Thai Progressive Rock Community

ใครเป็นแฟนวง Gentle Giant  ช่วยแนะนำหรือพูดถึงผลงานของวงนี้หน่อยครับ

 กระทู้เก่า เล่าใหม่ครับ

http://www.forumtown.net/viewtopic.php?t=143&mforum=progrockthai

ราขชื่อผลงานวงนี้

1. Gentle Giant (1970)
2. Acquiring The Taste (1971)
3. Three Friends (1972)
4. Octopus (1972)
5. In a Glass House (1973)
6. The Power and the Glory (1974)
7. Free Hand (1975)
8. Interview (1976)
9. Playing The Fool (1977)  ชุดนี้เป็นอัลบั้มแสดงสด
10. The Missing Piece (1977)
11. Giant For a Day (1978)
12. Civilian (1980)

มี DVD 2 ชุด
13. Giant On The Box (2004)
14. GG at the GG (2006)

ถ้าจัดอันดับ Big Ten ของวง Progressive Rock ผมมีความเห็นว่าวง GG  ควรจะติดอันดับ Top Ten ร่วมกับวงอย่าง Pink Floyd / Yes / King Crimson / Genesis / ELP / Rush / Marillion / Alan Parsons Project / Moody Blues / Mike Oldfield / Camel / Van Der Graaf Generator (นับแล้วเกิน 10 ไปแล้ว)

อัลบั้มเก้าชุดแรก สมควรเก็บครับ

ส่วนดีวีดี ยังไม่เคยดูครับ

ไม่ค่อยชอบแนวดนตรีของวงนี้ แต่ก็ตามซื้ออยู่ เพราะหน้าปกสวยดีครับ

ถอดปกแล้วเอาแผ่นมาให้ผมก็ได้นะครับ ฮ่าๆ

ผมเคยฟังแค่ชุด Octopus ครับ

ผมมีแผ่นชุด

1. Gentle Giant (1970)
2. Acquiring The Taste (1971)
3. Three Friends (1972)
4. Octopus (1972)
5. In a Glass House (1973)
9. Playing The Fool (1977)

ยังฟังไม่หมดเลยครับ

มีแผ่นตั้งเยอะแยะ ค่อย ๆ ฟังไปก็ได้ครับ

ฟังผลงานวงนี้หลายชุดแล้ว ไม่ชอบสักชุด ฟังแล้วเหมือนการทดลองแนวดนตรีมากกว่า มีเสียงแปลกๆเยอะ

หลังจากฟังชุด In a glass house และ The power and the glory มามากกว่า 10 ปี ผมยังไม่เก็ทเท่าที่ควรเลย

เทียบกับ 4 ชุดแรกฟังง่ายกว่าเยอะ 

จริงๆแล้งเพลงวงนี้ ไม่มีเพลงไหนเกิน 10 นาทีเลย แต่เพราะวงชอบใส่ ความซับซ้อน เข้าไปมากๆ เลยทำให่ฟังยาก

ขอยกให้วงนี้ เป็นวง prog ที่ไม่มีเพลงเพราะแม้แต่เพลงเดียวครับ

website
Gentle Giant Homepage

http://www.blazemonger.com/GG/


 แถม clip  Gentle Giant - Octopus Medley

http://www.youtube.com/watch?v=Fx7m74bY2Nw

Differences between USA and UK Vinyl album covers

Gentle Giant Album Covers (Vinyl): UK vs. US

 1.  Gentle Giant
     UK: gatefold sleeve, lyrics on inside of cover. Spiral on inner sleeve.
     US: no release.

 2. Acquiring the Taste
     UK: gatefold sleeve, title in green letters, lyrics in blue on black inside covers. Spiral on inner sleeve.
     US: same as UK, but title in black letters, lyrics in black on white on one page and white on purple on the other, opening inwards. Blank inner sleeve.

 3. Three Friends
     UK: gatefold sleeve, lyrics on inside of cover. Spiral on inner sleeve.
     US: gatefold sleeve, 1st UK album cover with title on the outside, the UK inside cover of Three Friends on the inside. Blank inner sleeve.


 4. Octopus
     UK: gatefold sleeve, Roger Dean painting, lyrics on inside of cover. Spiral on inner sleeve.
     US: die-cut jar-shaped cover depicting an octopus in a jar. Blue inner sleeve with lyrics on one side. Later editions were not die-cut.


 5. In a Glass House
      UK: printed silk screen on cover. Photograph insert. Lyrics on inner sleeve.
      US: no release.

 6. The Power and the Glory
     UK: die-cut half playing-card shaped cover, spades and gothic "G's" on the spine. Lyric insert. Blank inner sleeve.
     US: same cover, with Capitol C trademark on it. Lyrics on inner sleeve. Later editions were not die-cut.


 7. Free Hand
     UK: ordinary cover. Lyric insert. Blank inner sleeve.
     US: a different photograph of the same motive on the cover, with Capitol C trademark on it. Lyrics on inner sleeve.

 
 8. Interview
     UK: ordinary cover. Lyrics on inner sleeve.
    US: same cover, with Capitol C trademark on it. Lyrics on inner sleeve. Some European releases had lyric insert.


 9. Playing the Fool (double album)
    UK: gatefold sleeve, information on inside of cover. The first 10,000 UK copies had a 12 page book inserted presenting the band, but they including no lyrics. Blank inner sleeves.
    US: same cover, with Capitol C trademark on it. No book. Blank inner sleeves.


 10. The Missing Piece
      UK: ordinary cover. Green inner sleeve with puzzle piece, NO LYRICS.
      US: same cover, with Capitol C trademark on it. Same sleeve as UK. NO LYRICS.


 11. Giant for a Day
      UK: ordinary cover. Mask insert. Lyrics on both sides of inner sleeve.
      US: same cover in a darker blue. The inner sleeve carried the mask on one side and the lyrics on the other.


 12. Civilian
     UK: ordinary cover. Lyrics on inner sleeve.
     US: same cover. Lyrics on inner sleeve. A US promo version had different colors on the cover.   The German, French, Spanish and Italian editions carried the lyrics in their respective tongues on the inner sleeve.


    Not Included...
Compilations: Giant Steps (UK only), Pretentious (UK only). The Italians especially made lots of compilations.
Promotionals and radio transcription discs.

ผมก็ฟังอยู่บ้างครับ ยังไม่ติดหูติดใจซักทีครับ    ;)

นี่แหละต้นกำเนิด Technical Prog ตัวจริง ก่อนที่จะมีวงอย่าง Cynic หรือ DT ตามมา

ผมชอบ DT แต่ก็ยังฟัง Gentle giant ไม่เข้าหู ไม่ทราบว่า แฟนเพลง DT ท่านอื่นมีความเห็นอย่างไร

สำหรับผมว่า Gentle Giant ก็โอเคนะครับ สำหรับวงที่เน้นความเป็นเทคนิคัลมากกว่าความสวยงาม (จริงๆถ้าลองฟังดูดีๆจะรู้สึกได้ว่ามันมีความงดงามสอดแทรกอยู่เหมือนกัน) คือฟังสนุกดีครับ เพราะผมเองก็ชอบงาน Technical Progressive Metal หรือ Technical Death Metal ของยุคนี้ (e.g. Cynic, Cryptopsy, Gorguts, Neuraxis, Cephalic Carnage, Origin, Behold...The Arctopus, Psycroptic) คือเพลงมันไม่ติดหูเลย แต่บางทีฟังเทคนิคและลูกเล่นสะดุดหูต่างๆก็สนุกดีเหมือนกันครับ (แต่สุดท้ายแล้วผมก็ชื่นชอบดนตรีร๊อคที่มีความสวยงามและหนักแน่นมากกว่าอยู่ดีครับ)

ป.ล. สำหรับ Dream Theater นั้นเทคนิคและฝีมืออยู่ในขั้นเทพก็จริง แต่ผมไม่เคยคิดว่าพวกเขาเป็น Technical Progressive Metal นะครับ ผมคิดว่าพวกเขาเพียงสอดแทรกเทคนิคเนียนๆอันแยบยลลงไปบนดนตรีโปรเกรสสีฟเมทั่ลอันงดงามเท่านั้นเองครับ เกิดเป็นความกลมกล่อมพอดีๆของความเป็นเทคนิคัลและความงดงามของบรรยากาศและเมโลดี้ครับ (ผมคิดว่าการสอดแทรกเทคนิคของพวกเขามาในรูปแบบเดียวกับ Yes และ Rush ไม่ใช่แบบ Gentle Giant ครับ)

วงนี้ต้องใช้ความพยายามในการฟังครับ

   เขียนได้ถูกใจครับ
    วงนี้ มีเสียงแปลกๆเต็มไปหมด แต่ดนตรีก็มีความดีนะครับ ต้องฟังนานมากๆ จึงจะชอบครับ

Technical playing of GG is fine art like jazz,It sounds joyful not difficult meditation as Avant' nor DT

เท่าที่ลองฟังดู ชุด Playing The Fool / Octopus / In a Glass House ก็ใช้ได้นะครับ เพลงมีเสน่ห์ และการบันทึกเสียงดีมาก (ผมฟังจากแผ่น Original Version ของ Vertigo UK LP & Vertigo Japan LP)

octopus - japan version cd ก็เสียงดีใช้ได้เลยครับ

เมื่อวันก่อนผมโชคดีได้ชุดรวมแผ่นคู่ 'Edge Of Twilight' จากร้านโดเรมี มาแค่  500 บาท (พอดีแผ่นมีรอยเจ๊โดเลยลดราคาให้) เป็นแผ่นเยอรมันเสียงก็ดีครับ ออกเมื่อปี 1996 ผมเช็คดูแล้วที่เมืองนอกชุดนี้ไม่มีขายแล้วครับ คุ้มมาก ๆ ครับ เพราะรวม 4 ชุดแรก + ชุด  The Power & The Glory ไว้ด้วย เท่าี่ที่เช็คดูมีตัดเพลงออกจากแต่ละอัลบั้มแค่ 1-2 เพลงครับ เลยเหมือน ๆ ได้ฟังครบ 5 ชุดนี้ ฟังรอบแรกก็ชอบแล้วครับ ไม่ถึงกับฟังยากมาก ผมว่าฟัง Genesis / The Lamb...  ยังยากว่านะครับ บางเพลงมีเสียงร้องแบบประสานเสียงเพราะดี เปลี่ยนจังหวะอยู่ตลอด และมีโครงสร้างเพลงแบบซับซ้อน แต่ไม่ชวนปวดหัว ไม่น่าเชื่อว่าเพลงแค่ 3-4 นาที แต่สอดแทรกรายละเอียดไว้เยอะมาก ๆ จนเหมือนเพลง 10 นาที ฟังแต่ละครั้งก็ได้อะไรใหม่ ๆ เพิ่มทุกครั้ง เคยอ่านเจอว่าใน 1 อัลบั้มเขาใช้เครื่องดนตรีถึง 41 ชิ้นเลยครับ ชอบมาก ๆ ครับ จะรอฟังชุด In a glass house / Free Hand  ที่สั่งไปแล้วครับ   

คิดว่าจะต้องเป็นวงที่ผมชอบมาก ๆ อีกวงหนึ่งแน่นอน ผมรู้สึกว่าผมอยากฟังคนตรีแบบนี้มานานแล้ว รอว่าจะมีวงใหม่ๆ ที่จะทำดนตรีแหวกแนวแบบนี้ แต่ไม่นึกว่าจะมาเจอวงที่เก่าที่หลายคนลืมไปแล้วเล่นดนตรีแบบนี้ ต้องขอบคุณ Analog Kid  อีกทีที่พูดถึงจนผมอยากลองหามาฟัง ไม่ผิดหวังเลยครับ  8)

ดีใจที่มีคนชอบเหมือนกัน จะได้คุยกันสนุกขึ้นครับ

เพลงวงนี้ ไม่มีเพลงไหนเกิน 10 นาทีเลย ส่วนใหญ่จะประมาณ 4-6 นาทีเอง ซึ่งแปลกมากสำหรับวงในแนวนี้

ได้ฟังชุด In a glass house / Free Hand แล้ว มาคุยกันต่อครับ

ช่วงนี้ว่างๆไม่รู้จะฟังอะไรเลยเอาผลงาน 4  ชุดแรกของวงนี้มาฟังอีกที หลังจากไม่ได้ฟังเกือบปี ปรากฏว่าได้อะไรมากขึ้นกว่าปีที่แล้วเสียอีก เพลงวงนี้เหมือนจิ๊กซอว์จริงๆต้องตั้งใจฟังเพื่อจับรายละเอียดในแต่ละวินาที (ผมใช้คำว่าวินาทีเพราะส่วนใหญ่แต่ละเพลงสอดแทรกอะไรเข้าไปตลอดเวลาแบบไม่อั้น แถมมี Time Signature ที่ชวนติดตามตลอด) ถ้าไม่ใช้สมาธิฟังนี่รายละเอียดพวกนี้จะผ่านเลยไปเลย อาจเป็นแนวที่ฟังไม่ได้บ่อย แต่เก็บไว้ฟังได้นานครับ

ส่วนชุด In A Glass House กับ Fee Hand นี่ยังไม่ได้ศึกษาเลย ไว้จะหามาฟังจริงๆแล้วครับ  :D

ผมว่าดนตรีของวงนี้หนาแน่นมาก ต้องฟังด้วยความอดทนและตั้งใจเพื่อเก็บเกี่ยวรายละเอียดครับ

คุ้นๆว่า ตอนดู DVD Giant on the box หรือ GG at the GG อันไหนไม่รู้ ช่วงออกใหม่ๆ จำไม่ได้แน่นะว่าแผ่นไหน แต่เป็น liive show
นักร้องนำพูดระหว่างแนะนำเพลงนึง (ผมจำ wording ได้ไม่ชัดนะ)คล้ายๆว่า single นี้ ขายได้ดีทีเดียว ที่ Thailand

เดี๋ยวผมไปรื้อตู้ DVD เหล่านี้มาฟังช่วงวันหยุดดีกว่า

ถ้าเป็นความจริงคงต้องถามพี่ๆรุ่นใหญ่หน่อยว่าซิงเกิ้ลเพลงไหนเนี่ย ?  :o

เดี๋ยวช่วงวันหยุดผมจะเอามาดู แล้วจะบอกให้ว่าเพลงอะไร ช่วงไหน ของ แผ่น แต่คิดว่าฟังไม่ผิด เพราะฟังแล้วขนลุกเลย

อยู่ในแผ่น DVD GG at the GG หน้าปกม่วง ในpart แรก BBC 'SIGHT &SOUND' IN CONCERT
พอจบเพลงที่สอง free hand นักร้องนำก็กล่าวสวัสดีคนดู และบอกว่าเป็นการมาแสดงใน London BBC นะแหละ ครั้งแรก
และพูดว่าเพลงต่อไป ได้รับความนิยม "in some part of Thailand ... (เว้นนิดนึง )and Singapore too" คือ เพลงจากอัลบั้ม FREE HAND ชื่อเพลง ON REFLECTION
ถ้าใครมีแผ่นนี้ ต้องเปิดดูเพลงที่สองจนจบ จะพูดอยู่ท้ายเพลง FREE HAND ถ้าเลื่อนไป เพลงที่สาม จะเลยไปแล้วครับ

เหตุการณ์แนวนี้ เคยเจอมาก่อนครั้งนึง แต่เป็น liner note ที่ กล่าวถึง Thailand อย่างคาดไม่ถึง
คือ CD JIM CROCE 50th anniversary ในหน้าก่อนสุดท้าย ที่ INGRID CROCE เขียนไว้ว่า "ตอนแรกที่ออกอัลบั้ม duo JIM&INGRID  CROCE กับ Atlantic ไม่ได้รับการ promote เค้าไปpromote Grand funk แทน แต่ ยังขายได้ 6 แผ่น (6 records in PXs in Thailand)"

ไม่รู้ว่า PXs แปลว่าอะไร ใช่พวกค่ายทหารอเมริกันสมัยนั้นรึเปล่า

PX (Post Exchange) คือร้านสวัสดิการของทหารบกอเมริกันเวลาไปตั้งฐานทัพในต่างประเทศ (เมืองไทยน่าจะเคยมีที่โคราช) สินค้าที่ขายเหมือนยกห้างสรรพสินค้าในอเมริกามาเลย (น่าจะขนขึ้นเครื่อง C-130 มา โดยเฉพาะอาหาร) ราคาถูกมากจนน่าตกใจ (สมัยที่ยังไม่มีซีดี แผ่นเสียงที่ PX ที่ญี่ปุ่น แผ่นละประมาณ 30 cent ถ้าแพงกว่านั้น ก็ยังไม่เคยเห็นแผ่นที่ขายเกิน $ 1 เลย) คนท้องถิ่นไม่สามารถเข้าไปซื้อของใน PX ได้ แต่ก็มีคนลักลอบนำสินค้าใน PX มาขายในตลาดมืดอยู่บ้าง ชาวต่างชาติที่ได้รับสิทธิ์เข้าไปใช้บริการ PX จำกัดเฉพาะพวกผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารที่ประจำการในประเทศนั้นๆ ซึ่งต้องแสดงบัตรทั้งตอนเข้าไปใน PX และในการชำระเงินแต่ละครั้ง
แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะเหมาเรียก PX สำหรับทุกเหล่าทัพ แต่จริงๆ แล้วแต่ละเหล่าทัพจะมีชื่อจำแนกแตกต่างกัน สำหรับทหารเรือจะใช้ NEX (Navy Exchange) ทหารอากาศใช้ BX (Base Exchange) นานๆ จะเห็น MCX (Marine Corps Exchange) สำหรับนาวิกโยธิน และ CGX (Coast Guard Exchange) สำหรับยามชายฝั่ง เสียที

ขอบคุณที่อุตส่าห์ไปดูแล้วมาบกนะครับ ไว้จะหามาฟังดูว่าทำไมมันฮิตในบ้านเรา แต่ Jim Croce ขายได้ 6 แผ่นนี่เยอะแล้วหรือนี่

ขนาด PX ยังน่าเที่ยว

ว้าว.. dr. buska สุดยอดเลยครับ

วงนี้ ผมคงมีประสพการณ์ไม่เหมือนใคร
เพราะซื้อชุดแสดงสด มาฟังก่อน
(ตอนซื้อก็ไม่รู้จักครับ จำได้ว่าเป็นร้าน4Track ตรงโรงหนังอินทรา ประตูน้ำ เจ๊คนขายแกบอกว่า วงอะไรก็ไม่รู้ กะซื้อมาปั๊มเทปซะหน่อย แต่ไม่โดน ขายไม่ได้ เจ๊แกว่านะ)
พอขึ้นเพลงON REFLECTION เท่านั้น ผมก็ตกเป็นสาวกของวงนี้ทันที

แต่ผมว่า เพลงON REFLECTIONนี้ ฟังจากชุดสตูดิโอ ไม่โดนเลยครับ
สู้ี่การเรียบเรียงใหม่ เพื่อแสดงสดไม่ได้เลย จริงๆนา

ส่วนถามว่าแนวเพลงของวงยักษ์ใจดี-Gentle Giant เป็นอย่างไร
ผมว่าเหมือนชื่อวงของเขาแหละครับ
ยักษ์ แต่ ใจดี / Chaotic but Beautiful
See!  :)

วง Three Friends เป็นวงที่อดีตสมาชิกวง Gentle Giant 3 คนคือ
Gary Green  Malcolm Mortimore  และ Kerry Minnear กลับมาร่วมเล่นกันอีก

ไปดูรายละเอียดได้ที่นี่เลยครับ  http://www.blazemonger.com/GG/Three_Friends_%28band%29

อ้อ มี วีดิโอบน Youtube ให้ดูด้วย เล่นได้แน่นมากๆ

http://www.youtube.com/watch?v=vw2fMo8K2YQ

ดูเวอร์ชั่นเพลง Free Hand นี้แล้ว อยากย้อนเวลาไปในอดีตกลับไปดูคอนเสิร์ทของวง เล่นกันได้มันจริงๆ

http://www.youtube.com/watch?v=vMrYSTzqFI8&feature=related

ไปดูเวอร์ชั่นแสดงสดของเพลงนี้

http://www.youtube.com/watch?v=V5nBTvwYEww&feature=related

สุดยอด

กลับมารวมกันได้นี่สุดยอดจริงๆ หวังว่าคงมีดีีวีดีการแสดงเต็มๆให้ดูกันในอนาคตนี้

จุดใต้ตำตอ 4แทร็ค ก็คือ มิวสิคแลนด์  :o :o

อยากดูดีวีดียักษ์ใจดีคร้าบ....  :-* :-* :-*

Gentle Giant - Remastered in Digipak format ใครสนใจก็เชิญได้ครับ แต่ไม่ยักมี Octopus แฮะ

http://www.burningshed.com/store/gentlegiant/collection/331/

ขุดกระทู้ค้างปีขึ้นมา

ถ้าตอนที่ 3 พี่น้อง Shulman ยังทำวง Simon Dupree & the Big sound ต่อ ไม่เปลี่ยนแนวมาเป็น Gentle Gaint ที่เราท่านรู้จัก อาจจะมีชะตาชีวิต ของใครบางคนเปลี่ยนไป
เคยมีนักเปียโนที่มาแทนตัวจริง (Eric Hine)ที่ป่วย เค้าชื่อ Reginald Dwight พอเค้าขออยู่ด้วย ก็ไม่รับเค้าร่วมวง
สุดท้ายนักเปียโนคนนี้ไม่ได้ร่วมวง แต่มีโอกาสเป็นศิลปินเดี่ยว ตอนบันทึกเสียงอัลบั้มแรก เหล่าพี่น้องยังไปให้กำลังใจ ในขณะที่พวกตนเองกำลังตั้งวงใหม่ Gentle Gaint

นักเปียโนคนนี้ มีคู่หู เป็นนักแต่งเพลงด้วย และเคยไป audition กับ King Crimson แต่ไม่ผ่าน

ตอนนี้เค้าเป็นอมตะไปแล้ว ใครเอ่ย....

Elton John  มั้ง

เขาคือ Rocket Man (Elton John)
ชื่อ Reginald Dwight คือชื่อจริงของป้า Elton John
คู่หูของป้าคือ Bernie Taupin ครับ

(http://rgcred.files.wordpress.com/2009/06/elton-john-rocket.jpg?w=300&h=304)

  เพิ่งได้ฟังเพลงของวงนี้เต็มๆ จากชุด In The Glass House เมื่อไม่นานนี้เอง เสียดายที่เมื่อก่อน
  มองข้ามไป (เพราะหาฟังยากด้วย)  ฟังเพลินดี  อาจเป็นเพราะดนตรีเปลี่ยนไปตลอดทำให้น่าฟัง
  ไม่น่าเบื่อ เหมือนมีอะไรเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา

  ปล.ต้องขอขอบคุณคุณปัญญลักษณ์ที่อัดแผ่นนี้มาให้ ไม่ทราบอัดจากแผ่นอะไรเสียงค่อนข้างดีทีเดียว
 

I recorded it from a European mini lp cd krab.

+1

แอมป์ใหม่ กับ ซีดีใหม่ ก็มีส่วนช่วย ให้เพลงไพเราะ กว่าเดิมนะครับ
(ใหม่ของเรา-เก่าของคนอื่น)  :D :D :D

มีแผ่น reissued ของวงนี้ออกมา 3 ชุด ไม่ได้ซื้อไว้เลย ตอนนี้ราคาพรุ่งปรี๊ดเลย :D

วงนี้เล่นสดเก่งไม่เบาครับ
หาดูยากมาก ผมหาไม่เจอเลยพาลนึกไปว่าเก่งแต่สตูดิโอเสียอีก

  ใช่เลยครับ

  แต่การเปลี่ยนครั้งนี้ผิดจากที่คิดไว้เลย
  ตอนเปลี่ยนจากดีวีดีเป็นซีดีซึ่งราคาใหม่ๆแพงกว่าเป็นสิบกว่าเท่า แต่เสียงเปลี่ยนไปไม่มากนัก
  แต่พอเปลี่ยนแอมป์ เสียงเปลี่ยนไปผิดคาดทั้งน้ำหนักเสียง รายละเอียดเสียงเพิ่มขึ้นอีกมาก
  ตอนนี้กำลังรอลุ้นลำโพงอยู่ เรื่องเครื่องเสียงนี่คาดเดายากไม่มีอะไรแน่นอน (เหมือนผู้หญิงเลย)  :D

อัลบั้มคู่แสดงสดชุดนี้ ผมเก็บแผ่น (เสียง) ญี่ปุ่นไว้เพียงชุดเดียว และกะว่าจะมีแค่นี้พอ แต่เมื่อวานดันเจอแผ่นเยอรมันเพิ่งลงขายในร้านออนไลน์ สภาพดีราคาไม่แพง จึงต้องตะครุบไว้ครับ

(http://www.vintageprog.com/gentle9.jpg)

ผมฟังแค่ชุด The Power and The Glory นานแล้วครับ มีเป็น DVD-AUD 5.1 ด้วย
ก็สนุก และมีความน่าสนใจดีครับ

แต่จนถึงวันนี้ ยังไม่ได้หาชุดอื่นมาฟังเลย...  ;D