Thai Progressive Rock Community

ThaiProg => Outside The Wall => ข้อความที่เริ่มโดย: Layla F Mulder ที่ 26 มิถุนายน 2009 | 09:40:42 AM



หัวข้อ: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: Layla F Mulder ที่ 26 มิถุนายน 2009 | 09:40:42 AM
วันก่อนคุยกับเหม่งในเอ็ม ก็เลยเกิดเป็นไอเดียของกระทู้นี้ขึ้นครับ หลายคนบอกว่า เรามีกระทู้ประเภทนี้เยอะแยะแล้วไม่ใช่เหรอ ผมก็จะบอกว่าใช่ แต่ว่า....

ส่วนใหญ่กระทู้เหล่านั้นจะเป็นกระทู้จำแนกแยกตามแนวเพลงต่างๆ ซึ่งชาวไทยพร็อกก็ฟังเพลงกันเยอะอยู่แล้ว คงจะตอบกันได้สบาย แต่คราวนี้ผมขอสร้างโจทย์ให้ยากขึ้นไปอีก เชื่อว่าต้องทำให้ใครๆ หลายคนในนี้คิดหนักกันเป็นวันทีเดียว และโจทย์สำหรับกระทู้นี้คือ

ให้ท่านเลือกอัลบั้มขึ้นมาเพียง 10 อัลบั้มตลอดชีวิตการฟังเพลงของท่าน โดยไม่จำกัดแนวเพลงใดๆ ทั้งสิ้น ขอให้เป็นเพลงสากลเท่านั้นเป็นพอ จะเป็น Progressive, Pop-Rock, Blues, Country, New Age, Jazz, Post-Rock, Metal สกอร์ประกอบภาพยนต์ ฯลฯ ได้ทั้งหมด ซึ่งเป็นอัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ ตลอดชีวิตการฟังเพลงที่ผ่านมา เรียกง่ายๆ ว่าให้ 10 อัลบั้มนี้เป็นตัวแทนของคุณ สื่อถึงตัวคุณ เห็นอัลบั้มเหล่านี้แล้วนึกถึงคุณได้เลย หลายคนฟังเพลงแนวใหม่ๆ อยู่เสมอ บางช่วงก็ศึกษาแนวนี้ ก็ไปหาอัลบั้มในแนวนี้มาฟังเป็นหลายสิบอัลบั้ม แล้วก็เปลี่ยนไปฟังอีกแนวนึง ซึ่งทุกวันนี้พวกเราก็ยังไม่หยุดที่จะสรรหาอัลบั้มใหม่ๆ แนวเพลงใหม่ๆ มาฟังเสมอ แต่มันจะต้องมีอัลบั้มที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี อัลบั้มเหล่านั้นยังอยู่ในดวงใจของเราเสมอ ซึ่งกระทู้นี้คือพื้นที่ที่เราจะมาอุทิศให้กับอัลบั้มเหล่านั้นครับ

กฎกติกาในการเล่นกระทู้นี้

1. สามารถเลือกได้ทั้งสตูดิโออัลบั้ม และไลฟ์อัลบั้ม ยกเว้น อัลบั้มรวมเพลง รวมฮิต อย่างนี้ไม่ได้นะครับ

2. เป็นไปได้ควรเน้นอัลบั้มที่ "ผูกพัน" จริงๆ คือฟังและหลงรักมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว และอัลบั้มเหล่านั้นยังเป็นอัลบั้มโปรดในดวงใจอยู่เสมอมาจนถึง ณ วันนี้ เป็นไปได้อยากให้เป็นอัลบั้มที่หลงรักมาอย่างต่ำเป็นเวลา 1 ปี ถ้าจะให้ดีก็ควรจะ 2-3 ปีขึ้นไป และถ้าดีที่สุดสำหรับท่านที่เป็นผู้ใหญ่ ควรจะเป็นอัลบั้มที่หลงรักมาตั้งแต่เด็กๆ อาจจะ 10 ปีขึ้นไป แล้วทุกวันนี้ยังเป็นอัลบั้มที่หลงรักในดวงใจอยู่ ยังทรงอิทธิพลกับชีวิตของคุณ ไม่ว่าจะในทางใดก็ตาม และเขียนระบุปีที่ "อินเลิฟ" ต่อท้ายอัลบั้มนั้นๆ มาด้วย ว่าคุณอินเลิฟมาีกี่ปีแล้ว โดยนับตั้งแต่ปีที่คุณชื่นชอบตัวอัลบั้มทั้งอัลบั้มจริงๆ นะครับ ยกตัวอย่างว่า อย่างผมชอบและได้้ยินเพลง Hotel California มานานเป็น 10 ปี+ แล้ว แต่อัลบั้ม Hotel California ทั้งอัลบั้ม เพิ่งได้มาฟังและหลงรักทั้งอัลบั้มจริงๆ ประมาณ 6 ปี อย่างนี้ก็ต้องใส่ มาเ็ป็น 6 ปีนะครับ

3. ให้เรียงอัลบั้มไล่ตามจำนวนปีที่คุณอินเลิฟ จากจำนวนมากไปหาน้อย ไม่ได้เรียงตามความชื่นชอบนะครับ อัลบั้มไหนรักนานกว่า ให้เอาอันนั้นขึ้นบน ไล่ไปหาอัลบั้มที่จำนวนปีน้อยลงเรื่อยๆ

4. สามารถเขียนแซมเรื่องความผูกพันของคุณกับอัลบั้มนั้นๆ ในกระทู้นี้ด้วยไปเลยได้ โดยให้เน้นที่เรื่องความผูกพันนะครับ คุณฟังอัลบั้มนี้ตั้งแต่กี่ขวบ ซื้อเทปอัลบั้มนี้ม้วนแรกที่ร้านไหน ตอนนั้นราคาเท่าไหร่ สามารถเขียนเล่าได้เต็มที่ แต่ไม่ต้องพูดถึงดนตรี หรือวิจารณ์ตัวอัลบั้มโดยตรงนะครับ เรียกว่าให้กระทู้นี้เป็นที่เก็บความผูกพันของคุณกับอัลบั้มเหล่านั้นครับ

5. ห้ามเพิ่มจำนวนอัลบั้ม "เด็ดขาด" 10 อัลบั้มก็คือ 10 อัลบั้ม ความสนุกมันจะไม่ได้อยู่ที่ตอนเลือกหรอกครับ ความสนุกมันจะอยู่ที่ตอนตัดอัลบั้มที่เกินออกไปมากกว่าครับ เวลาเราลิสต์อัลบั้มมามันมักจะมีเกินมา 10 เสมอ จะเริ่มมีคู่แข่งเข้ามา ทำให้เราต้องตัดสินใจเลือกเฉพาะอัลบั้มที่เป็นสุดยอดหัวกะทิจริงๆ คงไว้ ดังนั้นต้องตัดใจให้ขาดนะครับ ห้ามเพิ่ม ห้ามแถม ห้ามติ่งไ้ว้ใดๆ ทั้งสิ้นในทุกกรณี ผมเข้าใจนะครับ ว่าสมาชิกเว็บเราฟังอัลบั้มมามากกันจริงๆ เผลอๆ บางคนอาจฟังจำนวนอัลบั้มมากกว่าจำนวนวันที่เค้ามีชีวิตอยู่บนโลกไปนี้ก็เป็นได้ครับ อย่างเหม่งนี่ฟังอัลบั้มใหม่วันละเป็นสิบชุด แต่ต้องเลือกออกมาให้ได้ครับ (ซึ่งเหม่งก็ทำสำเร็จไปแล้ว) จากหลายร้อย หลายพัน หลายหมื่นอัลบั้มที่คุณเคยฟังทั้งชีวิตนี้

6. กระทู้นี้สามารถอัพเดตอัลบั้มได้เรื่อยๆ ครับ เพราะเวลาผ่านไป ใจคนเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้นถ้าท่านคิดว่าอีกหลา่ยเดือนต่อมาความรู้สึกของท่านเปลี่ยนไปแล้ว ก็ให้มาทำการอัพเดตโดยการ Modify ที่ข้อความของท่านนะครับ ไม่ต้องโพสต์เพิ่มต่อไปเรื่อยๆ ให้มันยืดยาว ขอความกรุณา 1 คนต่อ 1 ข้อความเท่านั้น แต่ใน 1 ข้อความนั้นจะเขียนความยาวสาวความยืดยังไงก็ได้ครับ ที่สำคัญเวลาเปลี่ยนอัลบั้ม ต้องลบอันเก่าทิ้งด้วยนะครับ อย่างที่ว่าไว้ ห้ามเกิน 10 อัลบั้มเด็ดขาดไม่ว่าในกรณีใดๆ ทั้งสิ้น แล้วก็อัพเดตนานๆ ครั้งนะครับ อย่างมากสุดควรจะ เดือนละครั้งก็พอครับ ยิ่งอยู่นานได้เป็นปีๆ ยิ่งดีเลยครับ จะเอาปกมาลงแซมด้วยก็ได้ครับ เพื่อความสวยงาม กระทู้นี้ผมจะปักหมุดไว้เลยนะครับ จะได้ให้อยู่กับเราไปนานๆ กับชื่อสมาชิกของเราเลยครับ

7. (ข้อนี้คนตั้งกระทู้โกงครับ เพิ่มทีหลัง) อนุญาตให้ชี้แจงอัลบั้มที่ถูกตัดออกจากลิสต์ได้เพิ่มอีกไม่เกิน 10 อัลบั้ม พร้อมบอกเหตุผลสั้นๆ ว่าทำไมเอาออกด้วยก็จะดีครับ แต่สำคัญคือต้องแยกระหว่างอัลบั้มที่ตัดออกกับอัลบั้มที่อยู่ในลิสต์จริงๆ ให้ชัดเจน ห้ามเอาสองลิสต์มารวมกันเด็ดขาดครับ


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: TRON ที่ 26 มิถุนายน 2009 | 01:10:37 PM
เคยคิดเหมือนกันว่าอยากตั้งกระทู้แบบนี้แต่ไม่รู้จะสื่อออกมายังไงให้เข้าใจ เอาเป็นว่าอัลบั้มดังต่อไปนี้ไม่ได้หมายถึงอัลบั้มที่ดีที่สุดสำหรับผม เพียงแต่มันเป็นอัลบั้มที่ผมมีความผูกพันกับมันในแต่ละช่วงชีวิตที่ผ่านมาและทุกครั้งที่ฟังผมจะได้ความรู้สึกผูกพันบางอย่าง (อันนี้พี่ผีเพลงเข้าใจดี) ซึ่งบางทีไม่ใช่เพียงดนตรีที่เป็นเหตุผลแต่เพราะช่วงเวลาที่ได้รู้จักอัลบั้มเหล่านี้ด้วยครับ แต่บางอัลบั้มมีอิทธิพลในการฟังเพลงของผมด้วยเช่นกัน จริงๆมีมากกว่า 10 อัลบั้มแต่ก็พยายามคัดให้เหลือ 10 ตามโจทย์ครับ

1. Pink Floyd - The Wall (26 years ago)

(http://i324.photobucket.com/albums/k328/sithichai/thewall.jpg)

อันนี้เคยเล่าไปบ้างแล้ว ตอนป.6 ผมได้ดูเอ็มวีเพลง Another Brick In The Wall Pt.2 ก็รู้สึกถึงบางอย่างสะดุดทันที คือจริงๆผมได้ยินเพลงสากลตั้งแต่เด็กที่พี่ชายผมเปิดแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเป็นพิเศษ แต่เพลงนี้มันมีอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมอยากค้นหามันต่อด้วยตัวเองเลยขอให้พี่สาวซื้อเทป Pink Floyd - The Wall มาให้ผม เป็นเทปม้วนแรกในชีวิตผม และก็ทำให้ผมผูกพันกับ Pink Floyd ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สิ่งหนึ่งที่ดึงดูดผมก็คงเป็นท่อนโซโลตอนท้ายเพลง ABITW 2 ด้วยที่ทำให้ผมหลงสำเนียงของ David Gilmour ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

2. Tears For Fears - Songs From The Big Chair (24 years ago)

(http://i324.photobucket.com/albums/k328/sithichai/bigchari.jpg)

เป็นอีกวงที่ผมรู้สึกสะดุดทันทีที่ได้ดูเอ็มวีเพลง Change จากรายการพี่มาโนชในรายการเที่ยงวันอาทิตย์ แต่ผมไม่สามารถหาซื้อเทปอัลบั้มแรก The Hurting ของวงนี้ได้เลยจะซื้อแผ่นเสียงก็ไม่ได้เพราะแพงความสามารถของผม จนมาอัลบั้มที่สองของวงชุดนี้ที่ออกในปี 1985 ที่มีเทปวางขายในบ้านเรา ผมซื้อมาและจำได้ว่าฟังวนไปวนมาหลายสิบรอบเป็นปีครับ จำทุกอย่างในอัลบั้มนี้ได้หมด ถึงแม้เป็นวงป๊อปกึ่งซินธ์กึ่งร๊อคแต่เพลงแต่ผมว่าเพลง Listen เพลงสุดท้ายในอัลบั้มนี้เป็นเพลงเดียวที่ทางวงทำออกมาเป็นเพลง Progressive มันยอดเยี่ยมและสุดยอดมากๆ เหมือนเอา Pink Floyd มาผสมกับ Peter Gabriel โดยเฉพาะกีตาร์ตอนท้ายนี่นึกถึง David Gilmour ทุกที

3. OMD -  Dazzle Ships (23 years ago)

(http://i324.photobucket.com/albums/k328/sithichai/OMD-Dazzle-Ships-125863.jpg)

OMD เป็นวงที่มีิอิทธิพลในการฟังเพลงช่วงที่ผมเข้าสู่วัยรุ่นมากที่สุดครับ ชอบทุกอัลบั้มแต่ขอคัดอัลบั้มนี้มาใส่ในลิสต์แล้วกัน เพราะมันให้ความรู้สึกพิเศษบางอย่างตั้งแต่หน้าปกกับเพลงทุกอย่างเหมือนมันไปด้วยกันได้ดี

4. A-ha - Scoundrel Days (22 years ago)

(http://i324.photobucket.com/albums/k328/sithichai/aha.jpg)

ยังคงเป็นช่วงวัยรุ่นที่ผมกำลังเข้ามัธยมปลาย ผมยังรู้สึกเหมือนเดิมทุกครั้งที่ได้ฟังเพลง Manhattan Skyline และเพลง Soft Rain Of April ในอัลบั้มชุดนี้

5. Red Box - The Circle & The Square (23 years ago)

(http://i324.photobucket.com/albums/k328/sithichai/redbx.jpg)

ได้รู้จัก Red Box โดยบังเอิญมากๆ จนไปเสาะหาเทปอัลบั้มนี้มาฟังได้ จำได้ว่าหายากมาก ตอนเจอก็เลยดีใจมากๆ เป็นอัลบั้มตัวแทนตอนผมเข้าเรียนมัธยมปลายที่ผมชอบมากที่สุด และทุกวันนี้เป็นซีดีที่ผมหวงแหนที่สุดในชีวีต

6. Red Box - Motive (18 years ago)

(http://i324.photobucket.com/albums/k328/sithichai/motive.jpg)

ความที่ผมชอบอัลบั้มแรกของวงนี้มาก แต่ผมไม่สามารถหาข้อมูลจากวงนี้ได้อีกเลยจนกระทั้งต้องฝากเพื่อนที่ไปเรียนที่อังกฤษหาซื้ออัลบั้มไหนก็ได้ของ Red Box ซึ่งผมไม่มีข้อมูลด้วยซ้ำว่ามีอัลบั้มใหม่ออกตามมาหรือเปล่า พอเพื่อนผมกลับมาพร้อมกับเทปอัลบั้มนี้ผมจึงดีใจมาก และพอได้ฟังก็ไม่ผิดหวังถึงแม้อารมณ์เพลงค่อนข้างแตกต่าง สุขุมขึ้นซึ่งมันก็เหมาะกับช่วงเวลาที่ผมเริ่มทำงานแล้วในตอนนั้นมากๆ โดยเฉพาะเพลง Moving และ Hungry ไพเราะมากๆ

7. The Sundays - Blind (16 years ago)

(http://i324.photobucket.com/albums/k328/sithichai/5540.jpg)

จริงๆเหตุผลค่อนข้างส่วนตัวมาก แต่ผมผูกพันกับมันมากๆ ทุกครั้งที่ไ้ด้ฟังนี่ด้วยความที่มีซาวนด์ล่องลอยอยู่แล้วจึงทำให้ช่วงเวลา16 ปีที่แล้วมันตลบอบอวลเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน

8.  Nine Inch Nails - The Downward Spiral (15 years ago)

(http://i324.photobucket.com/albums/k328/sithichai/nin1.jpg)

Nine Inch Nails เป็นวงแห่งยุค 90's ของผมและอัลบั้มนี้ก็เป็นอัลบั้มแห่งยุค 90's ของผมอย่างแท้จริง คงไม่ต้องบรรยายอะไรมาก สำหรับผมอัลบั้มนี้มันมีอะไรหลายๆอย่างที่เหมือนผมรอคอยที่จะได้เจอดนตรีแบบนี้ แล้วมันเกิดมีขึ้นมาจริงๆ อธิบายยากครับ คือตอนฟังครั้งแรกตั้งแต่ต้นจนจบทุกอย่างเหมือนมันลงตัวอย่างที่ผมตั้งความหวังไว้ 100% ครับ

9. Red House Painters - Rollercoaster
(14 years ago)

(http://i324.photobucket.com/albums/k328/sithichai/rhp.jpg)

อัลบั้มนี้อยู่ในช่วงวัยทำงานที่ไม่ค่อยได้เจอเพื่อนๆที่เคยสนิทกันมานาน อารมณ์เลยเหมือนเหงาๆหน่อย อัลบั้มนี้เป็นตัวแทนความเหงา(ที่แฝงด้วยความสุข)ของผมครับ ทุกครั้งที่ฟังมันรู้สึกพิเศษอย่างบอกไม่ถูก โดยเฉพาะวันที่อยู่คนเดียว ท้องฟัาครึ้มๆ ชอบเพลง Katy Song ที่ยาว 8 นาทีมากๆมันอ้างว้างแต่ก็สวยงามในคราวเดียวกัน

10. Sigur Ros - With A Buzz In Our Ears We Play endlessly (1 year ago)

(http://img135.imageshack.us/img135/8368/51zphxsg53lss500od8.jpg)

สุดท้ายขอข้ามเวลามาช่วงปัจจุบันเลย เพราะไม่ได้รู้สึกความพิเศษแบบอัลบั้มที่กล่าวมาข้างต้นมานานแล้ว จนมาอัลบั้มนี้ที่ผมรู้สึกแบบนั้นทั้งๆที่ไม่มีเรื่องราวในช่วงเวลาที่ได้ฟังมาเกี่ยวข้อง คงเพราะหนัง Heima ที่สวยงามมากๆของวงนี้ที่ออกมาก่อนหน้านี้ด้วยกระมังที่ทำให้ผมผูกพันกับอัลบั้มนี้ได้อย่างรวดเร็ว

10 อัลบั้มที่ตัดออก จริงๆมันมีมากกว่า 10 เยอะน่ะครับ แต่ลองพยายามคัดให้เหลือ 10 โดยที่ไม่ให้ซ้ำวงกับ 10 อันดับแรกก็ประมาณนี้มั๊งครับ :D

1. The Stone Roses / The Stone Roses
2. Peter Gabriel / So
3. Pet Shop Boys / Behaviour
4. Big Country / The Crossing
5. Travis / The Invisible Band
6. Depeche Mode / Songs of Faith & Devotion
7. U2 / Zooropa
8. Mike Oldfield / Tubular Bell II
9. The Cranberries / Everybody Doing It Why Can't We ?
10. George Michael / Faith

10 เพลงที่ทรงอิทธิพลที่สุดในชีวิตผม

1. Hunting High & Low (Extended Version) - A-ha
2. Manhattan Skyline (Extended Version) - A-ha
3. Butterfly On A Wheel (Album version) - The Mission
4. Black Man Ray (Album Version) - China Crisis
5. Save A Prayer (Live version in Arena) - Duran Duran
6. If You Leave (Extended) - OMD
7. Shout (Album Version) - Tears For Fears
8. Eiledon (Album Version) - Big Country
9. In Your Room (Album Version) - Depeche Mode
10. Living In Dome (Album Version) - Red Box


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ ที่ 26 มิถุนายน 2009 | 01:13:17 PM
 8)


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: Layla F Mulder ที่ 26 มิถุนายน 2009 | 01:13:29 PM
คุณนิชิซาวะสั่งให้มาจองที่ไว้ครับ

10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของ Agent Fox Mulder
1. Pink Floyd - Wish You Were Here (10 Years - ม.ต้น)
2. Derek & The Dominos - Layla (9 Years - ม.ต้น)
3. Fleetwood Mac - Rumours (6 Years - ม.ปลาย)
4. Eric Clapton - From The Cradle (6 Years - ม.ปลาย)
5. John Lennon - Plastic Ono Band (5 Years - ม.ปลาย)
6. Jeff Beck - Blow By Blow (5 Years - ม.ปลาย)
7. Eagles - Hotel California (5 Years - ม.ปลาย)
8. Norah Jones - Come Away With Me (5 Years - ม.ปลาย)
9. Robert Plant & Alison Kruass - Raising Sand (2 Years - มหาวิทยาลัย)
10. Neil Young - Harvest (1 Year - มหาวิทยาลัย)



อัลบั้มที่โดนตัดออก 10 ชุด

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/en/thumb/4/4d/Queen_A_Night_At_The_Opera.png/200px-Queen_A_Night_At_The_Opera.png)
Queen - A Night At The Opera (11 Years - ม.ต้น)
เหตุผลที่ตัดออก : เมื่อก่อนชอบ Brian May และ Queen มาก สมัยก่อนเมื่อสิบปีที่แล้วผมนั่งฟังซาวน์เบาท์อัลบั้มนี้ทุกวันตอนทำการบ้าน แต่เดี๋ยวนี้ผมไม่ค่อยอินกับ Queen แล้ว

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/en/thumb/8/8e/Dsotm30.jpg/200px-Dsotm30.jpg)
Pink Floyd - Dark Side of The Moon (10 Years - ม.ต้น)
เหตุผลที่ตัดออก : อัลบั้มที่ผมน่าจะรู้รายละเอียดมากที่สุดเท่าที่เคยฟังเพลงมาแล้ว ไม่อยากใส่อัลบั้มนี้ลงไป สงสัยจะโหลน่าดู หรือบางทีผมอาจจะฟังมันมากเกินไปจนเอียนแล้ว

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/en/thumb/5/55/Dream_Theater_-_Metropolis_Pt._2-_Scenes_from_a_Memory.jpg/200px-Dream_Theater_-_Metropolis_Pt._2-_Scenes_from_a_Memory.jpg)
Dream Theater - Metropolis Pt. 2: Scenes From A Memory (7-8 Years - กึ่ง ม.ต้น ม.ปลาย)
เหตุผลที่ตัดออก : หมั่นไส้ Dream Theater (ชัดมะ!)

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/0/0e/The_White_Album.svg/200px-The_White_Album.svg.png)
The Beatles - White Album (6 Years - ม.ปลาย)
เหตุผลที่ตัดออก : เื่มื่อก่อนชอบมาก โดยเฉพาะ While My Guitar Gently Weeps แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้ฟัง Beatles แล้ว เอามาฟังใหม่ก็อินน้อยลงแล้ว ถ้าฟังแบบรีมาสเตอร์รอบใหม่แล้วอาจจะกลับมาชอบเหมือนเดิมก็เป็นได้

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/en/thumb/4/48/Fragile.jpg/200px-Fragile.jpg)
Yes - Fragile (5 Years - ม.ปลาย)
เหตุผลที่ตัดออก : อัลบั้มโปรแกรสสีฟที่เล่นเครื่องดนตรีทุกชิ้นได้ยอดเยี่ยมและสมบูรณ์แบบที่สุดในโลกชุดหนึ่ง เพลงติดหูง่ายและย่อยง่ายกว่า Close To The Edge เมื่อก่อนผมชอบ Rick Wakeman มากๆ จากอัลบั้มชุดนี้ แต่ที่ตัดออกเพราะหลังๆ ไม่ค่อยอินกับ Prog แล้ว

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/en/thumb/6/68/Roger_Waters_Amused_to_Death.jpg/200px-Roger_Waters_Amused_to_Death.jpg)
Roger Waters - Amused To Death (5 Years - ม.ปลาย)
เหตุผลที่ตัดออก : งานโซโล่ที่โดดเด่นที่สุดในบรรดาสมาชิกของฟลอยด์ เข้มข้นด้วยเนื้อหาที่ไร้การประนีประนอม ทรงอิทธิพลกับผมโดยตรงทั้งในด้านการใช้ชีวิตและแนวคิด มุมมองต่อโลกและสังคม แต่ตัดออกเพราะเราส่งตัวแทนที่สมศักดิ์ศรีกว่าขึ้นไปแทนแล้ว อัลบั้มนั้นคือ Plastic Ono Band

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/en/thumb/7/7b/LedZeppelinPhysicalGraffitialbumcover.jpg/200px-LedZeppelinPhysicalGraffitialbumcover.jpg)
Led Zeppelin - Physical Graffiti (5 Years - ม.ปลาย)
เหตุผลที่ตัดออก : อัลบั้มของ Zeppelin ที่น่าจะใกล้เคียงกับคำว่าโปรเกรสสีฟมากที่สุด (พอๆ กับ Houses of The Holy) ตัดออกเพราะว่า เพลงในแผ่นที่สองยังเด็ดไม่ถึงขั้น ถ้าเทียบกับแผ่นแรก (ผมชอบแผ่นแรกมาก) และผมรู้สึกว่าตัวเองแก่แล้ว ไม่เหมาะกับฮาร์ดร็อคเท่าไหร่

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/en/thumb/0/0d/ELP_-_Brain_Salad_Surgery.jpg/200px-ELP_-_Brain_Salad_Surgery.jpg)
Emerson, Lake & Palmer - Brain Salad Surgery (5 Years - ม.ปลาย)
เหตุผลที่ตัดออก : ถ้าหากไม่นับอัลบั้มของ Pink Floyd นี่น่าจะเป็นอัลบั้มโปรเกรสสีฟที่ผมฟังมากที่สุด ตั้งแต่ยังไม่รู้จักด้วยซ้ำว่า Moog มันคืออะไร ตัดออกเพราะว่า... เพราะว่าอะไรล่ะ ที่ไม่พอน่ะสิครับ

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/en/thumb/8/8e/MahavishnuOrchestraBirdsOfFirealbumcover.jpg/200px-MahavishnuOrchestraBirdsOfFirealbumcover.jpg)
Mahavishnu Orchestra - Birds of Fire (4 Years - มหาวิทยาลัย)
เหตุผลที่ตัดออก : สมัยที่หัดฟังฟิวชั่นใหม่ๆ ก็เริ่มต้นจากอัลบั้มนี้ และประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ฟัง วงนี้สุดยอดจริงๆ และอัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มฟิวชั่นแจ๊สแบบเข้มข้นที่ผมรักที่สุด (ผมนับว่า Blow By Blow เป็นฟิวชั่นไม่เข้มข้นนัก เพราะว่ามันผสมผสานเข้าไปหลายแนวมาก) แถมโครงสร้างเพลงก็คล้ายๆ Prog เสียด้วย ที่ตัดออกเพราะไม่ค่อยอินกับทั้งฟิวชั่นและทั้ง Prog แล้ว

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/en/9/9e/Crosby%2C_Stills%2C_Nash_%26_Young_-_D%C3%A9j%C3%A0_Vu.jpg)
Crosby, Stills, Nash & Young - Deja Vu (3 Years - มหาวิทยาลัย)
เหตุผลที่ตัดออก : คู่แข่งของอัลบั้มนี้คือ Harvest ซึ่งเป็นอัลบั้มโฟล์ค-ร็อคระดับตำนานแห่งยุค 70's ทั้งคู่ และผมเลือก Harvest เพราะดนตรีมันอ่อนช้อยกว่า งดงามกว่า โดยเฉพาะภาคของเครื่องสาย


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: GÒNG ที่ 26 มิถุนายน 2009 | 05:53:53 PM
ต้องออกตัวก่อนเลยว่าผมเพิ่งฟังเพลงจริงจังๆมาไม่กี่ปี ดังนั้นจำนวนปีจะน้อยหน่อยนะครับ ::)

10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของ Gong

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/en/thumb/1/1a/RageAgainsttheMachineRageAgainsttheMachine.jpg/200px-RageAgainsttheMachineRageAgainsttheMachine.jpg)
1. Rage Against the Machine - Rage Against the Machine (5 years)
เป็นอัลบั้มชุดแรกที่เพื่อนผมแนะนำให้ฟังครับ เขาเป็นแฟน RATM เหมือนกันในตอนนั้น แล้วก็เป็นอัลบั้มที่ผมรู้สึกผูกพันมาก อาจจะด้วยทำนองกีต้าร์และเสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์ของวงนี้กระมังที่ทำให้ผมหลงรักมันตั้งแต่แรกฟังแล้วก็ยังฟังอยู่เรื่อยมา ถึงแม้เดี๋ยวนี้จะไม่ได้ฟังแล้วแต่ก็เป็นอัลบั้มที่มีอิทธิพลกับผมจริงๆครับ

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/en/thumb/d/dc/Megadeth-RustInPeace.jpg/200px-Megadeth-RustInPeace.jpg)
2. Megadeth - Rust in Peace (3 years)
Guitar Hero 2 เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมรู้จักกับอัลบั้มชุดนี้ครับ อินโทรของเพลง Hangar 18 เป็นอะไรที่ยังติดอยู่ในหัวผมอยู่เลย หลังจากได้ฟังเพลงนี้รวมถึงเพลงอื่นๆในอัลบั้มแล้ว ผมก็เป็นแฟน(พันธุ์ทาง)ของ Megadeth แล้วก็ดนตรีแนว Thrash metal จวบจนกระทั่งปัจจุบันและผมก็ยังฟังอัลบั้มชุดนี้อยู่ตลอดครับ

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/en/thumb/e/e3/Dream_Theater_-_Systematic_Chaos.jpg/200px-Dream_Theater_-_Systematic_Chaos.jpg)
3. Dream Theater - Systematic Chaos (2 years)
นี่เป็นอัลบั้มชุดแรกของดรีมเทียเตอร์ที่ผมเริ่มฟังครับ ตอนนั้นแทบไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับ Prog rock/metal เลย ด้วยความที่ปกสวยแล้วก็อะไรหลายๆอย่างดลใจให้ผมลองซื้ออัลบั้มชุดนี้มาฟังครับ ตอนแรกที่ได้ฟังก็ต้องทึ่งกับความแปลกและซับซ้อนของเพลงทำให้ผมได้รู้จักกับคำว่า Progressive ตั้งแต่นั้นมา ทุกวันนี้ก็ยังฟังอยู่ครับ คงคิดว่าจะเลิกขายอัลบั้มชุดนี้แล้วด้วย

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/en/e/eb/Stenchofredemption.jpg)
4. Deicide - The Stench of Redemption (2 years)
อัลบั้มชุดนี้เรียกได้ว่าเปลี่ยนแปลงแนวการฟังเพลงของผมไปอย่างสิ้นเชิงครับ ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญในชีวิตของผมเลยก็ว่าได้ 55 โดยเฉพาะเพลงแรกที่ผมได้ฟัง "Homage for Satan" ด้วยความหนักความเร็วและท่อนโซโล่ของ Ralph Santolla ทำให้ผมหลงรักดนตรี Death Metal จนโงหัวไม่ขึ้น ถึงแม้ปัจจุบันผมจะไม่ได้ฟังอัลบั้มชุดนี้แล้วแต่มันเป็นผลงานที่ทรงอิทธิพลกับผมมากๆเลยครับ

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/en/thumb/1/11/EffigyoftheForgotten.jpg/200px-EffigyoftheForgotten.jpg)
5. Suffocation - Effigy of the Forgotten (2 years)
ถึงแม้อัลบั้มชุดนี้จะไม่ได้สร้างความแตกต่างมากมายในการฟังเพลงของผม แต่มันเป็นอัลบั้มที่ผมผูกพันด้วยมากครับ มันเป็นการต่อยอดจากอัลบั้มของ Deicide ขึ้นไปอีก ในแง่ของความโหดเหี้ยมและเทคนิคชั้นเชิงอันหลากหลาย ทุกวันนี้ผมก็ยังฟังอัลบั้มชุึดนี้อยู่ครับและคงจะอุดหนุนงานชุดล่าสุดของพวกเขาด้วย

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/en/4/4f/Cryptopsy_nonesovile.jpg)
6. Cryptopsy - None so Vile (2 years)
ตอนแรกที่ได้ฟังเพลง Slit your Guts ผมถึงกับตะลึงครับเพราะมันทั้งโหด เสียงร้องก็ผิดมนุษย์มนาเขา ดนตรีก็ช่างรวดเร็วเหลือเกิน ผมชอบอัลบั้มชุดนี้พอๆกับงานของ Suffocation เลยครับเพียงแต่มารู้จักเอาทีหลังเท่านั้นเอง ทุกวันนี้ผมก็ยังฟังอัลบั้มชุึดนี้อยู่ครับถึงแม้วงนี้เขาจะไปดีแล้วก็ตาม

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/en/thumb/4/43/Elvenefris.jpg/200px-Elvenefris.jpg)
7. Lykathea Aflame - Elvenefris (2 years)
ต้องขอบคุณเว็บ metal-archives จริงๆครับที่ทำให้ผมได้รู้จักกับวงเมทัลสุดเจ๋งวงนี้ เพราะมันเป็นงานที่แปลกประหลาดสำหรับผมจริงๆในตอนนั้น ทั้งบรรยากาศสไตล์อียิปต์ เนื้อเพลงที่ไม่เหมือนใครและการผสมผสานควา่มสวยงามลงบนความเกรี้ยวกราด เป็นสุดยอดอัลบั้มในใจผมจริงๆครับ ถึงแม้จะต้องสั่งมันมาจากสาธารณรัฐเช็กผมก็ยอม 555

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/en/thumb/d/dd/Origin_-_Antithesis.jpg/200px-Origin_-_Antithesis.jpg)
8. Origin - Antithesis (1 year)
ทุกวันนี้ผมคงบอกได้อย่างเต็มปากว่าผมเป็นแฟนพันธุ์แท้ของวงนี้แล้วจริงๆ(มั้ง) เพราะผมมีอัลบั้มเต็มของพวกเขาทุกชุด โดยมีอัลบั้มอันยอดเยี่ยมและทรงพลังชุดนี้เป็นจุดเริ่มต้นครับ

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/en/4/44/Diminishing_between_worlds.jpg)
9. Decrepit Birth - Diminishing Between Worlds (1 year)
ถึงใครจะโขกสับอัลบั้มชุดนี้ยังไง แต่มันเป็นผลงานที่ผมหลงไหลเอามากๆครับ ผมฟังมันบ่ิอยมากจนเป็นถึง Top 25 Most Played ใน iPod ของผมเลยทีเดียว สิ่งที่ผมชอบคือท่อนริฟท์ที่ซับซ้อนและรวดเร็วผสมกับโซโล่อันสุดแสนวิจิตร แล้วก็ปกอัลบั้มสุดเจ๋งโดยศิลปินที่ผมชื่นชอบ ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้อีกแล้วครับ

(http://www.metal-archives.com/images/2/1/7/0/217095.jpg)
10. Fleshgod Apocalypse - Oracles (3 months)
ถ้าดูจากจำนวนเวลาที่ฟังแล้วต้องบอกว่าสั้นจริงๆ แต่ทำไงได้ล่ะครับมันรักไปแล้วนี่นา 555 ท่อนคลาสสิคัลอันแสนบรรเจิดที่ถูกใส่เข้ามาช่วยทำให้อัลบั้มนี้สมบูรณ์แบบจริงๆครับ



อัลบั้มที่โดนตัดออก 10 ชุด

Dream Theater - Images and Words (2 years)
Dream Theater - Awake (2 years)
Metallica - Master of Puppets (2 years)
Rotten Sound - Exit (2 years)
Suffocation - Pierced from Within (1 year)
Megadeth - Peace Sells... But Who's Buying? (1 year)
Hour of Penance - The Vile Conception (1 year)
Psycroptic - The Scepter of the Ancients (1 year)
The Monolith Deathcult - Trimvirate (Few months)
Cryptopsy - Blasphemy Made Flesh (Few months)

เหตุผลที่ต้องตัดออก : เหตุผลหลักๆคือเพิ่งได้ฟังครับหรือไม่ก็รู้สึกไม่เหมือนเดิมเลยต้องตัดออก


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: runangel ที่ 26 มิถุนายน 2009 | 08:59:04 PM
เสนอคับ อยากให้ใส่ ความหลังกับอัลบั้ม ที่เราเลือกมาด้วย จะดีมาก 

บางอัลบั้มคนฟังทั่วไปอาจจะได้อารมณ์แบบนึง
แต่กับเราอาจมีความหลังแบบ  คนรักซื้อให้อะไรทำนองนี้
ผมว่าสนุกดีครับ


ส่วนของตัวเอง
ขอไปกลั่นกรองก่อนครับ


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: deja vu ที่ 30 มิถุนายน 2009 | 03:52:50 PM
ผมเป็นคนในยุค 70 ผลงานส่วนมากจึงเป็นในยุคนั้นซะส่วนใหญ่ 10-20 ปีหลังฟังเพลงน้อยมากและไม่ชอบใครเป็นพิเศษ
     1. led zeppelin II  (ฟังหลังจากออก 4-5ปี)
     2. led zeppelin IV (ฟังหลังจากออก 2-3ปี)
     3. house of the holy (ฟังตอนออก)  เป็นฮาร์ดร้อควงแรกที่ทำให้หันมาสนใจฟังเพลงประเภทนี้
     4. queen - a night at the opera (ฟังตอนออก)
     5. fleetwood mac - rumours (ฟังตอนออก)
     6. tomita - kosmos  นำเพลงคลาสสิคมาบรรเลงด้วยซินธีไซเซอร์ ได้อารมณ์ที่เคว้งคว้าง ล่องลอยเหมือนชื่อชุด
     7. stevie wonder - jeourney through ...... (ฟังตอนออก) เพลงประกอบภาพยนต์ที่แต่งโดยคนตาบอด ทำให้คนตาดี
         อย่างเรามองเห็นความงามที่ซ่อนอยู่ในธรรมชาติ
     8. supertramp - breakfast in america  (ฟังตอนออก) 
     9. paul simon - graceland  (ฟังตอนออก)  ยิ่งอายุมากขึ้นยิ่งทำดนตรีได้ละเมียดละไมขึ้น
   10. the police - cyncronicity  (ฟังตอนออก)  อัลบั้มทิ้งทวนก่อนแตกวง ทั้งสามคนคงสร้างงานที่ดีกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว

ขอแถมเพลงอีก 10 เพลงนะครับ ไหนๆก็รำลึกถึงความหลังก้นแล้ว
     1. chirpy chirpy chip chip (middle of the road)  เป็นเพลงฝรั่งเพลงแรกที่ชอบ
     2. season in the sun (terry jack)  เป็นเพลงฝรั่งเพลงแรกที่ฟังแล้วซึ้ง
     3. hey jude   ไปคุยกับเพื่อนที่โรงเรียนว่าเพลงของ บีทเทิ้ล เพราะที่สุด เพื่อนบอกว่าเพลงของ สี่เต่าทอง เพราะกว่า
                         เถียงกันอยู่นานเป็นเดือนกว่าจะรู้ว่า........
     4. our house (csn&y)  ฟังครั้งแรกจากวิทยุ ฟังจบเพลงนั่งรถเมล์จากชลบุรีไปกรุงเทพฯ เพื่อซื้อแผ่น deja vu
     5. american pie (don mclean)  ไม่รู้ว่าชอบเพราะอะไร แม้ปัจจุบันถ้าได้ยินก็ยังชอบอยู่
     6. stairway to heaven (led zeppelin)  ยิ่งใหญ่ โอฬาร ตระการหู
     7. two out of three aint bad (meat loaf) เป็นเพลงรักที่เพราะมาก
     8. morning has broken (cat steven) ฟังแล้วโลกดูสดใสน่าอยู่ขึ้นเยอะ
     9. everybody need a friend (wishbone ash) ช่วงที่ฟังเพลงนี้เป็นช่วงที่กำลังมีความรัก เมื่อได้ยินเพลงนี้ทีไรนึกถึงตอนนั้น
                                                                    ทุกที
   10. questions (manfred mann)  หวาน เหงา เศร้า เพราะ


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: .. polotoon .. ที่ 30 มิถุนายน 2009 | 04:15:23 PM
ขอเขียนแบบค่อยๆนึก ค่อยๆเขียนนะครับ please.

กระทู้นี้ทำให้ได้หวนระลึกถึงความผูกพันครั้งเก่าก่อนดีจังครับ ผมได้ย้อนกลับมาฟังอีกเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้  :D





(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/SANY1357.jpg)


27 ปี  Barclay James Harvest – Live Tape
อีกวงก็น่าจะเป็น Barclay James Harvest ครับ วงที่พอจะเรียกได้ว่าเป็น Progressive Rock อยู่  เป็นวงแรกที่ผมรู้จักครับ จากคุณปีศาจลายครามที่พร่ำพรรณาเปิดโลกดนตรีเพลง Progressive ให้กับเพื่อนร่วมรุ่นมัธยมด้วยกัน  ผมพูดได้เลยครับว่าภาษาอังกฤษที่พอจะพูดจากับฝรั่งแล้วไม่เมื่อยมือมาก ก็ได้เพลงฝรั่งนี่แหละที่ช่วยให้ขวนขวายอยากเข้าใจมากขึ้นกว่าเคย  อัลบั้มชุดแรกเลยที่คุณปีศาจแนะนำเป็นชุด Turn Of The Tide ที่ผมว่าฟังไม่ง่ายเท่าไรนักครับ คือเป็นชุดที่กึ่งจะเพราะติดหูก็ไม่เพราะเสียทีเดียวครับ  น่าจะมีคนชอบไม่มากนักด้วยซ้ำไป  แต่ชุดที่ประทับใจมายาวนานน่าจะเป็น Live Tape ครับ ที่ได้ฟังหลังจากนั้นไม่นานนัก  ฟังแล้วรู้สึกว่าเป็นร็อคที่ไม่ได้ฟังชอบแล้วจางหายไป  ฟังบ่อยมากเลยครับ  จากเทปคลาสเส็ทยี่ห้อดังเหมือนเดิม วงนี้ยังเป็นวงที่ผมซื้อแผ่นเสียงเป็นวงแรกด้วยครับ  ชุด The Best Of Barclay James Harvest Vol.3 ปกสีฟ้าๆ  ที่ซื้อชุดนี้ก็ด้วยเหตุผลว่า  ไม่มีทำเป็นเทป  และเป็นแผ่นที่มีขายที่ห้างเซ็นทรัลครับ  ผมซื้อก่อนเครื่องเล่นแผ่นเสียอีกครับ  :D






(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/SANY1360.jpg)


25 ปี  Dire Straits - Alchemy Live ผมว่่าอัลบั้มนี้ต้องมีส่วนให้ผมสอบเข้ามหาลัยได้แน่เลยครับ ไม่มากก็น้อย ฟังตั้งแต่ออกกับค่ายเทปยักษ์ใหญ่ Peacock ออกเป็นเทป 2 ม้วนแยกกัน น่าจะได้ซื้อที่ห้างคาร์เท์ที่อยู่แถวเยาวราช สมัยนั้นจะมีแผงเทปใหญ่ไปเช่าพื้นที่บน Ramp จอดรถขายกัน ม้วนละ 29 บาทกระมังครับ สมัยนั้นนั่งรถเมล์ไปซื้อครับ ต่อเดียว 1.50 บาท เพื่อไปซื้อเทปไม่เกิน 3 ม้วน เพราะซื้อมากไม่ไหว เอากลับมาฟังซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่รู้เบื่อ แต่จนป่านนี้แล้ว ผมไม่มีซีดีหรือแผ่นเสียงชุดนี้เลยครับ เคยซื้อแผ่นที่ชอบมากๆหลายชุดแล้ว ปรากฎว่าฟังยังไงก็ไม่ได้อารมณ์เดิมแล้ว ส่วนใหญ่จะซื้อมาเก็บมากกว่า มันเหมือนเป็นความทรงจำเดิมๆ ที่ไม่อาจหวนคืนได้จริงๆ ตอนนั้นฟังกับแอมป์กับลำโพงตัวโตๆที่ขอพ่อมา เสียงดังลั่นห้องไม่เคยแตก ปัจจุบันเทปที่มีอยู่ก็ไม่ใช่ม้วนเดิมๆแล้ว เป็นคนละรุ่นที่ซื้อ แต่ก็ยังคงหน้าตาเหมือนเดิมอยู่ ไม่ได้ถูกหยิบมาเปิดแล้ว ลำโพงยกให้ช่างที่มาซ่อมบ้านไปแล้ว เทปเด็คยังใช้ได้อยู่ แอมป์ก็เปลี่ยนตัวไปแล้ว แต่ความทรงจำยังอยู่ที่เดิม  :D

เหมือนบังเอิญจริงๆ เชื่อไหมครับ วันนี้ผมเพิ่งได้ดูวีดีโอบันทึกการแสดงสดชุดนี้เป็นครั้งแรก อายจัง มีความสุขมากครับ






21 ปี  Velvet Underground & Nico ด้วยความสงสัยว่าอัลบั้มนี้มีดีอย่างไร เพราะได้ยินคำชมมามากเหลือเกิน ชุดนี้ซื้อแผ่นเสียงเลย เพราะยังไม่มีทำเทปในตอนนั้น แผ่นร้าน Roxy กระมัง เอามาฟังแล้ว เอ๊ะมันดียังไงหว่า ดนตรีรกหูมาก เสียงร้องเย็นชา เหงาและหดหู่น่าดู  พอได้ฟังมากเข้ามากเข้าก็เริ่มเข้าใจ และเห็นความงามในนั้นแบบติดหนึบ อดที่จะหยิบมาฟังแล้วฟังอีกไม่ได้  ปกอับั้มนี้แบบ Original จะสามารถลอกเปลือกกล้วยออกได้ เป็นหนึ่งในดีไซน์ปกสุดคลาสสิคปกหนึ่ง เคยซื้อเสื้อยืดรูปปกอัลบั้มมาใส่ด้วยความภูมิใจ จนทุกวันนี้ก็ยังไม่เคยได้เห็นกล้วยใบที่ปอกเปลือกได้ใบนั้น แม้จะมี Mini Lp ที่เพิ่งออกมา แต่ก็ไม่ได้ซื้อหาไว้ เพราะคิดว่าจะซื้อแผ่นเสียงใหม่ดีกว่า เพราะได้กล้วยใบใหญ่กว่า   :D






20 ปี  Tom Petty - Full Moon Fever ฟังตอนทำงานส่งอาจารย์ เป็นชุดที่ฟังแล้วกำลังมีสมาธิพอดี ไม่แรงหรือเบาไป ที่สำคัญคือต้องมีจังหวะจะโคน มิเช่นนั้นจะหลับเอาได้ บางครั้งฟังแบบพลิก ( เทป ) กลับไปมาได้เรื่อยๆ ม้วนนี้ต้องอยู่ใกล้ๆเครื่องตลอด ไม่ต้องเอาไปเก็บ  :D






(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/SANY1356.jpg)


19 ปี  Bob Geldof - The Vegetarians of Love  ชอบเสียงเมาๆ ดนตรีอคุสติก ผสมผสานดนตรีพื้นบ้านที่พอดีๆ ฟังได้เรื่อยๆ สมัยเรียนต้องนอนน้อยบ่อยๆเวลามีงานส่ง ดนตรีแบบนี้ช่วยให้ไม่หลับ และรู้สึกสนุกสนาน กระฉับกระเฉงไปในตัว ไม่น่าเชื่อว่าคนดังอย่างท่านเซอร์ เพิ่งจะมีงานเดี่ยวออกมาแค่ 4 ชุด ชุดน่าสุดเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ดนตรีและปกแรงมากเลย เพิ่งได้ฟังเมื่อไม่นานนี้เองครับ รปูลักษณ์ท่านก็เปลี่ยนแปลงโรยราไปมากเหลือเกิน นี่แหละเพื่อนที่ผูกพันอีกคน ( 55 ชุดนี้ก็ยังไม่มีแผ่นอีกเหมือนกัน เหมือนยิ่งชอบมากยิ่งไม่ยอมซื้อแผ่นยังไงไม่รู้ กลัวจะไม่ชอบเหมือนเดิม )   :D






(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/SANY1362.jpg)






(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/SANY1364.jpg)






(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/SANY1358.jpg)


มาจองที่ไว้ก่อน เดี๋ยวไว้ค่อยมาเล่า  :D


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: winston ที่ 30 มิถุนายน 2009 | 06:50:15 PM
ขอเขียนแบบค่อยๆนึก ค่อยๆเขียนนะครับ please.

1. Dire Straits - Alchemy Live ผมว่่าอัลบั้มนี้ต้องมีส่วนให้ผมสอบเข้ามหาลัยได้แน่เลยครับ ไม่มากก็น้อย ฟังตั้งแต่ออกกับค่ายเทปยักษ์ใหญ่ Peacock ออกเป็นเทป 2 ม้วนแยกกัน น่าจะได้ซื้อที่ห้างคาร์เท์ที่อยู่แถวเยาวราช สมัยนั้นจะมีแผงเทปใหญ่ไปเช่าพื้นที่บน Ramp จอกรถขายกัน ม้วนละ 29 บาทกระมังครับ สมัยนั้นนั่งรถเมล์ไปซื้อครับ ต่อเดียว 1.50 บาท เพื่อไปซื้อเทปไม่เกิน 3 ม้วน เพราะซื้อมากไม่ไหว เอากลับมาฟังซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่รู้เบื่อ แต่จนป่านนี้แล้ว ผมไม่มีซีดีหรือแผ่นเสียงชุดนี้เลยครับ เคยซื้อแผ่นที่ชอบมากๆหลายชุดแล้ว ปรากฎว่าฟังยังไงก็ไม่ได้อารมณ์เดิมแล้ว ส่วนใหญ่จะซื้อมาเก็บมากกว่า มันเหมือนเป็นความทรงจำเดิมๆ ที่ไม่อาจหวนคืนได้จริงๆ ตอนนั้นฟังกับแอมป์กับลำโพงตัวโตๆที่ขอพ่อมา เสียงดังลั่นห้องไม่เคยแตก ปัจจุบันเทปที่มีอยู่ก็ไม่ใช่ม้วนเดิมๆแล้ว เป็นคนละรุ่นที่ซื้อ แต่ก็ยังคงหน้าตาเหมือนเดิมอยู่ ไม่ได้ถูกหยิบมาเปิดแล้ว ลำโพงยกให้ช่างที่มาซ่อมบ้านไปแล้ว เทปเด็คยังใช้ได้อยู่ แอมป์ก็เปลี่ยนตัวไปแล้ว แต่ความทรงจำยังอยู่ที่เดิม  :D

+1


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: ท่านผีเพลง ที่ 01 กรกฎาคม 2009 | 10:46:48 AM
10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ۞ ળં૮યબ૮અતે૭


1. Brahms : Symphony no 1 in C minor (Op.68)
Arturo Toscanini /NBC Symphony Orchestra (1941)

(http://img188.imageshack.us/img188/3016/38606.jpg)

เป็นงานซิมโฟนี่ที่เป็นอมตะ ท้าทายผู้ที่อยากก้าวเดินบนทางสายคลาสสิค
เสียงกลองทิมปานี เป็นสิ่งที่สะท้อนความล้ำยุคสมัย อย่างแท้จริง
ผมรักในกระบวนท่าของสรรพเสียง แน่นหนาประดุจภูษิตฟ้าไร้ตะเข็บ
อืมม์.. ก็ปู่บราห์มของผม ใช้เวลาแต่งเพลงตั้ง 21ปีนะ (1854-1876)

แล้วเพลงนี้ประทับใจยังไง
คือฟังแล้ว มีพลังลุกโชนยิ่งใหญ่ ให้ยืนหยัดต่อสู้กับความทุกข์ขมขื่น ที่โหมทับทมเข้ามาในชีวิตน้อยๆครับ


2. Agnes Chan - Will The Circle Game Be Unbroken (1971)

(http://s345.photobucket.com/albums/p371/turn_back/th_agnes_back.jpg)(http://s345.photobucket.com/albums/p371/turn_back/th_agnes_cover.jpg)

นี่คงเป็นแผ่นเสียงที่ผม"ดู"มากกว่า"ฟัง"
และที่อยากเล่นกีต้าร์เป็นก็เพราะ "เธอ" นี่แหละ

ความประทับใจ
ก็(ก้อ)... คนมันรักนี่.. (ไร้เหตุผลสุดๆ)


3. Shakti -  Shakti with John McLaughlin (1975)

(http://img39.imageshack.us/img39/2900/a0102782.jpg)

อาจจะเป็นแผ่นเสียงที่"เซอร์ไพรซ์"ที่สุด แห่งการฟังเพลงของผม
และทุกครั้งที่ฟังเสร็จ ก็ต้องมาหยิบกีต้่าร์มาเล่นมั่ง

ความประทับใจ
มันทำให้ผมมาสนใจ "เพลงไทยเดิม" อย่างจริงๆจังๆ อีกครั้ง



๔. คาราบาว - เมด อิน ไทยแลนด์ (๒๕๒๗)

(http://img390.imageshack.us/img390/207/c05.jpg)

เป็นงานที่มีคุณค่าสูง คงฝังอยู่ในใจของผม ไปตลอดกาล
แม้ว่าผมจะซื้อผลงานของพวกเขา เพียงชุดที่ ๗ (ประชาธิปไตย) ก็ตาม
แต่ ๑๐ เพลงในอัลบั้มนี้ อยู่ในระดับ "อมตะ" ทุกเพลง

ความประทับใจ
เนื้อหาของอัลบั้ม มันโดนใจ มนุษย์เงินเดือน เฉกเช่นผมอย่างแรง
(ไม่มีทั้ง ซีดีและแผ่นเสียง แต่มีเทปอยู่ ๒-๓ ก็อปปี้  :'( อยากได้แผ่นจัง)




๕.  -  (19xx)

(http://)



ความประทับใจ


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: panyarak ที่ 01 กรกฎาคม 2009 | 11:05:46 AM
เลือกยากจัง ส่วนใหญ่จะเป็นอัลบั้มที่ฟังครั้งแรกก็หลงรักเลยครับ

1. Yes - Going for the One (ครบ 30 ปี พอดี) - เป็นงาน prog ชิ้นแรกที่เพื่อนแนะนำให้ฟัง และก็ติดหนึบมาตั้งแต่นั้น ตอนฟังแรกๆ ก็ชอบเพลงสั้นๆ กว่าจะชอบเพลง Awaken แบบถอนตัวไม่ขึ้นก็ล่วงไปหลายปีจนกระทั่ง Yes - Union Tour นำเพลงนี้ออกเล่นแสดงสดเป็นครั้งแรก ซึ่งคนที่รู้จัก Yes อย่างผิวเผินนึกว่า เป็นเพลงใหม่ของ Yes ด้วยซ้ำ
2. Fleetwood Mac - Rumours 1 (31 ปี) - ฝากเพื่อนซื้อเทปเพราะชอบชื่อวงโดยไม่เคยฟังมาก่อน ฟังอยู่ 2-3 หน ก็ติดใจ
3. Peter Gabriel - 3 (20 กว่าปี) - เป็นผลงานเดี่ยวของสมาชิก Genesis ชุดแรกที่ได้ฟัง เพราะคุณพัณณาศิสฯ นำมาแนะนำในสตาร์พิคส์ เลยไปสั่งอัดเทปจากร้าน Music Lover
4. Manfred Mann's Earth Band - Chance (20 กว่าปี) - ฟังครั้งแรกจากเทปพีค๊อก แม้ว่าจะเคยฟังงานชุด Watch ของวงนี้มาก่อน แต่ก็หลงรักชุด Chance มาตลอด ส่วนชุด Watch เป็นอันดับ 2
5. ABBA - The Album (เกือบ 30 ปี) - เพื่อนคนนึงชอบเพลง Move on จากชุดนี้มาก เขาไปบ้านผมทีไร ก็ต้องเปิดเพลงนี้ให้ฟังจนชอบไปด้วย ส่วนผมชอบทุกเพลงในชุดนี้
6. Boney M - Love for Sale (เกือบ 30 ปี) - ซื้อเทปมาฟังเพราะติดใจเพลง Sunny ที่ได้ยินทางวิทยุ ตอนแรกก็คิดว่า Boney M คือนักร้องคนเดียว โดยมีวงแบ็คอัพ
7. Alan Parsons Project - The Turn of a Friendly Card (20 กว่าปี) - ฟังครั้งแรกจากเทปพีค๊อก แล้วก็ตามเก็บชุดอื่นๆ ที่ออกมาก่อนและหลังชุดนี้ ความประทับใจครั้งแรกคือ สำเนียงการร้องเพลง title track และเพลง Maybe a Price to Pay
8. Deep Purple - Made in Japan (เกือบ 30 ปี) - ฟังครั้งแรกจากเทป 4 Track ตอนแรกก็ชอบอยู่แค่เพลง Highway Star, Smoke on the Water และ Child in Time พอฟังไปเรื่อยๆ ก็ชอบหมดทุกเพลง ซึ่งเป็นเรื่องน่าแปลกที่ปกแผ่นเสียงอัลบั้มนี้เป็นสีทอง แต่ 4 Track เปลี่ยนสีปกเทปเป็นสีดำ พอค่ายเพลงนำอัลบั้มนี้มา reissue เป็นแผ่นเสียงในโอกาสครบรอบ 30 ปีของอัลบั้มนี้ ก็ได้เปลี่ยนสีปกเป็นสีดำ (ตามเทปผีของไทย)
9. Jean Michel Jarre - The Concerts in China (20 กว่าปี) - ฟังครั้งแรกจากเทปที่สั่งอัดจาก Music Lover ต่อมาก็ซื้อเทปลิขสิทธิ์ Polydor ของไทย ตามมาด้วยแผ่นเสียง และซีดี รวมทั้ง bootleg DVD สารคดีเบื้องหลังการแสดงครั้งนี้ โดยยังหวังอยู่ว่า จะมีการออก DVD ทางการของคอนเสิร์ตนี้ในอนาคต
10. Renaissance - Live at Carnegie Hall (20 กว่าปี) - คุณพัณณาศิสฯ เป็นผู้แนะนำว่า ให้ลองฟัง prog ที่ผู้หญิงร้องนำดู ตอนแรกก็ไปอัดเทปเฉพาะเพลง Ocean Gypsy จากร้าน Music Lover มาฟังก่อน พอไปเรียนหนังสือที่อเมริกา ก็ได้ซื้อแผ่นเสียงมาฟังทั้งอัลบั้ม

อัลบั้มที่เกือบจะติดอันดับ แต่จำใจตัดออกไปก็มี Grace Slick - Dreams, Queen - Live Killers, Roger Taylor - Strange Frontiers, Boney M - Boonoonoonoos, Pink Floyd - The Wall, Kansas - Two for the Show, Moody Blues - Long Distance Voyager, Ultravox - Rage in Eden, Jon Anderson - Olias of Sunhillow, Steve Hackett - Defector, King Crimson - Lizard, Kraftwerk - Computer World, ELP - Welcome Back My Friends ..., Genesis - Live, Rainbow - On Stage

ขอเลียนแบบคุณ deja vu ด้วย 10 เพลงที่ทรงอิทธิพลตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป (หลายเพลงซ้ำกัน)
1. Middle of the Road - Chirpy Chirpy Cheep Cheep (ครบ 40 ปี พอดี) - เป็นเพลงที่คุณพ่อชอบเปิดตอนอยู่ญี่ปุ่น ตอนนั้นก็คิดว่า เป็นพวกฮิตเพลงเดียวแล้วก็หายไป พอโตขึ้นถึงได้รู้ว่า วงนี้มีเพลงฮิตอีกหลายเพลง และเพราะๆ ทั้งนี้น
2. Terry Jacks - Seasons in the Sun (เกือบ 40 ปี) - เป็นเพลงที่ได้ยินทางวิทยุบ่อยมาก โดยเฉพาะ IS Song Hits และ Let It be Me
3. Wishbone Ash - Everybody Needs a Friend (30 ปี พอดี) - เป็นเพลงกีตาร์คู่เพลงแรกที่เพื่อนเปิดให้ฟัง และหลงรักตั้งแต่ได้ยินครั้งแรกเลย ชอบทั้งเสียงร้อง กีตาร์ เบส กลอง และเนื้อร้องที่ประทับใจ
4. Manfred Mann's Earth Band - Lies (Through the 80's) (20 กว่าปี) - เพลงนี้ไม่มีเหตุผลเฉพาะ
5. Boney M - Belfast (เกือบ 30 ปี) - เป็น 1 ในไม่กี่เพลงที่ Marcia Barrett นักร้องเสียงห้าวของวงได้ร้องนำ (ส่วนใหญ่ Liz Mitchell ร้องนำ) และออกร็อคมากที่สุดของ Boney M
6. KC & the Sunshine Band - It's the Same Old Song  (เกือบ 30 ปี) - ที่จริงก็อยากเลือกอัลบั้มของ KC ที่มีเพลงนี้ด้วย เพลงนี้ The Four Tops เคยร้องไว้ก่อน แต่ version ของ KC & the Sunshine Band กินขาด ที่ซื้อเทปของ 4 Track ชุดนี้มาฟังโดยไม่รู้จักแนวดนตรีมาก่อน เพราะโลโก้สีทองที่ลอยอยุ่ในอวกาศโดยแท้เลย
7. Manfred Mann's Earth Band - Solar Fire และ In the Beginning (2 เพลง เพราะต้องเปิดคู่กันเสมอ) (30 ปี) - เพื่อนเปิดให้ฟังติดต่อกันทั้ง 2 เพลง และก็ได้กลายเป็นเพลงคู่ที่ต้องเปิดฟังด้วยกันมาตลอด
8. Mike Oldfield - Incantations (20 กว่าปี) - ติดใจท่อนร้อง Songs from Hiawatha ที่ Maddy Prior ร้องนำก่อนที่จะชอบทั้งเพลง (ทั้ง 4 parts) ซึ่งร้องเพลงภาษาอังกฤษให้ออกมาเหมือนภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษได้อย่างน่าทึ่ง
9. Renaissance - At the Harbor (20 กว่าปี) - เป็นเพลงโปรดของเพื่อนสนิท และน่าจะเป็นหนึ่งในเพลงที่สั้นที่สุดของ Renaissance ซึ่งน่าจะทำให้ได้ข้อสรุปว่า เพลง prog ที่ประทับใจ ไม่ต้องยาวเกิน 20 นาที ก็ได้
10. Deep Purple - Highway Star (32 ปี) - เป็นเพลงฮาร์ดร็อคเพลงแรกที่ได้ฟังจากเทปที่เสียงทึบ และคงเป็นเพลงฮาร์ดร็อคในดวงใจไปตลอดกาล

เช่นกัน มีหลายเพลงต้องถูกตัดออกไปอย่างน่าเสียดาย เช่น Joey - Shelby Flint, How Can I Tell Her - Lobo, Pictures of Home - Deep Purple, Gates of Babylon - Rainbow, Sukiyaki - Kyu Sakamoto, Love to Love - UFO, My Melody of Love - Bobby Vinton, Still in Love with You - Sherbet, Puff - Peter Paul & Mary, Reason to Believe - Rod Stewart, Streets of London - Sinead O'Connor


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: deja vu ที่ 01 กรกฎาคม 2009 | 01:51:36 PM
เลือกยากจัง แล้วจะมาเติมให้เต็มต่อไปด้วยคนครับ

1. Yes - Going for the One (ครบ 30 ปี พอดี)
2. Fleetwood Mac - Rumours 1(31 ปี)
3. Peter Gabriel - 3
4. Manfred Mann's Earth Band - Chance
5. ABBA - Arrival
6. Boney A - Love for Sale
7. Alan Parsons Project - The Turn of a Friendly Card
8. Deep Purple - Made in Japan
9. Jean Michel Jarre - The Concerts in China
10. Renaissance - Live at Carnegie Hall

ขอเลียนแบบคุณ deja vu ด้วย 10 เพลงที่ทรงอิทธิพลตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป (หลายเพลงซ้ำกัน)
1. Middle of the Road - Chirpy Chirpy Cheep Cheep (ครบ 40 ปี พอดี) - เป็นเพลงที่คุณพ่อชอบเปิดตอนอยู่ญี่ปุ่น ตอนนั้นก็คิดว่า เป็นพวกฮิตเพลงเดียวแล้วก็หายไป พอโตขึ้นถึงได้รู้ว่า วงนี้มีเพลงฮิตอีกหลายเพลง และเพราะๆ ทั้งนี้น
2. Terry Jacks - Seasons in the Sun (เกือบ 40 ปี) - เป็นเพลงที่ได้ยินทางวิทยุบ่อยมาก โดยเฉพาะ IS Song Hits และ Let It be Me
3. Wishbone Ash - Everybody Needs a Friend (30 ปี พอดี) - เป็นเพลงกีตาร์คู่เพลงแรกที่เพื่อนเปิดให้ฟัง และหลงรักตั้งแต่ได้ยินครั้งแรกเลย ชอบทั้งเสียงร้อง กีตาร์ เบส กลอง และเนื้อร้องที่ประทับใจ
4. Manfred Mann's Earth Band - Lies (Through the 80's) -
5. Boney M - Belfast -
6. ABBA - Move on
7. Manfred Mann's Earth Band - Solar Fire และ In the Beginning (2 เพลง เพราะต้องเปิดคู่กันเสมอ) (30 ปี)
8. Mike Oldfield - Incantations
9. Renaissance - At the Harbor
10. Deep Purple - Highway Star (32 ปี)



    ดีใจครับที่รสนิยมการฟังเพลงส่วนหนึ่งใกล้เคียงคุณปัญญรักษ์ (สะกดผิดตั้งหลายเพลง ผมไม่ค่อยเก่งอังกฤษน่ะครับ)
    going for the one , the turn of... , made in japan ผมก็ชอบมากครับ
    ตอนแรกคิดว่าคุณปัญญรักษ์จะชอบเพลงที่หนักๆ ฟังยากซะอีก


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: panyarak ที่ 01 กรกฎาคม 2009 | 02:11:10 PM
เลือกยากจัง แล้วจะมาเติมให้เต็มต่อไปด้วยคนครับ
 

    ดีใจครับที่รสนิยมการฟังเพลงส่วนหนึ่งใกล้เคียงคุณปัญญรักษ์ (สะกดผิดตั้งหลายเพลง ผมไม่ค่อยเก่งอังกฤษน่ะครับ)
    going for the one , the turn of... , made in japan ผมก็ชอบมากครับ
    ตอนแรกคิดว่าคุณปัญญรักษ์จะชอบเพลงที่หนักๆ ฟังยากซะอีก


เพลงหนักๆ ก็ฟังครับ แต่ถ้าต้องเลือกแค่ 10 ชุด ก็ขอเลือกพวกนี้ก่อนครับ


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: เพชร วิปลาส ที่ 06 กรกฎาคม 2009 | 11:40:31 AM
10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของ "เ้พชร วิปลาส"

          เชื่อว่าแต่ละคนก็เคยลองผิดลองถูกในการฟังเพลงมาหลายรูปแบบ และมีศิลปินที่ชื่นชอบกับอัลบั้มที่ดีๆมากมายอยู่ในใจ แต่ก่อนที่จะพบเจอสิ่งที่ดีๆเหล่านั้น จะต้องมีศิลปินและเพลงที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรัก ฟังเมื่อไรก็เหมือนกับได้ย้อนกับไปเวลาดีๆตอนนั้นเสมอๆ หลายคนอาจจะเคยหัวเราะ ร้องไห้มาแล้วด้วยซ้ำเวลาที่นั่งฟังเพลงที่ตัวเองเคยผูกพันอยู่คนเดียว
          สำหรับตัวผมแล้วอัลบั้มเหล่านี้ไม่ใช่อัลบั้มที่ผมชอบที่สุดและดีที่สุดในสายตาผม (ซึ่งมีมากกว่าสิบอัลบั้มแน่นอน) แต่เสมือนเป็นประตูเบิกทางและมีอิทธิพลในการฟังเพลงของผมและได้ค้นพบศิลปินและอัลบั้มดีๆที่ชอบในเวลาต่อมา จึงขอเลือกมาแค่ 8 อัลบั้มเท่านั้นครับ เพราะนอกจากนี้มันจะไม่ผูกพัน แต่จะเป็นอัลบั้มที่ดีที่ชอบซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควรทีเดียวกว่าเราจะผูกพันกับมันได้...

1. แรกเริ่ม "ป๊อปครองเมือง" กับ เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์ - บูมเมอแรง (พ.ศ. ๒๕๓๓) ความผูกพัน ๒๐ ปี
(http://img16.imageshack.us/img16/9575/cdocumentsandsettingssu.jpg)

เกิดมาเป็นเด็กไทย ไม่เคยฟังเพลงพี่เบิร์ดนั้นถือว่าขาดบางสิ่งบางอย่างไปในชีวิต จริงๆแล้วพี่เบิร์ดเริ่มดังและมีชื่อเสียงมาตั้งแต่ชุดแรก "สายลมสองเรา" และมีเพลงฮิตเป็นสิบๆเพลงมาก่อนหน้านี้แล้ว เป็นแต่มันบังเอิญว่าผมเองดันเริ่มฟังและพูดภาษาคนรู้เรื่องจริงๆเอาช่วง ชุด "บูมเมอแรง" และเริ่มร้องตามได้แบบเป็นจริงๆเป็นจัง อัลบั้มนี้เป็นเพลงป๊อปฟังง่ายๆซึ่งแทบจะเรียกได้ว่าดังยกชุดด้วยเพลงอย่าง "บูมเมอแรง", "คู่กัด", "หมอกหรือควัน" เพลงของพี่เบิร์ดและอัลบั้มนี้ถือเป็นการปูทางให้ผมเริ่มฟังเพลงป๊อปอย่างตั้งใจและเริ่มสนใจที่จะฟังเพลงเป็นจริงเป็นจัง ทั้งในแง่ของตัวเพลง จังหวะ ท่าทางประกอบเพลง ทำความเข้าใจเนื้อหาในเพลงมากกว่าที่จะฟังผ่านๆเฉยๆอย่างที่ผ่านมา รวมทั้งเริ่มสนใจตัวศิลปิน (แปลได้ว่าเริ่มบ้าดาราแล้วนั่นเอง) ซึ่งหลังจากนั้นก็ติดตามผลงานพี่เบิร์ดมาทุกชุด ซึ่งระหว่างนั้นผมก็เริ่มชื่นชอบศิลปินป๊อปยุคนั้นก็ได้แก่ มาลีวัลย์ เจมีน่า, ปั่น, และยุคอาร์เอสครองเมืองในเวลาต่อมาอย่าง เจมส์ เรืองศักดิ์, ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง, แร๊พเตอร์

ทุกวันนี้แม้จะหันเหไปฟังแนวอื่นเสียมาก แต่ก็ไม่เคยอายใครที่จะบอกว่าเป็นแฟนเพลงพี่เบิร์ดครับ (ร้องได้แทบทุกเพลงจนทุกวันนี้ เชื่อไหม?)

 

2. ฝรั่งรุกล้ำในหัวใจ กับ ไมเคิล แจ๊คสัน - Dangerous (พ.ศ. ๒๕๓๖) ความผูกพัน ๑๖ ปี
(http://img39.imageshack.us/img39/9575/cdocumentsandsettingssu.jpg)

โชคดีเหลือเกินที่หลังจากเริ่มฟังเพลงได้ไม่นาน บังเอิญมีศิลปินระดับโลกอย่าง "ไมเคิล แจ็คสัน" มาเปิดคอนเสิร์ตที่ประเทศไทยที่ชื่อว่า "Dangerous world tour" พอดิบพอดี ซึ่งตอนนั้นจำได้ว่าคนไทยเห่อไมเคิลมาก ขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ทุกวัน มีข่าวและโฆษณาทางโทรทัศน์ตลอดเวลา ทำให้ผมซึมซับเพลงและท่าเต้นของไมเคิลได้โดยไม่ยากนัก จริงอยู่ที่ผลงานสุดยอดของไมเคิลคือ "Thriller" แต่ตอนนั้นผมยังเพิ่งเกิดจึงไม่ได้ซึมซับความยิ่งใหญ่ของเขาในยุคนั้น ความทรงจำเกี่ยวกับเพลงและท่าเต้นอันสุดมหัศจรรย์ของไมเคิลจึงเกิดในอัลบั้มนี้มากกว่า จำได้ว่าตอนนั้นเคยเอาสก๊อตเทปมาพันตามนิ้ว ใส่หมวก และหัดเต้นท่ามูนวอคล์กันทั้งชั้นเรียน เพลงดังสุดๆในช่วงนั้นอย่าง "Black or White" และ "Heal the world" ดังจนเด็กยุคนั้นร้องตามกันได้ทั่วบ้านทั่วเมือง แม้หลังจากทัวร์นั้นกระแสของไมเคิลจะซาลงไปตามกาลเวลาแต่เพลงของเขาทำให้ผมเริ่มหัดฟังเพลงป๊อป และ อาร์แอนด์บีจากศิลปินต่างประเทศ จนต่อมาได้รู้จักงานเพลงดีๆ อย่าง วิทนีย์ ฮุสตัน, บอยส์ ทู เมนส์, มารายห์ แคร์รี่, พวกบอยแบนด์ทั้งหลายแหล่ และศิลปินคุณภาพหลายๆคนในเวลาต่อมา

ส่วนที่ผมเปรยไว้ตอนขึ้นต้นว่าโชคดีที่ไมเคิลมาไทยให้ผมได้รู้จักตั้งแต่ตอนนั้น เพราะว่าหลังจากนั้นความนิยมในตัวเขาก็ลดลงอย่างรวดเร็วหลังจากอัลบั้ม "History" ถ้าเกิดไม่มาเมืองไทยตอนที่พีคสุดๆนั้น ผมอาจจะไม่ได้ให้ความสนใจเขามากขนาดนี้ก็เป็นได้ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเด็กรุ่นหลังๆถึงเฉยๆกับไมเคิล เป็นเพราะว่าเขาหลุดจากกระแสหลักที่คนรุ่นหลังสนใจแล้วนั่นเอง

 

3. ลูกกวาดตกกระป๋อง กับ บอยด์ โกสิยพงษ์ - Rhythm & Boyd (พ.ศ. ๒๕๓๘) ความผูกพัน ๑๒ ปี
(http://img210.imageshack.us/img210/9575/cdocumentsandsettingssu.jpg)

หลังจากอยู่ใต้ร่มเงาของกระแสเพลงหลักจากแกรมมี่และอาร์เอสมานาน วันหนึ่งผมได้มีโอกาสฟังเพลงอย่าง "เจ้าหญิง", "รักคุณเข้าแล้ว", "ลมหายใจ" จากอัลบั้ม Rhythm & Boyd ในรถของเพื่อนตอนชวนกันหนีโรงเรียน มันเป็นความรู้สึกที่ทึ่งมากว่าเดี๋ยวนี้ (ตอนนั้น) คนไทยทำไมทำเพลงได้ดีขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของดนตรี การเขียนเนื้อร้อง และวิธีการร้องที่แปลกใหม่และแสนจะแตกต่างจากเพลงป๊อปจากสองค่ายใหญ่ที่เคยฟังมานาน พร้อมกับช่วงนั้นมีกระแสการแอนตี้เพลงป๊อป จนมีวลีติดปากกันว่า "I don't like POP music" (ซึ่งน่าจะมีต้นกำเนิดมาจาก เดี่ยว ไมโครโฟน ของโน๊ต อุดม) ผมจึงหยุดการติดตามเพลงป๊อปไทยและหันมาฟังผลผลิตจากค่ายนี้อย่างเป็นล่ำเป็นสัน ไม่ว่าจะเป็นชุดต่อมาอย่าง "Simplefied" และงานอื่นๆในเครื่อเบเกอรี่ อย่าง "Pause", โยคี เพลย์บอย ด้วยความแตกต่างทางแนวดนตรีจากกระแสหลักที่มีแนวอื่นๆปนเข้ามาอย่าง ฮิพฮอฟ, ฟังก์, ดิสโก้, เร๊กเก๊, สกา และมีรายละเอียดของดนตรีมากกว่าเพลงป๊อปทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการใช้เครื่องเป่า เครื่องสาย เสียงสังเคราะห์ต่างๆ ซึ่งผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้แหละที่เป็นแนวคิดของซาวน์ดนตรีที่ฮิตกันในเวลาต่อมา ซึ่งขอให้คำจำกัดความเองว่า "ซาวน์แบบประกวดวงดนตรีมหาลัย"  ซึ่งจะกล่าวต่อไปภายหลัง

 

4. สถาปนา "ร็อค แอนด์ โรล" กับ โลโซ - Losociety (พ.ศ. ๒๕๓๙) ความผูกพัน ๑๒ ปี
(http://img102.imageshack.us/img102/9575/cdocumentsandsettingssu.jpg)

ช่วงที่ผมอยู่ม. ต้นนั้น สื่อวิทยุยังเป็นสื่อที่แข็งแรงมาก ข่าวสารต่างๆจะผ่านทางผู้รับได้รวดเร็ว เพราะยุคนั้นคนยังฟังวิทยุกันมาก วันหนึ่งขณะที่ผมนั่งฟังวิทยุอยู่เพลินๆนั้น ดีเจก็ได้เปิดเพลงที่เปลี่ยนเพลงวิธีการฟังเพลงผมอีกครั้ง เพลงนั้นคือเพลง "ไม่ต้องห่วงฉัน" ของวงร็อคชื่อแปลกๆอย่าง "โลโซ" ด้วยกีตาร์โปร่งกับเสียงร้องและการเอื้อนที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้เพลงนี้ติดหูตั้งแต่ครั้งแรกที่ฟัง ทันทีที่ฟังจบผมถึงกับต้องรีบตามหาเจ้าของเพลงที่ว่าโดยเร็ว แต่กระนั้นก็เหมือนจะไม่มีใครรู้จักเพลงนี้เลย เพียงแต่พอจะจำได้รางๆว่าศิลปินชื่อ "โซๆ โลๆ" อะไรแบบนี้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกครับ เพราะตอนที่โลโซปล่อยอัลบั้มและซิงเกิ้ลนี้ออกมามันไม่มีการโปรโมตทางสื่อโทรทัศน์และสิ่งพิมพ์ทั่วไปเลย จนกระทั่งมันได้รับความสนใจมีคนพูดถึงในวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ ทางต้นสังกัดจึงเริ่มปล่อยมิวสิควิดีโอ และมีคอนเสิร์ตทางโทรทัศน์เพื่อสนับสนุนอัลบั้มและก็ได้การตอบรับอย่างดีมากในยุคนั้น และขายดิบขายดีจนต้อง "เพิ่มเพลง เปลี่ยนปกใหม่ เพื่อขอบคุณแฟนเพลง" โดยสมัยนั้นถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติหากมียอดจำหน่ายครบ 1 ล้านตลับ และเนื่องจากยุคนั้นยังไม่มีเทปผี ซีดีเถื่อน และอินเตอร์เน็ตก็ไม่ได้แพร่หลายให้โหลดหรือบิท อย่างทุกวันนี้ ถ้าอยากฟังคุณต้องหาอัดเอาตามคลื่นวิทยุ, ยืมเพื่อน หรือ "ซื้อเอง" ซึ่งผมเลือกที่จะซื้ออัลบั้มชุดนี้มาฟัง ทำให้ผมต้องทนฟังเพลงร็อคจะๆเป็นครั้งแรก (ไม่ฟังก็จะเสียดายตังค์ อุตสาห์ซื้อมาทั้งที) จากอัลบั้มนี้นอกจากจะทำให้เริ่มชอบเพลงร็อค ยังเป็นแรงบันดาลใจให้หัดเล่นกีตาร์และเริ่มตั้งวงดนตรีกับเพื่อนที่โรงเรียนอีกด้วยพร้อมกับต่อยอดไปฟังวงร็อคอื่นๆอย่าง หิน เหล็ก ไฟ, ดิ โอฬาร โปรเจค, คาราบาว จนไปถึงยุคอัลเทเนทีฟ อย่าง Nirvana, Red Hot Chilli Pepers และของไทยอย่าง แบล็คเฮด (วงที่ผมชอบมากที่สุดในตอนนั้น), โมเดิร์น ด๊อกและวงร็อคหัวก้าวหน้าสุดๆในยุคนั้นอย่าง ซิลลี่ ฟูลส์

ผูกพันกับอัลบั้มนี้แค่ไหน เอาเป็นว่าวันสุดท้ายของชีวิตการเรียนมัธยมนั้น ไม่มีเพลงไหนจะเพราะไปกว่า "เราและนาย" อีกแล้ว
 


5. เสียเอกราช ฝรั่งครองใจ กับ ดิ อิเกิ้ล - Hell Freezes Over (พ.ศ. ๒๕๓๗) ความผูกพัน ๑๒ ปี
(http://img116.imageshack.us/img116/9575/cdocumentsandsettingssu.jpg)

หลังจากวงร็อคระดับตำนานวงนี้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งหลังแยกย้ายไปสิบกว่าปี พวกเขาได้ทำการบันทึกคอนเสิร์ตในการรวมตัวครั้งนี้ไว้ตั้งแต่ปี 2537 แต่กว่าผมจะได้ฟังและชมคอนเสิร์ตนี้ก็ราวๆปี 2540 จากการที่โทรทัศน์ช่องหนึ่งเอาภาพคอนเสิร์ตของพวกเขามาฉาย เพลงเปิดตัวอย่าง "Hotel California" ในแบบอคูสติก ติดตาตรึงใจผมมานับตั้งแต่นั้น จนต้องไปซื้อเทปบันทึกการแสดงสดชุดนี้มาไว้ในครอบครอง เท่านั้นยังไม่พอ ยังกัดฟันเก็บเงินซื้อวิดีโอในงานเดียวกันนี้มาเก็บไว้ด้วย ด้วยความคลั่งไคล้ในอัลบั้มนี้นอกจากจะฟังเทปชุดนี้จนยานไปแล้วเอาไปแช่ตู้เย็นไม่ต่ำกว่าสามรอบ ยังขวนขวายเอาวีดีโอม้วนนี้ไปดูบ้านเพื่อน เพราะที่บ้านไม่มีเครื่องเล่นวีดีโอ จากนั้นยังทำให้คนที่ภาษาอังกฤษห่วยแตกอย่างผม ไปไล่ถ่ายเอกสารหนังสือเนื้อเพลงแล้วไล่แปลเพลงเนื้อเพลงที่อยู่ในอัลบั้มนี้แบบงูๆปลาๆ เพราะอยากรู้เนื้อหาของเพลง ที่สำคัญความประทับใจในเสียงร้องและความเท่ของมือเบสของวงที่ชื่อ "Timothy B. Schmit" ในเพลงบัลลาดซึ้งอย่าง "I can't tell you why" และ "Love will keep us alives" ทำให้ผมหัดไปเล่นเบสแบบมั่วๆอยู่นานเลยทีเดียว เมื่อภาษาอังกฤษพอจะติดหูบ้าง จึงเริ่มกระแดะหาเพลงคลาสสิคร็อคของฝรั่งอย่าง Scorpion, Deep Purple, Metallica, UFO, Gun N' Roses, Bon Jovi และ Santana มาฟังอย่างเป็นล่ำเป็นสัน

ซึ่งเป็นธรรมดาสำหรับคนที่เริ่มชอบเพลงเฮฟวี่ เมทัลใหม่ๆจะหลงไหลการร้องเพลงแบบเสียงสูงๆ กีตาร์โซโล่แบบเร็วๆ และการตีกลองกระเดื่องคู่ เพราะฉะนั้นในช่วงนี้จึงเกิด "อีโก้" ขึ้นภายในตัวขึ้นมาโดยอัตโนมัติว่า "เพลงที่ดีคือเพลงที่เสียงร้องสูงๆ ดนตรีต้องหนักๆ กีตาร์ต้องเล่นให้ไวที่สุด กลองต้องสองกระเดื่อง" ซึ่งเป็นความคิดที่บ้องตื้นมากๆ

 

6. ดนตรีวิวัฒน์ กับ ดรีม เธียเตอร์ - Images & Words (พ.ศ. ๒๕๓๕) ความผูกพัน ๙ ปี
(http://img111.imageshack.us/img111/9575/cdocumentsandsettingssu.jpg)

หลังจากคลั่งไคล้เพลงเฮฟวี่ เมทัลและกีตาร์ฮีโร่มาพักใหญ่ จึงเกิดความเบื่อหน่าย เลยหันมาฟังคลาสิคร็อคแบบพอเพียง ประกอบกับช่วงนั้นเองเป็นช่วงที่เรียนมหาลัยพอดี ซึ่งจะมีงานประกวดวงดนตรีมหาลัยบ่อยๆ ผมก็เป็นคนนึงที่ชอบไปดูเค้าประกวดวงดนตรีกัน ซึ่งในยุคนั้นวงที่ประกวดนิยมเล่นเพลงแบบ ป๊อปผสมแจ๊ส (ถ้านึกไม่ออกให้นึกถึงเพลงแบบวง ETC, HUM, Vacation, Armchair) ที่เล่นเครื่องดนตรีกันหลายๆชิ้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเป่า, เครื่องสาย, คีย์บอร์ด และเพลงแนวแบบนี้มันฮิตมากในการประกวด จนผมตั้งนิยามให้มันว่า "ซาวน์แบบประกวดวงดนตรีมหาลัย" (ก่อนมาทราบทีหลังว่าเป็นที่นิยม เพราะแนวนี้สาวๆกรี๊ดครับ โธ่เอ้ย...เราก็นึกว่าอุดมการณ์)

สิ่งที่ผมได้เก็บเกี่ยวจากการดูการประกวดวงดนตรีก็คือ เครื่องดนตรีที่น่าสนใจมันมีมากกว่ากีตาร์ และการเล่นในแนว "ซาวน์แบบประกวดวงดนตรีมหาลัย" นั้นมันแสดงให้เห็นว่าไม่ว่าเครื่องดนตรีชนิดใด คุณก็สามารถโซโล่และโดดเด่นบนเวทีได้ และเครื่องดนตรีที่เข้าใจว่าเป็นพระรองมาตลอดอย่าง "เบส" ,"คีย์บอร์ด" และ "เครื่องเป่า" นั้น มีเสน่ห์มากกว่ากีตาร์เสียอีกหากคุณเล่น "เก่ง" จริงๆ  ทำให้ผมรู้สึกว่านักดนตรีไทยก็เก่งไม่แพ้ใคร ช่วงนี้ผมก็เลยกลับมาสนใจวงการเพลงไทยอีกครั้ง แต่ก็จะเป็นพวกวงนอกกระแสและพวกที่เล่น "ซาวน์แบบประกวดวงดนตรีมหาลัย" ซะส่วนใหญ่ และเริ่มสนใจฟังเสียเครื่องดนตรีอื่นนอกจากเสียงกีตาร์

แล้วมันเกี่ยวอะไรกับ Dream Theater ชุด Images & Words น่ะเหรอ ก็ระหว่างที่ซึมซับและเริ่มทำความรู้จักเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นรวมทั้งเสน่ห์ของมันการประกวดดนตรีมหาลัย มีอยู่วันนึงผมได้รับคำเทียบเชิญจากเพื่อนให้ไปดู "เดอะซัน" ที่มาทัวร์คอนเสิร์ตที่เชียงใหม่ในช่วงปี 2543  ซึงไปรอตั้งแต่บ่ายสองแต่กว่าวงจะขึ้นก็ล่อไปหกโมง ระหว่างที่รอก็จะมีวงเปิดมาเล่นไปเรื่อยๆ จนผมมาสะดุดกับวงนึงที่เล่นเพลง "Metropolis Part 1" ของดรีม เธียเตอร์ ซึ่งยอมรับเลยว่าเกิดมาเพิ่งเคยฟังเพลงที่เล่นได้ซับซ้อนขนาดนี้ เครื่องดนตรีทุกชิ้นไม่มีใครยอมใคร ไหนระหว่างเพลงจะมีการเล่นแบบเร็ว ช้า ผ่อนหนักผ่อนเบาสลับไปมาตลอดเวลา ระหว่างดูถึงกับสบถออกมาประมาณว่า "มันเล่นได้ไงวะ มั่วรึเปล่าเนี่ย" จนคนข้างๆเห็นใจในความไร้เดียงสาเลยแนะนำว่า มันเป็นเพลงของวงดรีม เธียเตอร์ แถมอวยให้อีกว่าเล่นเหมือนในซีดีเปะๆเลย เพราะติดใจจากเหตุการณ์วันนั้นทำให้ผมต้องไปหาผลงานของวงนี้มาฟังอย่างเป็นจริงเป็นจัง ซึ่งเอาเข้าจริงมันหายากมากๆ ด้วยความที่อยู่ต่างจังหวัดและไม่ประสีประสาเรื่องการหาซื้อแผ่นเท่าทุกวันนี้ จึงต้องพึ่งพาเทปผี ดีวีดีเถื่อนกับ MP3 ดรีม เธียเตอร์จึงเป็นวงดนตรีวงแรกที่ทำให้ผมต้องทำผิดกฎหมายลิขสิทธิ์นะนี่

ความประทับใจในอัลบั้มนี้ก็คงจะเหมือนหลายๆคนที่ชอบดรีม เธียเตอร์ คือ ดนตรีซับซ้อนแต่สวยงาม เครื่องดนตรีโดดเด่นทุกชิ้น ที่สำคัญเพลงยังติดหูง่ายไม่ต้องปีนบันไดฟัง ที่สำคัญเพราะชอบวงนี้มากๆทำให้ผมสนใจในอิทธิพลและแรงบันดาลใจในการทำเพลงของวง ในจุดนี้เองทำให้ผมได้มารู้จักเพลงอีกแนวหนึ่งที่เรียกว่า "Progressive rock" จึงได้มีโอกาสรู้จักวงดนตรีที่ต้องบอกว่าไปอยู่ไหนมาถึงเพิ่งเคยฟังอย่าง "Pink floyd", "Yes", "King Crimson", "ELP" และ "Rush" ซึ่งถือเป็นแนวเพลงที่ดรีม เธียเตอร์ยึดเป็นแนวทางมาตลอด และต่อยอดจากฮีโร่ตลอดกาลของพวกเขาอย่าง "Led Zeppelin", "The Beatles" ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญอีกครั้งในการฟังเพลงเพราะมีแต่วงขึ้นหิ้งทั้งนั้น จนตัวเองก็แปลกใจว่าชอบฟังเพลงแต่ตกหล่นวงแบบนี้ไปได้อย่างไรกัน

การรู้จักกับดรีม เธียเตอร์ของผมนั้นจัดว่าถูกที่ถูกเวลาครับ เพราะถ้าผมยังบ้ากีตาร์ฮีโร่เหมือนเพื่อนร่วมรุ่น คงไม่ประทับใจดรีม เธียเตอร์ที่เล่นกันเป็นทีมมากกว่าจะเน้นไปที่กีตาร์แน่ๆ

 

7. โลกเป็นสีฟ้า หลงรักสำเนียงบูลส์ กับ ครีม - Royal Albert Hall London May 2-3-5-6 2005 (พ.ศ. ๒๕๔๘) ความผูกพัน ๔ ปี
(http://img116.imageshack.us/img116/9677/cdocumentsandsettingssuk.jpg)

จริงๆเพลงบูลส์นั้นผมเคยฟังมานานแล้วตั้งแต่เริ่มสนใจเพลงฝรั่ง แต่เป็นเพราะมันยังไม่ถึงเวลาของผมหรือก็ไม่ทราบได้ เพราะผมไม่เคยรู้สึกชอบมันเลย จนระหว่างเรียนมหาลัยก็มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าที่เชียงใหม่มีร้านที่เล่นบูลส์สดได้เด็ดสะระตี่เสียเหลือเกิน ก็เลยต้องย่องไปดูเสียหน่อย

แต่เอาเข้าจริงๆกว่าผมจะเก็ทที่ทางร้านเล่นก็ปาไปสองสามครั้ง แต่มันก็ทำให้ช่วงนั้นผมเริ่มสนใจแนวบูลส์ขึ้นมาเรื่อยๆ ส่วนทางร้านเองชอบเล่นเพลง "Crossroad", "Sunshine of your love" และ "White room" จนผมจำได้ เมื่อต้องการจะหางานบูลส์สักชุดมาฟัง มันก็ไม่ต้องคิดมากก็แค่หาอัลบั้มที่มีเพลง 3 เพลงนี้ในอัลบั้ม แล้วก็โชคดีอีกครั้งที่อัลบั้มนี้มันเป็นบูลส์ที่รสหวานรับประทานง่าย เนื่องจากเป็นงานที่สมาชิกแต่ละคนเริ่มชราภาพกันหมดแล้ว (ฮา) เพราะฉะนั้นการอิมโพรไวส์แบบสุดลิ่มทิ่มรูหูจึงค่อยมีในชุดนี้ จึงทำให้คนที่เริ่มสนใจชอบและพอจะทำความเข้าใจคำว่าบูลส์ได้ไม่ยากนัก เพียงเวลาไม่นานผมก็เริ่มซึมซับสำเนียงบูลส์มากขึ้นเรื่อยๆแล้วขวนขวายไปหางานของศิลปินอื่นๆไม่ว่าจะเป็น Eric Clapton, Stevie Ray Vaughan, Gary Moore รวมไปถึง Jimi Hendrix และแม้กระทั่งรุ่นใหม่อย่าง John Mayers ในเวลาต่อมา

ด้วยอาณิสงค์ของความชื่นชอบสำเนียงบูลส์ ทำให้ผมสามารถนั่งฟังเพลงที่ร้านโปรดที่แจมดนตรีบูลส์กันได้เป็นชั่วโมง แต่เพื่อนที่ไม่ชอบการแจมตอนนี้มันไม่เอาด้วยแล้วครับ

 

8. ลองของและแสวงหา กับ แพท เมทินี - Speaking of now (พ.ศ. ๒๕๔๕) ความผูกพัน ๓ ปี
(http://img39.imageshack.us/img39/8040/cdocumentsandsettingssuf.jpg)

หลังจากฟังโปรเกรสซีฟร็อคกับบูลส์มาพักใหญ่ๆ ก็นึกว่าตัวเองเจ๋งเข้าขั้น ก็เลยอยากจะลองหาเพลงแนวอื่นๆมาฟังบ้าง ก็เลยอาศัยอินเทอร์เนต ควานหางานเพลงในแนวอื่นๆที่ต่างออกไป ซึ่งเป้าหมายในครั้งนี้ก็คือ "แจ๊ซ" ไม่รู้ว่าเป็นความซวยหรือบุญพาวาสนาส่ง ช่วงนั้น "แพท เมทินี" กำลังจะมาเปิดคอนเสิร์ตในเมืองไทยช่วงปี 2549 ตอนที่เสิร์ชในเวปผลออกมาจึงมีข่าวของ "แพท" เต็มไปหมด ผมจึงเข้าใจไปเองว่า "แพท" คือศิลปินแจ๊สที่เป็นที่นิยม (ปล. เคยเสิร์ชจนได้ไปอ่านรีวิวคอนเสิร์ตนี้ในพันทิพของน้องบาสด้วยครับ) จึงตัดสินใจไปหางานของเขาที่ร้านขายซีดี แล้วก็พบ "Speaking of Now live" เพียงแผ่นเดียวอยู่บนแผง ก็เลยจัดการสอยมาเพื่อลิ้มลองดนตรีแจ๊ซ

เพียงแค่จบแทร็คแรกอย่าง "Last train home" ได้ไม่กี่สิบวินาทีผมก็ต้องรีบลุกไปปิดเครื่องเล่นโดยด่วนเพราะแทร็คต่อไปอย่าง "Go get it" นั่นเกินที่ผมจะรับได้จริงๆ และผมก็โยนงานของเขาทิ้งไว้ในส่วนลึกสุดของชั้นเก็บซีดีของผม

จริงๆการเริ่มฟังแจ๊ซนั้นๆ ผู้เริ่มต้นควรจะไปเริ่มมาจากทางป๊อปแจ๊ซหรืองานแจ๊ซที่ฟังง่ายๆมาก่อนเพื่อทำการปรับให้เข้ากับตัวตนของแจ๊ซเสียก่อน น่าจะเป็นการดีกว่าเจอแจ๊ซแบบ "ปล่อยของ" หมดแบบนี้ แต่สำหรับคนที่หลุดเข้ามาอยู่ในช่วงลองของและแสวงหาสิ่งใหม่ๆอย่างผม มันกลับเป็นความท้าทายที่อยากจะลองดูอีกสักตั้งกับเพลงที่ใครๆบอกกันว่าฟังยากเย็นเหลือเกิน หลังจากทำใจได้แล้วจึงกลับไปเอางานชุดนี้มาฟังอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกหลายๆครั้ง จนกลายเป็นหนึ่งในงานที่ชอบมากๆของแพทไปแล้ว

ไม่นานนักผมก็ได้ทราบว่างานแบบนี้เรียกขานกันว่า "ฟิวชั่น แจ๊ซ" ซึ่งผมก็ได้ต่อยอดจากงานชุดนี้ไปฟังงานของแพทอีกหลายชุด รวมทั้งต่อยอดไปฟังวงระดับตำนานอย่าง "Weather Report", "Return to Forever" และศิลปินแจ๊สอื่นๆอย่าง "Miles Davis", "John Mclaughlin", "Al Dimeola" ในเวลาต่อมา

 

         การเดินทางยังไม่สิ้นสุด ตัวผมเองก็ยังลองของและแสวงหาเพลงใหม่ๆมาฟังอยู่เรื่อยๆ แต่ถ้าไม่มีศิลปินและอัลบั้มดังที่กล่าวมา ทุกวันนี้ก็ไม่รู้ว่าทิศทางในการฟังเพลงของผมจะออกมาในรูปแบบใด ดังนั้นอัลบั้มและศิลปินเหล่านี้คือสิ่งที่ที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของผม


สถานีต่อไป "เพลงคลาสสิค" ดีไหมหนอ...  ::)


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: อินยูเทโร ที่ 07 กรกฎาคม 2009 | 09:06:14 PM
   เดี๋ยวค่อยมาต่อวันหลังนะครับ เอาคร่าวๆ อิอิ

 1. Blood Sugar Sex Magik - Red Hot Chili Peppers

(http://persimusic.files.wordpress.com/2008/12/blood-sugar-sex-magik2.jpg)


 2. Nevermind - Nirvana

(http://m.blog.hu/ha/halfpecssquad/image/Nirvana_-_Nevermind.jpg)

 3. In Utero - Nirvana

(http://www.revolholic.com/kiri/In-Utero.jpg)

 4. Appetite for Destruction - Guns n' Roses

(http://uenomurakami.files.wordpress.com/2009/03/gnr-appetite-for-destruction-album-cover.jpg)

 6. Use Your Illusion I&II - Guns n' Roses

(http://www.student-weekly.com/150908/150908_stw07.jpg)

 7. The Wall - Pink Floyd

(http://www.themusicinmylife.com/images/pink-floyd-the-wall.jpg)

 8. Dangerous - Michael Jackson

(http://2.bp.blogspot.com/_Rr6AF-ActOw/SKKxjM_lwsI/AAAAAAAAAjg/ch5YBUzrilg/s320/michael_jackson_dangerous-f.jpg)

 9. Night Waltz - Keiko Matsui

(http://www.keikomatsui.com/cdcovers/nightwaltz.jpg)

 10. X&Y - Coldplay 

(http://www.music.usb.co.il/images/X&Y.jpg)
 


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน แ
เริ่มหัวข้อโดย: ไอแอมตองสาม ที่ 08 กรกฎาคม 2009 | 09:52:58 AM
1.The Beatles - Help!
2. Pink Floyd - Dark Side Of The Moon
3. Eric Clapton - Unplugged
4. John Mayer - Continuum
5. Simon & Garfunkel - Bridge Over Troubled Water
6. Stevie Ray Vaughan - Texas Flood
7. Dire Straits - Brother In Arms
8. Coldplay - Viva La Vida
9. Michael Jackson - Thriller
10. Boston - Boston

 ;D


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: TRON ที่ 08 กรกฎาคม 2009 | 10:05:26 AM
1.The Beatles - Help!
2. Pink Floyd - Dark Side Of The Moon
3. Eric Clapton - Unplugged
4. John Mayer - Continuum
5. Simon & Garfunkel - Bridge Over Troubled Water
6. Michael Jackson - Thriller
7. Dire Straits - Brother In Arms
8. Coldplay - Viva La Vida
9. Michael Jackson - Thriller
10. Boston - Boston

 ;D

6. Michael Jackson - Thriller
9. Michael Jackson - Thriller

ซ้ำกันครับ  :D


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: kongbei ที่ 12 กรกฎาคม 2009 | 08:13:48 PM
1.The Beatles - Help!
2. Pink Floyd - Dark Side Of The Moon
3. Eric Clapton - Unplugged
4. John Mayer - Continuum
5. Simon & Garfunkel - Bridge Over Troubled Water
6. Michael Jackson - Thriller
7. Dire Straits - Brother In Arms
8. Coldplay - Viva La Vida
9. Michael Jackson - Thriller
10. Boston - Boston

 ;D

6. Michael Jackson - Thriller
9. Michael Jackson - Thriller

ซ้ำกันครับ  :D

อันที่ 2 อาจจะเป็นเวอร์ชั่นฉลองครบ 25 ปี 55


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: ShadowServant ที่ 16 กรกฎาคม 2009 | 04:35:07 AM
ป๊าดดด...หัวข้อนี้ทำเอาคนขี้ลืมอย่าผมคิดหัวแทบแตกเลยว่าฟังเพลงพวกนี้มาตอนไหน T-T
พักหลัง ๆ เริ่มปลื้มเพลงที่ไม่ค่อยผูกพันมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยสิ (เปลี่ยนกิ๊กบ่อยสินะ ฮึ่ม !)

ยิ่งให้จำนวนปีแทนนี้ยิ่งจัดลำบากแฮะ
เพลงที่ผมฟังมาแต่เด็ก ๆ จะเป็นเพลงคันทรี่ แล้วส่วนใหญ่ก็รวมฮิตเสียด้วยสิ ผิดกฏเข้าไปใหญ่

เอาอัลบั้มที่ผมเป็นแฟนมันจริง ๆ ไม่ใช่กิ๊กเนี่ย...น่าจะมี...

ตัดออก Hank Williams กับ John Denver (และคันทรี่อื่น ๆ) ตอนนั้นเด็กเกินไปจำความแทบไม่ได้


1.) The Eagles - Hell Freeze Over (10 ปี)
อาจเหมือนวัยรุ่นอีกหลาย ๆ คนที่เริ่มฟัง The Eagles จากอัลบั้มนี้ (แล้วบางคนก็เบือนหน้าว่าเพลงคนแก่ :P) แต่ผมกลับฟังแล้วกลับรู้สึกถึงเสน่ห์บางอย่างของมัน

2.) Oasis - (What's the Story) Morning Glory? (10 หรือเกือบ 10 ปีที่แล้ว)
เท่าที่จำความได้ตอนนั้นยังกระโปรงบานขาสั้นแล้วไอ่เพลงจิ๊กโก๋ ๆ พวกนี้มันมาจากไหนไม่รู้มากระชากใจวัยสะรุ่นคนนี้ไป และที่ปลื้มสุด ๆ คือไอ่เพลง Champagne Supernova ที่ในตอนนั้นเคลิ้มกับมันเอาเป็นเอาตาย

3.) Pink Floyd - The Wall (7 ปี)
จริง ๆ ผมเริ่มฟัง Pink Floyd เกือบจะพร้อมกัน ทุกอัลบั้ม และเท่าที่จำได้ช่วงราว ๆ 7 ปี ที่แล้วนี่แหละที่ผมเริ่มแสวงหาอะไรในดนตรีอย่างจริงจัง (ตอนนี้ผมก็ยังวัยรุ่น และยังแสวงหาอยู่นะ ฮ่า ๆ) อัลบั้มแรกที่ผมได้ฟังคือ Wish You Were Here จริง ๆ ประทับใจมากด้วย แต่ที่พูดถึง Pink Floyd แล้วจะนึกถึงก่อนอย่างอื่นทุกครั้งคือ The Wall รอยจารึกของวัยรุ่นหัวใจแปลกแยก (โดยไม่ได้อยากให้เป็น) ทุกคน

4.) มาโนช พุฒตาล - ในทัศนะของข้าพเจ้า (ราว ๆ 6-7 ปี)
เพื่อนคนเดียวกับที่แนะนำพิงค์ ฟลอยด์ พูดถึงคน ๆ นี้ ผมเลยแฮบอัลบั้มนี้มันมาซะเลย (ก่อนจะซื้อของตัวเองทีหลัง ฮ่า ๆ) ยังคงเป็นอัลบั้มเพลงไทยที่ได้ยินชื่อทีไรก็ยังกล้า Two Thumb up! ให้กับมัน

5.) David Bowie - Ziggy Stardust and the Spider from Mars (ุ6 ปี)
จำได้ว่า.....ตอนนั้นอกหักครับ (อ้าว เฮ้ย!)  :o
.
.
แล้วหนุ่มไบผู้มีชีวิตฟุ่งเฟื่องด้านดนตรีมาตั้งแต่ต้น 70's กลับมาเยี่ยวยาหัวใจผมได้ (ด้วยเสียงเพลงนะครับ :P) จริง ๆ ยังมี Space Oddity และ Hunky Dory ที่ชอบด้วย แต่ Ziggy Stardust นี้ตราตรึงที่สุดแล้วล่ะ

Time take cigarette and put it into your mouth
and another finger and another finger and cigarette
Wall to wall is calling and linger...and you forget wovvvv vov..vwov
You're Rock 'n' Roll Suicide

(เนื้อเพิมพ์เอาตามความทรงจำที่มีครับ แฮ่ ๆ)

ึ6.) King Crimson - Red (5 ปี)
เชื่อไหม...แม้จนบัดนี้ผมก็ยังคิดว่า Starless เป็นเพลงที่ดีที่สุดเท่าที่ชีวิตนี้จะได้ฟังมา เพลงอื่น ๆ ในอัลบั้มนี้ก้มีแต่ชอบน้อยหน่อย กับชอบโคตร ๆ ไม่มี "เฉย ๆ" เลยครับ

ุ7.) Dream Theater - Train of Thought (4 ปี)
จำได้ว่าชีวิตช่วงนั้นโซซัดโซเซพอสมควร แล้วก็ต้องรับผิดชอบอะไรเยอะมาก และนี่ก็ไม่ใช่อัลบั้มแรกของ DT ที่ได้ฟังเสียด้วย แต่ผมกลับรู้สึกว่าพอฟังไอ่อัลบั้มนี้แล้วมันซู่ซ่าซาบซ่าน หลายเพลงยังตราตรึงมาจนถึงตอนนี้ (ว่าแล้วไปเปิด Endless Sacrifice หรือ Stream of Consciousness ดี ไม่เอาน่าแค่ As I am ดีกว่า)

8.) Porcupine Tree - In absentia (2 ปี)
ขอบคุณเครื่องเล่น mp3 ที่ทำให้ผมเอาอัลบั้มนี้คิดตัวไปฟังได้ตลอด ไม่ว่าจะอยู่หนใด เคยต้องจมอยู่กับบ้านด้วยเหตุผลบางอย่าง แล้วพอริฟฟ์แรกที่กระหน่ำลงมาเกือบจะพร้อม ๆ กับกลองในเพลง Blackest Eyes ก็เหมือนได้ให้กำเนิดเกิดใหม่ชีวิตชีวาและบีบเค้นเอาดาร์ดฟอร์ซ ออกจากหัวใจได้เด็ดคราบ!

9.) Anekdoten - Vemod (1 ปีกว่า ๆ)
ผู้สืบทอดทางจิตวิญญาณ (เขาเรียกกันอย่างงี้อ่ะ) ของ King Crimson ที่ผมคาดว่าคงยังคบกับเจ้านี่ไปอีกนานเลยล่ะ

10.) Orikasa Fumiko - Flower (3/4 ปี - อ่านว่าเศษสามส่วนสี่ปี)
คนเราคบกันระยะเวลาอาจไม่สำคัญ -*- ก็คนมันรักน่ะ ยังไม่ถึงปีเลยแต่ก็ยังคงเดทกับเพลงแก -*-
จากที่เดททุกวันก็อาจลดลงบ้าง เจอกันวันเว้นวัน กลายเป็นอาทิตย์เว้นอาทิตย์ -*-
แต่เวลาที่อยาก (ฟั____ง ฟัง ครับ ฟัง) ก็ยังงัดมาใส่เพลย์ลิสท์เป็นเพลง ๆ ไป

อัลบั้มนี้อาจเจอกันไม่นานแต่ความประทับใจรู้สึกอย่างกับเจอเพื่อนในวัยเด็ก (สายพลังแบบการ์ตูนฮาเร็มเหรอ!?!?!?!?) ที่ไม่ได้เจอกันมานาน ความสดใสวัยเยาว์ยังคงรู้สึกได้เพราะดนตรีและเสียงร้องของ Orikasa Fumiko เหมือนผู้ใหญ่ที่แม้จะมีวุฒิภาวะ แต่ก็ยังไม่ทิ้งความเยาว์วัย แถมบางแทรกยังได้อารมณ์แบบนอสตัลเจีย หวลหาอดีต แต่ก็มีความสุขกับปัจจุบันได้

(แอบเขิลลลแฮะ เขียนอะไรลงไปเนี่ย)


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: Fog ที่ 16 กรกฎาคม 2009 | 06:54:51 AM
1. Jamiroquai - Travelling Without Moving (3 ปีก่อน) [จริงๆชอบทุกชุดละครับ]
2. Richard Marx - Ballads (10+ Years)
3. John Zorn - Alhambra Love Songs (ไม่กี่อาทิตย์นี้เอง)
4. David Sylvian - Dead Bees on a Cake (3 Years)
5. ไทร อำนาจ ศิระวงษ์ธรรม - มหรสพชีวิต (ประมาณปีก่อน)
6. Pain of Salvation - Scarsick (สองปีก่อน)
7. Coldplay - A Rush of Blood to the Head (6 Years)
8. John Coltrane - A Love Supreme (3 Years)
9. The Flower Kings - Paradox Hotel (2 Years)
10. Prince - 3121 (3 Years)

อัลบั้มที่ถูกตัดออก
Dream Theater - Scenes from a Memory ฟังจนเบื่อละ อีกอย่างคือผมชอบซาวด์กีต้าร์ดุๆแบบชุดหลังๆมากกว่าด้วย
Coldplay - Viva La Vida เหตุผลสั้นๆ เพลงดีเกินไป
Psyopus - Our Puzzling Encounters Considered เหตุผลง่ายๆ ไม่มีที่ว่างพอให้ใส่นั่นเอง จริงๆงานชุดนี้เป็นหนึ่งในงานที่ฟังบ่อยมากอีกหนึ่งชุด
Muse - Absolution, Black Holes & Revelations เหตุผลเดียวกับ Psyopus นั่นละ


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: Bluesman ที่ 16 กรกฎาคม 2009 | 09:37:09 AM
Pink Floyd - The Dark Side of The Moon


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: Analog Kid ที่ 16 กรกฎาคม 2009 | 09:51:26 AM
ขอค่อยๆตอบไปนะครับ

1. The Wall - Pink Floyd
  - อัลบั้มที่ทำให้ผมเป็นคนอย่างที่ผมเป็นจนถึงทุกวันนี้ ประมาณ "the album that changed your life"  ฟังครั้งแรกตอนอยู่ ม. 2
และเป็นอัลบั้มที่ผมฟังมากที่สุดในชิวิต น่าจะเกิน 500 ครั้งแล้วมั้ง ตอนนี้ไม่ค่อยได้ฟังแล้ว

2.  Seconds Out - Genesis
  - เป็นอีกอัลบั้มที่ฟังได้นานที่สุด ตั้งแต่ฟังครั้งแรก ประมาณ 20 กว่าปีที่แล้ว ทุกวันนี้ยังเอาเปิดฟังอยู่ ทำให้เริ่มพบว่า ตั้งแต่ฟังดนตรี Prog มาเกือบ 30 ปี อาจจะเป็นวงนี้แล้วมั้งที่ผมชอมมากที่สุด

เดี๋ยวมาต่อ


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: deja vu ที่ 16 กรกฎาคม 2009 | 11:00:04 AM
10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของ "เ้พชร วิปลาส"

   



         การเดินทางยังไม่สิ้นสุด ตัวผมเองก็ยังลองของและแสวงหาเพลงใหม่ๆมาฟังอยู่เรื่อยๆ แต่ถ้าไม่มีศิลปินและอัลบั้มดังที่กล่าวมา ทุกวันนี้ก็ไม่รู้ว่าทิศทางในการฟังเพลงของผมจะออกมาในรูปแบบใด ดังนั้นอัลบั้มและศิลปินเหล่านี้คือสิ่งที่ที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของผม


สถานีต่อไป "เพลงคลาสสิค" ดีไหมหนอ...  ::)

      อ่านแล้วเพลินดีครับ
      ผมขออนุญาตเดานะครับ ว่าต่อไปคุณเพชร คงเริ่มมาสนใจฟังเพลงคลาสสิค อย่างที่ตั้งใจเอาไว้
      แต่คิดว่าคงชอบไม่มากหรอกครับ เพราะมีปัจจัยหลายอย่างในการฟัง เช่น เวลา สมาธิ เครื่องเสียงที่ฟัง
      แล้วท้ายที่สุดเมื่ออายุมากขึ้น ก็จะหันกลับมาฟังเพลงที่ใช้เครื่องดนตรีน้อยชิ้น ไม่ยุ่งยากซับซ้อน ฟังสบายๆแทน


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: เพชร วิปลาส ที่ 17 กรกฎาคม 2009 | 07:09:45 PM
10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของ "เ้พชร วิปลาส"

   



         การเดินทางยังไม่สิ้นสุด ตัวผมเองก็ยังลองของและแสวงหาเพลงใหม่ๆมาฟังอยู่เรื่อยๆ แต่ถ้าไม่มีศิลปินและอัลบั้มดังที่กล่าวมา ทุกวันนี้ก็ไม่รู้ว่าทิศทางในการฟังเพลงของผมจะออกมาในรูปแบบใด ดังนั้นอัลบั้มและศิลปินเหล่านี้คือสิ่งที่ที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของผม


สถานีต่อไป "เพลงคลาสสิค" ดีไหมหนอ...  ::)

      อ่านแล้วเพลินดีครับ
      ผมขออนุญาตเดานะครับ ว่าต่อไปคุณเพชร คงเริ่มมาสนใจฟังเพลงคลาสสิค อย่างที่ตั้งใจเอาไว้
      แต่คิดว่าคงชอบไม่มากหรอกครับ เพราะมีปัจจัยหลายอย่างในการฟัง เช่น เวลา สมาธิ เครื่องเสียงที่ฟัง
      แล้วท้ายที่สุดเมื่ออายุมากขึ้น ก็จะหันกลับมาฟังเพลงที่ใช้เครื่องดนตรีน้อยชิ้น ไม่ยุ่งยากซับซ้อน ฟังสบายๆแทน

ตอนนี้กำลังงมๆทางอยู่ครับ ไม่รู้จะเริ่มฟังคลาสสิคจากตรงไหน ว่าจะเริ่มจากลุงบราห์มของพี่แจ็ค หรือไม่ก็ลองไปหาเพลงต้นฉบับที่ ELP เอามาเล่นอย่างที่พี่ตั๊มแนะนำลองดูสักหน่อย  จริงๆผมเป็นพวกชอบลองของน่ะครับ เห็นเค้าบอกเพลงอันนั้นดี อันนี้เจ๋งก็พยายามหาเอามาฟัง

แนะนำผมได้นะครับ  :D


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: .. polotoon .. ที่ 17 กรกฎาคม 2009 | 07:19:32 PM
เป็นแนวที่จับต้นชนปลายไม่ถูกเลยจริงๆ ผมลองฟัง Mahler อย่างที่คุณโหน่งแนะนำ ก็ไม่เก็ทเท่าไรเลย สงสัยต้องฟังรวมฮิตเหมือนเคย  :D


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: deja vu ที่ 20 กรกฎาคม 2009 | 08:53:25 AM
10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของ "เ้พชร วิปลาส"

   



         การเดินทางยังไม่สิ้นสุด ตัวผมเองก็ยังลองของและแสวงหาเพลงใหม่ๆมาฟังอยู่เรื่อยๆ แต่ถ้าไม่มีศิลปินและอัลบั้มดังที่กล่าวมา ทุกวันนี้ก็ไม่รู้ว่าทิศทางในการฟังเพลงของผมจะออกมาในรูปแบบใด ดังนั้นอัลบั้มและศิลปินเหล่านี้คือสิ่งที่ที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของผม


สถานีต่อไป "เพลงคลาสสิค" ดีไหมหนอ...  ::)

      อ่านแล้วเพลินดีครับ
      ผมขออนุญาตเดานะครับ ว่าต่อไปคุณเพชร คงเริ่มมาสนใจฟังเพลงคลาสสิค อย่างที่ตั้งใจเอาไว้
      แต่คิดว่าคงชอบไม่มากหรอกครับ เพราะมีปัจจัยหลายอย่างในการฟัง เช่น เวลา สมาธิ เครื่องเสียงที่ฟัง
      แล้วท้ายที่สุดเมื่ออายุมากขึ้น ก็จะหันกลับมาฟังเพลงที่ใช้เครื่องดนตรีน้อยชิ้น ไม่ยุ่งยากซับซ้อน ฟังสบายๆแทน

ตอนนี้กำลังงมๆทางอยู่ครับ ไม่รู้จะเริ่มฟังคลาสสิคจากตรงไหน ว่าจะเริ่มจากลุงบราห์มของพี่แจ็ค หรือไม่ก็ลองไปหาเพลงต้นฉบับที่ ELP เอามาเล่นอย่างที่พี่ตั๊มแนะนำลองดูสักหน่อย  จริงๆผมเป็นพวกชอบลองของน่ะครับ เห็นเค้าบอกเพลงอันนั้นดี อันนี้เจ๋งก็พยายามหาเอามาฟัง

แนะนำผมได้นะครับ  :D
เป็นแนวที่จับต้นชนปลายไม่ถูกเลยจริงๆ ผมลองฟัง Mahler อย่างที่คุณโหน่งแนะนำ ก็ไม่เก็ทเท่าไรเลย สงสัยต้องฟังรวมฮิตเหมือนเคย  :D



   ในความเห็นส่วนตัวนะครับ ควรจะเริ่มฟังเพลงง่ายๆ เริ่มจากอนุบาลก่อน อย่าง มาล์เลอร์ นี่น่าจะอุดมศึกษาแล้วนะครับ
   เริ่มจากรวมฮิตก็ดีนะครับจะได้ฟังได้หลากหลาย และรู้แนวทางของแต่ละคน เพื่อต่อไปจะได้เจาะจงฟังแต่ละคนได้
   สำหรับคนเริ่มต้นอยากจะแนะนำ
          เพลงในยุคโรแมนติค จะฟังง่าย ได้อารมณ์ที่ชัดเจน เช่นเพลงของ โชแปงค์ ดโวรชาค ลิสส์ รัคมานินอฟ
          เพลงประกอบอุปรากร จะคุ้นหูง่าย เช่นเพลงของ วากเนอร์ รอสซินี ปุชชินี
          เพลงสั้นๆ เช่นเพลงเซเรเนด (โดยเฉพาะของชูเบริร์ท)  เพลงของบาคที่แต่งให้เล่นโดยฮาฟซีคอร์ด(เพลงฟัง
                        สบายๆ ทำนองคล้ายๆเพลงสมัยปัจจุบัน แต่บาคแต่งมา 300 ปีแล้วละครับ)

   ไม่ได้เป็นการแนะนำโดยคนที่ชำนาญการฟังเพลงคลาสสิค แต่โดยคนที่เคยฟังคลาสสิคมาก่อนครับ


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: .. polotoon .. ที่ 20 กรกฎาคม 2009 | 09:49:42 AM
คือผมพอจะรู้จักอยู่บ้างเล็กน้อยน่ะครับ จากรวมเพลงทั้งหลาย แต่ปัญหาคือ ไม่รู้จะไปอย่างไรต่อน่ะครับ งานของคีตกวีท่านเดียวกัน ก็ไม่รู้จะเลือกซื้อฉบับไหนของใครดีน่ะครับ  :D


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: panyarak ที่ 20 กรกฎาคม 2009 | 12:56:59 PM
ลองดูเว็ปนี้นะครับ

http://classicalmusic.about.com/od/classicalmusic101/a/intro072104.htm


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: deja vu ที่ 20 กรกฎาคม 2009 | 01:29:48 PM
คือผมพอจะรู้จักอยู่บ้างเล็กน้อยน่ะครับ จากรวมเพลงทั้งหลาย แต่ปัญหาคือ ไม่รู้จะไปอย่างไรต่อน่ะครับ งานของคีตกวีท่านเดียวกัน ก็ไม่รู้จะเลือกซื้อฉบับไหนของใครดีน่ะครับ  :D


    "ไม่รู้จะไปอย่างไรต่อ"   อยู่ที่ว่าเราต้องการจะไปทางไหนด้วยครับ บางคนชอบเพลงร้องก็ไปหาเพลงที่มีเสียงร้องมาฟัง
    ชอบเสียงเปียนโนก็หาเปียนโนคอนแชโต้มาฟัง ชอบโมสาร์ทก็ฟังเฉพาะโมสาร์ท ผมเคยเจาะฟังแบบนี้ สุดท้ายก็ต้องกลับ
    มาฟังแบบครอบจักรวาลดีกว่าได้ความหลากหลายมากกว่า  เพราะเพลงคลาสสิคที่อยู่มาถึงปัจจุบันได้ผ่านการคัดกรอง
    จากคนฟัง คนเล่น และเวลามาแล้ว   ส่วนเรื่องวาทยากรผมเคยลองฟังเปรียบเทียบอยู่ไม่นานแล้วก็เบื่อไปเอง แยกแยะ
    ลำบากมาก น่าจะเหมาะกับพวกนักดนตรี หรือนักวิจาร์ณมากกว่า   (เอาเวลาและเงินที่ต้องเสียไป จากการซื้อเพลงเดียวกัน
    แต่หลายคนเล่น  เก็บไว้ซื้อผลงานอื่นหรือปรับปรุงชุดเครื่องเสียงดีกว่าครับ)
   
    ไม่ถือว่าเป็นการตอบคำถามนะครับ (เพราะคำถามยากเกินกว่าผมจะตอบได้ แต่เป็นการคุยให้ฟังมากกว่า)


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: .. polotoon .. ที่ 20 กรกฎาคม 2009 | 01:52:52 PM
ขอบคุณพี่ๆด้วยครับ รู้สึกง่าย และโล่งใจขึ้นแยะเลยครับ  :D


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: ไอแอมตองสาม ที่ 20 กรกฎาคม 2009 | 02:45:57 PM
1.The Beatles - Help!
2. Pink Floyd - Dark Side Of The Moon
3. Eric Clapton - Unplugged
4. John Mayer - Continuum
5. Simon & Garfunkel - Bridge Over Troubled Water
6. Michael Jackson - Thriller
7. Dire Straits - Brother In Arms
8. Coldplay - Viva La Vida
9. Michael Jackson - Thriller
10. Boston - Boston

 ;D

6. Michael Jackson - Thriller
9. Michael Jackson - Thriller

ซ้ำกันครับ  :D

อันที่ 2 อาจจะเป็นเวอร์ชั่นฉลองครบ 25 ปี 55

แก้แล้วนะครับ อายจัง  ::)


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: Life Seeker ที่ 09 สิงหาคม 2009 | 12:33:29 AM
1.  The Wall - Pink Floyd
2.  Close to the Edge - Yes
3.  Appetite for Destruction - Guns N' Roses
4.  A Night at the Opera - Queen
5.  Wish You Were Here - Pink Floyd
6.  Selling England by the Pound - Genesis
7.  OK Computer - Radiohead
8.  Led Zeppelin IV - Led Zeppelin
9.  Black Holes and Revelations - Muse
10.  Art of Life - X Japan


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: kerenski_t ที่ 12 สิงหาคม 2009 | 07:24:50 PM
1.Pinkfloyd - Dark Side Of The Moon(24 year ago)
Produce By Pinkfloyd
Recorded at Abbay Road Studio,London
Between June 1972 and January 1973 อัลบั้มนี้เกิดก่อนผมประมาณ 10 เดือน(หลังจากบันทึกเสียงเสร็จ January 1973)  ผมได้ฟังหลังจากนั้นมาประมาณ 12 ปี แต่เนื่องจากความเป็นเด็กทำให้ยังเข้าไม่ถึง.............ฟังแล้วชอบ..แต่ก็ไม่ซาบซึ้งกับอัลบั้มนี้เท่าไรนัก
2.Pinkfloyd - The Wall... (24 year ago)
3.Metalica - Kill 'em all (23 year ago)
4.Marillion -  Misplaced childhood..เป็นอัลบั้มแรกๆที่ทำให้ผมหันมาฟัง Prog อย่างจริงๆจังหลังจากอยู่กับ metal มานาน(15 year ago)
5.Pendragon -  The World (15 year ago)เป็นความต่อเนื่องจาก(4.)
6.Dream Theater -  Images and words(15 year ago)
7.Shadow Gallery -  Shadow Gallery(15 year ago)
8.Enigma - The Cross Of Changes(15 year ago) ผลพวงในอิทธิพลของสื่อจากสิ่งที่เราเรียกว่ามิวสิควีดีโอ และ ขอบคุณพี่มาโนช พุฒตาลสำหรับ การเปิด MV สวยๆในเพลง The Eyes Of Truth
9.Blind Guardian - Imaginations From The Other Side(13 year ago) ไม่ว่าจะฟังกี่ครั้งความรู้สึกก็ยังคงเหมือนกับได้ฟังเป็นครั้งแรกเสมอ...และจำได้ว่าเงินเดือนแรกของชีวิตการทำงานออก...ก็รีบไปซื้อ CD ชุดนี้ทันที
10.Arena - Songs From The Lion's Cage(12 year ago)


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: TRON ที่ 12 สิงหาคม 2009 | 08:33:11 PM
ดูเหมือนอัลบั้ม The Wall จะเป็นที่ผูกพันธ์ของหลายๆคนเลยนะครับ  :D


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: Not.Now.John ที่ 15 สิงหาคม 2009 | 07:26:25 PM
10เพลงที่ผูกพัน ทรงอิทธิพลที่สุดเหรอ
1.daniel powter-daniel powter 6 years
เพลงfree loop เป็นเพลงที่ผมสามารถเล่นโชว์ในงานได้ตลอด  และเป็นอัลบั้มแรกที่ตัดสินใจซื้อเอง

2.helloween-keeper of the seven keys part1  5 years
อัลบั้มmetalอัลบั้มแรกที่ซื้อมาจากฟิวเจอร์รังสิต   อัลบั้มที่ผมหลงใหล และหวงแหนที่สุดของผม

3.green day-dookie 4 years
ผมรู้จักกรีน เดย์ ครั้งแรกตอนได้ดูmv basket case  เป็นpower chord ที่เท่มากๆ  อัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มที่ทำให้ผมตั้งวงกับเพื่อนด้วย

4.yes-the ladder 4 years   
อัลบั้มprogressive อัลบั้มแรกที่ได้ฟัง  หลังจากได้คอนเสิร์ทที่ house of blueของyes มาจากอาจารย์ซึ่งตอนท้าย
มีเพลงhomeworld ที่ใช้เกมเป็นmvประกอบแล้ว  วันหนึ่ง  ไปเดินที่ฟิวเจอร์ เจอร้านขายแผ่นมีthe ladderพอดี  ควักเงินตลอดอาทิตย์ไปซื้อหมดเลย

5.queen-the day at the race  4years
ถึงไม่มีแผ่นแท้ผมก็ยังรักอัลบั้มนี้มาตลอด  somebody to love เป็นเพลงที่จะต้องฟังทุกครั้งเมื่อเปิดmp3  ถึงแม้ช่วงนี้จะเอียนแล้วก็เถอะ

6.George gershwin-rhapsody in blue 3 years
ฟังครั้งแรกจากdisney 2000 ตอนนั้นไม่รูจักเพลงนี้หรอก  แต่เป็นเพลงที่มีทำนองติดหูมาตลอด6ปีจนได้รู้ชื่อเพลงจากnodame

7.original soundtrack tarzan (disney)2years
8.original soundtrack mulan (disney)2years
9.bon jovi-crossroad          1years
10.pink floyd final cut         1years
 


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ ที่ 15 สิงหาคม 2009 | 08:09:53 PM
อ้างถึง
1.daniel powter-daniel powter 6 years
เพลงfree loop เป็นเพลงที่ผมสามารถเล่นโชว์ในงานได้ตลอด  และเป็นอัลบั้มแรกที่ตัดสินใจซื้อเอง

อัลบั้มนี้รีลีสเมื่อสี่ปีที่แล้วไม่ใช่เหรอครับ  ???


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน แ
เริ่มหัวข้อโดย: JM-Sarn ที่ 15 สิงหาคม 2009 | 08:56:52 PM
10เพลงที่ผูกพัน ทรงอิทธิพลที่สุดเหรอ
1.daniel powter-daniel powter 6 years
เพลงfree loop เป็นเพลงที่ผมสามารถเล่นโชว์ในงานได้ตลอด  และเป็นอัลบั้มแรกที่ตัดสินใจซื้อเอง

งานอะไรเหรอครับ 


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: 62140 ที่ 22 สิงหาคม 2009 | 10:22:33 PM
iron maiden - live after death
ชรัส - แมลงปอ
scorpion- tokyo tape
queen- jazz
omd- crush
style council - cafe blue
eagles - lives
henry mancini - hangin out with henry mancini
the cure -wish
howard jones= human's lib

ปีเฉลี่ย 20+


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: .. polotoon .. ที่ 23 สิงหาคม 2009 | 08:34:00 PM
ขออภัย โพสต์ผิดกระทู้  :)


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: kongbei ที่ 05 ตุลาคม 2009 | 04:51:43 PM
1 Pink Floyd - The Wall
2. Travis - The Man Who
3. Bee Gees - One Night Only
4. The Beatles - Abbey Road
5. Oasis - Definitely Maybe
6. U2 - The Joshua Tree
7. Led Zeppelin - IV
8. Peter Gabriel - 3
9. Roger Waters - Amused To Death
10. Pink Floyd - Dark Side Of The Moon


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: winston ที่ 05 ตุลาคม 2009 | 06:21:45 PM
1 Pink Floyd - The Wall
2. Travis - The Man Who
3. Bee Gees - One Night Only
4. The Beatles - Abbey Road
5. Oasis - Definitely Maybe
6. U2 - The Joshua Tree
7. Led Zeppelin - IV
8. Peter Gabriel - 3
9. Roger Waters - Amused To Death


เอาให้ครบ 10 สิครับ หรือว่า The Wall นับ 2?


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: winston ที่ 05 ตุลาคม 2009 | 06:33:07 PM
555 จำไม่ได้ว่าตอบกระทู้นี้ไปหรือยัง และขี้เกียจกลับไปค้น ตอบใหม่ด้วยอารมณ์ตอนนี้ดีกว่า

1.The Beatles/1962-1966 เพราะเป็นเทปม้วนแรกที่ซื้อ และเป็นเพลง pop-rock ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยฟังมาจนทุกวันนี้

2.The Beatles/Abbey Road จุดบรรจบของฝีมือและไอเดียของสี่เต่าทอง

3.Art Pepper Meets The Rhythm Section การบันทึกเสียงที่สมจริงจนน่าขนลุก อิมโพรไวส์กำลังงาม ชอบทั้งเสียงแซ็กของอาร์ทและเสียงกลองของฟิลลี่โจโจนส์

4.Pink Floyd/Dark Side Of The Moon มันไม่ใช่อัลบั้ม มันคือชีวิต

5.Derek and the dominos/Layla กวีจะเขียนกลอนได้ไพเราะที่สุดยามผิดหวังในรัก เฉกเช่นเดียวกับนักกีต้าร์บลูส์จะกรีดสำเนียงสะท้านทรวงที่สุดก็ตอนอกหัก(และติดยา)นี่ล่ะคร้าบ

6.Quartetto Itlaiano/Beethoven-The Late Quartets ความยิ่งใหญ่ของดนตรีคลาสสิกกับเครื่องดนตรีแค่สี่ชิ้นที่เต็มไปด้วยฝีมือและปฏิภาณโดยไม่ต้องมีผู้นำวง

7.Led Zeppelin-BBC Sessions ดิบสดด้วยพลังหนุ่มของราชันย์แห่งดนตรีเฮฟวี่ตลอดกาล ไม่สมบูรณ์แน่นอนแต่สะใจ(ว่ะ)

8.The Yes Album แม้จะไม่มีริค เวคแมน แต่เพลงชุดนี้สุดขีดจริงๆครับ

9.Eagles Their Greatest Hits 1971-1975 รวมฮิตแค่ 10 เพลง แต่คุณภาพหายห่วง ฟังได้ทุกสถานการณ์ไม่มีเบื่อ

10.Michael Jackson-Thriller มันมีดีกว่าคำว่า"เบสต์ เซลเลอร์" นัก


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: kongbei ที่ 05 ตุลาคม 2009 | 07:47:10 PM
1 Pink Floyd - The Wall
2. Travis - The Man Who
3. Bee Gees - One Night Only
4. The Beatles - Abbey Road
5. Oasis - Definitely Maybe
6. U2 - The Joshua Tree
7. Led Zeppelin - IV
8. Peter Gabriel - 3
9. Roger Waters - Amused To Death


เอาให้ครบ 10 สิครับ หรือว่า The Wall นับ 2?

จริงๆใส่ไป 10 แล้วครับ ชุดที่ 10 คือ Mike Oldfield - Ommadawn แต่มาแก้ไขทีหลังครับ คิดว่ายังไม่ใช่พอ


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: Toptopo ที่ 05 ตุลาคม 2009 | 09:10:09 PM
1.Radiohead - The Bends (1995)

(http://i27.tinypic.com/29dwilh.jpg)

ผมว่านี่เป็นงานที่ใครอยากเริ่มฟัง Radiohead เพลงไม่ต้องปีนบันไดฟังยากจนเกินไปอย่าง ok computer หรือช่วงหลังจากนั้น คุณต้องการเพลงมันส์ๆ เพลงซึ้งๆ ร๊อคตลาดแตก หรือ เพลงช่างคิดที่เริ่มต้นในชุดนี้ แล้วคำพูดที่เคยมีคนดูถูกพวกเค้าว่า "พวกมันดับแน่ เพราะไม่มีเพลงอย่าง creep" นั้นจะกลายเป็นเรื่องน่าหัวเราะทันที

street spirit (fade out) คือเพลงที่แสดงอารมณ์ล่องลอยของคุณพี่เท่ง เถิดเทิง thom yorke ได้ถึงพริกถึงขิงที่สุดจากชุดนั้น


2.Small Faces - Ogden's Nut Gone Flakes (1968)

(http://www.robbierocks.ch/LP%20covers/ogdens...gif)

concept อัลบั้มงานชิ้นสุดท้ายของทางวงโดยไม่ตั้งใจ เมื่อพบว่าเวลาเล่นในแผ่นเจ๋งมาก อัลบั้มก็ขึ้นอันดับ 1 uk charts ทั้งเงินทั้งกล่องประเคนมาให้ถึงสี่หนุ่มวง"หน้าเล็ก"  

แต่พอนำเพลงเหล่านั้นไปเล่นสดกับเจ๊งไม่เป็นท่า เพราะเล่นออกมามันช่างซับซ้อนสับสน  จนทำให้ steve marriott นักร้องนำ-มือกีต้าร์ ลาออกจากวงไปในที่สุด พวกเค้าเปิดอัลบั้มด้วยเพลง power ballad ยุคแรกๆของโลกดนตรีร๊อค อย่าง "afterglow (of your love)" แค่เสียงท่อนร้องว่า Love Love is all around me Everywhere Love has come to touch my soul With someone who really cares ก็ละลายใจแล้ว

หรือเพลงอย่าง lazy sunday afternoon ในแนว psychedelic pop ด้วยเสียงร้องสำเนียง cockney เชิงเล่าเรื่อง และหน้า side b ที่เป็นงาน concept psychedelic rock เพลงกึ่งนิทานกับการผจญภัยของ happiness stan ให้เสียงบรรยายโดย stanley unwin ดาราตลกอังกฤษชื่อดัง happiness stan ผู้กำลังหาคำตอบว่าทำไมดวงจันทร์เหลือครึ่งเดียว แล้วถ้ามันเหลือครึ่งเดียวความสุขจะหายไปด้วยมั้ย  

3.Badfinger - Wish You Were Here (1974)

(http://2.bp.blogspot.com/_4Z5T3So9ztI/R_NfPdwDMpI/AAAAAAAABq0/stax321EFbk/s320/Badfinger+-+Wish+You+Were+Here+(HQ)+-+Front.jpg)

อัลบั้มที่กลับมาท๊อปฟอร์มอีกครั้งของ badfinger และชุดสุดท้ายที่วางแผงขณะ pete ham ยังมีชีวิตอยู่

ช็อตเด็ด อยู่ที่ in the meantime, some other time ที่โชว์ลีลา symphonic rock ย่อยๆ น้องๆ elo อย่างไรอย่างนั้น และบทเพลงที่ฟังแล้วฮุกโดนคุณแน่ๆ อย่าง know one knows

น่าเสียดายอัลบั้มชุดนี้นำพาไปสู่โศกนาฏกรรมเสียแทนที่จะเป็นความสำเร็จอย่างที่วงที่ทุ่มเท่ควรจะได้




4.Primal Scream - XTRMNTR (2000)

(http://4.bp.blogspot.com/_j7P5Xag24os/Soq9hR2SRrI/AAAAAAAAAtA/n9BoIgvMFj4/s320/album-xtrmntr.jpg)

หากมีคนถามว่า เพลงเต้นรำ สังวาสกับ ร๊อคแอนด์โรลล์ ดิบๆ จะเกิดลูกออกมาเป็นอย่างไร คำตอบที่ได้คือ primal scream

แม้ทางวงจะมาถูกหวยกับเพลงแนวเต้นรำก็ปาเข้าไปชุดที่ 3 อย่าง screamadelica เข้าไปแล้ว แต่ชุดที่แสดงให้เห็นว่าพวกเขานำดนตรี electronica รากแตก ผสมกับ ดนตรี hard rock ดิบๆ แรงๆ ผลที่ได้คือ อัลบั้มชุดนี้ของทางวง

ด้วย content เนื้อหาที่เอียงไปทางการเมืองสุดกู่ยิ่งกว่าชุดไหน ว่าด้วยคอนเสร็ปของการ เอารัดเอาเปรียบและกดขึี่ของ ผู้มีอำนาจทางการเมือง และ ทรราชย์ ด้วยเนื้อหาเคร่งเครียดผิดวิสัยขี้เหล้า เมายา ไม่สนโลก อันเป็นภาพลักษณ์ของทางวง แต่นี่ล่ะคืองานเข้มๆ โดนๆ ยิ่งกว่างานชุดไหนจะให้ได้จาก primal scream อีกสองปีถัดมาทางวงกลับมาอีกครั้งว่า ด้วยเรื่องการก่อการร้าย และความหวาดกลัวของโลกหลังเหตุการณ์ 11 กันยา ใน evil heat

ว่ากันว่า ถ้า john cale ได้ฟังงานชุดนี้เขาคงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ปนเหน็บ ว่า "ไอ้พวกเวรตอนกูทำแบบนี้เสือกมาด่ากูดีนัก แหมต้องรอให้ถึง primal scream มาทำพวกมึงถึงจะ get สาดดด...."
5.Smashing Pumpkins - Siamese Dream (1993)

(http://dkpresents.files.wordpress.com/2008/12/smashing_pumpkins_-_siamese_dream_-_front.jpg)

อัลบั้มชุดนี้เกิดขึ้นในภาวะความวุ่นวายของทางวง บิลลี่ คอร์แกนรับหน้าที่เล่นกีต้าร์เกือบทั้งหมดในชุดนี้ จึงเต็มไปด้วยเสียง noise reverb effect delay ของกีต้าร์จากฝีมือบิลลี่เกือบทั้งหมด เพราะ เจมส์ เกิดอาการติสต์แตก งอน ดีอาร์ซี่ มือเบสและแฟนสาวของวงในช่วงนั้นด้วย และ จิมมี่ แชมเบอร์ลิน เริ่มออกอาการจั่งซี้มันต้องฉีดเข้าเส้น

ทำให้งานโดยรวมดูรุนแรงเกรี้ยวกราดและบ้าคลั่ง ใส่ไม่ยั้งเหมือนคนระบายความอึดอัดในจิตใจ แม้แต่เพลงช้าอย่าง disarm หรือ soma ก็รู้สึกได้ตรงนั้น

แน่นอนไม่มีใครไม่พูดถึง single ฮิตจากชุดนั้นอย่าง cherub rock และ ที่ว่าการอำเภอ เอ๊ย! today ที่ทำให้คณะ ฟักทองเละ รู้จักไปทั่วโลก ความเกรี้ยวกราดใน silverfxxx / geek usa/ mayonaise (หนึ่งในไม่กี่เพลงที่ james ยอมเลิกงอแงลงมาช่วยขย่มขยี้ จับขึ้นค่อม guitar กับ billy)

 นั้นคงสามารถระบายความรู้สึกของตัวบิลลี่ ในช่วงนั้นได้ แต่ใครจะปฏิเสธว่านี่เป็นงานที่กลมกล่อม มันส์ๆ แรงๆ ที่ทางวงมอบให้ แม้จะไม่อลังการหรือเหมือนนี่มันพลังจักรวาลแล้ว อย่าง mellon collie...

6.The Innocent - ครั้งนี้ของพี่กับน้อง (1986)

(http://www.theinnocentband.com/discography/08_resize.jpg)

หลายคนคงชอบงานที่ทางวงโชว์ฝีไม้ลายมือทางดนตรี ของ พี่ๆวง ดิ อินโนเซ้นท์ อย่าง "โลกใบเก่า" หรือ "10 นาฬิกา" มากกว่า แต่ผมคิดว่างานชุดนี้ดูละมุลและพอดีสำหรับทางวงที่สุด

ด้วยท่วงทำนองเพลงป๊อปยุค 80's ที่คาดว่าทั้งพี่สันและพี่โอม สองแกนหลักในการแต่งเพลงได้รับอิทธิพลมาไม่น้อยในงานชุดนี้ โดยเฉพาะจากฝั่งอังกฤษและในเครือจักรภพ อย่าง housemartins, aztec camera, the pastels, colour field, air supply  หรือแม้กระทั่งงานเพลงไทยของ พี่เต๋อ-เรวัต พุทธินันทน์ ที่พี่โอมเคยไปทำงานร่วมด้วย

ทำให้งานชุดนี้ อบอวลไปด้วยเสียงซินธ์และคีย์บอร์ด พาร์ทกีต้าร์ของพี่โอมในชุดนี้ไม่โชว์โซโล่หวือหวาเหมือนชุดก่อนหน้า (โลกใบเก่า)

กลับกลายเป็นว่าเป็นงานที่แฟนเพลงมหาภาคให้การต้อนรับดีที่สุดของทางวง เพลงทำนองไม่โชว์มากมายจนล้น แต่สัมผัสคล้องจองด้วยเนื้อร้องของพี่สัน และบทบาทการทำหน้าที่ร้องเพลงเยอะกว่าชุดใดของ พี่สายชล ระดมกิจ และชุดนี้นี่เองที่เป็นชุดแรกที่ทางวงไม่นำเพลงเก่าลูกกรุง ลูกทุ่ง มาร้องคัฟเวอร์ใส่เลย แสดงให้เห็นถึงการมองพิถีพิถันรักษาภาพรวมของอัลบั้ม

เพลง มือที่สาม น่าจะเพลงที่ได้เห็นการเล่น jam  ระหว่างกันของสมาชิกวงว่าฝีมือแต่ละคนเป็นอย่างไร

ป.ล. มีใครไม่ใจละลายบ้าง เมื่อเพลง "ฝากรัก" ถูกเปิดขึ้น  ;)


7.Soulwax: Any Minute Now (2004)

(http://ec1.images-amazon.com/images/I/71X02RBDK0L._AA240_.jpg)

Soulwax คือวงดนตรี alternative rock จาก เบลเยี่ยม นำโดยสองพี่น้องอาร์ทตัวพ่อ อย่าง stephen และ david dawaele หรือที่คอเพลงเต้นรำรู้จักพวกเขาในงาน side project ในชื่อ 2 many dj's ที่เปิดคอนเสิร์ตไปทั่วโลก ยกเว้นประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ไม่นับ สิงคโปร์

งานลำดับที่ 3 ที่ทิ้งห่างจากงานอัลบั้ม much against everyone's advices ถึง 5 ปี พวกเขากลับมาดนตรีในรูปแบบ electro rock ที่เต็มไปด้วยบีทเร้าใจอย่าง e-talking /any minute now/ miserable girl และเพลง dance punk  ที่ร้องแจมกับ nancy whang จากวง lcd soundsystem ใน ny excuse

พวกเขาออกอัลบั้มกันน้อยมาก 3 ชุดในรอบ 14 ปี ที่ออกผลงานกันมา เปลี่ยนสมาชิกวงกันทุกชุด มีเพียงสองพี่น้อง และ มือเบส stefaan van leuwen ที่เป็นแกนหลัก

เน้นไปที่แสดงสดมากกว่าและงาน remix ให้คนอื่น ถ้าเรียกพวกเขาว่าเป็น modern dog ของเบลเยี่ยมคงทำให้พวกคุณเห็นภาพชัดเจน การออกงานแล้วแต่อารมณ์ อ่องานทุกชิ้นของพวกเขาแนวเพลงเปลี่ยนทุกชุด ใครจะรู้เลยว่าชุดแรกของพวกเขา leave the story untold เป็นแนว grunge! และ produced โดย chris goss ผู้ปลุกปั้น queen of the stone age และ kyuss

8.ฤทธิพร อินสว่าง: ก้าวที่สอง (1989)

(http://www.covershare.com/sites/default/files/imagecache/300px/artwork/4458_1251382029.jpg)

ก้าวที่สองของนักร้องนักแต่งเพลง ฝีมือดี หลังจากประสบความสำเร็จมากมาย จนเจ้าตัวถึงกับอึ้ง ในชุดก้าวแรก ที่มีเพลงอย่าง ใบไผ่ / เธอผู้ห่างไกล / เรือ ด้วยท่วงทำนองดนตรี hard rock และ folk rock

มาในงานชุดที่สอง ฤทธิพรกระโจนเข้าหาดนตรีร๊อคที่ตลบอบอวลด้วย synth และ progressive rock ในหลายๆเพลง จากฝีมือของกลุ่ม บัตเตอร์ฟลาย ในการเรียบเรียงดนตรี ทำให้ชุดนี้ถือเป็นก้าวใหม่ของพี่บ๊อบเลยก็ว่าได้

power ballad ในคราบ synth rock อย่าง เพียงความหลัง/ ธุลี/ ด้วยรักและศรัทธา synth pop สนุกๆ ใน อกหักอีกต่างหาก/ เตลิด/ บางที บางครั้ง  ไปถึง progressive rock ที่ปุ้ม วงตาวัน โชว์ฝีมือการพรมนิ้วบน keyboard จนคุณต้องร้องสุโค่ย ใน เรือ ภาค 3

ใครบอกว่าพี่บ๊อบเป็นศิลปินแนวเพื่อชีวิต ผมขอเถียงเลย พี่เขาน่ะป๊อปร็อคเต็มสตรีมเลย และมาก่อนยุค เสก โลโซ

9.Sleeper 1: Difference Part 1 / Difference Part 2 (2005-2006)

(http://www.covershare.com/sites/default/files/artwork/605_1210604602.jpg)(http://www.covershare.com/sites/default/files/artwork/606_1210604602.jpg)

นับตั้งแต่วงตาวัน กับ ธเนศ วรากุลนุเคราะห์ ที่เคยสร้างงาน concept อัลบั้มออกมาเป็นรูปธรรมเราก็ไม่ค่อยเห็นใครสร้างงานลักษณะนั้นอีก จนการมาถึงของ เกรียงไกร วงษ์วานิช มือกีต้าร์วง friday กับงานเดี่ยวของเขาในนาม sleeper 1 ผลงานอัลบั้มเต็ม ลำดับ 2-3 ในเวลาไล่เลี่ยกัน

ใช่แล้วมันเป็นอัลบั้มคู่ ที่ว่าด้วยความแตกต่าง เน้นไปที่ความสัมพันธ์ของหนุ่ม สาว แปลกหน้าคู่หนึ่ง ที่บังเอิญมาพบกันในลิฟท์ และมีภูมิหลังของความต่างทางด้านกายภาค (ฝ่ายชายมีหัวใจทั้งสองข้าง!)

ฝ่ายหญิงเธอเป็นคนเย็นชาไร้ความรู้สึก และ ไม่มีหัวใจ (ในด้านกายวิภาค) อยู่ในตัวเธอเลย อันส่งผลต่อความรู้สึกของเธอด้วยที่เคว้งคว้าง ตามแบบฉบับคนในเมืองหลวง

เพลงโดยรวมอยู่ในโทน alternative rock และ indie pop แต่ผูกเรื่องราวในแบบดนตรี progressive rock

ผมว่านี่เป็นงานอาจจะฟังยากกว่าชุดที่แล้วของเขาใน sleeping letter แต่ด้านเนื้อหากลับมองเห็นและดูเป็นรูปธรรมกว่าเข้มข้นกว่า งานชุดแรก

จะผิดอะไรมั้ย ผมว่า ถ้า roger waters (พ.ศ.นี้ ที่แอ้บแบ้วเหลือเกิน) ทำงานอัลบั้มกับ cornelius โดยเขียนเพลงออกมาจากแรงบันดาลใจนิยายรัก ของ haruki murakami ผลที่ได้ออกมาก็เหมือนงานชุดนี้นี่เอง....(กรุณาทำเสียงแบบรายการ tv champion)
10.Cornelius: 69/96 (1995)

(http://muzseek.com/images/cornelius01.jpg)

cornelius หรือ keigo oyamada กับผลงานชุดที่สองของเขา ที่ออกมาในปลายปี 1995 โดยได้แรงบันดาลใจจากบรรยากาศในหนัง cults ตระกูล roger corman และค่าย toho บวกกับเพลง hard rock กระแทกใจในวัยเด็กของเค้าที่ได้อิทธิพลมาจาก led zeppelin, black sabbath, bloodrock, ac/dc ทำให้เกิดงานชุดนี้ขึ้นมา

เสียง sampling จากหนังยุค 70's แขกรับเชิญชั้นอ๋องอย่าง jimmy pages ในเพลง 69 girl meets cassette หรือ hide แห่ง x-japan ที่มาโชว์ลีดกีต้าร์แจมร่วมกับ cornelius ในเพลง heavy metal thunder ก็แทบจะร้องว่าสุโค่ย แล้ว และแสดงให้เห็นว่า cornelius สนใจ sound noise sampling และดนตรีที่ไม่จำกัดขอบเขตในความสนใจเขา ก็มาจากชุดนี้

อ่อ cornelius มีชื่อเสียงก่อน ตา beck hensen จะออกอัลบั้มเสียอีก ตั้งแต่สมัย flipper's guitar ดังนั้นใครบอกว่า cornelius รับอิทธิพลมาจาก beck  นั้น ผิดอย่างแรง!!!!!!!

ตัดใจ:

อัสนี-วสันต์: บ้าหอบฟาง (1986)

(http://i199.photobucket.com/albums/aa79/Jo-108-1009/1-4.jpg)



งานที่แฟนเพลงของสองพี่น้องที่ราบสูงถวิลหา ในวันที่อัสนี เสียงยังไม่ร้องยานคางมาก และไม่ค่อยเน้นเนื้อหาจิ๊กโก๋ อกหัก ยกเว้นเพลง บอกแล้ว

แต่งานในชุดนี้เต็มไปด้วยการตั้งกระทู้ถามสังคม และ วิพากษ์มากกว่า
เช่น พฤติกรรมคนอวดรำ่อวดรวย ใน บ้าหอบฟาง
 การสู้ชีวิตของคนต่างจังหวัดใน เพลงของเขา
เพลงไทยสากลเก่าๆ ฝีมือการเขียนของ ครูผี-อัสนี พลจันทร์ ใน "เดือนเพ็ญ" ที่พี่ป้อมเรียบเรียงเพลงไทยสากลเนิบๆ เพลงนี้ ให้กลายเป็นเพลง power ballad ทรงพลัง ประสานกับ chorus หญิง คู่บุญ อย่าง สีส้ม-สีฟ้า ที่ฟังแล้วทำเอาขนลุกกว่าเวอร์ชั่นไหนๆ

หรือ เพลงที่กำลังบอกว่าอย่าลืมสิ่งดีๆ ที่เราหลงลืมไปแล้ว อย่าง น้ำเอยน้ำใจ  แต่ผมขี้เกียจมาถูกเยาะเย้ยถากถางว่า เพลงไตเติ้ลแทร็คทำนองไปพ้องกับเพลงของวง yes เหมือนแฟนเพลงของ สองพี่น้องที่ราบสูง นี่ มีกรรมไปหมด เขียนชมก็ว่า...ว่าฟังเพลงไม่มีการพัฒนา เฮ้อ


ทั้งหมดนี้มันมีสรรพคุณเป็นเช่นนั้นผมถึงหลงรักมัน และ เหมือนมันมีเรื่องราวและชีวิตอยู่ในอัลบั้มนั้นๆ ด้วย

ป.ล. ว่าจะเขียนใหม่ดีกว่า


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: horizoner ที่ 14 ตุลาคม 2009 | 12:35:25 AM
สวัสดีครับ
ประเดิมโพสแรก ขอร่วมแจมด้วยคน


10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต

1. Enigma - The Cross Of Changes
(http://i375.photobucket.com/albums/oo191/horizoner/ThaiProg%20Board/Enigma-CrossOfChanges.jpg)
อัลบั้มที่ 2 จากชายลึกลับ
เสียงสวดมนต์ บนบีทแบบ electronic ผ่าน reverb จนฉ่ำ เป็นส่วนผสมที่ลงตัวได้อย่างประหลาด
ได้ฟังอัลบั้มนี้เป็นเทปที่ก๊อปมาจากเพื่อนอีกที ตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย
เพลงที่ยังนึกถึงเสมอ Return to Innocence, Silent Warior, The Dream of the dolphin


2. DaftPunk - Discovery
(http://i375.photobucket.com/albums/oo191/horizoner/ThaiProg%20Board/Daft_Punk_-_Discovery.jpg)
อัลบั้มที่โผล่มาท่ามกลางกระแส cut&paste ของดนตรี electronic ช่วงปี 2000
ด้วยลูกเล่นตัดต่อยำชิ้นส่วนเพลงของชาวบ้านมาเป็นเพลงของตัวเอง

เทคนิคการตัดคำพูดเป็นคำๆแล้วเอามาเรียงกันเป็นท่วงทำนอง ในเพลง Harder, Better, Faster, Stronger
คือเพลงที่เด็ดที่สุดเท่าที่ DaftPunk เคยทำมา ส่วนตัวผมยกเพลงนี้ขึ้นหิ้งไปแล้ว



3. Babble - Ether(1996)
(http://i375.photobucket.com/albums/oo191/horizoner/ThaiProg%20Board/0ec3224b9da09ece813ea010L.jpg)
การทดลองทำเพลง electronic ผสมทำนอง world music ของ 2 สมาชิกวง Thomson Twins
นอกจากกลิ่นโรตีที่คุณจะได้จากอัลบั้มนี้แล้ว ส่วนของ sound ทำออกมาได้ลอยๆหลอนๆดีทีเดียว



4. เอกรงค์2 - จิรพรรณ อังศวานนท์/สินนภา สารสาส
(http://i375.photobucket.com/albums/oo191/horizoner/ThaiProg%20Board/post-5-1111572844.jpg)
ผลงานของคนไทยที่คุณยกไปเทียบกับต่างชาติได้แบบไม่อาย
เป็นผลงานรวมเพลงประกอบจินตลีลา "นิพพานอิเลคทริค"
และ เพลงประกอบการวาดภาพ โดย อ.ประเทือง เอมเจริญ ชื่อ "ปรากฏการณ์"
เป็นงานที่ผสมผสานศิลปะหลายๆแขนงเข้าด้วยกัน เรียกได้ว่าเป็นงานทดลองโดยแท้จริง
ส่วนของ "นิพพานอิเลคทริค" ภาคดนตรีเป็น progressive rock ที่มีกีตาร์และ synthesizer เป็นตัวเอก
บวกกับเสียงร้องทรงพลังของ พัชรา ดิล่า
"ปรากฏการณ์" แบ่งอารมณ์เพลงเป็นช่วงๆ คลอด้วยเสียง cello ไล่เรียงอารมณ์ ขมวด
และคลี่คลายที่ flight ซึ่งเป็นการปิดท้ายที่สมบูรณ์มาก เพลง flight อุดมไปด้วย odd time signature แต่ฟังลื่นใหลมาก

ปล.แผ่นตีตรา sony
screen ที่แผ่นว่าใช้เทคโนโลยี SBM (Super Bit Mapping) เสียงที่ฟังมีรายละเอียดดีมาก
แต่สกรีนแผ่นบางมากครับ ขนาดผมเก็บไว้แทบจะไม่แตะแผ่นต้นฉบับ มันยังลอกเลย เสียดายมาจนทุกวันนี้  :'(



5. พราย - เจ้าหญิงแห่งดอกไม้ เจ้าชายแห่งทะเล
(http://i375.photobucket.com/albums/oo191/horizoner/ThaiProg%20Board/Prya4.jpg) (http://i375.photobucket.com/albums/oo191/horizoner/ThaiProg%20Board/Prya3.jpg)
อัลบั้มคู่ ของชายที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผมมากที่สุดคนนึง ทั้งมุมมองของขบถ และความเศร้าของชีวิต



6. สุรสีห์ อิทธิกุล - คนดนตรี
(http://i375.photobucket.com/albums/oo191/horizoner/ThaiProg%20Board/4002_1247408494.jpg)
อัลบั้มที่แม่บอกให้ซื้อ  ;D  และน่าจะเป็นอัลบั้มแรกที่ควักตังซื้อเอง
จากที่เคยฟังแค่เพลงโปรโมทอย่าง ปราสาททราย, ต้นไม้, ตะเกียง
เมื่อวันคืนผ่านไปผมกลับพบว่า เพลงอื่นๆในอัลบั้มก็มีความไพเราะและมีความหมายดีๆแฝงไว้มากมาย



7. DreamTheater - Images and Words
(http://i375.photobucket.com/albums/oo191/horizoner/ThaiProg%20Board/Dream_Theater_-_Images_and_Words.jpg)
อัลบั้มแรกๆที่เปิดโลกทัศน์ของผมเกี่ยวกับดนตรี progressive
อัลบั้มที่ถูกเพื่อนท้วงติงว่า เพลงอะไร เล่นก็ไม่ยอมเล่นให้จบ (ไม่สนเว๊ย ตรูชอบของตรู)
อัลบั้มที่มีส่วนผสมที่ลงตัวที่สุดระหว่างความหนักแน่นของ rock และความมี melody ที่ลื่นใหล



8. Mike Oldfield - Discovery
(http://i375.photobucket.com/albums/oo191/horizoner/ThaiProg%20Board/uo8sz58x.jpg)
เป็นศิลปินที่ผมฟังงานต่อเนื่องมากที่สุด และได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของผลงานจาก progressive rock เปลี่ยนแปลงไปจนเป็น newage
ตัดสินใจเลือกอัลบั้มนี้ มากกว่าอัลบั้มยุคหลังที่เป็น newage เพราะชอบเพลง และเสียงกลองของ Simon Philips



9. Angra - Holy Land
(http://i375.photobucket.com/albums/oo191/horizoner/ThaiProg%20Board/0000506232.jpg)
แค่อัลบั้มที่ 2 พวกเค้าก็โชว์ความเจ๋ง ด้วยการจับเอาจังหวะแบบลาติน มาผสมกับ Melodic Metal
เกิดเป็นเพลง Melodic Metal ที่มีเครื่องเคาะกระฉึกกระฉักแบบลาตินได้ไงไม่รู้



10. Vangelis - Voice
(http://i375.photobucket.com/albums/oo191/horizoner/ThaiProg%20Board/R-83475-1122459582.jpg)
ราบเรียบ และสงบเสงี่ยม บทเพลง Ask The Mountains ฟังดูนุ่มนวล และเศร้าสร้อยจริงๆ




อัลบั้มที่ถูกคัดออก

1. Various - Path: An Ambient Journey from Windham Hill
(http://i375.photobucket.com/albums/oo191/horizoner/ThaiProg%20Board/Path.jpg)
ถูกตัดออกไปตามกฎอย่างน่าเสียดาย เพราะผมหาอัลบั้มของแต่ละศิลปินในนั้นไม่ได้
บทเพลง The White Spirit ของ Uman เป็นอีกเพลงที่ผมได้อะไรหลายอย่างในแง่เสียงจากมัน

2. วงตาวัน - 12ราศี
(http://i375.photobucket.com/albums/oo191/horizoner/ThaiProg%20Board/1251187159.jpg)
เป็นอัลบั้มที่เมื่อก่อนฟังบ่อยมาก

3. Jarre.................


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: TRON ที่ 14 ตุลาคม 2009 | 07:36:35 AM
ผมเองก็ชื่นชอบเสียงกลองของ Simon Phillip ทั้งใน Discovery และ Crises ว่าแล้วแนะนำหาอัลบั้ม The Buffalo Skinners ของ Big Country มาฟังดูนะครับ Simon Phillip เป็นมือปืนรับจ้างที่ตีแนวร๊อคได้มันมาก (พอดีผมไม่ได้ฟัง Toto เสียเท่าไหร่)


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: horizoner ที่ 14 ตุลาคม 2009 | 09:06:51 PM
ผมเองก็ชื่นชอบเสียงกลองของ Simon Phillip ทั้งใน Discovery และ Crises ว่าแล้วแนะนำหาอัลบั้ม The Buffalo Skinners ของ Big Country มาฟังดูนะครับ Simon Phillip เป็นมือปืนรับจ้างที่ตีแนวร๊อคได้มันมาก (พอดีผมไม่ได้ฟัง Toto เสียเท่าไหร่)

ขอบคุณที่แนะนำครับ เดี๋ยวผมลองไปหามาฟัง

ตอนที่ Simon มา drum clinic ที่ AUA เมื่อซัก 4 ปีก่อน คุณ Tron ได้ไปดูมั๊ยครับ


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: TRON ที่ 14 ตุลาคม 2009 | 09:49:39 PM
ผมเองก็ชื่นชอบเสียงกลองของ Simon Phillip ทั้งใน Discovery และ Crises ว่าแล้วแนะนำหาอัลบั้ม The Buffalo Skinners ของ Big Country มาฟังดูนะครับ Simon Phillip เป็นมือปืนรับจ้างที่ตีแนวร๊อคได้มันมาก (พอดีผมไม่ได้ฟัง Toto เสียเท่าไหร่)

ขอบคุณที่แนะนำครับ เดี๋ยวผมลองไปหามาฟัง

ตอนที่ Simon มา drum clinic ที่ AUA เมื่อซัก 4 ปีก่อน คุณ Tron ได้ไปดูมั๊ยครับ

ไม่ได้ไปครับ แต่พี่ชายผมเคยไปเจอ Simon Philip กับ Steve Lukerther ตอน Toto มาเล่นเมืองไทย เลยให้ Simon เซ็นชื่อในแผ่นเสียง Discovery เพราะมีรูปเขาอยู่เล็กๆในแผ่นเสียง โดยที่ Simon ไม่ยักรู้มาก่อนด้วยว่า Mike Oldfield ใส่รูปเขาไว้ข้างในด้วย  :D


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: no7 ที่ 21 ตุลาคม 2009 | 11:53:59 PM
ผมเองก็ชื่นชอบเสียงกลองของ Simon Phillip ทั้งใน Discovery และ Crises ว่าแล้วแนะนำหาอัลบั้ม The Buffalo Skinners ของ Big Country มาฟังดูนะครับ Simon Phillip เป็นมือปืนรับจ้างที่ตีแนวร๊อคได้มันมาก (พอดีผมไม่ได้ฟัง Toto เสียเท่าไหร่)

ขอบคุณที่แนะนำครับ เดี๋ยวผมลองไปหามาฟัง

ตอนที่ Simon มา drum clinic ที่ AUA เมื่อซัก 4 ปีก่อน คุณ Tron ได้ไปดูมั๊ยครับ

ไม่ได้ไปครับ แต่พี่ชายผมเคยไปเจอ Simon Philip กับ Steve Lukerther ตอน Toto มาเล่นเมืองไทย เลยให้ Simon เซ็นชื่อในแผ่นเสียง Discovery เพราะมีรูปเขาอยู่เล็กๆในแผ่นเสียง โดยที่ Simon ไม่ยักรู้มาก่อนด้วยว่า Mike Oldfield ใส่รูปเขาไว้ข้างในด้วย  :D

ผมมีแผ่น Crises พร้อมลายเซ็น Simon




หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: Pete ที่ 06 พฤศจิกายน 2009 | 10:40:06 AM
1. Love me love my life - Moderndog
2. Wish you were here - Pink Floyd
3. War - U2
4. Pablo Honey - Radiohead
5. Zero - Pru
6. Loveless  - My Bloody Valentine
7. What ever people say I am, That's what I'm not - Arctic Monkeys
8. In your honor - Foo Fighters
9. Unknown Pleasures - Joy division
10. A Rush of blood to the head - Coldplay




หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: อาโนลด์ เลนย์ ที่ 12 พฤศจิกายน 2009 | 02:31:46 PM
(http://img17.imageshack.us/img17/1831/1104mv.jpg)

ของผมต้องชุดนี้เลยครับ...
ไม่ใช่เพราะความที่เป็น VDGG หรือตัว album ของมันเอง..แต่เพราะรูปแบบ mini lp cd ต่างหากครับ
แผ่นนี้เป็นแผ่น mini lp แผ่นแรกที่ผมได้มา (ซื้อมาจากคุณ panyarak ผ่านเพื่อนของผมโดยบังเอิญอีกทีครับ ตอนนั้นยังไม่เคยพบคุณ panyarak เลย  :D)
ได้เห็นแล้วต้องบอกว่าชอบทันที่เลยครับ ด้วยความสวยงามของ packaging และความปราณีตของมัน

แต่หารู้ไม่ว่าแผ่นพวกนี้มันมีเชื่อไวรัส ที่ไม่ใช่ H1N1 แต่เป็นจำพวก HDCD,HD2K,SHM.....ติดมาด้วย
ใครที่ติดเขื้อเข้าไปจะต้องมีอาการ กระเป๋าแฟบ...แฟนบ่น..ส่งพัสดุไปบ้านเพื่อน...เสียภาษีนำเข้า..โอยยย..ฯลฯ
และอาจลุกลามเลยเถิดขึ้นไปอีก จนต้องซื้อกล่องมาใส่ (หรือไม่ก็ทำเองซะ  ;D) เป็นเรื่องเป็นราวจนหยุดไม่ได้... :o
แต่อาการเหล่านี้จะหายไปเองครับ เมื่องบมันหมด... ???

ขอขอบคุณ คุณ panyarak มา ณ.ที่นี้ด้วยครับ  ;D





หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: .. polotoon .. ที่ 12 พฤศจิกายน 2009 | 02:44:23 PM
(http://img17.imageshack.us/img17/1831/1104mv.jpg)

ของผมต้องชุดนี้เลยครับ...
ไม่ใช่เพราะความที่เป็น VDGG หรือตัว album ของมันเอง..แต่เพราะรูปแบบ mini lp cd ต่างหากครับ
แผ่นนี้เป็นแผ่น mini lp แผ่นแรกที่ผมได้มา (ซื้อมาจากคุณ panyarak ผ่านเพื่อนของผมโดยบังเอิญอีกทีครับ ตอนนั้นยังไม่เคยพบคุณ panyarak เลย  :D)
ได้เห็นแล้วต้องบอกว่าชอบทันที่เลยครับ ด้วยความสวยงามของ packaging และความปราณีตของมัน

แต่หารู้ไม่ว่าแผ่นพวกนี้มันมีเชื่อไวรัส ที่ไม่ใช่ H1N1 แต่เป็นจำพวก HDCD,HD2K,SHM.....ติดมาด้วย
ใครที่ติดเขื้อเข้าไปจะต้องมีอาการ กระเป๋าแฟบ...แฟนบ่น..ส่งพัสดุไปบ้านเพื่อน...เสียภาษีนำเข้า..โอยยย..ฯลฯ
และอาจลุกลามเลยเถิดขึ้นไปอีก จนต้องซื้อกล่องมาใส่ (หรือไม่ก็ทำเองซะ  ;D) เป็นเรื่องเป็นราวจนหยุดไม่ได้... :o
แต่อาการเหล่านี้จะหายไปเองครับ เมื่องบมันหมด... ???

ขอขอบคุณ คุณ panyarak มา ณ.ที่นี้ด้วยครับ  ;D




ผมก็เริ่มติดเชื้อจาก Uriah Heep ของพี่ตั๊มเหมือนกัน แต่ปัจจุบันรักษาหายแล้วครับ ด้วยการใช้เชื้ออื่นที่แรงกว่ามาปราบครับพี่ แต่ถึงอย่างไรก็ขอบคุณพี่ตั๊มมากที่ช่วยเสริมภูมิปัญญาและภูมิคุ้มกันขึ้นอีกมากครับ  :D


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: panyarak ที่ 12 พฤศจิกายน 2009 | 03:23:41 PM
(http://img17.imageshack.us/img17/1831/1104mv.jpg)

ของผมต้องชุดนี้เลยครับ...
ไม่ใช่เพราะความที่เป็น VDGG หรือตัว album ของมันเอง..แต่เพราะรูปแบบ mini lp cd ต่างหากครับ
แผ่นนี้เป็นแผ่น mini lp แผ่นแรกที่ผมได้มา (ซื้อมาจากคุณ panyarak ผ่านเพื่อนของผมโดยบังเอิญอีกทีครับ ตอนนั้นยังไม่เคยพบคุณ panyarak เลย  :D)
ได้เห็นแล้วต้องบอกว่าชอบทันที่เลยครับ ด้วยความสวยงามของ packaging และความปราณีตของมัน

แต่หารู้ไม่ว่าแผ่นพวกนี้มันมีเชื่อไวรัส ที่ไม่ใช่ H1N1 แต่เป็นจำพวก HDCD,HD2K,SHM.....ติดมาด้วย
ใครที่ติดเขื้อเข้าไปจะต้องมีอาการ กระเป๋าแฟบ...แฟนบ่น..ส่งพัสดุไปบ้านเพื่อน...เสียภาษีนำเข้า..โอยยย..ฯลฯ
และอาจลุกลามเลยเถิดขึ้นไปอีก จนต้องซื้อกล่องมาใส่ (หรือไม่ก็ทำเองซะ  ;D) เป็นเรื่องเป็นราวจนหยุดไม่ได้... :o
แต่อาการเหล่านี้จะหายไปเองครับ เมื่องบมันหมด... ???

ขอขอบคุณ คุณ panyarak มา ณ.ที่นี้ด้วยครับ  ;D


เพื่อนคุณ Arnold ที่ผมเจอที่จตุจักร เข้ามาเล่นในเว็ปนี้ด้วยรึเปล่าครับ


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: อาโนลด์ เลนย์ ที่ 14 พฤศจิกายน 2009 | 05:11:27 AM
เพื่อนคุณ Arnold ที่ผมเจอที่จตุจักร เข้ามาเล่นในเว็ปนี้ด้วยรึเปล่าครับ

ยังไม่ได้เขามาเล่นเลยครับ ชวนไปหลายครั้งแล้ว เขาไม่ค่อยมีเวลาสักเท่าไหร่
ส่วนใหญ่เขาจะถนัด Blue,Southern Rock ครับ


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: Layla F Mulder ที่ 14 พฤศจิกายน 2009 | 08:42:07 AM
เพื่อนคุณ Arnold ที่ผมเจอที่จตุจักร เข้ามาเล่นในเว็ปนี้ด้วยรึเปล่าครับ

ยังไม่ได้เขามาเล่นเลยครับ ชวนไปหลายครั้งแล้ว เขาไม่ค่อยมีเวลาสักเท่าไหร่
ส่วนใหญ่เขาจะถนัด Blue,Southern Rock ครับ

ชวนมาเล่นเลยครับ ผมจะได้มีเพื่อนคุยเรื่อง Clapton, Allman ฯลฯ


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: อาโนลด์ เลนย์ ที่ 16 พฤศจิกายน 2009 | 11:13:31 AM
เพื่อนคุณ Arnold ที่ผมเจอที่จตุจักร เข้ามาเล่นในเว็ปนี้ด้วยรึเปล่าครับ

ยังไม่ได้เขามาเล่นเลยครับ ชวนไปหลายครั้งแล้ว เขาไม่ค่อยมีเวลาสักเท่าไหร่
ส่วนใหญ่เขาจะถนัด Blue,Southern Rock ครับ

ชวนมาเล่นเลยครับ ผมจะได้มีเพื่อนคุยเรื่อง Clapton, Allman ฯลฯ

ไว้จะไปชวนอีกทีครับ ถ้ามาคงคุยกับน้องAFM ได้สนุกแน่ เพราะดูท่าจะเป็นคอเดียวกันเลย
เล่นกีต้าร์เหมือนกัน ชอบ Eric Clapton,Cream..Lynyard,..Allman แล้วก็ Gilmour ด้วย
โดยเฉพาะ Allman นี่ สมัยที่เรียนอยู่เมื่อ 20-30 ปีที่แล้ว
เขาเคยลงทุนทุบกระปุกซื้อตั๋วเครื่องบิน เดินทางจากเมืองไทยไปถึง US เพื่อไปดูู Concert Allman โดยเฉพาะ  ::)


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: Metallica ที่ 26 พฤศจิกายน 2009 | 11:32:07 PM
1. Metallica - Black Album
2. Metallica - And Justice For All
3. Dream Theater - 2005 Dark Side Of The Moon
4. Sonata Arctica - Ecliptica
5. Steve Vai - Mystery Tracks Archives, Vol. 3
6. Shadow Gallery - Carved In Stone 1997
7. DragonForce - Inhuman Rampage 2005
8. John Norum - Total Control (1987)
9. Dokken - The Very Best Of Dokken (1999)
10.  ไตรภาค - The Olarn Project , The Rain , มาโนช พุฒตาล.

 ปล. ไม่รู้ว่าถ้าวงเดียวกันแต่คนคละอัลบั้มจะนับรวมกันไหมคะ เลยใส่แบบนี้ไปก่อน อิอิ ก็อีกเช่นเคยค่ะบางวงก็เหมือนนอกคอกอีกตามเคยว่าไม่ได้อยู่ในกลุ่ม โปรเกรสซีฟ ขอบคุณเว็ปนี้นะคะทำให้ได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับแนวเพลงและอะไรใหม่ๆอีกเยอะมากๆๆ และก็ขอบคุณ คุณเหน่งหรือเหม่งนะจำไม่ได้แฮะ โทษทีค่ะ ได้ความรู้เยอะมากจากบล็อคคุณ น่านับถือมากๆเป็นคนที่ฟังเพลงและรู้รายละเอียดเยอะมากๆค่ะ น่านับถือๆค่ืะ  :)


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ ที่ 27 พฤศจิกายน 2009 | 08:02:00 AM
อ้างถึง
ปล. ไม่รู้ว่าถ้าวงเดียวกันแต่คนคละอัลบั้มจะนับรวมกันไหมคะ เลยใส่แบบนี้ไปก่อน อิอิ ก็อีกเช่นเคยค่ะบางวงก็เหมือนนอกคอกอีกตามเคยว่าไม่ได้อยู่ในกลุ่ม โปรเกรสซีฟ ขอบคุณเว็ปนี้นะคะทำให้ได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับแนวเพลงและอะไรใหม่ๆอีกเยอะ มากๆๆ และก็ขอบคุณ คุณเหน่งหรือเหม่งนะจำไม่ได้แฮะ โทษทีค่ะ ได้ความรู้เยอะมากจากบล็อคคุณ น่านับถือมากๆเป็นคนที่ฟังเพลงและรู้รายละเอียดเยอะมากๆค่ะ น่านับถือๆค่ืะ

จริงๆคนที่เป็นเจ้าของบล๊อก Rebirthera คือพี่ -Wisss- ที่เล่นบอร์ดนี้เช่นกันครับ ผมแค่ไปแจมๆเล็กๆน้อยๆเท่านั้นเอง  :D


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: Metallica ที่ 27 พฤศจิกายน 2009 | 09:24:46 AM
อ้างถึง
ปล. ไม่รู้ว่าถ้าวงเดียวกันแต่คนคละอัลบั้มจะนับรวมกันไหมคะ เลยใส่แบบนี้ไปก่อน อิอิ ก็อีกเช่นเคยค่ะบางวงก็เหมือนนอกคอกอีกตามเคยว่าไม่ได้อยู่ในกลุ่ม โปรเกรสซีฟ ขอบคุณเว็ปนี้นะคะทำให้ได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับแนวเพลงและอะไรใหม่ๆอีกเยอะ มากๆๆ และก็ขอบคุณ คุณเหน่งหรือเหม่งนะจำไม่ได้แฮะ โทษทีค่ะ ได้ความรู้เยอะมากจากบล็อคคุณ น่านับถือมากๆเป็นคนที่ฟังเพลงและรู้รายละเอียดเยอะมากๆค่ะ น่านับถือๆค่ืะ

จริงๆคนที่เป็นเจ้าของบล๊อก Rebirthera คือพี่ -Wisss- ที่เล่นบอร์ดนี้เช่นกันครับ ผมแค่ไปแจมๆเล็กๆน้อยๆเท่านั้นเอง  :D


....แหะๆ แต่ก็มีความร้เรื่องเพลงมากอยู่ดีล่ะคะ สังเกตุจากกระทู้ต่างๆหรือการพูดคุยในเรือ่งเพลง ขออนุญาติพี่ -Wisss- ตรงนี้เลยดีกว่าค่ะไว้จะขอไป copy ความรู้ดีๆในบล็อคนะคะ  :-[  :) :-*


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: .. polotoon .. ที่ 27 พฤศจิกายน 2009 | 10:05:31 AM

 ปล. ไม่รู้ว่าถ้าวงเดียวกันแต่คนคละอัลบั้มจะนับรวมกันไหมคะ เลยใส่แบบนี้ไปก่อน อิอิ ก็อีกเช่นเคยค่ะบางวงก็เหมือนนอกคอกอีกตามเคยว่าไม่ได้อยู่ในกลุ่ม โปรเกรสซีฟ ขอบคุณเว็ปนี้นะคะทำให้ได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับแนวเพลงและอะไรใหม่ๆอีกเยอะมากๆๆ และก็ขอบคุณ คุณเหน่งหรือเหม่งนะจำไม่ได้แฮะ โทษทีค่ะ ได้ความรู้เยอะมากจากบล็อคคุณ น่านับถือมากๆเป็นคนที่ฟังเพลงและรู้รายละเอียดเยอะมากๆค่ะ น่านับถือๆค่ืะ  :)

คุณ Mettalica ไม่ต้องตะขิดตะขวงใจอีกต่อไปเถิดนะครับ ถึงจะไม่ได้ชอบ Prog เป็นหลัก แต่ชอบดนตรี และชอบ Prog อยู่นิดก็เพียงพอแล้วล่ะครับ เข้ามาคุยได้สบายๆเลยครับ ทุกคนยินดีต้อนรับอยู่แล้วครับ  :D


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: Fog ที่ 27 พฤศจิกายน 2009 | 10:40:45 AM
มาแก้ลิสต์หน่อยละกัน

1. Aqualung - S/T (6 Years)
2. Ulver - Shadows of the Sun (2 Years)
3. John Zorn - Six Litanies for Heliogabalus (approx. 2 Years)
4. David Sylvian - Dead Bees on a Cake (3 Years)
5. Steven Wilson - Insurgentes (1 Year)
6. Pain of Salvation - Scarsick (2 Years)
7. Cannibal Corpse - Tomb of the Mutilated (5 Years)
8. John Coltrane - A Love Supreme (3 Years)
9. Backstreet Boys - Millenium (9 Years)
10. Prince - Musicology (6 Years)

อัลบั้มที่ถูกตัดออก
Dream Theater - Scenes from a Memory ฟังจนเบื่อละ อีกอย่างคือผมชอบซาวด์กีต้าร์ดุๆแบบชุดหลังๆมากกว่าด้วย
Coldplay - Viva La Vida เหตุผลสั้นๆ เพลงดีเกินไป
Psyopus - Our Puzzling Encounters Considered เหตุผลง่ายๆ ไม่มีที่ว่างพอให้ใส่นั่นเอง จริงๆงานชุดนี้เป็นหนึ่งในงานที่ฟังบ่อยมากอีกหนึ่งชุด
Muse - Absolution, Black Holes & Revelations เหตุผลเดียวกับ Psyopus นั่นละ
The Flower Kings - Paradox Hotel


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ ที่ 27 พฤศจิกายน 2009 | 12:07:02 PM
พี่กิตแน่ใจเหรอครับกับลิสต์นี้ อย่าลืมข้อแนะนำของกระทู้นี้ไปเชียวนะครับ  :D

อ้างถึง
2. เป็นไปได้ควรเน้นอัลบั้มที่ "ผูกพัน" จริงๆ คือฟังและหลงรักมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว และอัลบั้มเหล่านั้นยังเป็นอัลบั้มโปรดในดวงใจอยู่เสมอมาจนถึง ณ วันนี้ เป็นไปได้อยากให้เป็นอัลบั้มที่หลงรักมาอย่างต่ำเป็นเวลา 1 ปี ถ้าจะให้ดีก็ควรจะ 2-3 ปีขึ้นไป





หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: ATTHAKORN ที่ 15 ธันวาคม 2009 | 10:54:40 PM
ของผมส่วนใหญ่ ฟังมาตั้งแต่อยู่มหา'ลัย 18 ปีแล้ว ยังถอนตัวไม่ออกเลย
มีแต่ถลำลึก (เปลืองตังค์) มากขึ้นเรือยๆหลังจากมีเงินเดือนเป็นของตัวเอง อิอิ

   1. God Machine อัลบั้ม Scenes from the second storey (16ปี)
ชุดนี้ ออกปี 1993 เป็นอัลบั้มแรกของวง ในยุคกรั๊นจ์รุ่งเรืองสุดๆ   ( ซึ่งตายไปพร้อม Nirvana ) :'( :'( ฟังตั้งแต่ออกเป็นเทปลิขสิทธิ์ในบ้านเรายุคนู้นเลย ยังฟังอยู่จนทุกวันนี้ เพิ่งหาเป็นซีดีมาได้ในราคาที่แพงเหลือเชื่อ  ใครจะคิดว่าปัจจุบันอัลบั้มนี้กลายเป็นของหายาก ราคาแพง โดยเฉพาะแผ่นเสียงซึ่งออกเป็น แผ่นคู่ แพงติดลมบนไปแล้ว ในEbay ราคาจับไม่ลงจริงๆ อย่างต่ำ 150 US dollars ส่วนซีดีราคาต่ำสุดก็ 40-80 US dollars (ยังไม่รวมส่ง) หุหุ

   2. God Machine อัลบั้ม One last laugh in a place of dying (15ปี)
เป็นอัลบั้มที่ 2 ซึ่งเป็นอัลบั้มสุดท้าย ปี 1994 แตกวงหลังจากมือเบสตายไปจากโรคมะเร็งในสมอง ปกอัลบั้มสีขาวล้วนเพื่อไว้อาลัยแก่มือเบสผู้จากไป Jimmy Fernandez ดนตรียังเยียมเหมือนเดิม ฟังเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ  นี่ก็เป็นหนึ่งในอัลบั้มหายากและราคาแพงหูฉี่ยิ่งกว่าอัลบั้มแรกอีก 2 เท่า !!! เหอ เหอ เหอ

   3. Gang of four อัลบั้ม Entertainment ! (14ปี)
สุดยอดวงโพสท์พั้งค์จากอังกฤษ อัลบั้มออกปี 1979 ดนตรีฟั้งค์-พังค์ แปลกแหวกแนว (ในยุคนู้น) สร้างความฮือฮาและความขัดแย้งในหมู่นักกีตาร์รุนใหม่และพวกหัวโบราณได้ไม่น้อย ด้วยเสียงกีตาร์คมดุจใบมีดโกนของ Andy Gill เสียงเบสสุดเท่ห์ของ Dave Allen ทำให้ผมรักการเล่นเบสจนทุกวันนี้ ใครเกลียดพวกเขาคงเกลียดเข้าใส้ แต่ถ้าใครรักคงยากจะถอนตัว...เหมือนผม ::)
 
   4. Public Image Limited อัลบั้ม Metal Box (9 ปี)
สุดยอดโพสท์พังค์อีกวง อัลบั้มออกปี 1979 เสียงเบสเด่นเป็นเอกลักษณ์พอๆกับเสียงร้องของ Johnny Rotten อัลบั้มที่ควรฟังด้วยแผ่นเสียงเป็นอย่างยิ่ง

   5. The Beatles : Please Please Me (อย่างต่ำ 25ปี)

   6. The Beatles : With The Beatles (อย่างต่ำ 25ปี)

   7. The Beatles : Hard Days Night (อย่างต่ำ 25ปี)

   8. The Beatles : White Album (อย่างต่ำ 25ปี)
 
 อัลบั้มที่ 5-8 อันนี้ฟังตั้งแต่ประถมเลยครับ พ่อเปิดให้ฟังในรถยนต์ทุกเช้าตอนไปโรงเรียน ทั้ง 4 album นี้ ใครไม่รัก...ยกมือขึ้น

   9. Red hot chilli peppers : อัลบั้ม Blood Sugar Sex Magic ( 15 ปี)
อัลบั้มสุดฮ๊อทในช่วงพี้กของพวกเขาใน ปี 1991 ด้วยเสียงเบสของ Flea อีกแหละครับที่ทำให้เพลงของวงนี้สุดยอดดด  อัลบั้มที่ฟังมาแล้วไม่ต่ำกว่า 100 รอบ :o :o :o

   10. Shonen Knife อัลบั้ม Happy Hour ( 10ปี)
 ใครจะคิดว่าวง 3 ชิ้นสาวล้วนจากโอซาก้าวงนี้ จะเป็นขวัญใจของ Sonic Youth และ Nirvana !!! ใครจะคิดว่าวงที่เขียนเนื้อเพลงไร้สาระต๊องๆวงนี้ จะมีชีวิตยืนยาวมากว่า 30 ปี !!! และยังออกอัลบั้มอยู่จนปัจจุบัน
อัลบั้มนี้เป็นชุดที่ 10 ของวง ออกปี 1998 ซึ่งผมได้ฟังเป็นชุดแรก ติดใจจนต้องตามหาชุดเก่าๆมาฟังจนครบหมด...และทำให้อยากมีแฟนเป็นสาวญี่ปุ่น อิอิอิ


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: TRON ที่ 15 ธันวาคม 2009 | 11:07:56 PM
ดีใจมากๆที่ได้เจอแฟนพันธ์แท้ The God Machine ในเมืองไทยครับ ผมชอบวงนี้ตั้งแต่ปี 1993 แต่ไม่รู้จะไปหาคนชอบได้ที่ไหนตลอดสิบกว่าปีมานี่ ทุกวันนี้ผมยังเก็บซีดีอัลบั้มทุกชุด ทุกอีพี และทุกซิงเกิ้ลของวงครับ ส่วนงานของนักร้องนำในชื่อ Sophia ก็ไล่เก็บมาได้เกือบครบเหมือนกัน

http://www.thaiprog.net/webboard/index.php?topic=3131.0

http://www.thaiprog.net/webboard/index.php?topic=1265.30

อัลบั้มทั้ง 2 ของ The God Machine ติดอันดับอัลบั้ม Alternative Rock ยอดเยี่มแห่งยุค 90's ในบางโพลด้วย ถึงแม้ผมว่าอันดับน่าจะดีกว่าที่เป็น อย่างน้อยอัลบั้มแรก SFTSS น่าจะอยู่เหนืออัลบั้มสอง OLLIAPOD ถึงแม้อัลบั้มที่สองจะทำออกมาได้ดีเช่นกัน  :D

http://www.thaiprog.net/webboard/index.php?topic=2442.msg50181#msg50181



หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: JKNoremorse ที่ 16 ธันวาคม 2009 | 12:40:36 PM
ดีใจมากๆที่ได้เจอแฟนพันธ์แท้ The God Machine ในเมืองไทยครับ ผมชอบวงนี้ตั้งแต่ปี 1993 แต่ไม่รู้จะไปหาคนชอบได้ที่ไหนตลอดสิบกว่าปีมานี่ ทุกวันนี้ผมยังเก็บซีดีอัลบั้มทุกชุด ทุกอีพี และทุกซิงเกิ้ลของวงครับ ส่วนงานของนักร้องนำในชื่อ Sophia ก็ไล่เก็บมาได้เกือบครบเหมือนกัน

http://www.thaiprog.net/webboard/index.php?topic=3131.0

http://www.thaiprog.net/webboard/index.php?topic=1265.30

อัลบั้มทั้ง 2 ของ The God Machine ติดอันดับอัลบั้ม Alternative Rock ยอดเยี่มแห่งยุค 90's ในบางโพลด้วย ถึงแม้ผมว่าอันดับน่าจะดีกว่าที่เป็น อย่างน้อยอัลบั้มแรก SFTSS น่าจะอยู่เหนืออัลบั้มสอง OLLIAPOD ถึงแม้อัลบั้มที่สองจะทำออกมาได้ดีเช่นกัน  :D

ว่าง ๆ รบกวนพี่ Tron จัดภาพของสะสมของ The God Machine ให้ด้วยนะครับ
เป็นวงที่แทบจะไม่เคยได้ยิน หรือการกล่าวถึงเลย

http://www.thaiprog.net/webboard/index.php?topic=2442.msg50181#msg50181




หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: TRON ที่ 16 ธันวาคม 2009 | 01:40:15 PM
   2. God Machine อัลบั้ม One last laugh in a place of dying (15ปี)
เป็นอัลบั้มที่ 2 ซึ่งเป็นอัลบั้มสุดท้าย ปี 1994 แตกวงหลังจากมือเบสตายไปจากโรคมะเร็งในสมอง ปกอัลบั้มสีขาวล้วนเพื่อไว้อาลัยแก่มือเบสผู้จากไป Jimmy Fernandez ดนตรียังเยียมเหมือนเดิม ฟังเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ  นี่ก็เป็นหนึ่งในอัลบั้มหายากและราคาแพงหูฉี่ยิ่งกว่าอัลบั้มแรกอีก 2 เท่า !!! เหอ เหอ เหอ

อย่างที่คุณ ATTHAKORN บอกครับ อัุลบั้มแรกว่าแพงแล้ว อัลบั้มที่สองแพงกว่าเสียอีก เพราะมันผลิตมาจำนวนน้อยมากๆมีเฉพาะแผ่นเยอรมันเท่านั้น ผมดีใจที่ผมได้แผ่นนี้ในเมืองไทยในราคาปกติเมื่อนานมาแล้ว ถ้าจำไม่ผิดได้จากร้าน Power Music สาขาสยามครับ ตอนเจอนี้แทบตระคุบไม่ทันเลย พอมาดูราคาในอีเบย์ก็สูงแบบเกินร้อยเหรียญกันเลย ชอบปกอัลบั้มเป็นกระดาษหยาบๆสวยดีครับ หลังจากนั้นก็ดันไปเจอเทปที่ร้านโดเรมีเก็บไว้อีก เรียกว่าเป็นม้วนสุดท้ายจริงๆ เลยซื้อมาเปิดประมูลในอีเบย์ซะเลย  ;D


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: tammy01 ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2010 | 05:36:59 PM
Linda Ronstadt - Hasten Down the Wind
Enya  - The Memory of Trees
Mary Black  - Wonder Child
Celine Dion  - Falling into You
Joan Baez  - Diamonds & Rust
Yolanda Adams - Believe
Beth Nielsen Chapman - Sand and Water
Emmylou Harris  - Cowgirl's Prayer
Tammy Wynette  - Tears of Fire: The 25th Anniversary Collection
Suzy Bogguss and Chet Atkins  - Simpatico


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: kongbei ที่ 09 มีนาคม 2010 | 11:45:51 AM




   3. Gang of four อัลบั้ม Entertainment ! (14ปี)
สุดยอดวงโพสท์พั้งค์จากอังกฤษ อัลบั้มออกปี 1979 ดนตรีฟั้งค์-พังค์ แปลกแหวกแนว (ในยุคนู้น) สร้างความฮือฮาและความขัดแย้งในหมู่นักกีตาร์รุนใหม่และพวกหัวโบราณได้ไม่น้อย ด้วยเสียงกีตาร์คมดุจใบมีดโกนของ Andy Gill เสียงเบสสุดเท่ห์ของ Dave Allen ทำให้ผมรักการเล่นเบสจนทุกวันนี้ ใครเกลียดพวกเขาคงเกลียดเข้าใส้ แต่ถ้าใครรักคงยากจะถอนตัว...เหมือนผม ::)
 


อัลบั้มนี้เดินเบสดีและมีเอกลักษณ์ครับ ดนตรีก็โอเค ผสมผสานความเป็นพังค์กับแนวอื่นได้ลงตัว


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: Layla F Mulder ที่ 14 มีนาคม 2010 | 04:41:46 PM
มาอัพเดตหน่อย Prog, Fusion แทบไม่เหลือแล้ว ส่วน Plastic Ono Band ก็สลับเอา White Album ขึ้นมาแทน

10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของ Agent Fox Mulder
1. Pink Floyd - Wish You Were Here (10 Years - ม.ต้น)
2. Derek & The Dominos - Layla (9 Years - ม.ต้น)
3. Fleetwood Mac - Rumours (6 Years - ม.ปลาย)
4. Eric Clapton - From The Cradle (6 Years - ม.ปลาย)
5. John Lennon - Plastic Ono Band (5 Years - ม.ปลาย) >> The Beatles - White Album (6 Years - ม.ปลาย)
6. Jeff Beck - Blow By Blow (5 Years - ม.ปลาย)
7. Eagles - Hotel California (5 Years - ม.ปลาย)
8. Norah Jones - Come Away With Me (5 Years - ม.ปลาย)
9. Robert Plant & Alison Kruass - Raising Sand (2 Years - มหาวิทยาลัย)
10. Neil Young - Harvest (1 Year - มหาวิทยาลัย)

อัลบั้มที่โดนตัดออก 10 ชุด
Queen - A Night At The Opera (11 Years - ม.ต้น)
Pink Floyd - Dark Side of The Moon (10 Years - ม.ต้น)
Dream Theater - Metropolis Pt. 2: Scenes From A Memory (7-8 Years - กึ่ง ม.ต้น ม.ปลาย)
The Beatles - White Album (6 Years - ม.ปลาย) >> John Lennon - Plastic Ono Band (5 Years - ม.ปลาย)
Yes - Fragile (5 Years - ม.ปลาย)
Roger Waters - Amused To Death (5 Years - ม.ปลาย)
Led Zeppelin - Physical Graffiti (5 Years - ม.ปลาย)
Emerson, Lake & Palmer - Brain Salad Surgery (5 Years - ม.ปลาย)
Mahavishnu Orchestra - Birds of Fire (4 Years - มหาวิทยาลัย)
Crosby, Stills, Nash & Young - Deja Vu (3 Years - มหาวิทยาลัย)
Bob Dylan - Blood on The Tracks (5 Years - ม.ปลาย)
Jackson Browne - Late for the Sky (1 Year - ทำงาน)
Pink Floyd - The Division Bell (10 Years - ม.ต้น)
Dire Straits - Brothers in Arms (1 Year - ทำงาน)


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: TRON ที่ 14 มีนาคม 2010 | 11:34:20 PM
Dire Straits - Brothers in Arms (1 Year - ทำงาน)

ตอนเขียนครั้งแรกก็ลืมอัลบั้มนี้ไปครับ ผูกพันธ์มากเหมือนกันเพราะเป็นแผ่นเสียงแผ่นแรกที่ซื้อเองด้วย ขอแก้ไขด้วยคน

1. Pink Floyd - The Wall (26 years ago)

2. Tears For Fears - Songs From The Big Chair 24 years ago)

3. Dire Straits - Brothers In Arms (23 years ago)

4. A-ha - Scoundrel Days (22 years ago)

5. Red Box - The Circle & The Square (23 years ago)

6. Red Box - Motive (18 years ago)

7. The Sundays - Blind (16 years ago)

8.  Nine Inch Nails - The Downward Spiral (15 years ago)

9. Red House Painters - Rollercoaster14 years ago)

10. Sigur Ros - With A Buzz In Our Ears We Play endlessly (1 year ago)
     จริงๆอันดับ 10 นี่มีลุ้นเปลี่ยนแปลงอีกครั้งถ้างานเดี่ยวของ Jonsi ทำให้ผมลืมโลกนี้ได้


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: Mad.. ที่ 15 มีนาคม 2010 | 11:23:34 PM
 :) ของผม มีหลายวงเลยครับ  อันดับ 1 ที่เปลี่ยนชีวิตจะป๊อบหวานแหววเป็นร็อค-เมทั่ล

1.) DEZEMBER - บาป (14 ปี) นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยครับที่ผมฟังเพลงเมทั่ล  จากที่คิดว่าหนวกหู  ทุกวันนี้แม้เทปจะยืดไปแล้วแต่ก็มีซีดีเก็บแทน  ชอบครับ  :o

2.) LOSO - LO-SOCIETY (น่าจะ 15 ปีแล้วมั้ง) เป็นอัลบัมที่เจ๋งมากของโลโซ  ฟังแล้วนึกถึงพี่เสก สมัยรุ่งๆไม่ป๊อบหวานแหววน้ำเน่าแบบในปัจจุบัน  >:(

3.) X-JAPAN - Silent Jealousy (14 ปี) เป็นครั้งแรกที่ได้ฟังเพลงเมทั่ลผสมกับเครื่องสาย  เพลง Title Track เป็นเพลงเร็วที่มันที่สุดและเำพราะที่สุดแล้วของผมสมัยนั้น  ยิ่ง Say Anything เพลงปิดอัลบัมนี่  ตายไปเลยครับ  ;)

4.) Siamshade - Siamshade IV (13 ปี) ซื้อเพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นวงไทย (Siam) แต่ฟังแล้วมันส์มากครับ  เพลงร็อค-ฮาร์ดร็อคมันส์ๆเต็มอัลบัม  ไม่เหมือนวง J-Rock ที่เคยฟังมาเลยครับ ฟังจนร้องได้ทั้งๆที่อ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออกซักคำ  :D

5.) Immolation - Failure for Gods (12 ปี) อัลบัมแนวเดธเมทั่ลต่างประเทศอัลบัมแรกที่ซื้อ  ซาวน์ทึบๆมืดเหมือนอัดเสียงมาไม่ดี  แต่ได้อารมณ์มากครับ  จินตนการถึงวันล้างโลกได้เลย    :)

6.) Machine Head - Burning Red (10 ปี) เมทั่ลลูกผสม  สะใจมาก  วัยกำลังกลัดมัน  อัลบัมนี้เหมือนได้ปลดปล่อยพลังดิบในตัวเองลยครับ  แถมเพลงอย่าง From this day ผมเปิดในงานปีใหม่  โดดกันยับเลย  ;D

7.) The Pillows - Little Buster (6 ปี) วงอัลเทเนทีฟ  ป็อบ  จากญี่ปุ่น  จริงๆผมได้ฟังเพลงเขาจาก anime เรื่องนึง  มันโดนใจ จนไปขวนขวาย MP3 มาฟังจนได้  และในที่สุดเมื่อปีกลาย ได้ไปญี่ปุ่น  ก็ได้อัลบัมนี้กลับมาด้วยราคา 500 เยน Used ;D

8.) Silverchair - Neon Ballroom (11 ปี) ผมอ่านจากหนังสือ Crossroads วิจารณ์อัลบัมนี้ไว้ดีมาก  จนเมื่อเทปออกแถวบ้านผมไม่รีรอสอยมาฟัง  แค่เพลงแรก Emotion Sickness ผมก็ตายแล้วครับ อลังการณ์  ฮึกเหิมและหลอน  ครั้งแรกในชีวิตเลยครับที่รูสึกว่าฟังเพลงแล้วหลอน  ไม่น่าเชื่อว่าตอนนั้นพวกเขาอายุไม่ถึง 20 ด้วยซ้ำ นี่อาจเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ Silverchair ทำอัลบัมได้ยิ่งใหญ่ขนาดนี้  แม้แต่ Diorama อัลบัมต่อมาที่พวกเขากลายเป็น Clone-Queen ไปแล้วก็ยังไม่เทียบเท่าอัลบัมนี้ครับ อัลบัมนี้เป็นสิ่งที่เป็น Silverchair mี่สุดเท่าที่พวกเขาเคยทำได้  และไม่สามารถทำได้อีก

9) Manic Street Preacher - Send Away The Tiger (3 ปี) ผมเพิ่งมารู้จักแมนิคจากอัลบัมนี้เองครับ  เพิ่งรู้ว่าวงดนตรีวงนี้อยู่มาจะ 20 ปีแล้ว เนื่องจากเป็นอัลบัมแรกที่ได้ฟัง  ผมจึงประทับใจที่สุดครับ Your Love alone It's not Enough น่ารักมาก

10.) OASIS - What's the story (Morning Glory) (10 ปี) อัลบัมที่ดีที่สุดของพวกเขา  โดนทุกเพลงครับ  ที่พิเศษคือ Champagne Supernova อันล่องลอยเกรี้ยวกราด  ซึ่งเขาไม่เคยทำเพลงแนวนี้อีกเลยหลังจากชุดนี้  เสียดายมากๆ   


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: เพชร วิปลาส ที่ 16 มีนาคม 2010 | 06:34:43 AM
กระทู้นี้มันอ่านสนุกตรงภาคบรรยายนี่หล่ะครับ  :D

ปล. รอท่านผีมาเขียนให้เสร็จนานแล้วเนี่ย... ::)


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: Analog Kid ที่ 16 มีนาคม 2010 | 10:30:05 AM
ขอค่อยๆตอบไปนะครับ

1. The Wall - Pink Floyd
  - อัลบั้มที่ทำให้ผมเป็นคนอย่างที่ผมเป็นจนถึงทุกวันนี้ ประมาณ "the album that changed your life"  ฟังครั้งแรกตอนอยู่ ม. 2
และเป็นอัลบั้มที่ผมฟังมากที่สุดในชิวิต น่าจะเกิน 500 ครั้งแล้วมั้ง ตอนนี้ไม่ค่อยได้ฟังแล้ว

2.  Seconds Out - Genesis
  - เป็นอีกอัลบั้มที่ฟังได้นานที่สุด ตั้งแต่ฟังครั้งแรก ประมาณ 20 กว่าปีที่แล้ว ทุกวันนี้ยังเอาเปิดฟังอยู่ ทำให้เริ่มพบว่า ตั้งแต่ฟังดนตรี Prog มาเกือบ 30 ปี อาจจะเป็นวงนี้แล้วมั้งที่ผมชอมมากที่สุด

เดี๋ยวมาต่อ

3. Fables - Jean Luc Ponty
 - จำได้ว่า เป็นเทปพีค็อก และเพลงแรก Infinite Persuite เป็นอะไรที่ประทับใจมาก เผอิญเป็นคนชอบเสียงซินท์อยู่แล้ว และเพลงนี้ Ponty เล่นไวโอลินไฟฟ้าเข้ากับเสียงซินท์ได้มันมากๆ  เพลงอื่นๆก็ดีมากเช่นกัน ที่ชอบชุดนี้เพราะการใช้ซินท์มา ทำได้ดีจริงๆ


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน แ
เริ่มหัวข้อโดย: ToRaMaN ที่ 14 เมษายน 2010 | 07:14:14 AM
เป็นกระทู้ที่ทรมานใจมากครับ...ต้องใช้เวลาอยู่นานทีเดียว กว่าที่จะตัดสินใจได้ว่า 10 อัลบั้มนั้นคือชุดไหนบ้าง
แต่ในที่สุด ผมก็ทำเสร็จครับ...หลักการเลือกของผม อ้างจากการที่อัลบั้มไหนบ้างที่เปิดประตูผมสู่โลกของดนตรีแนวนั้นๆ...
ส่วนอีก 10 อัลบั้มที่จะเอาขึ้นมาอ้างว่าตัดออกเพราะอะไรคือชุดไหนบ้างนี่ ขอเวลาตัดสินใจอีกสักพักจะมาเพิ่มครับ...
มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ ^^

1. Guns 'n Roses - Appetite for Destruction (ซื้อตั้งแต่ ป.6 --> ร่วม 13 ปีแล้วครับ)

(http://dkpresents.files.wordpress.com/2008/08/b000000oqf01_sclzzzzzzz_.jpg)

อัลบั้มนี้ยกให้เป็นอันดับ 1 ตลอดกาลในใจผมครับ...ผมเคยเขียนบรรยายความชื่นชอบที่มีต่ออัลบั้มนี้ไว้ในบล็อกนี้อย่างหมดเปลือก
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=toraman&date=02-02-2005&group=1&gblog=1 (http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=toraman&date=02-02-2005&group=1&gblog=1)
ลองเข้าไปอ่านดูได้ครับ ตอนที่เขียนตอนนั้น ช่วง Entrance เสร็จใหม่ๆ ปี 48 จะทราบว่าผมหลงรัก GNR ตั้งแต่ 7 ขวบ...
เพลงที่ทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนมาบ้าเพลงร็อครวมทั้งเริ่มหัดเล่นกีต้าร์ ก็คือ Sweet Child O'Mine...ต้องขอบคุณ Slash จริงๆ
ทุกวันนี้เวลาไปผับไหนแล้วมีเล่นเพลงนี้ ผมจะลุกขึ้นมาโยกหัวและร้องตามอย่างไม่อายใครทุกครั้ง
จริงๆผมอยากตะโกนให้ทุกคนรู้ด้วยซ้ำว่า "นี่น่ะเพลงโปรดอันดับ 1 ของผมโว้ยย"  555+


2. Michael Jackson - Dangerous (พี่สาวซื้อตั้งแต่ผมอายุ 5 ขวบ (ป.1) --> ร่วม 18 ปีแล้วครับ)

(http://www.hughie.com/images/Dangerous.JPG)

อันดับ 2 คงต้องยกให้เป็นอัลบั้ม Dangerous ของ MJ ซึ่งบอกตรงๆว่า มันเป็นครั้งแรกที่ทำให้ผมคลั่งไคล้ศิลปินสักคนอย่างจริงจัง
ผมฝึกร้องเพลงของ MJ รวมทั้งเต้นตามทุกครั้งที่พี่สาวผมเปิด MV ของ MJ ซึ่งเทปเพลงชุดนี้ ต้องซื้อถึง 2 ม้วน เพราะผมและพี่สาว
กระหน่ำกันฟัง แบบเปิดแล้วเปิดเล่า Repeat ไปมาทั้งวัน จนเทปยืดจนขาด เลยต้องไปซื้อมาอีกม้วนนึง และยังเก็บไว้จนถึงวันนี้
ทุกวันนี้ ผมอาศัยฟัง CD เอา แล้วก็ Rip ลง iPod ฟังเป็นประจำ บอกตรงๆว่า อัลบั้มนี้ ยังฟังร่วมสมัยจนถึงปัจจุบัน ด้วยความที่มัน
มีเพลงที่เต็มไปด้วย Sound ดนตรี Techno ที่ล้ำสมัยกว่าเพลงรุ่นเดียวกัน บวกกับสไตล์ฮิปฮอปที่นิยมมากในปัจจุบัน
รวมทั้งสไตล์การร้องของไมเคิล ก็มีอิทธิพลอย่างมากต่อนักร้องรุ่นต่อๆมา...นอกจากนี้ที่สำคัญที่สุด มือกีต้าร์รับเชิญอัลบั้มนี้...
คือ Slash!!...ตอนนี้เพลงที่ผมมักจะตั้งไว้ใน Playlist ตลอดก็คือ Give In to Me ฟังแล้วจะร้องไห้ครับ คิดถึง MJ มาก R.I.P T^T


3. Metallica - Metallica (Black Album) (ซื้อตอน ม.1 --> 12 ปี)

(http://i176.photobucket.com/albums/w196/komodo_84/1165577557_Metallica-BlackAlbum.jpg)

แม้ว่าปัจจุบันจะฟังอัลบั้ม Master of Puppet และ ...And Justice for All บ่อยกว่า แต่ถ้าถามถึงอิทธิพลต่อชีวิตผมล่ะก็...
ต้องอัลบั้มนี้เท่านั้นครับ...ถ้าขาดมันไป ผมคงไม่ได้ฟัง Heavy Metal จำพวก Extreme Music ทั้งหลาย...
มันคืออัลบั้มกรุยทางให้กับการเปิดทรรศนะใหม่ๆ ต่อดนตรีหนักๆ จำพวก Speed/Thrash Metal
เพราะหลังจากผมได้ฟังอัลบั้มนี้ ผมก็ซื้อ Master of Puppet ตามหลังไม่นานนัก (เนื่องจากตอนนั้นผมจะยึดบทความ
แนะนำอัลบั้ม 25th Essential จากนิตยสาร CrossRoad เป็นหลัก) และหลังจากนั้นผมก็กลายเป็นพวก Metal Head ไปเลย...
พูดถึงอัลบั้มนี้ แม้จะเป็นอัลบั้มที่แฟน Metallica ไม่ชอบใจนัก แต่สำหรับผม ผมว่าถ้าขาดอัลบั้มนี้ไป โลกเมตัลคงจมหายไป
กับกระแส Alternative แล้วล่ะครับ มันเป็นอัลบั้มที่ช่วยพยุงเมตัล ให้ลอยอยู่ใน Mainstream ได้บ้าง แต่อาจจะในรูปแบบที่
แตกต่างไปจากเดิมเท่านั้นเอง ทั้งนี้ก็เพื่อความอยู่รอดครับ ผมยอมรับในจุดนี้เลยว่า Metallica และโปรดิวเซอร์ Bob Rock นั้นฉลาดมากครับ
ต้องขอบคุณอัลบั้มนี้ที่ช่วยทั้งผม รวมทั้งโลกดนตรีเมตัลต้นยุค 90's ให้อยู่รอดมาได้ ^^ 


4. Nirvana - Nevermind (ซื้อตอนม.1 --> 12 ปี)

(http://static.rateyourmusic.com/album_images/bed5022424fb78d220a777b2665bb502/126.jpg)

แม้ว่าผมจะชอบ Metal มาก แต่ก็ใช่ว่าผมจะไม่ชอบ Alternative...ผมมักจะเจอบทความที่ Metal Head ด่า Alternative
ด้วยความจงเกลียดจงชังอยู่บ่อยๆ แต่ความจริงแล้ว ทั้งคู่ก็เป็นพี่น้องชาวร็อคกันทั้งนั้น...สำหรับ Nevermind นี้ ผมซื้อมาฟัง
เนื่องจากผมอ่านบทความในนิตยสารหลายเล่ม มีแต่คนพูดถึงอิทธิพลของ Kurt Cobain และวง Nirvana ต่อวัยรุ่นทั่วโลก
ทำให้ผมกระหายที่จะได้สัมผัสเพลงที่มีอิทธิพลต่อวัยรุ่นยุค 90's มากที่สุดก็คือ Smells like teen spirit และหลังจากที่ซื้อมาฟัง
ผมก็เหมือนต้องมนต์สะกด...เพลงทั้งอัลบั้มแม้จะเรียบง่ายแต่เหมือนมีพลังดึงดูดให้กระโดดโลดเต้นแหกปากตาม...
มันทำให้ผมเข้าใจในที่สุด...ว่าทำไมทุกคนถึงบอกว่าอัลบั้มนี้คือ The Must สำหรับชาวร็อค...แม้ว่ามันคือผู้ที่ฆ่าร็อคด้วยกันเอง
อย่าง Heavy Metal ก็ตามที...R.I.P Kurt Cobain


5. KoRn - KoRn (ซื้อตอน ม.2 --> ประมาณ 11 ปี)

(http://3.bp.blogspot.com/_-2Yht5KS6bk/RvgxNhGiNCI/AAAAAAAAAXQ/_Nw8g_UIaV0/s320/korn.JPG)

ในช่วงที่เริ่มฟังเมตัลตอน ม.1 อย่างที่กล่าวไปแล้ว ผมเริ่มบ้า Speed/Thrash ยุค 80's โดยเฉพาะ Big Four แต่อย่างไรก็ตาม
ก็คงจะเมินหน้าหนีกระแสดนตรีในตอนนั้นไม่ได้...เมตัลในตอนนั้นเต็มไปด้วยโลกของ Nu-Metal ที่คนไทยเรียกมันอย่างผิดๆว่า
"Hardcore"...ซึ่งผมเองก็บ้าไปกับเค้าด้วย และซื้ออัลบั้มนี้ตอน ม.2 เนื่องจากติดใจวงดนตรีรุ่นพี่ในโรงเรียนที่เล่นเพลง Blind...
เวลาผ่านไป ผมเริ่มเบื่อกับกระแส Nu-Metal ที่เกลื่อนกลาดและไร้คุณภาพ แต่อัลบั้มนี้ก็ยังคงเป็น 1 ในสุดยอดอัลบั้มของผม...
ต่อมาพอเข้ามาอยู่มหาวิทยาลัย เพลงที่ผมเล่นกับวงก็ไม่พ้นเพลง Blind และทุกคนในวงก็ Enjoy ที่ได้เล่นเพลงนี้มากๆ...
คิดไปคิดมา บางที อัลบั้มนี้ รวมทั้งเพลง Blind อาจจะเรียกได้ว่าเป็นตัวแทนของเมตัลสำหรับคนรุ่นผมก็ได้มั้ง
ผมจึงเชิดชูอัลบั้มนี้เป็นพิเศษครับ ^^ 


6. Dream Theater - Images and Words (ซื้อตอนม.3 --> ประมาณ 10 ปี)

(http://shineanthology.files.wordpress.com/2009/01/dreamtheaterimagesandwords.jpg)

กว่าจะมี Progressive มาซักอัลบั้ม ซึ่งก็แน่นอนครับ ไม่พ้นอัลบั้มนี้จริงๆ...โดยส่วนตัวแล้ว ก่อนหน้าที่จะได้ฟังอัลบั้มนี้
ผมเคยฟัง Dream Theater มาบ้างแค่บางเพลง เพลงโปรดก็คือ Another Day ซึ่งก็มีอยู่ในรวมฮิตเพลง Ballads หลายชุด
ผมเองเริ่มติดใจวงนี้มากขึ้นก็ตอนที่เพื่อนผมที่เป็นมือกีต้าร์วงอื่นบอกให้ลองฟัง Pull Me Under ดู เจ๋งมากๆ ผมเลยหาซื้อ
อัลบั้มนี้มาฟัง แล้วผมก็ต้องทึ่งตะลึงไปพักนึง เนื่องจากไม่เคยฟังเพลงอะไรที่มีภาคดนตรียอดเยี่ยมขนาดนี้มาก่อน...
ทุกส่วนของเพลง ทุกเครื่องดนตรี แทบจะใส่ความสามารถทุกอย่างที่มันพอจะเป็นไปได้ออกมา...ตอนนั้นเองผมก็เพิ่งเข้าใจ
ว่า Progressive Metal มันเป็นฉะนี้นี่เอง และมันก็ยอดเยี่ยมซะจนผมหลงรักมัน...และเปิดประตูให้ผมได้รู้จักและติดตาม
วง Progressive อีกมากมาย จนเป็นแนวดนตรีที่ผมรักมากที่สุดในตอนนี้เช่นเดียวกับทุกท่านครับ ^^


7. Radiohead - OK Computer (ซื้อตอนม.3 --> ประมาณ 10 ปี)

(http://musica.programasfull.com/wp-content/uploads/2008/01/radiohead-ok_computer-frontal.jpg)

ตอนช่วงผมอยู่ม.2-3 เป็นช่วงที่ Internet 56 k เพิ่งเริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตผม...ซึ่งทำให้ผมเองเริ่มเล่นเน็ทมากขึ้น
มีการเข้ากระทู้ในหลายๆเว็บ เล่นแชทมากมายทั้ง MSN, ICQ และในที่สุดก็ได้เข้ามาเล่นใน ห้องดนตรีนอกกระแส
ของ pantip.com ซึ่งตอนนั้นก็ราวๆตอนผมอยู่ม.3 ได้ ในช่วงนั้นผมรู้จัก Radiohead ในแง่ของวง Brit-pop วงหนึ่ง
โดยเคยซื้ออัลบั้มแรกมาฟังแล้วเนื่องจากชอบเพลง Creep ที่อยู่ในอัลบั้มรวมเพลงชุดนึง แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรมาก...
แต่หลังจากเข้ามาอ่านในห้องนอกกระแสจึงทราบว่า Radiohead มีอิทธิพลต่อคนฟังเพลงอินดี้เมืองไทยอย่างมาก
โดยหลายคนยกให้เพลง Paranoid Android เป็นเพลงโปรดที่สุดของตนเอง...ซึ่งตัวผมเองไม่ได้ติดตามจึงไม่เคยฟังเพลงนี้
เลยรีบไปซื้อเทปอัลบั้ม Ok Computer มาฟังทันที ซึ่งก็แน่นอน ผมเองก็หลงรักอัลบั้มนี้เช่นเดียวกับคนอื่นๆ
รวมทั้งได้ติดตามฟังวง Britpop ที่ได้รับอืทธิพลจาก Radiohead อีกหลายวง ที่มาแรงช่วงนั้นก็ Coldplay กับ Muse
ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นวง Alternative ที่มีกลิ่นของ Psychedelic และ Progressive ซึ่งปัจจุบันเราเรียกดนตรีแนวนี้ว่า New-Prog นั่นเอง ^^


8. Death - Symbolic (ซื้อตอนม.3 --> ประมาณ 10 ปี)

(http://black-legion-shop.de/catalog/images/Death%20-%20Symbolic%20-%20CD.jpg)

เป็นอัลบั้มแรกของ Death ที่ผมซื้อมาฟัง...เนื่องจากในช่วงนั้นผมเริ่มบ้า Metal หนักข้อขึ้นเรื่อยๆ และแนวดนตรีที่สนองตัณหา
ของผมได้เป็นอย่างดีก็คือแนว Death Metal ซึ่งอัลบั้มแรกๆของแนวนี้ที่ซื้อก็คือ Sepultura ชุด Arise กับ Obituary ชุด Slowly
We Rot ซึ่งเป็นเทป และ ชุดนี้ถ้าจำไม่ผิดจะซื้อเป็นชุดที่ 3 พร้อมๆกับ Cannibal Corpse ชุด Tomb of Mutilated โดยซื้อเป็น
ซีดีก็อปปี้ของร้าน Hall of Fame...จาก 4 ชุดนี้ ถ้าให้ผมเลือกว่าชุดไหนทรงอิทธิพลต่อผมมากสุดก็ต้องเป็นชุดนี้แน่นอน เนื่องจาก
เมื่อมองตัววงดนตรีแล้ว Death เองก็ถือเป็นต้นแบบของแนวดนตรีนี้ รวมทั้งแนว Technical Death metal ด้วย
นอกจากนี้ นับวัน ผมเริ่มชอบ Death Metal ลดลง แต่ฝักใฝ่ Progressive มากขึ้น ดังนั้น Death ชุดนี้ จึงเป็นอัลบั้มที่ผม Prefer
มากที่สุด...และที่สำคัญ หลังจากทราบข่าวการจากไปของ Chuck Schuldiner ทำให้ผมเชิดชูอัลบั้มนี้มากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายขุม...
R.I.P Chuck T^T


9. Vision of Disorder - Vision of Disorder (ซื้อตอน ม.3 --> ประมาณ 10 ปี)

(http://images.amazon.com/images/P/B000000H4Y.jpg)

เรียกว่าเป็นอัลบั้มกรุยทางให้ผมรู้จักกับพวกแนว Hardcore ที่แท้จริง (ไม่ใช่ Nu-Metal ที่ชอบเรียกผิดๆกัน) โดยอัลบั้มนี้เป็น
อัลบั้มแรกที่ผมสนใจ เนื่องจากได้ฟังเพลง Viola จากอัลบั้มรวมเพลงค่าย Roadrunner ของนิตยสาร Crossroad และเป็นอัลบั้ม
ฮาร์ดคอร์ไม่กี่ชุดที่หาซื้อได้ตามแผงเทป รวมทั้งมีหลายคนแนะนำว่าเพลง Zone Zero ของวงนี้เจ๋งมาก...ซึ่งเมื่อซื้อมาฟังก็ไม่
ผิดหวังเลยครับ มันส์สะใจโยกสนุกทุกเพลง ผมจึงติดใจฮาร์ดคอร์มากเลยซื้อเทปผีของวงอื่นๆอีกหลายวง ที่หาได้ตอนนั้นก็มี
Earth Crisis, Hatebreed ซึ่งล้วนเป็นอิทธิพลสำคัญต่อวงการ Metalcore ในปัจจุบัน นอกจากนี้ก็ยังมีเทปผี Post-Hardcore เจ๋งๆ
อีกหลายวงอย่าง Boysetsfire, Snapcase, Poison the well  หรือ Emocore อย่าง At the Drive-in หรือ Glassjaw ที่ผมโกย
ซื้อมาฟังตอนนั้นและผมก็หลงรักมันสุดๆ แม้ในปัจจุบัน โลกของอีโมและเมตัลคอร์จะน่าเศร้าก็ตาม (มีแต่คนเกลียด) - -"



10. Paradise Lost - Shades of God (ซื้อตอนม.3 --> ประมาณ 10 ปี) ***ขออนุญาติแก้ครับ

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/en/2/21/Paradiselost-shadesofgod.jpg)

ลืมอัลบั้มนี้ไปได้ยังไงก็ไม่ทราบ ส่วน Scorpions - Moments of Glory ผมขอยกไปไว้ใน 10 อัลบั้มที่ถูกคัดออกแทนละกันนะคับ
พูดถึงอัลบั้มนี้ ปัจจุบันผมฟังไม่บ่อยเท่าอัลบั้ม Gothic หรือ Icon ที่ผมมักจะกล่าวสรรเสริญอยู่เสมอ...แต่ถ้าขาดอัลบั้มนี้ ผมก็คง
ไม่มีโอกาสได้ฟังอัลบั้ม Gothic/Doom ต่างๆอีกมากมาย จนกลายมาเป็นอีก 1 แนวดนตรีหลักที่ผมติดตามมาตลอดตั้งแต่เด็ก...
อัลบั้มนี้ เป็นจุดกึ่งกลางระหว่างความโหดแบบ Doom Death ของอัลบั้ม Gothic กับความกระด้างแต่อ่อนโยนลึกๆของ Gothic Metal
ในชุด Icon...เพราะงั้นจะเรียกมันว่า Death ก็พูดได้ไม่เต็มปาก จะเรียกว่า Gothic ก็ไม่เชิงครับ เป็นอัลบั้มที่ฟังแล้วก็ลงตัวดี แต่ไม่สุด
ไปสักทาง ยังไงก็ตาม เวลาได้ฟังมันทีไรก็จะมีความสุขทุกครั้ง ประหนึ่งได้เจอเพื่อนเก่าที่พาเราให้รู้จักกับอัลบั้ม Gothic ดีๆอีกมากมายนั่นเอง ^^
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เดี๋ยวมาต่อ 10 อัลบั้มที่ถูกคัดออกไปนะครับ ขอเวลาอีกซัก 1-2 วัน...
สังเกตว่าไม่มีอัลบั้มเพลงเก่าๆยุค 60's -70's เลย นั่นก็เป็นเพราะว่า ส่วนใหญ่ผมจะฟังรวมฮิตก่อนเลือกซื้ออัลบั้มเต็มครับ
ดังนั้น ส่วนใหญ่จะเ้ป็นอะไรที่ผมไขว่คว้ามาเพื่อสนองความต้องการมากกว่าที่มันมามีอิทธิพลต่อผมเองอย่างอัลบั้มข้างบนครับ...


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: เพชร วิปลาส ที่ 14 เมษายน 2010 | 08:46:16 AM
น้อง ToRaMaN ส่งการบ้านเร็วมากเลย ของผมนี่จำได้ว่านั่งเขียนอยู่เป็นอาทิตย์

รสนิยมการฟังเพลงคล้ายๆกับผมเลยครับ ตรงกันซะสองอัน อันที่ไม่ตรงก็เป็นอัลบั้มที่หัดฟังต่อจากอัลบั้มที่ผูกพัน

   เด็กสมัยนี้โชคดีนะครับ อายุไม่เท่าไหร่ก็ได้ฟังดนตรีดีๆกันแล้ว น้องแค่ม.สามก็ฟังโปรเกรสซีฟ, เดธ กันแล้ว ผมตอน ม.3 นี่ยังไม่พ้นเงา ป๊อป, บอยแบนด์, ฮาร์ดร็อค แบบรสหวานรับประทานง่ายอยู่เลยครับ  ;D


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: ToRaMaN ที่ 14 เมษายน 2010 | 01:47:11 PM
น้อง ToRaMaN ส่งการบ้านเร็วมากเลย ของผมนี่จำได้ว่านั่งเขียนอยู่เป็นอาทิตย์

รสนิยมการฟังเพลงคล้ายๆกับผมเลยครับ ตรงกันซะสองอัน อันที่ไม่ตรงก็เป็นอัลบั้มที่หัดฟังต่อจากอัลบั้มที่ผูกพัน

   เด็กสมัยนี้โชคดีนะครับ อายุไม่เท่าไหร่ก็ได้ฟังดนตรีดีๆกันแล้ว น้องแค่ม.สามก็ฟังโปรเกรสซีฟ, เดธ กันแล้ว ผมตอน ม.3 นี่ยังไม่พ้นเงา ป๊อป, บอยแบนด์, ฮาร์ดร็อค แบบรสหวานรับประทานง่ายอยู่เลยครับ  ;D

ตัวผมก็คิดว่าโชคดีครับ ที่ได้พบดนตรีดีๆมากมายตั้งแต่เด็กๆ แต่เวลาผมมองย้อนกลับมาดูเช่นเดียวกับพี่ ผมก็พบว่าเด็กรุ่นใหม่
สมัยนี้ มีโอกาสมากกว่าผมอีกครับ เมื่อก่อนกว่าจะได้ฟังอัลบั้มเจ๋งๆที่นักวิจารณ์ตามนิตยสารหรือในเว็บ Allmusic.com แนะนำ
ซักชุด ผมต้องไปสั่งแผ่นนอก รอเป็นเดือนๆ โดยเฉพาะ อัลบั้ม Black Metal ของ Venom ที่ตอนนั้นหายากมากๆ รอเกือบปีครับ
หมดเงินเป็นหมื่นๆ สำหรับ Collection CD ที่เก็บไว้ (ซึ่งตอนนี้หลังจาก Rip ลง iPod หมดแล้ว ก็เก็บยาวในห้องนอนบ้านเก่าแล้ว
ครับ ฝุ่นคงเขรอะทีเดียว) ที่เหลือก็ต้องพึ่งเทปผีซีดีเถื่อนของบางร้านที่ก็อปจากแผ่นนอกมาขายแผ่นละ 2-3 ร้อย (คิดว่าแพงแต่
ก็ซื้ออยู่ดีครับ) หรือไม่ก็ซีดีจากชายแดนทางเหนือ ซึ่งก็ช่วยสนองตัณหาได้พอสมควรเลยทีเดียว...แต่เทียบกับปัจจุบันแล้ว
ด้วยอินเตอร์เน็ทที่เร็วปรี๊ดกว่าหลายเท่า เมื่อเทียบกับ 56 k สมัยก่อน ทำให้เด็กรุ่นใหม่ มีเพลงฟังวันนึงหลายอัลบั้ม ซึ่งมากกว่า
ปีนึงของผมเมื่อก่อนซะอีก บวกกับเทคโนโลยี iPod ที่เก็บเพลงได้หลาย GB (เมื่อก่อนผมใช้เครื่องเล่น CD MP3 เวลาไปเที่ยวที
นี่พกกระเป๋าใส่ CD อันบะเร่อ 555+) โลกของเรามันก้าวเร็วแบบไม่หยุดยั้งจริงๆครับ ในตอนนี้ผมก็เริ่มคิดแล้วว่า...
นี่เราเองก็เริ่มแก่แล้วสินะเนี่ย...แหะๆ ^^


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: blueframe ที่ 15 ธันวาคม 2010 | 08:11:34 PM
1. Gun N' Roses : Appetite for Destruction
2. Metallica : The $5.98 E.P.: Garage Days Re-Revisited
3. Metallica : Kill Em' All
4. Dream Theater : Images and Words
5. Pink Floyd : Wish you were here
6. Toto : Hydra
7. White Lion : Big Game
8. Slayer : Live Undead
9. Death : Human
10. Nine Inch Nails : The Downward Spiral

เป็นโจทย์ที่ทำให้ลำบากใจจริงๆ รักพี่เสียดายน้องเลือกยากมากๆ
แต่ทั้งหมดนี้เป็นอัลบัมที่ผมภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าของ ไม่เคยมีความรู้สึกตะขิดตะขวงใจเลยซักครั้งที่หยิบมาฟังแล้วฟังอีกครับ


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: TRON ที่ 15 ธันวาคม 2010 | 09:38:22 PM
1. Gun N' Roses : Appetite for Destruction
2. Metallica : The $5.98 E.P.: Garage Days Re-Revisited
3. Metallica : Kill Em' All
4. Dream Theater : Images and Words
5. Pink Floyd : Wish you were here
6. Toto : Hydra
7. White Lion : Big Game
8. Slayer : Live Undead
9. Death : Human
10. Nine Inch Nails : The Downward Spiral

เป็นโจทย์ที่ทำให้ลำบากใจจริงๆ รักพี่เสียดายน้องเลือกยากมากๆ
แต่ทั้งหมดนี้เป็นอัลบัมที่ผมภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าของ ไม่เคยมีความรู้สึกตะขิดตะขวงใจเลยซักครั้งที่หยิบมาฟังแล้วฟังอีกครับ

ดูแล้วเทสต์ดนตรีของคุณ blueframe เรียกว่าเหมือนเพื่อนๆในเว็บนี้เป๊ะเลยครับ น่าจะมางานมีตติ้งที่จะจัดต้นปีหน้านะครับ จะได้รู้จักหน้าค่าตากันเสียที :D


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: TRON ที่ 26 มกราคม 2011 | 09:47:30 PM
1. Gun N' Roses : Appetite for Destruction
2. Metallica : The $5.98 E.P.: Garage Days Re-Revisited
3. Metallica : Kill Em' All
4. Dream Theater : Images and Words
5. Pink Floyd : Wish you were here
6. Toto : Hydra
7. White Lion : Big Game
8. Slayer : Live Undead
9. Death : Human
10. Nine Inch Nails : The Downward Spiral

เป็นโจทย์ที่ทำให้ลำบากใจจริงๆ รักพี่เสียดายน้องเลือกยากมากๆ
แต่ทั้งหมดนี้เป็นอัลบัมที่ผมภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าของ ไม่เคยมีความรู้สึกตะขิดตะขวงใจเลยซักครั้งที่หยิบมาฟังแล้วฟังอีกครับ

ดูแล้วเทสต์ดนตรีของคุณ blueframe เรียกว่าเหมือนเพื่อนๆในเว็บนี้เป๊ะเลยครับ น่าจะมางานมีตติ้งที่จะจัดต้นปีหน้านะครับ จะได้รู้จักหน้าค่าตากันเสียที :D

เพิ่งมาย้อนเจอกระทู้นี้ ในที่สุดเสาร์นี้ก็จะได้เจอคุณ blueframe เสียที เพิ่งจำได้่ว่ามีอัลบั้ม The Downward Spiral ของ Nine Inch Nails ติดอันดับเหมือนผมเลย :D


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: pickmegadance ที่ 28 มกราคม 2011 | 01:10:34 PM
1. โมเดิร์นด็อก (ป.ปลายหรือเปล่า หรือไม่ก็ม.ต้น)

2. x-japan : jealousy (ม.ต้น)

3. hide : psyence (ม.ต้น)

4. nirvana : nervermind (น่าจะ ม.ปลาย แต่รู้จักหลังเคิร์ตตายไปแล้ว)

5. radiohead : ok computer (ม.ต้น หรือ ม.ปลาย ไม่แน่ใจอ่ะครับ)

6. paradox : summer (ป.ตรี)

7. sigur ros : takk (ป.ตรีปลายๆ หรือป.โทแล้วมั้งครับ)

8. explosions in the sky : the earth is not a cold dead place (หลัง sigur ros หน่อยนึง เบียดมากับชุด those who tell the truth shall die, those who tell the truth shall live forever)

9. yndi halda : enjoy eternal bliss (พร้อมๆ explosions)

10. 65daysofstatic : we were exploding anywat (2010 นี่เองครับ แต่มีอิทธิพลชนิดมาแรงแซงทางด่วน)


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: The Black Tulip ที่ 28 มกราคม 2011 | 07:03:43 PM
เลือกยากมากจริงๆเลย รักพี่เสียดายน้อง จำใจเลือก (น้อง)

1. Pink Floyd_The Wall
2. King Crimson_In The Court of Crimson King
3. Jon and Vangelis_The Friends of Mr. Cairo
4. Peter Gabriel_Up
5. Dire Straits_On Every Street
6. Barclay James Harvest_Live Tapes
7. Porcupine Tree_Fear of Blank Planet
8. Moody Blues_Long Distance Voyager
9. The Who_Quadrophenia
10. Roger Waters_Amused to Death



หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: undeaʇh ที่ 09 กุมภาพันธ์ 2011 | 01:35:30 PM
พึ่งค้นพบว่ามีกระทู้นี้ อยากจัดกับเค้าบ้าง
1.อัสนี วสันต์ : บางอ้อ เป็นอัลบั้มแรกในชีวิตที่ซื้อเป็นของตนเอง นึกแล้วขำเพลง I LOVE YOU เป็นเพลงที่ผมหัดเล่นกีตาร์เป็นเพลงแรก    น่าจะประมาณช่วงม.ต้น

2.Nirvana : Nevermind เพราะเพลงชาติของเด็กอเมริกันยุคนั้นคือSmell Like Teen Spiritแท้ๆทำให้ผมตกหลุมรักกับอัลบั้มนี้

3.Slipknot : Slipknot อัลบั้มที่บุกเบิกหูผมให้รู้จักกับAggressive Music

4.Dream Theater : Awake ถึงผมจะเริ่มฟัง Dream ชุดแรกจากอัลบั้ม Six Degree แต่หลังจากย้อนกลับไปฟังอัลบั้มเก่า Awake ทำให้ผมเปิดประตูสู่Prog Music ของพวกเขา จำได้ว่าเปิดฟังทั้งก่อนและตื่นนอนติดต่อกันประมาณ 2 อาทิตย์ แต่ในเทปที่ฟังไม่มีเพลง Scarred มาซื้อซีดีฟังตอนหลังแล้วงงว่านี่มันเพลงอะไร ???

5.Heretic Angels : Exterminate The Respiration EP วงดนตรีที่ความประทับใจในชีวิตของผมมากที่สุด ถึงแม้ไม่เคยดูการแสดงสดเลยซักครั้งในชีวิต อัลบั้มนี้แสดงถึงความมุ่งมั่น อุดมการณ์อันแรงกล้า สำหรับผมแล้วHeretic Angelsยิ่งใหญ่จริงๆ

6.Morbid Angel : Altars of Madness ทุกวันนี้ยังเปิดฟังบ่อยๆImmortal Rites ยังคงเป็นบทเพลงที่เปิดเมื่อไหร่ก็ยังคงขลังจริงๆ

ึ7.Cannibal Corpse : Tomb of The Multilate หนักหน่วงราวกับถูกค้อนฟาดเข้าที่ใบหน้าตามชื่อเพลงในอัลบั้ม ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีวงบรูตัลคณะอื่นๆที่เล่นได้หนักกว่าหลายเท่า แต่ผู้เริ่มต้นก็ควรจะถูกบันทึกในประวัติศาสตร์มากกว่าผู้มาที่หลัง

8.Tiamat : The Sleeping Beauty : Live in Israel อัลบั้มแสดงสดของวงดูม-เดธ(ในยุคนั้น)ถึงแม้จะมีเพียง5เพลง แต่ซาวด์สดมากๆเหมือนนั่งฟังอยู่หน้าเวที(เทปVMP)ทุกวันนี้ยังหาซื้ออัลบั้มที่เป็นซีดีไม่ได้เลย

9.Dissection : The Somberlain
10. Dissection : Storm Of The Light's Bane เป็น2อัลบั้มที่เก็บทุกสื่อ Cd Tape Vinyl Patch Poster เหนือคำบรรยาย

ทุกอัลบั้มที่จัดมาผมเริ่มฟังจากเทปทั้งนั้นและทุกวันนี้ก็ยังอยู่ ยุคผมไม่ทันแผ่นเสียงแล้ว ซีดีก็แพงไม่มีเงินซื้อ
คิดถึงฟอร์แมตนี้จัง RIP CASSETTE TAPE









หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: เพชร วิปลาส ที่ 09 กุมภาพันธ์ 2011 | 02:25:15 PM
ผู้เริ่มต้นก็ควรจะถูกบันทึกในประวัติศาสตร์มากกว่าผู้มาที่หลัง

ชอบประโยคนี้จัง  :D


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: .. polotoon .. ที่ 09 กุมภาพันธ์ 2011 | 03:06:03 PM
ผู้เริ่มต้นก็ควรจะถูกบันทึกในประวัติศาสตร์มากกว่าผู้มาที่หลัง

ชอบประโยคนี้จัง  :D
+1 เห็นด้วยครับ ไม่มีผู้เริ่ม จะมี ผูมาทีหลัง ได้อย่างไรกัน :D


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: เมตัลลิก้าเมก้าเดธ ที่ 09 พฤษภาคม 2011 | 02:39:55 PM
ของผม เพิ่งฟังเพลงสากลจริงๆจัง มา 2 ปีครับ
จริงก็เห่อตามกระแส ลิงกิ้งปาร์ค จากหนัง ทรานฟอเมอร์ละนะครับ

แต่เพลงที่ฟังบ่อยจริงๆเพราะอะไรไม่แน่ เพราะเริ่ม ดูซีรีย์ฝรั่ง ละครับ ชอบเพลงเปิดตัวของ CSi มาก Who are you เป็นอะไรแปลกใหม่รู้สึกเพลงมันหนักจังแหะ ให้อารมไม่เหมือน ลิงกิงปาร์คเลย  ต่อมา ก็ตามซีรีย์ Csi มาทุกเมือง ครับ เค้าใช้ เพลง ของ The Who ทั้ง โอ้ยชอบวงนี้อะ(- -จริงๆฟังอยู่สามเพลงตอนนั้น) แล้ว อยู่ดีๆ ก็ได้ฟังเพลง ของ metallica ยุค ถดถอย อย่าง i dissaper เฮ้ยมันแรง มันหนักดี ชอบๆ ก็เลย เซิทหาเพลงของเมท เพลงแรก ที่ได้ฟังก็คือ Master of puppets เอ่อ คิดในใจว่ามันจะฟังยากไปใหนเนี้ยอะไรของมันว่ะ แต่ยิ่งฟังยิ่งชอบ ท่อนโซโล่ กลาง ช้า เป็นอะไรที่ไม่เคยเจอไม่เคยพบมาก่อน ตั้งแต่ตอนนั้นก็ชอบเมท ตลอดม่ครับ
10 อัลบั้มของผม
Metallica : Kill 'em all
มันคืออัลบั้มแรกมีผมฟัง ตั้งแต่ต้นจนจบของเมท ฟังครั้งแรกอะไรว่า หนวกหูชิบ แง่มๆไม่เข้าท่าเลยแฮะวงนี้
แต่พอนานๆไปกลับอยากฟังเพลงๆนึงจากอัลบั้มนี้อีก นั้นคือ Seek and Destoy  โหๆ ทำเราถึงชอบเพลงนี้มากขนาดนี้ก็ไม่รู้

Metallica : Ride The Lightning
อันนี้ กะว่าฟังเล่นๆครับ ทีแรกจากอัลบั่ม คิล เอม แอล มันคงไม่เหมาะกะผมละมั้งไอวงนี้ แต่พอเพลงแรกมา โอ้ย ชอบ  Fight Fire With Fire มันมากแล้วก็ไม่หนวกหูด้วย  ฟังเพลินๆไป แทรกที่ 2 - 3 ชอบทุกเพลงเลยแฮะใช้ได้ๆ พอเพลง ที่ 4 ขึ้นมา เฮ้ยมีเพลงช้าด้วยหรอวงนี้ Fade to black เป็นเพลงที่ชอบมากที่สุดในอัลบั้มนี้ครับ  แลพเพลงนี้ทำให้รู้จัก กระเดื่องคู่ด้วย กลายเป็นหลงสเหน่มันในที่สุด

เดียวค่อยมาต่อครับ เหนื่อยๆ





หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: KurZweLt ที่ 11 มิถุนายน 2012 | 04:15:20 PM
สำหรับผมแล้ว ผมได้รับอิทธิผลในการฟังเพลงจากคุณพ่อเยอะพอสมควร ตั้งแต่ผมเกิดมาแกก็เปิดเครื่องเสียงให้ผมฟังอยุ่ทุกครั้ง ไม่เว้นแม้แต่ตอนทำงาน ผมเห็นกองแผ่นเสียง ไหนจะกองซีดีที่ว่ามาเป็นกระตักๆ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรเท่าที่ควร เพลงที่พ่อผมเปิดให้ผมฟังนี่มากโขทีเดียว ผมก็จำได้ลางๆ นะว่ามีเพลงอะไรบ้าง ทุกวันนี้ผมก็ยังพอจะขุดมาฟังอยู่ก็มี เดี๋ยวผมจะลองลิลส์เพลงกับอัลบั้มให้ดูนะครับ

1. Nat King Cole - Whenever you need somebody  ผมจำได้ไม่หมดนะว่ามีเพลงอะไรมั้ง แต่เพลงที่ทำให้ผมไม่มีวันลืมได้ก็คือ when i fall in love นี่แหละคับ พอ่ผมบอกว่าแกเปิดให้ผมฟังตั้งแต่ผมยังอยุ่ในท้องแม่อยุ่เลย ก็แปลกดีนะ ที่บทเพลงที่ผมเคยฟังในตอนนั้น มันถึงได้คุ้นหูผมนัก
(http://images.merchdirect.com/4146-12607)

2. John Williams - บทเพลง Galactic Empire จากหนังเรื่อง Star Wars ผมไม่รุ้ว่าเปนอัลบั้มอะไรนะคับ เพราะดูแต่หนัง แต่เท่าที่จำได้สำหรับบทเพลงนี้ก็คือ เป็นบทเพลงที่ผมกลัวมากที่สุดเมื่อตอนเป็นเด็ก แบบว่าเด็กมากๆ  อายุราวๆ 3-4 ขวบได้ อาจจะเป็นเพราะเสียงที่ดังกระหึ่มที่ขับออกจากชุดเครื่องเสียงก็เปนได้ เวลาฟังเพลงนี้ทีไร ผมต้องวิ่งหนีออกจากห้องทุกที 55+
(http://3.bp.blogspot.com/-XZckU5O4b2w/TzMKlUsAu-I/AAAAAAAAAr8/wQLRNtrMSTE/s1600/John_Williams.jpg)

3. Kitaro - แทบจะทุกชุดได้กระมั้ง โดยเฉพาะชุด An enchanted evening ในตอนนั้นผมโตขึ้นมาหน่อย ซัก ป.2 ได้มั้ง รู้สึกเริ่มชอบในการฟังเพลง โดยเฉพาะแนวบรรเลงเป็นส่วนใหญ่
(http://www.domocart.com/domo-store/images/product_photos/kitaro_enchanted_evening.jpg)

4. Dire Strait - Album Dire Strait - ผมชอบเพลง Down to the waterline มากๆ ครับ เวลาเข้าห้องทำงานพ่อทีไร ต้องเปิดเพลงนี้ตลอด เป็นเพลงที่ผมเริ่มมีความคิดที่อยากจะเล่นกีต้าร์ด้วย
(http://www.vinylrecords.ch/D/DI/Dire_Straits/dire-straits-fr2/dire-straits-france-vertigo-1274.jpg)

5. Joe Taylor - Mystery Walk - ช่วงที่ฟังบ่อยๆ ก็คงเริ่มขึ้น ป.6 ได้มั้ง ถ้าจำไม่ผิดนะ เห็นหน้าปกมันสวยดี แถมชื่อดูแปลกๆ ผมเลยหยิบเอามาฟัง โอ้โหติดเลย
(http://ecx.images-amazon.com/images/I/41Jr2E7SQ%2BL._SL500_AA300_.jpg)

6. George Benson - Give me tonight - ตอนนั้นผมไม่รุ้หรอกว่า fusion jazz คืออะไร เพียงแต่ว่าฟังอัลบั้มนี้แล้วรู้สึกว่าชอบเพลง turn out the lamb light เท่านั้นเอง ทุกวันนี้ผมก็ยังอัลบั้มนี้อยุ่ในไอพอดผมอยุ่เหมือนกัน
(http://2.bp.blogspot.com/-WY_EVGoFAuc/TwV2V-OJ0XI/AAAAAAAAAgM/F_s-HsPQVLE/s1600/george-benson-give-me-the-night-1980.jpg)

7. Dream theater - Images and Words - เป็นอัลบั้มที่เปลี่ยนแนวการฟังเพลงของผมได้เลยก็ได้ อีกทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจในการฝึกกีต้าร์ของผมด้วย รู้สึกตอนนั้นน่าจะอยู่ช่วง ม 2. ตอนนั้นผมไปเรียนกีตาร์ที่ตัวต่อตัวที่บ้านอาจาร์ยท่านนึง แล้วพอดีแกเปิดเพลง Under the glass moon ไว้อยุ่ในห้องซ้อมดนตรีของแก พอผมเข้าไปเท่านั้นแหละ มันเหมือนกับว่าบทเพลงนี้มันมีมนต์บางอย่างที่ทำให้ผมตะลึกอยู่ชั่วขณะนั้น ผมถึงกับอึ้งเลยเมื่อได้พาทโซโล่ของ john petrucci...........นั่นคนหรือนั่น โซโล่ได้เร็วอะไรปานนั้น มันเหมือนเป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้ผมมีมานะทีจะฝึกกีต้าร์อย่างจริงจัง (แต่สุดท้ายแล้ว ผมก็มาเอาดีทางเล่นเบสซะงั้น)
(http://i291.photobucket.com/albums/ll284/KafkaBug666/Best%20Album%20Covers/DreamTheater-1992-ImagesAndWords.jpg)


8. Pink Floyd - The Dark side of the moon - รู้สึกชั่วนั้นอยู่ ม.5 แล้ว จำได้ว่านั่งเปิด youtube เพื่อหาคลิป concert ของ dream theater นี่แหละ แล้วเหลือบไปเหนคลิปๆ นึง ชื่อว่า time พอคลิกไปก็เท่านั้นแหละคับ ผมตกตะลึงกับเสียงนาฬิกาปลุกที่ดังระงมไปทั่ว บวกกับซาวด์ดนตรีอันล้ำยุคของวงนี้มากๆ มันทำให้ผมอยากที่จะศึกษาประวัติความเป็นมาของวงนี้ รวมทั้งวงดนตรีแนว progressive สมัยก่อนมากขึ้น ยิ่งค้นเท่าไหร่ มันก็ทำให้ผมยิ่งหลงไหลดนตรีแนวนี้มากขึ้น ยิ่งฟังก็ยิ่งติด
(http://4.bp.blogspot.com/-LwviRtDYwtc/T0PYNHyYHoI/AAAAAAAAAFU/h-1xtgJDvow/s1600/thedarksideofthemoon.jpg)


9. Pink Floyd - Pulse รวมบันทึกการแสดงสด ณ Earls Court, London - ตื่นตะลึงกับการแสดงสดชุดนึ้มากๆ ครับ โดยเฉพาะเพลงเปิดตัวอย่าง Shine on your crazy diamond เป็นอะไรที่ประทับใจมากๆ ครับ แม้ว่าจะไม่ได้ไปดูด้วยตนเองก็ตาม ถือว่าเป็นบันทึกการแสดงสดที่ยิ่งใหญ่และคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์มากครับ 55+ ผมยังแอบ rip ไฟล์ แล้วเก็บมาดูตอนเรียนต่างประเทศด้วยเลย
(http://vhmorales.com.ar/wp-content/uploads/pulse21.jpg)


10. ETC - ทุกอัลบั้ม - จริงๆ ผมชอบวงนี้มาตั้งแต่สมัยอยู่ ม.1 แล้วนะ แต่อัลบั้มที่ทำให้ผมหันมาเล่นเบสจริงจัง นี่ต้องชุดที่สองในอัลบั้ม เปลี่ยน  โดยเฉพาะเพลง ต้องมีสักครั้ง โห พี่มิ้นท์แกโหดมาก slap ได้มันส์และเร็วมากๆ ประจวบกับเพื่อนผมชวนไปเล่นวงด้วยในตอน ม.4 แต่ขาดมือเบส ตั้งแต่นั้นผมก็เล่นเบสมาตลอด โดยมีพี่มิ้นท์ etc เป็นไอดอลของผมตลอดมา
(http://i534.photobucket.com/albums/ee345/passerby83/mint.jpg)
จริงๆ อัลบั้มที่ประทับใจยังมีอีกมากเลยคับ แต่เห็นว่าได้แค่สิบ เลยยกเอาแค่สิบอัลบั้มที่ผมพอจะนึกออกๆ มาเขียนและเล่าสู่กันครับ


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: เพชร วิปลาส ที่ 11 มิถุนายน 2012 | 05:07:36 PM
คุณ KurZweLt ขุดกระทู้นี้ขึ้นมา เวลาอ่านแล้วทำให้ผมรู้สึกคึกคักเหมือนตอนมาเล่นเวปใหม่ๆเลยครับ


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: 喜 ? 多 ? 郎 ที่ 06 กันยายน 2012 | 05:14:56 PM
01. David Sylvian - Blemish ไม่มีข้อสงสัยสำหรับ Blemish นี่คืออัลบั้มอันดับ 1 ตลอดกาลสำหรับผม

(http://image.ohozaa.com/i/5f5/CWm7t2.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wjrZYu4ZyoFHbEkz)

02. David Sylvian - Alchemy An Index Of Possibilities ผมเลือกให้อยู่ในอันดับ 2 สำหรับงานของเดวิด ซิลเวียน

(http://image.ohozaa.com/i/773/9IwCf8.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wjs0uK93meowvTdH)

03. David Sylvian - Gone To Earth แม้ว่าอัลบั้ม Brilliant Trees จะมีเพลง Weathered Wall แม้ว่าอัลบั้ม Secrets Of The Beehive จะมีเพลง Orpheus
แต่ผมก็ขอเลือก Gone To Earth มาในอันดับ 3 ครับ

(http://image.ohozaa.com/i/0db/PQwZ4V.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wjs1mgW2aKOz8gaj)

04. Kitaro - Sacred Journey Of Ku-Kai Vol.1 ผมผูกพันกับงานของ Kitaro ทุกอัลบั้ม ชื่นชอบทุกอัลบั้ม อัลบั้มที่ดีที่สุดอาจจะเลือก Mandala , Kojiki , Gaia Onbashira , Spiritual Garden หรือชุดอื่นใดอีกก็ได้ แต่ผมขอเลือก Sacred Journey Of Ku-Kai Vol.1 มาในอันดับหนึ่ง เพลง Michi คือเพลงอันดับ 1 สำหรับผม สำหรับงานของ Kitaro ทั้งยังเป็นอัลบั้มที่มีหลากหลายสำเนียง ทั้งญี่่ปุ่น จีน ธิเบต เซ็น และที่พิเศษสุดก็คือ "บทเพลงปีศาจ"

(http://image.ohozaa.com/i/gd2/LjzGoa.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wjs1K1vJaJyzvKl0)

05. Kitaro - An Enchanted Evening แน่นอนเพราะมันเป็นบันทึกการแสดงที่ดีที่สุดของ Kitaro

(http://image.ohozaa.com/i/563/MjmPaf.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wjs27q6JT83TfuOr)

06. Kraftwerk - Radioactivity อันดับหนึ่งของ Kraftwerk ขอเลือก Radioactivity ละกัน

(http://image.ohozaa.com/i/ff8/O9U50w.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wjs6icAATkgAstTY)

07. Buckethead - Bucketheadland กว่า 40 อัลบั้ม ชอบเกือบทั้งหมด ที่ผูกพันและมีความพิเศษแตกต่างจากชุดอื่นๆ ขอเลือก 2 ชุดนี้

(http://image.ohozaa.com/i/8fb/r3Jjpb.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wjs6VUcYElKfoutj)

08. Buckethead - Bucketheadland 2

(http://image.ohozaa.com/i/855/B55aSB.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wjs7ted5iLQz692H)

09. Jeff Beal & Nawang Khechog - Tibet Cry Of The Snow Lion ชอบทุกอัลบั้มของ Nawang Khechog แต่ขอเลือกชุดนี้ละกัน

(http://image.ohozaa.com/i/64d/u4spRS.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wjs9raTGQE9e6jJm)

10. Beach House - Teen Dream ฟังบ่อยสุด รองจาก David Sylvian , Kitaro ชอบทุกอัลบั้ม ผูกพันสุดก็ต้อง Teen Dream

(http://image.ohozaa.com/i/92d/ZjQ7KJ.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wjs859W3DVOTvGn8)



หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: ท่านผีเพลง ที่ 06 กันยายน 2012 | 06:00:51 PM
ชัดเจนดีครับ
 :D

แต่รู้สึกว่า
ตัวเองยังไปไม่ถึง 10 เลยแฮะ  :P


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: raylee ที่ 07 กันยายน 2012 | 12:16:07 AM
        พอดีมีคนขุดกระทู้นี้ขึ้นมา เลยต้องเอาซะหน่อยครับ

mike oldfield - crises (1983)   ฟังแล้วนึกถึงช่วงเวลาอันน่าตื่นตาตื่นใจของเด็กมอปลายที่พึ่งจะรู้จักกับ progressive rock เป็นครั้งแรก
dire straits - brothers in arms (1985)   ฟังแล้วนึกถึงสมัยตอนที่เข้าเรียนมหาลัยใหม่ๆ เป็นเด็กดี ขี้อาย ขยันตั้งใจเรียน
boston - third stage (1986)   ฟังแล้วนึกถึงช่วงเวลาที่แย่ๆ ของชีวิตในมหาลัย ติดเพื่อน เที่ยวกลางคืน ไปเรียนสาย(บ่าย)
toto - fahrenheit (1986)   ฟังแล้วนึกถึงความรักครั้งแรกที่เกิดขึ้นในรั้วมหาลัย
chris de burgh - flying colours (1988)   ฟังแล้วนึกถึงช่วงเวลาดีๆ ที่มีความสุขของการใช้ชีวิตเป็นนักศึกษามหาลัย
bruce hornsby and the range - scenes from the southside (1988)   ฟังแล้วนึกถึงความงดงามของมิตรภาพระหว่างเพื่อนสมัยเรียนมหาลัย
sting - ten summoner's tales (1993)   ฟังแล้วนึกถึงตอนที่พึ่งจะเริ่มทำงานใหม่ๆ และยังเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีอยู่มาก
mazzy star - so tonight that i might see (1993)   ฟังแล้วนึกถึงช่วงเวลาที่ผิดหวัง อกหัก รักคุด เป็นบ้า จะเป็นจะตาย
the lizards' convention - here's a funny fish, hurrah ! (1995)   ฟังแล้วนึกถึงช่วงเวลาที่ความรักกลับมาสดใสอีกครั้ง
pet shop boys - release (2002)   ฟังแล้วนึกถึง..........อันนี้เป็นขอเก็บเป็นความลับครับผม


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: panyarak ที่ 07 กันยายน 2012 | 01:32:29 PM
เลือกยากจัง แล้วจะมาเติมให้เต็มต่อไปด้วยคนครับ
 

    ดีใจครับที่รสนิยมการฟังเพลงส่วนหนึ่งใกล้เคียงคุณปัญญรักษ์ (สะกดผิดตั้งหลายเพลง ผมไม่ค่อยเก่งอังกฤษน่ะครับ)
    going for the one , the turn of... , made in japan ผมก็ชอบมากครับ
    ตอนแรกคิดว่าคุณปัญญรักษ์จะชอบเพลงที่หนักๆ ฟังยากซะอีก


เพลงหนักๆ ก็ฟังครับ แต่ถ้าต้องเลือกแค่ 10 ชุด ก็ขอเลือกพวกนี้ก่อนครับ (เน้น 30 ปีขึ้นไป)

เอาเพลงหนักๆ บ้างครับ ส่วน Deep Purple ไม่เอ่ยซ้ำ เพราะถือว่าอยู่ในลิสต์แรกแล้ว
1. Wishbone Ash - Wishbone Four - เพราะเพลง Everybody Needs a Friend เพลงเดียว ทำให้ต้องขวนขวายหาทั้งอัลบั้มมาฟัง และก็หลงรักทั้งชุึดตั้งแต่นั้นมา
2. Rainbow - On Stage - ประทับใจทั้งระบบเสียงและการนำเสนอ แถมยังเป็น line up ที่เล่นแสดงสดได้ยอดเยี่ยมที่สุดของวง
3. Motorhead - Ironfist - เป็นอัลบั้มชุดแรกที่ได้ฟังและหลงรักทันที ทั้งๆ ที่คนอื่นเขาชื่นชอบชุึดก่อนหน้านี้กันหมด
4. UFO - Strangers in the Night - เลือกยากสำหรับวงนี้ ก็เลยลงเอยกับบันทึกการแสดงสดที่มีเพลงโปรดอยู่ทั้งอัลบั้ม
5. Black Sabbath - Heaven & Hell - ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ
6. Michael Schenker Group - same - เหมือนการเกิดใหม่ของ Michael Schenker ซึ่งตอนนั้น เป็นผลงานที่ทำให้มีความหวังว่า พวกสมาชิกที่แยกไปตั้งวงใหม่ จะทำให้ได้ฟังผลงานดีๆ แบบไม่ขาดสาย
7. Judas Priest - Defenders of the Faith - ชุดนี้ออกมาตอนเรียนปริญญาโทที่อเมริกา น่าจะเป็นผลงานที่หนักที่สุดที่่วิทยุในอเมริกาเปิดออกอากาศในช่วงนั้น แม้ Metallica ยังไม่มีสถานีร็อคเปิดออกอากาศเลย
8. Metallica - Ride the Lightning - ได้ฟังครั้งแรกพร้อมกับชุด Kill em all แต่ก็หลงรักชุึดนี้มากกว่าเล็กน้อย
9. Rainbow - Down to Earth - แม้ว่าจะชอบเสียงและสไตล์การร้องของ Ronnie James Dio แต่เสียงแผดร้องของ Graham Bonnet มันช่างถูกโฉลกกับหูเสียจนต้องตามเก็บผลงานของเขามาตลอดจนปัจจุบัน
10. Iron Maiden - Killers - ด้วยความที่ติดใจเสียงร้องของ Paul Di'anno มากกว่า Bruce Dickinson ที่หลายคนชื่นชอบ

ชุดที่น่าจะติดอันดับแต่จำใจต้องตัดออกไปก็มี Triumph - Just a Game, AC/DC - For Those about to Rock, Suzi Quatro - Rock Hard, Whitesnake - Ready 'an Willing, Gillan - Magic, Blue Oyster Cult - Cultosaurus Erectus, Thin Lizzy - Live & Dangerous, Quatermass - same, Aerosmith - Toys in the Attic, Scorpions - Taken by Force, Loudness - Live Loud Alive, Runaways - Queens of Noise, Uriah Heep - Sweet Freedom, Led Zeppelin - In Through the Out Door, Heart - Bebe Le Strange ฯลฯ

ขอแถมดัวยอัลบั้มเพลงบรรเลงที่ทรงอิทธิพลสำหรับผมมา 30 กว่าปีแล้วครับ
1. Brian Eno - On Land
2. Philip Glass - Glassworks
3. Jon Hassell - Fourth World Vol.1 - Possible Musics
4. Kitaro - Silk Road
5. Jean Michel Jarre - Equinoxe
6. Mike Oldfield - Ommadawn
7. Laraaji - Day of Radiance
8. Tangerine Dream - Encore
9. Vangelis - Antarctica
10. Sky - Sky2

ชุดที่ต้องตัดออกไปเพราะยังไม่เก่าพอก็มี Steve Hackett - Bay of Kings, Yngwie J Malmsteen - Concerto Suite for Electric Guitar & Orchestra in E Flat Minor Op 1, Rick Wakeman - Simply Acoustic


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: TRON ที่ 07 กันยายน 2012 | 06:23:09 PM
dire straits - brothers in arms (1985)   ฟังแล้วนึกถึงสมัยตอนที่เข้าเรียนมหาลัยใหม่ๆ เป็นเด็กดี ขี้อาย ขยันตั้งใจเรียน

จริงๆชุดนี้ผมก็เกือบจะให้ติด 1 ใน 10 เหมือนกันครับ เป็นแผ่นเสียงแผ่นแรกที่ซื้อและเป็นช่วงเริ่มเข้าวัยรุ่นมีความทรงจำทั้งดีและไม่ดีปนๆกันตามประสาในเวลานั้น


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจลายคราม ที่ 02 ตุลาคม 2012 | 01:39:19 PM
ผมเห็นกระทู้นี้นานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้เข้ามาตอบเสียที ด้วยคิดอยู่เป็นนาน (นับปี) ว่า อะไรหนอคืออัลบั้มเพลงฝรั่งที่ทรงอิทธิพลต่อชีวิตของเราที่สุด ครั้นพอเลือกไปเลือกมา (แบบรักพี่เสียดายน้อง) ตัดอัลบั้มอื่นทิ้งไปก็หลายชุด ในที่สุดก็ได้มาสิบชุดในลิสท์ตามกติกา ดังปรากฏข้างล่างนี้ เอาไว้ว่าง ๆ จะเข้ามาจาระไนรายละเอียดความมีอิทธิพลของแต่ละอัลบั้มดังกล่าวอีกที

ปีพ.ศ.ในวงเล็บคือปี (โดยประมาณ) ที่เริ่มรู้จักหรือซื้อผลงานชุดนั้น ๆ ครับ

1. Dschinghis Khan - Dschinghis Khan (2522)
2. Pictures at an Exhibition - Emerson Lake and Palmer (2524)
3. Turn of the Tide - Barclay James Harvest (2524)
4. Close to the Edge - Yes (2525)
5. Crises - Mike Oldfield (2526)
6. Ocean - Eloy (2530)
7. Renaissance - Turn of the Cards (2531)
8. IV - Toto (2534)
9. Days of Future Passed - The Moody Blues (2535)
10. Suspiria OST - Goblin (2545)




หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจลายคราม ที่ 03 ตุลาคม 2012 | 03:33:48 PM
อัลบั้มชุดแรกของ Dschinghis Khan วงดิสโก้พ็อพสัญชาติเยอรมัน ผมรู้จักเพลงต่าง ๆ ในอัลบั้มชุดนี้ ไม่ว่าจะเป็น Dschinghis Khan, Moskau, Samurai, Rockin' Son of Dschinghis Khan และอีกหลายต่อหลายเพลง จากการเปิดออกอากาศทางรายการเพลง "เดอะ มาร์มาเลด คลับ" โดยคุณอภิพันธ์ วงศ์ยฤทธิ์ (ไม่แน่ใจว่าสะกดชื่อของเขาถูกหรือเปล่า) ผู้จัดและดำเนินรายการ ทางคลื่นวิทยุเอเอ็ม 954 กิโลเฮิร์ตส ทหารอากาศ สะพานแดงบางซื่อ ซึ่งออกอากาศหลังรายการ "จิ๊กโก๋ยามบ่าย" ของคุณนฤชา เพ่งผล เมื่อปี 2522 ซึ่งในปีนั้นผมเรียนอยู่ชั้นป.6 และคลั่งไคล้การฟังเพลงสากลอย่างเหลือล้น เพลงสากลมีให้รับฟังตามสถานีวิทยุหลายช่อง แม้คลื่นเอเอ็มก็ยังมีรายการเพลงฝรั่งไม่แพ้เอฟเอ็ม ประกอบกับกระแสดนตรีดิสโก้ยังมาแรงอยู่ นอกจาก Boney M, ABBA, Tina Charles แล้ว ก็มี Dschinghis Khan นี่แหละที่แหวกตลาดเข้ามาแชร์ความดัง โดยแรกเริ่มที่คุณอภิพันธ์ได้นำแผ่นเสียงชุดนี้มาเปิดออกอากาศทางรายการ "เดอะ มาร์มาเลด คลับ" นั้น เขาได้พูดสำทับไว้ในตอนนั้นว่า "ท่านไม่ต้องไปหาซื้อแผ่นเสียงที่ไหน เพราะแผ่นไม่มีขายครับท่าน" ซึ่งในเบื้องต้นก็คงจะจริง เพราะไม่มีเพลงของ Dschinghis Khan เปิดออกอากาศในรายการวิทยุอื่นเลยนอกจากรายการของคุณอภิพันธ์เพียงรายการเดียว แต่ต่อมาเพลงของวงนี้ก็เริ่มฮิตและแพร่หลายไปตามสถานีวิทยุช่องอื่นเช่นกัน -- นี่พูดถึงเฉพาะช่องเอเอ็มเท่านั้นนะครับ -- เพลงจากอัลบั้มชุดนี้ไม่ว่าเพลงใดที่คุณอภิพันธ์นำมาเปิดให้ฟัง เป็นต้องโดนใจผมทั้งสิ้น ต่อมาผมได้เจียดเงินค่าขนมซื้อเทปอัลบั้มชุดนี้มา ซึ่งเป็นยี่ห้อ 4 Tracks ทั้ง ๆ ที่ยังไม่มีเครื่องเล่นเทปเลย หลังจากนั้นต่อมาอีกหลายปี ผมเรียนจบ มีงานมีการทำแล้ว และเริ่มเล่นแผ่นเสียง ในระหว่างนั้นเทปเพลง Dschinghis Khan คงได้อันตรธานหายไป ผมก็ลืมมันไปชั่วระยะหนึ่ง บังเอิญวันหนึ่งได้มีโอกาสไปคุ้ยกองแผ่นเสียงที่ร้านแห่งหนึ่งย่านหลังกระทรวงฯ เกิดฟลุคเจอแผ่นเสียงชุดนี้เข้า แถมยังเป็นแผ่น original ทำในเยอรมนีเสียด้วย จึงรีบจ่ายเงินและหนีบกลับบ้านอย่างมีความสุขด้วยรู้สึกเหมือนเจอเพื่อนเก่าอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้เจอหลายปี และครั้งนี้ตัวจริงมาเอง ไม่ใช่สำเนาหรือตัวแทน และทุกวันนี้ผมก็ยังเปิดอัลบั้มชุดนี้ฟังในบางครั้งที่เกิดอารมณ์ดิสโก้ แถมยังรู้สึกไพเราะทุกเพลงตั้งแต่เพลงแรกยันเพลงสุดท้ายเสียด้วย นี่คือเรื่องราวของอัลบั้มเพลงชุดแรกที่มีความผูกพันและอิทธิพลต่อการฟังเพลงของผมครับ

(http://i321.photobucket.com/albums/nn367/paiboonp/My%20LP%20Collection/DSC00465.jpg)


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจลายคราม ที่ 04 ตุลาคม 2012 | 09:14:01 AM
หากจะว่าไปแล้ว อัลบั้มชุด Pictures at an Exhibition โดย Emerson Lake and Palmer (ELP) นั้น หาใช่เป็นผลงานสุดโปรดของผมไม่และคุณภาพของผลงานโดยรวมก็สู้ผลงานชุดอื่น ๆ บางชุดของพวกเขาไม่ได้ แต่อัลบั้มชุดนี้ก็มีอิทธิพลต่อชีวิตการฟังเพลงของผมอยู่ไม่น้อย เนื่องเพราะเป็นอัลบั้มชุดแรกของ ELP ที่ผมซื้อได้มา ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยฟังเพลงในอัลบั้มชุดนี้มาก่อนเลย ตอนนั้น (ประมาณปี 2524) ผมเริ่มรู้จัก ELP จากการที่ได้อ่านบทความตามนิตยสารเพลงต่าง ๆ ซึ่งชื่นชมวงนี้ว่าเป็นทริโอร็อคซูเปอร์แบนด์ในยุคนั้น และได้มีโอกาสฟังเพลงอย่าง Hoedown, C'est La Vie, Lucky Man ทางวิทยุ จึงเกิดความสนใจวงนี้ขึ้นมา ครั้นพอไปเดินซื้อเทป กลับได้ Pictures at an Exhibition มาเป็นชุดแรก และเท่าที่จำได้ ตอนนั้นเทปพีค็อกยังไม่ค่อยอัดผลงานของ ELP ออกขายตามแผงมากชุดนัก นอกจาก Pictures at an Exhibition และ Works I & II ส่วนยี่ห้อโฟร์แทร็คผมเห็นเพียงชุด The Best of... ซึ่งหน้าปกเป็นรูปพวกซามูไรญี่ปุ่นกำลังเล่นแผ่นเสียงอยู่ ดังนั้น Pictures at an Exhibition จึงถือเป็นประตูสู่การฟังผลงานชุดอื่น ๆ ของ ELP นอกจากนี้ยังนำผมไปสู่การฟังเพลงในแนวคลาสสิกอย่างได้ผลอีกด้วย ต่อมาเมื่อได้มีโอกาสได้ซื้อหาแผ่นเสียงมาเก็บไว้ ผมก็เก็บทั้งแผ่นตรา Cotillion ของอเมริกา, แผ่นญี่ปุ่น และแผ่นของ MFSL (แผ่นโมบายล์ฯ) ซึ่งในเวอร์ชั่นของ MFSL นี้ฟังแล้วรู้สึกว่าปลายเสียงมู้ก (moog) ทอดยาวสะท้านทรวงดีจริง ๆ ครับ

(http://i321.photobucket.com/albums/nn367/paiboonp/005-2.jpg)


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: eric camen ที่ 04 ตุลาคม 2012 | 12:27:48 PM
เพลงเปิดรายการ "จิ๊กโก๋ยามบ่าย" ชื่อเพลงอะไรครับ


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจลายคราม ที่ 04 ตุลาคม 2012 | 12:57:14 PM
เพลงเปิดรายการ "จิ๊กโก๋ยามบ่าย" ชื่อเพลงอะไรครับ
ไม่รู้จักชื่อเพลง ๆ นั้นครับ แต่บางครั้งคุณนฤชาใช้เพลง Rain Forest ของ Biddu Orchestra เป็นจิงเกิ้ลทั้งเปิดและปิดรายการครับ


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจลายคราม ที่ 04 ตุลาคม 2012 | 01:13:20 PM
ปัจจุบันคุณนฤชา เพ่งผล ยังจัดรายการวิทยุชุมชนอยู่ที่วิทยุทหารอากาศ สะพานแดง บางซื่อ ขอเชิญตามลิ้งค์นี้ได้เลย มีรูปปัจจุบันของเขาอยู่รูปหนึ่งด้วยครับ

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=729850


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจลายคราม ที่ 09 ตุลาคม 2013 | 01:04:25 PM
อัลบั้มทรงอิทธิพลต่อชีวิตการฟังเพลงของผมลำดับที่สาม Turn of the Tide โดย Barclay James Harvest และเป็นผลงานชุดแรกของ BJH ที่ผมซื้อในชีวิต เพราะติดใจเพลง In Memory of the Martyrs ที่เปิดออกอากาศในรายการ Top Teen Talent ในช่วงปี 2524-2525 ผมจึงไปซื้อเทปพีค้อกมาฟัง ตอนนั้นไม่รู้หรอกครับว่าเพลงในเทปอัดสลับกันมั่วไปหมดไม่เหมือนการจัดวางลำดับเพลงในแผ่นเสียงต้นฉบับ แต่ผมก็ชอบแทบทุกเพลงในอัลบั้มชุดนี้ ซึ่งเป็นบันไดให้ผมต่อยอดไปหาผลงานอื่น ๆ ของ BJH มาฟังอย่างได้ผล จำได้ว่าตอนนั้นหลงใหลวงนี้เอามาก ๆ (ทุกวันนี้ก็ยังเป็นเช่นนั้นอยู่) เทปของวงนี้มีอยู่ในตลาดเท่าใดเป็นซื้อหมดโดยยอมอดออมค่าขนมรายวันเพื่อเอาไว้ซื้อเทปฟัง (ยังไม่มีปัญญาซื้อแผ่นเสียง เพราะเทปราคาม้วนละ 25-30 บาท ส่วนแผ่นเสียงราคาแผ่นละ 250-300 บาท) ถึงกับชวนเพื่อนสนิทคนหนึ่งให้ลองฟังผลงานของวงนี้ดู ซึ่งเขาก็ฟังและก็ชอบเหมือนผม แต่สำหรับงานสี่ชุดแรกซึ่งออกแนวไซคีเดลิกนั้น เขาบอกว่ารับไม่ได้ ดนตรีในชุด Turn of the Tide นั้นเป็นร็อคที่ละเมียดละไมในสไตล์ยุโรป (อังกฤษ) และเข้าถึงง่าย เพราะวงนี้เริ่มหันเหเข้าสู่ความเป็นพ็อพมากขึ้นในยุค 80's ที่สำคัญคือ ไม่มีสากเสี้ยนความเป็นอเมริกัน (บลูส์) ให้ระคายหู โดยมี How Do You Feel Now, Back To The Wall, Echoes and Shadows, I'm Like A Train, Live Is For Living และ In Memory of the Martyrs เป็นเพลงเด่นที่อยู่ในใจผมตลอดมา และเป็นอัลบั้มชุดหนึ่งของ BJH ที่ผมหยิบออกมาฟังมากที่สุดครับ

(http://www.progarchives.com/progressive_rock_discography_covers/655/cover_4231421122011_r.jpg)


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจลายคราม ที่ 10 ตุลาคม 2013 | 12:37:40 PM
อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลฯชุดที่ 4 ของผม ก่อนอื่นขอเรียนว่า สำหรับคนที่ฟัง progressive rock คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักอัลบั้ม Close To The Edge (1972) ของ Yes (ถ้าไม่รู้จักก็อย่าเรียกว่าตัวเองฟัง progressive rock) ผลงานชุดนี้ถือได้ว่าเป็นมาสเตอร์พีซชุดหนึ่งในโลกดนตรีโพรเกรสสีฟว์ซึ่งลงตัวในทุกองค์ประกอบและอุดมไปด้วยทั้งศาสตร์และพาณิชย์ศิลป์ ไล่เรียงตั้งแต่งานศิลป์หน้าปกยันไปถึงดนตรีที่บรรจุอยู่ในอัลบั้ม ตอนแรกผมไม่ทราบหรอกครับว่าเพลง And You And I อยู่ในอัลบั้มชุดนี้ แต่เคยฟังเพลงนี้จากอัลบั้มแสดงสด Yessongs ซึ่งเปิดออกอากาศในรายการวิทยุ Top Teen Talent เมื่อประมาณปี 2525 รู้สึกว่าเพลงนี้มันช่างซับซ้อน อลังการแต่แฝงไปด้วยความไพเราะเสียจริง ๆ ภาคคีย์บอร์ดของ Rick Wakeman ถ้าจะพูดไปก็ต้องบอกด้วยสำนวนสมัยนี้ว่าเข้าขั้น "มหาเทพ" เลยทีเดียว ผมเคยเห็นแผ่นเสียงชุดนี้วางขายอยู่ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว ราคาในตอนนั้น 300 บาท (แผ่นซีล) ก็ได้แต่เพียงหยิบมาลูบ ๆ คลำ ๆ ดู แต่ไม่มีปัญญาซื้อ เพราะนอกจากยังไม่มีเครื่องเล่นแผ่นเสียงแล้ว ผมได้เงินค่าขนมไปโรงเรียนแค่วันละ 20 บาทเท่านั้นเอง ต่อมาผมได้เทปคาสเสทของ Four Tracks มาฟัง แต่หน้าปกเทปไม่ใช่พื้นสีเขียว เพราะเขาเล่นเอาภาพกลางปกที่เป็นรูปน้ำตกในจินตนาการมาทำเป็นปกเทปคาสเสทแทน (เทปผีก็มักเป็นเช่นนี้แล) และอีกต่อมาเพื่อนคนหนึ่งที่เรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันได้ยืมคาสเสทชุดนี้ไปฟังแล้วเอามาส่งคืนผมพร้อมบอกว่า "สำเนียงกลองซับซ้อนเป็นบ้า แกะโน้ตเพื่อหัดตีตามยากมาก" (อ้าวเพื่อน ก็มันไม่ใช่ร็อคตลาดนี่เว้ยเฮ้ย :P) สรุป ผมขึ้นครูกับ Close To The Edge เลย แล้วจึงค่อยหาผลงานอื่น ๆ ของ Yes มาฟังอีกในภายหลัง พอเรียนจบมีงานทำและมีปัญญาหาแผ่นเสียงมาเก็บ ผมก็เก็บมันซ้ำ ๆ ซะหลายก็อปปี้ให้สมอยากสมแค้นไปเลย อ้อ มีแผ่นที่ออกโดย MFSL ด้วยนะครับ ตอนนั้นเมื่อประมาณปี 2545 ผมได้แผ่นนี้มาจากร้านขายแผ่นเสียงแห่งหนึ่งที่ฟอร์จูนทาวน์ ราคาพันกว่าบาท สภาพขั้นเทพ แต่เมื่อไม่นานมานี้เห็นแผ่นนี้วางขายอยู่ในอีเบย์ ราคาสามร้อยกว่ายูโร :P ไข้แทบจับเลยครับ

(http://i321.photobucket.com/albums/nn367/paiboonp/001-2.jpg)


หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: Pho ที่ 21 มกราคม 2015 | 11:34:37 PM
ขอเรียงตามความชอบนะครับ พึ่งฟังเพลงไม่นานครับ แต่ละอัลบั้มก็ไล่ๆกันครับสัก3-4ปี ยกเว้นซิลลี่ฟูล อันนี้ฟังตั้งแต่เด็กครับสัก10ปีได้

10.slayer - reign in blood
(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/en/thumb/8/8e/Reign_in_blood.jpg/220px-Reign_in_blood.jpg)

9.silly fools - juicy
(http://chordcafe.com/img/albums/juicy.jpg)

8.metallica - and justice for all
(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/en/b/bd/Metallica_-_...And_Justice_for_All_cover.jpg)

7.pantera - far beyond driven
(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/en/d/d3/Pantera-FarBeyondDriven.jpg)

6.pantera - vulgar display of power
(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/en/thumb/1/12/PanteraVulgarDisplayofPower.jpg/220px-PanteraVulgarDisplayofPower.jpg)

5.the beatles - abbey road
(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/en/thumb/4/42/Beatles_-_Abbey_Road.jpg/250px-Beatles_-_Abbey_Road.jpg)

4.tool - aenima
(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/en/2/2f/Aenima.jpg)

3.rage against the machine - rage against the machine
(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/en/1/1a/RageAgainsttheMachineRageAgainsttheMachine.jpg)

2.metallica - master of puppets
(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/en/b/b2/Metallica_-_Master_of_Puppets_cover.jpg)

1.tool - lateralus
(http://www.metalsucks.net/wp-content/uploads/2009/06/lateralus.jpg)









หัวข้อ: Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจลายคราม ที่ 27 ธันวาคม 2016 | 04:26:15 PM
อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลฯลำดับที่ห้าของผม ก่อนอื่นต้องขอเรียนว่าผมรู้จักอัลบั้มชุด Crises (1983) เพราะเพลง Moonlight Shadow และรู้จักชื่อ Mike Oldfield เป็นครั้งแรกก็เพราะอัลบั้มชุด Crises (รู้จักก่อน Tubular Bells I เสียอีก) ผลงานของ Mike Oldfield ก่อนหน้า Crises เป็นอย่างไร มีกี่ชุด ตอนนั้นผมยังไม่ทราบ แต่ความรู้สึกตอนที่ได้ฟังชุด Crises นี่ ลงความเห็นได้เลยว่ามันคือ electronic progressive ที่เล่นได้ยอดเยี่ยม แม้ครึ่งหนึ่งของอัลบั้มจะเป็นเพลงตลาด แต่ก็เป็นเพลงตลาดที่มีคุณภาพและให้ "อะไร" มากกว่าเพลงตลาดทั่วไป พอฟังชุด Crises จนปรุแล้วก็ต่อด้วย Discovery (1984) ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับเป็นอัลบั้มฝาแฝดกับ Crises แล้วเขยิบไปอัลบั้มคู่รวมเพลงที่ออกในปีต่อมา (1985) คือ The Complete Mike Oldfield ได้ฟังพวกเพลงคัดย่อ excerps ทั้งหลายแล้วรู้สึกไม่สะใจ จึงต้องย้อนไปหาอัลบั้มเต็มมาฟัง ไล่ตั้งแต่ Tubular Bells (1973) เรื่อยมาจนถึงชุด Earth Moving (1989) ตอนนั้นผมเริ่มรู้สึกว่า Mike Oldfield ชักจะแย่แล้ว แต่ในฐานะศิลปินในดวงใจ ผมยังแอบเชียร์เขาอยู่ ดูเหมือนเขากู้หน้าคืนได้จากผลงานชุด Amarok ก่อนจะย้ายสังกัด ถ้าจะว่ากันจริง ๆ แล้ว ผลงานที่มีคุณภาพที่สุดของ Mike Oldfield จะมีแค่ถึงอัลบั้มคู่แสดงสด Exposed เท่านั้นครับ

เครดิตภาพ www.progarchives.com

(http://www.progarchives.com/progressive_rock_discography_covers/839/cover_200101452016_r.jpg)