Thai Progressive Rock Community

Sunday June 15th is the day on which David Gilmour has accepted Ron Geesin’s invitation to perform as a special guest on one of the performances of the Atom Heart Mother Suite at Cadogan Hall, 5 Sloane Terrace, London SW1.

As previously announced elsewhere, Ron Geesin is recreating Pink Floyd’s Atom Heart Mother Suite live onstage for the Chelsea Festival, in two nightly performances: June 14th and 15th. Ron, who co-composed the original piece with David Gilmour, Nick Mason, Roger Waters and Richard Wright, is staging it with the talents of a 10-piece brass ensemble from the Royal College of Music, Italian band Mun Floyd, the 40-strong Canticum chorus and cellist Caroline Dale, who has performed with David at the Festival Hall and on the ‘On An Island’ album. The evenings will also feature other Ron Geesin music, including new scores created especially for the occasion.

The June 14th show starts at 7:30pm, ending at around 9:45pm, while that on the 15th starts at 7:00pm, ending at approximately 9:15pm. Tickets went on sale in March, but we’re told that some are still available now at all prices: £55, £45, £35, and £25, though they are restricted to 2 per customer. (4 for friends of the Chelsea Festival).

Ticket purchase details: Chelsea Festival box office - phone (+44) (0) 845 8902435 / website: http://www.chelseafestival.org; Cadogan Hall Box office - phone (+44) (0) 207 730 4500 / website: http://www.cadoganhall.com. Booking fees apply, except for personal callers. Box Office opening times are: Chelsea Festival - Monday to Friday from 10:00AM to 6:00PM; Cadogan Hall - Monday to Saturday from 10:00AM to 8:00PM (Sundays 10:00AM to 4:00PM).

Sadly the hall will probably not be full of inflatable cows, but at least there is a horn section. Rumours that Cadogan Hall is to be renamed Cowdungan Hall for the evening have been dismissed as tripe.

รับงานรับเชิญอีกแล้วจ้าเดฟ ตามคำเชิญของ Ron Geesin รอฟัง Bootleg กันดีกว่าเนอะ

บอกตรงๆเลยว่า Atom Heart Mother เป็นงานที่ผมชอบน้อยที่สุดในบรรดาอัลบั้มของ Pink Floyd ทั้งหมดเลย แต่งานนี้น่าสนใจว่า Ron Geesin จะปลุกผี Atom Heart Mother Suite ขึ้นมาได้สดใหม่และเนี๊ยบแค่ไหน

ไม่มีนิค แล้วจะมันได้ไง นิคตีกลองในเพลงนี้มันจะตาย 55

แฟนคนนึงคอมเมนต์ไว้ได้น่าสนใจทีเดียวครับ


เดฟมักชอบพูดถึง Atom Heart Mother ว่า "นี่มันขยะชัดๆ" อะไรประมาณนี้

ใช่ครับ Ummagumma (ในส่วน studio) ก็ด้วย งานนี้เหมือนกลืนน้ำลายตัวเองยังไงไม่รู้  ;D

ผมไม่ชอบ Atom Heart Mother แต่ผมชอบ Ummagumma ในส่วนสตูดิโอมากๆครับ หลังจากที่ตอนแรกไม่ชอบเอาเสียเลย

+100 ครับ เหมือนกันเลย  ;D

ผมชอบตั้งแต่ฟังครั้งแรกเลยครับ
ชอบเพลงบ้าๆ แปลกใหม่ดี ไม่ค่อยมาคนทำ
คล้ายๆ Acid Mother Temple

ฟ่างว่า Atom Heart Mother เพราะดีออกนะ โดยเฉพาะ Alan's Psychedelic Breakfast นี่แหวกแนวดีจังค่ะ เหมือนตื่นเช้ามาหลังจากเมากัญชาค้างจากเมื่อคืน  8)

สงสัยต้องลงทุนบินไปดู จะหาตั๋วได้ไหมเนี่ย

ผมกลับชอบชุดนี้ไม่แพ้ Dark side เลยครับ ทั้งๆที่ได้ฟังหลังจาก Dark side ด้วยซ้ำ
และคิดว่า Atom Heart Mother นี้น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงแนวการทำดนตรี
จากแนว Psychedelic ในยุคแรก มาเป็น Prog ที่มีมิติที่เปิดกว้างขึ้น
และบุคคลที่เข้ามามีส่วนอย่างยิ่งต่อการเปลี่ยนแปลงนี้คือ Alan Parsons

งั้นเพลงมันจะต้องแปลว่า "อาหารเช้าของอลันในวันแฮงค์"

อลัน นี่.... อลัน พาร์สัน ใช่มั้ยคะ?

อลัน ไวท์ครับ  ;D

Yes ?

ตะกี้ไปเดินแฟชั่น(ไอส์เลนด์)มา พอดีผ่านร้านแผ่นแม่สายเลยแวะดูเสียหน่อย เหลือบไปเห็นแผ่นดีวีดีบันทึกการแสดงสดของ Snowy White กับวง White Flames มา ก็เลยสอยมาหนึ่งแผ่น

(http://ecx.images-amazon.com/images/I/51G7W8ECYJL._SS500_.jpg)

เพลงไม่ค่อยรู้จักเท่าใดนัก เล่นกันเอื่อยๆ ยังไงชอบกล แต่สไตล์ของน้าสโนวี่สุดยอดจริงๆ เล่นโดยไม่ใช้ปิ๊กเสียด้วย ใช้นิ้วโป้งดีดตลอด (แต่ก็ไม่ถึงกับ Fingerstyle ขนาด Mark Knopfler นะครับ)

ล้อเล่นเปล่าน้องบาส  ;)
น่าจะเป็นอลัน พาร์สัน ซาวด์ เอ็นจิเนียร์ มิใช่หรือครับ
เดี๋ยวน้องฟ่างจะ"ไซคีเดลิค"ไปใหญ่ ฮาฮา ;D

เวลาผมพูดเรื่องจริงไม่มีใครเชื่อผมเลย

แต่ผมล้อเล่นน่ะครับ

No  :D

ก็น่าจะลองบินไปแย่งเอาหน้างานแบบที่เคยทำเป็นประจำละครับ

Atom Heart Mother เป็นงานที่ผมชอบมากที่สุดชุดหนึ่งของ Pink Floyd เลยนะครับ ทุกเพลง เว้น Fat Old Sun ของ Dave คือเพลงที่ฟังไม่เบื่อ

แม้ว่ามันจะมีข้อเสียคือ Title Track มีความเป็น Ron Geesin มากกว่า Pink Floyd ก็ตาม

แถมท้ายเกร็ดเกี่ยวกับปกรูปวัวนิดนึง เป็นเพราะว่าทางวงต้องการปกรูปอะไรก็ได้ที่ทำให้คนสนใจตัวงานมากกว่าปก แล้วใครคนหนึ่งก็พูดว่า "ออกไปถ่ายรูปวัวซักตัวเลยซิ!" ก็เลยเป็นอย่างที่เห็นครับ  :D

แต่ทำเอาผมคิดไปไกลกับชื่ลบยั้มเลยนะ
รูปวัวนมมันดูแสดงความเป็นแม่ยังไงไม่รู้สิ  :D

+1 ครับ ผมคิดแบบนั้นเหมือนกันเลย ตั้งแต่เห็นปกครั้งแรก  :D

เคยดูวิดิโอ ซีรีส์คลาสิคอัลบั้มของชุดนี้ จำได้เลือนๆว่า ชื่ออัลบั้มเอามาจากข่าวหนังสือพิมพ์ เรื่องของแม่คนหนึ่งที่คลอดลูก อะไรสักอย่าง

อีกอย่างมีบทสัมภาณ์อีตา Ron Geesin เยอะมาก แกบ้าน่าดู

โดยรวมผมชอบชุดนี้ โดยเฉพาะเพลงแรกที่ยาว 23 นาที

ชอบเหมือนกันครับชุดนี้ กึ่งๆหลอนๆร็อคๆ ปกฉีกแนวดี ชอบๆ  :D

ผมยังเคยคิดเลยเถิดไปถึงกับว่า
พวกเขาอยากสื่อให้ลึกลงไปถึง เต้านมของวัวเลย(ไม่ได้ทะลึ่งนะครับ)

ว้าวววว :o

ขออนุญาตอัพเดตข่าวเพิ่มเติมซักนิดครับ เริ่มกันด้วยเรื่องของอัลบั้มแสดงสดชุดใหม่ของเดฟ ที่กำลังจะิิออกในช่วงกลางเดือนกันยายนนี้ ภายใต้ชื่อ Live in Gdansk ซึ่งก็ได้มีการประกาศออกมาทาง Official Blog ของเดฟแล้ว ว่าจะมีออกด้วยกันถึง 5 เวอร์ชั่น ดังนี้ครับ

(http://www.brain-damage.co.uk/images/stories/dgdvd/live_in_gdansk.jpg)

1. เวอร์ชั่น 2 แผ่น เป็นซีดีออดิโอของตัวคอนเสิร์ตแบบปรกติสองแผ่น Packaged in a gatefold card sleeve with 12-page booklet
แทร็กลิสต์ดังนี้ครับ
Disc One: 'Speak To Me', 'Breathe', 'Time', 'Breathe (Reprise)', 'Castellorizon', 'On an Island', 'The Blue', 'Red Sky at Night', 'This Heaven', 'Then I Close My Eyes', 'Smile', 'Take a Breath', 'A Pocketful of Stones', 'Where We Start'. Disc Two: 'Shine On You Crazy Diamond', 'Astronomy Domine', 'Fat Old Sun', 'High Hopes', 'Echoes', 'Wish You Were Here', 'A Great Day For Freedom', 'Comfortably Numb'. Recorded live in Gdańsk, 26 August 2006.

2. เวอร์ชั่น 3 แผ่น เป็นซีดีออดิโอของตัวคอนเสิร์ตแบบปรกติสองแผ่นและดีวีดีอีกหนึ่งแผ่น โดยดีวีดีที่เพิ่มมาก็จะมีฟุตเตจคอนเสิร์ตความยาว 114 นาที และ documentary อีก 36 นาที และจะได้สิทธิ์เข้าไปดาวน์โหลดออดิโอแทร็กเพิ่มเติมจากเว็บไซต์อีก 12 แทร็ก Packaged in a gatefold card sleeve with 12-page booklet.
DVD includes 114 minutes of concert footage, plus a 36-minute documentary. Tracks on the DVD are: the complete 'On an Island' album, 'A Great Day For Freedom', 'Astronomy Domine', 'Comfortably Numb', 'Echoes' and 'High Hopes'. Recorded live in Gdańsk, 26 August 2006.

This DVD also includes a web pass to download 12 bonus live tracks from other concerts from the 'On an Island' tour - free: 'Shine On You Crazy Diamond' (Venice, 12 August 2006), 'Dominoes' (Paris, 15 March 2006), 'The Blue' (Vienne, 31 July 2006), 'Take a Breath' (Munich, 29 July 2006), 'Wish You Were Here' (Glasgow, 27 May 2006), 'Coming Back To Life' (Florence, 2 August 2006), 'Find The Cost of Freedom' (Manchester, 26 May 2006), 'This Heaven' (Vienne, 31 July 2006), 'On The Turning Away' (Venice, 12 August 2006), 'Wearing The Inside Out' (Milan, 25 March 2006), 'A Pocketful of Stones' (Vienne, 31 July 2006), 'Where We Start' (Vienne, 31 July 2006).

3. เวอร์ชั่น 4 แผ่น เป็นซีดีออดิโอของตัวคอนเสิร์ตแบบปรกติสองแผ่นและดีวีดีอีกสองแผ่น โดยดีวีดีที่เพิ่มมาจะเป็นอัลบั้ม On An Island แบบ 5.1 Mix แถมด้วยฟุตเตจจาก Barn Jam เมื่อต้นปี 2007 อีกสามเพลง กับฟุตเตจเก่าๆ อีกจำนวนหนึ่ง (อันนี้ผมไม่อยากได้เท่าไหร่) Packaged in a gatefold card sleeve with 12-page booklet.

The second DVD includes a 5.1 surround-sound mix of the 'On an Island' album, three new Barn jams (recorded January 2007) and the following audio-visual tracks: 'Shine On You Crazy Diamond', 'Wearing The Inside Out' and 'Comfortably Numb' (from the Mermaid Theatre, 7 March 2006), 'On an Island' and 'High Hopes' (from the AOL Sessions, April 2006) and 'The Blue', 'Take a Breath' and 'Echoes' (from 'Live from Abbey Road', August 2006).

4. เวอร์ชั่น 5 แผ่น เป็นซีดีออดิโอของตัวคอนเสิร์ตแบบปรกติสองแผ่น ซีดีโบนัสแทร็ก 12 เพลงหนึ่งแผ่น และดีวีดีอีกสองแผ่น ซึ่งโบนัสแทร็กในซีดีแผ่นที่สามนั้นก็คือโบนัสแทร็กที่คุณสามารถดาวน์โหลดได้เหมือนกันครับ เพียงแต่อันนี้ทำมาเป็นแผ่นให้เลยสำหรับคนอยากเก็บจริงๆ (ไม่ค่อยเวิร์คนะไอเดียนี้)

4. เวอร์ชั่น LP 5 แผ่น แน่นอนว่าเป็นแผ่นเสียง 5 แผ่น ก็จะมีเพลงเหมือนกับเวอร์ชั่นซีดีทุกประการ ยกเว้นตรงที่จะเพิ่มเพลง Wot's... Uh The Deal ขึ้นมาหนึ่งแทร็ก ส่วนแผ่นเสียงแผ่นที่ห้าเป็นโบนัสแทร็กดังนี้

Fifth LP includes 'On The Turning Away' (Venice, 12 August 2006), 'The Blue' and 'Echoes' (from 'Live from Abbey Road', August 2006), plus two Barn jams (recorded January 2007).

อะไรมันจะเยอะมากมายขนาดนี้เนี่ย โดยส่วนตัวไม่ค่อยเห็นด้วยกับไอเดียแบบนี้เท่้าไหร่นะครับ

ข่าวต่อไปเป็นเรื่องของโรเจอร์บ้างครับ โรเจอร์กำลังอยู่ขั้นตอนอัลบั้มใหม่อยู่ ซึ่งโรเจอร์ก็ให้สัมภาษณ์แบบนี้มาหลายปีแล้ว ก็ไม่เห็นจะมีกำหนดเสียทีว่าวางแผนเมื่อไหร่ ล่าสุดโรเจอร์บอกว่าเขียนเพลงไว้เยอะมาก แล้วก็ยังคุยอีกว่าได้แคลปตันมาช่วยเล่นกีตาร์โซโล่ให้ในบางเพลงอีกแหนะ ก็เข้าใจได้เพราะว่าระยะหลังมานี่โรเจอร์มักจะมีกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับแคลปตันเสมอ ทั้งเล่นดนตรีและเล่นคริกเก็ตการกุศลด้วยกัน

(http://www.brain-damage.co.uk/images/stories/rw08/roger_waters_cricket_1.jpg)

เห็นเหล่าคุณลุงคุณตายังอยู่ดี แข็งแรง แถมสร้างงานออกมาให้แฟนๆหายคิดถึงได้อยู่เรื่อยๆ ก็ดีใจแล้วล่ะครับ

ว่าแต่ว่าโรเจอร์กับแคลปตันนี่ อายุป่านนี้หุ่นยังดีสุขภาพยังแข็งแรงดีอยู่เลยนะครับเนี่ย

Live in Gdansk กะจะเก็บเวอร์ชั่น 3 แผ่นครับ

แต่ออกมาเยอะงี้ ไม่เข้าท่า เพลงก็ซ้ำกับ RTN ซะส่วนมาก

สิ่งที่หวังคือ ภาพและเสียงที่ดีกว่าเดิมครับ

ส่วนไอ้ที่รอของจริงคืออัลบั้มใหม่ Roger Waters เนี่ยแหละ

+1 ครับ

โรเจอร์ไว้หนวดแล้วเท่ดี

(http://i8.photobucket.com/albums/a4/Tuijpie/siggy44.jpg)

รูปนั้นเท่ห์โครตอ่ะ

ใครมีข่าวคราวใหม่ๆของวง Pink Floyd ก็มาโพสท์ที่นี่กันได้นะครับ  :D

น่าดูมากๆครับ Astronomy Domine, Scarecrow, Arnold Layned แสดงสดสมัยที่มี Syd Barrett

Written by Matt     
Thursday, 21 August 2008 
 
In October, Eagle Rock Entertainment release a new DVD which is said to feature "amazing footage of Syd Barrett era Pink Floyd and some incredible concert footage from a watershed piece of musical history; an incredible London show boasting a host of luminaries including [John] Lennon".

“A Technicolor Dream” is the story of the Underground movement in the UK during the sixties and leads up to its culmination at The 14 Hour Technicolor Dream, an all night “musical happening” that was held at Alexandra Palace on the 29th April 1967. With rare footage of Pink Floyd included on the DVD, we're sure that this will be a popular release with fans of the early days of the band...

The story takes in CND marches in the early sixties, the foundation of the London Free School and from that the International Times, the UFO Club and the Notting Hill Carnival. There are brand new interviews with Roger Waters and Nick Mason from Pink Floyd, John "Hoppy" Hopkins, Joe Boyd, Kevin Ayers, Barry Miles, Arthur Brown, Phil May from The Pretty Things and many more. All of this is set in a musical context with the music of Syd Barrett era Pink Floyd.

The bonus features on the DVD, which has a running time of 125 minutes, include three full Pink Floyd performances with Syd Barrett on guitar and vocals from 1967 and additional interviews with Roger Waters, Nick Mason and others, which won't be included in the version which is intended for television broadcast on a date yet to be confirmed.

The bonus Pink Floyd performances are:
1) Astronomy Domine – Queen Elizabeth Hall, 14 May 1967
2) Scarecrow – Pathe News, 8 July 1967
3) Arnold Layne – Peter Whitehead promo, 10 March 1967

Hitting the stores in the UK/Europe on October 13th, it will be followed by an NTSC version in the USA on October 28th. Pre-orders - at a discount - are already being taken for the UK/European version, from Amazon UK, Amazon Germany, or Amazon France.
 

เพิ่งโหลดรายการวิทยุ ที่ใช้ชื่อว่า  Days In The Life: Pink Floyd At 40
จากสถานี BBC Radio 2 ออกอากาศเมื่อ 17-Nov-2007
เป็นการสัมภาษณ์สมาชิกทั้ง 4 หน่อ

นี่ใช่หนังสือเดฟปะครับ

(http://ecx.images-amazon.com/images/I/51BELbb9FAL._SS500_.jpg)

http://www.amazon.com/Film-Club-Memoir-David-Gilmour/dp/044619929X/ref=sr_1_1?ie=UTF8&s=books&qid=1220786397&sr=1-1

ดูแล้ว ไม่ใช่นะครับ  :)

แต่ก็น่าอ่านนะ หน้าปกจั่วไว้ว่า เรื่องจริงที่พ่อให้ลูกออกจากโรงเรียน ถ้าลูกดูหนังสัปดาห์ละ 3 เรื่อง

Guy Pratt ไปให้สัมภาษณ์ออกทีวีเพื่อโปรโมตโชว์และหนังสือใหม่ของตัวเอง พิธีกรก็ถามว่า คุณรู้สึกหนักใจไหม ที่ต้องไปแทนที่ในตำแหน่งของโรเจอร์ตอนที่ทัวร์กับพิงค์ฟลอยด์ครั้งแรก มันยากไหม (หมายถึงว่าเล่นยากไหมกับวงนี้ ที่คุณต้องไปเล่นพาร์ตของโรเจอร์) น้ากายของเราตอบอย่างตรงไปตรงมาเลยว่า จริงๆ มันก็ไม่ยากหรอกครับ เพราะว่าความจริงโรเจอร์เป็นนักคิด นักแต่งเพลง เค้าเล่นเบสก็เพราะจะเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปของวงเท่านั้น แล้วก็มีการแอบกระซิบเบาๆ ว่า ผมจะบอกให้นะ ที่จริงส่วนใหญ่ในอัลบั้มของพิงค์ฟลอยด์เนี่ย เดฟเป็นคนเล่นเบสแทบทั้งนั้น น่าน เอากะเขาสิครับน้ากาย

อ่านแล้วนึกถึงวง Manic Street Preachers สมัยก่อน Richey (guitar) กับ Nicky (bass) เป็นคนเขียนเพลงส่วน James (vocal,guitar) กับ Sean (drum) แต่งทำนอง พวกนักข่าวดูถูกว่า Richey เล่นกีตาร์ไม่เป็นเวลาแสดงสดเสียงกีตาร์เบาถึงเบามาก (อันนี้เรื่องจริงครับ) แต่เนื้อเพลงของ Richey ถูกยกย่องว่าเหมือนกวี แต่กลับถูกดูถูกเรื่องการเล่นดนตรี ในอัลบั้มแรก James ทั้งเล่นร้องเล่นกีตาร์และเบสทั้งหมดส่วน Sean มือกลองก็ใช้กลองโปรแกรมทั้งหมด ส่วน Richey กับ Nicky แต่งเนื้อเพลงอย่างเดียว

จะว่าไปโรเจอร์ก็เล่นกีตาร์เยอะเหมือนกันในงานเดี่ยวและแสดงสด อย่างงานของ Pink Floyd เอง เพลงอย่าง Shine On You Crazy Diamond Pt. 9 กับ Pigs (Three Different Ones) พี่แกยังเล่นริธึ่มกีตาร์เองเลย แล้วไหนจะพวก synthesizer, tape effects อีก  :D

ใน Shine On Part 9 นี่โรเจอร์เล่นกีตาร์ด้วยเหรอครับ ใน Pigs นี่ผมพอทราบว่าโรเจอร์จะเล่นริธี่มกีตาร์แล้วให้สโนวี่เล่นเบสแทน แต่ Shine On Part 9 นี่ยังไม่ทราบเลยครับ

ได้ข้อมูลใน wiki มาแบบนั้นครับ ว่าจะกลับตั้งใจฟังอีกทีครับ  :D

อาจเป็น Part 8 ก็ได้นะครับ ข้อมูลสับสนไปหน่อยครับ 

ไปอ่านใน Wiki มาครับ ผมเองก็เพิ่งทราบว่าโรเจอร์เล่นกีตาร์ในพาร์ต 8 ของสตูดิโออัลบั้มด้วย

ว่าแต่ Wiki บางทีก็เชื่อมากไม่ไ้ด้เหมือนกันครับ แต่ว่าอันนี้คิดว่าน่าจะจริงอยู่ครับ

ลองฟังดูแล้วคิดว่าน่าจะใช่นะครับ เล่นง่ายๆนิดหน่อยไม่หวือหวาอะไรมาก ช่วงทำงานชุดนี้สมาชิกไม่ค่อยอยู่พร้อมหน้า บรรยากาศการทำงานก็ไม่ดีมาก จึงเป็นไปได้ว่าโรเจอร์อาจสบโอกาสเล่นตรงพาร์ทนี้เอาเองเลย ไม่ง้อเดฟ  :D

เดฟขึ้นไปแจมกับ Jeff Beck ในคอนเสิร์ตที่ Royal Albert Hall เมื่อวันที่ 4 ก.ค. ที่ผ่านมานี้ โดยเดฟขึ้นไปแจมในสองเพลงคือ Jerusalem กับ Hi Ho Silver Lining เดฟใช้ Black Strat เจ้าเก่า กับบอร์ด OAI ครับ

(http://www.brain-damage.co.uk/images/stories/2009/david_gilmour_and_jeff_beck_london_2009.jpg)

นั่น ลุง เดฟ ไหมนะ ลายครามจริงๆ เสี่บงกี่ต้าร์ เอื่อยๆ แต่ทรงพลัง 

มีใครมีข้อมูลเกี่ยวกับซีดีกับดีวีดีชุดนี้บ้างมั้ยครับ ผมเห็นในเว็ปของญี่ปุ่น บอกแต่ว่า เป็นบันทึกการแสดงสด Monentary Lapse of Reason Tour จากปารีสและนิวยอร์กปี 1988

(http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/pf1-1.jpg) (http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/pf2-1.jpg)

คิดว่าเป็น bootleg แน่นอนครับ  :D

ตอนแรกก็คิดอย่างนั้น แต่เว็ปที่นำภาพมาลง ไม่เคยขายแผ่น bootleg มาก่อนครับ

แต่ผมเช็คข่าวแล้วไม่มีวี่แววว่า Pink Floyd จะออกงานแสดงสดในช่วงนี้เลยครับ ถ้าจะออกจริงก็ไม่น่าใช้ชื่อ Shine On ที่ซ้ำกับ Box Set ด้วย อาจเป็นเหมือนเว็บ Amazon หรือเปล่าครับ? บางทีก็มีงาน bootleg โพสท์ขายเฉยเลย หรือว่าออกเฉพาะในญี่ปุ่นหรือเปล่า  ???

Flaming Lips to Cover Pink Floyd's Dark Side of the Moon
Written by Matt   
Friday, 16 October 2009

The Flaming Lips - EmbryonicIn a Q&A session which followed The Flaming Lips' brief appearance at the Ricardo Montalbán Theater in Hollywood, Los Angeles on Thursday night (October 15th), as a free launch event for their new album "Embryonic", band leader Wayne Coyne revealed interesting details of their next album.

The band will release a track-by-track interpretation of Pink Floyd's "Dark Side of the Moon" in the near future, which it recorded with Stardeath and the White Dwarfs, a band that features Coyne’s nephew Dennis.

Henry Rollins and Peaches make guest appearances on the album, Coyne told the crowd during the pre-concert Q&A. A Flaming Lips spokesman says the album will likely be an iTunes-only release, at least initially. Our thanks to Hank Garbuzinski for the info.

ไม่รู้จะออกมาเป็นยังไง แต่ The Flaming Lips เป็นวงที่เล่นติดกลิ่นสเปซร๊อค/ไซคีเดลิกอยู่แล้ว น่าจะออกมาดูดีกว่าที่ Dream Theater คัฟเวอร์นะครับ แต่ที่แน่ๆ อัลบั้มชุดใหม่ของ The Flaming Lips ฟังยากโคตรๆเลยครับขอบอก  ;D

ในขณะเดียวกันถ้าทำเพลงป๊อปเพราะๆ วงนี้ก็ทำออกมาได้ไพเราะและละเมียดมากๆ อยากให้ลองฟังเพลง Do You Realize ? กันดูครับ มันเพราะและความหมายดีครับ สื่อด้วยคำง่ายๆ

http://www.dailymotion.com/relevance/search/flaming+lips+do+you/video/x49irm_do-you-realize-y-the-flaming-lips_music

งานเด่นๆของวงนี้เคยฟังมาหมดทุกชุดแล้วล่ะครับ ก็ชอบแทบทุกชุดเลย แต่ชุดใหม่นี่มันเข้าถึงยากจริงๆนะ

พยายามหาจากเว็ปต่างๆ แล้ว ไม่เห็นมีเว็ปไหนสั่งได้เลยครับ แต่กลับมี Shine on แบบ interview มาแทน ซึ่งผมคงไม่ซื้อ

(http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/shine.jpg)

ทางผู้จัดการของโรเจอร์ได้ยืนยันออกมาแล้วว่า โรเจอร์กำลังตัดสินใจว่าจะทัวร์คอนเสิร์ต The Wall Tour ในปี 2010-2011 ดีไหม? รอลุ้นกันต่อไปแล้วกันครับ หาอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน MOJO ฉบับเดือนพฤศจิกายนครับ

(http://cover.mojo4music.com/uploads/Images/399x567/633918918552312168.Jpeg)

อย่างนี้ต้องรีบโทรไปจองร้าน Kinokuniya ดีใจที่อย่างน้อยมีข่าวน้าโรเจอร์บ้างเสียที หลังจากเก็บตัวมานาน

(ว่าแต่เผอิญจริงๆที่มีหน้านาย Terry Hall ที่มุมบนขวาเหมือนว่าวง The Specials กำลังจะรียูเนี่ยน กำลังฟังอัลบั้มเดี่ยว Home อันแสนไพเราะของเขาอยู่เลย  :D)

ถ้าทัวร์จริงๆขอให้ส่งเทียบเชิญเดฟมาร่วมหน่อยเถอะ ซึ่งคงเป็นไปได้ยากที่เดฟจะยอมมาเล่น อย่างมากคงได้เป็นโชว์เดียวพิเศษๆเท่านั้น

ท่าจะยากแน่ๆ เลยครับ เพราะเดฟเองไม่ค่อยปลื้มกับ The Wall เท่าไหร่เลย

อาจยอมมาแจมโชว์เดียวและเพียงแ่ค่เพลงเดียวเท่านั้น ซึ่งเป็นเพลงที่เดฟคิดว่าเป็นเพลงที่ดีที่สุดในชีวิตที่เคยแ่ต่งมา (ใช่หรือเปล่า?)

คงมีแต่นิค

ผมว่านิคนี่ยากกว่าเดฟอีกนะ เพราะแกไม่ได้จับไม่กลองมานาน ถ้ามาแจมคงต้องมีมือกลองเสริมอีก 2 คนเพื่อความมั่นใจ สมัยก่อนเสริมคนเดียว ตอนนี้อายุมากแล้วขอเบิ้ลอีก  ;D

จริงๆโรเจอร์น่าจะทำงานใหม่ออกมาให้ฟังกันบ้างนะครับ เห็นกินบุญเก่ามานานแล้วเนี่ย  :D

ทัวร์ Dark Side ของโรเจอร์นิคก็มาเล่นรับเชิญ

ครับ แหย่เล่นครับ คิดว่านิคยังไงก็ยอมมาเล่นให้แน่ๆ ผมเห็นแกตระเวนเล่นให้เพื่อนๆมาตั้งแต่สมัยวงแตกใหม่ๆแล้ว เหมือนเป็นคนที่ไม่ค่อยปฏิเสธเพื่อน (นอกจากเพลง Two Suns In The Sunset ที่แกปฏิเสธไม่ยอมเล่น)  :D

ถ้าจะทัวร์ The Wall จริง โปรดักชั่นต้องอลังการ และการเล่นคงเหมือน The Wall Live In Berlin แต่อยากให้ปรับปรุงส่วนที่ไม่ดี เพลงบางเพลงโรเจอร์ร้องเองดีที่สุดแล้ว

ครั้งนั้นเป็นการกุศลและไม่ใช่ไอเดียของโรเจอร์แต่เริ่มแรก จึงมีการเชิญนักร้องมาร่วมมากหน้าหลายตา เพื่อไม่ให้เหมือนเป็นโชว์ของโรเจอร์คนเดียว แต่ครั้งนี้ถ้าจัดเองจริง ยังไงก็ต้องร้องเองเหมือนสมัยทัวร์ The Wall ในปี 1980-1 ไม่งั้นไม่ขลังเสียยี่ห้อ The Wall หมด

แล้วท่อนที่เดฟร้อง แขกรับเชิญตั้งมากมาย แต่ก็หาใครมาแทนที่เดฟไม่ได้จริงๆ เพราะแขกรับเชิญส่วนใหญ่ใส่ขาบาน ขากระบอก ไม่ได้ใส่ขาเดฟ

เยี่ยมครับมุกนี้

จริงๆให้เหมือนต้องใส่มือเดฟสิครับ จะได้เล่นกีตาร์ได้เหมือนไปเลย  ;D

ต้องปลูกต้นเดฟบนกำแพงด้วยนะครับ

ถ้าเดฟไม่ยอมมาเล่น ก็เอาวง Def Leppard มาเล่นทั้งวงไปเลย

แหม ยังไปต่อกันได้เน้อ

โทรไปถาม Kinokuniya ปรากฏว่าเล่มเดือนพฤศจิกายนเป็นปก Kraftwerk นะครับ หรือเล่มนี้เป็นฉบับเดือนธันวาคมที่ำกำลังจะออก พยายามเพ่งแล้วแต่เห็นไม่ชัด  ???

December 2009 ครับ  :D

http://cover.mojo4music.com/Item.aspx?pageNo=1806&year=2009

Roger เขานี่ยังหาเงินได้เลื่อย ๆ นะครับ ต่างจาก 3เอ๊ย!! 2 สมาชิกที่เหลือ...

เล่ม kraftwerk ก็น่าซื้อเก็บครับ

เมื่อเย็นนี้ร้าน Kinokuniya โทรมาบอกว่าฉบับเดือนธันวามาถึงแล้ววันนี้ จองไว้แล้วครับ  ;D

เดี๋ยวผมไปซื้อเหมือนกันครับ ;D

ได้ Mojo มาแล้ว ถึงแม้ผมไม่ได้ซื้อเป็นประจำ แต่รู้สึกว่าซีดีอัลบั้ม The Wall Re-Built ที่แถมมานี่เข้าท่าที่สุดของ Mojo เท่าที่ผมเคยฟัง โดยเฉพาะ 4 แรกทำออกมาได้อารมณ์ต่อกันดีมาก Another Brick In The Wall (Pt.1) ของ Ulver หลอนดีครับ

วันนี้ไปดู Mojo ที่คิโนะมาแล้ว ไปถึงก็ดูๆ แล้วก็คิดว่า เดี๋ยวกลับมาซื้อ พอกลับบ้านมาถึงอีกที คิดได้่ว่า อ่าว .. ลืมซื้อนี่หว่า

ซื้อโอโจ้ เอ๊ย โมโจ้มาแล้วเหมือนกันครับ ที่ B2S เซนทรัลลาดพร้าว บทสัมภาษณ์น่าอ่านดี มีประโยคเด็ดๆ จากโรเจอร์ด้วย ซีดีที่แถมมายังไม่ได้ฟังเลยครับ

กลับกันครับ ซื้อมา 1 อาทิตย์แล้วยังไม่ได้เปิดอ่านเลย แต่ฟังซีดีไป 4-5 รอบแล้วครับ

Mojo เล่มละเท่าไหร่ครับ ไม่เคยซื้อเลย

อยากได้ CD แถม อิอิ

495 บาทครับ แต่เล่มนี้แถม The Wall (cover) Disc 1 เลยสงสัยว่าเจ้า Disc 2 นี่จะแถมเล่มหน้าหรือเปล่า?

ใช่ครับ ใน Booklet ของซีดีมีเขียนไว้อย่างนั้นครับ

ยังงี้ก็ต้องตามซื้ออีกเล่มหรือเนี่ย ?

+1 ครับ แบบนี้ ก็ต้องตามซื้อเพื่อให้ได้แผ่น 2 อีก

วันนี้ไปเห็นแผ่น 2 มาแล้วนะครับ หน้าปกเป็น Foo Fighters

Disc Two สำหรับผมค่อนข้างผิดหวังครับ

ตั้งแต่เพลงแรก Hey You จนถึง Bring the Boys Back Home ใช้ได้เลยนะ อารมณ์ ก็ยังต่อเนื่องดี

พอขึ้น Comfortably Numb มันไม่ใช่เลยอ่ะ

กีต้าร์โซโล่ ก็ไม่มี ผมคาดหวังเพลงนี้ ไว้สูงเลย เหอๆ

+100 ครับ

Ummagumma 40th Anniversary Deluxe Bundle

Buy in a bundle and save! Includes the new Ummagumma T-shirt, signed lithograph, and sticker. Choose between the mp3 download or the 2-CD set of the classic double album. Commemorate 40 years of Ummagumma with this limited edition, five-color lithograph with debossed border designed by Storm Thorgerson. Set on heavy weight fine arts paper, each 24”x24” lithograph will be signed by Storm and features the Ummagumma album artwork that he originally designed.

(http://i324.photobucket.com/albums/k328/sithichai/umma.jpg)

เสื้อสวยครับ

อยากได้มากเหมือนกัน แต่ต้องข่มใจไว้

Royal Mail and Pink Floyd have teamed up to produce a unique souvenir stamp product featuring the band’s final studio album, The Division Bell.

Issued on David Gilmour’s birthday, the sheet’s design mimics a 7” record cover and features ten of the 1st Class The Division Bell stamps, printed on one gummed sheet.

(http://photos-e.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash1/hs457.ash1/25146_343472647307_5660597307_3702182_6427767_n.jpg)

(http://photos-c.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc3/hs437.snc3/25146_343472672307_5660597307_3702183_1675091_n.jpg)

สวยจังเลย

อยากได้เป็นแบบโมเดลมากกว่า ถ้าทำเป็นอันเล็กหน่อยคงซื้อแน่

Roger Waters 2010 Wall Tour To Be Officially Announced! Well we told you the tour was to be announced in April and we have just had official confirmation from Roger's Manager that the tour will be announced from 2pm EST Monday April 12th

อยากดูจริงๆครับ ชาตินี้คงไม่มีโอกาสได้ดูอะไรยิ่งใหญ่แบบนี้อีกแล้ว

Why am I doing the Wall again now?

(http://c1306132.cdn.cloudfiles.rackspacecloud.com/roger_waters.jpg)
Roger Waters, 2010

I recently came across this quote of mine from 22 years ago:

    ” What it comes down to for me is this: Will the technologies of communication in our culture, serve to enlighten us and help us to understand one another better, or will they deceive us and keep us apart?”

I believe this is still a supremely relevant question and the jury is out. There is a lot of commercial clutter on the net, and a lot of propaganda, but I have a sense that just beneath the surface understanding is gaining ground.  We just have to keep blogging, keep twittering, keep communicating, keep sharing ideas.

30 Years ago when I wrote The Wall I was a frightened young man. Well not that young, I was 36 years old.

It took me a long time to get over my fears. Anyway, in the intervening years it has occurred to me that maybe the story of my fear and loss with it’s concomitant inevitable residue of ridicule, shame and punishment, provides an allegory for broader concerns.: Nationalism, racism, sexism, religion, Whatever!  All these issues and ‘isms are driven by the same fears that drove my young life.

This new production of The Wall is an attempt to draw some comparisons, to illuminate our current predicament, and is dedicated to all the innocent lost in the intervening years.

In some quarters, among the chattering classes, there exists a cynical view that human beings as a collective are incapable of developing more ‘humane’ ie, kinder, more generous, more cooperative, more empathetic relationships with one another.

I disagree.

In my view it is too early in our story to leap to such a conclusion, we are after all a very young species.

I believe we have at least a chance to aspire to something better than the dog eat dog ritual slaughter that is our current response to our institutionalized fear of each other.

I feel it is my responsibility as an artist to express my, albeit guarded, optimism, and encourage others to do the same. To quote the great man, ” You may say that I’m a dreamer, but I’m not the only one.”

- Roger Waters, 2010

(http://sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc3/hs410.snc3/24804_101078373269310_101052049938609_6520_417011_n.jpg)

New Official Roger Waters Website for The Wall Tour Launched!!!
http://www.rogerwaters.com/

ผมเป็นห่วงเรื่องเดียวคือเสียงร้องของโรเจอร์นี่แหละครับ เพราะหลังๆนี้เสียงน้าไม่กราดเกรี้ยวเหมือนสมัยหนุ่มๆแถมออกไปทางทุ้มๆไร้พลัง เลยเกรงว่าจะไม่ได้อารมณ์ The Wall เต็มที่

ว่าแต่เว็บเราจัดทัวร์บินไปดูที่เมืองนอกกันดีไหมครับ ถ้าหากโฉบมาใกล้ๆแถวนี้ (ฝันไปเถอะ)

สำหรับผม ที่น่าติดตามสำหรับทัวร์นี้ คือในแง่ของ Production เท่านั้นแหละครับ

ในแง่ของ Performance ผมไม่คิดว่าจะดีเด่นอะไร โดยเฉพาะเสียงร้องของโรเจอร์ สงสัยจริงๆ ว่าโรเจอร์จะร้องเพลงอย่าง Another Brick Part 3, What Shall We Do Now?, Don't Leave Me Now, One of My Turns, Run Like Hell, Hey You ให้มันได้เรื่องได้ยังไำงกัน หรือจะเอาคนอื่นมาร้องแทนอีกล่ะเนี่ย

ไม่แน่งานนี้อาจมีลิปซิงค์เหมือนใน The Wall Live In Berlin 1990 ที่ผมมองว่ามีลิปซิงค์อยู่บ้างเช่นเพลง Run Like Hell ที่ไม่อยากเชื่อว่าสามารถร้องคนเดียวได้แบบนั้น แต่การแสดงสดในระดับสเกลใหญ่ๆแบบนี้ถ้าจะมีการลิปซิงค์เป็นเรื่องที่ไม่น่าเกลียดอะไร (ที Michael Jackson ยังทำได้)เพราะทุกอย่างมันควบคุมลำบาก

ถ้าใครสังเกตุในดีวีดี The Wall Live In Berlin 1990 จะทราบว่าหลายๆเพลงเป็นการถ่้ายทำตอนซ้อมแล้วนำมาตัดต่อรวมกัน เนื่องจากเวลาแสดงและถ่ายทอดสดตอนนั้นจำเป็นต้องมีเทปตอนซ้อมไว้สำรองในกรณีเกิดข้อผิดพลาดระหว่างการถ่ายทอดสดเพื่อเปิดเทปซ้อมนี้ทดแทนทันที สังเกตุง่ายๆครับเพลงไหนโรเจอร์ใส่แว่นกันแดดคือวันแสดงจริง ถ้าไม่ใส่ก็คือวันซ้อมครับ

ที่แน่ๆ เพลง Mother ใช้ version ตอนซ้อม เพราะวันจริงไฟดับตอนถึงเพลงนี้ และน้กร้องสาวหัวโล้น ไม่ยอมออกไปร้องซ้ำตอนไฟมา

จากที่คุยกันวันมีตติ้ง 6.1 หลายคนชื่นชมความสามารถรอบด้านที่ไม่ใช่ด้านดนตรีของ Nick Mason มีใครเคยดูวีดีโอชุดนี้บ้างครับ

(http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/car2.jpg)

ผมเคยมีวีดีโอนี้อยู่ แต่หาไม่เจอแล้ว และไม่ได้ปลื้มกับการแข่งรถเลยไม่อินเท่าไหร่

เคยโหลดมาครับ เปิดผ่านๆ แต่มีดนตรีบรรเลง Pink Floyd ที่ไม่อยูในอัลบั้มไหนด้วย ผมไม่ค่อยชอบไอเดียเอา Pink Floyd มาเกี่ยวกับการแข่งรถเท่าไหร่ ดูทำตามใจกันไปหน่อย ไม่น่าเอาความงานอดิเรกมาปนด้วย ถึงแม้จะเป็นการกุศลก็เหอะ(ถ้าจำไม่ผิดนะ) ดีนะที่ไม่มีออกเป็นอัลบั้ม soundtrackไม่งั้นต้องจำใจซื้ออยู่ดี

รู้จักมานานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสได้ลิ้มลอง

Why am I doing the Wall again now?

(http://c1306132.cdn.cloudfiles.rackspacecloud.com/roger_waters.jpg)

Roger Waters, 2010
I recently came across this quote of mine from 22 years ago:

” What it comes down to for me is this: Will the technologies of communication in our culture, serve to enlighten us and help us to understand one another better, or will they deceive us and keep us apart?”

I believe this is still a supremely relevant question and the jury is out. There is a lot of commercial clutter on the net, and a lot of propaganda, but I have a sense that just beneath the surface understanding is gaining ground.  We just have to keep blogging, keep twittering, keep communicating, keep sharing ideas.

30 Years ago when I wrote The Wall I was a frightened young man. Well not that young, I was 36 years old.

It took me a long time to get over my fears. Anyway, in the intervening years it has occurred to me that maybe the story of my fear and loss with it’s concomitant inevitable residue of ridicule, shame and punishment, provides an allegory for broader concerns.: Nationalism, racism, sexism, religion, Whatever!  All these issues and ‘isms are driven by the same fears that drove my young life.

This new production of The Wall is an attempt to draw some comparisons, to illuminate our current predicament, and is dedicated to all the innocent lost in the intervening years.

In some quarters, among the chattering classes, there exists a cynical view that human beings as a collective are incapable of developing more ‘humane’ ie, kinder, more generous, more cooperative, more empathetic relationships with one another.

I disagree.

In my view it is too early in our story to leap to such a conclusion, we are after all a very young species.

I believe we have at least a chance to aspire to something better than the dog eat dog ritual slaughter that is our current response to our institutionalized fear of each other.

I feel it is my responsibility as an artist to express my, albeit guarded, optimism, and encourage others to do the same. To quote the great man, ” You may say that I’m a dreamer, but I’m not the only one.”

- Roger Waters, 2010

(http://i41.tinypic.com/2pq9g7n.jpg)

Roger Waters W/Eric Clapton 07/26/84 Rosemont Horizon,Rosemont,IL

(http://img392.imageshack.us/img392/8320/12ce2.jpg)

Bootleg จากทัวร์ Pros & Cons มีอยู่พอสมควร แต่เสียงไม่ค่อยจะได้เรื่องได้ราวเลย

ผมว่า bootleg ที่คุณอั๋นเคยเอามาออกเทป 501 ชุดนั้นเสียงยังพอฟังได้นะครับ

ที่หน้าปกเป็นรูป The Wall แต่เขียนว่า Roger Waters Live ใช่ไหมครับ

ใช่ครับ

Roger Waters Touring Band Officially Announced
Drums: Graham Broad
Guitars: Dave Kilminster, G.E. Smith (สุดยอดดดด!!!!), Snowy White
Keyboards: Jon Carin, Harry Waters
Lead Vocals: Robbie Wyckoff >>>> อยากจะหัวเราะให้ฟันหัก 5555+++++
Backing Vocals: Jon Joyce, Mark Lennon, Michael Lennon, Kipp Lennon

ฟันหักไปหรือยังครับ  :D

เป็นไปอย่างที่คิดจริงๆ

Roger Waters Touring Band  >> Pink Floyd Cover Band with Original Bass Player

นักร้องหน้าใหม่ (จริงๆ) >> http://www.myspace.com/robbiewyckoff

(http://rainwarrior.thenoos.net/music/moon8.png)

DSOTM แบบ 8bit ครับ
ฟังแล้วฮาดีเหมือนกัน

โหลดฟรีได้ที่ http://rainwarrior.thenoos.net/music/moon8.html

ศิลปิน Brad Smith

ตอนนี้ที่อเมริกา แฟนเพลงกำลังตื่นเต้นกับ The Wall Live ของ Roger Waters มาก โรเจอร์ออกรายการทีวีและวิทยุเพื่อให้สัมภาษณ์มากพอสมควร และผมเองก็พยายามตามดูตามเก็บมาให้ได้เยอะที่สุด เท่าที่จะทำได้ครับ

What I would like to do now is take the members of our band, Phi. Get to rehearsal room, and do what P' Sith said before. Play The Wall in its entirity.

Then let's do it.

Wanna see you guys rehearsal , I  really miss the time when you all are together and make some noise.

เสนอวันมาเลยครับ จะได้ทำตัวให้ว่างเอาไว้

ป.ล. ถ้าจะเล่นกันจริงๆ ผมขอร้อง Run Like Hell นะครับ  ;D

มันต้องสนุกกว่าและซับซ้อนกว่าการเล่น DSOTM มากแน่ๆ งานนี้พาร์ทของ David Gilmour ทั้งหมดใหน้องบาสร้องไปเลย :D

อยากฟังพี่สิทธิ์ร้อง Don't Leave Me Now

เป็นเพลงที่อยากให้ข้ามไปเลย เหมือนตอนที่ข้าม The Great Gig เวลาเล่น DSOTM (Vera ก็ด้วยก็ดีนะ)

The Trial ก็เล่นไม่ได้ชัวร์

ใช่ครับ คงต้องตัดเพลงด้วยนี้ออกบ้าง ที่เหลือก็เยอะอยู่แล้ว :D

แต่ต้องเพิ่ม What Shall We Do Now? ด้วยนะครับ (หรือจะเอา The Last Few Bricks ด้วย?)

แน่นอนครับ แต่ The Last Few Bricks ขอเวอร์ชั่น Live In Berlin 1990 ได้ไหมครับ มันกระชับและต่อเข้า Goodbye Cruel World ได้ดีกว่ามากนะคิดว่า

ถ้าซ้อมวันไหนจะเล่นเพลงอะไรบอกด้วยนะครับ ไม่ได้เล่นกันครบวงนาน อยากเล่นรวมวงอีกครับ

อยู่ที่น้องๆครับว่าพร้อมกันเมื่อไหร่ ตอนนี้สะดวกทุกวันอาทิตย์นอกจากวันอาทิตย์ที่ 13 และ 20 มิถุนาที่ไม่ค่อยสะดวกครับ

ขอลองนึก Set List ไว้เล่นๆก่อนนะครับ พยายามเน้นเพลงที่พอเล่นได้และกระชับเวลาหน่อย  ;D

In the Flesh
The Thin Ice
Another Brick in the Wall (Part 1)
The Happiest Days of Our Lives
Another Brick in the Wall (Part 2)
Mother
Goodbye Blue Sky
Empty Spaces / What Shall We Do Now ?
Young Lust
Another Brick in the Wall (Part 3)
Goodbye Cruel World
Hey You
Is There Anybody Out There?
Comfortably Numb
The Show Must Go On
In the Flesh
Run Like Hell
Waiting for the Worms
Outside the Wall

อยากให้ทางวงเล่นเพลง In A Little While แถมสักเพลง

ต้องเป็นเวอร์ชั่น Live In Boston ด้วยนะ อ้อ เพลงนี้ของ U2 นะครับไม่ใช่ Pink Floyd  ;D

น่าติดตามว่า The Wall Tour ใหม่นี้โรเจอร์จะเล่นเพลง The Show Must Go On และ Outside The Wall อีกหรือไม่? หลังจากตอน Live In Berlin 1990 โรเจอร์ตัด 2 เพลงนี้ออก ในรายของ Outside The Wall ตอนนั้นพอเข้าใจได้ว่าโรเจอร์เอาเพลง Tide Is Turning มาปิดท้ายแทนเพื่อให้เข้ากับธีมการกุศลครั้งนั้น แต่ The Show Must Go On นี่ไ่ม่รู้ว่าแกไม่ชอบเพลงนั้นหรืออารมณ์มันไม่ต่อเนื่องหรือเปล่า? ถึงได้ตัดออก

อยากให้เล่นให้หมด

ว่าแต่มือคีย์บอร์ดหายตัวไปไหน

เพิ่งได้ดีวีดีชุดนี้จากคลองถมมา (ใน amazon ก็มีขาย) เห็นปกก็พอจะเดาได้ว่า ต้องเป็น bootleg แต่ก็เป็น pro shot ใช้กล้องหลายตัว น่าจะถ่ายไว้สำหรับออกอากาศทางเคเบิ้ล บางเพลง Roger Waters ก็เสียงดี บางเพลงก็เสียงหาย ภาพออกลายๆ ในบางช่วงครับ

(http://www.uppicfree.com/images/974_roger.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-974_roger.jpg)

รายชื่อเพลง/นักดนตรี
01 - Another Brick In The Wall
02 - Mother
03 - Shine On You Crazy Diamond
04 - Have A Cigar
05 - Wish You Were Here
06 - Set The Controls For The Heart Of The Sun
07 - The Gunners Dream
08 - Southampton Dock
09 - The Fletcher Memorial Home
10 - Perfect Sense
11 - Leaving Beirut
12 - Sheep

Roger Waters - Bass and vocals
Andy Fairweather-Low - Guitar
Snowy White - Guitar
David Kilminster - Guitar and vocals (รายนี้ชอบ show off จัง)
Graham Broad - Drums
Jon Carin - Keyboards
Harry Waters - Keyboards/organ
Ian Ritchie - Saxophone
P.P. Arnold - Vocals
Katie Kissoon - Vocals
Carol Kenyon - Vocals

ผมไม่ค่อยชอบ David Kilminster มากเท่าไหร่เหมือนกันครับ เทียบกับนายดอยล์หัวฟูแล้วยังห่างชั้นกันอยู่มากในเรื่องของสไตล์ ไม่ใช่ว่านายเดฟคนนี้ฝีมือไม่ดีนะครับ แต่เน้นเล่นก๊อปปี้ให้เหมือนจนมากเกินงามจริิง ลองเทียบกับ Snowy White ดู นี่มันคนละแบบกันเลย

เป็นแฟชั่นใหม่ของโลกยุคปัจจุบันนี้ไปแล้วหรือเปล่า ที่ผู้นำโลกหลายคนเป็นแฟนเพลง Pink Floyd

Russia's Medvedev Reflects on Rise to Power, Religion and Rock Music

(http://img.wonkette.com/assets/resources/2007/12/medvedev%20121107.jpg)

Even though Dmitry Medvedev grew up in the Union of Soviet Socialist Republics, Western influences breached the barriers, and he developed a deep love of rock music and for bands such as Led Zeppelin , Deep Purple and Pink Floyd.

The president of Russia opens up about music, religion and his rise to power.As a teenager, Medvedev saved for months to buy a copy of Pink Floyd's "The Wall," an album the band released in 1979.

"Although I lived behind the Soviet Iron Curtain, the music seeped through. We listened to what the whole planet listened to," the Russian president told "Good Morning America" anchor George Stephanopoulos in an exclusive interview Friday.

Fresh from signing the new START nuclear arms treaty with U.S. President Barack Obama, Medvedev opened up about his youth, his love of technology and his commitment to religion.

http://abcnews.go.com/GMA/russian-president-dmitry-medvedev-religion-music-rise-power/story?id=10357338

โปสเตอร์สวยดีครับ

(http://www.uppicfree.com/images/593_waters.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-593_waters.jpg)

SCOOP! DAVID GILMOUR & ROGER WATERS PERFORM TOGETHER!!!!! - It's True! David Gilmour & Roger Waters performed together including a version of Wish You Were Here at the Hoping Foundation Benefit Evening on Saturday 10 July. Guy Pratt was also on stage. We heard from David's Manager a few weeks ago that something was brewing but this did come as a complete surprise to us.

(http://www.pinkfloydz.com/images/hopingfound/102799865.jpg)

(http://www.pinkfloydz.com/images/hopingfound/102800011.jpg)

(http://www.pinkfloydz.com/images/hopingfound/102800028.jpg)

(http://www.pinkfloydz.com/images/hopingfound/102799830.jpg)

(http://www.pinkfloydz.com/images/hopingfound/102800407.jpg)

(http://img.photobucket.com/albums/v230/luna65/daverogII.jpg)

(http://img.photobucket.com/albums/v230/luna65/daverog-1.jpg)

(http://i39.photobucket.com/albums/e187/pinkfloyd6/102799978.jpg)

Lovely Pictures :D

ที่แปลกตาคือระดับอย่าง David Gilmour และ Roger Waters เล่นด้วยก้ันในเวทีเล็กๆแบบนี้ ปกติสองคนนี้จะเล่นตามสเตเดี้ยมใหญ่ๆแต่ไหนแต่ไรจนคุ้นตาไปแล้ว

เห็นรูป แล้วชื่นใจบอกไม่ถูก  :D

"เพื่อนเก่า ก็เหมือนรองเท้าเก่า
ถึงจะขาดเป็นรู
แต่มัน ไม่กัดตีนว่ะ.."
(น้าโรจ กระซิบบอกน้าเด) - ผมแอบได้ยิน (ซบไหล่น้าเดอยู่นิ) ::)

ขอเปรียบเทียบสมัยหนุ่มๆหน่อย

(http://www.uppicfree.com/images/729_PinkFloyd.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-729_PinkFloyd.jpg)

ระวังให้ดีๆ ทัวร์ The Wall 2010-2011 อาจมีใครบางคนขึ้นไปยืนโซโล่กีตาร์ร้องเพลง Comfortably Numb ในการแสดงบางรอบก็ได้ ...... ระวังให้ดี

อันนี้เดาไว้แต่แรกแล้ว ดูท่าจะเ็ป็นจริง

So here's what happened. Last year, 'The Hoping Foundation' a charity that supports Palestinian refugee kids, (www.hopingfoundation.org) put on a fund raiser at Ronnie Scott's Club in London, the idea of which was to raise money by auctioning karaoke performances by various celebrities. David was there as a supporter and was moved to perform an impromptu rendition of George Gershwin's 'Summertime?' which he performed aided and abetted by supermodel Kate Moss.

In the wake of that evening, someone, I think it was David himself, came up with this 'Wouldn't it be funny', idea. What if he (David that is) were to sing the old Teddy Bears song 'To Know Him Is To Love Him' with me (Roger that is), what with us having been so famously at each other's throats for years and years. Get it!!!! Anyway he E-mailed me with this suggestion and I loved it, so then it was just a question of juggling dates and deciding to do 'Wish You Were Here' and 'Comfortably Numb' to round out our little set. Or so I thought, until he sent me a number of very musical and eloquent demos of how we could do the song in two-part harmony. I listened with a sinking heart, knowing that David, with his superior vocal skills, could sing either part standing on his head, whilst I would have to search for a different key and then struggle through hours and hours of routining a performance that lay way outside my vocal comfort zone. To my eternal shame I bottled out and told Dave I would happily do 'Wish You Were Here' and 'C. Numb', but that 'To Know him is to Love him' was beyond me.

Some weeks passed with David cajoling me from time to time, telling me how easy it would be, but I clung resolutely to my fear of failure until one day he made one final entreaty. I quote "If you do 'To Know Him Is To Love Him' for The Hoping Foundation Gig, I'll come and do 'C. Numb' on one of your Wall shows". Well! You could have knocked me down with a feather. How fucking cool! I was blown away. How could I refuse such an offer. I couldn't, there was no way. Generosity trumped fear. And so explaining that I would probably be shite, but if he didn't mind I didn't, I agreed and the rest is history. We did it, and it was fucking great. End of story. Or possibly beginning.

Roger

PS. Just heard from David, he will decide in due course which gig he wants to do, it will be a surprise!

ข้อสังเกต จาก AFM
- มันต้องเป็นซักที่ใน London แน่นอน
- อีกหน่อย ทั้งคู่อาจมีสตูดิโออัลบั้มในนาม Roger Waters/David Gilmour ออกมาก็ได้
- ถ้าโรเจอร์ออกอัลบั้มใหม่ ต้องมี David Gilmour ไปเป็น Guest แน่นอน

อยู่ๆ ไหงกลายเป็นงี้ได้ไงครับ มีจุดเปลี่ยน จุดเริ่ม ตรงไหนหรือครับ

Life's too short. เดฟเคยพูดประโยคนี้เมื่อสมัยก่อน

นึกภาพคนที่มาดูโชว์ The Wall ของโรเจอร์แล้วคงขำดีนะครับ ในแต่ละโชว์พอถึงเพลง Comfortably Numb ท่อนที่เดฟร้อง ทุกคนคงชะเง้อหรือใช้กล้องส่องดูตรงยอดกำแพงสูงสุดเพื่อลุ้นว่าใช่เดฟร้องหรือเปล่า? ถ้าใช่ก็โชคดีไป ถ้าไม่ใช่คงเซ็งเหมือนกันนะ

'An Introduction to Syd Barrett' coming from EMI/Harvest in October

On October 4th, 2010, 'An Introduction to Syd Barrett' is released in the UK and Europe by EMI/Harvest Records. It is a brand new collection that will bring together for the first time the tracks of Pink Floyd and Syd Barrett on one compilation.

David Gilmour, who originally worked with Syd Barrett on the solo albums by co-producing 'The Madcap Laughs' and as producer of 'Barrett' has taken the role of executive producer for the album and has, along with Damon Iddins and Andy Jackson at Astoria Studios, remixed five tracks including Octopus, She Took A Long Cold Look, Dominoes and Here I Go on which David Gilmour has added and played bass guitar. Pink Floyd's Matilda Mother also receives a fresh 2010 mix. Brand new artwork has been provided by Storm Thorgerson and his estimable studio.

Here's the track listing of this album:

   1. Arnold Layne (2010 Digital Remaster)
   2. See Emily Play (2010 Digital Remaster)
   3. Apples And Oranges (2010 Digital Remaster)
   4. Matilda Mother (Alternative Version) (2010 Mix)
   5. Chapter 24 (2010 Digital Remaster)
   6. Bike (2010 Digital Remaster)
   7. Terrapin (2010 Digital Remaster)
   8. Love You (2010 Digital Remaster)
   9. Dark Globe (2010 Digital Remaster)
  10. Here I Go (2010 Remix)
  11. Octopus (2010 Mix)
  12. She Took A Long Cold Look (2010 Mix)
  13. If It's In You (2010 Digital Remaster)
  14. Baby Lemonade (2010 Digital Remaster)
  15. Dominoes (2010 Mix)
  16. Gigolo Aunt (2010 Digital Remaster)
  17. Effervescing Elephant (2010 Digital Remaster)
  18. Bob Dylan Blues (2010 Digital Remaster)

จุดเปลี่ยน ผมว่า น่าจะเริ่มจากคอนเสิร์ต Live 8 นะครับ :)

+1

มีของดีให้ดู ตามไปที่นี่สิครับ
http://www.hopingfoundation.org/

สุดยอดครับ นึกว่าไม่มีคนถ่ายไว้เสียอีก ที่พิเศษหน่อยคือ Another Brick PT.2 ที่เป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีที่เดฟกับโรเจอร์ได้ร้องด้วยกัน

ผมเดาว่าจุดเปลี่ยนน่าจะเป็นการจากไปของน้าริคนะครับ ตอน LIve 8 มีข่าวว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนี้ยังตึงเครียดอยู่นิดๆ แต่ผมคาดว่าพอน้าริคจากไปตัวเดฟคงลดทิฐิลงได้แล้ว เพราะไม่นานก็ต้องตายจากกัน ส่วนตัวโรเจอร์ผมว่าเขาแบะท่าจะรอคืนดีกับเดฟมาหลายครั้งแล้วช่วงหลังๆนี้

ปกสวยดีครับ

(http://www.uppicfree.com/images/721_syd.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-721_syd.jpg)

วง Blurred Vision จากแคนาดา นำเพลง Another Brick in the Wall มาคัฟเวอร์โดยเปลี่ยนเนื้อร้องให้เข้ากับ theme ต่อต้านผู้นำศาสนาอิหร่าน เป็น Hey, Ayatollah, leave those kids alone. ครับ

http://www.youtube.com/watch?v=OIP38eq-ywc

เห็นปกก็ต้องซื้อแล้ว :D

ต่อจากนี้เราคงได้เห็นงาน Pink Floyd ออกมาดูดเงินทุกๆปีหรือทุกสองปีเป็นอย่างน้อย กำลังหวั่นๆว่าจะมีไฟล์ Flac 24 bit ออกมาเหมือน The Beatles ด้วย เพราะค่ายเดียวกัน

  ตั้งแต่มี Dune นี่มองอะไรเป็นไฟล์ไปหมดเลย  :D
  เครื่องนี้เป็นยังไงบ้าง เล่าให้พี่ๆน้องๆในนี้น้ำลายไหลเล่นบ้างซิครับ

เดี๋ยวไปเล่าในกระทู้พูดคุยเครื่องเสียงนะครับ :D

ไม่ช้า ญี่ปุ่นอาจจะนำ mini lp มาออกแบบราคาย่อมเยาว์ก็ได้ครับ

เล่นเอาต้องนั่งดูต่อจนจบ ว่าจะเข้านอนอยู่แล้วเชียว ขอบคุณครับ

สังเกตุมานานละ เวลาเล่น live เพลง Wish You Were Here ทำไม เดฟ เร่งจังหวะจังเลยครับ ผมชอบแบบช้าๆ เนิบๆ มากกว่า

เพลงช้าส่วนใหญ่เวลาแสดงสดมันจะเร่งจังหวะเป็นธรรมชาติครับ ผมว่าถ้าเ่ล่นช้าเท่าในสตูดิโอมันจะเอื่อยมากนะ คิดในแง่ดีว่าเวอร์ชั่นในสตูดิโอคลาสสิคอยู่แล้ว ปล่อยให้เป็นเวอร์ชั่นเดียวที่ช้าและกินใจ ส่วนแสดงสดก็ให้อารมณ์แบบแสดงสด :D

Roger Waters - The Wall Live 2010
First Night : September 15th - AIR CANADA CENTRE, TORONTO, ON, CANADA

(http://www.pinkfloydz.com/roger2010/sep15toronto/images/DSCF8162%5B1%5D.jpg)

(http://www.pinkfloydz.com/roger2010/sep15toronto/images/DSCF8168%5B1%5D.jpg)

(http://www.pinkfloydz.com/roger2010/sep15toronto/images/DSCF8210%5B1%5D.jpg)

(http://www.pinkfloydz.com/roger2010/sep15toronto/images/DSCF8226%5B1%5D.jpg)

(http://www.pinkfloydz.com/roger2010/sep15toronto/images/DSCF8230%5B1%5D.jpg)

(http://www.pinkfloydz.com/roger2010/sep15toronto/images/001.jpg)

(http://www.pinkfloydz.com/roger2010/sep15toronto/images/IMG_0400.jpg)

(http://www.pinkfloydz.com/roger2010/sep15toronto/images/IMG_0424.jpg)

(http://www.pinkfloydz.com/roger2010/sep15toronto/images/IMG_0435.jpg)

(http://www.brain-damage.co.uk/images/stories/wall2010/lee-ann_wylie_150910_d.jpg)

(http://www.brain-damage.co.uk/images/stories/wall2010/lee-ann_wylie_150910_e.jpg)

(http://www.brain-damage.co.uk/images/stories/wall2010/lee-ann_wylie_150910_a.jpg)

(http://www.brain-damage.co.uk/images/stories/wall2010/lee-ann_wylie_150910_b.jpg)

(http://www.brain-damage.co.uk/images/stories/wall2010/lee-ann_wylie_150910_c.jpg)

อยากดูมากกกกกกกก

http://www.youtube.com/watch?v=r5dUkZ-s4-I

http://www.youtube.com/watch?v=LG_ys7yHDxM

http://www.youtube.com/watch?v=G5p_dBJcVFM

Another Brick in the Wall Pt.2
http://www.youtube.com/watch?v=RzChNwusEWE

Comfortably Numb
http://www.youtube.com/watch?v=Kt6Qe8y7tPY

ทีวีเปลี่ยนเป็นจอ LCD แล้ว ดูเป็น The Wall ที่ร่วมสมัยมาก

งานนี้ Steve Jobs โดนไปเยอะเหมือนกัน กับ iTeach iPay

ตอนหนุ่ม - ก่อกำแพง แล้วไปอยู่ข้างหลัง ให้กำแพงกั้นระหว่างตัวเองกับคนดู จะได้ไม่ต้องเห็นคนดูที่ไม่สนใจโชว์ของตัวเอง เล่นดนตรีแต่ทำหน้าขึงขังจริงจัง
ตอนแก่ - ก่อกำแพง แต่มายืนหน้ากำแพง เอนเตอร์เทนคนดู หน้าตายิ้มแย้ม ดูเป็นมิตรมาก

คนเราพอแก่ตัวขึ้น อายุ วุฒิภาวะมากขึ้น ก็ทำตัวน่ารักดีครับ  :D

เท่าที่ดูเพลงที่แกมายืนด้านหน้ากำแพงก็เหมือนตอนปี 1980-1981 รวมทั้ง 1990 นะครับ แต่หน้าตายิ้มแย้มจริงครับ ทำให้ลดความดุดันของ The Wall ไปเยอะ :D

ใช่ครับ พาร์ตไหนของโชว์ที่แกยืนหน้ากำแพงเมื่อปี 1980-1981 แกก็กลับมายืนหน้ากำแพงทุกอย่าง

อย่างที่ Jon Carin เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า โรเจอร์จะ "treat pink floyd material like he treat classical music pieces." นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดและถูกต้องที่โรเจอร์ตัดสินใจทำแบบนี้ ทำให้โชว์ The Wall 2010-2011 นี้ เป็นทัวร์ที่เป็นฟลอยด์มากที่สุดเท่าที่โรเจอร์เคยทัวร์มา เผลอๆ อาจแซงหน้าทัวร์ของ Pink Floyd ยุคที่ไม่มีโรเจอร์ไปอีกนะ

โรเจอร์ร้องท่อนท้ายของเพลง Hey You ได้ทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อมาก แสดงว่าฟิตมานานพอดูถึงจะทำได้ขนาดนี้

ข่าวล่าสุดมีออกมาว่า เดฟจะเป็น Guest ในโชว์ที่ USA ด้วย ทำให้แฟนเพลงยุโรปเริ่มหวั่นๆ ว่า เดฟอาจจะไม่ได้ขึ้นไปเล่นที่ O2 Area อย่างที่เดาๆ กันไว้ ไม่ว่าเดฟจะไปโผล่ที่ไหนก็ตาม ผมเชื่อว่าโชว์นั้นจะต้องถูก film เพื่อมาเป็น upcoming live DVD, Blu Ray, HD release แน่นอนครับ

ผมฟังแล้วคิดว่าไม่ใช่เสียงโรเจอร์นะครับ ไว้ต้องรอดูวีดีโอที่จะออกอีกที :D

Run Like Hell - Chicago 9/20/10
http://www.youtube.com/watch?v=WGFqtqp92_Q

Comfortably Numb - Chicago 9/20/10
http://www.youtube.com/watch?v=_IaT21YMfNo

Goodbye Blue Sky/Empty Spaces/What Shall We Do Now? - Chicago 9/20/10
http://www.youtube.com/watch?v=zf7HXdZawzo

One of My Turns - Chicago 9/20/10
http://www.youtube.com/watch?v=f1uoUfOtNMk

Conversion between Me & kongbei on MSN : 22 Sep 2010

Agent Fox Mulder พูดว่า:
 ทำไมมา running on empty ล่ะ
Running On Empty พูดว่า:
 ตอนไปสอบเห็นคนสอบหลายหมื่นแข่งขันกัน
 เลยนึกถึงเพลงนี้ขึ้นมา
Agent Fox Mulder พูดว่า:
 อ่อครับ
 แต่พี่ก็เข้าใจนะเรื่องสอบแข่งขัน
 มันเป็นการทำเพื่อตัวเอง
 ทรัพยากรมีจำกัด
 ใครเก่งที่สุด ก็จะได้ทรัพยากรอันนั้นไป
 มันก็แฟร์ดีนะครับ พี่ว่า
 เพราะว่าถ้าน้องไม่ใช้วิธีนี้ แล้วทรัพยากรมีจำกัด น้องจะใช้อะไรตัดสิน
 เงิน?
 ดวง?
 เพราะฉะนั้น การใช้ความพยายาม ความสามารถ ความตั้งใจของเรา ไปตัดสิน พี่ว่ามันโอเคที่สุดแล้วนะครับ
Running On Empty พูดว่า:
 ครับ
Agent Fox Mulder พูดว่า:
 คำถามคือว่า
 น้องล่ะ สนใจไหมว่าจะต้องเรียนคณะดีๆ มหาลัยดีๆ
 ถ้าน้องแคร์
 น้องก็จำเป็นต้องสอบแข่งขันครับ
 ถ้าน้องไม่แคร์
 น้องก็ไม่ต้องทำตามเค้าก็ได้
 อันนี้เป็นไอเดียไว้ให้คิดนะครับ
Running On Empty พูดว่า:
 ไม่ได้บอกว่าไม่อยากสอบ
Agent Fox Mulder พูดว่า:
 อืมมมมมม เข้าใจ
Running On Empty พูดว่า:
 แต่เด็กพวกนั้น
 เขาเชื่อในอะไรบางอย่างที่ฟุ้งเฟ้อหรือเปล่า
Agent Fox Mulder พูดว่า:
 น้องกำลังจะบอกว่า ให้เปลี่ยนแนวคิดของพวกนั้นใช่ไหมล่ะ
Running On Empty พูดว่า:
 แนวคิดก็ดี แต่ความเชื่อดูจะแคบโดนตรอกให้อยู่ในแบบที่สังคมกำหนดไปหน่อย
Agent Fox Mulder พูดว่า:
 พี่คุยเล่นๆ กับน้องนะ อย่าซีเรียส
 คุยกันแบบโปรเกรสสีฟนะ
 งั้นพี่ถามว่า
 - น้องโดนตรอกให้อยู่ในแบบที่สังคมกำหนดเหมือนเค้ารึเปล่า?
Running On Empty พูดว่า:
 โดน
 จำยอม
 ถ้าไม่ทำตามก็ไม่ก้าวหน้า
Agent Fox Mulder พูดว่า:
 น้องยอมรับความไม่ก้าวหน้าได้ไหม
Running On Empty พูดว่า:
 ไม่
Agent Fox Mulder พูดว่า:
 ทีนี้น้องรู้รึยัง ว่าทำไมโรเจอร์ บอกว่า เราและคนทุกคนในสังคมนี้ ก็ล้วนต่างเป็นแค่อิฐก้อนหนึ่งในกำแพง
Running On Empty พูดว่า:
 แหมมม
 ยอดๆ
Agent Fox Mulder พูดว่า:
 เราทุกคน อาจจะเชื่อหรือไม่เชื่อในบางอย่างที่ฟุ้งเฟ้อแบบที่น้องบอกก็ได้
 แต่ท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่าเราจะเชื่อหรือไม่เชื่อ เราก็ไม่สามารถยอมรับความไม่ก้าวหน้าของตนเองได้
 เราก็จะต้องกลายไปเป็นอิฐก้อนหนึ่งในกำแพง
 คนมากมาย ก็กลายเป็นอิฐหลายก้อน กลายเป็นแนวคิดของสังคมคนหมู่มาก และกลายเป็น "กำแพง"
 กำแพงที่จะคอยปิดบังคนต่อๆ ไป และบังคับให้เค้ากลายมาเป็นอิฐอีก
 อิฐยิ่งมาก กำแพงยิ่งสูง
Running On Empty พูดว่า:
 แล้วพี่เป็นอิฐไหม
Agent Fox Mulder พูดว่า:
 และแล้วก็จะไม่มีใคร สามารถปีนป่าย ข้ามกำแพงนั้นไปได้อีก
 พี่เป็นอิฐครับ
 พี่ก็หลีกหนีไม่ได้
 เพียงแต่พี่เป็นอิฐที่พยายามดีดตัวออกมาจากกำแพง
 และบอกเพื่อนๆ อิฐข้างๆ ว่า
 ถ้าวันใด เราสามารถแยกตัวออกมาได้ และมีอิสระ
 เราคงไม่ต้องมานั่งทำเรื่องบ้าๆ พวกนี้
 วันนี้พี่ทำไม่ได้ พี่เลยต้องเรียนมหาลัย ต้องทำงานบริษัท
Running On Empty พูดว่า:
 เรียนมหาลัยรับได้นะ
 เรียน รด รับไม่ได้ 555

เยี่ยมครับ เปรียบเทียบได้ดี

สองคนนี้ ต้องไปหาหนังเรื่องนี้ มาดูโดยด่วน (มีตอนจบ 2แบบ)
Terry Gilliam's Brazil
(http://www.uppicfree.com/images/491_mpw_19401ddd.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-491_mpw_19401ddd.jpg)

คุยเล่นๆนะครับ

มนุษย์สร้างสังคมและระบบ ระบอบต่างๆขึ้นมาเป็นกำแพงเอง
มนุษย์คิดว่าตัวเองสำคัญที่สุดในโลก
สูงส่งกว่า สัตว์อื่น และสิ่งไร้ชีวิตทั้งหลาย

ถ้าโลกใบนี้มี"ชีวิต"ในรูปแบบหนึ่ง
มนุษย์ที่กำลังทำลายธรรมชาติ คือ เชื้อโรคชนิดหนึ่ง
คุณว่าโลกเราจะทำอย่างไร
ที่จะ"ฆ่า" พวกเชื้อโรคเหล่านี้
คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญนะ
เอลนินโย่ ก๊าซมีเทนที่ขั้วโลก สภาวะเรือนกระจก แกนโลกเหวี่ยง ฯลฯ

มนุษย์คือสิ่งที่สำคัญที่สุดในโลก  ???

Roger Waters Live ครั้งนี้ ต้องไม่พลาด.....ดูDVD เช่นเคย :D

เป็นกำแพงที่ก่อด้วยอิฐที่ร่วมสมัยขึ้น อยากไปดูของจริงมากๆ

(http://www.uppicfree.com/images/365_SDC12505.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-365_SDC12505.jpg)

(http://www.uppicfree.com/images/469_SDC12501.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-469_SDC12501.jpg)


พี่ชายผมได้มีโอกาสไปดู Roger Waters - The Wall Live Tour 2010 แสดงที่ New York พี่ชายผมเป็นหนึ่งในคนไทยที่โชคดีมากๆ
ได้มีโอกาสดูคอนเสิร์ตของเหล่าศิลปินดังๆมากมายตลอดเวลา 30 ปีที่ผ่านมาเรียกว่าPink Fioyd ได้ดูมาอย่างนับครั้งไม่ถ้วน
จนมีฉายาว่า"มัจจุราชคอนเสิร์ต" ที่เห็นอยู่นี้เป็นเสื้อยืดทัวร์คอนเสิร์ตที่พี่ชายผมส่งมาให้ผมเป็นที่ระลึก

charles beterams - pink floyd on forty-five (book)

(http://www.uppicfree.com/images/807_large1945.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-807_large1945.jpg)

Pink Floyd On Forty-Five is the definitive discography of Pink Floyd 7inch singles.

With the help of the world's foremost Pink Floyd singles collectors, Charles Beterams has compiled a breathtaking book that provides a comprehensive guide to Pink Floyd 7inch single releases from all over the world.

Alongside entries taking in countries such as Angola, Costa Rica, Egypt, Jamaica, Kenia, Nigeria, The Philippines, and Turkey, Pink Floyd On Forty-Five also features extensive discographies of 7inch singles from Australia, France, Germany, Italy, Japan, The Netherlands, United Kingdom, and the USA.

The backbone of the book are 7inch singles that ended up in public, either via the shops to buyers - stock copies - or via the record companies to radio stations and journalists - promotional copies. These are brought together in separate chapters per country, starting with Pink Floyd, followed by Syd Barrett, David Gilmour, Nick Mason, Roger Waters, and Richard Wright 7inch singles - if any -, all of them in chronological order, complete with release notes and details.

Pink Floyd On Forty-Five concludes with a selection of test pressings and acetates. Pink Floyd's history on 7inch is presented in all its full-colour glory, with well over 1200 images to distinguish all known pressings.

Charles Beterams previously co-wrote an acclaimed book on Pink Floyd's concerts in The Netherlands and Belgium, Pink Floyd In De Polder, which was published in 2007.

Pink Floyd On Forty-Five has been published as an English language high quality 240 page bound hard back 9x9inch size book.

Pink Floyd and Syd Barrett - An Introduction To Syd Barrett (2010) {Harvest, Digital Remaster}

(http://pixhost.info/avaxhome/51/3e/00183e51_medium.jpeg)

2010 collection that brings together, for the first time, the tracks of Pink Floyd and solo Syd Barrett on one compilation. David Gilmour, who originally worked with Syd Barrett on the solo albums by co-producing The Madcap Laughs and as producer of Barrett has taken the role of executive producer for the album and has remixed five tracks including 'Octopus;, ;She Took A Long Cool Look;, 'Dominoes' and 'Here I Go', on which Gilmour has added and played bass guitar. Pink Floyd's 'Matilda Mother' also receives a fresh 2010 mix. Brand new artwork has been provided by Storm Thorgerson and his estimable studio.

There have been a number of Syd Barrett compilations but, remarkably, 2010’s An Introduction to Syd Barrett is the first to combine Pink Floyd material with his solo recordings, so it truly provides an introduction in a way no previous collection has. It’s possible to quibble that there are a few Floyd songs that should have made it here -- mostly selections from The Piper at the Gates of Dawn, including “Astronomy Domine” and “Lucifer Sam,” but this favors the non-LP early singles “Arnold Layne,” “See Emily Play,” and “Apples and Oranges,” which do point the way toward such solo cuts as “Octopus,” “Baby Lemonade,” “Terrapin,” “Gigolo Aunt,” and “Effervescing Elephant,” all present and accounted for here. Some may also quibble about inclusions of new mixes for “Here I Go," “Octopus,” “She Took a Long Cool Look,” “Dominoes,” and “Matilda Mother,” preferring the original mixes, but these new mixes don’t call attention to themselves nor do they detract from the first disc to provide a strong, concise introduction to Barrett’s twisted genius.

อัพเดตข่าวล่าสุดกันนิดนึงว่า ใน The Wall Tour 2011 ที่เป็น EU Side ในปีนี้ โรเจอร์จะเล่นคอนเสิร์ตที่ O2 Arena London ในช่วงกลางเดือนมิถุนายนจำนวนห้ารอบด้วยกัน ที่น่าสนใจคือมีการประกาศเตือนก่อนมาเลยว่า คอนเสิร์ตทั้ง 5 รอบที่ O2 Arena นี้ จะมีการ Film เก็บไว้ด้วย ดังนั้นจึงห้ามผู้เข้าชมถ่ายภาพด้วยการใช้แฟลชทุกชนิด เนื่องจากจะไปทำให้รบกวนภาพที่ถ่ายทำไว้ โดยเฉพาะในส่วนของ Projection บนกำแพง พอได้ข่าวมาอย่างนี้แล้วแฟนๆ ก็เลยคาดการณ์กันเลยว่า ความเป็นไปได้ที่เดวิดจะมาปรากฎตัวในโชว์ที่ O2 Arena นี้ มีสูงมาก ทั้งในส่วนของการ Film คอนเสิร์ตเก็บไว้ และยังเป็นสถานที่ใน London ซึ่งเป็นเมืองที่เดวิดอาศัยอยู่ด้วย

เอาเป็นว่างานนี้มีลุ้นแน่นอนครับ อย่างน้อยก็คงจะได้ชมบลูเรย์ (หรือดีวีดี) ของ The Wall Tour 2010-2011 แน่ๆ ถ้าจะให้ดีน่าจะจับรวมกันฟุตเตจของทัวร์ Dark Side of The Moon เมื่อปี 2007 ไปด้วยเลย เพราะเท่าที่ทราบ ทัวร์เมื่อปี 2007 ของโรเจอร์นั้น ก็มีการ Film เก็บไว้เช่นกัน

ชุดนี้ มีใครฟังแล้วบ้างครับ

Metallic Spheres -The Orb featuring David Gilmour
(http://www.independent.co.uk/multimedia/dynamic/00469/metallic-spheres_469128t.jpg)

Collaboration album release from The Orb and David Gilmour consisting of "Metallic Side" and "Spheres Side." Includes a bonus disc featuring an alternative mix of the album in the new "3D60" process, which creates a 360-degree sound experience when heard on headphones, using stereo tracks without the need for any special audio equipment. Japan edition features the high-fidelity Blu-spec CD format (compatible with standard CD players) and the CD-Extra containing two music videos (subject to change).
Bonus Track: 2 bonus tracks

(All product details, including availability, images, language(s), special features, and bonus extras, are subject to change without prior notice. Actual item weight may be different from the one indicated above.)

Price    3048yen (3200yen Tax incl.)
THB 1112.41
Points You Earn: 91 points
Format    CD
Release Date    2010/12/29

Catalog No.    SICP-20268
JAN    4547366057973
Number of discs    2
Item weight    200g
Label/Distributor    Sony Music Entertainment

http://www.cdjapan.co.jp/detailview.html?KEY=SICP-20268

นี่เลยครับพี่แจ๊ค :D

http://www.thaiprog.net/webboard/index.php?topic=3954.msg92119#msg92119

โอ้วว.. ขอบคุณน้องสิทธิ์อย่างแรง
สงสัยว่า ถ้าห่วยจัดขนาดนั้น
ยังกล้าเสนอแถมแผ่นโบนัส ให้อีกแผ่น  :o
มันมิเป็นสับปะรดหรือนั้น  ???

Roger Waters มี boxset ใหม่ออกมา รวมอัลบั้มแบบ mini lp แต่ไม่มีเพลงใหม่ครับ รายละเอียดตามลิงค์นี้

http://www.neptunepinkfloyd.co.uk/index.php/news/648-roger-waters-the-album-collection-boxset

การออก box set รวมอัลบั้มแบบ mini lp กลายเป็นแฟชั่นใหม่ในวงการซีดีไปแล้ว ของ Eagles ก็กำลังจะออกโดย Rhino เจ้าเก่าเช่นกัน :D

http://www.youtube.com/watch?v=oAJWtEIcDeo

Fender Roger Waters Precision Bass Model
ราคาประมาณไม่เกินสามหมื่นบาท เนื่องจากตัวนี้เป็น Made in Mexico ออกเป็น Normal Production ก็ราคาประมาณนี้แหละ

ที Strat Signature ของเดฟ ออกกับ Fender Custom Shop ขนาด NOS version ยังเกินแสนนึงเลย

(http://www.whypinkfloyd.com/images/slideshow/im-darkside.jpg)(http://www.whypinkfloyd.com/images/slideshow/im-wywh.jpg)(http://www.whypinkfloyd.com/images/slideshow/exp-darkside.jpg)(http://www.whypinkfloyd.com/images/slideshow/exp-wywh.jpg)(http://www.whypinkfloyd.com/images/slideshow/discovery-albums.jpg)(http://www.whypinkfloyd.com/images/slideshow/discovery-boxset.jpg)

http://www.whypinkfloyd.com/discovery.php

นั่นสิ why pinkfloyd?
 :D

ยังไม่หมดครับ ยังมีอัลบั้ม Best of กับแผ่นเสียงครบทุกชุดมาออกใหม่ด้วย ไม่นึกว่า Collector's Box Set ของสามอัลบั้มเด่นอย่าง Dark Side, Wish You, The Wall ที่ผมเคยนึกว่าซักวันจะออกมาตอนครบครบรอบ 40 ปีจะทยอยออกมาในอนาคต (2013,2015,2019) แต่มันกับมามาออกรวดเดียวกันแบบนี้ ส่วนใครที่เคยซื้อ Oh By The Way Box Set สมัยออกใหม่ๆราคาเหยียบหมื่น(แถมงานโปรดักชั่นห่วยๆต่างหาก)คงอยากเอาไปปาใส่เจ้าของค่ายอีเอ็มไอ ส่วนผมขอรอดูสถานการณ์ก่อน เพราะหมดไปกับ Japan mini lp ครบเซ็ทเยอะแล้ว

ลองอ่าน press release ดูครับ มีอะไรขนออกมาหมดไม่ว่าจะ SACD หรือ Blu-ray ก็มี หรือ Pink Floyd/EMI มองการ์ณไกลว่าฟอร์แมทที่จับต้องไ้ด้ใกล้จุดจบ จึงต้องถล่มให้ราบคาบก่อนจะสายเกิน?

PINK FLOYD REDEFINE THEIR EMI LEGACY

Major Pink Floyd release campaign, Why Pink Floyd…?, to include unreleased music from the archives, collectors’ box sets and complete studio recordings remastered.

Pink Floyd and EMI Music, whose association dates from 1967, announce a comprehensive release schedule, to be launched on September 26, 2011, encompassing CDs, DVDs, Blu-ray discs, SACD, an array of digital formats, viral marketing, iPhone Apps and a brand-new single-album ‘Best Of’ collection.

The legendary band, who are still one of the most successful and iconic artists of all time, recently signed an agreement with EMI which has allowed the development of a multi-format programme of packages, many containing archive material that has been collated during an extensive process between EMI and Pink Floyd for a range of media formats.

GET IMMERSED IN PINK FLOYD'S BACK CATALOGUE, WITH OUTTAKES, RARITIES, AND MORE
10.05.2011

Revealed today are details of a huge Pink Floyd release schedule, featuring all the studio albums newly remastered including unreleased music from the archives and collectors' box sets. With three of the major titles coming in three different editions each, there's an edition for every level of fan, from casual enthusiast, to the biggest Floydheads! The comprehensive release schedule kicks off on September 26, 2011, and encompasses CDs, DVDs, Blu-ray discs, an array of digital formats, viral marketing, iPhone Apps and a brand-new single-album 'Best Of' collection. Vinyl editions are also in the works for release in due course. We're delighted to bring you details of the remasters, the collection boxset, the best of, and for three of the albums (so far) the three different special editions on offer - Discovery, Experience, and Immersion - and just what to expect for each album.

สวยดีครับ ชอบๆ

The Final Cut สำหรับ Pink Floyd แล้วครับ

(http://ec5.images-amazon.com/images/I/916Hs5lKc2L._SL290_.jpg)

นึกถึงสมัยซื้อเทปพีค็อคม้วนละ 30 บาท เปิดกับเครื่องเล่นเทปกระเป๋าหิ้ว 3000 บาท ตอนนั้นก็รู้สึกว่า สุดยอด แล้วนี่นา โลกเราไม่น่าหมุนเร็วไปเลย :D

สิ่งที่ผมต้องการมากที่สุดคือไฟล์ 24 bit ของแท้ครบทุกชุดเหมือนที่ The Beatles ทำออกมา ซึ่งผมว่าน่าจะมีออกมาแน่นอน ตอนนี้ค่าย EMI ออกรีมาสเตอร์ใหม่ต้องมีไฟล์ 24 bit ออกมาด้วย พี่อั๋นผมรออยู่นะ ;D

painstakingly digitally remastered เข้าใจใช้คำจริงๆ อยากรู้ว่าเครื่องเสียงไม่กี่ร้อยๆของผมจะฟังต่างจากแผ่นเดิมๆรึเปล่า :D

ไม่ใช่แต่ Pink Floyd ที่มีผลงานออกมาในลักษณะนี้หรอกครับ ศิลปินระดับขึ้นหิ้ง(ตำนาน)ก็จะต้องมีผลงานที่จะออกมาเป็นลักษณะเช่นนี้
เหมือนกัน  เพราะอาจจะเป็นผลงานทิ้งทวนกับฟอร์แม็ตที่จับต้องได้ครั้งสุดท้ายแล้วครับ

(http://www.travelists.co.uk/myspace/floyd/images/marquee_01.png)(http://www.travelists.co.uk/myspace/floyd/images/marquee_02.png)(http://www.travelists.co.uk/myspace/floyd/images/marquee_03.png)(http://www.travelists.co.uk/myspace/floyd/images/marquee_04.png)(http://www.travelists.co.uk/myspace/floyd/images/marquee_05.png)(http://www.travelists.co.uk/myspace/floyd/images/marquee_06.png)

(http://www.travelists.co.uk/myspace/floyd/images/packshots.png)

รูปโปรโมทรูปนี้มีจุดที่ผิดพลาดอยู่ ?



(http://s46264.gridserver.com/dev/pinkfloyd/images/slideshow/wall.jpg)

ในเว็บไซท์ Why Pink Floyd ไม่มีรายละเอียด ( รูป ) ของ The Wall

The Wall แบบ Discovery จะเปลี่ยนตัวหนังสือเป็นสีแดง เหมือนจะสื่อถึงเลือด ส่วนเวอร์ชั่น Experience กับ Immersion ยังไม่มีรูปเพราะเข้าใจว่ายังออกแบบไม่เสร็จ เท่าที่ทราบโปรเจคนี้เพิ่ง launch เมื่อวานนี้เองหรือไงนี่แหละครับ (น้องเพชรไวมาก) ขนาดลิงค์ pre-order ยังไม่พร้อมให้สั่งเลย

รายละเอียดเท่าที่มีตอนนี้ครับ (ขอยืมรูปของน้องเพชรบางส่วนนะครับ) ถึงแม้ยังไม่สมบูรณ์โดยเฉพาะ The Wall ที่ยังไม่มีรูปและประกาศว่าแผ่นแถมจะให้อะไร

Get immersed in Pink Floyd's back catalogue, with outtakes, rarities, and more    
Written by Matt    
Tuesday, 10 May 2011  
 
Revealed today are details of a huge Pink Floyd release schedule, featuring all the studio albums newly remastered including unreleased music from the archives and collectors' box sets. With three of the major titles coming in three different editions each, there's an edition for every level of fan, from casual enthusiast, to the biggest Floydheads!

The comprehensive release schedule kicks off on September 26, 2011, and encompasses CDs, DVDs, Blu-ray discs, an array of digital formats, viral marketing, iPhone Apps and a brand-new single-album 'Best Of' collection. Vinyl editions are also in the works for release in due course.

We're delighted to bring you details of the remasters, the collection boxset, the best of, and for three of the albums (so far) the three different special editions on offer - Discovery, Experience, and Immersion - and just what to expect for each album. We've also got those important pre-order links, so that you can secure your chosen release(s)...

BEST OF - "A FOOT IN THE DOOR" - November 7th, 2011

(http://i324.photobucket.com/albums/k328/sithichai/best-of.jpg)

This is a single CD collection featuring a tracklist chosen by Pink Floyd, and featuring newly created artwork from Storm Thorgerson. All tracks remastered by James Guthrie in 2011. The tracks are: Hey You / See Emily Play / The Happiest Days Of Our Lives / Another Brick In The Wall part 2 / Have A Cigar / Wish You Were Here / Time / The Great Gig In The Sky / Money / Comfortably Numb / High Hopes / Learning To Fly / The Fletcher Memorial Home / Shine On You Crazy Diamond (edit) / Brain Damage / Eclipse.

DISCOVERY EDITIONS - September 26th, 2011

(http://www.whypinkfloyd.com/images/slideshow/discovery-albums.jpg)

Every EMI-released album in the Pink Floyd catalogue will be released as a Discovery edition. All 14 original Studio albums have been painstakingly digitally remastered by James Guthrie, and are reissued with newly crafted packaging and multi-page booklets created by the band's long-time artwork collaborator Storm Thorgerson.

These will clearly be ideal for the more casual fan, and for those who want to explore one or more of the band's albums for the first time. However, if you want them all, you might want to consider...

DISCOVERY BOX SET - September 26th, 2011

(http://www.whypinkfloyd.com/images/slideshow/discovery-boxset.jpg)

This gathers together all fourteen studio albums in their Discovery edition version, into one newly designed box, with a specially designed booklet.

EXPERIENCE EDITIONS
Currently, there are three of the Floyd's albums that have been announced for release as an Experience edition. These present the original studio album, digitally remastered by James Guthrie and reissued with a newly designed Digipak and a new multi-page booklet designed by Storm Thorgerson. However, each also comes with an additional disc as follows:

- THE DARK SIDE OF THE MOON Experience edition - September 26th, 2011

(http://i324.photobucket.com/albums/k328/sithichai/exp-darkside.jpg)

Disc two features the November 1974 Wembley concert recording by the BBC of The Dark Side of the Moon.

- WISH YOU WERE HERE Experience edition - November 7th, 2011

(http://i324.photobucket.com/albums/k328/sithichai/exp-wywh.jpg)

Disc two features more from the November 1974 Wembley concert, and contains the following tracks: Shine On You Crazy Diamond (parts 1-6) live at Wembley (2011 mix and previously unreleased)
Raving & Drooling live at Wembley (2011 mix and previously unreleased)
You've Got To Be Crazy live at Wembley (2011 mix and previously unreleased)
Wine Glasses from the unreleased 'Household Objects' project
Have A Cigar alternative version (previously unreleased)
Wish You were Here featuring Stephane Grappelli (previously unreleased)

- THE WALL Experience edition - February 27th, 2012

(http://i324.photobucket.com/albums/k328/sithichai/wall.jpg)

Disc three's contents are yet to be officially announced.
These editions will prove tempting to those fans who don't go for the Immersion editions...which, as you'll see below, go to new lengths never before seen in Floyd releases!

IMMERSION BOX SETS
These are lavishly packaged editions that come with the same content as the Experience editions, but with additional discs (including various DVDs and Blurays) along with other specially designed goodies within the sturdy boxes...

- THE DARK SIDE OF THE MOON Immersion edition - September 26th, 2011

(http://i324.photobucket.com/albums/k328/sithichai/im-darkside.jpg)

In addition to the remastered album, and the second disc from the Experience edition with the BBC 1974 concert recording of TDSOTM, this edition comes with FOUR additional discs:

DISC 3 – DVD 1, ALL AUDIO: The Dark Side Of The Moon, James Guthrie 2003 5.1 Surround Mix (previously released only on SACD) in standard resolution audio at 448 kbps / The Dark Side Of The Moon, James Guthrie 2003 5.1 Surround Mix (previously released only on SACD) in high resolution audio at 640 kbps / The Dark Side Of The Moon, LPCM Stereo mix (as disc 1) / The Dark Side Of The Moon, Alan Parsons Quad Mix (previously released only on vinyl LP/8 track tape in 1973) in standard resolution audio at 448 kbps / The Dark Side Of The Moon, Alan Parsons Quad Mix (previously released only on vinyl LP/8 track tape in 1973) in high resolution audio at 640 kbps

DISC 4 - DVD 2, ALL AUDIO VISUAL: Live In Brighton 1972: Careful With That Axe, Eugene (previously unreleased on DVD) / Set The Controls For The Heart Of The Sun (previously unreleased on DVD) / The Dark Side Of The Moon, 2003 documentary (25 min EPK) / Concert Screen Films (60 min total): British Tour 1974, French Tour 1974, North American Tour 1975. Screen films play in stereo and 5.1 Surround Sound

DISC 5 – BLURAY, AUDIO+AUDIO VISUAL: The Dark Side Of The Moon, James Guthrie 2003 5.1 Surround Mix (previously released only on SACD) in high resolution audio at 96 kHz/24-bit / The Dark Side Of The Moon, Original stereo mix (1973) mastered in high resolution audio at 96 kHz/24-bit / Live In Brighton 1972: Careful With That Axe, Eugene (previously unreleased on DVD/BluRay) / Set The Controls For The Heart Of The Sun (previously unreleased on DVD/BluRay) / The Dark Side Of The Moon, 2003 documentary (EPK) / Concert Screen Films (5.1 Surround Mix): British Tour 1974, French Tour 1974, North American Tour 1975 / Concert Screen Films (High Resolution Stereo Mix): British Tour 1974, French Tour 1974, North American Tour 1975

DISC 6 - CD3: The Dark Side Of The Moon 1972 Early Album Mix engineered by Alan Parsons (previously unreleased) / The Hard Way (from ‘Household Objects’ project) / Us And Them, Richard Wright Demo (previously unreleased) / The Travel Sequence, live from Brighton June 1972 (previously unreleased) / The Mortality Sequence, live from Brighton June 1972 (previously unreleased) / Any Colour You Like, live from Brighton June 1972 (previously unreleased) / The Travel Sequence, studio recording 1972 (previously unreleased) / Money, Roger Waters’ demo (previously unreleased)

This all comes with a 40 page 27cm x 27cm booklet designed by Storm Thorgerson, an exclusive photo book edited by Jill Furmanovsky, an exclusive Storm Thorgerson Art Print, 5 x Collectors' Cards featuring art and comments by Storm Thorgerson, replica of The Dark Side Of The Moon tour ticket, replica of The Dark Side Of The Moon backstage pass, scarf, 3 x black marbles, 9 x Coasters (unique to this box) featuring early Storm Thorgerson design sketches, and a 12 page credits booklet.

- WISH YOU WERE HERE Immersion edition - November 7th, 2011

(http://i324.photobucket.com/albums/k328/sithichai/im-wywh.jpg)

In addition to the remastered edition, and the second disc from the Experience edition with unreleased live and studio tracks, this comes with an additional three discs of goodies.

DISC 3 - DVD1, ALL AUDIO: Wish You Were Here, James Guthrie 2009 5.1 Surround Mix (previously unreleased) in standard resolution audio at 448 kbps / Wish You Were Here, James Guthrie 2009 5.1 Surround Mix (previously unreleased) in high resolution audio at 640 kbps / Wish You Were Here, Original Mix (1975) LPCM stereo / Wish You Were Here, Quad Mix (previously released only on vinyl LP/8 track tape) in standard resolution audio at 448 kbps / Wish You Were Here, Quad Mix (previously released only on vinyl LP/8 track tape) in high resolution audio at 640 kbps

DISC 4 - DVD 2, AUDIO VISUAL: Concert Screen Films: Shine On You Crazy Diamond Intro / Shine On You Crazy Diamond / Welcome To The Machine animated clip / Storm Thorgerson short film. Concert Screen Films play in stereo and 5.1 Surround Sound

DISC 5 - BLURAY: AUDIO: Wish You Were Here, James Guthrie 2009 5.1 Surround Mix (previously unreleased) high resolution audio at 96 kHz/24-bit / Wish You Were Here, Original stereo mix (1975) mastered in high resolution audio at 96 kHz/24-bit / Concert Screen films: Shine On You Crazy Diamond Intro / Shine On You Crazy Diamond / Welcome To The Machine animated clip / Storm Thorgerson short film

This set comes with a 40 page, 27cm x 27cm booklet designed by Storm Thorgerson, an exclusive photo book edited by Jill Furmanovsky, an exclusive Storm Thorgerson Art Print, 5 x Collectors’ Cards featuring art and comments by Storm Thorgerson, replica of Wish You Were Here tour ticket, replica of Wish You Were Here backstage pass, scarf, 3 x clear marbles, 9 x coasters (unique to this box) featuring early Storm Thorgerson design sketches, and a 12 page credits booklet.

- THE WALL Immersion edition - February 27th, 2012

(http://i324.photobucket.com/albums/k328/sithichai/wall.jpg)

In addition to the remastered edition, which has a third disc, the Immersion edition comes with a total of seven discs, with the contents of two of the CDs not yet revealed. The Immersion edition comes with the two-disc Is There Anybody Out There, the live album from the original Wall shows, now fully remastered which should prove a popular move, and a seventh disc (a DVD) with the following:

Another Brick In The Wall part 2 promo video, restored in 2011
Behind The Wall documentary
Gerald Scarfe interview
Short filmed extract of Earls Court concert featuring animation.

This set comes with a 44 page, 27cm x 27cm booklet designed by Storm Thorgerson, an exclusive photo book, an exclusive Storm Thorgerson Art Print, 5 x Collectors’ Cards featuring art and comments by Storm Thorgerson, a replica of The Wall tour ticket, a replica of The Wall backstage pass, a scarf, prints/cards of Mark Fisher's stage drawings, 3 x white marbles with design of bricks, 9 x Coasters (unique to this box) featuring early Storm Thorgerson design sketches, and a credits booklet.

  
 

แม้ยังไม่มีรายละเอียดว่า ผลิตจำนวนจำกัดหรือไม่ ก็ต้องเริ่มเก็บเงินแล้วครับ (เดิมกะว่าจะมาเยี่ยมบ้านปลายเดือนสิงหาคมเสียหน่อย คงต้องล้มเลิก)

ในบรรดา 3 อัลบั้มที่จะออกเป็น Immersion จากที่อ่านก็พอสรุปได้ว่า DSOTM 5.1 (high resolution) ที่เคยออกใน SACD ได้มาออกใหม่ในแผ่น blu-ray รวมทั้ง WYWH ที่ได้ทำ 5.1 surround (high resolution)ไว้หลายปีและตั้งใจจะออก SACD แต่ก็เลื่อนมาตลอดก็ได้มาออกใหม่ในแผ่น blu-ray เช่นกัน มีเพียง The Wall ชุดเดียวที่ไม่ีมี 5.1 surround (high resolution) ที่ใส่มาในแผ่น blu-ray เหมือน DSOTM กับ WYWH นับว่าน่าเสียดาย อย่างน้อยน่าจะใส่ original mix แบบ 24bit/96khz มาให้เหมือน DSOTM และ WYWH ด้วยก็ยังดี ยังไงก็รอลุ้นซีดี 2 แผ่นใน The Wall Experience/Immersion ที่ยังไม่เปิดเผยว่าจะเป็นอะไร เดา่ว่าน่าจะมีเพลงจากอัลบั้ม The Wall ในรูปแบบ Demo ด้วย

ยังดีที่ Immersion Collector's Box Set ทั้ง 3 กล่องจะไม่ออกมาพร้อมกันอย่างที่คิด มีเวลาหายใจเก็บเงินได้ครับพี่ตั๋ม :D

ว่าแต่พี่เล็งจะซื้ออะไรบ้างครับ Discovery, Experience หรือ Immersion ?

ยังไงก็ไม่ซื้อ Discovery อยู่แล้ว ส่วนอีก 2 แบบ ขอดูรายละเอียดไปก่อนครับ

ที่แน่ๆผมดีใจ Dark Side of The Moon ที่จะออกใหม่อีกครั้งกลับไปใช้ปกดั้งเดิมเสียที หลังจากเปลี่ยนปกตอนครบรอบ 20 ปีและ 30 ปี เพราะปกดั้งเดิมคลาสสิคที่สุดแล้ว

ที่ผมอยากรูจริงๆว่าพี่โป่งของเราจะว่ายังไง? เวอร์ชั่น Experience ที่มีแผ่นแถมหรือไม่ก็ Immersion ที่มีแผ่นแถมมากว่านี่สิ พี่โป่งจะยอมเสียเงินหรือเปล่าครับ?

คราวนี้ เล่นหนักแฮะ
อะไรดลใจนะเนี่ย
ทีเมื่อก่อน หวงกันนักกันหนา
รึว่าต้องขอบคุณ เจ้าโซเชี่ยลเน็ทเวิร์คคร้าฟ..

คงกลัวว่า ปีหน้าโลกจะแตกแล้ว ขอโกยเงินครั้งสุดท้าย

จริงด้วยครับพี่ตั๋ม ;D

ผมมองว่า ทีมการตลาดได้ทำการสำรวจความต้องการดูแล้ว และมั่นใจว่า ขายได้แน่ๆ คุ้มแน่ ในรูปแบบทั้งหลายมที่เรียงหน้ากันออกมาให้ได้ซื้อน่ะครับ อาจจะจริงก็ได้ที่ว่าต่อไป คนจะซื้อแผ่นน้อยลงไปเรื่อยๆ ตอนนี้ยังพอมีคนซื้ออยู่ ก็ต้องรีบขายครับ

The Wall เลือด น่าจะทำตัวหนังสือให้เหมือนเขียนด้วยเลือดมากกว่านี้นะครับ ยังดูเป็นปากกาเมจิคอยู่เลย

สงสัยกลัวจะดูโหดเกินไป เดี๋ยวขายไม่ออก :D

ว่าแต่มีใครสังเกตุไหมครับ? ว่าลายมือที่เขียนมันเหมือนเขียนใหม่ ลายตวัดเหมือนจะไม่ใช่อันเดียวกัน อันนี้ผมอาจคิดไปเองก็ได้

เขียนใหม่ครับ แต่พยายามเขียนให้เหมือนเดิม

ดิฉันตัดสินใจจะสอย Immersion ล่ะค่ะ แต่อาจจะแค่ชุด "โสมทะมึน" กับ "อยากให้อยู่ด้วย"
เห็นของข้างในแล้วอดใจไม่ได้

ปล. คงจะรอดชาเขียวยากมากๆ เพราะทั้งขนาดสินค้าและราคาน่าจะมหึมาพอๆกัน

ไม่แน่วอร์เนอร์บ้านเราอาจเอาเข้ามาขายเหมือนตอน The Beatles ก็ได้ครับ

ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง หากเทียบกับราคากับ The Beatles แล้ว คิดว่า แต่ละแบบของ Pink Floyd น่าจะตกกล่องละเท่าไหร่ครับ

lสอยไป 2 แล้ว จะเหลืออีก 1 ไว้ทำไมคะ :D

ผมมองไปที่กล่อง wish you มากกว่า dark side เสียอีก ผมชอบ artwork อัลบั้มนี้มากกว่า เพราะเป็นภาพถ่ายไอเดียแปลกๆมากมาย ส่วนกล่อง The Wall คงไม่พลาดเพราะจัดว่าเป็นอัลบั้มของ Pink Floyd ที่ผมผูกพันธ์มากที่สุดตั้งแต่สมัยเริ่มฟังเพลง

เดี๋ยวนี้ค่ายในบ้านเราหัวหมอมากครับ ชอบตั้งราคาให้มันใกล้กับราคาที่เราสั่งเอง ถ้าให้ผมเดาคร่าวๆราคาป้ายอาจอยู่ 5,500 บาท ซื้อจริงถ้าได้ส่วนลดด้วยอาจได้ที่ 4,800 ก็ได้ครับ

เหลืออีกหนึ่งไว้ให้เป็นส่วนที่ขาดหาย รอใครสักคนมาเติมเต็มค่ะ  :D

ผมรอดู vinyl edition อยู่ครับ

ขอให้มีคนมาเติมให้ไวๆนะครับ ไม่ขาดตลาดไปก่อน  :D

+100 ครับ คงหนาและหนักน่าดู

ใจจริงอยากให้มีสักแบบที่มีครบทุกอย่างไปเลย
ไหนๆจะทิ้งทวนแล้ว หอก ดาบ ธนู โลห์ที่ซ่อนเอาไว้ก็ควรจะโยนทิ้งให้หมด เย้ยยย...

ไอ้กล่องนี้คงราคาเหยียบหมื่นแหงๆ  :P

ผมกลัวจะเหมือนเต่าทอง ที่สุดท้ายเหลือบานเลย ทั้งลด-แลก-แจกแถม
ไอ้เราซื้อมาสะสม-ฟัง-นั่งดูรูป ก็เลยไม่เป็นไร แต่ห้างร้านก็เศร้ากันไป

แต่คิดว่าระดับพิงค์ฟลอยด์ นานๆออกที ของแถมเยอะดี งานสวยแพคเกจดี แล้วออกเฉพาะชุดเด่นๆ ไม่น่าจะเหลือค้างในตลาด

ช้า-อด
ซื้อหมด-อด (ข้าว)  ;D

ผมว่าแบบ Discovery จริงๆ่ไม่น่าทำออกมาเลย ทำให้คนที่ซื้อ Oh By The Wayไปแล้วเสียความรู้สึกเปล่าๆ สู้ทำทุกชุดให้เป็นแบบ Experience ที่มีแผ่นแถมจะชวนให้คนซื้อครบเซ็ทได้ง่ายกว่า ส่วนแบบ Immersion 3 อัลบั้มที่ว่าก็ถือว่าโอเคแล้ว(เยอะกว่านี้แฟนๆซื้อกันไม่ไหว) แต่ถ้ามี The Division Bell แบบ Immersion ออกมา ผมคงซื้อแน่ๆ ;D

ว่าแต่ชื่อโปรเจคนี้เหมือนต่อคำจาก Oh by the way ไหมครับ? ประมาณว่า Oh by the way. Why Pink Floyd?

ที่จริง มันเป็นเรื่องของ ของสะสม ใจรัก เงินทอง
ขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไป ก็คงไม่มีการสร้างสรรค์ใดๆออกมาอีก

ใครชอบเก็บ ถูกใจ และมีเงิน ก็ได้ไป ใครไม่สนใจ ถึงมีเงิน ก็คงไม่ซื้อ
แต่คนอยากได้มากๆ แต่มีเงินไม่มาก นี่สิ ต้องมาคอย ทำใจ :D

ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยแคร์ความรู้สึกคนซื้อเท่าไรอยู่แล้ว แคร์แต่ว่าทำไงให้คนซื้อมากๆเท่านั้น :D

ช่วงนี้มีข่าวว่าสมาชิกพิงค์ฟลอยด์จะหย่าเมียหรือติดหนี้-ภาษีอะไรบ้างไหมครับ เพราะเห็นออกมาชุดใหญ่แบบนี้คงฟันได้หลายสิบล้านแหงๆ

พอดีผมเห็นน้าอ๊อดจะออก boxset แล้วมีข่าวแซวมาว่า แกติดภาษีอยู่หลายล้าน ช่วงนี้ต้องทำทุกวิถีทางมาช่วยใช้หนี้

ระดัีบสมาชิกวงนี้น่าจะไม่มีหนี้สินนะครับ มีแต่ชาตินี้จะใช้ไม่หมด คิดว่าโปรเจคนี้(และในอนาคต)คงเหลือไว้ให้ลูกหลานกินได้สบายทั้งชาติครับ เพราะคงออกทัวร์เก็บเงินกันไม่ไหวแล้ว ยิ่งน้ากิลมอร์แกมีเมีย 3 คนกับลูก 8 คน อีกหน่อยคงมีหลานกันอีกหลายสิบคน รับรองสบายกันถ้วนหน้าทั้งตระกูลครับ

เห็นบ็อกเซ็ทเหล่านี้แล้ว ได้แต่อ้าปากค้างครับ  :o  :o  :o

พวกแสดงสดกับเพลงแถมต่างๆ นี่มันล่อใจดีนักแล  :D  :D  :D

ช่วงนี้มาเป็น "ขบวน" เลยครับ บรรดาบ็อกเซ็ททั้งหลาย นึกว่าเก็บหมดแล้วแต่ก็ไม่ยอมหมดซักที ตั้งแต่ สเตตัส โคว ออซซี่ ไวท์สเน็ค
อลิซ คูเปอร์  นี่มาเป็น พิงค์ฟลอยด์ อีก  แถมยังมีหลายกล่องหลายเวอร์ชั่น...

มีทางเดียวครับ ที่จะเก็บหมด....สงสัยคงต้องขอสตางค์ภรรยาให้ช่วยบ้างเสียแล้ว  ;D  ;D  ;D
...ส่วนใครที่เป็นโสดก็ขอโทษทีครับ...ไม่มีตัวช่วย !!!

ผมคงต้องยอมเสียเงินซื้อแบบ Immersion ทั้งสามเวอร์ชั่นครับ แต่คงไม่ซื้อแบบ Experience แยกออกมาอีกต่างหากเพราะว่า
มันก็มีรวมอยู่ในกล่องอยู่แล้วแต่ละชุด

ได้ชมรูปภาพแล้วกล่องน่าจะมีขนาดเท่าแผ่นเสียง เลยทำให้น่าสะสมมากๆ แถมด้วย โบนัสแทร็ค เพียบ ทั้งซีดีและดีวีดี !!!

ยังดีใจที่เวลาออกไม่ได้มาพร้อมๆ กันหมด อย่างนี้พอรับได้ครับ  :D  :D  :D

สำหรับ Discovery เวอร์ชั่นขอ "ผ่าน" ด้วยประการทั้งปวง  :)

เอาล่ะสิครับ ตอนนี้มีหน่วยกล้าตายกล้าสอย Immersion กันเป็นขบวนแบบนี้ สงสัยต้องแคะกระปุกบ้างแล้ว :D

Pong-Wanchai
เพชร วิปลาส
panyarak
TRON

ผมสนใจ DSOTM Immersion ครับ

ผมมี DVD ชุดนี้เก็บสะสมอยู่ ใครช่วยเทียบเพลงให้หน่อยซิครับ ว่าจะมีอยู่ใน Box Set กล่องไหนของคณะ Pink Floyd หรือเปล่า ?

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/Surasee_Kaleidoscope/PinkFloydStoryDVD1.jpg)

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/Surasee_Kaleidoscope/PinkFloydStoryDVD2.jpg)

ดูเหมือนว่าคอนเสิร์ตลำดับที่ 4 ณ. The Dome เมือง Brighton ปี 1972 น่าจะเหมือนกันกับที่กำลังจะออกมาในบ็อกซ์เซ็ตท์นะครับ  :D  :D  :D

ส่วนคอนเสิร์ตในแผ่นที่สองของอัลบั้ม Dark Side Of The Moon ในแบบ Experience คงจะเป็นการแสดงสดจากกรุสมบัติ BBC ดัง
ที่ผมเคยก็อปปี้แจกกันไปแล้วครับ...

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/Surasee_Kaleidoscope/PinkFloydBBC74CD.jpg)

มีใครยังไม่ได้ก็บอกเพิ่มเติมมาเลยนะครับ พรุ่งนี้จะมีการพบปะกับ เดอะกรุ๊ปอ๊อฟดริ้งค์ กันจะได้นำไปให้หรือฝากไว้กับใครก็ได้  :D  :D  :D

Live In Brighton 1972:
Careful With That Axe, Eugene (previously unreleased on DVD)
Set The Controls For The Heart Of The Sun (previously unreleased on DVD)

อยู่ใน DSOTM Immersion ครับพี่โป่ง ไม่ทราบที่พี่มีภาพและเสียงเป็นอย่างไรครับ?

ขอด้วยครับพี่โป่ง ขอบคุณครับ :D

ภาพชัดพอสมควรครับใช้ได้เลยสำหรับปี 1972...

David Gilmour ใส่เสื้อ ที-เชิร์ต สีฟ้า ส่วน Roger Waters ใส่เสื้อคอกลมติดกระดุมสองเม็ดสีดำครับ

ระบบเสียงไม่ใสมากแต่ก็ฟังได้ครับ คุณภาพเดียวกันกับ Pompeii   :D

...ตอนนี้ผมเหลือ ดีวีดี เปล่าเพียงแค่สองแผ่น จะอัดไปให้ เดอะกรุ๊ปอ๊อฟดริ้งค์ แล้วช่วยกันไรท์เพิ่มแจกจ่ายกันต่อไปด้วยนะครับ
จะได้ดูกันอย่างทั่วถึงสำหรับ แฟนๆ ของคณะ พิงค์ ฟลอยด์  ;)

ขอบคุณแทนทุกคนด้วยครับ :D

ไม่รู้สอยอะไรดี
ตัดสินใจทีไร พลาดเรื่อยเลยเรา  ???

ระดับพิงค์ฟลอยด์ เอาน้อยก็เสียดาย
เอามากก็ไม่มีที่เก็บฮะ

ผมช่วยคิดให้ครับพี่แจ๊ค จัดการ Immersion 3 กล่องเลย :D

นิคออกมาให้สัมภาษณ์เหมือนที่เราคาดการณ์กันไว้ครับว่าโปรเจค Why Pink Floyd? นี้ดูเหมือนจะเป็นการออกฟอร์แมทที่จับต้องได้เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเข้ายุคที่มีแต่การดาวนด์โหลด ผมก็หวังไว้เช่นนั้นครับ ไม่งั้นได้ซื้อซ้ำไปซ้ำมากันจนแ่ก่ตายแน่

(Reuters) - The mammoth CD reissue program undertaken by Pink Floyd is an acknowledgment that the era of physical CDs and lavish artwork is coming to an end, as fans increasingly opt to download music digitally, drummer Nick Mason said on Wednesday.

Two years after the Beatles unveiled a similar program, the British progressive rock band is reissuing digitally remastered versions of all 14 of its studio albums, both individually and as a boxed set on September 26.

But Pink Floyd is doing something the Beatles never did, to the disappointment of Fab Four fans. Three albums will also be reissued with plenty of rarities in multi-disc versions. Revised and expanded artwork was a heavy priority for a band with a history of visual innovation.

"There is a slight sense that we are coming to the end of the period where people will buy the physical record with all the packaging and the information and so on," Mason, 67, told Reuters at the Hollywood outpost of the band's EMI Records label.

"I think it's really important to try and have a last go at that, because if we do end up just downloading everything from now on it would be a shame if there wasn't on record all that good artwork and the things that went with it."

The band's 1973 smash "The Dark Side of the Moon," one of the biggest selling albums of all time, will additionally come out on six- and two-disc configurations.

Exact details of the contents were not available, but EMI previewed several previously unreleased tracks including a fast-tempo live version of "Money," and an early mix of "The Great Gig in the Sky" without the soaring vocals of session singer Clare Torry.

Mason was particularly proud of a track he assumed had been lost to history, a version of the title track from 1975's "Wish You Were Here," featuring French jazz violinist Stephane Grappelli.

It dates from sessions at London's Abbey Road studios, Pink Floyd's primary recording base, when Grappelli and fellow violinist Yehudi Menuhin were working down the hallway.

"They came to say hello, which was delightful," Mason recalled. "Someone plucked up the courage to ask them both if they'd like to play something on the record. Stephane absolutely was up for it and I think Yehudi would have liked to, but he's not an improviser and I think he just felt he couldn't do it."

The band opted not to use that version, although Mason in hindsight considers it an unfortunate decision. The two deluxe versions of "Wish You Were Here," available in five- and two-disc configurations, will be released on November 7.

The third disc to get the special treatment is the 1979 double album "The Wall," a semi-autobiographical concept work masterminded by former singer/bassist Roger Waters.

EMI previewed an early version of the hit single "Another Brick in the Wall (Part 1)" featuring different lyrics. Waters' opening couplet goes "We don't need your adulation, we don't need your starry gaze," instead of "We don't need no education, we don't need no thought control" from the final version.

The band will issue seven- and three-disc versions of "The Wall" in February. Expanded versions of its other albums are in the works, as is a DVD documentary about the making of "Wish You Were Here."

While there are no plans for a tour -- singer/guitarist David Gilmour has firmly quashed any speculation of that over the years -- but Mason said he hoped the three surviving members might reunite for a charity performance, as they did in London in 2005.

That show marked Waters' first appearance with the band since he angrily left in 1985.

Tensions have eased somewhat between Waters and his former bandmates, and he was fully involved in the reissue program. Indeed, Mason said he planned to attend the London stop of Waters "The Wall" world tour on Thursday.

(Editing by Christopher Wilson)

Expanded versions of its other albums are in the works

แสดงว่ายังอาจมี Expanded Edition ของอัลบั้มอื่นทยอยออกมาอีกหรือนี่  :o

สุดท้ายก็ต้องจบลงที่ขายดาวนด์โหลดไฟล์ 24 /96khz เป็นไม้สุดท้าย แต่ไม่ต้องกลัวยังอาจจะมีไม้สองอีกเป็นไฟล์ 24/192หรือ176.4khz ฯลฯ
ตามมาอีกในอนาคต

ขายไปเรื่อยๆ เราก็ซื้อเปลี่ยนไปเรื่อยๆ สนุกดีครับ :D

ผมกลัวว่าจะไม่ "ทิ้งทวน" ครั้งเดียวน่ะสิครับ  :D

เฉพาะบทเพลงที่ได้ทำการบันทึกเสียงให้แก่ บีบีซี ก็จำนวนไม่ใช่น้อย แถมยังมีคอนเสิร์ตอีกหลายครั้งตั้งแต่ปี 1970 เป็นต้นมา

...อยากเชียร์ให้ออกเป็น 2 ชุดแยกกันไปเลยครับ คือ BBC In Sessions กับ In Concert Series จะได้ไม่ต้องเป็นกล่องใหญ่อีก   ;D

ช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอยเกิดขึ้นไปแล้วครับ

(http://i324.photobucket.com/albums/k328/sithichai/dfevf.jpg)

OH Man ! :D

งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข  :D  :D  :D

นั่นคือเดฟเหรอครับ  :D

ํYes, exactly he is.

แถมให้อีกรูปตอนเล่นเพลง Outside The Wall ปิดท้ายครับ เห็นแล้วอยากให้น้าริคมาอยู่บนเวทีด้วย

(http://i324.photobucket.com/albums/k328/sithichai/bd120511.jpg)

ไม่รู้ว่าทำไม ผมฟังเพลงนี้มาหลายร้อยรอบแล้ว พอได้ไปเปิดวีดีโอนี้ที่เดฟเล่นเมื่อคืนใน youtube ฟังเมื่อตะกี้ที่ทำงาน รู้สึกตื่นเต้น นั่งเงียบ เหมือนอยากจะร้องไห้ยังไงก็ไม่รู้ ทั้งๆ ที่นั่งอยู่ที่ทำงาน

หมายถึง Comfortably Numb หรือเปล่าครับ? รบกวนเอาอันที่ชัดและดีสุดมาแปะไว้ให้หน่อยสิครับ

อาจเป็นลางว่านี่คือการแสดงร่วมกันครั้งสุดท้ายก็ได้ เดี๋ยวคืนนี้จะกลับไปฟังบ้าง และจะดูสมัยเล่น Live8 ที่ครบ 4 คนด้วย

ผมเห็นสมาชิก Pink Floyd ในปัจจุบันนี้แล้วเข้าใจเลยว่าทำไมถึงได้ออกผลงานเก่าๆมาแบบทิ้งทวน
ถ้ารอเวลาอีกหน่อยสงสัยต้องตามเพื่อนรักริคไปอยู่ด้วยแน่ๆ

On 4 January 2011, Pink Floyd signed a five year record deal with EMI, ending the legal dispute regarding how their material is distributed in the era of individual track downloads. They defended their vision to keep their albums as a cohesive unit, and not just individual tracks

เท่าที่ผมเคยผ่านตามา การขายเพลงดาวนด์โหลดเป็นอัลบั้มจะได้ราคาที่ถูกว่าขายเพลงเดียวถ้าหารราคาต่อเพลง ถึงแม้ทางวงดูเหมือนหิวเงิน แต่ยังคงไว้ซึ่งการนำเสนอที่ควรจะเป็นถึงแม้ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลกัน น่านับถือครับ

ถ้าคุณจะฟัง Pink Floyd คุณควรจะฟังทั้งอัลบั้มทีเดียว

สำหรับใครที่สงสัยเกี่ยวกับเพลงหายากจากโปรเจค Household Objects ที่แถมมาใน DSOTM และ WYWH ที่จะออกใหม่ในเวอร์ชั่น Experience และ Immersion ก็ลองอ่านดูนะครับ

Household Objects

After the success of The Dark Side of the Moon, the band were unsure of their future direction and worried about how they would be able to top that record's huge popularity. In a return to their experimental beginnings, they began work on a project entitled "Household Objects", which would consist of songs played literally on household appliances. Instruments consisted of old hand mixers, rubber bands stretched between two tables, wine glasses, etc., however, the planned album was soon shelved. 2 tracks recorded at these sessions, "The Hard Way", and "Wine Glasses", are scheduled to be released on the upcoming Pink Floyd reissues in October and November 2011

จาก wikipedia

ข่าววงในแน่นอนแล้วครับว่าวอร์เนอร์บ้านเราจะนำเข้าทั้ง Discovery, Experience, Immersion เก็บตังค์กันได้เลยครับ

โปรดสังเกตปฏิกริยาตอบสนองของคนดูในช่วงเวลาที่เดฟโผล่ออกมา และช่วงที่เดฟเริ่มเล่นโซโล่กีตาร์ท่อนแรก
http://www.youtube.com/watch?v=2s6P2pkXpG0

อันนี้จะเห็นท่าทางของโรเจอร์ได้ชัด ว่าเว่อร์ได้ใจจริงๆ
http://www.youtube.com/watch?v=kZakGsVFnks

http://www.youtube.com/watch?v=J8V7o6ivi9Q

สุดยอดครับ เดฟเตรียมตัวมาดีมาก เสียงร้องไม่ตกเลย

การแสดง The Wall แบบที่มีเทคโนโลยีใหม่ 3D Projector นี่มันดูสร้างอารมณ์ร่วมได้มากจริงๆ

Outside The Wall เวอร์ชั่นที่น่าจดจำที่สุด

http://www.youtube.com/watch?v=TTHX6VsU2ZA

เอาแบบชัดๆ กันเลย แปะไม่ได้ ตามไปดูก็แล้วกันครับ
http://www.bbc.co.uk/news/entertainment-arts-13389333

Verse ที่ 2 เดฟแอบร้องผิด

กีตาร์โซโล่ที่สองขึ้นโน๊ตตัวแรกก็เล่นไม่ค่อยเคลียร์เลย ไว้คืนนี้เอาใหม่นะเดฟ

จริงๆรู้สึกเหมือนแกประหม่าเอาเรื่องนะครับ (แต่วินาทีนั้นคนดูไม่สนใจอะไรแล้ว) ต้องเข้าใจว่าไม่ไ้ด้ขึ้นไปร้องที่สูงๆเหนือกำแพงใหญ่ๆต่อหน้าผู้คนนับหมื่นมาร่วม 30 ปีแล้ว ต้องตื่นเต้นบ้าง ผมว่าอารมณ์แกตอนนั้นความรู้สึกเก่าๆที่เคยเล่นแบบนี้มา 23 รอบในอดีตต้องหวนกลับมาแน่

รูปนี้สวยจัง

(http://www.davidgilmour.com/images/wall/wall03.jpg)

นับถือคนถ่ายวิดีโอจริงๆ
เหมือนได้เข้าไปดูคอนเสิร์ทจริงๆ

อยากได้ Pink Floyd Edition ที่ขายใหม่ทั้ง 3 ชุด รวมถึงเวอร์ชั่นพิเศษที่แยกออกมาด้วย

ไม่ทราบว่าท่าน Jack The Ripper สามารถ ก๊อป แผ่นดีวีดีที่ฝากไปของคณะ พิงค์ฟลอยด์ ได้สำเร็จหรือเปล่าครับ หรือว่า "ล่ม" ตรง
54% เหมือนที่ผมเจอหลายๆ ครั้งครับ  :)

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/Surasee_Kaleidoscope/PinkFloydStoryDVD1.jpg)

มีความรู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน
แบบว่าถ้าสอยแค่เวอร์ชั่นใด เวอร์ชั่นหนึ่ง รู้สึกว่าจะไม่ครบ collection  8)

http://www.youtube.com/watch?v=MvTy2M4XReg

อันนี้คงไม่มีใครอุดหนุนแล้วมั้งครับ เตรียมสอยพิงค์ฟลอยด์กันหมด  :D

ถ้าในแง่สะสมล่ะก็ อะไรๆก็น่าเก็บทั้งนั้น
ถ้าในแง่ฟัง ลองพิจารณาดู จะรู้ว่าอันไหนที่เหมาะกับเราที่สุดครับ

ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าปล่อยออกมาไล่ๆักันได้ไง แต่ของโรเจอร์น่าจะเป็นของ Sony Music มากกว่า งานนี้ทั้งสองค่ายคงต้องรีบๆโกยก่อน

สนใจครับ อยากให้ออกแผ่นเสียงด้วยครับ :D

โดยส่วนตัวผมว่า Box Set ของ Roger Waters ไม่ค่อยน่าสนใจ เพราะว่าไม่มีอะไรใหม่เลยโดยเฉพาะ โบนัสแทร็ค แม้แต่ ดีวีดี ก็เป็น
ของเก่า  ???

หากเปรียบเทียบกับคณะ พิงค์ฟลอยด์ แล้วก็น่าจะเหมือนกันกับชุด Discovery ซึ่งผมคงจะต้องขอ "ผ่าน" เหมือนกันทั้งสองชุดล่ะครับ!

แต่ถ้าใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ก็ต้องไม่พลาดทั้งสองกล่องเลย ไม่งั้นคงจะนอนไม่ค่อยหลับแน่ๆ  :D  :D  :D

ไม่แน่ปก The Wall Immersion Box Set 7 Discs อาจมีหน้าตาประมาณนี้หรือเปล่า?

(http://i324.photobucket.com/albums/k328/sithichai/61VgeKF1nNL_SS500_.jpg)

เสี่ย TRON ถ้าซื้อทั้งหมดทุก Set จะใช้งบประมาณเท่าไร 

ถ้าเอาหมดไม่เลือกคือ Discovery Box, Experience 3 อัลบั้ม(ณ ตอนนี้) และ Immersion Box 3 อัลบั้ม (ณ ตอนนี้) คงไม่ต่ำกว่าสองหมื่นครับพี่อั๋น แต่ที่คนส่วนใหญ่สนใจเก็บน่าจะเป็นกล่อง Immersion 3 อัลบั้ม Dark Side, Wish You, The Wall ที่จะทยอยออกนี่คงเสียกล่องประมาณไม่เกินห้าพันครับ

แล้วเสี่ยต้องการจะเก็บชุดใด  อันที่จริงแล้วผมก็อยากได้ทั้งหมดทุก Set เลยเหตุผลก็คือ อยากจะได้ผลงานของ Pink Floyd
ที่ผลิตโดยใช้จากเทคโนโลยีของยุดนี้ น่าจะเป็นผลงานคุณภาพเสียงดีที่สุดแล้ว แต่ติดปัญหาเดียวคือปัจจัยในการซื้อเท่านั้น

ผมก็เล็งๆ Immersion Box เหมือนหลายๆคนในเ็ว็บนี้แหละครับ (วงอื่นคงไม่ยอมซื้อมากเหมือนวงนี้) และเพราะมันมี blu-ray ด้วยครับ (นอกจาก The Wall ที่อาจไม่มี) แต่ละชุดทิ้งช่วงออกหลายเดือนพอมีเวลาเก็บเงินได้ครับ ผมว่าระดับพี่อั๋นไม่น่ามีปัญหาเรื่องเงินนะครับ :D

ระดับผมนี่ล่ะเรื่องเงินเป็นปัญหา  ทุกวันนี้ถึงไม่ได้ซื้อฟอร์แม็ตอะไรที่จับต้องได้เก็บไว้ แต่เก็บสะสมเฉพาะข้อมูลเท่านั้นไง

+1
อีกหน่อยคงไม่ต้องแต่งเมียกันให้เปลืองสินสอดทองหมั้น

"เชย.. ชั้นมีผัวข้อมูล 500บิทย่ะ ความถี่สูงไม่จำกัด"
"เชอะ.. นี่ดูซะ เมียข้อมูล 11บิท รด. ไม่มีอั้นการถ่ายเทสะดวก" ฯลฯ
อะไรปานเหล่านี้นะฮะ




สำเร็จมะก้องด้อง
ตอนนี้ จัดให้ดังนี้ฮับ
พี่โป่ง
พี่เสงี่ยม
พี่ตั๊ม
ป่อง
สิทธิ์

ใครจะเอา ลงชื่อมาเลยครับ
เพราะไฟล์กำลังคาโปรแกรม จะได้อัดได้อย่างสะดวกมากๆฮะ  ;D

แล้ว แอนดรู เบล็ค ข้างล่างนี่ "ถอด" สำเร็จมั้ยคร้าบ...บ...บ ?

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/Surasee_Kaleidoscope/DecadenceDVD1.jpg)

สำเร็จแล้วกรุณาอย่า "คา" เอาไว้อีกนะ ฟังแล้วขนลุก ซู่ ซู่ ซู่ !!!   :P  :P  :P

ได้ข่าวว่าพิงค์ฟลอยด์ เมาเมื่อวันอาทิตย์หรือครับ
โทรก็ไม่ติด

ขอด้วยคนคับพี่ (ยังไม่รู้เลยว่าอะไร) ;D

วันอาทิตย์ที่ผ่านมาผมอยู่อีกภพนึงครับ...ข้ามวันไปเลย

...ทุกวันนี้โทร.ยังงัยก็ยังไม่ติดเพราะว่าโทรศัพท์มือถือลืมอยู่บ้านเพื่อนคร้าบ...บ...บ   ;D  ;D  ;D

ลงชื่อกับ Jack The Ripper ได้เลยตรงนี้ แล้วคุณจะได้สิทธิ์เดี๋ยวนี้เลยครับ...เป็น ดีวีดี สองแผ่น พิงค์หนึ่ง แอนดรูหนึ่ง  :D  :D  :D

เพชร วิปลาสขอรับสำเนาจากพี่แจ็คด้วยคนครับ

ขอบคุณคร้าบบ...

หลักฐานสำคัญว่างานนี้เราน่าจะได้ดู Roger Waters - The Wall Live in O2 blu-ray แน่ๆ

http://www.youtube.com/watch?v=hUYzQaCCt2o

น่าจะเป็นเช่นนั้น ผมกำลังรอดูบูลเรย์ The Wall Live นี้อยู่เหมือนกันเมื่อวานยังคุยกับพี่ชายเรื่องนี้อยู่เลย คาดว่าจะออกหลัง Boxset Pink Floyd

ผมรอไม่ไหวครับเลยจัดการดูดไฟล์เพลงนี้ในรูปแบบ Hi-Def ใส่ Dune ดูผ่านจอใหญ่แล้วครับ ได้ภาพระดับบลูเรย์เลย เสียดายเสียงยังไม่ผ่านการมิกซ์ แต่แค่นี้ก็พอแก้ขัดได้ครับ

"เกร็ดเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับอัลบั้มสามัญประจำบ้าน Dark Side of The Moon"  เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าซาวนด์เอ็นจิเนียร์ของอัลบั้มชุดนี้
คือ Alan Parsons ทำหน้าที่ควบคุมดูแลการบันทึกเสียงของอัลบั้มประวัติศาสตร์ชุด Dark Side of The Moon(1973) นี้ ในปี 1992 อลัน พาร์สัน
ก็ถูกเรียกตัวจากบริษัทต้นสังกัด EMI ให้ร่วมเป็นที่ปรึกษาของทีมงานทำการรีมาสเตอร์ผลงานอัลบั้มนี้ของ Pink Floyd เพื่อฉลองครบรอบ 20 ปี
ในตอนนั้นมีการทำเป็นแผ่นเสียงและซีดีออกมา เวลาผ่านไปอีก 10 ปี ในปี 2002 ได้เตรียมทำการรีมาสเตอร์อัลบั้มชุดนี้ใหม่อีกครั้งเพื่อฉลองครบรอบ
30 ปีแต่ครั้งนี้มีความพิเศษมากกว่าครั้งก่อนเพราะทำเป็นระบบเสียงมัลติแชนเนลเซอร์ราวนด์ออกเป็น Hi-Res.ในฟอร์แม็ตใหม่ก็คือ SACD นั่นเอง
เป็นเรื่องแปลกมากเครดิตของอัลบั้ม SACD ชุดนี้ไม่มีชื่อของอลัน พาร์สัน เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำขั้นตอนรีมาสเตอร์ SACD ชุดนี้แต่อย่างใด
เพราะอะไรจึงเป็นเช่นนั้น อลัน พาร์สันให้สัมภาษณ์กับหนังสือ Sound & Vision ไว้ว่าเหมือนกับน้อยใจที่ทางวง Pink Floyd  ต้องการจะมีส่วน
ในการรีมาสเตอร์อัลบั้มชุดนี้เองทั้งหมด ซึ่งรวมถึงต้องการจะเลือกซาวนด์เอ็นจิเนียร์คนอื่นมาทำการรีมาสเตอร์อัลบั้มชุดนี้ อลัน พาร์สันก็เข้าใจดี
ว่าสมาชิกวง Pink Floyd มีสิทธิ์ที่จะเลือกใครมาทำงานด้วยก็ได้ แต่ถ้าโทรถามสักนิดว่าสนใจอยากจะมาทำการรีมาสเตอร์ครั้งนี้บ้างหรือเปล่า
และคนที่ถูกเลือกเข้ามาร่วมงานรีมาสเตอร์เวอร์ชั่น SACD นี้ก็คือ James Guthrie กับ Doug Sax  ซึ่ง James Guthrie ก็รู้สึกประหม่าที่ต้องมาทำการ
มิกซ์ผลงานระดับตำนานเช่นนี้ ซึ่งแน่นอนจะต้องถูกนำเอาไปเปรียบเทียบกับความสำเร็จในอดีตจึงทำให้เขาเครียด เนื่องจากตัวเขาไม่ได้มีส่วน
ร่วมในการบันทึกเสียงในอัลบั้มชุดดั่งเดิมนี้เมื่อปี 1973 แม้ว่า James Guthire จะเป็นผู้รับหน้าที่ร่วมโปรดิวฯและเป็นซาวนด์เอ็นจิเนียร์ให้กับ
อัลบั้มชุด The Wall (1979) จนโด่งดังแถมยังได้ร่วมงานกับ Roger Water จากชุด In The The Flesh ทั้งฟอร์แม็ต SACD และ ดีวีดี

อย่างน้อย Alan Parsons มีส่วนร่วมมาให้สัมภาษณ์ในดีวีดี Dark Side of The Moon - Classic Album Series ที่ออกมาเมื่อหลายปีก่อน ดูเหมือนแกจะมีปัญหากับสมาชิกวงตั้งแต่ตอนทำอัลบั้ม Dark Side นี่แล้ว

มาสเตอร์เทปต้นฉบับของอัลบั้มชุด Dark Side of The Moon เป็นออริจินัลม้วนเทป 16 แทรคจากห้องบันทึกเสียง Abby Road Studios
พร้อมกับโน๊ตการทำงานของแต่ละวันเกิดขึ้นจริงๆเมื่อปี 1973 ถูกส่งมาให้ James ที่สตูดิโอของเขา การทำงานเกี่ยวกับอัลบั้มชุดนี้จะต้องฟรีเซ็น
มาสเตอร์ 5.1 ch.ให้กับทางสมาชิกของวงพิ้งฟอยด์ฟังด้วยก็มีการแก้ไขเพียงบางจุดตามที่ทางวงต้องการ แต่การมิกซ์หลักๆนั้น James ก็เป็นคน
ดูแลเองทั้งหมด และมีคำถามว่าทำไมเวอร์ชั่น 4 ทิศทาง Quadraphonic ที่อลัน พาร์สัน เคยทำไว้เมื่อปี 1973 ไม่ถูกนำมาใช้ทำเป็นเวอร์ชั่น SACD
ซึ่ง James ก็บอกเหตุผลว่าเป็นการตัดสินใจสมาชิกของวงไม่ให้เอาเวอร์ชั่นของอลัน พาร์สัน แต่ James ยอมรับว่าใช้เวอร์ชั่น Stereo Mix ออรินัล
ปี 1973 ของอลัน พาร์สันเป็นไกด์ในการมิกซ์เวอร์ชั่น SACD นี้และนี่เป็นที่มาของอัลบั้ม Dark Side of The Moon ที่เป็นฟอร์แม็ต DVD-Audio
ของอลัน พาร์สันได้ทำเก็บไว้ฟังส่วนตัวแต่มีการแอบเอาไปดาวน์โหลดกัน กลายเป็นฟอร์แม็ตHi-Res.ที่หาฟังยากเลยครับ

ทำไมอลัน พาร์สัน ถึงได้ทำการรีมาสเตอร์อัลบั้ม Dark Side of The Moon เป็นฟอร์แม็ต DVD-Audio ขึ้นมาฟังเอง
ภายหลังอลัน พาร์สัน ยอมรับว่าเค้าเป็นคนทำอัลบั้มชุดนี้เป็นฟอร์แม็ต DVD-Audio จริงแต่เพียงแค่อยากจะเก็บไว้ฟังเป็นส่วนตัวเท่านั้น
และไม่รู้ว่าใครเป็นคนเอาไปปล่อยดาวน์โหลด แสดงว่าอลัน พาร์สัน คงเสียใจกับการที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการรีมาสเตอร์ฉบับเวอร์ชั่น SACD
ถึงได้แอบรีมาสเตอร์อัลบั้มชุดนี้เป็นฟอร์แม็ต DVD-Audio ขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเอง

และเราก็จะได้ฟังเวอร์ชั่น Quad Mix แบบดิจิตอลอย่างเป็นทางการกันแล้วใน Dark Side of The Moon Immersion ที่จะออกอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

DISC 3 – DVD 1, ALL AUDIO: The Dark Side Of The Moon, James Guthrie 2003 5.1 Surround Mix (previously released only on SACD) in standard resolution audio at 448 kbps / The Dark Side Of The Moon, James Guthrie 2003 5.1 Surround Mix (previously released only on SACD) in high resolution audio at 640 kbps / The Dark Side Of The Moon, LPCM Stereo mix (as disc 1) / The Dark Side Of The Moon, Alan Parsons Quad Mix (previously released only on vinyl LP/8 track tape in 1973) in standard resolution audio at 448 kbps / The Dark Side Of The Moon, Alan Parsons Quad Mix (previously released only on vinyl LP/8 track tape in 1973) in high resolution audio at 640 kbps

ผมอยากฟังอัลบั้ม Dark Side of The Moon ที่เป็นเวอร์ชั่น DVD-Audio ของอลัน พาร์สันมากเพื่อจะมาเปรียบเทียบกับเวอร์ชั่น SACD ของ James
อยากรู้ว่าทางสมาชิก Pink Floyd คิดถูกหรือเปล่า

Quad Mix ใช้ 4 ลำโพง ส่วน 5.1 Surround ของ James Guthrie ใช้ 5 ลำโพง + subwoofer อีกต่างหาก รายละเีอียดน่าจะดีกว่า และใช้เทคโนโลยีในการมิกซ์ที่ทันสมัยกว่า อาจจะได้เปรียบกว่า

ไม่ใช่เวอร์ชั่น Quad Mix ครับ แต่เป็นฟอร์แม็ต DVD-Audio ที่อลัน พาร์สันทำรีมาสเตอร์เก็บไว้ฟังเอง

แล้วเราจะหาฟังไ้ด้ที่ไหนล่ะครับ?

มีกระทู้พูดคุยเรื่อง Quad Mix อยู่ที่นี่ครับ

http://www.thaiprog.net/webboard/index.php?topic=205.msg75916#msg75916

มีคนเอามาปล่อยให้ดาวน์โหลดโดยที่อลัน พาร์สันบอกว่าไม่รู้ใครแอบเป็นคนเอาไป ตอนนี้ผมกำลังหาอยู่ครับ

http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9540000060516

:)

เห็นราคากล่องพิงค์ฟลอยด์ในเวปผู้จัดการแล้ว "ตกใจ" นิดหน่อยครับ แพงกว่าที่คิดไปเล็กน้อย (ผมคิดว่าน่าจะสักสามพันห้าร้อย  ;D )

เอาน่า...รักแล้วต้องทุ่มหน่อย  :D

แต่คิดว่าถ้าพวกเวปเรารวมๆกันซื้อน่าจะถูกกว่านิดหน่อยมั้งฮะ เหมือนตอนที่ซื้อกล่องเต่าทอง  ;)

ผมว่าราคาที่เว็บผู้จัดการประเมินไว้น่าจะต่ำกว่าความเป็นจริงด้วยซ้ำครับ เอาเป็นว่ารอราคาเป็นทางการอีกที ส่วนเรื่องส่วนลดผม(หวังว่า)คงพอช่วยได้เหมือนครั้งที่แล้วครับ

ราคาใน amazon.com กับ amazon.uk ต่างกันนะครับ แปลกดีเหมือนกัน
ราคาใน manager น่าจะิอิงจาก amazon.com ครับ

ปล พาดหัวใน manager ก็ถือว่าทันเหตุการณ์ในเรื่องของ format ที่ใกล้จะตายนะครับ

บางประโยคนี่ ผมอ่านแล้วรู้สึกใจหายเลยครับ  :'(

สักวันนึงที่เทคโนโลยีก้าวไปเรื่อยๆ อาจจะถึงขั้นมีไฟล์ที่เป็นโฮโลแกรม จำลองพิงค์ฟลอยด์ตัวเป็นๆแบบ 4D มาเล่นโชว์ที่บ้านด้วยเสียงระดับ master จากห้องอัดต้นฉบับก็เป็นได้

ถึงวันนั้นขึ้นมาจริงๆ

จองวงนี้ฮะ
เยอะดี
ตาลาย

(http://i345.photobucket.com/albums/p371/turn_back/gg09.gif)

amazon.uk เวลาซื้อจริง เขาลดราคาให้โดยอัตโนมัติอีกนะครับ (ยังไม่เคยคำนวณดูว่า คิดเป็นกี่ %) และคิดค่าส่งพวก boxset ตามจำนวนชิ้น คือต่อให้เป็น boxset ใหญ่ๆ ที่บรรจุแผ่นเสียง 4 แผ่น ซีดี 4 แผ่น ดีวีดี 1 แผ่น หนังสือ 1 เล่ม ก็คิดค่าส่งเท่าซีดี 1 แผ่น ไม่ใช่คิดตามน้ำหนักของกล่อง ภาษีก็ไม่เก็บ ตอนนี้ ผมเลยสั่ง boxset ที่หมายตาไว้ตั้งแต่อยู่เมืองไทยมาหลายกล่องเลยครับ

ถ้าเลือกได้ควรจะซื้อกล่องของพิงค์ฟลอยด์ที่ผลิตใน USA หรือว่า UK ดีครับ ?

อ๋า ใช่ครับ ๆ amazon.uk จะลดราคาจากหน้าป้ายราคาอีกที
รอดูราคาใกล้ ๆ อีกทีครับ

ปกติพวก Box set แบบนี้มักจะผลิตจากที่เดียวแล้วส่งขายทั่วโลกแม้แต่ญี่ปุ่นครับ อย่างกล่อง Shine On สมัยก่อนที่ขายในญี่ปุ่นก็เป็นแผ่นอเมริกาเพียงแต่นำไปใส่ japanese booklet และโอบิเพิ่ม ส่วนกล่อง Oh By The Way เมื่อไม่นานมานี้ก็เช่นกันคือแผ่นผลิตในฮอลแลนด์ส่งไปขายที่อเมริกาและญี่ปุ่น ที่ญี่ปุ่นใส่ Japanese booklet และเพิ่มสติ๊กเกอร์ภาษาญีุ่ปุ่นแล้วขายแพงๆ The Beatles Stereo Box ก็เหมือนกันผลิตในเยอรมัน ฉะันั้น Pink Floyd Immersion เซ็ทนี้ผมว่าผลิตในยุโรปแล้วส่งขายทั่วโลกครับ

มียกเว้นนะครับ คุณ TRON เพราะ Vinyl Box Clapton/Winwood มีผลิตคนละประเทศด้วยครับ

ครับ ผมไม่ได้หมายถึงทุกกล่องครับ ส่วนใหญ่มักจะเป็น box ที่รวมทุกอัลบั้มแบบล๊อตใหญ่ๆเช่น Oh By The Way, The Bealtes หรือที่ limited จริงๆและเน้นที่เป็นซีดีครับ

Trailer ของ Dark Side of The Moon Immersion Box Set ครับ

http://www.youtube.com/watch?v=pGyZvtRw4sw

จัดไปอีก official clip แบบ Hi-Def

http://www.youtube.com/watch?v=uZqS7LAyup4

ผมคนนึงหละนะ

http://www.youtube.com/watch?v=1O-y6fv9FLc

 :'(

คิดถึงเหมือนกันครับ พอเห็นทั้ง 3 มายืนด้วยกันแบบนี้ แต่มองอีกมุมนึง ถ้าริคไม่เสียชีวิตไปก่อน เดฟอาจไม่มาคืนดีกับโรเจอร์แบบนี้ก็ได้ครับ

ลองตามไปดูซิครับ ว่าเค้ากำลังทำอะไรอยู่  ;D  ;D  ;D

ขอแลกในทางกลับกันครับ (ถ้าเป็นไปได้)  :'(

เพื่อนกินเพื่อนกัน
เพื่อนรู้ไม่ทัน เพื่อนกันเอาไปกิน
เวลากินก็กินกัน
แต่อย่ากันเวลากันจะกิน(มั่ง)  :'( :'( :'(

รักเพื่อนให้เยอะๆ นะฮะทุกท่าน

เมื่อก่อนนี้
เพื่อนกินหาง่าย เพื่อนตายหายาก

ปัจจุบันนี้
เพื่อนกินหาง่าย เพื่อนตาย(แทบ)ทุกเดือน  :'( :'( แม่มมาน ใครว่าเพื่อนตายหายากฟะ

เพราะเพื่อนตาย หาง่ายขึ้น
เพื่อนกิน เลยหายากขึ้นไงครับพี่ :D

ด้วยเหตุผลประการะฉะนี้ ก็เลยต้องกินกันบ่อยๆ งัยครับ จะได้เจอหน้าและพบปะกันมากขึ้น เวลาเพื่อนตายจะได้
ไม่เสียดายเวลาที่ผ่านมา...

ก็แล้วแต่คนคิดนะครับ แต่สำหรับผมอยู่ประจำการตลอดครับ พร้อมด้วยผู้พิพากษาและนักดนตรีรุ่นใหญ่  ;D  ;D  ;D

ผมมีท่านผีฯเป็นเพื่อนตาย
เพราะขึ้นชื่อว่าผีก็คือคนที่ตายแล้ว
แค่ฮานะครับ... อย่าซีเรียส :D

Behind the Scenes of the Pink Floyd Reunion

By PATRICK DOYLE
MAY 18, 2011 11:40 AM ET

When Pink Floyd drummer Nick Mason got to London's O2 arena last week, he had no idea that he'd be walking into David Gilmour and Roger Waters performing "Comfortably Numb" in a soundcheck for Waters' show that night. "It hadn't ever been quite finalized – there'd been talk about maybe playing in Paris or something else," Mason tells Rolling Stone. "So it was very nice to get there and see that [David] was there."

Later, the three remaining members of Pink Floyd performed on stage together for only the second time in the last 30 years, and the first since 2005's Live 8 concert. "It was really nice to be sort of part of it and to show support for Roger, not that he really needs it," Mason says of Thursday night's show, at which the three played "Outside the Wall." "I suppose it's nice to have Roger wanting to register David and myself as part of it, in a way. It was sort of a mutual thing: it was nice to be recognized but also very nice to lend support to Roger and make it clear that we're not sort of punching it out in these auditoriums. We're not critical of him doing it."

Pink Floyd Reunite at Roger Waters Show in London

After soundcheck, the three took seats at a table in a backstage room and had a light dinner. "We were all just a little bit nervous, because it was a pre-show moment so it wasn't that sort of totally relaxed, 'Let's all chat about everything.' Since [David] hadn't played the track in so long, he was probably worried about the technology of lifting him up on the Wall. It's quite scary up there – I've been up there once and it's a long way up."

Next, Mason retreated to his seat on the floor of the arena, where fans greeted him enthusiastically, and watched The Wall for the first time as a spectator. "It was mind-blowingly good," he says. "It's a shame in a way . . . if you could turn the clock back and have access to that sort of technology, 40, 30 years ago, it would've been fantastic. I mean, it's interesting because I think The Wall has been brought up to date. When you look at the stage sets and the lighting that goes on now, it so eclipses what we used to do."

Pink Floyd Announce Massive Reissue Project

Gilmour's performance of "Comfortably Numb" went off magnificently. Then at the end of the show, Waters invited Gilmour (this time with a mandolin) and Mason (with a tambourine) for "Outside the Wall," which he he'd been asked to do just half an hour before the show. Onstage, Waters put his arm around Mason and swayed with him. "He very nearly knocked me over," Mason says. "I thought he was going to throw me off the stage."

Were any more words exchanged backstage after the show? "You mean apart from 'Fuck off.  I hate you?' 'I never want to see you again?' No."

The news spread like wildfire online, which baffles Mason. "Incredibly, it's just three old blokes getting together for a moment, really odd. But if that's what people like then, that's great." And naturally, it reignited hope for a reunion. As it stands, Gilmour is the only holdout for a reunion of the band's living members. Mason and Waters have said they were open to more band activity after reforming at Live 8 in 2005.

"I think particularly at the moment David has other issues to worry about," Mason says. "But also people change from when they are interested in doing something to when they're not. I think that we will just have to wait quietly to see if Dave ever does come around to it. I think there is an outside possibility even if it's, you know, another Live 8."

The drummer will be at tonight's show at the O2 to see the Wall again, but don't expect him onstage. "It was a very nice thing to do but it could become a bit cliché if we kept climbing to the top of the Wall and kept hugging each other onstage. I mean, I think enough is enough. I mean, we're English after all. We don't do that hugging thing a lot."

www.therollingstone.com

ผมว่าในบรรดาสมาชิกทุกคนของพิงค์ฟลอยด์ Rick Wright ดูจะเป็นคนที่ไน้ซ์และสงบเสงี่ยมที่สุดนะฮะ

ตกลงที่ญี่ปุ่นก็ออกและน่าจะเป็นแผ่นผลิตในญีุ่ปุ่นเลยนะครับ แต่ราคาเท่าตัวเลย

http://www.cdjapan.co.jp/list_from_code_banner.html?key=136844

Imported บ้านเราเปิดให้จองเมื่อไหร่ รบกวนแจ้งกันให้ทราบด้วยนะครับ  :)

ในกรณีถ้าเรารวมกันหลายๆกล่องแล้วซื้อพร้อมกันได้ถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป ผมจะตั้งกระทู้ลงชื่อสั่งซื้อไว้ต่างหากตอนใกล้ๆอีกทีครับ

ดีครับ

ขอบคุณล่วงหน้าไว้ก่อนเลยครับ

นิค เมสัน ขับ Enzo Ferrari

รวยโคตรรรรรร

(ดูตอนท้ายๆ คลิบ นิค ขับเฮลิึคอปเตอร์ ด้วย 555)

http://www.youtube.com/watch?v=f7jsauspMmU

We listen to some previously unreleased tracks from the forthcoming Immersion Edition box sets
Superdeluxeedition were treated to an exclusive preview of Pink Floyd’s forthcoming Dark Side of the Moon, Wish You Were Here and The Wall Immersion box sets last week.


We headed down to Astoria, David Gilmour’s amazing boat house studio in South West London, and met with both Andy Jackson (Floyd recording engineer since 1982) and Phil Taylor (Studio Manager and sometime Gilmour guitar tech) to talk about, and most importantly listen to, the newly remastered material, including Shine On You Crazy Diamond in hi-res surround sound, an early version of Another Brick in the Wall, and Money live from 1974.

Astoria is a very impressive 100-year old vessel, built originally by impresario Fred Karno (he discovered Charlie Chaplin and Stan Laurel) to be “the best houseboat on the Thames”. It has a top deck designed to house a 90 piece orchestra! Gilmour has owned it since 1986 and turned it into a state of the art recording studio, while maintaining all the original features and interior furnishings. Most of A Momentary Lapse of Reason, The Division Bell and his recent solo album On An Island were recorded on the boat. Many artists have recorded at Astoria including Muse, Jeff Beck, Ian Brown and Ringo Starr.

In a fascinating Q&A session with Andy Jackson, we learnt some interesting facts about some of Pink Floyd’s most famous recordings:

• During the Dark Side of the Moon sessions, the band literally ran out of tracks on the 2″ 16-track machine they were working with. The drums had to be copied across and mixed down to a 24-track machine, so all issues of Dark Side of the Moon have had second generation drums until James Guthrie’s 2003 remaster where he laboriously tracked down the original 16-track tapes and sourced the drums from the original tapes.
• When recording the Dark Side of the Moon live concerts, their were various technical problems, including the kick-drum being mic’d up incorrectly, meaning that non of that drum was recorded on tape. However spill from other mics picked it up slightly, and engineers were able to accurately recreate the kick-drum for the remastered live recordings.
• During the research period for the reissues, the original tapes of the famous Dark Side of the Moon “interviews” were found including – amongst many others – Paul and Linda McCartney’s voices and Wings’ Guitarist Henry McCullough, whose “I don’t know; I was really drunk at the time” can be heard at the end of Money. Since the engineers now had access to the original isolated tapes we can apparently look forward to a DVD ‘Easter egg’ which will make use of some of this audio!
• The original working title for Dark Side of the Moon was Eclipse and The Great Gig in the Sky had the working title of  ”the religious section”, while On The Run was known as “the travel section”. These fitted in with the ‘big’ themes of the album money, time etc.

After tea and biscuits and our tour of the boat, we settled in our chair behind the massive mixing desk, right in the middle of state of the art 5.1 monitoring speakers. Andy Jackson pressed ‘play’ on the BluRay player and we heard an amazing selection of tracks which will all be released on the forthcoming box sets. Below is a summary of what we heard, where the tracks can be found on the forthcoming releases and a brief description of the audio/video.

Time (5.1 Surround)
Available on Disc 3 and 5 of forthcoming Dark Side of the Moon Immersion Edition

Although previously available on the Dark Side of the Moon SACD this track nonetheless sounded incredible played from a BluRay disc, booming out through the 5.1 control room speakers of Gimour’s studio. Those clocks never fail to get you.

Shine On You Crazy Diamond Screen Film (5.1 Surround)
Available on Disc 4 and 5 of forthcoming Wish You Were Here Immersion Edition

Since the 5.1 Wish You Were Here mix is the stuff of legend, this was always going to be a highlight. The combination of seeing the cleaned up Screen Films and hearing Shine on You Crazy Diamond in Surround Sound was incredible! The 5.1 mix is amazing with full use of rears and centre channels.

The Great Gig in the Sky (Original 1972 Mix)
Available on Disc 6 of forthcoming Dark Side of the Moon Immersion Edition

An early version without any of the familiar vocals. A man’s voice shouting from a megaphone is heard instead and this version is quite heavy on the Hammond Organ. The structure is very much intact.

Wish You Were Here featuring Stephane Grappelli (previously unreleased)
Available on Disc 2 of forthcoming Wish You Were Here Immersion and Experience Editions

An early version of the track with the violinist Stephane Grappelli who was recording in the same studio at the time. The violin comes in after the line “And did you exchange a walk on part in the war for a lead role in a cage” and plays for a few minutes with a folky twang. An interesting experiment, but ultimately the band chose to go in a different direction, which to these ears was the right choice.

Welcome to the Machine Screen Film (5.1 Surround)
Available on Disc 4 and 5 of forthcoming Wish You Were Here Immersion Edition

This amazing in 5.1. The first acoustic guitar chimes in on the front speakers, the second on the rear right and third on the rear left. It’s a very busy surround mix and works brilliantly with the animated film which looks very clean.

Money (Live at Wembley 1974 – previously unreleased)
Available on Disc 2 of forthcoming Dark Side of the Moon Immersion and Experience Editions

Dark Side of the Moon Live is available as disc 2 on the cheaper Experience Edition as well as on the Immersion Edition. This rendition of Money sounds excellent with lots of clarity and quite accurately recreates the studio version.

Another Brick in the Wall (Part One) “Work in Progress”
Available on Disc 3 or 4 of forthcoming The Wall Immersion Edition

Some lyrical changes in this early version. Fascinating to hear the song in development. Still quite full sounding not really a demo in any way.

Careful with That Axe Eugene (Video) (Live from Brighton Dome 1972)
Available on Disc 4 and 5 of forthcoming Dark Side of the Moon Immersion Edition

Footage is cleaned up incredibly well. Gilmour looks as cool as ever, while Waters looks quite manic.

Comfortably Numb (from Is There Anybody Out There: The Wall Live)
Available on Disc 6 of forthcoming The Wall Immersion Edition

Released before of course,  but this 2011 remaster sounds better than ever.

We left wanting to hear more, but will have to wait patiently for September when Dark Side of the Moon and Wish You Were Here are released in all their multitude of configurations. The Wall of course will not be out until February 2012.

Before we left, Andy Jackson suggested a follow-up session to cover any further questions. This is your opportunity. If any Floyd fans out there have any questions around these reissues then please leave as a comment at the end of this post and we will collate them and try to put as many as we can to Andy and issue an update at a later stage.

อย่าลืมนะครับ ใครที่สนใจ Dark Side of The Moon - Immersion Box Set (CD,DVD,Blu-ray,Book etc.) ไว้ใกล้ๆผมจะเปิดกระทู้ให้ลงชื่อสั่งซื้อนะครับ หวังว่าจะได้ราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดครับ ขออัพชื่อคนที่สนใจไว้ก่อนนะครับ

Pong-Wanchai
เพชร วิปลาส
panyarak
JKNoremorse
อั๋น501

เอาด้วยครับผม

เอามาให้ดูอีกทีเผื่อใครยังไม่ทราบข่าวครับ

DARK SIDE OF THE MOON - IMMERSION BOX SETS (3 CDs + 2 DVDs + 1 Blu-ray) Release date September 26th, 2011

These are lavishly packaged editions that come with the same content as the Experience editions, but with additional discs (including various DVDs and Blurays) along with other specially designed goodies within the sturdy boxes...

(http://i324.photobucket.com/albums/k328/sithichai/im-darkside.jpg)

DISC 1 - CD1: The original album with digitally remastered by James Guthrie, and are reissued with newly crafted packaging and multi-page booklets created by the band's long-time artwork collaborator Storm Thorgerson.

DISC 2 - CD:2 AUDIO features the November 1974 Wembley concert recording by the BBC of The Dark Side of the Moon.

DISC 3 - CD3: The Dark Side Of The Moon 1972 Early Album Mix engineered by Alan Parsons (previously unreleased) / The Hard Way (from ‘Household Objects’ project) / Us And Them, Richard Wright Demo (previously unreleased) / The Travel Sequence, live from Brighton June 1972 (previously unreleased) / The Mortality Sequence, live from Brighton June 1972 (previously unreleased) / Any Colour You Like, live from Brighton June 1972 (previously unreleased) / The Travel Sequence, studio recording 1972 (previously unreleased) / Money, Roger Waters’ demo (previously unreleased)

DISC 4 – DVD 1, ALL AUDIO: The Dark Side Of The Moon, James Guthrie 2003 5.1 Surround Mix (previously released only on SACD) in standard resolution audio at 448 kbps / The Dark Side Of The Moon, James Guthrie 2003 5.1 Surround Mix (previously released only on SACD) in high resolution audio at 640 kbps / The Dark Side Of The Moon, LPCM Stereo mix (as disc 1) / The Dark Side Of The Moon, Alan Parsons Quad Mix (previously released only on vinyl LP/8 track tape in 1973) in standard resolution audio at 448 kbps / The Dark Side Of The Moon, Alan Parsons Quad Mix (previously released only on vinyl LP/8 track tape in 1973) in high resolution audio at 640 kbps

DISC 5 - DVD 2, ALL AUDIO VISUAL: Live In Brighton 1972: Careful With That Axe, Eugene (previously unreleased on DVD) / Set The Controls For The Heart Of The Sun (previously unreleased on DVD) / The Dark Side Of The Moon, 2003 documentary (25 min EPK) / Concert Screen Films (60 min total): British Tour 1974, French Tour 1974, North American Tour 1975. Screen films play in stereo and 5.1 Surround Sound

DISC 6 – BLURAY, AUDIO+AUDIO VISUAL: The Dark Side Of The Moon, James Guthrie 2003 5.1 Surround Mix (previously released only on SACD) in high resolution audio at 96 kHz/24-bit / The Dark Side Of The Moon, Original stereo mix (1973) mastered in high resolution audio at 96 kHz/24-bit / Live In Brighton 1972: Careful With That Axe, Eugene (previously unreleased on DVD/BluRay) / Set The Controls For The Heart Of The Sun (previously unreleased on DVD/BluRay) / The Dark Side Of The Moon, 2003 documentary (EPK) / Concert Screen Films (5.1 Surround Mix): British Tour 1974, French Tour 1974, North American Tour 1975 / Concert Screen Films (High Resolution Stereo Mix): British Tour 1974, French Tour 1974, North American Tour 1975

This all comes with a 40 page 27cm x 27cm booklet designed by Storm Thorgerson, an exclusive photo book edited by Jill Furmanovsky, an exclusive Storm Thorgerson Art Print, 5 x Collectors' Cards featuring art and comments by Storm Thorgerson, replica of The Dark Side Of The Moon tour ticket, replica of The Dark Side Of The Moon backstage pass, scarf, 3 x black marbles, 9 x Coasters (unique to this box) featuring early Storm Thorgerson design sketches, and a 12 page credits booklet.

Updated คนที่สนใจครับ

Pong-Wanchai
เพชร วิปลาส
panyarak
JKNoremorse
อั๋น501
Agent Fox Mulder
lalink

+ lalink ด้วยครับ   ;D

เห็นข่าวช่วงวันหยุดว่า นักศึกษามหาวิทยาลัยเคมบริดจ์และนายแบบชื่อ Charlie Gilmour ซึ่ง David Gilmour รับเป็นบุตรบุญธรรม ตอนแต่งงานกับแม่ม่ายลูกติด Polly Samson ถูกศาลตัดสินจำคุกข้อหาขว้างกระป๋องใส่ขบวนรถของเจ้าฟ้าชายชารล์ส ทุบกระจกร้านค้า และโหนตัวอยู่บนอนุสรณ์สงคราม Cenotaph เขาหันไปหาสุราและยาเสพติดตั้งแต่ถูกบิดาที่แท้จริงปฏิเสธว่าเป็นลูก ก่อนก่อเหตุข้างต้น

วันนี้แวะไปที่ร้าน Music Concept ที่ CTW ได้เห็น Fender Precision Bass รุ่น Roger Waters วางโชว์อยู่หน้าร้านด้วย
สวยงามและดูมีเอกลักษณ์ดีจริงๆ ครับ อยากมีเงินเหลือใช้บ้างจัง จะได้เอามาซื้อเก็บไว้ ไม่เล่นก็ไม่เป็นไร เพราะวางโชว์มันก็สวยแล้ว

ไว้ต้องหาเวลาแวะไปดูเสียหน่อยแล้ว

สิ่งที่เหมือนกันอย่างนึง ของทั้ง Black Strat ของเดฟ และเบสสีดำของโรเจอร์คือ การที่บอดี้ของทั้งกีตาร์และเบสเป็นสีดำ ปิ๊กการ์ดดั้งเดิมที่ติดมากับ Fender จะเป็นสีขาวทั้งคู่ แต่พอช่วงประมาณปี 1974 นาย Phil Taylor ก็เอาทั้งกีตาร์ของเดฟและเบสของโรเจอร์มาเปลี่ยนปิ๊กการ์ดเป็นสีดำเหมือนกันทั้งคู่เลย หลังจากนั้นเป็นเวลากว่าสามสิบปี ทั้งสองคนก็ไม่เคยเปลี่ยนปิ๊กการ์ดเป็นสีอื่นอีกเลย และทำให้กลายเป็นเอกลักษณ์ของทั้งคู่ไปแล้ว ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่าเคยมาจากวงเดียวกัน

แบบนี้ต้องสะสมเป็นคู่ แต่ไม่อยากถามราคาเลย

เบสของโรเจอร์ไม่น่าเกินสี่หมื่นบาท เพราะเป็น Production Line ปรกติ และเป็นซีรี่ย์ที่ผลิตใน Mexico ด้วย
แต่ถ้า Black Strat ของเดฟจะมีสองเวอร์ชั่น ถ้าเป็น NOS Version ประมาณแสนต้นๆ ส่วนถ้าเป็น Relic น่าจะประมาณแสนปลายๆ ครับ

ดูราคาเหมือนบารมีต่างกัน แต่ก็เข้าใจได้อยู่แล้วว่าเดฟเป็นหนึ่งในตำนานกีตาร์ในวงการ ไม่เหมือนโรเจอร์ที่เด่นเรื่องการประพันธ์ไม่ใช่การเล่นเบส

รบกวนบวกผมด้วยอีก 1 ครับ   :D

Updated คนที่สนใจ DSOTM Immersion ครับ

Pong-Wanchai
เพชร วิปลาส
panyarak
JKNoremorse
อั๋น501
Agent Fox Mulder
lalink
อาโนลด์ เลนย์

:)

ราคาประมาณเท่าไหร่ครับ
มีคนฝากถามมาจ้า..

ราคายังไม่ออกครับ รู้แต่ถ้าเรารวมๆกันมันน่าจะได้ถูกกว่าร้านทั่วไปครับ ลงชื่อไว้ก่อนก็ดีจะได้รู้จำนวนไปต่อรองครับ

ในนี้ไม่มีอะไร "มินิ" เลยนะครับพี่  ;D

ผมเอาด้วยครับ

Updated คนที่สนใจ DSOTM Immersion ครับ

Pong-Wanchai
เพชร วิปลาส
panyarak
JKNoremorse
อั๋น501
Agent Fox Mulder
lalink
อาโนลด์ เลนย์
kongbei

ล่าสุด  cd japan  Pre-Order Sold Out  ไปเรียบร้อยแล้ว 

กะไว้ใกล้ๆ  ค่อยสั่ง  ไม่ทันซะแล้ว   :-[



http://www.cdjapan.co.jp/detailview.html?KEY=TOCP-71165

ใจถึงนะครับที่กล้าสั่งจาก cdjapan ทั้งๆที่เป็นแผ่นผลิตใน EU แต่ราคามหาโหดแถมโดนภาษีแน่ๆ :D

Reissue release from Pink Floyd featuring the latest digital remastering by James Guthrie and new artwork by Storm Thorgerson. This edition includes unreleased track(s), unreleased performance footage, and more. *Non Japan-made disc. *Unless otherwise indicated, DVDs are region-2 encoded (Japan, Europe, and Middle East), and carry no subtitles.

(All product details, including availability, images, language(s), special features, and bonus extras, are subject to change without prior notice. Actual item weight may be different from the one indicated above.)

ขอจองด้วยคนครับ

Updated คนที่สนใจ DSOTM Immersion ครับ

Pong-Wanchai
เพชร วิปลาส
panyarak
JKNoremorse
อั๋น501
Agent Fox Mulder
lalink
อาโนลด์ เลนย์
kongbei
Shineon

ไม่ได้สังเกต  นึกว่าเป็นแผ่นญี่ปุ่น  เกือบไป  ;D

+ raylee ด้วยคนครับ

ขอคั่นจังหวะ Immersion Boxset ซักครู่นะครับ

ผมว่า Official Live at O2, London คงได้ฤกษ์ออกเร็ว ๆ นี้ แหง๋ม ๆ
ตอนนี้ขอ Bootleg อาละวาดก่อน

http://www.nexttime.jp/product/2271

ผมกำลังจะ "สอย" พอดี แต่คิดว่า "หยุด" ก่อนดีกว่า เพราะอย่างที่ คุณJKNoremorse บอกนั่นแหละครับ  ;D

Pink Floyd soundtracked More gets UK DVD/Blu-ray release
Written by Matt     
Wednesday, 03 August 2011

(http://i324.photobucket.com/albums/k328/sithichai/more_df_packshot.jpg)

Barbet Schroeder created a sensation when his controversial first feature More, boosted by Pink Floyd's involvement, opened in 1969, and it quickly became a cult classic. Coming to Blu-ray for the first time on September 19th 2011, it is released by the BFI in the UK, in a Dual Format Edition (a DVD is included in the case) along with a newly commissioned documentary on the story behind it.
The synopsis of the film is as follows: "With his exams a distant memory, German student Stefan (Klaus Grünberg) burns his bridges and hitchhikes across Europe in pursuit of adventure and the warm southern sun. Seduced by the offbeat crowd he encounters in Paris – among them the shyly seductive Estelle (Mimsy Farmer) – Stefan is soon flying dangerously close to disaster." The film is famous for its subdued, moody Pink Floyd soundtrack, featuring some of their most loved songs from that era, including Green is the Colour, Cymbaline and The Nile Song.
The release is presented in both High and Standard Definition, and features a Director-approved High Def transfer from original film elements. There's also Making More (2011, 17 mins, DVD only), a newly commissioned documentary on the story behind the film, theatrical trailers for Schroeder's More, 1972's The Valley (which also has a Floyd soundtrack) and 1975's Maîtresse, and the package is completed with an illustrated booklet with new essays, biographies and notes on the soundtrack.

www.brain-damage.co.uk/

ขอปิดรับการสั่งจอง Dark Side of The Moon - Immersion Box นะครับ

Pong-Wanchai
เพชร วิปลาส
panyarak
JKNoremorse
อั๋น501
Agent Fox Mulder
lalink
อาโนลด์ เลนย์
kongbei
Shineon
raylee

ผมยังถอนตัวทันมั้ยครับ เพราะสั่งจองไปเองแล้วให้ส่งที่กาตาร์

ทันครับ ใครจะถอนตัวแจ้งมาได้เลยนะครับ แต่ผมไม่ขอรับใครเพิ่มอยู่ดีนะครับ กลัวเกินโควต้าครับ

มาดูกันชัดๆอีกทีสำหรับ DSOTM Immersion Box

http://www.youtube.com/watch?v=LVp4UzMsLn0

แถม trailer ของ WYWH มาให้

http://www.youtube.com/watch?v=F2g4RFPqTeI

ได้ชมวีดีโอแล้วตื่นเต้นมากทีเดียวครับ ของแถมเยอะมาก หวังจะให้คุณภาพของของแถมออกมาดีๆ ด้วยแล้วกัน

ใครเป็นแฟนวงนี้แล้วดูวีดีโอนี้ไปแล้วไม่เสียตังค์ นับถือว่าใจแข็งมากจริงๆ ครับ

ผมเสี่ยงดวง สั่งไปแล้วนะครับ ชอบลุ้นน่ะครับ :D

ตอนนี้หวั่นใจลึกๆว่าไอ้แบบ Immersion นี่มันจะออกทุกชุด โดยทยอยออกไปเรื่อยๆอีกซัก 5-6 ปีอะไรแบบนี้ เพราะทิ้งทวนกันก็ต้องเต็มที่และยาวนานกันหน่อย

ถ้าเค้าทำอย่างนั้นจริง ผมว่า เค้าน่าจะออกไล่มาตั้งแต่ Piper เป็นช่วงเวลาขึ้นไปนะครับ ไม่น่าออกตูมมาทีเดียวเป็นสามอัลบั้มมาสเตอร์พีซอย่างนี้ (แบบ Neil Young, Queen อะไรแบบนั้น)

แต่ก็ไม่แน่นะ เป็นไปได้ว่าพวก Meddle, Animals ก็มีแววนะครับ สองชุดนี้มีโอกาสมากกว่าชุดอื่นๆ แต่ถ้าให้ออกทั้งแคตตาล็อคเหรอ... ผมว่าเสี่ยงไปนิด

พวกบ๊อกเซตนี่น่าจะแถมเสื้อมาให้สักตัวนะครับ สกรีนลายพิเศษมาให้หรืออย่างน้อยเป็นปกอัลบั้มก็ยังดี
ไม่ทราบว่าเคยมีวงไหนแถมเสื้อมาในบ๊อกเซตบ้างครับ

ผมว่าแหย่ๆดูกระแสจากชุดที่ขายได้แน่ๆก่อน แล้วถ้ามันตอบรับดีๆค่อยออกชุดที่น่าจะขายได้ตามมาเรื่อยๆ

ผมว่าถ้าออก Piper มาก่อนอาจขายได้น้อยและอาจทำให้ฟอร์แมทกระแสจับต้องได้เลือนหายเสียก่อนกว่าจะถึง DSOTM แต่ถ้าออก DSOTM, WYWH, The Wall มาก่อนต้องขายได้ถล่มทลายแน่ๆ แล้วคนที่ซื้อไปก็อาจอยากคิดสะสมให้ครบอีกที ออกทุกชุดผมว่าไม่เสี่ยงหรอกครับระดับ Pink Floyd เพราะอีกหน่อยไม่มีอะไรที่จับต้องให้ซื้ออีกแล้ว แต่ผมว่าถ้าออกอัลบั้มอื่นๆอีกที่ไ่ม่เด่นมากตามนี่น่าจะผลิตออกมาน้อยกว่าพวกอัลบั้มเด่นๆกว่าครึ่งเลย แฟนๆพันธ์แท้มีมากมายในโลกต้องรีบจองกันก่อนอยู่แน่นอน

ขนาด Japan mini lp ของ Genesis ชุดตลาดๆอย่าง Genesis, Invisible Touch, We Can't Dance กลับหายากและมีราคาสูงกว่าชุดคลาสสิคทั้งหลาย เพราะมันผลิตมาน้อยเพราะคาดว่าคงมีคนซือไม่มาก เลยทำให้หายากสุดๆใครอยากเก็บให้ครบทีหลังก็ต้องรอคอยคนมาปล่อยและต้องยอมจ่ายแพง

ที่จำได้ก็มี Metallica - Death Magentic รวมทั้ง Metallica - Fancan ทั้งหลายของแฟนคลับด้วย รวมทั้งวง Korn ที่ออกชุดใหม่ก็จะมีแบบ box set แถมเสื้อด้วยครับ

อ้อ เข้าใจแล้วครับ เรียกว่าออกมาสเตอร์พีซสามชุดนี้มาก่อนเพื่อเก็บลูกค้าวอลลุ่มใหญ่ (และอาจเรียกแฟนใหม่+กระแสเพิ่มได้ด้วย) แล้วค่อยออกชุดรองๆ มาเพื่อเก็บแฟนพันธุ์แท้อีกที ช่างเป็นการตลาดที่ชาญฉลาดจริงๆ

ใจกล้าดีนะครับ ผมเคยสั่งกล่องๆจากนอกแล้วเจอกล่องบุบที่มุมระหว่างขนส่ง เป็นประสบการณ์ที่ไม่อยากเจออีกเลยครับ

Yes - Fly From Here
Silversun Pickups - Swoon
The Jimi Hendrix Experience - Fanpack: Live 1967/68 Paris/Ottawa

ข่าวล่าสุดราคา DSOTM Immersion อาจไม่แรงอย่างที่คิดครับ

อุตส่าห์ ทักแล้วนะครัฟ
เรื่องขอแถมไร้สาระ
ลูกแก้ว ลูกหิน
ไม่ได้ตังค์ผมหรอกงานนี้
พี่พิงค์ฟลอยด์  :D

ของผมมีคน "หิ้ว" มาให้แล้วครับ เดือนตุลาคม จะมาถึงมือแน่นอน  :D  :D  :D

สั่งจากไหนกันครับ whypinkfloyd , amazon ??

รอซื้อในบ้านเรานี่แหละครับ

amazon ครับ

Updated ครับ มีใครในลิสต์นี้ที่ไม่ต้องแผ่น blu-ray ซึ่งมี content ที่ซ้ำกับ dvd 2 แผ่นในกล่องนี้ก็แจ้งได้นะครับ

เพชร วิปลาส
JKNoremorse
อั๋น501
Agent Fox Mulder
lalink
อาโนลด์ เลนย์
kongbei
Shineon
raylee

ราคาจะลดลงหรือเปล่าครับ

ถามเป็นข้อมูลเฉยๆนะครับ เพราะตั้งใจซื้อบ๊อกมาแล้วก็ต้องการให้มันครบทั้งหมดอยู่แล้ว  ;)

ผมก็ถามเผื่อไว้เพราะมีคนรู้จักที่เขาสนใจแต่แผ่น blu-ray อย่างเดียวที่เขารับซื้อ ราคาก็ต้องคุยกันอีกทีครับ

เนื่องจากช่วงนี้กระแสแคมเปญ WHYPINKFLOYD กำลังมาแรง ทำให้มีนิตยสารหลายเล่มลงบทความและบทสัมภาษณ์เกี่ยวกับ DSOTM และ WYWH เพื่อเป็นการต้อนรับ Immersion Box Set ของทั้งสองอัลบั้มนี้ ใครสนใจก็ไปหาซื้อได้ตามร้านหนังสือต่างประเทศทั่วไป เช่น Asia Books, Kinokuniya นะครับ

เล่มแรกคือ Classic Rock ของเดือน September ปก AC/DC ฉบับนี้ห่อซองพลาิสติกไว้ ตัวหนังสือเล่มหลักไม่ได้มีอะไรเกี่ยวกับพิงค์ฟลอยด์เลย แต่มีของแถมคือหนังสือเล่มเล็ก 24 หน้า ที่ลงเรื่องราวของอัลบั้ม DSOTM กับ WYWH อย่างละครึ่งเล่ม เขียนโดย Glenn Povey ครับ

เล่มที่สองคือ MOJO ของเดือน October ปกเป็นพิงค์ฟลอยด์เลย โดยลงบทสัมภาษณ์ล่าสุดของเดฟและนิค ประมาณ 12 หน้า เกี่ยวกับอัลบั้ม DSOTM กับ WYWH เช่นกัน นอกจากนั้นยังมีของแถมคือซีดีคัฟเวอร์เพลงจาก DSOTM กับ WYWH แบบยกชุด โดยศิลปินหน้าใหม่ (แต่ผมฟังรอบเดียวก็ไม่คิดจะฟังซ้ำแล้ว ด้วยเหตุผลว่าไม่ถูกกับซาวน์แบบนี้)

(http://i237.photobucket.com/albums/ff55/basnaphon/Picture055_resize.jpg)

ต้องซื้อเก็บละ

(http://i324.photobucket.com/albums/k328/sithichai/61VgeKF1nNL_SS500_.jpg)

The box set runs to seven discs, including the original album along with the live recording, Is There Anybody Out There, both remastered, along with a DVD containing various items of interest. Up until now, details of the two final discs, holding album demos, have been sketchy at best, but as you'll see below, they contain over 60 demo tracks which will surely make this a hugely attractive proposition to Wall fans...
There's three different demo flavours on offer: Roger's original demo, presented to the band alongside the demo for Pros & Cons for them to choose between; band demos; and David's own demos for a couple of the tracks. There's some really interesting track names and even inclusions (such as Sexual Revolution, later to appear on Pros), and the demos promise to be an enthralling listen.

Disc 3:

Prelude (Vera Lynn) [The Wall Work In Progress Pt. 1, 1979] [Programme 1] [Excerpts From Roger Waters' Original Demo]
Another Brick In The Wall, Pt. 2 (The Wall Work In Progress Pt. 1, 1979) [Programme 1] [Excerpts From Roger Waters' Original Demo]
Mother (The Wall Work In Progress Pt. 1, 1979) [Programme 1] [Excerpts From Roger Waters' Original Demo]
Young Lust (The Wall Work In Progress Pt. 1, 1979) [Programme 1] [Excerpts From Roger Waters' Original Demo]
Another Brick In The Wall, Pt. 2 (The Wall Work In Progress Pt. 1, 1979) [Programme 1] [Excerpts From Roger Waters' Original Demo]
Empty Spaces (The Wall Work In Progress Pt. 1, 1979) [Programme 1] [Excerpts From Roger Waters' Original Demo]
Mother (The Wall Work In Progress Pt. 1, 1979) [Programme 1] [Excerpts From Roger Waters' Original Demo]
Backs To The Wall (The Wall Work In Progress Pt. 1, 1979) [Programme 1] [Excerpts From Roger Waters' Original Demo]
Don't Leave Me Now (The Wall Work In Progress Pt. 1, 1979) [Programme 1] [Excerpts From Roger Waters' Original Demo]
Goodbye Blue Sky (The Wall Work In Progress Pt. 1, 1979) [Programme 1] [Excerpts From Roger Waters' Original Demo]
Don't Leave Me Now (The Wall Work In Progress Pt. 1, 1979) [Programme 1] [Excerpts From Roger Waters' Original Demo]
Another Brick In The Wall, Pt. 3 (The Wall Work In Progress Pt. 1, 1979) [Programme 1] [Excerpts From Roger Waters' Original Demo]
Goodbye Cruel World (The Wall Work In Progress Pt. 1, 1979) [Programme 1] [Excerpts From Roger Waters' Original Demo]
Hey You (The Wall Work In Progress Pt. 1, 1979) [Programme 1] [Excerpts From Roger Waters' Original Demo]
Is There Anybody Out There? (The Wall Work In Progress Pt. 1, 1979) [Programme 1] [Excerpts From Roger Waters' Original Demo]
Vera (The Wall Work In Progress Pt. 1, 1979) [Programme 1] [Excerpts From Roger Waters' Original Demo]
Bring The Boys Back Home (The Wall Work In Progress Pt. 1, 1979) [Programme 1] [Excerpts From Roger Waters' Original Demo]
The Show Must Go On (The Wall Work In Progress Pt. 1, 1979) [Programme 1] [Excerpts From Roger Waters' Original Demo]
Waiting For The Worms (The Wall Work In Progress Pt. 1, 1979) [Programme 1] [Excerpts From Roger Waters' Original Demo]
Run Like Hell (The Wall Work In Progress Pt. 1, 1979) [Programme 1] [Excerpts From Roger Waters' Original Demo]
The Trial (The Wall Work In Progress Pt. 1, 1979) [Programme 1] [Excerpts From Roger Waters' Original Demo]
Outside The Wall (The Wall Work In Progress Pt. 1, 1979) [Programme 1] [Excerpts From Roger Waters' Original Demo]
Prelude (The Wall Work In Progress Pt. 1, 1979) [Programme 2] [Roger Original Demo]
Another Brick In The Wall, Pt. 1 (The Wall Work In Progress Pt. 1, 1979) [Programme 2] [Band Demo]
Goodbye Blue Sky (The Wall Work In Progress Pt 1., 1979) [Programme 2] [Band Demo]
Teacher, Teacher (The Wall Work In Progress Pt. 1, 1979) [Programme 2] [Band Demo]
Another Brick In The Wall, Pt. 2 (The Wall Work In Progress Pt. 1, 1979) [Programme 2] [Band Demo]
Empty Spaces (The Wall Work In Progress Pt. 1, 1979) [Programme 2] [Band Demo]
Young Lust (The Wall Work In Progress Pt. 1, 1979) [Programme 2] [Band Demo]
Mother (The Wall Work In Progress Pt. 1, 1979) [Programme 2] [Band Demo]
Don't Leave Me Now (The Wall Work In Progress Pt. 1, 1979) [Programme 2] [Band Demo]
Sexual Revolution (The Wall Work In Progress Pt. 1, 1979) [Programme 2] [Band Demo]
Another Brick In The Wall, Pt. 3 (The Wall Work In Progress Pt. 1, 1979) [Programme 2] [Band Demo]
Goodbye Cruel World (The Wall Work In Progress Pt. 1, 1979) [Programme 2] [Band Demo]
In The Flesh? (The Wall Work In Progress Pt. 1, 1979) [Programme 3] [Band Demo]
The Thin Ice (The Wall Work In Progress Pt. 1, 1979) [Programme 3] [Band Demo]
Another Brick In The Wall, Pt. 1 (The Wall Work In Progress Pt. 1, 1979) [Programme 3] [Band Demo]
The Happiest Days Of Our Lives (The Wall Work In Progress Pt. 1, 1979) [Programme 3] [Band Demo]
Another Brick In The Wall, Pt. 2 (The Wall Work In Progress Pt. 1, 1979) [Programme 3] [Band Demo]
Mother (The Wall Work In Progress Pt. 1, 1979) [Programme 3] [Band Demo]

Disc 4:

Is There Anybody Out There? (The Wall Work In Progress Pt. 2, 1979) [Programme 1] [Roger Waters Original Demo]
Vera (The Wall Work In Progress Pt. 2, 1979) [Programme 1] [Roger Waters Original Demo]
Bring The Boys Back Home (The Wall Work In Progress Pt. 2, 1979) [Programme 1] [Roger Waters Original Demo]
Hey You (The Wall Work In Progress Pt. 2, 1979) [Programme 1] [Band Demo]
The Doctor (Comfortably Numb) [The Wall Work In Progress Pt. 2, 1979] [Programme 1] [Band Demo]
In The Flesh (The Wall Work In Progress Pt. 2, 1979) [Programme 1] [Band Demo]
Run Like Hell (The Wall Work In Progress Pt. 2, 1979) [Programme 1] [Band Demo]
Waiting For The Worms (The Wall Work In Progress Pt. 2, 1979) [Programme 1] [Band Demo]
The Trial (The Wall Work In Progress Pt. 2, 1979) [Programme 1] [Band Demo]
The Show Must Go On (The Wall Work In Progress Pt. 2, 1979) [Programme 1] [Band Demo]
Outside The Wall (The Wall Work In Progress Pt. 2, 1979) [Programme 1] [Band Demo]
The Thin Ice (Reprise) [The Wall Work In Progress Pt. 2, 1979] [Programme 1] [Band Demo]
Outside The Wall (The Wall Work In Progress Pt. 2, 1979) [Programme 2] [Band Demo]
It's Never Too Late (The Wall Work In Progress Pt. 2, 1979) [Programme 2] [Band Demo]
The Doctor (Comfortably Numb) [The Wall Work In Progress Pt. 2, 1979] [Programme 2] [Band Demo]
One Of My Turns (The Wall Work In Progress Pt. 2, 1979) [Programme 3] [Band Demo]
Don't Leave Me Now (The Wall Work In Progress Pt. 2, 1979) [Programme 3] [Band Demo]
Empty Spaces (The Wall Work In Progress Pt. 2, 1979) [Programme 3] [Band Demo]
Backs To The Wall (The Wall Work In Progress Pt. 2, 1979) [Programme 3] [Band Demo]
Another Brick In The Wall, Pt. 3 (The Wall Work In Progress Pt. 2, 1979) [Programme 3] [Band Demo]
Goodbye Cruel World (The Wall Work In Progress Pt. 2, 1979) [Programme 3] [Band Demo]
Comfortably Numb (The Wall Work In Progress Pt. 2, 1979) [Programme 4] [David Gilmour Original Demo]
Run Like Hell (The Wall Work In Progress Pt. 2, 1979) [Programme 4] [David Gilmour Original Demo]
ORDERING DETAILS

Immersion Boxset ไม่มี LP มาให้ด้วยเลยนะครับ และออก LP ต่างหากทั้ง 3 ชุดเลยครับ

ถูกต้องครับ แยกออกกันอย่างชัดเจนระหว่าง Digital กับ Analogue

ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากสำหรับคนที่ชอบซื้อทีเดียวได้ครบเลยแบบผม  :-[

มองอีกมุมหนึ่ง สำหรับคนที่อยากได้อย่างใดอย่างนึงต้องจำใจเสียเงินมากเกินเหตุนะครับ ยกตัวอย่างกล่อง Achtung Baby ของ U2 ที่กำลังจะออกมีซีดีและแผ่นเสียงมากมายในกล่องแต่ราคาอยู่ร่วมๆ 15,000 กว่าบาท เฉกเช่นเดียวกับ The Stone Roses Box Set ที่มีครบซี่ดีไฟล์แผ่นเสียงแต่ราคาร่วมๆ 9000 กว่าบาทตอนสมัยออกมาใหม่ๆ

แยกก็ดีครับ ได้เลือกซื้อได้ครับ ไม่บังคับซื้อ :D

ผมชอบแบบแยกกันนะ

เด๋วนี้ จะฟังเพลงซะหน่อย
รู้สึกลำบากแฮะ..
(แซวเล่น ขำๆ)

เดี๋ยวนี้จะฟังเพลงมันมีทางเลือกเยอะครับพี่ จะเอาแบบไม่เสียเงิน เสียนิดหน่อย หรือเสียเยอะๆก็ได้ อยู่ที่ความพอใจของผู้บริโภคอย่างเราๆ :D

เห็นด้วยกับพี่สิทธิ์ครับ
ถ้าแค่จะเอาแค่ฟังเพลงเฉยๆ ผมแทบไม่เสียตังค์สักกะบาท
ที่กระเป๋าฉีกเป็นวิ่นๆทุกวันนี้ ก็เพราะเป็นพวกชอบลูบๆคลำๆของสวยๆงามมากกว่าครับ  ::)

โลกมันเปลี่ยนไปแล้วครับ  โอกาสมีให้เสมอสำหรับผู้ซึ่งไม่ค่อยมีตังค์ก็สามารถฟังเพลงเท่ากับคนมีตังค์มากกว่าได้
แต่เรื่องพวกที่ชอบลูบๆคลำๆนั้นมีแต่เรื่องเสียเงินอย่างเดียว  ใครที่ชอบๆกับเรื่องแบบนี้ไม่เห็นได้ลูบๆคลำๆฟรีซักที
ถ้าจะไม่ให้เสียตังค์ต้องลูบๆคลำกับของที่บ้านแทน

ฟังวิทยุสิครับ พี่แจ๊ค
ไม่ลำบากและไม่เปลืองตังค์ด้วยฮะ :D

ฮิๆ  ;D ;D

ลำบากของคนอื่น อาจจะหมายถึงเรื่องสะตุ้งสะตางค์
แต่ลำบากของไอ้ผี
มันเป็นอย่างนี้คร้าบบบ...  8)

http://www.youtube.com/watch?v=XAjedBTIseo
เอ้า.. เชิญร้องตาม ฮาๆๆๆ
 ;) :D ;D

ประกาศถึงทุกท่านที่สั่งจอง Dark Side  ว่าราคาปกที่จะวางขายเป็น 5,500  บาทไม่ใช่ 4,500 บาทอย่างข่าวแรกที่ผมได้ยินมา ผมจองให้ทุกคนแล้ว ส่วนราคาที่จะได้ถูกที่สุดผมจะแจ้งให้ทราบทาง pm อีกทีครับ ยังไงใครพอจะโอนมัดจำให้ผมซัก 3,000 บาทก่อนจะขอบคุณมากครับ ผมคงไม่มีเงินสดพอที่จะซื้อทั้งหมดครับ ดูเหมือนจะวางจำหน่ายในไทยก่อนเมืองนอกเสียอีก

ใครจองไว้รบกวนแวะไปกระทู้นี้ด้วยนะครับ

http://www.thaiprog.net/webboard/index.php?topic=4628.new#new

พรุ่งนี้จะโอนเงินมัดจำให้นะครับ ขอบคุณพี่สิทธิ์มากครับที่ช่วยเป็นธุระให้ครับ

แจ้งข่าวนะครับ รายการทั้งหมดนี้

Discovery Box Set (16 discs) ราคาขายประมาณ 8,000 บาท
Dark side of The Moon Immersion ราคาขายประมาณ 5,250 บาท
Dark side of The Moon Experience
14 albums individual of Pink Floyd's albums

จะวางขายในวันศุกร์นี้แล้ว ใครมีบัตร Central Card Platinum ซื้อที่ B2S ลด 10% ครับ

Immersion ราคากระชากใจแม่ยกมากครับ
ไม่อยากคิดถึง The Wall เลยครับ ปกติสองแผ่นราคาก็แทบจะคูณสองแล้ว  :P

ถ้าเป็นผมจะออกแบบกล่องเป็นรูปอิฐสีขาวที่มีจุดเชื่อมแล้วล็อคต่อกันได้ แล้วทุกกล่องเมื่อวางเรียงต่อกันไปเรื่อยๆจะสูงเท่ากำแพงที่ใช้ในการแสดงคอนเสิร์ตของพิงค์ฟลอยด์ครับ

เผื่อมีใครบ้าซื้อ ฮ่าๆ

ครั้งนี้ warner thailand ตั้งราคาปกแบบ 2 แผ่นที่ 920 บาทครับ คือไม่คูณสองแล้ว

ใครสนใจ Discovery Box Set ด้วยก็รีบแจ้งมาหลังไมค์นะครับ

(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/polotoon%202/BritFloyd-2011-ThePinkFloydTributeShowLiveFromLiverpool2011DVD_plixidcom.jpg)

ใครได้ชม ได้ฟังวงนี้เล่นกันบ้างไหมครับ ฝีมือเป็นอย่างไรบ้างครับ

(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/polotoon%202/41MytszaJFL_SL500_AA300_.jpg)

แผ่นเสียงในวาระครบ 35 ปี กลับมาใช้ blue glowing inner edge prism with the centre black Label อีกแล้ว แถมมีรูปที่แถมมาไม่เหมือนเดิมอีก

ดูจากยูทูปแล้ว ฝีมืออยู่ในมาตรฐานเดียวกับวง Pink Floyd Tribute อื่นๆ ซึ่งทุ่มทุนจำนวนมากให้กับระบบแสง สี เสียง ครับ

เห็น Dark Side Immersion แล้ว
 ที่ gram ราคา 5,3xx บาท
ถ้าสั่งจาก amazon รวมค่าส่งจะซักเท่าไหร่ครับ
(หนักน่าดูเหมือนกัน)

Musicland ขาย 4,900 ครับ

วันนี้ผมแวะไปที่ร้าน CAP ที่ซีคอน เห็นทั้ง Dark Side Immersion, Discovery Box Set และอัลบั้มเดี่ยวแยกแผ่นแบบรีมาสเตอร์ วางขายทั้งแคตตาล็อกแล้ว

Dark Side Immersion ราคาขาย 4,750 บาท ส่วน Discovery Box ถ้าจำไม่ผิดอยู่ที่ 7,290 บาท อัลบั้มเดี่ยวแยกขายก็ราคามาตรฐานตามราคาของ Warner ทั่วไป คือปก 500 ราคาขายจริงประมาณ 400 บาท

ต้องยอมรับว่าแพกเกจของ Immersion ทำได้สวยงามทีเดียว และเห็นด้วยแล้วที่กลับไปใช้กราฟฟิคของปริซึมแบบเดิมจากปี 1973 แทนที่จะใช้ภาพที่สร้างขึ้นใหม่ เหมือนอย่างรีมาสเตอร์ปี 1993 หรือตอนออก SACD ปี 2003 ในการขึ้นหน้ากล่อง ซึ่งดูคลาสสิคดี กล่องมีน้ำหนักพอสมควร ทำให้มีผลทางจิตวิทยาว่าซื้อไปยังไงน่าจะคุ้มแน่ (ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ) และด้วยความที่กล่องใหญ่มาก ไซส์น่าจะพอๆ กับไวนิล น่าจะไปตั้งวางโชว์เป็นของตกแต่งในห้องได้เลย

ส่วน Discovery Box Set ดูแล้วให้อารมณ์เดียวกับ Beatles Stereo/Mono Box เลย ด้านการตกแต่งไม่ค่อยมีอะไรมาก ที่น่าสนใจคือ Booklet 60 หน้าที่ออกเป็นโดย Storm Thogerson มากกว่า นอกนั้นก็ไม่น่ามีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ ผมว่ามัน "ซ้ำซ้อน" กับกล่อง Which's One Pink? มองๆ ดูแล้วคิดว่าอีกไม่นานก็น่าจะมีของจีนก๊อปวางขายมาเก็บสแปร์แฟนๆ กลุ่มกำลังทรัพย์ไม่หนาอย่างแน่นอน

ผมซื้ออัลบั้มเดี่ยวแบบแยกขายมาสองแผ่น คือ Meddle กับ Animals เพราะเป้าหมายของผมยังไงก็คงจะเก็บ Immersion Box Set ให้ครบทั้งสามชุดที่จะออกอยู่แล้ว ดังนั้นสองอัลบั้มนี้คืออัลบั้มเก็บตกที่ควรจะเก็บในแคมเปญ Why Pink Floyd ให้ครบทั้งห้าอัลบั้มคลาสสิคของฟลอยด์ในยุค 70's ตัวดีไซน์ก็เป็น Gatefold ธรรมดาที่มีแผ่น Booklet เสียบอยู่ข้างใน (อารมณ์เดียวกับ The Beatles น่ะ) ตัว Booklet ก็ทำขึ้นมาใหม่ ดีไซน์โดย Storm Thogerson เจ้าเก่า แต่ก็ไม่มีอะไรต่างจากเดิมมากนัก

เรื่องเสียง??? อันนี้เป็นอะไรที่พูดยากมาก ผมบอกตา่มตรงว่า พยายามฟังอัลบั้่ม Wish You Were Here 2011 Remaster ที่โหลดมาเทียบกับ 1994 Remaster และ Dark Side Experience ที่โหลดมาเทียบกับ 2003 SACD Rip แล้ว รู้สึกถึงความต่างได้ไม่มากนัก หรือจะให้พูดฟังดูมีน้ำหนักหน่อยต้องบอกว่า "Not Significantly Different" (ผมฟังเทียบด้วย iPod Classic และหูฟังแบบ Earpad ของ Sennheiser)

พูดถึงศิลปินที่มีการทำรีมาสเตอร์รายแรกๆ ในวงการตั้งแต่ช่วงต้นยุค 90's ผมนึกถึง The Beatles, Pink Floyd และ Led Zeppelin ซึ่งตั้งแต่ฟังอัลบั้มเวอร์ชั่นรีมาสเตอร์จากต้นยุค 90's ของศิลปินเหล่านี้มาทั้งหมด (ของ The Beatles น่าจะรีมาสเตอร์ตั้งแต่ปี 1987 แล้ว) ผมชอบการรีมาสเตอร์ของ Pink Floyd น้อยที่สุด และชอบของ Led Zeppelin มากที่สุด ผมว่าการรีมาสเตอร์ของ Pink Floyd มันทำได้เสียง Flat จืดชืดมาก (ไม่ได้พูดถึงตัวเพลงนะ) ส่วน Led Zeppelin ผมชอบที่เค้าใส่เสียงกลางลงไปเยอะ ทำให้ซาวน์ดูมี Intensity เข้มข้นมาก

ตอน The Beatles ออก Remaster Stereo Box Set ผมว่าทำได้ดีทีเดียวในเรื่องของเสียง ส่วน Led Zeppelin ที่รีมาสเตอร์ตอนออกอัลบั้มรวมเพลง Mothership นั้น ผมไม่ชอบเท่าไหร่ ผมว่า Remaster 90's ดีกว่า เพราะ Mothership นั้น เน้นย่านรายละเอียดของเสียงแหลมเยอะเิกิน ทำให้ฟังแล้วบาดหู (หรือจะบอกว่า "คันหู" ก็ได้นะ) ไำม่เข้มข้นเหมือนของเก่า พอมาถึงในกรณีของ Pink Floyd ต้องบอกว่า ของเก่า Flat ยังไง ของใหม่ก็ยัง Flat อยู่อย่างนั้น ส่วนความชัดและมิติก็มีเพิ่มขึ้นนิดนึงเท่านั้นเอง

โจมตีมาเยอะแล้ว ขอชมปิดท้ายหน่อยว่า แผ่นสองของ Dark Side Experience ที่เป็น Live 1974 at Wembly Empire Pool นั้น ทำได้ดีสมศักดิ์ศรีมาก โดยเฉพาะเรื่องของ Dimension และ Intensity เสียง Hammond B3 ของริก เสียง Fender Precision Bass ของโรเจอร์ เสียงกีตาร์ Black Strat ที่เล่นผ่าน Uni-Vibe ของเดวิด อันนี้ทำได้ดีทีเดียว นี่ถ้ามีไลฟ์อัลบั้มชุดนี้ออกมาตั้งแต่ยุค 70's สงสัย Made in Japan, How The West Was Won, At Filmore East, Live at Leeds อาจมีหนาวได้ แต่การทำมาสเตอร์ก็อยู่ในระดับเดียวกับ Unofficial Bootleg ที่ใช้ Source จากแหล่งเดียวกันที่ออกมาก่อนหน้านี้โดย Harvested Records ซึ่งถ้าเป็นแฟนตัวจริงระดับฮาร์ดคอร์หลายๆ คน ก็อาจจะได้สัมผัสไลฟ์นี้มาแล้วก็ได้ครับ

(http://i237.photobucket.com/albums/ff55/basnaphon/Picture060_exposure_resize.jpg)

วีดีโอของฝรั่งคนหนึ่งที่แกะกล่อง Dark Side Immersion ให้เราดู เข้าใจว่าหลายๆ ท่านคงรู้มาแล้วว่ามีอะไรในกล่องบ้าง แต่อันนี้ก็โชว์ของจริงให้ดูอีกที ใครไม่อยากดูเพราะมองว่าเป็นการ Spoil ก่อนแกะกล่องจริงก็ข้ามไปได้นะครับ

http://www.youtube.com/watch?v=J62Y2a3q4BM

ขนาดกล่อง Immersion คือ 11.5" x 11.5" x 2" ครับ เล็กกว่าแผ่นเสียงนิดนึง แต่ผมว่ามันเหมาะมือกำลังดีเลย

เห็นว่า booklet 60 pages ใน Discovery Box Set ทำได้ดีน่าสะสมมาครับ มีภาพหาดูยากจากอาร์ตเวอร์คทุกอัลบั้มในเล่มเดียว

ควรจะซื้อ Immersion หรือ Discovery ก่อนดีครับ พอดีเมื่อวานเพิ่งไปเจอมาทั้งสองกล่องเลย

ถามแบบนี้ตอบยากครับ แต่ถ้าไม่ใช่แฟนพันธ์แท้มากนัก ซื้อ Discovery เพื่อมีสตูดิโอทุกชุดไว้ฟังในกล่องสวยๆก็ไม่เลวนะครับ

มาตื่นเต้นด้วยคนคร้าบบ..

ผมรอเดอะวอลส์
ว่าจะแจ่มไหม  :)
น่าสอยซะ 1 นะคุณ : TRON  555

สำหรับแฟนที่อยู่กันมานานแล้ว Discovery Box Set ถือว่าจืดไปนิดครับ เพราะไม่ได้มีอะไรใหม่มากมายเท่าใดนัก นอกจากการรีมาสเตอร์และ Booklet 60 หน้าเล่มนั้น แต่ถ้าสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มเข้าสู่โลกของ Pink Floyd บ็อกซ์นี้ก็ทำหน้าที่ได้ดีทีเดียวล่ะ ดังนั้นเหมาะสำหรับแฟนที่กำลังอยู่ในช่วง Discover จริงๆ ครับ

ส่วน Immersion ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าต้องระดับแฟนที่อยู่ในขั้น "หมกหมุ้น" แล้ว เหมาะสำหรับสะสม และตั้งโชว์ครับ ส่วนตัวผมชอบ Immersion มากกว่าเยอะเลยครับ

อย่าเพิ่งพูดถึง The Wall Immersion เลยครับ เอา Wish You Were Here Immersion เดือนพฤศจิกายนนี้ก่อนว่ามีใครจะสอยกันต่อก็รีบมาลงชื่อให้ไว :D

Wish You .. Immersion นี่ เดี๋ยวขอติ๊กต่อก ๆ อีกซักพักครับ
แต่เอ ผมยังไม่เห็นรายละเอียดทั้ง 5 แผ่นเลยครับ เห็นแต่แบบ 2cd ซึ่งในแผ่นที่ 2 ยังไม่ค่อยสะดุดต่อมกระสันเท่าไหร่

สำหรับผม ได้ชมการเปิดบริสุทธิ์ของไอ้ฝรั่งคนนี้แล้ว อยากจะจับมือมันมาตัดทันทีครับ   ???  ???  ???

ตามความคิดของผมและจากการสังเกตุ แกไม่ได้เป็นคนรัก Boxset สักเท่าไรนัก ดูท่าทางรีบร้อนไม่ทะนุถนอมสินค้าเหมือนนักสะสม
มืออาชีพ ทั้งๆ ที่บอกว่าต้องไม่มีรอยนิ้วมือติดเผื่อว่าจะเก็บไปขายในอีเบย์ก็ตามที   :-X

จับแผ่นซีดีแผ่นแรกก็บ่งบอกได้เลยว่าไม่ระวัง
การหยิบของแต่ละชิ้นก็ไม่ได้ทำด้วยความรักอย่างแท้จริง
ปิดกล่องก็สวมแบบชุ่ยๆ ด้านข้างๆ ซึ่งเค้าออกแบบทำมาให้เปิดได้ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร มัวแต่ "แคะ" ของแต่ละชิ้นงัดออกมาดูอยู่ได้
ครั้นตอนจบกลับปิดไม่มิด เอาด้านข้างออกมาอีก หรืออาจเรียกว่าปิดแบบไม่สมบูรณ์ก็ได้

...พอแค่นี้ดีกว่า ผมว่ามันไม่เกี่ยวอะไรกับกระทู้นี้ แต่ว่าพอดีผมรำคาญการลูบๆ คลำๆ อย่างบอบช้ำของไอ้ฝรั่งคนนี้ไม่ได้...ก็เท่านี้เองครับ  :D

ขออภัยที่ทำให้เสียบรรยากาศการเปิดบริสุทธิ์ เพียงแต่ผมอยากให้มันระมัดระวังมากกว่านี้ จะดีมาก  8)

ผมก็ลงไว้พร้อมๆกับ dark side ในหน้า 15 นี่แหละครับ

http://www.thaiprog.net/webboard/index.php?topic=1543.210

เห็นด้วยกับพีี่โป่งทุกประการครับ แค่เห็นวิธีใช้มีดกรีดพลาสติกห่อกล่อง ก็หัวใจจะวายแล้ว ทำให้อยากเห็นวีดีโอคนญี่ปุ่นโชว์วิธีแกะกล่องนี้แบบปราณีตดูเปรียบเทียบกันครับ

สำหรับผม Immersion กล่องที่ผมตั้งตารอคอยมากที่สุดคือ WYWH ครับ

เราเคยเห็น DSOTM กับ The Wall ออกในเวอร์ชั่นต่างๆ มามากมายแล้ว แต่ WYWH นั้นน่าจะเป็นครั้งที่สองหรือที่สาม ที่มีการ Re-Release ออกมาได้แบบพิเศษ ซึ่งทำได้สมศักดิ์ศรีซะทีครับ

อยากจะบอกว่า WYWH เป็นอัลบั้มที่ทั้งเดฟและริก (และ AFM) ต่างลงความเห็นเหมือนกันว่า เป็นอัลบั้มที่พวกเขาชอบที่สุดของพิงค์ฟลอยด์ครับ

ครับ เห็นทีแรก รู้สึกสงสารเจ้า Box นี้เลยครับ ถูกใครก็ไม่รู้กระทำชำเราซะแบบไม่ทะนุถนอมเลย
แหม ผมก็อยากเห็น unboxing โดยชาวญี่ปุ่นจริง ๆ ครับ ถ้ามี อยากจะเอาไปโพสให้คนที่ unboxing ข้างต้นจริง ๆ



อ่าครับ ขอบคุณครับ

และ polotoon อีกคนด้วยนะครับ :D

ผมคิดว่า Boxset อัลบั้ม Wish You Were Here ไอ้ฝรั่งคนนี้มันคงจะใช้มีด อีโต้ เปิดแน่ๆ เลยครับ  ;D  ;D  ;D

ขอขอบคุณน้อง AFM เหลือเกินครับที่อุตส่าห์หาคลิปเปิดบริสุทธิ์มาให้ผมดู แต่ว่า ส.ว. อย่างผมเมื่อได้ชมแล้วมัน "เสียว" อย่างบอกไม่
ถูกเลยล่ะครับ  ;D  ;D  ;D

คราวหน้าขอไล่ฝรั่งคนนี้ออกนะครับ แล้วให้คนญี่ปุ่นมาเปิดบริสุทธิ์ กล่อง WYWH แทน จะเชียร์และดีใจมากๆ เลย   :D  :D  :D

เตรียมตังค์กันไว้กล่องต่อไป

http://www.youtube.com/watch?v=_2XPVxx2X5Q

WISH YOU WERE HERE Immersion edition - November 7th, 2011

(http://i324.photobucket.com/albums/k328/sithichai/im-wywh.jpg)

DISC 1 - Original album with 2011 remastered

DISC 2 - features more from the November 1974 Wembley concert, and contains the following tracks: Shine On You Crazy Diamond (parts 1-6) live at Wembley (2011 mix and previously unreleased)
Raving & Drooling live at Wembley (2011 mix and previously unreleased)
You've Got To Be Crazy live at Wembley (2011 mix and previously unreleased)
Wine Glasses from the unreleased 'Household Objects' project
Have A Cigar alternative version (previously unreleased)
Wish You were Here featuring Stephane Grappelli (previously unreleased)

DISC 3 - DVD1, ALL AUDIO: Wish You Were Here, James Guthrie 2009 5.1 Surround Mix (previously unreleased) in standard resolution audio at 448 kbps / Wish You Were Here, James Guthrie 2009 5.1 Surround Mix (previously unreleased) in high resolution audio at 640 kbps / Wish You Were Here, Original Mix (1975) LPCM stereo / Wish You Were Here, Quad Mix (previously released only on vinyl LP/8 track tape) in standard resolution audio at 448 kbps / Wish You Were Here, Quad Mix (previously released only on vinyl LP/8 track tape) in high resolution audio at 640 kbps

DISC 4 - DVD 2, AUDIO VISUAL: Concert Screen Films: Shine On You Crazy Diamond Intro / Shine On You Crazy Diamond / Welcome To The Machine animated clip / Storm Thorgerson short film. Concert Screen Films play in stereo and 5.1 Surround Sound

DISC 5 - BLURAY: AUDIO: Wish You Were Here, James Guthrie 2009 5.1 Surround Mix (previously unreleased) high resolution audio at 96 kHz/24-bit / Wish You Were Here, Original stereo mix (1975) mastered in high resolution audio at 96 kHz/24-bit / Concert Screen films: Shine On You Crazy Diamond Intro / Shine On You Crazy Diamond / Welcome To The Machine animated clip / Storm Thorgerson short film

This set comes with a 40 page, 27cm x 27cm booklet designed by Storm Thorgerson, an exclusive photo book edited by Jill Furmanovsky, an exclusive Storm Thorgerson Art Print, 5 x Collectors’ Cards featuring art and comments by Storm Thorgerson, replica of Wish You Were Here tour ticket, replica of Wish You Were Here backstage pass, scarf, 3 x clear marbles, 9 x coasters (unique to this box) featuring early Storm Thorgerson design sketches, and a 12 page credits booklet.

วันนี้  ไป B2S  central world  สอย Discovery Box Set มาแล้ว

ราคาโดนใจ  หน้าปก 9,000 

B2S ขาย 7,299  ใช้แต้ม the 1 card 40 แต้ม ลด 10 เปอร์เซ็นต์

ใช้เซเรเนด ลดอีก  60  บาท 

เหลือ 6,509.10  บาท  ราคาพอๆ กับ อเมซอน อังกฤษ เลยครับ 

เผื่อท่านใดสนใจ   

(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/polotoon%202/IMG_2306.jpg)

ขออวดมั่ง :D

อยากได้ Immersion แต่ก็สนใจ Discovery
อุเหม่ เลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว

ไม่ได้เข้ามานาน
พรุ่งนี้จะไปเดินแถว central world
อยากถามท่านที่ไปสำรวจหรือซื้อมาแล้วว่าที่ร้านไหนยังมีเจ้าสอง box ที่ออกมาวางแล้วบ้างครับ
อยากเทียบราคา จะได้ไม่เสียเวลาเดินหลายร้าน ราคาแนะนำ ควรอยู่ที่เท่าไหร่ครับ
ไม่รู้ว่ามัน limited รึเปล่า กลัวหมด
แต่ถ้าทำออกมามาก อาจไว้กลางตุลาค่อยไปซื้อ
เดี๋ยวเหมือน the beatles boxset ที่ตอนหลังเอามาลดราคาจนร้านค้าอ่อนใจ เหลือบานเลย

B2S Central World มีทั้งสองกล่องครับ จำราคาไม่ได้ แต่ถ้าใช้บัตร Central ลดราคาที่ Immersion น่าจะประมาณ 4900 ครับ
Gram Paragon ก็มีทั้งสองกล่อง => แพงกว่า B2S

thanks ;D

ฟังไปบ้างแล้ว เล่นเหมือนพอสมควรเลยครับ

เรียบร้อยแล้วทั้งสองกล่อง Discovery,DSOTM immersion
 หลังจากเดินวนสองรอบ ที่ชั้นวาง หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ
พอเดินไปถามที่ เคานเตอร์ มันวางที่นั่นเอง อย่างละกล่อง
เลยสอบถามเงื่อนไขการลดราคา คำนวณแล้วจดไว้เทียบราคา
และวิ่งไปดูที่ boomerang ชั้น 4 ต่อ เห็นราคาแล้วรีบวิ่งลงมาเลยครับ
กลับมาที่ B2S
ใช้ส่วนลดจาก the 1 card และ AIS serenade ทั้งเบอร์ของผมเอง และน้องพนักงานวิ่งไปหาคนใช้โทรเจ้านี้
รวมแล้ว 2 กล่อง 11234 บาท นี่ถ้าใช้บัตร central card จะลดได้อีก 3 % ผมไม่มี
ถูกกว่า boomerang แบบลดสมาชิกแล้ว 2000 กว่าทีเดียว

พนักงานบอกว่ามีแต่คนมาจับ จับแล้ววาง ยังขายไม่ค่อยออก
พอผมจะซื้อจริง เค้าวิ่งไปเอาในสต็อค มาให้ เอาของใหม่ กลัวช้ำ
ขอบคุณมากที่ทำให้ร้านมีรายได้ แถมขนม แถมเสื้อยืด และของจุกจิกอีก2-3 ชิ้น

ยินดีกับคุณหมอฯ ด้วยครับ ผมสั่งไปแล้วยังไม่ได้เลย

ได้ลอง Bluray 5.1 กันหรือยังครับ
เป็นยังไงบ้าง

คนที่จับ ๆ วาง ๆ เมื่อวานคงเป็นผมครับ เจ้า Discovery กับ DSOTM Immersion
ปล. แต่ได้ Superheavy มาแืืทนมีแถมผ้าเช็ดหน้าด้วย 339 บาท

หลังจากได้บ๊อกซ์มาได้วันนึง ได้เปิดกล่องไปแล้วหนึ่งครั้ง แล้วก็ไม่ค่อยอยากเปิดกล่องอีกแล้ว เพราะกล่องใหญ่ ของเยอะ แล้วก็ไม่ได้มีอะไรให้ชวนหยิบขึ้นมาดูได้บ่อยๆ เท่าไหร่ ถ้าถามว่าราคาที่จ่ายไปคุ้มไหม ก็ต้องบอกว่า ตอนนี้ยังไม่คุ้ม เพราะไม่ได้คิดอยากจะเปิดดูอะไรเยอะเท่าไหร่ แถมส่วนใหญ่เราก็ฟังเพลงจากคอม จาก iPod จากแฟลชไดร์ฟในรถมากกว่า

ทำให้นึกเสียดายและนึกถึง Immersion Box Set ของวงคู่แข่ง ขึ้นมาตงิดๆ ว่าเราตัดสินใจถูกรึเปล่าเน้อ ที่จ่ายเงินให้ DSOTM ซึ่งรายนั้นออกมาก่อนเป็นเดือน บ๊อกซ์ใหญ่พอๆ กัน แต่ราคาถูกกว่า มี 6 แผ่นเหมือนกันด้วย (แต่เป็นดีวีดีหมด) ของแถมไม่เยอะเท่ากับ DSOTM แต่ดูจะหยิบขึ้นมาดูชมได้บ่อยกว่าเสียอีก แถม Immersion Box Set ชุดนี้แอบเห็นแว้บๆ ในกระทู้อื่นว่าพี่แจ๊คเค้าก็มีอยู่ด้วยเหมือนกันครับ

เราไปดูวีดีโอ Unboxing ของ Immersion Box Set กล่องนี้กันเลยนะครับ การแกะกล่องที่ถูกต้องต้องทำแบบนี้ครับ ไม่ใช่เหมือนในวีดีโอ Unboxing DSOTM ที่ผมโพสต์ไว้หน้าโน้น

http://www.youtube.com/watch?v=mdzycTLIqHk

อึมๆ ผมรู้สึกอย่างนั้นเหมือนกัน แม้ว่า production (สิ่งที่จำต้องได้) ทั้งหมดจะทำออกมาสวยงาม
แต่ content ด้านในยังไม่ถือว่าคุ้มค่าเงินครับ ทั้งนี้ ผมหยิบ แผ่น Early demo, Blu-ray กับ 2 DVD มาลองเล่นแล้ว

แผ่น 1 รีมาสเตอร์ 2011, แผ่น 2 Live concert และ Early Demo = ผมเห็นด้วย และเคารพคำว่า 2011 remaster ของพวกเขา
แผ่นดีวีดี 3, 4 ผมคิดว่า content ยังน้อยเกินไปครับ แต่ผมไม่ออกความเห็นในเรื่องเนื้อที่ของดีวีดีนะครับ เพียงแต่คิดว่ามันน่าจะบรรจุอะไรให้เยอะ กว่านี้ หรือแตกต่างกว่านี้
แผ่น บลูเรย์ น่าจะเป็นส่วนที่ผิดหวังที่สุด โดยเฉพาะเรื่อง Visual ที่แทบจะไม่ต่างอะไรกับสองแผ่นดีวีดีเลย แทนที่จะเพิ่มในส่วนของ Live concert ช่วงทัวร์ DSOTM จะดีซะกว่า (2 เพลง Live ทีมีอยู่นั้น ในเรื่องของ "ภาพ" ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีทีเดียว และผมคิดว่า Pink Floyd มีวัตถุดิบพวกนี้อยู่เยอะด้วย)

อีกนิดครับ อยากให้ Photo Book ทั้ง 2 เล่ม เพิ่มหน้าอีกซักหน่อย ยังดูไม่เต็มอิ่มเลย

ฟุตเตจ Live Video ในช่วง 1972-1978 ของพิงค์ฟลอยด์ แทบไม่มีมากกว่านี้แล้วครับ หลุดจากช่วงนั้นก็จะข้ามไปเป็น The Wall Live at Earls Court เลยครับ ส่วนฟุตเตจสองเพลงที่แถมในดีวีดีนั้น คือ เพลง Careful with the Axe กับ Set The Controls ก็มีแค่สองเพลงนั้นจริงๆ ครับ

จะว่าไป วงนี้มีวัตถุดิบของวีดีโอแสดงสดที่ค่อนข้างจำกัดมากครับ Bootleg วีดีโอที่มีอย่างดีที่สุดในช่วงกลางยุค 70's ของฟลอยด์นั้น ก็มีแต่เป็นภาพแบบ AUD SHOT ถ่ายไกลๆ กล้องสั่นๆ ใน Animals Tour ครับ

สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับบ๊อกซ์นี้สำหรับแฟนๆ ทั่วไป คือ Live at Wembly Pool 1974 ครับ แต่สำหรับผมและแฟนอีกหลายๆ คน เราก็ได้ฟังไลฟ์เสียงดีๆ แบบนี้มาแล้วกับบู๊ตเล็ค HRV CDR 033 "BBC Archives 1974" ซึ่งมิกซ์ได้คุณภาพเสียงระดับใกล้เคียงกันครับ

ระบบเสียงของ 5.1 ของ Bluray & DVD  เป็นยังไงบ้างครับ
อ่านไปอ่านมา ชักจะคิดว่าเก็บเงินไว้รอดี Wish You Were Here แทนดีมั้ยเนี่ย

ั

เรื่องระบบเสียงนี่ คงต้องให้พี่ ๆ ท่านอื่นมาตอบดีกว่าครับ
ชุดซิสเต็มของผม 2ch ยังไม่สามารถฟังอะไรให้แตกต่างจนเห็นภาพได้ครับ 

โอ้ว.. ข้ามไป The Wall เลยหรอครับ แม้แต่ช่วง WYWH ก็หาไม่ได้เลยหรอครับ

ถ้าอยากดูฟลอยด์เล่นสด คงต้องพึ่งพาเทปบันทึกจากรายการโทรทัศน์แล้วล่ะมั้งครับ

ช่วง 1972-1978 ดังคับโลกขนาดนั้นคงต้องมีรายการเชิญไปออกเยอะอยู่ล่ะ

แต่ไม่รู้ป่านนี้จะมีคนเก็บไว้อยู่ไหม หรือว่าทางวงไม่ให้เอามาปล่อยก็ไม่รู้

ตอบพี่โอกับพี่ตี๋ดังนี้ครับ

จากที่เป็นแฟนพิงค์ฟลอยด์มาสิบปี ขอสรุปเรื่องฟุตเตจไลฟ์ แบบ Pro Shot ของวงดังนี้ครับ

ในช่วง 1969-1972 พิงค์ฟลอยด์มี ฟุตเตจแสดงสดแบบ Pro-Shot อยู่บ้างพอสมควร ส่วนใหญ่เป็นการบันทึกเสียงในยุคที่พวกเขายังไม่ได้ Dark Side กันเลย สามารถหาดูได้จาก DVD Bootleg ที่ชื่อ Pro Shot in Europe 1969-1972 ครับ

ฟุตเตจสุดท้ายก่อนที่จะกระโดดข้ามไป The Wall Live นั้นก็คือ Live In Brighton 1972 ที่เราได้ดูกันใน Immersion Box นั่นแหละครับ หลังจากนั้นก็จะมีแต่พวก AUD Shot แล้ว ไล่ตั้งแต่ Dark Side Tour 1973, Winter Tour 1974 ลากยาวไปจนถึง In The Flesh Tour ในปี 1977 โน่นเลย

ส่วนรายการทีวีนั้น ตั้งแต่ปี 1972 เป็นต้นมา ฟลอยด์ไม่เคยไปเล่นสดในรายการทีวีที่ไหนเลยครับ จะมีก็แต่ไปบันทึกเสียงใน BBC Sessions ในช่วงปี 1967-1971 เพื่อใช้ออกรายการวิทยุเท่านั้นครับ

ครับผม
งั้นเดี๋ยวไปลุ้น content ของ The Wall Immersion ต่อละกันครับ

รอชมเช่นกันครับ

แวะมารอ WYWH: Immersion รวมถึง The Wall: immersion ที่จะออกปีหน้าด้วยจ้า อิอิ

แกะดูเมื่อคืน รู้สึกไม่เต็มอิ่มยังไงก็ไม่รู้นะครับ สมุดภาพก็ดูเหมือนจะน้อยไปอย่างที่พี่ตี๋บอก
ผมรู้สึกประมาณว่าจะทำดีกว่านี้อีกก็ทำได้ หรือน่าจะมีอะไรที่มันพิเศษไปกว่านี้แต่ยังไม่ได้ใส่มันลงมา

ส่วนตัวประทับใจของที่อยู่ในซองสีดำ พวกจดหมายเหตุ, ตั๋วคอนเสิร์ตหรือการ์ดต่างๆ

สำหรับผ้าพันคอ (หลายๆท่านไม่กล้าแกะ อิๆ) ผมลองใจกล้าแกะดู รู้สึกผิดหวังเล็กๆที่เป็นผ้าพิมพ์สีแล้วจะมีลายอยู่แค่ด้านเดียว เหมาะสำหรับขึงโชว์มากกว่าเอาไปใช้งานจริงๆน่ะครับ

สิริรวมของทั้งหมดในกล่อง ถ้าถามผมคิดว่ายังไม่ถึงระดับของคำว่า Immersion นะครับ

จริงๆนะตัวเอง  :P

ถ้าไม่คิดอะไรมาก ของที่อยู่ในกล่องก็โอเคอยู่ครับ แต่ถ้าเทียบกับราคาแล้ว มันน่าจะทำได้ดีกว่านี้นิดนึง แต่อย่างว่าละนะ

Profit = Revenue - Product Cost

ถ้าทำดีกว่านี้ Product Cost มันก็ขึ้นน่ะสิ

 :P

ขอบคุณน้องบาส ที่ใช้สิทธิ์พาดพิงครับ  :D
คลิปเปิดน้องโซวอนอันนั้น หยิบของในนั้น รุนแรงจังเลย  :(
แต่ก็ดี เพราะของพี่ยังไม่ได้แกะเลย  :D (เสียดาย)
หรือขายต่อดีนะ อิๆ


พิ้งค์ฟลอยด์ มักชอบทำให้แฟนๆ ผิดหวังเสมอหละ
ใครที่เพิ่งคบกับวงนี้ในช่วงหลัง ต้องทำใจครับ

อย่างเซ็ท"หมกมุ่น" มันก็คือ ยุคโปรเกรสซีฟของวง เต็มตัว
มันมี 4 อัลบั้มน่ะซี่
ด้านมืด/หวังว่าคุณ/ฝูงสัตว์/กำแพง
แต่ก็กระโดด แผ่นโปรดของผมไปซะงั้น

ใครมีแผ่นนี้อยู่
ลองเปิดเพลง    "Pigs (Three Different Ones)" ดูครับ
ยกให้เป็นเพลง ที่ดีที่สุดของวงครับ  ;D
เฉือนชนะเพลง "One of These Days"  ในอัลบั้ม "แทรกแซง" ที่ว่าสุดยอดแล้ว ไปอย่างเฉียดฉิว

ที่เขียนมานี้ ก็เพราะ ผมค่อนข้างจะ"หมกมุ่น" กับอัลบั้ม"ฝูงสัตว์" นี้มากกว่า อีก 3อัลบั้ม ในยุครุ่งเรืองของพวกเขาน่ะครับ
ก็เลยเสียดาย  :'(
"อนิมอล"เป็นอัลบั้มอมตะ มีความก้าวหน้า ทั้งเนื้อหาและลีลา ที่รับฟังได้ ไม่เคยเบื่อเลยนะครัฟ  :D

http://www.youtube.com/watch?v=7K4dVmE8_dY

ผมก็ชอบฝูงสัตว์มากกว่าเหมือนพี่แจ็ค ล่าสุด เห็นเขาเปลี่ยนบอลลูนหมูตัวใหม่ที่ Battersea Power Station แล้วครับ

http://www.youtube.com/watch?v=DDXDe_wtMeI

ช่วงนี้ ที่ Pink Floyd ออกงาน official มาถล่มแฟน ๆ กันไปจนถึงปีหน้า
Bootlegs ก็ดาหน้าออกมาแบบ non-stop เหมือนกัน  :D

(http://i469.photobucket.com/albums/rr56/jknoremorse/70726f647563742f32303131313030375f3738356534352e6a70670032353000.jpg)

(http://i469.photobucket.com/albums/rr56/jknoremorse/70726f647563742f32303131303933305f3665343563372e6a70670032353000.jpg)

http://www.nexttime.jp/index.php/product-list/77?page=1

.... ส่วนผม รอแต่ The Wall Immersion คร้าาาบ

http://www.youtube.com/watch?v=iDdJbeOi-e0

LIKE

+1 มีประโยชน์ดีครับ

เพิ่งทราบว่า สมาชิกวงนี้ล้วนแต่มาจากวง The Australian Pink Floyd Show ครับ

http://www.youtube.com/watch?v=31jjNbZSdGI

http://www.youtube.com/watch?v=cXD7NyFZDg4

ได้ WYWH Immersion มาแล้ว แต่ยังไม่ได้แกะเลยครับ

มีใครเห็น Wish You Were Here Immersion วางขายในไทยบ้างหรือยังครับ?

หนนี้ WYWH มีใครใน TP สั่งบ้างครับ พี่ Tron หนนี้เงียบเลย  :D

เห็นทาง boomerang บอกว่า ทาง warner ไม่นำเข้าครับ
และ review ใน amazon uk ก็เสียหายมากๆ สำหรับ boxset ชุดนี้

http://www.amazon.co.uk/Wish-Were-Here-Pink-Floyd/dp/B004ZNAUVW/ref=wl_it_dp_o_npd?ie=UTF8&coliid=I267Y9DIL1FPAA&colid=D1OUJ18NBQVK

เที่ยวนี้ warner ไม่นำเข้า อาจเป็นเพราะยอดขายของ Dark Side Immersion ไม่ประสบความสำเร็จหรือเปล่า?
ผมเห็น Dark Side Immerion วางคู่กับ Discovery ที่ B2S และ แมงป่อง หรือที่บูมเมอแรงก็เหมือนกัน

แต่จริง ๆ แล้ว content ของ Immersion ทั้งในส่วนของ Dark side และ WYWH ผมว่ามันก็ซ้ำซากเกินไปครับ
ถึงแม้่ว่าจะคนละ format ก็เถอะ คนที่ชอบคงต้องเป็นแฟนที่ต้องการฟังในเรื่องของความแตกต่างของเสียงจริง ๆ 

Warner Thailand นำเข้าครับ คิดว่าร้าน B2S และร้านอื่นๆน่าจะวางขายวันนี้หรือพรุ่งนี้นี่แหละ ส่วนเรื่องเสียงคลิ๊ก 3 จุดในแผ่นบลูเรย์ ถ้าใครไม่ได้ฟังจากแผ่นบลูเรย์ในเวอร์ชั่นใหม่ 5.1 surround คงไ่ม่ต้องซีเรียสครับ ปัญหานี้เป็นเฉพาะแผ่นที่ขายในยุโรป ในอเมริกาไม่โดน

พี่ Tron จะเป็นผู้นำเข้า The Wall Immersion ไหมครับ?

Warner ต้องนำเข้ามาอยู่แล้ว ผมไม่นำเข้าหรอกครับ ซื้อหรือเปล่ายังไม่รู้เลย ผมปล่อยวางมากแล้วเดี๋ยวนี้ เสียดายเงินครับ

ดูๆแล้วโปรเจคนี้สมาชิก Pink Floyd ไม่มีส่วนรู้เห็นมาก มีแต่ Nick Mason ที่มาช่วยโปรโมท งานที่ทำของแถมอะไรหลายๆมันถึงดูไม่เข้าท่าซักเท่าไหร่ เสียดายครั้งสุดท้ายแท้ๆแต่ทำออกมาได้แย่กว่า Shine On Box Set เสียอีก

มีใครจะปล่อย Shine On Box Set บ้างไหมเอ่ย  8)

WYWH ที่เมืองไทยนี่ขายที่ไหนแล้วราคาเท่าไหร่ครับ ?  มีใครพอทราบบ้างไหม ?

ช่วยแนะนำร้านที่ราคาถูกที่สุดด้วยครับ ผมอยากได้  :D  :D  :D