงเราต้องเล่น progressve หรือแนวอะไรก็แล้วแต่ ทำออกมาแบบที่เราอยากทำ ใครจะเรียกแนวอะไรไม่ต้องสนใจ เอาความสามารถของทุกคนมารวมกัน ออกมาแนวอะไรค่อยว่ากันอีกที ฟังดูเหมือนจับฉ่ายแต่ถ้าทำออกมาและมันเป็นเอกลักษณ์ของวงเรา ผมว่าเราทำสำเร็จขั้นหนึ่งแล้ว สมาชิกบางคนจะได้ไม่ต้องโดนตีกรอบว่าต้องเล่นออกมาแบบนี้นะ ต้องให้เหมือนต้นฉบับ แต่เล่นออกมาเป็นเพลงของเราเอง เราคิดเองว่าจะเล่นแบบนี้ก็เล่นไปเลยไม่ต้องตามใคร อันนี้ความเห็นนะครับ ยังไม่ต้องซีเรียสก็ได้

ที่ออกความเห็นไปเพราะผมเห็นว่าวงดนตรีชั้นนำในโลกทุกวงมีเอกลักษณ์ของตัวเองทั้งสิ้น ทั้งเสียงร้อง เสียงกีตาร์ เสียงเบส เสียงกลอง สไตล์การเล่น ถึงแม้มันจะแนวคล้ายๆกันบ้าง ยังไงก็ไม่เหมือนกัน 100% ต่อให้อีกวงมาเล่นเพลงของอีกวง ขอให้โคตรเซียนมาจากไหนก็เล่นได้ไม่เหมือนต้นฉบับแน่นอน ฉะนั้นเราไม่ต้องกลัวถ้าเราจะมีต้องมีแนวทางของเราเอง ส่วนจะไปได้ไกลแค่ไหนอันนั้นต่อว่ากันอีกที

ิเรื่องการแต่งเพลงนั้นเป็นสิ่งที่ผมคิดและพยายามทำมาตลอดครับ แต่น่าเสียดายมากที่ตัวผมเองนั้นแทบไม่มีทฤษฏีเบื้องต้นทางดนตรีเลย (คือจับคอร์ด เล่นกีตาร์ ยังทำไม่เป็น) จึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะถ่ายทอดไอเดียทางดนตรีที่มีอยู่มากมายในหัวของผมออกมาได้ครับ แล้วอีกปัญหาคือ สมาชิกของวงเราค่อนข้างห่างไกลกันมาก ทำให้เกิดความไม่สะดวกที่จะลองมาแชร์ไอเดียและออกความเห็นเรื่องการทำเพลงครับ คือในปัจจุบันที่คุยๆเรื่องการทำเพลงอยู่ก็มีแค่ผมกับพี่บาสเท่านั้น ทำให้อะไรๆมันไม่ค่อยคืบหน้าไปสักเท่าไรเลยครับ  :-\

ถ้าเป็นไปได้เราเอาเวลาที่เรานัดซ้อมกันเปลี่ยนไปการนั่งแต่งเพลงกันเลย แต่ต้องส่งวัตถุดิบให้ทุกคนก่อนล่วงหน้าทางอีเมล์แล้วแยกย้ายกันไปหาไอเดียมาใส่่ในเพลง แล้วค่อยนัดเจอกันเพื่อเอาไอเดียมาเสนอแล้วลองเล่นออกมาสดๆเมื่อมาเจอกัน เช่นน้องเหม่งอาจส่งเนื้อเพลงมาให้ดูแล้วบอกธีมหรืออารมณ์ของเพลงแล้วแต่ละคนก็ไปลองใส่ทำนองแล้วมาเสนอกัน ผมว่ามันน่าตื่นเต้นมากเลยนะ

ใช่ครับ ผมเองยังคิดว่าถ้ามีเวลาว่างๆก็อาจจะลองไปที่บ้านพี่บาสเพื่อไปแชร์ไอเดียกันสดๆ (เพราะทุกวันนี้คุยกันแต่ใน MSN) ซึ่งผมเชื่อว่าถ้าลองทำแบบนั้นได้ อะไรๆมันก็อาจจะง่ายขึ้นนะครับ

ครับ เบื้องต้นเหม่งอาจร่างแบบคร่าวๆกับบาสก่อนก็ได้ แล้วค่อยเอามาเสนอสมาชิกในวงโดยนัดเจอกันที่ห้องซ้อมไปเลยเพื่อเล่นออกมาอะไรแบบนี้ ไม่ต้องไปเสียดายค่าห้องซ้อมว่ามาแล้วต้องเล่นอย่างเดียว แต่คิดเสียว่าเช่าห้องประชุมพร้อมอุปกรณ์การเล่นดนตรีเพื่อแต่งออกมากันสดๆที่นั้นเลย ผมชักออกทะเลหรือเปล่าเนี่ย  :P

ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าน้องเหม่งอยากตั้งวง Death Metal เอง หรือคิดว่าวง The Oreos น่าไปได้ดีกว่า ก็ต้องว่ากันอีกทีนะครับ

ผมจะพูดถึงเป็นข้อๆเลยละกันครับ



1. สมาชิกวงเรามีความสนใจในดนตรีที่แตกต่างกันมาก

- ผมยอมรับครับว่าผมเองบางครั้งช่วงไหนที่ไม่ได้ซ้อม ก็ฟังแต่พวกเพลง anime (แบ๊วๆ)+death (bloodbath เป็นหลัก)+ the beatles + หลายแนวมั่วซั่วฟังซ้ำๆซากๆไปมา เวลาจะซ้อมทีก็ยัดเข้าไปใส่หัวก่อนวันจะซ้อมซักวันสองวัน

2. สมาชิกวงของเราอยู่ในต่างวัย ต่างสถานะ ต่างที่พัก

- เรื่องการซ้อมนี่ผมไม่ค่อยจะมีปัญหาเท่าไหร่ครับถ้าผมไม่ติดธุระหนักหนาสาหัสนี่ไปได้ครับ ผมเองคิดว่าเราได้มีโอกาสมาเล่นด้วยกันทั้งทีก็เป็นความสุขของผมอย่างนึง

3. จำนวนสมาชิกที่มาก+การไม่ทำการบ้าน+เล่นเอามันส์อย่างเดียว

- อีกข้อที่ผมรู้ตัวว่าผิดเต็มประตูคือไม่ค่อยทำการบ้านมาเท่าไหร่ บางครั้งผมพอได้รู้เรื่องว่าจะซ้อม ดีใจกับหวิวๆไปคู่กันครับ ผมเองก็ไม่ได้เก่งเบสอะไรมาก เล่นไลน์เบสก็ห่วย หูผมเองก็ไม่ได้แยกระดับเสียงได้เก่งขนาดรู้ว่าโน้ตตัวนี้เป็นตัวอะไร ต้องฟังเกือบสิบๆรอยถึงจะรู้ ขนาดจับเบสไปเล่นไปผมก็ยังคิดว่า "มันใช่เหรอวะ" อยู่บ่อยครั้ง แกะเพลงก็แกะไม่ค่อยทัน บาง pattern เล่นเกือบครึ่งวันถึงจะรู้ว่าโน้ตตัวอะไรบ้าง บางครั้งพอมาเล่นแล้วผมก็รู้สึกว่ามันไม่เข้ากับเพลง บางครั้งก็หลุดเพลงไปเลย ผมเองก็รู้สึกผิดที่เล่นพลาด ถึงจะหลุดนิดเดียวแล้วกลับมาทันก็เถอะ

4. เราไม่มีเป้าหมายในการซ้อม (ไม่ได้ออกงานซะที)

- เบื้องต้นสำหรับพวกนี้ผมยัง "กลัว" ที่จะไปเล่นงานใหญ่ๆ เช่นตามงานต่างๆ เพราะถ้าผมเองที่เล่นเบสและเบสมันก็ถูกเรียกว่า "หนึ่งในสันหลังของวง" เกิดเล่นผิดขึ้นมาผมก็รู้ึสึกผิดที่ทำให้วงมันดูภาพพจน์แย่เพราะผมเอง


หากขัดใจใครต้องขอโทษทุกๆคนนะครับ...

วงเดธเมทัลคงต้องใช้เวลาครับ เพราะต้องใช้เวลาหาสมาชิก ซึ่งไม่รู้ว่าจะหาได้ครบรึเปล่า (แต่ตอนนี้ก็แย๊บๆมือเบส 6 สายไว้คนนึงแล้ว) และคงกะจะเน้นเล่นตามงานต่างๆของมหาลัยล่ะครับ ยังไม่จริงจังขนาดต้องมาระดมความคิดทำเพลงกันเอง ส่วนวง The Oreos ตอนนี้ก็ยังมีไฟอยากเล่นมากครับ เพราะผมสนุกกับการเล่นกลองในวงนี้จริงๆ

ขอตอบทีละเรื่องนะครับ

เรื่องเพลงที่เล่น กับจุดประสงค์ในการตั้งวงในตอนแรก ในสายตาของผม (คนเดียวนะ) ก็มีความเข้าใจ, ตั้งใจ และความหวังให้เป็นวง Tribute Pink Floyd แบบเฉพาะกิจ สาเหตุก็คือ เนื่องด้วยผมคิดว่าวงนี้เป็นวงศูนย์กลางของเว็บเรา ในอนาคตถ้าเว็บเราสามารถไปได้ไกล (กว่านี้) แล้วมีงานเงินอะไร เราสามารถเอาวง Phi นี้ไปออกเล่นได้อย่างเต็มภาคภูมิ ด้วยความที่สิ่งที่เราเล่นเป็น Prog เต็มที่ซึ่งเข้ากับคอนเซปต์ของเว็บเรามาก พออ่านถึงตรงนี้แล้วบางคนอาจจะบอกว่า แล้วทำไมไม่เล่น Yes, Genesis, ELP etc. ด้วยล่ะ ในเมื่อมันก็เป็น Prog เหมือนกัน ก็ขอตอบว่า มันเป็นเพราะความซับซ้อนของเพลง และความเชี่ยวชาญของสมาชิกในวงก็ยังไม่ถึงขั้น ผมไม่อยากเห็นเราเล่น Close To The Edge แล้วอยู่ๆ ไปล่มกันกลางเพลง หรือเล่นแล้วหลงหาที่จบไม่ได้ตอนที่เล่น Karn Evil 9 อยู่ เพราะงั้นผมมองว่าฟลอยด์เนี่ย เป็นอะไรที่น่าจะเป็นตัวแทนของ Prog ที่เราสามารถหยิบจับมาทำให้มันดูเป็นรูปเป็นร่างได้ง่ายและดูสมบูรณ์แบบที่สุด ในอนาคตเราสามารถเล่น DSOTM พร้อมเวิร์คชอปไปได้ด้วยก็ยังได้ เพราะว่าเราไม่ใช่นักดนตรีที่มาจากสายนักดนตรีโดยตรง พวกเราเป็นนักฟัง ที่สนใจดนตรีจนต้องเข้ามาลองเล่นดนตรีมากกว่า

สิ่งนึงที่ผมคิดว่าอยากใช้เป็นจุดเด่นของวงเราก็คือ เราต้องมี Signature Sound ที่ชัดเจน และเราต้องทำในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้ เช่นการเล่น DSOTM ยกชุด ซึ่งผมเชื่อเลยว่าให้วงดนตรีธรรมดาทั่วๆ ไปเล่น ก็คงจะไม่ค่อยมีใครเล่นกัน เพราะงั้นเราน่าจะเป็นเจ้าเดียวในประเทศนี้ที่สามารถเล่นอัลบั้มนี้ยกชุดได้อย่างเป็นกิจลักษณะ เมื่อถึงเวลาเล่นจริง ก่อนเล่นเราสามารถบรรยายก่อนได้ จริงๆ แบบว่ามีการแจกเอกสารก่อนการบรรยายอะไรแบบนั้นเลย อย่างเรื่องเครื่องดนตรีที่ใช้ในอัลบั้มนี้ ผมสามารถทำสไลด์ ทำชีท อธิบาย พร้อมสาธิตการเล่นให้ดูสดๆ ในช่วงระหว่างการบรรยายได้เลย เพลงนี้คีย์อะไร คอร์ดอะไร ใช้เอฟเฟคต์ตัวไหน เปียโนไฟฟ้าชนิดไหน ผลิตขึ้นครั้งแรกเมื่อไหร่ เสียงเป็นยังไง เพลงนี้มีเครื่องดนตรีอะไรบ้าง ขึ้นมาตรงไหน มีคอร์ดอะไรพิสดาร หรือมีอะไรน่าสนใจ บรรยายเสร็จค่อยเล่นจริงๆ แบบเต็มๆ ถ้าทำได้จริง ก็คงจะมีประโยชน์มากๆ กับทั้งทางเว็บเราและทั้งผู้ที่เข้าร่วมมาฟัง ผมอยากเน้นให้ทุกอยากดูละเอียดอ่อนและสะอาดหมดจด (ไม่ต้องเล่นเหมือนมากก็ได้ แต่ต้องเนี๊ยบและสะอาดหมดจด) นั่นคือเหตุผมที่ผมพยายามใช้เอฟเฟคต์มากมายและพยายามทำซาวน์กีตาร์ให้เหมือนมากที่สุด

ตอนนี้เรา็ก็เห็นกันว่าทุกๆ อย่างมันเริ่มเปลี่ยนไป เมื่อเรามีเวลาซ้อมน้อยลง บางที่ก็เล่นแล้วเบื่อ เพราะมันไร้จุดมุ่งหมาย เรื่องการเอาเพลงของวงอื่นๆ มาเล่น ผมว่าก็โอเค เช่น เราจะเล่น Queen, Cream, The Beatles เพื่อแก้เบื่อ แต่ผมเชื่อว่ามันไม่ได้เป็นปัจจัยที่จะทำให้เราสามารถหางานเล่นได้ง่ายขึ้นซักเท่าไหร่ อีกอย่างคือ ถ้าเราเล่นปนๆ ผสมแบบนี้ มันก็จะเหมือนวงดนตรีทั่วไปที่เล่นตามร้านอาหารนั่นแหละครับ แต่ถ้าเล่นแบบเพื่อพักผ่อน แก้เบื่อก็โอเคเลยนะครับ ผมถึงพยายามทำแบบนี้กับโอริโอ้ แต่ก็คงไปไม่ได้ไหนไกลหรอกครับ เพราะผมเป็นพวก "เพลงไหนดังๆ เราจะไม่เล่น เพราะคนเล่นเยอะแล้ว เราต้องเล่นเพลงที่คนอื่นไม่ค่อยเล่นกัน เพราะถ้าเราไม่เล่น ก็จะไม่มีใครเล่น" อย่างโอริโอ้ ผมอยากให้เป็นวงบลูส์ที่ติดกลิ่นร็อคอ่อนๆ ไม่ใช่ "วงร็อคที่ติดกลิ่นบลูส์อ่อนๆ" อย่างเด็ดขาด โดยในอนาคตจะเล่นเพลงแคลปตันให้ได้น้อยลง แล้วจะไปเล่น Chicago Blues, British Blues แท้ๆ ให้มากขึ้น

ผมเห็นที่ TK Park เซนทรัลเวิร์ล มีการจัดเวิร์คชอปดนตรีบ่อยๆ เกี่ยวกับดนตรีในแนวแปลกๆ ผมกำลังคิดๆ ว่าเราอาจใช้ที่นี้ เป็นที่แสดงผลงานของเราก็ได้ แต่ไม่รู้จะติดต่อยังไง หรือจะทำยังไงถึงจะทำแบบนั้นได้ ล่าสุดผมไปที่ TCDC ที่เอ็มโพเรี่ยม ซึ่งเป็นสถานที่แสดงงานทางศิลปะและการออกแบบ ไม่เก็บค่าเข้าชม ทุกอย่างฟรี ผมเองจึงคิดว่ามันก็มีที่ดีๆ แบบนี้ที่พอเปิดโอกาสให้เราอยู่เหมือนกัน เพียงแต่เราจะได้มีโอกาสเข้าไปยังไง ผมเดินไปใน TCDC แล้วก็นึกในใจว่า ไม่น่าเชื่อว่าในเืมืองไทยยังมีสถานที่ดีๆ สำหรับศิลปะอย่างนี้อยู่ด้วย แต่ทาง TCDC จะเน้นงานออกแบบทางศิลปะและสถาปัตยกรรมมากกว่าทางด้านดนตรี เพราะฉะนั้นสงสัยเราคงต้องไปทาง TK Park มากกว่าล่ะครับ

ปัญหาสุดท้ายคือ ทำแล้วได้อะไร? ทำแล้วคงเสียตังค์มากกว่าที่จะได้ตังค์แน่ๆ เลย

ขอโทษด้วยนะครับที่อาจจะดูหลุดๆ ไปมาก สงสัยฟุ้งซ่านไปหน่อยครับ

สรุปคือ
เล่นไปเถอะครับ ถ้าอยากเล่นเพลงอื่นๆ ที่ไม่ใช่ฟลอยด์ เพราะตอนนี้สถานการณ์วงของเราขยับเยื้อนบ้าง ก็ีดีกว่าอยู่นิ่งเฉยๆแน่นอนครับ ส่วนเรื่องเพลงแต่งเอง เดี๋ยวขอเขียนแยกชี้แจงอีกทีแล้วกันนะครับ

ขอโทษด้วยนะครับถ้าซีเรียสเกินไป หรือไม่ถูกใจใคร ขออภัยด้วยนะครับ

ได้อ่านความตั้งใจของบาสแล้ว ผมก็คิดว่ามันก็ยังเป็นไอเดียที่ดีมากเลยนะครับที่เราจะเป็นวง Tribute Pink Floyd ที่เล่น DSOTM ได้ทั้งชุด ผมคิดไปถึงการเล่น The Wall ทั้งชุดในอนาคตด้วย ผมว่าเราทำมันต่อไปเถอะครับ ถ้าไม่ได้หวังขนาดจะทำเป็นระดับอาชีพ ผมเองก็ไม่อยากเล่นเพลงตลาดที่คนอื่นเขาเล่นกันอยู่เกลื่อนแล้วเหมือนกัน แต่ถ้าเวลาเบื่อๆก็เล่นเพลงที่เราชอบฟังกันเพื่อเป็นการแก้เซ็งกันบ้างก็ได้ครับ

hey nice cover !!! Five stars ;)

เอาวีดีโอเพลงนี้ไปลง Youtube ไม่ถึงวันมีแฟน pink floyd ที่ชอบเล่นกีตาร์มาชมแล้ว สงสัยฝีมือกีตาร์ของบาสในการเล่นแบบเดฟนี่ไม่ธรรมดาแน่นอน  :D

ตอนนี้ให้ผมกลับไปเล่นสงสัยเล่นไม่ได้แล้วครับ ลืมหมดแล้ว :P แล้วก็ไม่ได้เล่นกีตาร์ไฟฟ้ามาเป็นเดือนแล้วตั้งแต่ซ้อมวงโอริโอ้แล้วครับ

เฮ้อ.......................

ลืมได้แต่ห้ามเลิกนะครับ ยิ่งหายากอยู่คนที่เ่ล่นแบบ David Gilmour เนี่ย  :D

ขณะนี้ผมกำลังตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของนีล ยัง เป็นหลัก ตามด้วยครอสบี้ สติลล์ แอนด์แนช และคุณป้าเอมิลู แฮริส และเนื่องด้วยไม่ได้จับกีตาร์ไฟฟ้ามาหลายสัปดาห์แล้ว ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าเล่นแต่โฟล์ก คันทรี ไปเสียแล้วครับ

เมื่อไหร่มีซ้อมกันอีกละครับ จะได้ตามไปดูบ่าง

ตอนนี้ผมว่าจะขายซินท์ทิไซเซอร์ทิ้งแล้วแฮะครับ
ไม่รู้ว่าจะยังมีเล่นกันอยู่ไหม

ที่ผมคิดไว้นะครับคือ ขายเอาเงินไปหมุน
ซื้อซาวด์การ์ด ไม่ก็มิกเซอร์ แล้วก็ซื้อคีย์บอร์ดใบ้(midi controller)

ซิ่งถ้าเกิดมีซ้อมวงPhi ขึ้นมาหรือเล่นสด ผมจะเล่นเสียงจากโน๊ตบุ๊คแทนโดยใช้คีย์บอร์ดใบ้

ตอนนี้เล็งอนาล็อกซินท์
http://proplugin.com/novation-x-station-61.pro
เป็นคอนโทรเลอร์ได้ด้วย เสียงแจ่มดี

ถ้าสนใจ Novation - Bass Station ของที่พี่เคยซื้อไว้ก็บอกได้นะครับ รุ่นเ่ก่าแต่คลาสสิคครับ ;D