Thai Progressive Rock Community

Rainbow
สายรุ้งสกาวสุกใส
"วงดนตรีที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครกล้าเหมือน"
(http://3.bp.blogspot.com/_a1oM4gV1bv4/SbSg2FPo2WI/AAAAAAAAB0I/ffcwJFgyuFY/s400/bahia_de_los_angeles_mexico-1024x768.jpg)

ถ้าคำพังเพยของไทยที่ว่า "เขียนด้วยมือ ลบด้วยเท้า" จะยกให้ใคร ก็คงไม่พ้น วงดนตรีวงนี้แน่นอน
และผู้ที่ต้องรับผิดชอบทั้งหมด ก็ต้องไม่พ้น ริชชี่ แบล็คมอร์ แต่เพียงผู้เดียว
(http://c.ilike.com/w/0073/762/0073762131_m.jpg)

และที่ว่า ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครกล้าเหมือน เพราะอะไรล่ะ  ???
แน่นอนว่า..
ทุกคนคงจะคาดเดาได้ไม่ยาก ว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ดีซักเท่าไหร่  :-\

ก็วงดนตรีบ้าอะไร ช่างใช้บุคลากร และทรัพยากรบุคคล มากมายเสียเหลือเกิน (เอ่อ.. มันต่างกันตรงไหนง่ะ)

ทั้งๆที่มีStudio albums แค่ 8 ชุด

1. Ritchie Blackmore's Rainbow
2. Rising
3. Long Live Rock 'n' Roll
4. Down to Earth
5. Difficult to Cure
6. Straight Between the Eyes
7. Bent out of Shape
8. Stranger in Us All

แต่แม่เจ้า..
ใช้นักดนตรีไป 22 คน (นี่ยังไม่รวมตัวแกเองนะครัฟ)
มาลองแยกประเภทดูกัน (ขอบคุณวิกกี้.คอม)

1. นักร้อง 4 คน
· Ronnie James Dio (ลาออก-แนวทางขัดแย้ง)
· Graham Bonnet (ถูกไล่ออก-ไอ้ขี้เมา)
· Joe Lynn Turner (ยุบวง 1984)
· Doogie White

2. มือเบส 6 คน
Craig Gruber (ถูกไล่ออก-เล่นกระตุกๆ ฟั๊งกี้มากไป)
· Jimmy Bain (ถูกไล่ออก-ฝีมือไม่เข้าขั้น)
· Mark Clarke (ถูกไล่ออก-ฝีมือไม่ถึง)
· Bob Daisley (ถูกไล่ออกอย่างไร้เหตุผล)
· Roger Glover (ยุบวง 1984)
· Greg Smith

3. มือกลองอีก 6 คน
Gary Driscoll (ถูกไล่ออก-เล่นเนิบมากไป)
· Cozy Powell (ลาออก-แนวทางขัดแย้ง)
· Bobby Rondinelli (ถูกไล่ออก-เล่นไม่เข้าตาเจ๊แก)
· Chuck Burgi (ยุบวง 1984)
· John O'Reilly (ไม่มีข้อมูล)
· John Miceli ·

4. มือคีย์บอร์ดไม่น้อยหน้า 6 คน
· Micky Lee Soule (ไล่ออกอย่างไร้เหตุผล)
· Tony Carey (ไล่ออก-ฝีมือไม่ถึงใจเจ๊) <-- ที่จริงเพราะอิจฉา (ข้อมูลเพิ่มเติมคุณpanyarak)
· David Stone (ไล่ออกอย่างไร้เหตุผล)
· Don Airey (ลาออก-แนวทางขัดแย้ง)
· David Rosenthal (ยุบวง 1984)
· Paul Morris

(ถ้าอยากดูแบบละเอียด เชิญที่วิกกี้นะครับ)

สุดท้ายน้าแก ก็ไล่ตัวเองออกจากวงจนได้ เมื่อไม่มีใครให้ไล่ออกแล้ว
ต้องไปรับเชิญแกมจ้าง ที่วงเก่า ม่วงเข้ม

แล้ววงนี้มันดีเด่นตรงไหนล่ะ เออ..

อืมม์ พูดตรงๆนะครับ ถ้าเพลงอะไร ที่มันยังแว่วมาในหัวผมอยู่เกิน 20ปี นี่ถือว่า มันต้องมีความพิเศษแน่นอน
ไม่ทางใดก็ทางนึง
ไม่ดีมาก ก็เลวมาก  :P

วงสายรุ้ง มีเพลงที่โคด-ตะ-ระ ฮิตในเมืองไทย คือเพลง The Temple of the King ซึ่งพวกฝรั่งไม่ฮิต เพราะรสนิยมเทียบเทียมพวกเราไม่ได้ ฮิฮิ

อันที่จริงอัลบั้มแรกของพวกเขา มีเพลงดีๆหลายเพลง แต่ดนตรียังไม่ค่อยหนักแน่นถึงใจนัก

Ritchie Blackmore's Rainbow
(http://telecable.es/personales/eltemplodelrey/img/albums/ritchie_blackmores_rainbow.jpg)

ซึ่งต่างจากชุดที่สองมากมาย
Rising
(http://telecable.es/personales/eltemplodelrey/img/albums/rising.jpg)

โดยเฉพาะเพลงโชว์ของอย่าง Stargazer ที่พูดได้เต็มปากว่า ยังไม่มี (หรือไม่เคยเจอ) ว่าจะมีใครที่ไหน เล่น"สด" ได้ดีเท่าในแผ่นสตูดิโอ ไม่ว่าจะเป็นวงRainbow เอง หรือวงรุ่นใหม่อย่าง Dream Theater ก็ตาม

เพลงนี้ถือว่าแบล็คมอร์ทำดนตรีได้อลังการณ์ ปานเพลงซิมโฟนีของดนตรีคลาสสิคเลยทีเดียว  ;D
(จากข้อมูลที่ได้ความอนุเคราะห์จากคุณpanyarak  ;) ทราบว่า ยังมีอีกหลายเวอร์ชั่น)

อยากจะขอข้อมูลเพิ่มเติมหน่อยครับ
1. วงเก่าของ Ronnie James Dio ก่อนมาร่วมวงเรนโบว์ ที่ชื่อวง Elf น่าสนใจไหมครับ
2. มีชุดแสดงสด ชุดไหนแนะนำครับ - ยิ่งมีเพลง Stargazer ยิ่งดีครับ
3. เพลง The Temple of the King ของชาวไทย ทางวงเคยเล่นสดบ้างไหมเอ่ย

ข้อ1 ไม่เคยฟังเหมือนกันครับ ..

ข้อ2 ผมชอบชุด on stage ครับ คิดว่าน่าจะท๊อปฟอร์มที่สุดของวงแล้ว .. ส่วนถ้ามีStargazer รู้สึกว่าชุดLive in Germany จะมีเพลงนี้ครับ ..

ข้อ3 The Temple of the King เคยฟังและดูในyoutube เล่นในช่วงยุคทัวร์อัลบั้มStranger in Us All ครับ ..

ขอตอบปัญหาก่อนครับ
1. ต้องนับถือป้าริทชี่ที่หูถึง ตาถึงที่ไปคว้า Ronnie James Dio จากวง Elf มาได้ แถมพ่วงนักดนตรีจาก Elf มาอีก 3 คน เพราะแนวดนตรีของ Elf นั้นเป็น hard rock ที่อ่อนปวกเปียก และไม่ได้ใช้ประโยชน์จากน้ำเสียงของ Dio เลย วง Elf น่าจะตั้งชื่อมาจาก Dio ที่ตัวเล็กศรีษะโตเหมือนคนแคระ
2. ชุดแสดงสดที่บันทึกเสียงได้ยอดเยี่ยมมากคือ On Stage เป็นบันทึกการแสดงสดจากปี 1976 แต่ขาดความสมบูรณ์แบบ เพราะมีการตัดเพลง Stargazer ที่ท่านผีฯ ชื่นชอบออก และท่อนโซโล่กลองที่อิงเพลงคลาสสิค 1812 Overture กลางเพลง Still I'm Sad ของ Cozy Powell ออกไป และเป็นการนำการแสดงสดจากหลายๆ ที่มายำรวมกัน หากต้องการซึมซาบกับฉบับสมบูรณ์ ต้องฟังจาก Live in Germany 1976 (แผ่นคู่) หรือ Live in Germany 1976: 30th Anniversary Box Set (6 แผ่น) ซึ่งฟังเพลง Stargazer จาก 2 ชุดนี้แล้วพอจะเข้าใจว่า ที่ป้าริทชี่สั่งตัดเพลง Stargazer ออกไปจาก On Stage เพราะท่อนอินโทรด้วยเสียงซินธ์ที่ยืดเยื้อและไม่เข้ากับเพลง ในขณะที่ Tony Carey โซโล่คีย์บอร์ดในท่อนกลางเพลง Still I'm Sad ได้อย่างน่าประทับใจ รวมทั้งการที่ Rainbow เล่นเพลงนี้สู้ในสตูดิโอไม่ได้
(http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/r1.jpg) (http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/r3.jpg) (http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/r2.jpg)

3. Rainbow เคยนำเพลง Temple of the King ออกแสดงสดในคอนเสิร์ตครั้งแรกๆ ของวง เล่นอยู่ไม่กี่ครั้งก็ตัดออกไป กลับมาเล่นอีกหนก็ตอนกลับมาฟอร์มวงใหม่ และออกทัวร์ในปี 1995 หลังจากนั้น ก็นำออกแสดงเป็นครั้งคราวในนาม Blackmore's Night ครับ

แอบย่องไปฟัง Stargazer จาก Cozy Powell - Munich 1977 มาครับ
ไม่รู้ว่าใช่เวอร์ชันเดียวกันหรือเปล่าครับเห็นมีคำอธิบายประกอบว่า an early mix (from Cozy Powell's own collection) of Stargazer, off the Rainbow Rising album. It features an extended keyboard intro (cut from the final release) and a longer outro.

Stargazer ฉบับสตูดิโอ กับ On Stage และ Live in Germany ทั้ง 2 แบบ Tony Carey เล่นคีย์บอร์ด ถ้า Munich 1977 เป็น David Stone เล่นคีย์บอร์ดครับ

(http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/rain3.jpg)

Stargazer แบบแสดงสดที่ยอดเยี่ยมที่สุดน่าจะอยู่ใน Monsters of Rock ซึ่งเป็นอัลบั้มรวมเพลงเด่นๆ จากคอนเสิร์ตนี้ ของ Rainbow มี 2 เพลงคือ Stargazer และ All Night Long คีย์บอร์ดโดย Don Airey กลองโดย Cozy Powell เบสโดย Roger Glover และ Graham Bonnet ร้องนำ ซึ่งร้องเพลง Stargazer ของ Dio ได้อย่างน่าประทับใจ อีกทั้งไม่มีอินโทรเสียงซินธ์ให้เสียอารมณ์ อัลบั้มนี้ยังไม่มีออกเป็นซีดีอย่างเป็นทางการครับ และบันทึกการแสดงสดจาก Monsters of Rock ฉบับวีดีโอที่มีครบทุกเพลง ก็มีแต่วีดีโอคุณภาพต่ำ

(http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/mon.jpg)

ในการทัวร์ญี่ปุ่นครั้งสุดท้ายปี 1984 ก่อนยุบวงกลับไป reunion กับ Deep Purple ป้าริทชี่นำเพลงบรรเลง Difficult to Cure (Beethoven's Ninth) ออกแสดงด้วย ซึ่งตอนต้นเพลงก็เล่นเหมือนในสตูดิโอ แต่พอกลางเพลง อยู่ดีๆ ม่านดำหลังเวทีก็ถูกรูดเปิดออก เผยให้เห็นวง
ออเคสตราวงใหญ่ พร้อมกับเสียงกระหึ่มของเครื่องสาย ดูทีไรขนลุกทุกที บันทึกการแสดงสดนี้หาดูได้จาก DVD ชุด Ritchie Blackmore's Rainbow Live at Budokan, Tokyo ซึ่งภาพและเสียงไม่คมชัดนัก เนื่องจากแปลงมาจากวีดีโอ

(http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/rain2.jpg) (http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/budo.jpg)

ชอบเพลง Stagazer มากๆด้วยครบครับ 

ขอบคุณครับ

ต้องขอบอกก่อนนะครับว่า เพลง"เก็บดาว" นี่ยิ่งฟังชุดเครื่องเสียง ยิ่งทึ่ง มากกว่าจากหูฟังนะครับ แฮ่ม

Rainbow Live In Germany 1976
(http://www.youtube.com/v/NFk4KfFYHgU.swf)
แบล็คมอร์โซโล่กีต้าร์คนเดียวล้วนๆ

ผมว่าแนวทางของเจ๊แบล็คมอร์ก็ชัดเจนดีนะครับ
คือเน้นซาวด์แบบยุคกลาง(Medieval) ซี่งเห็นชัดในวง Deep ยุคแรกๆ (Shades of Deep Purple+The Book of Taliesyn)

พอมาจับคู่กับดิโอ เลยออกแนว ดาบและเวทมนต์(Sword and Sorcerer)ไปเลย ก็เลยเข้มข้น มีพลังดีมาก ยิ่งผสมกับความบ้าเพลงคลาสสิค ร่วมกันระหว่างริชชี่ แบล็คมอร์และโคซี่ พาวเวล (แต่ทำไมออกเสียง โคซี่ โพเหวอะ) ยิ่งทำให้เพลงยุคนี้ อลังการงานสร้างจริงๆ

เสียดายที่โคซี่ พาวเวล อายุสั้นไปหน่อย  :'(

(http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/tony.jpg)

ขอกล่าวถึง Tony Carey ซึ่งเป็นมือคีย์บอร์ดของ Rainbow ตอนเล่นเพลง Stargazer ว่า เขาเป็นอดีตสมาชิก Rainbow ที่มีผลงานออกมามากที่สุด ไม่ต่ำกว่า 30 ชุด ทั้งอัลบั้มเพลงบรรเลงที่ไม่ระบุชื่อศิลปิน อัลบั้มเพลงร็อคในนามเขาเอง ซึ่งชุดที่คนไทยสมัยนั้นรู้จักดีคือ Some Tough City ที่มีเพลงฮิต A Fine, Fine Day และในนาม Planet P Project ซึ่งชุดแรกจะมีเนื้อหาไปทางนิยายวิทยาศาสตร์ และชุดที่ 2 ชื่อ Pink World ก็ออกไปทางนิยายวิทยาศาสตร์เช่นกัน และได้รับการยกย่องว่า มีคอนเซ็ปไม่แพ้ Pink Floyd - The Wall ทีเดียว

(http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/tc4-1.jpg) (http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/pp3.jpg) (http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/pp4.jpg)

ส่วนสาเหตุที่ Tony Carey ออกจาก Rainbow เขาว่า เป็นเพราะป้าริทชี่รู้ว่า เขาแต่งเพลงเป็น จึงพยายามกีดกันไม่ให้เขามีบทบาทในวงมากนัก และชอบแกล้งเขาต่างๆ นานา จนมาถึงจุดแตกหักเมื่อป้าริทชี่เอากาวตราช้างทาขอบประตูห้องพัก จนเขาออกจากห้องไม่ได้ พอพังประตูออกจากห้องได้ เขาก็เก็บกระเป๋าเดินออกจากวงไปเลย อันเป็นที่มาของเพลง L.A. Connection จากอัลบั้ม Long Live Rock n Roll ตอนนี้ Tony Carey ร่วมกับ Joe Lynn Turner, Greg Smith, Bob Rondinelli และ JR Blackmore ลูกชายของป้าริทชี่ กำลังออกทัวร์ในนาม Over the Rainbow เล่นเพลงเก่าๆ ของ Rainbow อยู่ครับ

(http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/otr.jpg)

ได้ฟัง The Temple of the King  เป็นเพลงแรกๆเลยครับ ซึ่งคิดว่าไม่น่าเป็นเพลงฮิตในเมืองฝรั่งเช่นกัน แต่คนไทยคงชอบแนวนี้

ชอบผลงานของ Tony Carey มากครับ รวมทั้งกับ Planet P. ด้วย ชอบเสียงร้อง เสียงคีย์บอร์ดรวมทั้งลีลาการแต่งเพลงของเขา ใครตามฟังงานเดี่ยวของเขาจะพบว่า เขาเอา melody ใน A Fine, Fine Day ไปใช้ในหลายต่อหลายเพลงโดยแอบแฝงให้หวนระลึกถึงอยู่เสมอๆ บางครั้งก็นำมาเป็นท่อนเชื่อมต่อระหว่างเพลง เรียกได้ว่าใช้คุ้มจริงๆ  :D

ขนาดวง Uranium บ้านเราสมัยก่อนยังเอาไปใช้เลยครับ (ท่อนเมโลดี้คีย์บอร์ดของเพลง A Fine Fine Day) แต่ตัวเพลงจริงๆไม่ได้เข้ากันเลย ยังทู่ซี้จะเอาไปใช้ให้ได้  :D

Rising คือสุดยอดอัลบั้มฮาร์ดร๊อคอันดับต้นๆในดวงใจของผมเลยครับ แต่แทร๊คโปรดที่สุดของผมประจำชุดนี้กลับเป็นเพลงจั่วหัวอัลบั้มอย่าง Tarot Woman แฮะ ถึงแม้ริฟฟ์และโซโล่ของน้าริชชี่ในเพลงนี้ไม่ไ่ด้โดดเด่นจนน่าทึ่งแต่ก็อร่อยมันส์ทุกเม็ดยังกะถั่วโก๋แก๋จริงๆ :D

ขอกล่าวถึงอดีตมือคีย์บอร์ดของ Rainbow คนอื่นๆ บ้าง
Mickey Lee Soule เป็นมือคีย์บอร์ดคนแรกที่ป้าริทชี่ไปควักมาจากวง Elf ซึ่งเป็นวงเปิดให้ Deep Purple ในหลายโอกาส Mickey Lee Soule จึงมีควมมเชื่อมโยงกับ Deep Purple ค่อนข้างมาก เขาได้ร่วมงานในผลงานดี่ยวของ Roger Glover และ Ian Gillan และผันตัวเองเป็นคนตั้งเสียงคีย์บอร์ดให้ Deep Purple เวลาออกทัวร์

ก่อนที่ David Stone จะเข้าร่วมกับ Rainbow เขาเป็นมือคีย์บอร์ดของวง Symphonic Slam ซึ่งออกแนว prog และเป็นอัลบั้มแรกๆ ที่มีการใช้ guitar synth แต่หลังจากที่เขาร่วมงานกับ Rainbow แล้ว เขาหายไปจากวงการเลย

(http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/ss.jpg)

คนที่ active ไม่แพ้ Tony Carey คือ David Rosenthal เขาได้เล่นคีย์บอร์ดให้ Elton John, Billy Joel, Happy the Man, Dream Theatre - ผู้ตั้งโปรแกรมซินธ์ในชุด A Change of Season, Steve Vai, Whitesnake, Yngwie J Malmsteen โดยได้ร่วมงานกับอิงวี่ในชุด Inspiration เป็นชุดแรก และพัฒนาเป็นผู้แต่งสกอร์ทั้งหมดให้กับอัลบั้ม Concerto Suite for Electric Guitar and Orchestra เนื่องจากเขาจบการศึกษามาทางด้านดนตรีคลาสสิค และผุ้ควบคุมเสียงเวลาอิงวี่นำคอนแชร์โต้นี้ออกแสดงสด


(http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/y3.jpg) (http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/y1.jpg)

นอกจากนี้ David Rosenthal ยังเป็นผู้ประพันธ์ดนตรีภาคคีย์บอร์ดให้ Movin' Out Musical (เกี่ยวกับเพลงของ Billy Joel) และแต่งเพลง Road to Babylon ซึ่งเป็นเพลงอินโทรใหม่ให้กับเพลง Gates of Babylon ของ Rainbow ที่วง Niji Densetsu (แปลว่า ตำนานแห่งสายรุ้ง) วง Rainbow Cover ของญี่ปุ่น ที่เล่นเพลง Rainbow ได้อย่างน่าประทับใจ

(http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/nd.jpg)

สำหรับ Don Airey น่าจะมีชื่อเสียงมากที่สุด นอกจากอัลบั้มเดี่ยว 2 ชุดแล้ว เขาก็เข้าออกวงต่างๆ เป็นว่าเล่น และมาลงเอยล่าสุดที่ Deep Purple ท่อนอินโทรด้วยคีย์บอร์ดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเขาน่าจะเป็นเพลง Mr. Crowley ของ Ozzy Osbourne
ส่วน Paul Morris นั้น ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนัก ก่อนเข้าร่วมกับ Rainbow เขาเล่นคีย์บอร์ดให้ Doro พอหลังจาก Rainbow ยุบวงเป็นครั้งสุดท้าย เขาก็ไปร่วมงานกับ Joe Lynn Turner และออกทัวร์กับน้กร้องเยอรมันชื่อ Nena ที่เคยมีเพลงฮิต 99 Luftballons

ประเทศที่ Rainbow มีแฟนเพลงที่เหนียวแน่นที่สุดประเทศหนึ่งน่าจะเป็นญี่ปุ่น ภายหลังจากที่ Cozy Powell มือกลอง 2 กระเดื่องที่ฝึมือเยี่ยมที่สุด เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถแข่งในปี 1998 นักดนตรีร็อคจากญี่ปุ่นหลายคนได้รวมตัวกันออก tribute concert และ tribute album อุทิศให้ Cozy Powell เล่นทั้งเพลง Rainbow, Michael Schenker Group, Whitesnake, ELPowell, Black Sabbath

(http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/cp1.jpg) (http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/cp3.jpg) (http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/cp7.jpg) (http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/cp4.jpg) (http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/nd.jpg)

ส่วนที่เยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศที่มีบันทึกการแสดงสดของ Rainbow ออกมามากที่สุด มีออกมาชุดเดียว โดยวงเฉพาะกิจ Catch the Rainbow

(http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/cp5.jpg)

กำลังอยากถามเรื่องวง Niji Densetsu อยู่ทีเดียวครับ

เรื่องที่พี่panyarakเล่าๆมา ไม่เคยรู้รายละเอียดเลยครับ
รู้เพียงแต่ว่าเจ๊แก อาละวาดเขาไปทั่ว
ขอให้คุณpanyarak เล่าต่อไปเรื่อยๆ

เอาจนถึงวง เจ้าสาวไนท์ของแบล็คมอร์ (Blackmore's Night) เลยนะครับ
เพราะเมื่อก่อนวงนี้ฟังแล้วเฉยๆ
แต่ตอนนี้ชักฟังเพราะขึ้นๆแฮะ แปลกจัง :)

Niji Densetsu น่าจะเป็น Tribute to Rainbow ที่เล่นได้ยอดเยี่ยมที่สุดในบรรดา tribute ทั้งหมดครับ และที่สำคัญ นักร้องชาวญี่ปุ่น Yukio Morikawa ร้องเพลงของ Rainbow ได้ชัดถ้อยชัดคำ ไม่ติดสำเนียงญี่ปุ่นเลย เสียงร้องของเขาเหมือนส่วนผสมที่ลงตัวระหวาง Graham Bonnet กับ Ronnie James Dio ในชุดนี้มี Joe Lynn Turner มาร้อง 1 เพลงด้วย

นอกจากชื่อเสียงด้านกีตาร์แล้ว ป้าริทชี่มีชื่อเสียงมากในด้านความเป็นผู้มีอารมณ์ฉุนเฉียว เอาแต่ใจตัวเอง และถึงใช้กำลังกับคนที่เขาไม่พอใจ นอกจากสมาชิก Rainbow ที่โดนเขาไล่ออกเป็นว่าเล่นแล้ว เขาเคยพยายามไล่ Ian Gillan ออกจาก Deep Purple เพราะไม่พอใจสไตล์การร้องของ Gillan เคยกระชากผม David Coverdale เคยมีข่าวลือว่า ไปกัดหูมือคีย์บอร์ด Rainbow คนนึงระหว่างที่โซโลคีย์บอร์ดกลบเสียงกีตาร์ของเขา แต่พอเขาได้พบกับ Candice Night ในโอกาสที่เขาเตะบอลล์อยู่กับสมาชิก Deep Purple ยุค Mark II ที่กลับมารวมตัวกันใหม่ เขาก็ชวนสาวน้อยรุ่นลูกมาร้องประสานเสียงให้ Deep Purple แล้วก็หอบหิ้วกันออกจาก Deep Purple ไปฟื้นฟู Rainbow โดยสาวน้อยยังรับหน้าที่ร้องประสานเสียงเวลาออกทัวร์ จากนั้นเขาก็ยุบวง Rainbow เป็นการถาวร อาจถือได้ว่า Candice Night คือผู้ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตและแนวดนตรีของป้าริทชี่ก็ว่าได้ หลังจากนั้น ป้าริทชี่ก็เปลี่ยนแนวไปเล่นดนตรียุคกลางของยุโรปในนาม Blackmore's Night โดยดนตรีจะออกไปทางอะคูสติกเป็นหลัก และออกทัวร์ตามปราสาทเก่าๆ ในยุโรป ในชุดแต่งกายและเครื่องดนตรียุคกลาง

(http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/rb1.gif) (http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/rb5.jpg) (http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/rb6.jpg) (http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/rb4.jpg)

ผู้ที่คุ้นเคยกับนิสัยเจ้าอารมณ์ของป้าริทชี่ต่างพากันเฝ้าดูว่า ป้าริทชี่จะคบหากับ Candice Night ไปได้นานสักแค่ไหน แต่สาวน้อยก็สามารถผูกใจกับป้าริทชี่มาได้จนถึงวันนี้ และเพิ่งจะเข้าพิธีวิวาห์กันไปไม่นาน Candice Night เองก็ยอมรับว่า ป้าริทชี่ยังเป็นคนเจ้าอารมณ์เหมือนกับสมัยหนุ่มๆ แต่ผลงานในนาม Blackmore's Night มีออกมาเกือบจะ 10 ชุดแล้ว และมีการเปลี่ยนแปลงนักดนตรีน้อยมาก โดยยังไม่มีสมาชิกคนใดโดนไล่ออก แต่มีลาออกไปบ้าง และเวลาออกทัวร์ ก็จะเห็นป้าริทชี่อารมณ์ดีตลอด ไม่หันหลังให้คนดูอีกต่อไป และยิ่งวันไหนอารมณ์ดีมากๆ ก็จะเล่นเพลง cover ของ Deep Purple กับ Rainbow หลายเพลง (Child in Time, Smoke on the Water, Soldier of Fortune, Woman from Tokyo, Since You Been Gone, Tarot Woman, Temple of the King, Catch the Rainbow, Ariel, Sixteenth Century Greensleeves, Rainbow Eyes, Man on the Silver Mountain, Difficult to Cure, Street of Dreams, Self Portrait, The Shed ฯลฯ) โดยคว้ากีตาร์ไฟฟ้าขึ้นมาโซโล่ เรียกเสียงเฮจากแฟนๆ Deep Purple และ Rainbow ได้ตึม แต่เท่าที่ผ่านมา ป้าริทชี่ยังไม่ยอมเล่น Highway Star แม้จะมีเสียงเรียกร้องจากแฟนเพลงทุกครั้ง สำหรับเพลงเก่าเหล่านี้ Candice Night ก็ร้องนำได้ โดยมีนักดนตรีชายจากวงออกมาสลับบ้าง นอกจากนี้ ในอัลบั้มสตูดิโอของ Blackmore's Night ก็มีเพลง cover อื่นๆ เช่น Ocean Gypsy ของ Renaissance, Times They are a Changing ของ Bob Dylan, Diamonds & Rust ของ Joan Baez, Streets of London, Can't Help Falling in Love ฯลฯ แต่ยังไม่เห็นมีเพลงของ ABBA ซึ่งเป็นวงโปรดของป้าริทชี่สักที

มาแอบอ่าน :)

(http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/rb3.jpg) (http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/rb2.jpg)

อัลบั้มนี้ไม้ได้รับอนุญาตให้วางจำหน่าย เป็นเพลงบรรเลงกีตาร์โปร่งโดยป้าริทชี่ที่ไพเราะมากครับ ผมได้มาจากร้านขายแผ่น bootleg ในญี่ปุ่น

 :D ได้ข้อมูลจากคุณ panyarak  เพียบเลยครับ

ชุด Rising นอกจาก Stargazer แล้ว ผมยังชอบ A Light in the Black อีกเพลงครับ มันส์มาก
(แต่รู้สึกว่าทางวงจะไม่ค่อยชอบเพลงนี้สักเท่าไหร่)

ผมก็ชอบเพลง A Light in the Black พอๆ กับ Stargazer ครับ Rainbow เคยนำเพลงนี้ออกเล่นสดไม่กี่ครั้งแล้วก็เลิกไป

(http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/otr.jpg)

Jurgen Richard Blackmore หรือ JR Blackmore ตกลงใจรับตำแหน่งมือกีตาร์ของ Over the Rainbow เพราะถูกเพื่อนเก่าของพ่อชักชวนและคะยั้นคะยออย่างหนัก เพราะพวกอาและลุงทั้งหลายเห็นว่า ไม่มีใครที่จะรับบทนี้ได้เหมาะเท่าเขา ก่อนตัดสินใจรับ JR ก็แจ้นไปหาพ่อเพื่อขอคำแนะนำตอนที่พ่อออกทัวร์อยู่กับ Blackmore's Night (ไม่ได้ขอคำแนะนำจากแม่เลี้ยงชื่อ Candice Night) ซึ่งป้าริทชี่ก็สนับสนุนให้ลูกชายตอบรับด้วยดี ส่วน JR นั้น ก็ประกาศว่า เขาตกลงรับตำแหน่งนี้ ไม่ใช่เพราะอยากวัดรอยเท้าพ่อ แต่เพื่ออยากให้แฟนเพลงที่เกิดไม่ทัน Rainbow ได้สัมผัสกับคอนเสิร์ตของ Rainbow ฉบับจำลองครับ (เรียกจำลองคงไม่ถูก เพราะแต่ละคนหุ่นอุ้ยอ้ายทั้งนั้น) ก็ได้แต่หวังว่า จะมี DVD บันทึกการแสดงสดอย่างเป็นทางการออกมา เนื่องจากดูจาก Youtube แล้วจับเสียงกีตาร์ไม่ค่อยได้เท่าท่อนคีย์บอร์ดที่โดดเด่นของ Tony Carey (ส่วน Joe Lynn Turner โดนแฟนเพลงแซวว่า ออกทัวร์ทั้งที ปล่อยให้อ้วนลงพุงอยู่ได้ แล้วก็มีคนไปแซวต่อว่า เขาตั้งครรภ์กับป้าริทชี่ - ก่อนนี้ ป้าริทชี่เรียก Joe Lynn Turner ว่า Jolene)
Setlist ที่ Over the Rainbow ไปแสดงที่ญี่ปุ่น ประกอบด้วย Tarot Woman, Kill the King, Street of Dreams, Man on the Silver Mountain, Death Alley Driver, Eyes of the World, Ariel, Wolf to the Moon, Power, Can't Happen Here, Jealous Lover, Stargazer, Long Live Rock n Roll, Lazy, Since You Been Gone, I Surrender, All Night Long

เมื่อกล่าวถึง Over the Rainbow ถ้าไม่กล่าวถึง Back to the Rainbow ก็ดูจะไม่สมบูรณ์ Back to the Rainbow เป็นการรวมตัวกันเฉพาะกิจระหว่างอดีตนักร้องนำ Rainbow  2 คน คือ Graham Bonnet กับ Joe Lynn Turner เพื่อออกทัวร์ยุโรปเล่นเพลงเก่าของ Rainbow ซึ่งแต่ละคนจะร้องเพลงในสมัยของตน แต่ Graham Bonnet เพิ่มเพลง Stargazer เข้าไปด้วย และปิดท้ายรายการด้วยการร้องเพลง Long Live Rock n Roll คู่กัน
สำหรับ Graham Bonnet นั้น ก่อนเข้าร่วมกับ Rainbow เขาเป็นนักร้องเพลงป๊อปและ R&B มาก่อน พอ Ronnie James Dio ออกจากวงไป Rainbow ก็ต้องหานักร้องใหม่ ซึ่งกว่าจะมาถึงเขา ก็เรียกนักร้องต่างๆ มาออดิชั่นถึง 70 กว่าคน ก็ไม่มีใครถูกใจป้าริทชี่ จนกระทั่ง Graham Bonnet ถูกเชิญไปทดสอบเสียง และได้รับการตอบรับในทันที แต่ป้าริทชี่ยังติดใจเรื่องทรงผมที่สั้นผิดวิสัยนักดนตรีฮาร์ดร็อคอยู่พักนึงกว่าจะยอมรับได้ Graham Bonnet ได้ร่วมแต่งเพลงให้ Rainbow หลายเพลง รวมทั้ง All Night Long แต่เมื่ออัลบั้มวางตลาด กลับไม่มีชื่อเขาในฐานะคนร่วมแต่งเพลงเลย ซึ่งเขาก็ไม่ถือสา เพราะการได้เข้าร่วมวง Rainbow ถือเป็นเกียรติประวัติเพียงพอสำหรับเขาแล้ว

(http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/gb.jpg)

อาจถือได้ว่า Graham Bonnet เป็นหนึ่งในนักร้องไม่กี่คนที่ได้ร่วมงานกับมือกีตาร์ฮาร์ดร็อคชื่อดังจำนวนมาก นอกจากป้าริทชี่แล้ว ก็มี Michael Schenkerในนาม MSG, Yngwie Malmsteen และ Steve Vai ในนาม Alcatrazz และ Chris Impellitteri ในนาม Impellitteri และเกือบจะรวม Tony Iommi ไปอีกคน แต่เขาปฏิเสธที่จะเข้าร่วมวง Black Sabbath เพราะไม่ชอบแนวทางดนตรี แต่ไม่ว่าเขาจะผ่านมากี่วงหรือออกอัลบั้มเดี่ยวมากี่ชุด บทเพลงของ Rainbow ก็ยังคงตามหลอกหลอนและเป็นช่องทางหากินของเขามาตลอด โดยก่อนที่จะทัวร์กับ Joe Lynn Turner เขาก็เคยออกทัวร์ยุโรปกับ Don Airey ซึ่งอยู่ Rainbow สมัยเดียวกัน เล่นเพลงเก่าของ Rainbow

อ่านกระทู้นี้แล้วมีความสุขจังครับ เดี๋ยวต้องไปค้นหางานของ Rainbow มาฟังประกอบเสียแล้ว จำได้ว่าเคยเปิดเพลงของวงนี้ลั่นห้องแล้วร้องตาม เพื่อกลบเสียงน้องๆห้องข้างๆที่อยู่ติดกัน เพลงจาก Bent Out Of Shape เพลงดัง ชื่ออะไรหว่า  ???

Street of Dreams รึเปล่าครับ กำลังเปิดฟังอยู่พอดี

(http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/rai.jpg)

ใช่ครับ สมัยก่อนเพื่อนผมมันบ้าวงนี้ และชุดนี้มาก ทำเอาผมต้องบ้าตามไปด้วย อีกชุดที่ชอบเสียงคีย์บอร์ดมากก็ Difficult To Cure ครับ  :D

พี่panyarak อยากทราบที่มาของ Joe Lynn Turner ด้วยครับ ..ทำไม blackmore ดูชอบเค้าเป็นพิเศษ(รึเปล่า)

ขอแจมด้วยนิดนึงครับ ผลงานร่วม งานเดี่ยวของเขา อันไหนที่เยี่ยมๆบ้าง ผมฟังแล้วรู้สึกว่าเสียงร้องเขาไม่ทรงพลังเท่าไรนัก แต่ก็ชอบอยู่เหมือนกันครับ  :D

1. น่าจะเป็นเพราะ Joe Lynn Turner เข้ามาในจังหวะที่ป้าริทชี่อยากทำเพลงที่เข้าถึงตลาดได้ง่ายขึ้นพอดี ซึ่งเสียงร้องของเขาก็เหมาะสำหรับแนว AOR มาก ภายหลังการยุบวง Rainbow ครั้งแรก JLT ก็ไปร้องนำให้ Yngwie Malmsteen 3 ชุด (Odyssey, Eclipse และ Live in Leningrad) ตอน Ian Gillan ออกจาก Deep Purple ครั้งที่ 2 ป้าริทชี่ก็ไม่รอช้าที่จะดึง Joe Lynn Turner เข้าไปเสียบแทน ในอัลบั้ม Slaves & Masters ทำให้แนวดนตรีของ Deep Purple ตอนนี้น เพี้ยนไปเลย ภายหลังจากทัวร์เพื่อสนับสนุนอัลบั้ม ป้าริทชี่ได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากสมาชิกในวงและแฟนเพลงให้เชิญ Joe Lynn Turner ออกจากวงไปแล้วเรียก Ian Gillan กลับมา

(http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/dp1.jpg)

2. นอกจากงานในนาม Rainbow แล้ว ทั้งงานเดี่ยวและงานวงในระยะต่อมาของเขาไม่มีชุดไหนน่าฟังเลยครับ เสียงร้องของเขาไม่มีพลังพอ จึงต้องใช้นักร้องประสานเสียงช่วย และเวลาออกแสดงสด ก็ชอบนำเพลงของ Rainbow สมัย Dio กับ Bonnet มาร้อง ซึ่งฟังแล้ว ทำให้เพลงเหล่านั้นด้อยคุณค่าไปเลย

ถึงว่า deep purple ชุดนั้นอย่างกับ rainbow ยุคหลังๆเลย 55+

นึกออกแล้วครับ ผลงานที่ดีที่สุดของ Joe Lynn Turner ยังไงก็ไม่พ้นการหากินกับบุญเก่าจาก Rainbow มันคือการแสดงสดรอบเดียวในโลกของ JLT กับ New Japan Philharmonic Orchestra ภายใต้ชื่อ Symphonic Rainbow Concert ที่กรุงโตเกียว ปี 2006 เล่นเพลงของ Rainbow ทั้งสมัยที่ตนเองร้องและสมัย Ronnie James Dio กับ Graham Bonnet ร้องนำ น่าเสียดายมากที่ไม่บันทึกการแสดงสดทางการนี้ออกจำหน่าย คงมีแต่แผ่น bootleg ซึ่งระบบเสียงค่อนข้างเบาบาง แต่ฟังดูแล้ว น่าจะเป็นงานที่ดีที่สุดของ JLT ครับ

(http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/rb7-1.jpg)  (http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/rb8-1.jpg)

น่าสนนใจจังครับ เมื่อเช้าฟัง Difficult To Cure แล้ว ต้องร้องว่า "I Surrender"
แล้วต่อด้วย Rising เพลง Stargazer เล่นเอาผมไม่ยอมลงจากรถเพราะต้องการฟังจนจบก่อน  :D

เพลง Street of Dreams นั่นก็เพลงนึงครับ แล้วก็ต่อด้วย Can't Let You Go ครับ  :D

เพลงที่พอเทียบชั้นเท่า Stargazer ได้ ก็มี Gates of Babylon และ Hall of the Mountain King ครับ น่าสังเกตว่า วงนี้ชอบแต่งเพลงเกี่ยวกับ ตา ทั้งเพลง Rainbow Eyes, Eyes of the World และ Eyes of Fire ล้วนเป็นเพลงแสนไพเราะทั้งสิ้น นอกจากนี้ ยังตั้งชื่ออัลบั้มนึงว่า Straight between the Eyes และตั้งชื่อวีดีโอ/ดีวีดีว่า Live between the Eyes
เห็นชื่อเพลง Eyes of Fire แล้วทำให้นึกถึงเวลาชมการแสดงของ Rainbow จะสังเกตเห็นป้าริทชี่ใช้สายตาอำมหิตควบคุมจังหวะการเล่นของลูกวง ยกเว้น Roger Glover ซึ่งคุ้นกันมาตั้งแต่สมัย Deep Purple

(http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/rb9.jpg) (http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/rb10.jpg)

พี่panyarak เพลงmagic ในชุดDifficult to cure

ทางวงเคยเอามาเล่นในโชว์บ้างมั้ยครับ ..  ยุคJoe Lynn Turner ผมชอบอัลบั้มนี้ อัลบั้มเดียวเลย 55+

เคยฟังงานเดียวของJoe Lynn Turner ชุดunder cover 2 .. เอาเพลงคนอื่นมาร้อง ก็พอฟังได้เรื่อยๆ

ถ้าดูจากซีดีและดีวีดีที่ออกเป็นทางการทั้งของ Rainbow และงานอื่นๆ ของ JLT แล้ว ไม่เคยนำเพลง Magic มาเล่นเลยครับ แต่อาจซุกซ่อนอยู่ตาม bootleg ก็ได้ครับ

มาถึงนักร้องคนสุดท้ายของ Rainbow บ้าง Doogie White เขาเป็นนักร้องที่มี range กว้าง สามารถร้องเพลงของ Rainbow ได้ทุกยุคโดยไม่มีปัญหาแบบ JLT ทำให้การออกทัวร์เพื่อสนับลนุนอัลบั้มสุดท้ายของ Rainbow มี setlist ที่หลากหลาย รวมทั้งเพลง Temple of the King ที่คนไทยโปรดปราน พอวงถูกยุบโดยไม่คาดฝัน เขาไม่ค่อยมีงานเข้ามากเหมือนนักร้องคนก่อนๆ แต่ก็เจริญรอยตาม JLT โดยเข้าไปเป็นนักร้องนำให้ Yngwie Malmsteen ในอัลบั้ม Attack!! กับ Unleash the Fury และไม่พ้นการหากินกับ Rainbow โดยมีดีวีดีในนามวง White Noise - In the Hall of the Mountain King เล่นเพลงหลายเพลงจากอัลบั้ม Stranger in us all รวมทั้งเพลง Tarot Woman จากสมัย Dio แต่ด้วยเวลาที่ผ่านไป 10 ปี ทำให้ Doogie White ไม่เหมือนเดิมแล้ว เขาดูน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาก เคลื่อนไหวช้า และ range เสียงแคบลง การแสดงของ White Noise จึงค่อนข้างฝืด แม้ว่านักดนตรีจะฝีมือดีก็ตาม

(http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/strange.jpg) (http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/wn1-1.jpg)

Yngwie J Malmsteen มักถูกนำไปเปรียบเทียบฝีมือกับ Ritchie Blackmore อยู่เสมอ และเป็นเรื่องแปลกที่นักร้องทั้ง 4 คนของ Rainbow ต้องไมมีส่วนเกี่ยวข้องกับอิงวี่ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
Ronnie James Dio - เคยร่วมงานกับอิงวี่ในอัลบั้มรวมเพลงหลากศิลปิน Tribute to Aerosmith 1 เพลง คือ Dream on
Graham Bonnet - หลังจากออกจาก Rainbow เขาไปตั้งวง Alcatrazz และมือกีตาร์คนแรกของวงคืออิงวี่
Joe Lynn Turner - ไปร้องให้อิงวี่ถึง 3 อัลบั้ม กับอัลบั้ม Inspiration ซึ่งใช้นักร้องหลายคน
Doogie White - ไปร้องให้อิงวี่ 2 อัลบั้ม

ขอย้อนกลับไปเรืองเพลง Stargazer ที่ฉบับสตูดิโอ ดนตรีแน่นและฟังกระหึ่มมากเพราะเป็นเพลงเดียวของ Rainbow ที่มีวงออเคสตรา Munich Philharmonic Orchestra แย็คอยู่ครับ

เสาร์-อาทิตย์ กระหน่ำไปสามคอนเสิร์ท ตามที่ได้รับความอนุเคราะห์จากพี่ตั๊ม (ขอบคุณครับ :D)

Live in Munich  1977
Live at Budokan 1984
Live in Germany 1995

อย่างแรก เห็นชัดว่าเจ๊ดำมากแก เล่นกีต้าร์ได้ดีขึ้นตามลำดับ -เนียน สุขุม และมีพลังมากๆ
ยิ่งในปี1995 การเล่นเพลงเก่าๆของ ดีพ เพอร์เพิ้ล ได้น่าสนใจ ผมว่าน่าฟังกว่าวงจริงซะอีกนะ

นักร้องนำ ดีโอแกเทพอยู่แล้ว ในขณะที่ ไว้ท์ก็ทำได้ไม่เลว(ปี95) แต่ไม่ต้องพูดถึงโจลีนนะ(ปี84)

มือกลอง ใครก็ไม่สามารถเทียบโคซี่ โพว์ได้เลย(ปี77) คนอะไรตีกลองมันเป็นบ้า มีเน้นหนักเบา เข้ากับเนื้อหาเพลงดีมาก ซึ่งต่างกับยุคหลังๆ มือกลองอะไรๆก็กระหน่ำรัวเป็นเม็ดเขบ็จแปด เป็นเมตัลซะหมด

แต่น่าสงสารไว้ท์ Doogie White ซะจริงๆ ก็แกร้องนำทุกเพลง ในชุด Live in Germany 1995
แต่เวลาขึ้นเครดิต ชื่อของ Candice Isralow (์Night) กลับได้ขึ้นชื่อก่อน มันน่าน้อยใจไหมล่ะ

ถ้าไม่ให้ชื่อขึ้นก่อนเดี๋ยวป้าแกจะหูยานครับ คนที่ครองใจป้าริทชี่จนอยู่หมัดต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ ครับ

+100 ครับ ท่าก็สวย Cozy Powell อยู่กับ ELPowell ก็ตีกลองมันส์ครับ ฟังจาก Live CD แต่เสียดายไม่มี DVD ออกเป็นทางการมาเลย

(http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/elpo.jpg)

อดีตมือกลองของ Rainbow เสียชีวิตไปแล้ว 2 คน อีกคนคือ Gary Driscoll ถูกฆาตกรรมในนิวยอร์กหลายปีแล้ว

สู่สุขคติทั้งคู่เลยนะครับ

มือคีย์บอร์ด Don Airey เนี่ยฝีมือเจ๋งดีครับ
แต่ทำไมผมชอบจำสับกับ Paul Raymond ของวง UFO เรื่อยเลย
ทั้งที่แอรี่ฝีมือก็ดี แต่ทำไมชอบพเนจรจังครับ

Don Airey คงไม่ชอบความจำเจมั้งครับ ตอนหนุ่มๆ เปลี่ยนวงบ่อยมาก ตอนลูกชายเขาป่วย เขาหายหน้าจากวงการไปร่วม 10 ปี
แต่คิดว่า คราวนี้คงอยู่กับ Deep Purple ยืดนะครับ
ส่วน Paul Raymond นี่อยู่กับ UFO หลายปี พอ Michael Schenker ไปตั้งวง MSG ก็ถูกชวนไปอยู่ด้วยตั้งแต่อัลบั้มชุดที่ 2 จากนั้นก็มีผลงานเดี่ยวออกมา 2-3 ชุด แต่ไปไม่รอด แล้วก็หวนกลับมาอยู่ UFO อีกจนทุกวันนี้

(http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/rain3.jpg)

เป็นคอนเสิร์ตประวัติศาสตร์ เพราะป้าริทชี่เข้าไปนอนอยู่ในคุกที่ออสเตรีย เนื่องจากไปลงไม้ลงมือกับเจ้าหน้าที่ รปภ ชาวออสเตรียนที่เวทีคอนเสิร์ต กว่าผู้จัดการวงจะเจรจาเอาตัวออกมาจากคุกได้ ก็เกือบได้เวลาแสดงคอนเสิร์๖ที่มิวนิค ประเทศเยอรมนี เลยต้องจับป้าขึ้นเครื่องบินพิเศษตรงไปมิวนิค และขึ้นเวทีเลย ไม่มีเวลาแม้แต่จะเปลี่ยนเสื้อผ้า ซึ่งใส่มาตั้งแต่ก่อนเข้าคุก

เอ่อ แล้วใครเคยฟัง living loud บ้าง ที่มี การรวมตัวกันของ steve morse-don airey(deep purple ปัจจุบัน )กับ lee kerslake(uriah heep,ozzy),bob daisley(ozzy) เล่นเพลงของ ozzy ซะส่วนใหญ่ แก้แค้น ozzy ที่ไม่ให้เครดิต

มี Jimmy Barnes จาก Cold Chisel ร้องนำอีกคนครับ น่าจะเป็น supergroup อีกวง ผมชอบเฉพาะเพลง cover ส่วนเพลงที่แต่งใหม่ ฟังแล้วไม่ประทับใจ ในขณะที่เสียงร้องของ Jimmy Barnes ต้องใช้เวลาทำความคุ้นเคยก่อนที่จะชอบได้ และภาพลักษณ์ของเขาทั้งอ้วนฉุ ใส่เสื้อเชิ้ตชุ่มเหงื่อ หน้าตาและทรงผมเหมือนคนเป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง ดูจะไม่เหมาะสำหรับแนว hard rock เท่าใด เสียงกีตาร์ของ Morse ยังเทียบชั้นไม่ได้กับ Randy Rhoads และดูเหมือน Morse จะจับปลาหลายมือเกินไป Dixie Dregs ก็ยังไม่ทิ้ง อยู่ Deep Purple ก็ต้องอยู่ใต้เงาของป้าริทชี่ มาตั้งวงเฉพาะกิจ Living Loud ก็ถูกจับไปเทียบกับ Randy Rhoads แต่ถ้าใครชอบฝีมือคีย์บอร์ดของ Don Airey ก็น่าจะลองฟังและชมฝีมือเขาได้ครับ

(http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/ll1.jpg) (http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/ll2.jpg) (http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/ll3.jpg)

เห็นคุณ panyarak พูดถึง Jimmy Barnes แล้วคิดถึง Freight Train Heart (1987/1988)ครับ เป็นชุดที่ผมชอบมากๆ
เพลงแกเก๋าๆทั้งนั้น  Driving Wheels - Steel guitar ของ  David Lindley กินใจมาก
Too Much Ain't Enough Love  เสียง guitar ของ Neal Schon เล่นได้ไพเราะทีเีดียว
I Wanna Get Started with You มี Huey Lewis มาร่วมแจม  Harmonica ด้วยครับ
เพลงอื่นๆก็ดีๆทั้งนั้นครับ ไม่ว่าจะเป็น I'm Still on Your Side ,Seven Days,Last Frontier
แถมเพลง Walk On ยังมี Joe Lynn Turner มาร่วมแต่งด้วยครับ
ตอนแกสมัยหนุ่มๆ (ประมาณช่วงปี 80) แกเทห์ไม่หยอกเลยครับ แต่ตอนนี้ดูไม่ค่อยได้เลย  ???

ไปค้น bootleg ของ Rainbow มาฟังพบว่า มีอยู่ชุดนึงเป็นบันทึกการแสดงสดจากญี่ปุ่น 3 คืน 6 แผ่น สมัย Graham Bonnet ร้องนำ มีเพลงที่เขียนว่า A Light in the Black/Ritchie's Solo/Beethoven's Ninth แต่เปิดฟังแล้วก็ไม่ใช่เพลง A Light in the Black ครับ

(http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/rain5.jpg) (http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/rain4.jpg)

มิน่าละ.. ตอนดูแสดงสดที่มิวนิค เจ๊แบล็คมอร์ เธอไม่ค่อยก้าวร้าวเท่าไหร่
ที่แท้ ยังมีกลิ่นคุกหมาดๆ นี่เอง ฮิฮิ :D

http://www.dio.net/biography/discography/Rainbow_Bootlegs_CD.html
รวมแผ่นbootleg
ไม่เคยฟังซักกาแผ่นเลยครับ
น่าสนใจดีครับ

ขอแนะนำเพลงวงนี้สัก 1 เพลงนะครับ
คงเดาไม่ถูกแน่ๆ

แต่ไม่ใช่เพลง Stargazer ที่ผมชื่นชอบที่สุดนะ
แต่เป็นเพลงที่ผม"รัก"มาก


Catch the Rainbow

เพลงนี้ปรากฏครั้งแรก มีความยาวเพียง 6 นาที 37 วิ
ถ้าใครฟังครั้งแรก ในอัลบั้มเปิดตัว Ritchie Blackmore's Rainbow เมื่อปี 75 ก็คงสัมผัสได้ถึงความหวานของเมโลดี้
แต่ก็เท่านั้น
เพราะตัวเพลงมันช่างเพ้อฝัน เลื่อนลอย ขาดพลัง

แต่เมื่อมาอยู่ในอัลบั้ม On Stage ปี 77
(http://i254.photobucket.com/albums/hh105/DiegoRyu/Rainbow_-_On_Stage-front.jpg)

เพลงสุดใจไขว่คว้าแม่รุ้งงาม
กลับถูกยืดออกไปถึง 15 นาที 53 วิ หรือเกือบ 3เท่าตัว  :o
พร้อมกับพลังงานของเพลงถูกยกระดับขึ้นอย่างโรแมนติค
ไร้ที่ติจริงๆ
เหมือนกับว่า เพลงนี้ที่จริงควรถูกปล่อยออกมาครั้งแรก แบบนี้แหละ

หลังจากเพลงขึ้นต้นอินโทร ผ่านท่อนแรก จนเข้าท่อนฮุก
พอช่วงที่ดิโอ ร้องฮัม ฮือๆ ตามทำนองกีต้าร์ ประมาณนาทีที่ 5 เป็นต้นไป
นั่นแหละ คุณเ๋อ๋ย...

มันกระชากใจ แทบจะขาดออกมาจากอกจริงๆ
และระดับอารมณ์ มันอยู่อย่างงั้น จนเข้าโซโลกีตาร์ และถึงจบเพลง

ต้องขอสารภาพอย่างไม่อายว่า
นี่คือเพลงอกหัก ที่ยอดเยี่ยมเพลงหนึ่งแห่งยุคสมัย
มันทำให้หนุ่มๆหลายคนในสมัยก่อน น้ำตาซึมกันมานักต่อนักแล้ว

ปรกติพอเรียนเสร็จ(ปี3-ปี4) เรามักจะสุมหัวไปกินเหล้ากันที่บ้านเพื่อน
ยิ่งดึก วิทยุที่เปิด ก็มักจะเล่นเพลงที่ "ร็อค" และ "ยาว" ขึ้น (สาเหตุคือ ดีเจขี้เกียจเปลี่ยนแผ่น)
ช่วงที่เพลงนี้ขึ้นมา ซึ่งคุณวิฑูรณ์ แห่งท็อปทีนทาเล็นซ์ นี่แหละชอบเปิดนัก พวกเราก็จะรับรู้ปัญหาหัวใจ เกี่ยวกับอกหัก รักคุดของเพื่อนๆ ที่ระบายออกมาตามน้ำอมฤต
เรียกว่าบ่มจนได้ที่

When evening falls
She'll run to me
Like whispered dreams
Your eyes can't see
Soft and warm
She'll touch my face
A bed of straw
Against the lace

* We believed we'd catch the rainbow
Ride the wind to the sun
Sail away on ships of wonder
But life's not a wheel
With chains made of steel
So bless me come the dawn
Come the dawn

ประมาณว่า เธอนั้นสูงส่งราวกับสายรุ้งแสนงาม
ไอ้เรามันคนบ้านนอกคอกนา
ไม่คู่ควรเล้ย
ว่าแล้วก็ กระดกน้ำสีอำพันกรึ๊บ..

เพลงนี้ เฉพาะฉบับแสดงสดนี้ ผมถือว่า การบรรเลงดนตรี เล่นกับอารมณ์เศร้าลึกๆ ในจิตใจของผู้ฟัง ได้ยอดเยี่ยมมากครับ

ถ้าใครคิดจะลองฟัง ตอนกลางคืนเหงาๆ และกำลังคิดถึง "เธอ"คนนั้น ละก้อ
เราเตือนคุณแล้วนะ...

+1 ครับ ผมก็ชอบ live version จากชุดนี้มากกว่าเหมือนกันครับ   8)

ได้อ่านคำสรรเสริญของท่านผีเพลงแล้ว เมื่อคืนเลยนำ Live in Munich 1977 มาเปิดดูอีกรอบ ซึ่งดูกี่หนก็ยังประทับใจเช่นเดิม

มีข้อสังเกตว่า เวลา Blackmore's Night นำเพลงของ Deep Purple และ Rainbow ออกแสดงสด โดยให้ Candice Night ร้องนั้น ป้าริทชี่ไม่คำนึงเลยว่า เพลงส่วนใหญ่แต่งเนื้อร้องสำหรับผู้ชายร้อง โดยเฉพาะ Woman from Tokyo, Soldier of Fortune, Catch the Rainbow, Man on the Silver Mountain เวลาฟังภริยาของป้าริทชี่ที่อายุต่างกันร่วม 3 ทศวรรษร้องเพลงเหล่านี้แล้ว รู้สึกแปลกๆ ครับ

ครับพี่ ตอนเปิดม่านเวทีที่บูโดกัน ก็น่าตกตะลึงเหมือนกัน
ถ้าอยู่ในงานนั้น คงมีขนลุกแน่นอน

Blackmore's Night ตอนแรกไม่ชอบ เพราะไปดูดเอ็มพี3 มาฟังครับ
แต่วันก่อนดูดีวีดี
โอ้โฮ เสียงดนตรีดีมากเลย บรรเลงได้อารมณ์สมชื่อวงจริงๆ
เลยพอให้อภัยนักร้องนำหญิงครับ

ปล. ภรรยาของริทชี่ ผมว่ายังดูดีกว่าของอิงวี่นะครับ  ;)

Candice Night เป็นคนอ่อนหวานครับ ในขณะที่ภริยาของอิงวี่ ท่าทางเป็นคุณนายใจร้าย เคยได้ยินข่าวเข้ามาจุ้นจ้านเรื่องค่าตัวนักดนตรีจนไม่มีใครอยากไปร่วมงานกับอิงวี่ และเธอก็เป็นต้นเหตุให้ Jorn Lande ทะเลาะกับอิงวี่ จนเปิดศึกด่ากันทางเว็ปไซต์ของแต่ละคน อีกคนที่น่ากลัวคือภริยาของ Ozzy เป็นทั้งผู้จัดการและจอมบงการ กิริยาท่าทางและการพูดจาเหมือนเจ้าแม่

Tony Carey เพิ่งประกาศถอนตัวจากการร่วมทัวร์ในนาม Over the Rainbow เนื่องจากป่วยด้วยโรคทางเดินอาหารเฉียบพลัน ซึ่งแพทย์แนะนำให้งดการเดินทางทั้งหมด ดังนี้น เพื่อไม่ให้แผนการทัวร์อเมริกามีปัญหา เขาจึงขอถอนตัว และผู้ที่เข้ามาแทนที่อย่างเหมาะเจาะและทันท่วงทีคือ Paul Morris มือคีย์บอร์ดคนสุดท้ายของ Rainbow แต่ข่าวอีกกระแสก็ว่า Tony Carey ป่วยการเมือง เพราะไม่พอใจผู้จัดการส่วนตัวของ Joe Lynn Turner ที่เข้ามาสวมบทผู้จัดการวงแทน

อ่านแล้วคุ้นๆแฮะ
นึกถึง โยโกะ โอโนะ / ชารอน ออสบอร์น และ ไกรสร แสงอนันต์ เลย  :D

มายกมือสูงๆว่าชอบ Pink World ด้วยคนครับ มันเป็นคอนเซปต์อัลบั้มที่สมบูรณ์แบบจริงๆ แถมเพลงก็เพราะอีกด้วย เป็นโปรเกรสสีฟเต็มๆครับ แต่น่าเสียดายที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักสักเท่าไร เรียกว่า Underrated กันแบบสุดๆไปเลย ขอขอบคุณพี่ panyarak ที่แนะนำงานดีๆแบบนี้ให้ได้ไปหาฟังกันนะครับ  :D

เคยคิดเล่นๆ ว่า ถ้า Tony Carey ไม่โดนป้าริทชี่แกล้งจนต้องแพ็คกระเป๋าออกจากวงไป และ Carey ได้มีโอกาสเสนอไอเดียการแต่งเพลงให้ Rainbow พวกเราอาจจะได้ฟังอัลบั้มเพลง prog ในนาม Rainbow ก้ได้ เสียงร้องของ Ronnie James Dio ก็น่าจะร้องเพลง prog ได้ ใครไม่เชื่อลองฟังเพลง Mask of the Great Deceiver ที่ Dio รับเชิญไปร้องในอัลบั้มเดี่ยว Seeds of Change ของ Kerry Livgren อดีตมื่อกีตาร์/คีย์บอร์ดของ Kansas ดูได้ครับ
ตอนผมเรียนหนังสืออยู่ที่อเมริกา ได้ฟังเพลง What I See จากอัลบั้ม Pink World ตามสถานีร็อค/AOR บ่อย พอๆ กับเพลง Born in the USA ของ Bruce Springsteen เลยครับ

"Pink World" by Planet Project
http://www.youtube.com/watch?v=6bmbFQ9swJ0


"What I See" by Planet Project
http://www.youtube.com/watch?v=trf9apCME2s

สมัยนู้น ลงใครได้บ้า Pink Floyd
เห็นวงไหนพิ้งค๋ๆ ก็คว้ามาลองหมดครับ
ทั้งวงดิสโก้Pink Project
หรือจะ Pink Lady จากญี่ปุ่น
(http://www.uppicfree.com/images/403_PinkLady_tn.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-403_PinkLady.jpg)

คิดถึงแฮะ

Pink Panther ด้วยพี่  :D

หากติดใจ Planet P Project ขอแนะนำชุดแรกอีกชุดครับ เพลงจะติดหูง่ายกว่า Pink World ส่วน 2 ชุดหลังของ Planet P Project ฟังแล้วไม่ติดหูเลยครับ

ฟัง Rainbow / On Stage แล้วติดใจมากครับ  :D

อย่าบอกนะว่าเพิ่งเคยฟัง ;)
2009-1977=32 ปีเอง
ว้า..ทำไมมันเก่าจัง

เพิ่งเคยฟังอ่ะครับ แบบเต็มๆครับ แต่ก่อนนุ่งสั้น ฟังแต่จากพี่วิฑูรย์ครับ

ผมไปค้น Discography ของ Planet P. มาครับ

   1983   Planet P Project       
    1985   Pink World   
    2002   Go Out Dancing       
    2005   1931: Go Out Dancing, Pt. 1   
    2008   Levittown       

ผมชอบ Pink World, 1931: Go Out Dancing, Pt. 1
1931 ฟังเหมือนงานเดี่ยวของ Tony มากกว่าในนาม Planet P.ครับ

ชุด Go Out Dancing กับ Levittown ไม่เคยฟัง  :D

+1 เรื่อง Go Out Dancing Part I เหมือนผลงานเดี่ยวของ Tony Carey มากกว่างานในนาม Planet P Project

ดูจากเว็ปไซต์ของ Tony Carey ระบุ Go Out Dancing Part I หรือ 1931 ออกปี 2003 และ Go Out Dancing Part II หรือ Levittown ออกปี 2008 ไม่มี Go Out Dancing เฉยๆ ปี 2002 ซึ่งผมเข้าใจว่า อาจจะเป็น demo หรือ advanced copy ที่ปล่อยออกมาก่อน ซึ่ง Tony Carey เคยทำเป็น CDR ขายก่อนปี 2000 (ผมมีอยู่ แต่จำปีไม่ได้) และเป็น version ที่แตกต่างจากอันที่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเล็กน้อยครับ

เคยอ่านที่ไหนสักแห่ง พูดถึงการตั้งชื่ออัลบั้มว่า Go Out Dancing ซึ่งทำให้คนเข้าใจผิดว่าเป็นเพลงแนวเต้นรำ แต่จริงๆ แล้ว Tony Carey ต้องการหมายถึงพระเจ้า เพราะ Go Out Dancing ย่อแล้วเป็น GOD ครับ

                 Tony Carery

            1982       Explorer       
        1982       Heaven   
        1982       In the Absence of The Cat       
        1982       No Human       
        1982       T.C.P.       
        1982       Tony Carey       
        1982       Yellow Power       
        1983           I Won't Be Home Tonight       
            1984       Some Tough City       
       1985           Blue Highway       
        1987            Bedtime Story       
       1989           For You       
        1990       Storyville       
        1992       The Long Road       
        1994           Cold War Kids       
       2000           The Boystown Tapes   
        2008           Only the Young Die Good   
        2009           The New Machine       
        2009           Island & Deserts

สงสัยว่าทำไมงานที่ออกระบุเป็นปี 1982 หลายชุดจังครับ เข้าใจว่าเป็น Reissue ทั้งนั้นเลยใช่ไหมครับ  ::)

ลิสต์นี้ไม่ค่อยครบนะครับ ถ้าไม่นับพวกรวมเพลง ยังตกชุดที่สำคัญ เช่น Wild Western Inclusive - 1989 ซึ่งเป็น OST ที่มีเพลงเพราะๆ หลายเพลง Gefangen im Jemen - 1999, The Voyager Files - 2006, Live in Sweden Vol 1 - 2007 และ Live in Sweden Vol 2 - 2009
ส่วนที่ถามนั้น ไม่ใช่ reissue หรอกครับ อัลบั้ม Exploer, Heavan, In the Absence of the Cat, No Human, Yellow Power เป็นอัลบั้มเพลงบรรเลงที่ Tony Carey บันทึกเสียงไว้นานแล้ว แต่นำมาวางจำหน่ายทีเดียวพร้อมๆ กัน แนวก็ใกล้เคียงกัน ออกจะน่าเบื่อด้วยซ้ำ ส่วนอัลบั้มเพลงบรรเลงอีกชุด TCP ออกปี 1984 และอัลบั้มที่ใช้ชื่อ Tony Carey กับ I Won't Be Home Tonight เป็นชุดเดียวกัน ออกปี 1982 แต่ใช้ปกไม่เหมือนกัน ชุดที่ปีคลาดเคลื่อนก็มี The Boystown Tape - 1999, Islands & Deserts - 2004

ผมขอสรุปไว้ตรงนี้นะครับ
1982       Explorer
1982       Heaven   
1982       In the Absence of The Cat       
1982       No Human     
1982       Yellow Power       
1982       I Won't Be Home Tonight ( Tony Carey )
1984      T.C.P.       
1984       Some Tough City       
1985       Blue Highway       
1987       Bedtime Story       
1989       For You       
1989       Wild Western Inclusive Ost.
1990       Storyville     
1992       The Long Road       
1994       Cold War Kids       
1999       Gefangen im Jemen
1999       The Boystown Tapes   
2004       Island & Deserts
2006       The Voyager Files
2007       Live in Sweden Vol 1
2008       Only the Young Die Good   
2009       The New Machine       
2009      Live in Sweden Vol 2

อัลบ้ม    T.C.P.     เป็นเพลงบรรเลงซินท์เช่นเดียวกับที่ออกมาหลายชุดเมื่อปี 1982 ไหมครับ  ::)

ไม่เคยฟัง เพราะหาซื้อไม่ได้ แต่เท่าที่มีการกล่าวถึงในเว็ปไซต์ยุคก่อนๆ ของ Tony Carey เป็นเพลงบรรเลงทำนองเดียวกับที่ออกมาในปี 1982 ครับ

(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/Folder-2.jpg)

ได้ฟังชุดนี้แล้วครับ เหมือนสำเนียงซินท์ป๊อปของ Moraz เลยครับ แต่ไม่สละสลวยและเพลินเท่า  :D

(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/Folder-3.jpg)

ชุดนี้ปกคุ้นมาก ทำท่าจะสนุกดี ไปๆมาๆบรรเลงป๊อปจ๋าไปหน่อย  :D

(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/Front-6.jpg)


Planet P Project - Levittown (Go Out Dancing - Part II) 2008 ได้ฟังแล้วครับชุดนี้ เรียกว่ากลับมาเป็น Planet P Project ได้ระดับหนึ่งเลย เดินเรื่องเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในสังคมในอุดมคติที่เราต่างใฝ่ฝันถึง มีการสลับฉากเสียงพูดเล่าเรื่องคั่นไปด้วย บรรยากาศจะออกเคร่งเครียดนิดๆ ดนตรีไม่ซับซ้อนเท่าไร ร้อยเรียงต่อเนื่องกัน เหมือนกำลังดูหนังเรื่องหนึ่ง เสียงร้องค่อนข้างจะนวลหูขึ้น ไม่มีเสียงคำรามกราดเกรี้ยวให้ได้ยิน เหมือนเป็นการผสมผสานงานของ Planet P Project กับงานร็อคที่นุ่มนวลส่วนตัวเข้าด้วยกันที่ลงตัวขึ้นกว่าชุดที่แล้ว จะติก็ที่ปกอัลบั้มนี่แหละครับ ที่ไม่ชวนให้สนใจฟังมากนัก

allmusic ให้ Live in Munich 1977 ของ Rainbow เยี่ยมที่สุด จริงไหมครับ มีดีวีดีชุดนี้ขายไหมครับ  ::)

อาจจะเป็นไปได้มังครับ

ต้องขอบอกก่อนนะว่า
สื่อทางสายตานี่ ผมเข้าขั้นโง่งมงายเลยแหละ ประมาณว่าหลังเขาไท้ซาน ซัวซาน และซมซาน

ดีวีดีLive in Munich 1977 กระผ้มก็เพิ่งได้ดูเมื่อ ตอนเปิดกระทู้นี้แหละ แฮ่ะๆ
ชุดนี้ก็แจ่มนะ ถ้านึกถึงว่ามือกีต้าร์เพิ่งออกจากคุกแหม็บๆ
แต่มันไม่มีเพลง Stargazer นี่ซิ
จะว่าเยี่ยมที่สุด ก็กระไรอยู่

ส่วนซีดี On Stage ที่พีี่ปัญญรักษ์ว่าส่วนมากก็เอามาจากคอนเสิร์ทชุดนี้แหละ
แต่นำไปตัดต่อและต่อเติม ก็ดันไม่มีเพลงที่ว่าซะอีก

เยี่ยมที่สุดในบรรดา DVD ทั้งหมดของ Rainbow ครับ ยังไม่เคยเห็นแผ่นจีน แต่มีแผ่นไทยขาย (อัดจากแผ่นอเมริกาหรือยุโรป เพราะแผ่นญี่ปุ่นจะใช้ปกอีกแบบ และเป็นแผ่นคู่) ไม่แน่ใจในคุณภาพ แต่คิดว่าน่าจะ OK

ชอบ rainbow   ช่วง ronnie james dio ร้องนำงะ มันดี   

ชอบคอนเสิร์ตชุดนี้เหมือนกัน ซื้อตั้งแต่ขายในญี่ปุ่นก่อนล่วงหน้าประเทศอื่นๆ
การแสดงสดชุดนี้คือรายการ Rockpalast ซึ่งปัจจุบันมี DVD ผลิตออกขายอย่างเป็นทางการหลายวงครับ

ได้ดูโชว์ที่ Rockpalast ปี 1995 แล้วยังกับคนละวงกับสมัย Joe Lynn Turner ร้องเลยจริงๆ มันส์แบบฉะฉาน แข็งแรงกว่า  :D

ผมขอ update ไว้หน่อยนะครับ

Tony Carey

1982       Explorer
1982       Heaven   
1982       In the Absence of The Cat       
1982       No Human     
1982       Yellow Power       
1982       I Won't Be Home Tonight ( Tony Carey )
1984       T.C.P.       
1984       Some Tough City       
1985       Blue Highway       
1987       Bedtime Story       
1989       For You       
1989       Wild Western Inclusive Ost.
1990       Storyville     
1992       The Long Road       
1994       Cold War Kids       
1999       Gefangen im Jemen
1999       The Boystown Tapes   
2004       Island & Deserts
2006       The Voyager Files
2007       Live in Sweden Vol 1
2008       Only the Young Die Good   
2009       The New Machine       
2009       Live in Sweden Vol 2
2009       Christmas Hymns

ขอบคุณพี่ตั๊มครับ  :D

ขอบคุณครับ ได้ข้อมูลเพียบเลย โดยส่วนตัวผมมาฟังเพลงเพราะ เสียงกีตาร์ของ แบล็กมอร์ นี่แหละครับ

ผมคิดว่า โจลีน ก็แกร้องเสียงเพราะดีนะครับ ไปร้องให้ อิงวี ชุด Odyssey ผมก็ชอบครับ แม้จะป็อปไปก้เถอะ

หลังจากอัลบั้ม Christmas Hymns แล้ว Tony Carey มีอัลบั้มใหม่รวมเพลง cover ที่เขาประทับใจจากสมัยเด็กๆ เมื่อ 50 ปี่ที่แล้ว
ชื่อ Stanislaus County Kid ออกมา เมื่อต้นปีนี้ ฟังแล้วอยากจะเชื่อว่า เขาได้รับอิทธิพลจากวง Over the Rainbow มาพอสมควร เพราะทั้งดนตรีและเสียงร้องเข้มข้นทรงพลังดี เพลงที่ประทับใจมากๆ ก็มี Have You Ever Seen the Rain, Unchained Melody, The Sound of Silence และ Abraham, Martin & John เห็นในเว็ปของเขาว่า ผลิตจำนวนจำกัด และขายหมดแล้วครับ

(http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/tc.jpg) (http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/tc2.jpg)

ขอบคุณครับพี่

อยากเปลี่ยนเป็น เห็นในเว็ปของเขาว่า ผลิตจำนวนจำกัด และขายใกล้หมดแล้วครับ จังครับ  :D

Stanislaus  -นี่ หมายถึงอะไรครับ?  :)

ชื่อตำบลหรืออำเภอในมลรัฐแคลิฟอร์เนียที่ Tony Carey ใช้ชีวิตตอนเด็กครับ รูปรถบนหน้าปกก็จำลองมาจากรถที่บิดาของเขาใช้สมัยโน้นครับ

ขอเรียนถามหน่อยครับว่า นอกจากอัลบั้ม Ritchie Blackmore's Rainbow, Rainbow Rising และ Long Live Rock and Roll แล้ว ยังมีชุดอื่นใดอีกบ้างที่เข้าขั้นคลาสสิก จะได้ตามเก็บให้ครบครับ

On Stage กับ Down to Earth ครับ

ขอเพิ่ม Difficult to Cure อีกชุด ในแง่ที่มีเพลงบรรเลง 2 เพลงที่น่าประทับใจครับ

ขอบคุณครับ คุณ panyarak

ผม bid ได้แผ่นเสียงชุด Long Live Rock and Roll แล้ว แต่แผ่น Ritchie Blackmore's Rainbow โดนมือดีแอบมาตีหัวตอนเผลอ ตอนนี้กำลังลุ้นชุด Rainbow Rising กับ Down To Earth อยู่ครับ

แล้วไม่ทราบว่า Straight Between The Eyes โดยรวมพอใช้ได้ไหมครับ?

แม้ว่าจะไม่น่าประทับใจเท่า Difficult to Cure แต่ก็พอยอมรับได้ครับ ผมประทับใจอยู่เพลงเดียวคือ Eyes of Fire (วงนี้ชอบแต่งเพลงเกี่ยวกับ ดวงตา) ที่ยาวกว่าเพลงอื่น และไม่เคยเห็นนำออกแสดงสด

ผมได้อัลบั้ม Rising, Long Live Rock and Roll และ Down to Earth มาแล้ว เสียดายที่ยังไม่สามารถครอบครองชุด Ritchie Blackmore's Rainbow ได้ และตอนนี้กะว่าจะลุ้น Straight between the Eyes เป็นลำดับถัดไปครับ

กล่องนี้สวยงามจริงๆครับ เห็นแล้วน้ำลายหก ;D

(http://www.uppicfree.com/images/726_RAINOFIBOXCONTENT.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-726_RAINOFIBOXCONTENT.jpg)

RAINBOW The Polydor Years 1975 - 1986 Mini LP CD BOX SET JAPAN 1st Press Limited Edition (Remastered) w/Mini LP CD x9 (10CDs) + Obi, 40 Page Booklet, Lyrics (except Live Tracks) (Japanese Exclusive Release) - Out Of Print UICY-90512/21 (Japanese Official Release)

CD 1 : Ritchie Blackmore's Rainbow s/t Mini LP CD JAPAN (Mini LP Type Paper Sleeve Cover (Gate Fold Cover : Coating Cover)

1.Man on the Silver Mountain
2.Self Portrait
3.Black Sheep of the Family (Quatermass cover)
4.Catch the Rainbow
5.Snake Charmer
6.The Temple of the King
7.If You Don't Like Rock 'N' Roll
8.Sixteenth Century Greensleeves
9.Still I'm Sad

Vo.Ronnie James Dio (ex Dio, ex Heaven & Hell, ex Black Sabbath, ex ELF, ex The Electric Elves, ex Ronnie Dio & The Prophets)
G.Ritchie Blackmore (Blackmore's Night, ex Deep Purple, ex Mandrake Root, ex The Savages, ex The Crusaders, ex Three Musketeers, ex Roundabout, ex The Outlaws, ex Heinz, ex Heinz And The Wildboys, ex Screaming Lord Sutch, ex Ritchie Blackmore Orchestra, ex Green Bullfrog)
B.Craig Gruber (ex ELF, ex Black Sabbath, ex Gary Moore Band, ex The Rods, ex Bible Black)
Dr.Gary Driscoll (ex ELF, ex The Electric Elves, ex Jack Starr Band, ex Thrasher, ex Bible Black, ex Starcastle)
Piano,Mellotron,Clavinet,Organ.Mickey Lee Soule (ex ELF, ex A'La Roc, ex Ian Gillan Band)


CD 2 : RAINBOW Rising Mini LP CD JAPAN (Mini LP Type Paper Sleeve Cover (Gate Fold Cover)

1.Tarot Woman
2.Run With the Wolf
3.Starstruck
4.Do You Close Your Eyes
5.Stargazer
6.Light in the Black

Vo.Ronnie James Dio (ex Dio, ex Heaven & Hell, ex Black Sabbath, ex ELF, ex The Electric Elves, ex Ronnie Dio & The Prophets)
G.Ritchie Blackmore (Blackmore's Night, ex Deep Purple, ex Mandrake Root, ex The Savages, ex The Crusaders, ex Three Musketeers, ex Roundabout, ex The Outlaws, ex Heinz, ex Heinz And The Wildboys, ex Screaming Lord Sutch, ex Ritchie Blackmore Orchestra, ex Green Bullfrog)
B.Jimmy Bain (The Key, The Mandy Lion Band, 3 Legged Dog, ex Hollywood Allstarz, ex Dio, ex WWIII, ex Wild Horses, ex Street Noise, ex Harlot, ex Phil Lynott Band, ex Band Of Thieves)
Dr.Cozy Powell (ex Forcefield, ex Cozy Powell's Hammer, ex MSG, ex Whitesnake, ex Black Sabbath, ex Peter Green Splinter Group, ex The Sorcerers, ex Youngblood, ex The Ace Kefford Stand, ex Big Bertha, ex Jeff Beck Group, ex Bedlam, ex Yngwie Malmsteen Band, ex Emerson, Lake & Powell, ex The Brian May Band, ex Tipton, Entwistle & Powell, ex The Snakes, ex Graham Bonnet & The Hooligans)
Key.Tony Carey (Over The Rainbow, ex Einstein, ex Pat Travers Band, ex Blessings, ex Planet P)


CD 3 : RAINBOW On Stage Mini LP CD JAPAN (Mini LP Type Paper Sleeve Cover (Gate Fold Cover) + 8 Page Full Color Photo Booklet +Inner Bag x2)

1.Kill the King (Live)
2.Medley ~ Man on the Silver Mountain ~ Blues ~ Starstruck (Live)
3.Catch the Rainbow (Live)
4.Mistreated (Deep Purple) (Live)
5.Sixteenth Century Greensleeves (Live)
6.Still I'm Sad (Live)

Vo.Ronnie James Dio (ex Dio, ex Heaven & Hell, ex Black Sabbath, ex ELF, ex The Electric Elves, ex Ronnie Dio & The Prophets)
G.Ritchie Blackmore (Blackmore's Night, ex Deep Purple, ex Mandrake Root, ex The Savages, ex The Crusaders, ex Three Musketeers, ex Roundabout, ex The Outlaws, ex Heinz, ex Heinz And The Wildboys, ex Screaming Lord Sutch, ex Ritchie Blackmore Orchestra, ex Green Bullfrog)
B.Jimmy Bain (The Key, The Mandy Lion Band, 3 Legged Dog, ex Hollywood Allstarz, ex Dio, ex WWIII, ex Wild Horses, ex Phil Lynott Band, ex Street Noise, ex Harlot, ex Band Of Thieves, ex Gary Moore Band)
Dr.Cozy Powell (ex Forcefield, ex Cozy Powell's Hammer, ex MSG, ex Whitesnake, ex Black Sabbath, ex Peter Green Splinter Group, ex The Sorcerers, ex Youngblood, ex The Ace Kefford Stand, ex Big Bertha, ex Jeff Beck Group, ex Bedlam, ex Yngwie Band, ex Emerson, Lake & Powell, ex The Brian May Band, ex Tipton, Entwistle & Powell, ex The Snakes, ex Graham Bonnet & The Hooligans)
Key.Tony Carey (Over The Rainbow, ex Einstein, ex Pat Travers Band, ex Blessings, ex Planet P)


CD 4 : RAINBOW Long Live Rock 'N' Roll Mini LP CD JAPAN (Mini LP Type Paper Sleeve Cover (Gate Fold Cover)

1.Long Live Rock 'N' Roll
2.Lady of the Lake
3.L.A. Connection
4.Gates of Babylon
5.Kill the King
6.The Shed (Subtle)
7.Sensitive to Light
8.Rainbow Eyes

Vo.Ronnie James Dio (ex Dio, ex Heaven & Hell, ex Black Sabbath, ex ELF, ex The Electric Elves, ex Ronnie Dio & The Prophets)
G,B.Ritchie Blackmore (Blackmore's Night, ex Deep Purple, ex Mandrake Root, ex The Savages, ex The Crusaders, ex Three Musketeers, ex Roundabout, ex The Outlaws, ex Heinz, ex Heinz And The Wildboys, ex Screaming Lord Sutch, ex Ritchie Blackmore Orchestra, ex Green Bullfrog)
B.Bob Daisley (The Hoochie Coochie Men, Living Loud, Silver, Voodooland, Stream, ex Black Sabbath, ex Gary Moore Band, ex Chicken Shack, ex Widowmaker, ex Uriah Heep, ex Mungo Jerry, ex Yngwie J. Malmsteen's Rising Force, ex Ozzy Osbourne Band, ex Mothers Army, ex Thin Lizzy, ex Kahvas Jute, ex Crossfire)
Dr.Cozy Powell (ex Forcefield, ex Cozy Powell's Hammer, ex MSG, ex Whitesnake, ex Black Sabbath, ex Peter Green Splinter Group, ex The Sorcerers, ex Youngblood, ex The Ace Kefford Stand, ex Big Bertha, ex Jeff Beck Group, ex Bedlam, ex Yngwie Malmsteen Band, ex Emerson, Lake & Powell, ex The Brian May Band, ex Tipton, Entwistle & Powell, ex The Snakes, ex Graham Bonnet & The Hooligans)
Key.David Stone (ex Le Mans, ex Symphonic Slam, ex Oak)


CD 5 : RAINBOW Down To Earth Mini LP CD JAPAN (Mini LP Type Paper Sleeve Cover + Inner Bag)

1.All Night Long
2.Eyes of the World
3.No Time to Lose
4.Makin' Love
5.Since You Been Gone
6.Love's No Friend
7.Danger Zone
8.Lost in Hollywood

Vo.Graham Bonnet (Alcatrazz, Elektric Zoo, Moonstone Project, Taz Taylor Band, ex Impellitteri, ex Anthem, ex MSG, ex The Marbles, ex Forcefield, ex Blackthorne, ex Graham Bonnet & The Hooligans, ex The Riot Squad)
G.Ritchie Blackmore (Blackmore's Night, ex Deep Purple, ex Mandrake Root, ex The Savages, ex The Crusaders, ex Three Musketeers, ex Roundabout, ex The Outlaws, ex Heinz, ex Heinz And The Wildboys, ex Screaming Lord Sutch, ex Ritchie Blackmore Orchestra, ex Green Bullfrog)
B.Roger Glover (Deep Purple, ex The Butterfly Ball, ex Wizard's Convention, ex Episode Six, ex Wainwrights Gentlemen, ex Gillan & Glover)
Dr.Cozy Powell (ex Cozy Powell's Hammer, ex MSG, ex Whitesnake, ex Black Sabbath, ex Peter Green Splinter Group, ex The Sorcerers, ex Youngblood, ex The Ace Kefford Stand, ex Big Bertha, ex Jeff Beck Group, ex Bedlam, ex Emerson, Lake & Powell, ex The Brian May Band, ex Yngwie Malmsteen Band, ex Tipton, Entwistle & Powell, ex The Snakes, ex Graham Bonnet & The Hooligans)
Key.Don Airey (Deep Purple, Living Loud, M3, K2, Uli Jon Roth Band, Empire, ex Forcefield, ex Black Sabbath, ex Ozzy Osbourne Band, ex Gary Moore Band, ex The Brian May Band, ex Quatermass II, ex The Snakes, ex The Company Of Snakes, ex Whitesnake, ex Alaska, ex Ten, ex MSG, ex UFO, ex Jethro Tull, ex The Cage, ex Colosseum II)


CD 6 : RAINBOW Difficult To Cure Mini LP CD JAPAN (Mini LP Type Paper Sleeve Cover + Inner Bag)

1.I Surrender
2.Spotlight Kid
3.No Release
4.Magic
5.Vielleicht Das Nachste Mal (Maybe Next Time)
6.Can't Happen Here
7.Freedom Fighter
8.Midtown Tunnel Vision
9.Difficult to Cure (Beethoven's Ninth)

Vo.Joe Lynn Turner (Over The Rainbow, RPM, Sunstorm, Big Noize, Brazen Abbot, Hit Squad, ex Hughes/Turner Project (HTP), ex Deep Purple, ex Fangando, ex Mothers Army, ex Yngwie J. Malmsteen's Rising Force, ex Ezra)
G.Ritchie Blackmore (Blackmore's Night, ex Deep Purple, ex Mandrake Root, ex The Savages, ex The Crusaders, ex Three Musketeers, ex Roundabout, ex The Outlaws, ex Heinz, ex Heinz And The Wildboys, ex Screaming Lord Sutch, ex Ritchie Blackmore Orchestra, ex Green Bullfrog)
B.Roger Glover (ex Deep Purple, ex The Butterfly Ball, ex Wizard's Convention, ex Episode Six, ex Wainwrights Gentlemen, ex Gillan & Glover)
Dr.Bobby Rondinelli (The Lizards, Willie Basse Band, Over The Rainbow, Blue Oyster Cult, ex Rainbow, ex Riot, ex Doro, ex Quiet Riot, ex Sun Red Sun, ex Warlock, ex The Sign, ex Big Trouble, ex Samantha, ex Black Sabbath)
Key.Don Airey (Deep Purple, Living Loud, M3, K2, Uli Jon Roth Band, Empire, ex The Brian May Band, ex Black Sabbath, ex Forcefield, ex Phenomena, ex Quatermass II, ex The Snakes, ex The Company Of Snakes, ex Whitesnake, ex Colosseum II, ex Gary Moore Band, ex The Cage, ex MSG, ex UFO, ex Ten, ex Alaska, ex Ozzy Osbourne Band, ex Jethro Tull)


CD 7 : RAINBOW Straight Between The Eyes Mini LP CD J(Mini LP Type Paper Sleeve Cover + Inner Bag)

1.Death Alley Driver
2.Stone Cold
3.Bring on the Night (Dream Chaser)
4.Tite Squeeze
5.Tearin' Out My Heart
6.Power
7.MISS Mistreated
8.Rock Fever
9.Eyes of Fire

Vo.Joe Lynn Turner (Over The Rainbow, RPM, Sunstorm, Big Noize, Brazen Abbot, Hit Squad, ex Hughes/Turner Project (HTP), ex Deep Purple, ex Fangando, ex Mothers Army, ex Yngwie J. Malmsteen's Rising Force, ex Ezra)
G.Ritchie Blackmore (Blackmore's Night, ex Deep Purple, ex Mandrake Root, ex The Savages, ex The Crusaders, ex Three Musketeers, ex Roundabout, ex The Outlaws, ex Heinz, ex Heinz And The Wildboys, ex Screaming Lord Sutch, ex Ritchie Blackmore Orchestra, ex Green Bullfrog)
B.Roger Glover (ex Deep Purple, ex The Butterfly Ball, ex Wizard's Convention, ex Episode Six, ex Wainwrights Gentlemen, ex Gillan & Glover)
Dr.Bobby Rondinelli (The Lizards, Willie Basse Band, Over The Rainbow, Blue Oyster Cult, ex Rainbow, ex Riot, ex Doro, ex Quiet Riot, ex Sun Red Sun, ex Warlock, ex The Sign, ex Big Trouble, ex Samantha, ex Black Sabbath)
Key.David Rosenthal (Billy Joel Band, Vinnie Moore Band, ex Happy The Man, ex Whitesnake, ex Red Dawn, ex Hammerhead, ex Yngwie Malmsteen Band)


CD 8 : RAINBOW Bent Out Of Shape Mini LP CD JAPAN (Mini LP Type Paper Sleeve Cover + Inner Bag)

1.Stranded
2.Can't Let You Go
3.Fool for the Night
4.Fire Dance
5.Anybody There
6.Desperate Heart
7.Street of Dreams
8.Drinking With the Devil
9.Snowman
10.Make Your Move

Vo.Joe Lynn Turner (Over The Rainbow, RPM, Sunstorm, Big Noize, Brazen Abbot, Hit Squad, ex Hughes/Turner Project (HTP), ex Deep Purple, ex Fangando, ex Mothers Army, ex Yngwie J. Malmsteen's Rising Force, ex Ezra)
G.Ritchie Blackmore (Blackmore's Night, ex Deep Purple, ex Mandrake Root, ex The Savages, ex The Crusaders, ex Three Musketeers, ex Roundabout, ex The Outlaws, ex Heinz, ex Heinz And The Wildboys, ex Screaming Lord Sutch, ex Ritchie Blackmore Orchestra, ex Green Bullfrog)
B.Roger Glover (ex Deep Purple, ex The Butterfly Ball, ex Wizard's Convention, ex Episode Six, ex Wainwrights Gentlemen, ex Gillan & Glover)
Dr.Chuck Burgi (Billy Joel Band, ex Brand X ex Blue Oyster Cult, ex Skull, ex The Neverland Express, ex Fandango, ex Balance, ex Red Dawn)
Key.David Rosenthal (Billy Joel Band, Vinnie Moore Band, ex Happy The Man, ex Whitesnake, ex Red Dawn, ex Hammerhead, ex Yngwie Malmsteen Band)


CD 9 & CD 10 : RAINBOW Finyl Vinyl Mini LP CD JAPAN 2CD (Mini LP Type Paper Sleeve Cover (Gate Fold Cover) + Original LP Obi Type Sticker on the Plastic Bag)

Disc 1

1.Spotlight Kid (Live)
2.I Surrender (Live)
3.Miss Mistreated (Live)
4.Street of Dreams (Live) (Additional Track)
5.Jealous Lover
6.Can't Happen Here (Live)
7.Tearin' Out My Heart (Live) (Additional Track)
8.Since You Been Gone (Live)
9.Bad Girl

Disc 2

1.Difficult to Cure (Live)
2.Stone Cold (Live)
3.Power (Live)
4.Man on the Silver Mountain (Live)
5.Long Live Rock 'N' Roll (Live)
6.Weiss Heim

Vo.Ronnie James Dio (ex Dio, ex Heaven & Hell, ex Black Sabbath, ex ELF, ex The Electric Elves, ex Ronnie Dio & The Prophets)
Vo.Graham Bonnet (Alcatrazz, Elektric Zoo, Moonstone Project, Taz Taylor Band, ex Impellitteri, ex Anthem, ex MSG, ex The Marbles, ex Forcefield, ex Blackthorne, ex Graham Bonnet & The Hooligans, ex The Riot Squad)
Vo.Joe Lynn Turner (Over The Rainbow, RPM, Sunstorm, Big Noize, Brazen Abbot, Hit Squad, ex Hughes/Turner Project (HTP), ex Deep Purple, ex Fandango, ex Mothers Army, ex Yngwie J. Malmsteen's Rising Force, ex Ezra)
G.Ritchie Blackmore (Blackmore's Night, ex Deep Purple, ex Mandrake Root, ex The Savages, ex The Crusaders, ex Three Musketeers, ex Roundabout, ex The Outlaws, ex Heinz, ex Heinz And The Wildboys, ex Screaming Lord Sutch, ex Ritchie Blackmore Orchestra, ex Green Bullfrog)
B.Roger Glover (Deep Purple, ex The Butterfly Ball, ex Wizard's Convention, ex Episode Six, ex Wainwrights Gentlemen, ex Gillan & Glover)
B.Bob Daisley (The Hoochie Coochie Men, Living Loud, Silver, Voodooland, Stream, Gary Moore Band, ex Black Sabbath, ex Uriah Heep, ex Rainbow, ex Chicken Shack, ex Widowmaker, ex Mungo Jerry, ex Takara, ex Yngwie J. Malmsteen's Rising Force, ex Ozzy Osbourne Band, ex Mothers Army, ex Kahvas Jute, ex Thin Lizzy, ex Crossfire)
Dr.Cozy Powell (ex Forcefield, ex Cozy Powell's Hammer, ex MSG, ex Whitesnake, ex Black Sabbath, ex Peter Green Splinter Group, ex The Sorcerers, ex Youngblood, ex The Ace Kefford Stand, ex Big Bertha, ex Jeff Beck Group, ex Bedlam, ex Yngwie Malmsteen Band, ex Emerson, Lake & Powell, ex The Brian May Band, ex Tipton, Entwistle & Powell, ex The Snakes, ex Graham Bonnet & The Hooligans)
Dr.Bobby Rondinelli (Rondinelli, The Lizards, Willie Basse Band, Over The Rainbow, Blue Oyster Cult, ex Riot, ex Doro, ex Quiet Riot, ex Sun Red Sun, ex Warlock, ex The Sign, ex Big Trouble, ex Samantha, ex Black Sabbath)
Dr.Chuck Burgi (Billy Joel Band, ex Brand X, ex Blue Oyster Cult, ex Skull, ex The Neverland Express, ex Fandango, ex Balance, ex Red Dawn)
Key.David Rosenthal (Billy Joel Band, Vinnie Moore Band, ex Happy The Man, ex Whitesnake, ex Hammerhead, ex Yngwie Malmsteen Band, ex Red Dawn)
Key.Don Airey (Deep Purple, Living Loud, M3, K2, Uli Jon Roth Band, Empire, ex The Brian May Band, ex Black Sabbath, ex Forcefield, ex Phenomena, ex Quatermass II, ex The Snakes, ex The Company Of Snakes, ex Whitesnake, ex Gary Moore Band, ex MSG, ex UFO, ex Ten, ex Ozzy Osbourne Band, ex Alaska, ex Colosseum II, ex Jethro Tull, ex The Cage)
Key.David Stone (ex Le Mans, ex Symphonic Slam, ex Oak)
Orchestra Conducted by Mr. Takashi Hiroi
Backing Vo.Lin Robinson, Dee Beale

^^ คุณ Tron เช็ดน้ำลายเสร็จแล้ว กดสั่งไปได้เลยครับ ถ้าจะให้ครบ ยังมี Rainbow - Live in Germany กับ Stranger in Us All ที่ออกคนละสังกัดอีกครับ

(http://www.uppicfree.com/images/743_strange.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-743_strange.jpg)
(http://www.uppicfree.com/images/674_strange1.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-674_strange1.jpg)

เช็ดน้ำลายเสร็จก็เช็ดเหงื่อต่อครับ ราคาจบ 355 เหรียญ ส่วนผมสละเรือตั้งแต่ 260 เหรียญแล้ว

ยังดีได้ 4 อัลบั้มแรกแบบ 1st press มาไม่แพงมาก  :D

เพิ่มเติมสำหรับแฟนเพลง Rainbow โดยเฉพาะ มีบันทึกการแสดงสดจากเยอรมนี 3 คืน ซึ่งคัดเลือกมาเป็นอัลบั้ม On Stage ออกเป็น mini lp box 6 แผ่น ซึ่งญี่ปุ่นขายรวม กับแผ่นยุโรปที่มีทั้งขายรวมและแยกขายคืนละ 2 แผ่น ครับ

(http://www.uppicfree.com/images/349_rain4.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-349_rain4.jpg)  
(http://www.uppicfree.com/images/359_rain1.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-359_rain1.jpg)  (http://www.uppicfree.com/images/854_rain2.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-854_rain2.jpg)  (http://www.uppicfree.com/images/804_rain3.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-804_rain3.jpg)

ดูเหมือนวงนี้จะโดดเด่นในเรื่องการแสดงสดมากกว่าสตูดิโออัลบั้มหรือเปล่าครับ? เห็นเข็นงานแสดงสดออกมาขายมากมายเหลือเกิน อาจเป็นเพราะเป็นวงที่แตกวงไปนานแล้ว งานแสดงสดจึงเป็นที่ต้องการของแฟนๆมาก ว่าแต่เท่าที่พี่ panyarak เคยได้ฟังมานี่อัลบั้มแสดงสดที่ควรค่าแก่การเก็บสะสมจริงๆคืออัลบั้มไหนครับ?

อยากจะตอบว่า On Stage ครับ แต่ On Stage มีข้อเสียคือเป็นการตัดต่อจากการแสดง 3 คืน แถมยังตัดท่อนโซโลกลองอันลือลั่นของ Cozy Powell กลางเพลง Still I'm Sad ออกไป รวมทั้งเพลง Stargazer ทั้งเพลง ดังนั้น Deutschland Tournee 1976 ที่มี 6 แผ่น จึงเป็นคำตอบสุดท้ายครับ

(http://www.uppicfree.com/images/111_rain4.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-111_rain4.jpg)

ทัวร์ที่ Munich 1977 มีออกเป็นซีดีมาก่อนไหมครับ ได้ข่าวว่ากำลังจะถูกนำมาออกจำหน่าย

ญี่ปุ่นทำเป็นดีวีดีก่อน ต่อมา ประเทศอื่นนำไปออกเป็นดีวีดีบ้างโดยเปลี่ยนปก และมีแบบซีดีออกมาพร้อมๆ ก้นครับ

(http://www.uppicfree.com/images/450_rainbow.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-450_rainbow.jpg) แผ่นญี่ปุ่น

(http://www.uppicfree.com/images/895_mun.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-895_mun.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/386_mun1.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-386_mun1.jpg)

ขอบคุณครับ ดูเหมือนคำตอบสุดท้ายนี่ราคาสูงเอาเรื่องเลยกับซีดี 6 แผ่นนี้

แสดงว่าอัลบั้มแสดงสด Live In Germany 1976 ที่ออกมาก่อนหน้านี้เป็นบันทึกเดียวกันกับใน box 6 แผ่นนี้ใช่ไหมครับ?

ใช่ครับ เขาเลือกมา 1 คืน แต่ระบบเสียงไม่ค่อยหนักแน่นเท่าอันที่ออกตอนหลัง (รุ่น 6 แผ่น หรือคืนละ 2 แผ่น) นะครับ

ถามต่อครับ เห็นว่าจะมีอัลบั้ม Rising และ Long Live Rock N' Roll แบบ Mini lp SHM Deluxe 2 CD จะออกเดือนหน้านี้ ไม่ทราบพี่ panyarak พอทราบหรือไม่ครับว่าแผ่นแถมเป็นอะไรครับ?

ยังไม่เปิดเผย แต่คาดว่า จะเป็น outtakes ครับ

พี่ตั๊มล่อเป้า..
ผมเลยซัดมาแล้วครับ
ขี่สายรุ้ง พุงออกมา..
ซัดซะ 3ชุด 6 แผ่น

แม้จะไม่ใช่แผ่นญี่ปุ่น แต่ก็ซื้อของญี่ปุ่น
แอ๊ะ..ยังไงกันนะ  ???
หึหึ จาดปาย
http://www.cdwow.jp/CD/rainbow-live-nurnberg-messezentrum/dp/1205689

ราคาไม่แพงนะครับเนี่ย ไว้ต้องฝากพี่แจ๊คฟังแล้วแจ้งข่าวด้วยว่าคืนไหนเล่นได้มันส์ น่าเก็บที่สุดอีกที :D

CD Wow Japan แต่ไม่ขายแผ่นญี่ปุ่นเลย

คงเป็นเว็บ CDWow แต่เปลี่ยนภาษาเป็นญี่ปุ่น :D

ช่างน่ากลัวเสียจริง พวกพ่อค้าเนี่ย
มาหลอกเค้าว่าเป็นนี้ฮง  :'(

3 ชุดนี้ เมื่อก่อน ผมว่า ลายเซ็นต์เปรอะ เลอะดีแท้
แต่ตอนนี้ แลดูขลังดีครับ
ตาย2 แก่3

วันนี้ได้ฟังอัลบั้มยุค Joe Lynn Turner อย่าง Difficult To Cure และต่อด้วย Straight To The Eyes ก่อนฟังไปอ่านวิกิเจอว่าช่วงนั้นป้าริชชี่แกชอบ Foreigner เอามาก ซาวนด์และดนตรีในยุคนี้จึงถูก Dio ค่อนขอดว่าเป็น "Foreigner Junior" พอผมได้ฟังแล้วต้องบอกว่าจริงครับ เสียงร้องของ Joe Lynn Turner โดยเฉพาะในอัลบั้ม Difficult To Cure คล้าย Lou Gramm มากๆ ส่วนเพลงส่วนใหญ่ก็เป็นร๊อคที่ไม่ค่อยหนักและไม่ค่อยประทับใจผมเลย เทียบไม่ได้กับยุค Dio ที่มีความหนักแน่นและผสม Classical ได้อย่างยอดเยี่ยม

+1 ครับ

แต่เพลง Sportlight Kid ฟังยังไงๆ ก็ชวนให้คิดถึง A Light in the Black จาก Raising อย่างช่วยไม่ได้จริงๆ

เพิ่ง bid ได้อัลบั้มแสดงสด On Stage มา แต่ไม่ได้ชุด Straight between the Eyes โดยรวมแล้ว ตอนนี้ผมมีแผ่นเสียงอัลบั้มของ Rainbow ที่เป็น audiophile remastered series รวมทั้งสิ้นสี่ชุดดังนี้

Rising
Long Live Rock and Roll
Down to Earth
On Stage

ยังขาดชุดแรกอยู่ ซึ่งคิดว่าน่าจะมีมาเรื่อย ๆ และจะตามเก็บอีกสองชุดคือ Difficult to Cure และ Straight between the Eyes ซึ่งก็น่าจะเพียงพอที่จะได้เห็นภาพในวงกว้างของ Rainbow ครับ

ชุด Stranger in Us All ก็ดีกว่ายุค Joe Lynn Turner นะครับ

ผมไปอ่านวิจารณ์จากแฟนๆชม Stranger In Us All กันมาก ส่วนใหญ่จะเป็นแฟนยุค Dio รุ่นแรกที่ผิดหวังยุค Joe Lynn Turner แต่พอได้ฟัง Sranger In Us All แล้วชื่นชอบกันมาก เห็นว่าย้อนกลับไปเป็น classical hard rock อีกครั้งในหลายๆเพลง และนักร้องคนใหม่ก็ร้องได้ดีมากๆ (ว่ากันว่าป้าริชชี่มีสายตาแหลมคมในการเฟ้นหานักร้องโนเนม) อาจเป็นเพราะมาออกอัลบั้มในช่วงยุค 90's ที่พวกแนว Grunge Rock กำลังระบาดไปทั่วโลก ทำให้ไม่ค่อยมีคนได้สัมผัสอัลบั้มนี้หรือมองว่าดนตรีแบบนี้มันเชยไปแล้ว อ่านเสร็จผมไปเจอ mini lp ราคาถูกมากในอีเบย์เลยสั่งทันทีครับ  ;D

(http://www.uppicfree.com/images/484_b82cc863586b36de8c8b45.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-484_b82cc863586b36de8c8b45.jpg)

ไม่ทัน จองต่อก็แล้วกันครับ :)

มีคนอยากได้เยอะ ต้องบวกกำไรเสียหน่อย  ;D

Rainbow ยุค Dio ได้มาครบแล้ว :D

(http://www.uppicfree.com/images/961_CIMG4425.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-961_CIMG4425.jpg)

ยังขาด Stranger In Us All ที่ยังมาไม่ถึง

มือ 2 หรอครับ

น่าจะเรียกของใหม่นะครับ เพราะมันเหมือนใหม่มากถึงแม้ออกมาตั้งแต่ปี 2001 แ้ล้ว เจ้าของเก่าคงซื้อไปเก็บ

วันก่อนเจอ rising ลงประมูล 15 เหรียญ ไม่มีคนมาประมูลเลยครับ เจ็บใจทีแผ่นผมได้มาแข่งกันไปเกือบ 30 เหรียญ  >:(

Rainbow series นี้เท่าที่ผมเคยตามดู ราคาจะไม่สูงเท่า series แรก (ปี 2001 obi สีดำ) ครับ
แต่เรื่องเสียงผมว่า series ของคุณ Tron น่าจะดีกว่า เท่าที่เคยฟังจากทั้ง 2 series จาก ชุดแรก (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ)

มาแล้วครับ ยังไม่ได้แกะเลย :D

(http://www.uppicfree.com/images/604_CIMG4426.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-604_CIMG4426.jpg)

ฟังแล้ว ต้องยืนยันว่า 3เมืองนี่ เล่นกันคนละอารมณ์จริงๆ
คือเพลงนี่ เซ็ทไว้เหมือนกัน แต่รายละเอียด กับ ความยาว แตกต่างกันน้ะ

สุ้มเสียงของซีดี อาจจะไม่สะอาด เท่ากับการอัดยุคใหม่ๆ
อาจจะมีเสียงหึ่งๆ ของเนื้อเทปที่บันทึกอยู่บ้าง
รูปวงเวที อาจจะหุบหรือแคบไปสักนิด
แต่การแสดงฝีมือ ทั้งการร้องการเล่น เต็มที่ อัดแน่น เมโลดี้เนื้อๆ ไม่มีช่องว่างเลยครับ

ผมไม่เคยฟังการเล่นกีต้าร์ของแบล็คมอร์ ชัดๆ เสียงคลีน สะอาด เป็นเม็ดๆ อย่างนี้มาก่อนเลย ตลอดเวลาที่น้าแกอยู่กับ ม่วงมหากาฬ-ดีพเพอร์เพิล จะออกอัลบั้มแสดงสดมากี่ทีก็ตาม
สว่นเสียงของดิโอ จะติดแหบนิดๆ เก๋ไก๋ได้อารมณ์โหดๆ ไปอีกแบบครับ

พี่แจ็คครับ
3 ชุดนี้พี่สอยจาก cdwow ญี่ปุ่นหรอครับ ตามที่พี่ปัญญรักษ์กรุยทางให้ใช่ไหม สั่งทีละแผ่นใช่ไหมครับ ค่าตัวเท่าไหร่ครับ
ผมดูตามเว็บของเมกาหาไม่ได้เลย แผ่นจากเมซอน ยูเคก็ยังแพงอยู่  ::)

ใช่ครับคุณตี๋
ค่าตัว 550 บาท ต่อชุด (ค่าส่งฟรี)
พี่ปัญญรักษ์เคยกรุณาก็อปมาให้ฟังเพลงเอื้อมฟ้าคว้าดาว
พอดีจังหวะมันออกมา 3 คิน สามแผ่น เลยสอยซะเลย

แม้ว่าแฟนฮาร์ดคอร์ จะบอกว่า คืนที่เมืองดัสเซลดอร์ฟ (27.9.76) จะเล่นดีที่สุด
คือฟังแล้ว ไม่ค่อยเหมือนแผ่นสตูดิโอเลย แถมเลื่อนลอยออกไปทางพร็อกนิดๆ
แต่ทุกคนก็ลงความเห็นว่า ควรมีท้งสามเมือง สามคืนเลยดีกว่า

พี่เช็คที่ cdwOw  มันบอกว่า ต้องรอสต็อคใหม่เข้าครับ ราคารับได้นะ 11.49 ปอนด์
http://www.cdwow.com/CD/rainbow-live-dusseldorf-philipshalle-76/dp/998555

ขอบคุณครับ ทีแรกผมส่องใน cdwow.jp กลับมีแค่ชุดเดียว
ผมว่าลองถ้าเก็บ ก็ต้องเก็บทั้ง 3 คืนแหล่ะครับ ขอบคุณ  :)

รบกวน ท่านผีฯ ช่วยไรท์ชุดนี้มาให้ผมทดลองฟังก่อนทั้ง 3 ในวันเสาร์ได้มั้ยครับ ?

ได้ฟัง Tony Carey - Stanislaus County Kid ด้วยความอนุเคราะห์จากพี่ตั้๊ม เป็นเพลง Cover ทั้ง Album ด้วยดนตรีร็อคจางๆ เนิบๆ เพื่อให้เข้ากับบทเพลงที่เลือกมา ฟังแล้วรู้สึกว่า Tony ร้องหลายเพลงคล้าย Joe Cocker เหมือนกัน โดยรวมฟังแล้วมีความสุขมาก ขอบคุณครับ

ใส่ชุดนี้ไว้ในลายแทงแล้วครับ และตอนนี้ผมก็ได้ LP ชุดแรกของ Rainbow มาครอบครองสมใจแล้ว และได้ในราคาถูกกว่าที่เคย bid แพ้ในคราวก่อนด้วย แฮปปี้จริง ๆ ครับ  ;D

mini lp ของ Rising Rainbow, Down To Earth แบบ deluxe shm 2 cd บอกรายละเอียดบ้างแล้ว คาดว่าคงไม่เลื่อนอีก

http://www.cdjapan.co.jp/list_from_code_banner.html?key=183038

ผมเพิ่งหวดชุดไลฟ์ ที่เนินเบริ์ก มาชิมลาง เสียงดูบวม ๆ พิกล (เข้าใจว่ามันก็ 30 กว่าปีมาแล้ว)
เสียงรอนนี้ยังใสแจ๋ว เพลง catch the rainbow เจ๋งดีครับ (เดี๋ยวกำลังจะต่อแผ่น 2 แล้ว)
ยังไงเดี๋ยวคงได้สอยอีก 2 คืนที่ีเหลือในเร็ววัน
ส่วนสตูดิโอคงเอาแค่ 3 ชุดแรกในยุคดิโอเท่านั้น

แล้วก็คงสอยงานของ ม่วงมหากาฬ อีกบางชุด
ชุด Live in Japan ทั้ง 3 คืน 3 แผ่นนี่น่าสนใจไหมครับ?

ก็น่าสนใจพอๆ กับของ Rainbow ครับ

(http://www.uppicfree.com/images/731_dpplive.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-731_dpplive.jpg)

ได้สอยงานของ Ritchie อีกหลายชุดเลย  :)

ชุดนี้ก็น่าสนใจครับ เป็นเพลงบรรเลงกีตาร์โปร่งโดยป้าริทชี่ล้วนๆ เข้าใจว่า บันทึกเสียงไว้แต่ไม่ได้นำออกวางจำหน่าย จึงมีปรากฎในรูป bootleg เสียงดี

(http://www.uppicfree.com/images/134_black.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-134_black.jpg)

Blackmore's Kingdom Acoustic The Lost Album

01 - 'Me'm'ingen
02 - Unquest Grave
03 - A Maid Bedlam
04 - Scarborough Fair
05 - The Trees They Do Grow
06 - Minstrell Hall
07 - Wind Dance of the Fairies
08 - Lovely Joan -- The Spirit Flies Here
09 - Savoy
10 - All Things Are Quite Silent
11 - Mond Tanz
12 - Greensleeves
13 - Breton Dance -- Douce Dame Jolie
14 - Sylvie
15 - When I Was On Horseback
16 - Ancient Sojourn
17 - Planxty Concoran
18 - The Monagham
19 - Lullaby

ขอบคุณนะครับที่แนะนำ
ยังไงเดี๋ยวผมตามงาน ที่สามารถหาฟังได้ง่ายก่อนละกันครับ งานพิเศษๆ ต้องรับไว้พิจารณาต่อไป

ฝรังมันบอกว่า ไม่ใช่ป้าริชชี่อ้ะครับพี่ตั๊ม
(ผมยังไม่ได้ฟังนะครับ ฟังหูไว้สองหู)

มันบอกว่าเป็นงาน  Celtic Secrets ของ Greg Joy อ่ะครับ
(http://www.arylis.com/images/CelticSecrets.JPG)
http://www.arylis.com/Artists/JoyGreg.php

^^ ไปเช็คดูในเว็ปทางการของ Blackmore's Night แล้ว เขาพูดถึงชุดนี้ว่า 'Blackmore's Kingdom' is not affiliated with Ritchie Blackmore or Blackmore's Night. ก็คงจะจริงอย่างที่พี่แจ็คว่าครับ

ข้อมูลจากเว็ปของ Deep Purple ครับ

Rainbow Rising
Contains two mixes of the original album on disc one. If any of you remember back to the original CDs of this album, the UK and US versions sounded very different, and it may be that these are the two mixes concerned.
Disc two has what are being called 'rough mixes' of the album, and two tracks from the early rehearsals. Let's hope they've gone back to originals sources on this lot.


Down To Earth
Another double, this has the album and single on CD1, and a load of instrumental version on CD2. This is a bit of a worry, as previous Universal 'instrumental bonus tracks' by other artists have just been the original track with the vocal faded down. Hopefully in this case they've found something more interesting.

แล้วเจ้า Rainbow Rising mini lp รุ่นแรกที่ผมมีอยู่นี่มันเป็น UK หรือ US version ล่ะครับเนี่ย ???

Tony Carey ไปเป็นสมาชิกวง heavy metal จากเยอรมนี ชื่อ  Zed Yago ซึ่งมีนักร้องนำเป็นผู้หญิง เรียบร้อยแล้วครับ วงนี้เล่นเพลง Burn ของ Deep Purple ได้น่าประทับใจดีครับ

(http://www.uppicfree.com/images/487_zed.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-487_zed.jpg)

วง Zed Yago นี้เล่นเพลงได้หนักแน่นดีครับ ผมชอบตั้งแต่อัลบั้มชุด Prigrimage (1989) แล้ว  :)

(http://www.uppicfree.com/images/388_ZedYagoLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-388_ZedYagoLP.jpg)

Deutschland Tournee 1976 will re-released!!

http://www.cdjapan.co.jp/detailview.html?KEY=QACT-30001

โถ แล้วแบบนี้ ของผมที่ซื้อมาก่อนแล้ว 2 แผ่น จะเอาไปขายใครดีล่ะเนี่ย? เซ็ง ไิ้อ้พี่ยุ่นเอ้ย....

ต้องทำใจกับกลยุทธ์การขายของพี่ยุ่นเขาครับ แม้แต่สมัยก่อน แผ่นเสียงของศิลปินดัง ๆ อัลบั้มเดียวกันยังขยันเข็นออกมาไม่รู้จักกี่รุ่นจนแฟนพันธุ์แท้ต้องคอยเสียสตางค์อยู่เรื่อย

อดีตนักร้องนำ Rainbow ที่ยังมีชีวิตอยู่ 3 คน (Alkatrazz featuring Graham Bonnet + Joe Lynn Turner + Doogie White) จะยกทีมไปเปิดการแสดง 3 รอบในญี่ปุ่นในนาม The Voice of Rainbow Special Live in Japan 2010 ในเดือนกันยายนนี้ครับ

(http://www.uppicfree.com/images/162_vo.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-162_vo.jpg)

ผมว่าสงสัยต้องมีแผนทำผลงานบันทึกการแสดงสดแน่ๆ เลย เพราะว่า เจ้าพ่อ Ritchie Blackmore ไม่ค่อยหวงเรื่อง
ลิขสิทธิ์อยู่แล้ว ตราบใดที่ยังมีเช็คส่วนแบ่งส่งมาให้เรื่อยๆ น่าอิจฉาที่เค้ามีความสุขกับภรรยาสาวสวยจนใจดีไม่มีปัญหา  :D

โปรเจ็คท์ใหม่ของ Tony Carey และ JR Blackmore จะวางตลาดกลางเดือนกันยายนนี้ เป็นอัลบั้มเพลงร็อคสำหรับการแข่ง Formula I มีนักร้องสาวชื่อ Ela เป็นนักร้องนำครับ

(http://www.uppicfree.com/images/550_ebc2.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-550_ebc2.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/177_ebc_band_2.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-177_ebc_band_2.jpg)

ใบหน้าพ่อ-ลูก คู่นี้ เหมือนกันจัง
มีรูปภริยาเก่าของป้าริชชี่ไหมครับ ไม่เคยเห็นเลย  :(

อยอากให้พี่ตั๊มวิเคราะห์หน่อย ว่าทำไมชาวยี่ปุ่นถึงชอบวงนี้จังเลยครับ
(สังเกตุจากการจัดวงออเครสตร้า มาแบ็คให้เฉยเลย :o)

เอาแบบคิดเอาเองนะครับ ญี่ปุ่นเป็นประเทศชาตินิยมจัด ดังนั้น วงดนตรีต่างประเทศที่ให้เกียรติญี่ปุ่นหรือใช้ญี่ปุ่นเป็นจุดขาย อย่าง Deep Purple ที่ออกอัลบั้มแสดงสด Made in Japan, Cheap Trick ที่ออกบันทึกการแสดงสด At Budokan หรือวงดนตรีที่ตั้งชื่อวงว่า Japan ฯลฯ จึงได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในญี่ปุ่น แม้แต่สมาชิกที่แยกจากวงไปแล้ว ก็สามารถอาศัยกินส่วนบุญที่ได้ประกอบความดีดังกล่าวไว้แบบไม่รู้จบครับ

+1 ผมรู้สึกแบบนี้มานานแล้ว ศิลปินคนไหนจับทางถูก ออกงานที่มีส่วนผสมของญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็นเนื้อร้อง ปกอัลบั้ม มิวสิควีดีโอ มักได้รับความนิยมในญี่ปุ่นมาก

Marty Friedman ที่เคยเป็นมือลีดกีตาร์ให้กับคณะ Megadeth ตั้งรกรากอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นเกือบสิบปีมาแล้วครับ

ส่วนสมาชิกคณะ Deep Purple หรือเครือข่ายคณะ Rainbow คนไหนก็ตาม หากมีโปรเจ็กส่วนตัว ไปเปิดแสดงคอนเสิร์ตในประเทศ
ญี่ปุ่นก็มักได้รับการตอบรับที่ดีเสมอมา  :D

ตามที่คุณตรอนเคยรับปากกันไว้  ;)
พี่ขอโอนสิทธิ์การจองให้คุณป่องครับ :'(
หรือแล้วแต่ สิทธิ์(คน)จะเห็นสมควรนะครัฟ  :D
ขอบคุณที่เก็บไว้ให้จ้า... :-X

ในเมื่อพี่แจ๊คสละสิทธิ์ผมก็ให้สิทธิ์ต่อคุณโปโลตูนนะครับ :D

thank you :D

พยายามนึกอยู่ว่า Rainbow ก็มีชื่อเสียงในยุคที่ดิสโก้รุ่งเรืองด้วย แต่ไม่ได้ทำเพลงดิสโก้ออกมาตามกระแสเหมือนหลายๆ วงในยุคนั้น แต่ Rainbow มีความเชื่อมโยงอยู่กับวง Boney M อยู่ 2 เรื่อง คือ ทั้ง 2 วงนำเพลง Still I'm Sad ของ The Yardbirds มา cover โดย Rainbow มีทั้งในแบบเพลงบรรเลงในอัลบั้มชุดแรก แบบแสดงสดในอัลบั้ม On Stage และแบบใส่เนื้อร้องในอัลบั้ม Stranger in Us All  และ Boney M นำเพลงบรรเลง Dance with the Devil ซึ่งเป็น solo single ของ Cozy Powell มือกลองของ Rainbow มา cover ทั้งเพลงแล้วเติมเนื้อร้องไปนิดหน่อย แต่เปลี่ยนชื่อเพลงเป็น Nightflight to Venus โดยไม่ให้เครดิต Cozy Powell เลยครับ

(http://www.uppicfree.com/images/900_cozy.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-900_cozy.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/342_cozy3.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-342_cozy3.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/126_cozy2.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-126_cozy2.jpg)

มาล่อใจ อีกแล้วครับ

Rainbow Rising [Cardboard sleeve (mini LP)] Deluxe Edition [SHM-CD] [Limited Edition]
(http://www.neowing.co.jp/pictures/s/04/46/UICY-94658.jpg)
   
Catalog No.: UICY-94658 Catalog No.: UICY-94658
Format: CD Format: CD
Number of discs (or other units): 2 Number of discs (or other units): 2
Release Date: 2010/10/27 Release Date: 2010/10/27
Price: 3619yen (3800yen Tax incl.) Price: 3619yen (3800yen Tax incl.)
Item weight: 120 g Item weight: 120 g
* Description Description

Deluxe edition of "Rainbow Rising" release from Rainbow including outtakes, rehearsal tracks, and more. Features the cardboard sleeve (mini LP) which replicates UK LP artwork and the UK 2010 remastering. Includes a serial numbered label card, a 16-page booklet, and a Japanese Obi. Description and lyrics are also included. Features the high-fidelity SHM-CD format. Deluxe edition of "Rainbow Rising" release from Rainbow including outtakes, rehearsal tracks, and more. Features the cardboard sleeve (mini LP) which replicates UK LP artwork and the UK 2010 remastering. Includes a serial numbered label card, a 16-page booklet , and a Japanese Obi. Description and lyrics are also included. Features the high-fidelity SHM-CD format.

リッチー・ブラックモア、ロニー・ジェームス・ディオにコージー・パウエルが加入、いわゆる「三頭」時代の幕開けを告げた問題作 (1976年発表)のデラックス・エディション。 Ritchie Blackmore, Ronnie James Dio joined Cozy Powell on the so-called "three heads" film era came to an issue (published 1976) deluxe edition. アルバム制作時のラフ・ミックスやリハーサル・テイクを追加収録。 Take additional recording and rehearsal during production of the album Rough Mix. 英国制作2010年リマスター音源。 Remastered sound in 2010 making the UK. 英国初回盤LPを再現した紙ジャケット仕様。 Limited Edition LP Eikoku paper reproduced the jacket design. 英国初回盤LPを再現したシリアル・ナンバー入りレーベル・カード、英国CD用16Pブックレット封入。 Eikoku LP Limited Edition reproduces the serial number label card, the UK CD booklet for 16P. 日本初回盤の意匠を再現した帯付。 Band with a first panel reproduces the design of Japan. 解説・歌詞・対訳付。 Commentary lyrics with translations.


น่าสนใจ ตรงแทร็คที่ไม่ได้ใช้ ลองซ้อมพวกนี้ จริงๆ  :'( :'(

mini lp อัลบั้มนี้ทีแรกว่าจะออกพร้อมกับ Long Live Rock N' Roll deluxe edition แต่เลื่อนแล้วเลื่อนอีกมาออกพร้อมๆกับ Down To Earth deluxe edition แทน

วันนี้ผมจะนำแผ่นเสียงเรดิโอโชว์ที่หายากที่สุดของคณะ Rainbow มาให้ได้ชมกันครับ  :D

ผมจำได้ว่า 2LP's พร้อม Cue Sheet ชุดนี้ ชนะมาจากการประมูลในหนังสือ Goldmine ซึ่งเป็นช่วงแรกๆ ของชีวิตผมที่เริ่ม
เก็บสะสมผลงานประเภทนี้ ซึ่งนับตั้งแต่ปี 1981 เป็นต้นมา ผมเคยเห็น แผ่นเรดิโอโชว์ รายการ The Source ชุดเดียวกัน
โฆษณาขายหรือแม้แต่ประมูลเพียงแค่ 2-3 ครั้งเท่านั้น

และข้างล่างนี้คือรายละเอียดชื่อเพลง และ คิว ของรายการซึ่งกำหนดออกอากาศไว้ในระหว่างวันที่ 10-12 เดือน กรกฎาคม ปี 1981...

(http://www.uppicfree.com/images/608_Rainbow.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-608_Rainbow.jpg)

เวลาของคอนเสิร์ตรวมทั้งหมดก็ประมาณ 84 นาที ตามที่มีดีเจหรือใครก็ไม่ทราบเขียนเอาไว้บนกระดาษแผ่นนี้ตั้งแต่ผมได้มันมาเป็นเจ้าของ  :)

การแสดงสดของคณะ Rainbow ตอนนั้นเป็นช่วง Difficult To Cure Tour ซึ่งมีบางเพลงถูกนำไปใช้ในอัลบั้มคู่ชุด Finyl Vinyl ด้วย

สำหรับแผ่นไวนิลแบ่งเป็น 4 หน้าเหมือนเคย คือมี หน้าที่หนึ่งคู่กันกับหน้าที่สาม และ หน้าที่สองคู่กันกับหน้าที่สี่ ตามรูปภาพนี้ครับ...

(http://www.uppicfree.com/images/354_Rainbow.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-354_Rainbow.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/286_Rainbow.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-286_Rainbow.jpg)

มีแผ่นบู้ทเล็คนำรายการนี้ไปก็อปทำซีดีในแบบ Complete Concert เหมือนกัน แต่นี่คือ ต้นฉบับ ของแท้และดั้งเดิม

รอให้ผมมีเครื่องเล่นไฟล์เพลงก่อนครับ ผมมี แปลน ที่จะอัดแผ่นเสียงเก็บใส่ไฟล์ไว้ให้หมด ซึ่งคงอีกไม่นานเกินรอหรอกครับ :D  :D

พี่โป่งคร้าบ..
คอนเสิร์ทไหน เล่นเพลงสตาร์เกเซอร์ อัดให้ผมด้วยนา จุ๊บๆ
ถ้าไม่มี ยังไม่ต้องอัดครับ นะๆๆ  ;D

คอนเสิร์ตไหนที่เล่นเพลงจาก Bent Out Of Shape เยอะๆบ้างครับ

พี่โป่งมีบันทึกการแสดงสด Rainbow สมัย Dio ที่เล่นเพลง Temple of the King บ้างมั้ยครับ

สมัยนั้นที่ Ronnie James Dio เป็นนักร้องนำให้กับคณะ Rainbow เท่าที่ผมจำได้เพลง The Temple Of The King
นี้ไม่เคยนำมาเล่นสดบนเวทีเลยนะครับ.

Japan Tour '84 ครับ...มีขายเฉพาะประเทศญี่ปุ่นในรูปแบบ VHS และ LaserDisc.

ผมเคยอ่านที่ไหนสักแห่งว่า เคยนำออกแสดงช่วงแรกๆ ไม่กี่ครั้ง แล้วถูกถอดออกจากโปรแกรมไปครับ

ผมมีแผ่นเสียง Radio Show รายการ Captured Live อยู่ชุดนึงที่เล่นเพลงนี้แต่ว่าเป็นคณะ DIO นะครับ.

อย่างนี้ต้องหาแผ่นบู้ทเล็คยุคแรกสุดมาฟังซะแล้วล่ะครับ ซึ่งผมไม่มีในคอลเล็คชั่นเลยจริงๆ  :(  :(  :(

ผมพยายามหาแผ่นบู้ทเล็คที่มีเพลง TOTK แต่ไม่เจอครับ แม้แต่คอนเสิร์ตครั้งที่ 4 ของวงก็ไม่มีเพลงนี้อยู่ใน Set List ครับ

http://hwm7.gyao.ne.jp/ohkura/bt/rainbow.html

ขอบคุณครับ จอสีชมพู อ่านยากเหมือนกัน ทราบว่า การแสดงครั้งแรกสุดของ Rainbow คือตุลาคม 1975 ที่แคนาดา แต่ยังไม่เคยเห็น setlist
แล้วมีการแสดงครั้งไหนที่เล่นเพลง Gates of Babylon บ้างมั้ยครับ ผมหาไม่เจอเลย

ไม่เคยเห็นเหมือนกันครับ มีแต่เพลง A Light In The Black ที่เล่นสดตอนช่วงแรกๆ สมัย RJD...ที่คุยกันนี่คือสมัยยุคนี้เท่านั้นนะครับ
ยุคอื่นไม่เกี่ยว  :D

ฟังชุด Rainbow Rising แล้ว พอถึงเพลง Stargazer ก็นึกถึงบางอ้อว่าเพลงนี้เองที่สมัยก่อนนั้นมักได้ยินบ่อย ๆ ในรายการ Top Teen Talent แต่พอมีโอกาสมาฟังอีกทีจากแผ่นเสียงก็ได้อารมณ์อีกแบบซึ่งต่างจากที่ได้รับฟังจากวิทยุครับ

เพลง Stargazer นี่ สตูดิโอเวอร์ชั่น ดีที่สุดแล้วครับ ผมฟัง ไลฟ์ มาหลายเวอร์ชั่นไม่เคยถูกใจซักกะหนเดียว  ???

+1 ครับ น่าจะเป็นเพราะสตูดิโอเวอร์ชั่นมีวงออเคสตราเล่นแบ็คอัพอยู่

เห็นรายละเอียดชื่อเพลงจากอัลบั้มชุด Down To Earth กับ Rainbow Rising ในแบบ Deluxe Edition แล้วค่อนข้างผิดหวังครับ...

Down To Earth

 Disc 1: Original Album
1. All Night Long (3:52)
2. Eyes Of The World (6:39)
3. No Time To Lose (3:42)
4. Makin’ Love (4:36)
5. Since You Been Gone (3:17)
6. Love’s No Friend (4:52)
7. Danger Zone (4:28)
8. Lost In Hollywood (4:51)
9. Bad Girl (7” Single B-Side, POSP 70) (4:50)
10. Weiss Heim (7” Single B-Side, POSP 104) (5:14)

Disc 2: Down To Earth – A Work In Progress (Previously Unreleased Bonus Tracks)
1. All Night Long (Instrumental Outtake) (4:41)
2. Eyes Of The World (Instrumental Outtake) (6:50)
3. Spark Don’t Mean A Fire (3:50)
4. Makin’ Love (Instrumental Outtake) (4:44)
5. Since You Been Gone (Instrumental Outtake) (4:00)
6. Ain’t A Lot Of Love In The Heart Of Me (4:58)
7. Danger Zone (Instrumental Outtake) (5:29)
8. Lost In Hollywood (Instrumental Outtake) (4:01)
9. Bad Girl (Instrumental Outtake) (5:02)
10. Ain’t A Lot Of Love In The Heart Of Me
(Alternative Outtake – Take 2 with mixed down vocal) (5:22)
11. Eyes Of The World (Instrumental Outtake – Take 2) (6:09)
12. All Night Long (Cozy Powell Mix) (3:54)

Rainbow Rising Disc 1:

(New York Mix):
1. Tarot Woman (6:05)
2. Run With The Wolf (3:43)
3. Starstruck (4:08)
4. Do You Close Your Eyes (3:00)
5. Stargazer (8:31)
6. A Light In The Black (8:11)

(Los Angeles Mix):
1. Tarot Woman (6:04)
2. Run With The Wolf (3:45)
3. Starstruck (4:04)
4. Do You Close Your Eyes (2:58)
5. Stargazer (8:22)
6. A Light In The Black (8:11)

Rainbow Rising Disc 2:

Previously Unreleased Bonus Tracks:
1. Tarot Woman (Rough Mix) (6:06)
2. Run With The Wolf (Rough Mix) (3:49)
3. Starstruck (Rough Mix) (4:04)
4. Do You Close Your Eyes (Rough Mix) (3:04)
5. Stargazer (Rough Mix) (9:08)
6. A Light In The Black (Rough Mix) (8:12)
7. Stargazer (Pirate Sound Tour Rehearsal) (11:29)
8. A Light In The Black (Pirate Sound Tour Rehearsal) (9:49)

แฟนๆ ของทางคณะมีความคิดเห็นเป็นยังงัยกันบ้างครับ ?

ผมชอบอัลบั้มเดิม ๆ แท้ ๆ ของพวกเขาครับพี่

อย่างที่ผมเคยบอกครับพี่โป่ง พวกเพลงโบนัสถ้ามันมีคุณภาพหน่อยก็น่าซื้อน่าสะสม แต่ถ้าเหมือนทู้ซี้ไปหาพวกเทคที่คัดออกหรือพวก rough mix มาขายเพื่อการค้าแบบนี้ ผมก็ไม่ค่อยชอบครับ

ไม่ชอบเหมือนกันครับ ผมว่าถ้าเป็นพวกไลฟ์เวอร์ชั่นหายาก ยังดีซะกว่า

สงสัย ผมตกภาษาอางกิต
outtakes -แทร็คเพลงที่ไม่ได้ใช้ในอัลบั้ม อาจจะเกิดข้อผิดพลาดใดๆ
rehearsal tracks -แทร็คเพลงที่ลองซ้อม ก่อนการอัดมาสเตอร์จริงๆ
แถมเติมเอส หลอกว่าหลายแทร็คซะอีก  >:(
ฮ่วย..บ่เป็นหยัง..

ก็ใกล้เคียงแล้วนี่ครับ แต่ที่ผมไม่ค่อยประทับใจก็เพราะ ไอ้โบนัสแทร็คทั้งหลายนี่ แผ่นบู้ทเล็ค มีวางขายกันเกลื่อนแล้ว
โดยเฉพาะ เพลงที่ซ้อมกันกับ Cozy Powell นั่นน่ะ ดันแถมมาแค่สองเพลง แต่แผ่นบู้ทเล็คมีขายอย่างเต็มอัลบั้ม

คือโดยส่วนรวมแล้ว แทร็คเหล่านี้ไม่ได้ ยั่วยวน ผมแต่อย่างใด  >:(  ???  >:(  ???

...สู้ เมแกน ฟ็อกซ์ ก็ไม่ได้  ;D  ;D  ;D

เห็นพูดถึงคณะ เรนโบว์ กันซึ่งหัวหน้าวง เจ้าของฉายา The Man In Black นี่ฝีมือกีตาร์เป็นที่ยอมรับ แต่ไม่เห็นมีใครเอ่ยถึง
ผลงานเก่าๆ ของเค้าบ้าง

ผมว่าอัลบั้มที่ใช้ชื่อว่า Ritchie Blackmore - Rock Profile Vol.1 & Vol.2 ทั้งสองแผ่นน่าสนใจมาก เป็นบทเพลงเก่าๆ และ
บางแทร็คก็เป็นสมัยคณะ Deep Purple กับคณะ Rainbow ด้วย  :D

มีใครเคยฟังบ้างแล้วครับ ?

ขอเรียนถามว่าอัลบั้มคู่ชุด Finyl Vinyl เป็นผลงานที่น่าสนใจหรือเปล่าครับ?

น่าสนใจที่มีเพลงบรรเลง Weiss Heim ที่ไพเราะมากๆ ซึ่งไม่อยู่ในชุดอื่น และเพลงบรรเลง Difficult to Cure แบบแสดงสดที่ญี่ปุ่นกับวงออเคสตรา

ได้ฟังแผ่นนี้ที่พี่โป่งทำสำเนาให้แล้ว ชอบอยู่เพลงเดียวคือ Eyes of the World แบบบรรเลงครับ

รบกวนพี่ตั๊ม ส่องเป้าให้หน่อยครับ

วงเรนโบว์ เล่นสดที่เยอรมัน 3คืน แบบ 6แผ่น

พี่โป่ง บอกว่าหาไม่ได้เลย
เพราะที่ผมสอยจาก อเมซอน.ยูเค มันเกลี้ยงตลาดเลยครับ
ขอบคุณครับ

ในอีเบย์มีอยู่ครับ

http://cgi.ebay.com/Rainbow-Deutschland-Tournee-1976-Live-Germany-1976-/230586887157?pt=Music_Other_Formats&hash=item35b00cabf5

ยังมีอยู่หนิครับเฮีย (หน้าที่ 2-3) ราคายังเท่าเดิมอยู่เลย ผมว่าจะเก็บให้ครบเหมือนกัน ขาด 2 ชุด

http://www.amazon.co.uk/s/ref=nb_sb_noss?url=search-alias%3Daps&field-keywords=rainbow&x=0&y=0#/ref=sr_pg_2?rh=i%3Aaps%2Ck%3Arainbow&page=2&d=1&keywords=rainbow&ie=UTF8&qid=1298885934

ขอบคุณคร้าบ

ของพี่ตั๊ม ของดีราคาห้ามใจ
พี่โป่งรีบสอย ของยุ่นปี้ หรือ เยอรเผือก ดีหล่ะคร้าบ

เพิ่งกลับไปฟังการแสดงของวันที่ 28 มา รู้สึกเสียงมันไม่สะใจเลยอ่ะครับ
แต่ผมว่าไลฟ์ของ Rainbow 3 ชุดนี้ เทียบเท่ากับ Made in Japan เลยนะครับ สำหรับความคลาสสิค

พี่ว่าคลาสสิคกว่าครับ

เพราะเป็นอมตะ(Immortal) ไปแล้วตั้ง 2 คน อิๆ

ฮ่า ๆ ใช่ครับ ถึงแม้เสียงมันจะไม่สะใจ แต่ตัวบทเพลง ยังเค้นอารมณ์ได้เสมอครับ ทั้ง Catch the Rainbow หรืิอ Stargazer
We Salute You!

ผมคิดว่าคงจะไม่ซื้อจาก Amazon UK แน่ๆ เพราะว่าอาจจะโดนภาษีได้ง่ายเพราะราคามันยั่วยวนศุลกากรเสียเหลือเกิน
ส่วนอีเบย์ก็แพงแถมยังไม่มีรูปให้ดูอีก  >:(

คงต้องร้องเพลง "รอ" แล้วหาจังหวะดีๆ ครับ  :D

ขอบคุณที่ชี้ทางให้ ผมกำลังฟัง Rainbow Rising Deluxe Edition อยู่ ซึ่งมันเหมือนกับบู้ทเล็คที่ผมมีเลย  ???  ???  ???

แผ่นใน amazon.co.uk นั้น จะลดอีกที 15% ก่อน check out ครับ 

แผ่นไลฟ์ที่ว่านั้น ตกชุดละ 11.99 ปอนด์ ก่อนจะ check out ก็จะเหลือ 10.19 โดยประมาณ
10.19 x 51 = เป็นเงินไทยชุดละ 520 บาท ถ้าสั่ง 2 ชุดขึ้นไปโดยภาษีแน่ ๆ ครับ เพราะมูลค่าของเกิน 1,000 บาืืท


ไม่งั้นต้องหาซีดีชุดอื่นที่ต้องการ เพื่อให้มูลค่าสินค้ารวมกันไม่เกิน 1,000 บาืท
(ค่าส่ง 2 แผ่นประมาณ 5 ปอนด์ครับ แผ่นนึงประมาณ 4 ปอนด์ ปกติผมจะส่งทีละ 2 แผ่น)

ถ้าพี่โป่งไม่มีแผ่นอื่นจะพ่วง ก็ต้องสั่งซื้อ 3 ครั้งครับ ครั้งละประมาณ 700 ฝ่า ๆ 

จำได้แล้วครับ (เริ่มสว.)

คราวก่อน ผมซื้อจาก cdwow ครับ
เลยสอยได้ทั้ง 3 ชุด อย่างสบายอก สบายใจ
ซีดีวาว เขาไม่คิดค่าส่งนี่นา
มิน่ามันถึงหมดเร็ว  :P

นี่คือหน้าตาแผ่นบู้ทเล็คที่ชื่อว่า "Rough Mix" ที่ผมมีซึ่งเป็นเพลงเหมือนกันแป้ะเลยครับ  :(

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/Surasee_Kaleidoscope/RainbowRoughMixCD1.jpg)  
(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/Surasee_Kaleidoscope/RainbowRoughMixCD2.jpg)

เพียงแต่อยากจะบอกว่า บู้ทเล็คซีดีอีกชุดนึง ที่ชื่อว่า "Rehearsals 1976" สงสัย bootlegger คงจะ "ซูฮก" กับบริษัทต้นสังกัดเป็นแน่แท้
เนื่องจากว่าบทเพลงที่บรรจุอยู่นั้นไม่ซ้ำกันกับเพลงที่นำมาแถมใน Deluxe Edition ครับ และเสียงก็ไม่ดีเหมือนกันด้วย  ;D

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/Surasee_Kaleidoscope/RainbowRehearsalsCD1.jpg)  
(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/Surasee_Kaleidoscope/RainbowRehearsalsCD2.jpg)

สุดท้ายก็อยากจะบอกว่า ถึงแม้บนหลังปก Deluxe Edition จะตีพิมพ์ว่ามีเพลงในแบบซ้อมดนตรีกันแค่แทร็คเดียว แต่ความจริงมีถึง 3 แทร็ค
ครับ คือ Stargazer, A Light In The Black, และ Man On The Silver Mountain  (อีกสองเพลงเป็น Hidden Tracks) ซึ่งเพลงหลังสุดสั้น
มาก ไม่เต็มเพลงครับ  :)

สำหรับอัลบั้มชุด Down To Earth ก็ซัำกันกับแผ่นบู้ทเล็คชุดนี้ครับ...

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/Surasee_Kaleidoscope/RainbowDTECD1.jpg)

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/Surasee_Kaleidoscope/RainbowDTECD2.jpg)

แต่ว่าคุณภาพเสียงของ official album มัน "คม" กว่าครับ  :D

พักหลังนี้ Tony Carey เข็นผลงานออกมาเพียบเลยครับ

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/tc4.jpg)

Stanislaus County Kid Volume II - รวมเพลงคัฟเวอร์เพราะๆ ชุดที่ 2

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/tc6.jpg)

Round-up - รวมเพลงเก็บตก พวก demos และ unreleased versions

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/tc5.jpg)

In the Absence of the Cat - อัลบั้มเพลงร้องชุดแรกที่เพิ่ง remaster ออกเป็นซีดีเป็นครั้งแรก

นอกจากนี้ ยังนำอัลบั้มเพลงบรรเลง 4 ชุด มาออกเป็นซีดีครั้งแรกด้วยครับ

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/tc11.jpg) (http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/tc10.jpg) (http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/tc8.jpg) (http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/tc9.jpg)

รูปภาพอัลบั้มและผลงานของคณะ Rainbow บางส่วนจากกรุของ Pong-Wanchai ครับ...

http://www.thaiprog.net/webboard/index.php?topic=3972.495

พี่โป่งครับ รบกวนสอบถามหน่อยครับ
Live in Germany 1976 ชุดด้านล่างนี้ มีเกี่ยวดองอะไรกับทริปเปิ้ลไลฟ์ 2ซีดี 3 เซ็ตด้านล่างรึเปล่าครับ

(http://i469.photobucket.com/albums/rr56/jknoremorse/41292SSYKEL_zpsa957609f.jpg) (http://s469.photobucket.com/user/jknoremorse/media/41292SSYKEL_zpsa957609f.jpg.html)

(http://i469.photobucket.com/albums/rr56/jknoremorse/RainbowDeutschlandCD1_zpsdc8e96d1.jpg) (http://s469.photobucket.com/user/jknoremorse/media/RainbowDeutschlandCD1_zpsdc8e96d1.jpg.html)

น่าสนใจไหมครับ

(http://i469.photobucket.com/albums/rr56/jknoremorse/51ZlY2lqtkL_SY445__zps1a3a0eeb.jpg) (http://s469.photobucket.com/user/jknoremorse/media/51ZlY2lqtkL_SY445__zps1a3a0eeb.jpg.html)

available : Aug 26, 2013
format : DVD / CD

After his departure from Deep Purple in 1993,
Ritchie Blackmore reformed Rainbow with a new line-up and went into the studio
to record the acclaimed Stranger In Us All album.
The band then took to the road for an extensive tour which included this 1995 live concert
in Dusseldorf filmed for Germany s famous Rockpalast TV series.
The set features several tracks from the Stranger In Us All album alongside classic Rainbow
and Deep Purple tracks. The band are on blistering form and Ritchie Blackmore shows
just why he is so revered as a guitarist. This previously unreleased show is a great addition
to any Rainbow fan s collection.

TRACKLISTING
1) Introduction
2) Spotlight Kid
3) Too Late For Tears
4) Long Live Rock n Roll / Black Night
5) Hunting Humans
6) Wolf To The Moon / Difficult To Cure
7) Keyboard Solo
8 ) Still I m Sad
9) Man On The Silver Mountain
10) Temple Of The King
11) Black Masquerade
12) Ariel
13) Since You ve Been Gone
14) Perfect Strangers
15) Sixteenth Century Greensleeves
16) Hall Of The Mountain King
17) Burn
18) Smoke On The Water

ได้ฤกษ์ออกมาเป็นออฟฟิศเชี่ยลซะที...สำหรับชุดนี้

แม้เวทีไม่อลังการณ์เท่ายุครุ่งเรือง...แต่ก็มันส์กว่าดีวีดีสมัยโจ ลีน เทอเนอร์ทั้งสองชุด - เสียงร้องของดูกี้ ไวท์เจ๋งกว่าเยอะ

กลองเป็นฝีมือของชัค เบอร์กี้...ตอนหลังมาตีให้ลุงบิลลี่ โจเอลเฉยเลย

สุดยอดตรงมีเพลงวิหารแห่งกษัตริย์ด้วยน้า   ;)

เท่าที่ผมทราบ ถ้าหากจำไม่ผิด น่าจะเป็นการรวมเพลงจากสามคืนคัดเลือกมาบรรจุอยู่ในอัลบั้มเดียวกันครับ

ขอบคุณครับ
เอาเป็นว่าผมขอบายชุด Live in Germany 1976 แล้วสอยชุด 6 แผ่น Dutchland ให้ครบละกันครับ (ขาดอีกคืนเดียว)

สงสัยอีกไม่นานก็คงจะมี DVD และ Blu-Ray ของคอนเสิร์ตจากกรุ Rockpalast ในนามคณะ Deep Purple ผลิตออกมาอีก
หนึ่งชุดนะครับ...

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/ThaiProgPhotos1/DSC_0246.jpg) (http://s991.photobucket.com/user/Pong-Wanchai/media/ThaiProgPhotos1/DSC_0246.jpg.html)

ผมซื้อแผ่นนอกสารบบมานานแล้ว ทั้งภาพและเสียงใช้ได้เลยทีเดียว ถ้าหากให้เกรดก็คงอยู่ในระดับ A-

คอนเสิร์ตค่อนข้างชัดครับ เพราะอัดมาจากทีวีเมื่อสมัย Perfect Strangers Tour 1985 ในกรุงปารีส และมี ของแถม ด้วย
ซึี่่งเป็นการแสดงสดในประเทศเพื่อนบ้านเราเองคือ เกาหลี ปี ค.ศ. 1995 !!!

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/ThaiProgPhotos1/DSC_0247.jpg) (http://s991.photobucket.com/user/Pong-Wanchai/media/ThaiProgPhotos1/DSC_0247.jpg.html)

ผลงานนอกสารบบชุดนี้ออกแบบหน้าปกได้ยอดเยี่ยมมาก ถาดของแผ่นดีวีดีสไลด์ออกมาได้จากหน้าปกซึ่งเป็น slip case แถมยัง
มี obi ของปลอมทำหลอกมาให้ดูเก๋ไก๋ีอีกต่างหาก  :D

ตัวผมเองอ่านไม่ออกเลยครับสำหรับภาษาญี่ปุ่น อยากทราบว่ามัีนตรงกันกับตัวดีวีดีหรือไม่อย่างไร...ใครอ่านได้ช่วยบอกที !!!

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/ThaiProgPhotos1/DSC_0248.jpg) (http://s991.photobucket.com/user/Pong-Wanchai/media/ThaiProgPhotos1/DSC_0248.jpg.html)

ภาษาญีปุ่นตัวใหญ่เขียนว่า Deep Purple - Perfect Strangers ตัวเล็กๆ อ่านไม่เห็นครับ

ผมสงสัยว่าโอบิอันนี้น่าจะก๊อปมาจากแผ่นเสียงอัลบั้มชุด Perfect Strangers เป็นแน่แท้ !!!  ;D  ;D  ;D

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/ThaiProgPhotos1/DeepPurplePerfectStrangersLP2.jpg) (http://s991.photobucket.com/user/Pong-Wanchai/media/ThaiProgPhotos1/DeepPurplePerfectStrangersLP2.jpg.html)

ก็อปมาจากแผ่นเสียงครับ ตัวเล็กด้านบนพูดถึงรายชื่อสมาชิก และด้านล่างพูดถึงรายชื่อเพลงทั้งหมดในอัลบั้ม ซึ่งบนโอบิของดีวีดี ได้ตัดส่วนนี้ออกไปครับ

ก็อปมาจากแผ่นเสียงครับ ตัวเล็กด้านบนเป็นรายชื่อสมาชิก และตัวเล็กด้านล่างเป็นรายชื่อเพลง ซึ่งถูกตัดออกไปในโอบิของดีวีดี

ผมได้รับชมและฟังดีวีดีชุด Black Masqerade ของคณะ Rainbow แล้วอยากจะบอกว่าระบบเสียงไม่ค่อยดีเลยครับ
ซึ่งก็เหมือนๆ กับผลงานของวงดนตรีชุดอื่นๆ ที่ทาง Rockpalast เคยออกมาวางจำหน่ายในอดีต  :(  :(  :(

ในดีวีดีสัดส่วนภาพขนาดไหนครับ แล้วระบบเสียงเป็น stereo หรือ ว่า 5.1 ครับ