Thai Progressive Rock Community

ขอตั้งกระทู้ ยั่วแฟนพันธุ์แท้  ;)
คุณJKNoremorse เคยชวนสะสมหุ่นมาแล้วใน http://www.thaiprog.net/webboard/index.php?topic=2395.0
ส่วนกระทู้นี้ เน้นเพลงและเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยครับ

ผมขอเริ่มด้วยแผ่นผีๆก่อนนะ  ::)

(http://www.uppicfree.com/images/663_scan0005.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-663_scan0005.jpg)
(http://www.uppicfree.com/images/246_scan0004.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-246_scan0004.jpg)
(http://www.uppicfree.com/images/620_scan0006.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-620_scan0006.jpg)

ปัญหาคือ มันไม่น่าจะมาจากคอนเสิร์ทที่เดียวกันครับ (แอล.เอ. ฟอรั่ม สิงหา 1982)

เรียนถามว่า ออซซี่+แรนดี้ มีซีดีคอนเสิร์ท กี่ชุดครับ ที่เสียงอัดจาก ซาวด์บอร์ด
ผมอยากได้อ้ะ..  ;D

ปกติจะเปิดเผยต้นฉบับของเทปผียี่ห้อ 501 ว่ามาจากที่ไหนบ้าง  นี่เล่นเอาแผ่นซีดีบู้ทเล็คของแท้จากต่างประเทศมาลองภูมิกันเลย
ซึ่งก็ไม่เป็นไรครับ เพราะว่าเทปผีของไทยเราหาข้อมูลยากกว่าอีก...อย่างนี้พอคุยกันได้ครับ  ;D

และสำหรับ Ozzy Osbourne นี่ผมมีต้นฉบับสะสมเอาไว้เป็นแผ่นเรดิโอโชว์ครบทุกชุด !!!

คอนเสิร์ตของแผ่นซีดีชุด Madman Alive นี้ บางคนก็บอกว่ามาจากเมือง Inglewood บ้างก็บอกว่าเป็นการแสดงสดในเมือง Long Beach
สำหรับผมเองยังไม่เคยได้ฟังผลงานชุดนี้ก็เลยไม่อยากฟันธงซักเท่าไหร่ แต่เท่าที่ทราบมือกีตาร์ในอัลบั้มชุดนี้ไม่ใช่ Randy Rhoads นะครับ
เพราะถ้าหากอัดในปี 1982 ก็น่าจะเป็น Brad Gillis

ข้อมูลในเน็ทเชื่อถือไม่ได้หรอกครับ ผมลองค้นหาดูแล้ว  :-[

ท่านผีฯ ส่งไฟล์สั้นๆ มาให้ผมฟังซัก 2-3 แทร็ค เดี๋ยวหลังฟังเสร็จจะเปิดเผยแบบหมดเปลือก...ว่าแต่ว่าทำไฟล์ส่งมาให้ได้รึเปล่าล่ะ?  :D

ตกลงเฮีย Osbourne แกมีฉายาว่าค้างคาวหรือหมูตอนกันแน่ หรือว่ามีหลายฉายาครับ?

ในต่างประเทศ เห็นมีแต่ Prince of Darkness หรือ Godfather of Heavy Metal ครับ

ฉายานี้ ผมตั้งเองครับ
เอามาจากตอนแกกัดหัวค้างคาว + Mad man (อัลบั้ม2)

วันไหนเจอกันช่วยนำแผ่นบู้ทเล็คชุดนี้มาให้ฟังด้วย ผมคิดว่าน่าจะเป็นคอนเสิร์ตสมัย Brad Gillis ทำหน้าที่มือลีดกีตาร์
ไม่ใช่ Bernie Torme หรือว่า Randy Rhoads อย่างแน่นอน

ถ้าให้เดาเลยน่าจะก็อปมาจากคอนเสิร์ตของรายการ Captured Live ที่เป็น 3-LP Box Set สวยงามมาก มีแผ่นเสียงรวม
ทั้งซีดีนอกระบบเอาไปทำเป็นบู้ทเล็คแล้วเปลี่ยนสถานที่รวมทั้งวันที่หลายชุดจนแทบสับสนกันไปหมด

ผมจะรอฟังก่อนนะครับ แล้วค่อยคอนเฟิร์มอีกทีนึง ข้อมูลจะได้ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม แล้วก็ไม่ต้องก็อปให้ผมหรอก
ครับ ผมมีต้นฉบับแล้วเสียงดีมาก   ;)

ให้รู้บ้างใครเป็นใคร เจ้าพ่อบู้ทเล็คระดับเฮียโป่ง ท่านผีมีอะไรมาโชว์หรือเปล่า... ;D

ผมอยากฟังงานอื่น ๆ นอกเหนือไปจากสตูดิโอ 2 ชุด กับไลฟ์ 1 ชุด ในนาม Ozzy & Randy ครับ
ยิ่งถ้ามีทั้งภาพ และ เสียงด้วย คงจะดีมาก

งาน unofficial หรือ bootleg อื่น ๆ ที่ออกมา หรือกำลังออกมา ณ ขณะนี้ ก็ยังไม่มีงานที่เป็นของ
Randy กับ Ozzy ซะที ไม่รู้กั๊กกันไว้รึเปล่า

+1,000,000

ข่าวแว่วๆว่า เจ้าพ่อโป่งกับเจ้าพ่ออั๋น มีของดีๆ เป็นกระตั๊กๆ
น่าจะมีคอนเสิร์ท ยุคสองบั้มแรกนาครัฟ
ปล่อยของได้แล้วนะท่าน...

คอนเสิร์ตที่เป็นการแสดงสดจริงๆ ในแบบ SBD ของ Ozzy Osbourne ร่วมกับ Randy Rhoads นั้น มีไม่กี่ชุดหรอกครับ
แต่ว่าที่มีแผ่นบู้ทเล็คออกมาให้ซื้อกันเกลื่อนกลาดก็เพราะว่าโดน เปลี่ยนวันที่และสถานที่แสดง อย่างจงใจ นอกนั้นเป็น
Audience Recording ทั้งนั้น

อย่างที่บอกเอาไว้แล้วไงครับว่าผมมีเก็บสะสมไว้ทุกชุด แต่มันเป็นแผ่นเสียงต้นฉบับที่ใช้ออกอากาศซึ่ง ผมยังไม่ได้
อัดลงแผ่น CD-R เลย

ถ้าจำไม่ผิดมีคอนเสิร์ตเดียวที่ผมทำเป็นแผ่นซีดีแล้ว อันนี้เป็นต้นฉบับของอัลบั้มชุด Tribute อีกทีนึงครับ !!!

แต่ก่อนที่จะเล่าให้ฟังถึงรายละเอียดต่างๆ ผมต้องฟังไอ้ Madman Alive ชุดนี้ก่อนครับ ไม่ยังงั้นมันยังมีอะไรติดคาหัวอยู่
ผมอยากจะเคลียร์มันให้จบเสียก่อน จะได้สบายใจ  :D  :D  :D

แผ่นเสียงเรดิโอโชว์อีกรายการนึงที่ผมยังไม่ได้ลงมืออัดเสียทีคือ King Biscuit Flower Hour (KBFH) รายละเอียดนี่ต้องว่ากันยาว
เลยล่ะครับ แต่ที่ผมตัดสินใจรอมานานก็เพราะว่าถ้าเมื่อไหร่จะลงมือมันต้องทำให้สมบูรณ์ที่สุด...

แต่ปัญหามีอยู่ว่าผมมีวัตถุดิบอยู่เต็มมือ สามารถทำให้พวกพ่อค้าบู้ทเล็คอายได้ไม่ยากโดยเฉพาะคุณภาพเสียง ซึ่งการตัดต่อเพลงหรือ
editing ในเครื่องคอมฯ นี่ผมไม่มีโปรแกรมและไม่เคยเล่นเลยครับ จึงไม่ได้ฤกษ์เสียที ร้องเพลง "รอ" มาเป็นเวลา 20 กว่าปีแล้วจริงๆ

ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้นก็ตาม พอผมมีเวลาว่างก็ได้ออกแบบ หน้าปก และ หลังปก ของอัลบั้มชุดนี้เอาไว้เรียบร้อยแล้วล่ะครับ โดยทำให้
เหมือนกับ official live album ของ King Biscuit Records เพื่อที่จะได้ดูเข้าชุดกัน เพราะไม่มีทางที่เราจะได้ฟังคอนเสิร์ตในครั้งนี้อย่าง
เป็นทางการในอนาคตอันใกล้นี้ หรือ ความหวังอาจจะเป็นศูนย์เสียด้วยซ้ำไป

(http://www.uppicfree.com/images/134_KBFH.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-134_KBFH.jpg)  (http://www.uppicfree.com/images/479_KBFH.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-479_KBFH.jpg)

รายละเอียดของชื่อเพลงตามที่เห็นในภาพนะครับ เรียงลำดับตามความจริงที่เกิดขึ้นในคืนนั้นที่ประเทศคานาดา

ใครตัดต่อไฟล์เพลงเป็น เอาแบบเนียนๆ ระดับมืออาชีพ เพื่อที่จะทำให้คอนเสิร์ตฟังดูไม่สะดุด และมีระบบเสียงที่สมบูรณ์ ก็บอกมาได้
เลยครับว่าต้องการรับอาสาทำโพรเจ็คนี้ แล้วผมจะได้ติดต่อไปและลงมือทำอัลบั้มนี้ให้มันเสร็จเสียที  :D  :D  :D

นี่เป็นอีก Project นึงครับที่อยากตัดต่อทำให้มันสมบูรณ์ แต่ว่ามือกีตาร์คือ Jake E. Lee ที่ผมได้ออกแบบหน้าปกไว้แล้ว...

(http://www.uppicfree.com/images/865_KBFH.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-865_KBFH.jpg)  (http://www.uppicfree.com/images/534_KBFH.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-534_KBFH.jpg)

แผ่นเสียงและซีดีต้นฉบับจะมาจากรายการ KBFH อีกเช่นกัน  ;D

รบกวนคุณ Pong-Wanchai และเพื่อน ๆ ช่วยแนะนำผลงานเดี่ยวที่น่าสนใจของ Ozzy Osbourne หลังจากที่ได้ออกจากวง Black Sabbath แล้วด้วยครับ

มันเป็นยุคๆ นะครับ โดยมีมือกีตาร์แยกเป็นคนละยุคกัน ตามความคิดของผม

ถ้าคุณปีศาจฯ ยังไม่มีอัลบั้มชุดไหนเก็บสะสมเอาไว้เลยก็ควรจะ "สอย" ผลงานสมัย Randy Rhoads มาครอบครอง
เอาไว้ก่อนในแบบ Mini LP ซึ่งผมก็ไม่ได้ศึกษาเสียด้วยว่าปัจจุบันเนื้อในของสตูดิโออัลบั้มสองชุดคือ Blizzard Of Ozz
กับ Diary Of A Madman นั้นเป็นเวอร์ชั่นที่เปลี่ยนมือกลองและเบสอัดใหม่หรือไม่ ?

คุณ Payarak หรือ ผู้รู้ท่านอื่นๆ น่าจะให้คำตอบได้เป็นอย่างดีนะครับเกี่ยวกับ Mini LP ทั้ง 2 ชุดนี้ แต่ถ้าเป็น 12" LP แล้วล่ะก็

...ซื้อได้เลยไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังหรอกครับ.

นอกจากชุด Blizzard of Ozz, Diary of Madman และ Tribute ภายใต้มือกีต้าร์ Randy Rhoads แล้ว
งานชุดอื่นก็ยังไม่ได้ฟังเลยครับ งานชุด No Rest for The Wicked ที่ได้มือกีต้าร์วัยรุ่นอย่าง Zakk Wylde
ก็ว่ากันว่าดี แต่ยังไม่เคยฟังเลย

พี่โป่งพอจะรีวิวงานของ Ozzy ยุคหลังจาก Randy ให้หน่อยสิครับ ว่าใครมีความน่าสนใจอย่างไร?

ณ ปัจจุบัน Ozzy เพิ่งออกงานชุดใหม่ชื่อ Scream โดยมีมือกีต้าร์ใหม่นาม Gut G ก็ได้รับความสนใจ
อย่างมาก เห็นว่าเป็นงานที่ดีตั้งแต่ชุด No Rest ... เลย บ้านเราก็เพิ่งเอามาวางขาย ผมฟังไปประมาณ
2 เพลง ก็จัดว่้าเยี่ยมเลย

ผมอยากให้ ท่านผีฯ เข้ามา หรือท่านอื่นก็ได้ เล่าให้ผมฟังบ้างครับ แล้วผมจะได้ช่วยอีกแรกนึง

นี่มันกระทู้ท่านผีฯ นะครับ รีบเข้ามาร่ายรำได้แล้ว จะได้ค่อยๆ กระเถิบมาแจมทีละคนสองคน  ;D  ;D  ;D

mini lp ใช้ 2002 remastered version ซึ่งเป็น version ที่บันทึกเสียงเบสกับกลองใหม่ครับ

ถ้าอย่างนั้น คุณปีศาจฯ ควรซื้อเฉพาะแผ่นเสียงพร้อม obi อย่างที่ชอบอยู่แล้ว อย่าเพิ่งเป็นเจ้าของพวก Mini LP ครับ

หรือถ้าอยากลองสัมผัสกับผลงานของ Ozzy ในแบบรวมเพลง ผมจะไรท์ให้ครับ และนี่คืออัลบั้มที่ชื่อว่า The Essential...

(http://www.uppicfree.com/images/314_OzzyEssential.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-314_OzzyEssential.jpg)(http://www.uppicfree.com/images/663_OzzyEssential.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-663_OzzyEssential.jpg)

หน้าปกกางออกมาได้ยาว 4 ท่อนเลย แต่เนื้อที่ไม่พอลงผมจึงแบ่งออกเป็นสองท่อนอย่างที่เห็นดังรูปข้างบน

ด้านในมี Liner Notes ให้อ่านกันอย่างจุใจ พร้อมด้วยรายละเอียดของเพลงแต่ละเพลงว่าคัดมาจากอัลบั้มชุดไหนและใครเป็นคนแต่ง รวมทั้ง
เป็นสมาชิกนักดนตรียุคไหนที่บรรเลงดนตรีเป็นแบ็คอั๊พให้แก่พ่อ Ozzy Osbourne...

(http://www.uppicfree.com/images/972_OzzyEssential.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-972_OzzyEssential.jpg)(http://www.uppicfree.com/images/694_OzzyEssential.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-694_OzzyEssential.jpg)

วันงาน meeting ครั้งต่อไปจะไรท์แผ่นไปแจก คุณปีศาจฯ กับคุณ JKNoremorse เอาไว้ฟัง ก่อนจะตัดสินใจซื้อแผ่นจริง :)

(http://www.uppicfree.com/images/657_OzzyEssential.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-657_OzzyEssential.jpg)

สำหรับเพลงที่ถูกคัดมาจากสตูดิโอสองอัลบั้มแรกซึ่งบรรจุอยู่ในแผ่นรวมเพลงชุดนี้เป็นเวอร์ชั่นอัดใหม่นะครับ ขอบอกไว้ก่อน.

ได้ข่าวว่า Blizzard of Ozz แบบ Super Deluxe Edition ที่กำลังจะออกในปีนี้ เสียงเบสและกลองจะกลับไปใช้ของเดิมอีกแล้ว ส่วนแผ่นแถมจะมี DVD ที่ไม่เคยออกเผยแพร่มาก่อน (อาจจะเป็นการแสดงสดกับ Randy Rhodes ก็ได้) ครับ

"Just recently announced was the 2010 Sony Music Entertainment re-releases of Blizzard of Ozz and Diary of a Madman, featuring Randy Rhoads, with the original bass and drum tracks restored! These will be 2 disc Deluxe 30th Anniversary Editions with demos, rarities and previously unreleased live material. A limited Super Deluxe Edition will be released in the U.S. and the U.K. only and features a newly designed DVD sized Digipak case with the 2 CD's, a 65 minute DVD featuring never-before-seen live concert footage & interviews with Ozzy and the band, 3 Fender guitar picks, stickers, a faux invitation to the resurrection of Alistair Crowley and an 18cm by 12cm glossy 58-page booklet. Release dates have yet to be announced."

ครับได้ยินข่าวแว่วมาเหมือนกัน

ผมคิดว่าใน DVD น่าจะเป็นการแสดงในห้องส่งสมัยรายการ After Hours ที่ New York เมื่อตอนเริ่ม Blizzard Of Ozz Tour ครั้งแรกโน่นแน่ะครับ
เพราะว่า Ozzy เคยโชว์คลิปของการออกทีวีครั้งนั้นมาแล้วในวิดิโอชุด Don't Blame Me รวมทั้ง MV เพลง Crazy Train (live) ด้วย

แต่ยังงัยผมคงต้องมีเก็บสะสมเอาไว้อยู่ดี  :D  :D  :D

และนี่คือ ดีวีดี ที่ต้องไรท์ให้ ท่านผีฯ ...

(http://www.uppicfree.com/images/976_RR.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-976_RR.jpg)

เป็นดีวีดีแผ่นปั้มนะครับไม่ใช่แผ่นไรท์ ชื่อว่า Six String God ซึ่งส่วนมากในเน็ทอาจจะเคยเห็นกันมาแล้ว แต่หน้าปกก็มีแตกต่างกันไป
เพราะว่าส่วนมากจะเป็นแผ่น DVD-R แทบทั้งนั้นครับ

รายละเอียดข้างในสามารถดูได้จากหลังปกข้างบนนี้ ส่วนภาพข้างล่างเป็นด้านในของหน้าปก...

(http://www.uppicfree.com/images/762_RR.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-762_RR.jpg)

ให้ดูกันอีกรูปนึงว่าเป็น silver-pressed disc  จริงๆ ทั้ง 2 ด้าน....

(http://www.uppicfree.com/images/436_RR.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-436_RR.jpg)(http://www.uppicfree.com/images/605_RR.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-605_RR.jpg)

เท่าที่ได้ดูมาภาพของการแสดงในห้องส่งของรายการ After Hours ดีที่สุดแล้วครับ ถ้าเปรียบเทียบกับคลิปอื่นๆ ในแผ่นเดียวกัน เมนูสวยงามทำได้ดีครับ
แต่ผมว่าตัววีดีโอต้นฉบับมันคงหายากมาก คุณภาพโดยส่วนรวมจึงค่อนข้างไม่ชัดซักเท่าไหร่นัก

ก็ได้แต่หวังว่าแผ่น ซีดี ในแบบ Deluxe Edition ของ Ozzy Osbourne คงจะมีอะไรแถมมาให้ผมตื่นเต้นบ้าง ถึงแม้ว่าจะเป็นวีดีโอชุดเดียวกันก็ตามที  :)

เท่าที่ดูในข่าวมามันก็เหมือนมีเรื่องฟ้องร้องอยู่กับทาง Bob Daisley คนที่เล่นเบสให้ในสองชุดแรกนะครับ

ประมาณว่าเป็นเรื่องของลิขสิทธิ์ เจ๊ชารอน เลยจัดแจงให้ไอ้ลิง Robert Trujillo มาเล่นเบสแทนซะเลย ส่วน Ozzy เองก็ออกมาบอกเมื่อเร็วๆนี้ว่าไม่ค่อยชอบรีมาสเตอร์ตัวนี้เพราะเปลี่ยนมือเบส แต่ทำไงได้ ชารอน อยากให้เป็นแบบนี้ (ออกแนวกลัวเมีย)

น่าสนใจครับ
หลัง ๆ พวก Deluxe Edition ทำการบ้านมาดีจริง ๆ

ไม่ทราบว่าเจ้าของกระทู้หายไปไหนเสียแล้ว  ดูเหมือนว่าปล่อยให้คนอื่นเข้ามาบรรเลงกันอย่างสนุกสนาน ส่วนตัวเองเก็บตัวไม่ยอม
โผล่มาซักที :D

(http://www.uppicfree.com/images/271_OzzyKids.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-271_OzzyKids.jpg)

ความจริงแล้วผมเป็นคนที่ไม่ค่อยกล่าวถึงเรื่องครอบครัวซักเท่าไหร่ แต่พอผมเองเห็นรูปนี้ของ Ozzy แล้วอดคิดถึงลูกของตัวเองไม่ได้
ก็เลยขออนุญาติโชว์หน่อยครับ...

(http://www.uppicfree.com/images/522_JJNAA.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-522_JJNAA.jpg)

รูปนี้ถ่ายเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานี้เอง โดยใช้กล้อง Polaroid ภาพจึงไม่ค่อยชัด (ลูกสาวผมมันเด็กอาร์ตครับ! )

มาลงให้ดูกันอีกรูปแบบชัดเจนเลย...

(http://www.uppicfree.com/images/788_JJNAA.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-788_JJNAA.jpg)

ลองทายซิครับว่าลูกสาวกับลูกชายผมคือคนไหนบ้าง?  

ส่วนตัวเล็กที่นั่งในรถเข็นเป็นลูกของน้องชายครับ อายุมากแล้วเพิ่งจะทำสำเร็จ ใครที่อยากมีทายาทก็อย่าท้อครับ สมัยนี้ทางการแพทย์
ช่วยได้เยอะจริงๆ เลยครับ  ;)

เจ้าหนุ่มเสื้อเขียว กับสาวเสื้อขาวครับ

ไม่แน่ใจครับ...แต่ที่รู้ๆสาวคนนี้เฮียโป่งชอบแน่......อิอิ

(http://www.uppicfree.com/images/243_gcar5.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-243_gcar5.jpg)


(http://www.uppicfree.com/images/558_gcar7.jpg)[/URL

[URL=http://www.uppicfree.com/view-134_SA504627.jpg](http://www.uppicfree.com/images/134_SA504627.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-558_gcar7.jpg)

คุณ Pong-Wanchai มีลูกสาวในอุปการะหลายคนหรือครับ?

แนะนำให้ผมคนนึงนะครับ เอาไว้หลังเลิกงาน BAV ก็ได้  ;D

ขออนุญาตเข้าเรื่องดีกว่าครับ...
ถ้าจำไม่ผิด ได้ยินว่าลูกสาวของเฮีย Osbourne ตอนนี้โตแล้วและก็ดังไม่แพ้พ่อใช่ไหมครับ? แล้วฉากหลังรูปถ่ายลูกสาวคุณ Pong-Wanchai นั้นเป็นบ้านของคุณ Pong-Wanchai หรือเปล่าครับ?

เสื้อขาวทั้งสองคน ส่วนหลังฉากคือบ้านครับ

มีคนเดียวครับ.

สงสัยอย่างนี้คือเทสคุณอั๋น...ผมไม่ชอบเลยครับ ไม่เห็นสวยเลย !!!  ???

หารูปมาลงให้ดีๆ หน่อยก็ไม่ได้  :D  :D  :D

ต้องประกาศอย่างเป็นทางการต้องนี้ก่อนนะครับ ว่าผมไม่รับผิดชอบต่อการที่บ้าน คุณ JKNoremorse ต้องแตกสาแหรกขาด
จากการแนะนำของผม แล้วก็ค่าใช้จ่ายนี่ต้องออกเองนะคร้าบ...บ...บ  :D  :D  :D

ใช่แล้วครับ

ตอนนี้ผมเลยเกิดไอเดียนำเอารูปคนดังมาเปรียบเทียบกับรูปลูกของผม ดูแล้วอย่าซีเรียสนะครับ ผมอยากแกล้งลูกๆ บ้าง...

Kelly Osbourne                                                          Jam อุทัยเฉลิม
(http://www.uppicfree.com/images/462_KellyOsbourne.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-462_KellyOsbourne.jpg)    (http://www.uppicfree.com/images/956_Jam.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-956_Jam.jpg)

คนต่อไปเป็นลูกชายบ้าง...

Jack Osbourne                                             Judge อุทัยเฉลิม
(http://www.uppicfree.com/images/177_JackOsbourne.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-177_JackOsbourne.jpg)   (http://www.uppicfree.com/images/525_Judge.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-525_Judge.jpg)

เห็นมั้ยครับว่าคนไทยเราเรียบร้อยกว่าฝรั่งตั้งเยอะ ถึงกับนั่งพับเพียบเลยทีเดียว หวีผมเรียบแป้ แถมยังไม่อ้วนฉุอีกด้วย อิ...อิ...อิ

...ไม่มีอะไรทำครับ ก็เลย "ดันดารา" เล่นๆ !!!

^^ Jack Osbourne ใส่วิกรึเปล่าครับ เคยดูรายการทีวี The Osbournes ลูกๆ ของ Ozzy ยังไม่อ้วนเท่านี้

(http://www.uppicfree.com/images/709_os.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-709_os.jpg)

Jack Osbourne ไม่ได้ใส่วิกครับ

เป็นรูปตอนเด็กๆ หลังรายการ reality show น่ะครับ ตอนนี้น้ำหนักลดลงแล้ว  ถ้าขืนเอารูปตอนปัจจุบันมาดู ลูกผมก็คงสู้ไม่ได้น่ะซิครับ !!!

ยินดีครับ  ;D

ท่านค้างคาววิปลาส หายไปเลย  ???

ภาพนี้ดูกันขำๆ นะครับ  :D

คราวนี้มาตัดสินกันให้เด็ดขาดกันไปเลยว่าระหว่างนักร้องดังระดับคับฟ้าเมื่อตอนสมัยยังหนุ่มแน่นอย่าง...

Ozzy Osbourne v.s. Pong-Wanchai ใครมันจะหน้าตาดีกว่ากัน !!!

(http://www.uppicfree.com/images/913_Ozzy.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-913_Ozzy.jpg)  (http://www.uppicfree.com/images/493_Young.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-493_Young.jpg)

อิ...อิ...อิ...อิ   ;D  ;D  ;D

มีใครเคยเล่นหรือเห็น(ภาพจาก)เกม Brutal Legend บ้างครับ เกมนี้คนทำเขาบูชาป๋า Ozzy Osbourne และเพลง Metal ยุค '70s

(http://www.stuffwelike.com/stuffwelike/wp-content/uploads/2009/06/brutal_legend_box_art.jpg)

เกมนี้ตัวเอกได้แบบมาจากดารา Jack Black ผมซื้อมาดองไว้หลายเดือนแล้ว เพิ่งจะได้ฤกษ์เล่นไปหน่อย
ของเล่าฉากเปิดเกมให้ฟัง เมื่อ load แผ่นเข้าเกมเสร็จ จะมีฟุตเตจตัวเป็นๆนาย Jack Black กำลังเดินบนถนน
แล้วแว่บเข้าไปในร้านแห่งหนึ่ง ร้านนี้คือร้านจำหน่ายแผ่นเสียง ระหว่างเดิน นาย Black ของเราก็หันมาพูดกันกล้อง (คนดู)

(http://larryfire.files.wordpress.com/2008/12/jack-black-708.jpg)


เป็นระยะๆ ประมาณว่า ผมจะพาคุณไปดูอะไร ผมแอบมันไว้ในที่ปลอดภัย และรอวันที่จะได้เป็นเจ้าของมานานแล้ว
เมื่อเข้าไปในร้าน นาย Jack ก็เดินผ่านชั้นวางแผ่นแนว Pop เดินเข้ามาเรื่อยๆ กระทั่งถึงโซน Metal
นาย Jack หันมาบอกคนดูอีกครั้ง เอาล่ะ ผมจะหยิบออกมาล่ะนะ
ในจอเป็นภาพนาย Jack เลื่อนๆแผ่นเสียงอื่น เพื่อหาแผ่นที่ตัวเองหมกเอาไว้ ทันใดนั้น นาย Jack ก็ทำหน้าตกใจ
แล้วสบถออกมาว่า ห่านเอ๋ยย หายไปไหนวะ กรูว่ากรูแอบไว้ตรงนี้นี่หว่า พระเจ้า มีคนมาซื้อตัดหน้าไปแล้วเหรอเนี่ย
พิมพ์ครั้งแรกด้วยนะโว้ยย .... ในจอเป็นภาพนาย Black คุกเข่า สักพักสะดุ้ง โอ้ววว อยู่นี่เอง
สงสัยลืมที่ซ่อน (เขาหยิบแผ่นที่แอบไว้ จากชั้นวางด้านล่าง) เมื่อเข้าดึงแผ่นเสียงนี้ออกมา

ภาพในจอซูมไปที่แผ่นเสียง Brutal Legend ผมยกให้เป็น Title เปิดเกมอย่างเทพเลยก็ว่าได้
เพลงประกอบในเกม ก็อุดมไปด้วยเพลงของ Black Sabbath, Led Zeppelin, Judas Priest , Ozzy Osbourne และอื่นๆอีกมากกมายก่ายกอง

(http://digitalization.files.wordpress.com/2009/10/28236_brutal_legend-print.png?w=600&h=402)

ผมเพิ่งเล่นไปนิดเดียว ในเกมว่าด้วย Eddie Riggs (Jack Black) มือกีตาร์หนุ่มผู้หลงใหลในมนต์ขลังของ Heavy Metal
และวงกำลังจะถ้อถอยกับกระแสวงร็อกจอมปลอมอย่าง Linkin Park (ผมไม่ได้พูดเองนะ ในเกมเขากล่าวถึง)
ในฉากแสดงสดร่วมกับวงสมัยใหม่ Eddie Riggs โดนวัยรุ่นดูถูกประมาณว่า หมดยุคแล้วลุง ถ้าจำไม่ผิด
กระทั่งเกิดอุบัติเหตุระหว่างแสดง Eddie Riggs ตกเวที และโดนพวกเด็กๆหัวเราะเยาะ
ทันใดนั้นเอง ซาตานตัวเป็นๆก็โผล่ออกมาจากเงามืดหลังเวที คำรามลั่น พวกเด็กๆ Nu Metal ก็งง
ตรงนี้ฮามา ระบบในเกมจะเด้งขึ้นมา คุณจะเล่นแบบได้ยินคำหยาบทุกคำหรือไม่ แน่นอนผมกด ตกลง
ห่าอะไรวะ คือคำอุทานของเด็กแร็ปร็อค ระบบจะเด้งมาถามอีกว่า คุณจะเล่นเกมโดยเห็นฉากโหดทุกฉากหรือไม่
ผมกด ตกลงอีกเช่นเคย ซาตานกัดหัวไอ้พวกเด็กแร็ปหัวขาดเลือดกระฉูด
แล้วอุ้มร่าง Eddie Riggs พระเอกของเรามายังที่แห่งหนึ่ง

ที่นี่มีซาตานกำลังทำพิธีบูชาอะไรสักอย่าง ระบบในเกมก็บอกให้เราหยิบอาวุธ นั่นคือ ขวาน ไว้จามกระบาล
กับกีตาร์ไฟฟ้า ไว้โซโล่หรือลีดสายฟ้า

ดีครับ สาวกป๋าอ็อซซี่ ตรึมดี  ;D

กระทู้นี้ ตั้งใจเปิด เพื่อขอข้อมูล (และดีวีดี/ซีดี) จากคุณพี่โป่งน่ะครับ
เห็นว่า ในคลังแสงดนตรี มีเป็นกระตั๊กๆๆ
 :o :o :o

อ็อซซี่ แอนด์ มี
เสียงยียวน กวนประสาทเยื่อหู จากเพลง Iron Man-ไอ้คนเหล็ก เป็นเพลงแรกที่ผมรู้จักกับป๋าเขา
โดยได้ฟังจากเครื่องเสียงหนังกลางแปลง ลำโพงสูง4-5 เมตร
มันส์โคตรๆ
แต่ก็ไม่ได้เป็นแฟนพันธุ์แท้อะไรมากมาย

แถมในใจยังนึกซะด้วยซ้ำว่า ไอ้นักร้องนำคนนี้ สงสัย มันจะบ้าจริงๆ เช่น
- ถุยน้ำลาย ใส่กล้องวิดีโอ ที่ถ่ายคอนเสิร์ทกลางกรุงมอสโคว์
- กัดหัวค้างคาว เลือดพุ่งกระฉูดกลางเวที
- พูดจาไม่รู้เรื่อง เหมือนคนเมา + คนบ้า ตลอดเวลา

แต่แล้วผมก็มา"รัก" ป๋าอ็อซซี่ ตอนที่ดู  The Osbournes ทาง MTV นั่นเอง
- เห็น"ตาแก่" ที่รักสัตว์เลี้ยง มากๆๆๆๆ  :D
- เห็น "ตาแก่" ที่เมา หลับคากระถางต้นไม้  :-\
- เห็น "ตาแก่" เดินกระย่องกระแย่ง ถูก"เมีย" ข่มทุกช็อต  :'(
- และเห็น ป๋าอ็อซซี่ แปลงกายอย่างเทพ -เป็นหญิง  :o :o :o
(http://www.uppicfree.com/images/701_Osbournes_tv_ps35.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-701_Osbournes_tv_ps35.jpg)

จากนั้น ผมจึงเริ่มสะสมงานของป๋าใหม่ หลังจากซื้อแผ่น Tribute Live เมื่อสิบกว่าปี มาแล้ว

มีอะไรมากมายครับ ที่ผมได้จากวิถีชีวิตของป๋าอ็อซซี่
อย่างหนึ่งที่สำคัญมากๆ สำหรับการดำเนินชีวิตของผมนะ นั่นคือ
"ทุกคนในโลกนี้ ล้วนมีดาร์คไซด์"

แต่ป๋าเอา ด้านมืด ไปโชว์ ไปหากิน ในฐานะศิลปินเพลงร็อค
พอกลับอยู่บ้าน ป๋าเขาถอดหน้ากากนั้นออก แกก็คือ ตาแก่ใจดี รักสรรพสัตว์ ไม่มีพิษสง

แต่เราๆท่านๆซิครับ
ทุกวันออกจากบ้าน ไปทำมาหากิน ต้องใส่หน้ากากแตกต่างกันไป ดูดีกันไปหมด
แล้วมาเก็บกด ใช้ดาร์คไซด์ ยามอยู่คนเดียว กดดันตัวเองซะงั้น
ผมละ อิจฉา ป๋าอ็อซซี่เขาซะจริงๆเลย  :-* :-* :-*

Long Live Ozzy

^^ ที่ผมดู The Osbournes เพราะสุนัขเยอะน่ารักดี (ชอบดู แต่ไม่ชอบเลี้ยงเอง) แต่สงสาร Ozzy ที่มีเมียอย่าง Sharon เห็นแล้วนึกถึงละครน้ำเน่าของไทย แต่ก็ชื่นชม Ozzy ที่มีความอดทนสูง ถ้าเป็นฝรั่งคนอื่น คงเลิกกันไปแล้ว

เล่าเรื่องเกมหมดหรือยังครับ เกมนี้ท่าทางมันส์แน่ๆ แต่ผมไม่ได้เล่น จะซื้อให้ลูกชายมาลองดู  :D

พอได้กีตาร์หรือขวานแล้วมีทำอะไรต่อครับ?

^
ยังเล่นไม่จบนะครับเกมนี้ เพิ่งผ่านภารกิจเดียวเอง ภารกิจที่ว่าคือต้องเขาไปช่วยชาวบ้าน
ชาวบ้านที่ว่านี้คือกลุ่ม Head Bangers (หน้าตานี่ Axl Rose ชัดๆ) ที่โดนปีศาจ
จับมาทำงานในเหมือง ถ้าทำสำเร็จ จะได้ชาว Head Bangers มาเป็นลููกน้อง
ภายใต้ชื่อใหม่ กองทัพขาร็อค Iron Head

ขวานที่ว่าคืออาวุธหลัก กีตาร์คืออาวุธเสริมครับ ผมเล่นไปหน่อยเดียว แต่เพลงประกอบมันมาก
เชียร์ให้ซื้อให้ลูกชายเล่น แล้วพี่ Pong นั่งฟังเพลงประกอบ ก็มันสะใจแล้วครับ  :)

Sharon มีพฤติกรรมอย่างไรครับ เท่าที่อ่านข่าวมา เหมือนเป็นคู่ชีวิตที่ดี คอยช่วยเหลือกันตลอด

ผมบอกลูกชายแล้วให้มาดูข้อความที่ คุณไม่ประสงค์ออกนาม เขียน  พอเห็นรูปลูกก็บอกว่า นี่เป็นเกมที่เล่นกับ
PlayStation 3 แต่ที่มีและซื้อเครื่องมานานแล้วมันเป็น รุ่นที่สอง

ไม่ทราบว่ามัน อัฟเกรด ได้หรือเปล่าครับ หรือว่ามันต้องซื้อเครื่องใหม่อีก จำได้ว่าเครื่อง PlayStation 2 นี้ซื้อมาจากอเมริกา
แล้วก็ไปให้ทำอะไรไม่รู้ที่ ฟอร์จูน เพื่อที่จะเล่นแผ่นได้หมด แล้วมันก็นานมากแล้ว ตั้งแต่รุ่นสองนี้ออกขายใหม่ๆ ด้วย  :D

เสียใจครับ
ต้องซื้อใหม่ ลูกเดียว
เรื่องเครื่อง ผมว่าต้องชวนคุณไม่ประสงค์ฯ ไปซื้อให้ครับ
เห็นแกฟันธงไว้ว่า เอ็กซ์บ็อกซ์ คุ้มกว่า..

พูดถึง เอ็กซ์บ็อกซ์ นี่มันคืออะไรครับ? ผมไม่ทราบจริงๆ ตกข่าวมานานแล้ว เพราะเป็นคนไม่ชอบเล่นเกม

ส่วนลูกผมมักเล่นเกมออนไลน์กันกับเพื่อนเป็นกลุ่มๆ ก็เลยไม่ได้สนใจเรื่องเครื่องเล่นเกมมาเป็นเวลาพอสมควรทีเดียวครับ

แล้วไอ้ เอ็กซ์บ็อกซ์ สามารถสู้กับ บ็อกซ์ นี้ได้หรือเปล่า...

(http://www.uppicfree.com/images/356_OzzyBoxSet.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-356_OzzyBoxSet.jpg)(http://www.uppicfree.com/images/159_OzzyBoxSet.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-159_OzzyBoxSet.jpg)

สำหรับชื่อของผลงานชุดนี้ตั้งมาจากฉายาของ Ozzy Osbourne โดยตรง ไม่ต้องอ้อมค้อม แถมยังเท่ห์ อีกต่างหาก   ::)

ใน Box Set นี้มี Booklet แถมมาให้ด้วย

(http://www.uppicfree.com/images/597_OzzyBoxSet.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-597_OzzyBoxSet.jpg)(http://www.uppicfree.com/images/545_OzzyBoxSet.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-545_OzzyBoxSet.jpg)

ตอนที่ซื้อมาด้านหลังมีแผ่นกระดาษแนบ พร้อมพิมพ์รายชื่อเพลงของซีดีทั้ง 4 แผ่น

(http://www.uppicfree.com/images/394_OzzyBoxSet.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-394_OzzyBoxSet.jpg)

เมื่อกางออกมาก็เห็นการออกแบบเลเบิ้ลของแผ่นซีดีอันสวยงาม...

(http://www.uppicfree.com/images/466_OzzyBoxSet.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-466_OzzyBoxSet.jpg)  (http://www.uppicfree.com/images/610_OzzyBoxSet.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-610_OzzyBoxSet.jpg)

รายละเอียดคงจะทราบกันแล้วนะครับ !!!

...หากใครมีข้อสงสัยก็ถามมาได้เลย จะตอบให้หมดทุกข้อจนกว่าจะหายข้องใจ  :)  :)  :)

"สำหรับชื่อของผลงานชุดนี้ตั้งมาจากฉายาของ Ozzy Osbourne โดยตรง ไม่ต้องอ้อมค้อม แถมยังเท่ห์ อีกต่างหาก"

มาดู Prince of Darkness ของญี่ปุ่นมั่ง
แผ่นนี้ ออกมาตั้งแต่ 1984 แล้ว
คงมีแต่คนญี่ปุ่นเท่านั้นที่"บ้า" ซื้อได้ลงคอ
เพราะ มันมีแค่ 4 เพลงเท่านั้น!!!!
(แถม โปสการ์ด กับ สติกเกอร์ ก็ยังไม่คุ้ม)

(http://www.uppicfree.com/images/595_DSC06853.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-595_DSC06853.jpg)

ส่วนของผมได้มามือสอง ราคาแสนจะถูก-ไม่มีใครแย่ง
เพราะไม่มีโปสการ์ดและสติกเกอร์ คริๆ

(ปล. ผมเคยฟังโปสการ์ดและสติกเกอร์ มาแล้วครับ เสียงไม่ดีจริงๆ ซู่ซ่าๆตาหลอด  ;D ;D ;D)

ลงรูปแทน ท่านผีฯ ซึ่งขาดหายไป ของแผ่นเสียง 12" EP ชุด Prince Of Darkness ที่มี คนไทย ก็ บ้า ซื้อมาเก็บสะสมไว้กับเค้าเหมือนกัน  ;D  ;D  ;D

...ดูกันได้เลยครับ ดูกันให้ เต็มอิ่ม...

(http://www.uppicfree.com/images/179_OzzyPrinceEP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-179_OzzyPrinceEP.jpg)(http://www.uppicfree.com/images/942_OzzyPrinceEP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-942_OzzyPrinceEP.jpg)

ส่วนข้างล่างนี่เป็นภาพของ Sticker และ Postcard ทั้งด้านหน้าและด้านหลังครับ

(http://www.uppicfree.com/images/854_OzzyPrinceEP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-854_OzzyPrinceEP.jpg)   (http://www.uppicfree.com/images/391_OzzyPrinceEP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-391_OzzyPrinceEP.jpg)   (http://www.uppicfree.com/images/733_OzzyPrinceEP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-733_OzzyPrinceEP.jpg)

สำหรับภาพนี้ จะสามารถมองเห็นรายชื่อเพลงซึ่งพิมพ์อยู่บนหลังปกได้...

(http://www.uppicfree.com/images/288_OzzyPrinceEP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-288_OzzyPrinceEP.jpg)

สำหรับบทเพลงทั้ง 4 แทร็คในไวนิลแผ่นนี้มันมีที่มาที่ไปครับ...ต้องรอสักครู่ใหญ่ แล้วจะกลับมาเล่าให้ฟัง  ;)

สืบเนื่องมาจากไอ้ 4 เพลงของผลงานชุด "Prince Of Darkness" ที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่นของ ท่านผีฯ  ผมก็เลยต้องอาสามาเล่า
เกร็ดเล็กประวัติน้อยให้กับแผ่นไวนิลชุดนี้กันสักหน่อย

เริ่มต้นจากอัลบั้มชุด Bark At The Moon ของ Ozzy Osbourne ก่อนเลยที่ออกมาเมื่อวันที่ 10 เดือน ธันวาคม ปี ค.ศ. 1983...

LP (U.S.A.)                                                                   LP (U.K.)
(http://www.uppicfree.com/images/751_OzzyBarkLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-751_OzzyBarkLP.jpg)   (http://www.uppicfree.com/images/432_OzzyBarkLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-432_OzzyBarkLP.jpg)

แต่ว่าแผ่นที่ออกใน ประเทศสหรัฐอเมริกา กับ ประเทศแถบทวีปยุโรป นั้น บรรจุเพลงไว้ไม่เหมือนกัน หนึ่งเพลง ครับ  :D

ใครที่ "สอย" แผ่นเสียง (ในสมัยนั้น) ของ U.S.A. ก็จะมีเพลง Slow Down แทนที่เพลงที่ชื่อว่า Spiders ส่วนอีกเพลงนึงที่ชื่อว่า Centre Of Eternity
แผ่นเสียงของ U.K. เค้าเรียกชื่อแทร็คนี้ว่า Forever ซึ่ง "เนื้อใน" หรือ "ดนตรี และ การขับร้อง" เหมือนกันทุกประการ  ;)

จำได้ว่าบ็อกเซ็ตชุด Prince of Darkness ออกมาไล่ ๆ กันกับบ็อกเซ็ต Nirvana : with the light out
รูปแบบแทบจะเหมือนกันเลย ตอนนั้นผมเลือกสอยของ Nirvana มา แต่พอซื้อมา ก็ไม่รู้สึกแฮบปี้ เลยขายทิ้งไป

ส่วน Prince of Darkness นั้น ผมก็ลังเลอยู่หลายที จนสุึดท้ายไม่ได้ซื้อ ไม่รู้เพราะผมไปอ่านรีวิวบ็อกตัวนี้
มากไปหรือเปล่า ส่วนใหญ่จะวิจารณ์ไปในทางว่าเอาเพลงที่เคยออกรวมฮิตมาแล้ว มาใส่รอบที่ 3 ที่ 4 จนทำให้ไม่ได้ซื้อ

จนปัจจุบันหาซื้อไม่ได้แล้ว  :D

ซีดีแผ่นที่ 1 กับ 2 ก็เป็นอย่างที่โดนวิจารณ์กันนั่นแหละครับ แต่ แผ่นที่ 3 กับ 4 มันชวนให้น่าฟังกว่า เรียกว่า ให้เราลุ้น 50/50
ครั้นพอเวลาผ่านมาซักพัก Ozzy ก็ปล่อยอัลบั้มชุด Under Cover (2004) วางขายอีกต่างหาก !!!

...เล่นอย่างนี้ ก็พูดไม่ออกเหมือนกันครับ  :(  :(  :(

Under Cover นั่น เจ็บแสบจริง ๆ ครับ (แจ๋วจริงนะเธอ)

..... แล้วก็

Sliver บทเพลงเดโมต่าง ๆ ของ Nirvana ที่รวมอยู่ในบ็อกเซ็ตก่อนหน้านี้ก็เหมือนกัน

ทำกันได้ เน๊อะ!

สำหรับหน้าปกแผ่นเสียง เท่าที่ผมทราบเฉพาะในสมัยก่อนมีให้เลือกซื้อและสะสมกัน ประมาณ 4 แบบ...

(http://www.uppicfree.com/images/125_OzzyBarkLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-125_OzzyBarkLP.jpg)  (http://www.uppicfree.com/images/397_OzzyBarkLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-397_OzzyBarkLP.jpg)(http://www.uppicfree.com/images/552_OzzyBarkLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-552_OzzyBarkLP.jpg)  (http://www.uppicfree.com/images/245_OzzyBarkLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-245_OzzyBarkLP.jpg)

ไม่ต้องบอกก็คงรู้กันหมดแล้วว่าแผ่นเสียงชุดไหนมาจากประเทศญี่ปุ่น  ;D  ;D  ;D

ยังมีอีกหนึ่งแผ่นครับจากประเทศเกาหลี ซึ่งผมไม่ทราบว่าเป็น แผ่นผี หรือเปล่า ?!?!?  แต่ว่าหน้าปกโดน แบน ครับ  :D
...สงสัยคงเป็นเพราะความทุเรศของหมูป่าพันธุ์ค้างคาววิปลาศท่านนี้เอง !!!

(http://www.uppicfree.com/images/240_OzzyBarkLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-240_OzzyBarkLP.jpg)

แล้วก็แผ่นเสียง LP รุ่นแรกจากประเทศสหรัฐอเมริกาจะมีสติคเกอร์สีน้ำเงินแปะอยู่บนหน้าปกดังนี้ครับ...

(http://www.uppicfree.com/images/400_OzzyBarkLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-400_OzzyBarkLP.jpg)

ปัจจุบัน ในยุค Mini LP ผมเห็นมีโทนตัวหนังสือทั้งชนิด สีฟ้า และ สีเหลือง/แดง พร้อม OBI วางขายแล้วนะคร้บ แต่ที่นำมาโชว์นี่เป็นหน้าปกของ LP
ในยุคนั้น ( สมัยแผ่นซีดียังไม่เกิด...เพิ่งก่อตัวเป็นน้ำวุ้นอยู่เลย! ).

โอ้ .... ผมไม่ค่อยสังเกตเลยนะ เรื่องสีของตัวหนังสือ
ตอนนี้ ใจจดใจจ่อ กับ super deluxe edition ของ Blizzard of Ozz กับ Diary of Madman มากครับ

พี่โป่งฟังงานชุด Scream ของ Ozzy รึยังครับ ผมว่า เจ๋ง นะครับ เสียงร้องของป๋านั้นดีกว่า 2 งานหลังซะอีก (ท่าทางแกฟิตมาดี)
กีต้าร์ของ Gus G นั่น ก็มีเอกลักษณ์ของตัวเองดี ไม่ได้มีเค้าของ Zakk เลย

แต่ผมว่า ป๋าแกตั้งใจไม่เอา Zakk แต่แรกอยู่แล้ว เพราะทำงานกับแกมานาน อาจจะคิดว่าคงหมดมุขกับป๋าแล้ว
(หรือ Zakk มันจะเก็บริฟฟ์เจ๋ง ๆ ไว้เฉพาะงานตัวเอง) ดังนั้น ป๋า เลยเลือกที่จะเสี่ยงไปหามือกีต้าร์ใหม่ และ

ผลที่ออกมา ค่อนข้างน่าพอใจครับ  

คุณ JKNoremorse จะสังเกตุทำไมล่ะครับ ก็นี่มัน Ozzy Osbourne นะครับ ไม่ใช่วง Metallica !!!


+100


เอาไว้ทำงานให้ ท่านผีฯ เรื่องนี้เสร็จแล้วค่อยมาว่ากันนะครับ เกี่ยวกับอัลบั้มชุด Scream  :D  :D  :D

คราวนี้เรามาพูดกันถึงแผ่นซิงเกิ้ลที่คัดออกมาจากอัลบั้มชุด Bark At The Moon กันดีกว่า...

ถ้าจำไม่ผิดเพลงแรกที่มีวางจำหน่ายก็คือเพลงเดียวกันกับไตเติ้ลของผลงานชุดนี้

(http://www.uppicfree.com/images/458_OzzyBarkEP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-458_OzzyBarkEP.jpg)  (http://www.uppicfree.com/images/136_OzzyBarkEP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-136_OzzyBarkEP.jpg)

...ซึ่งมีวางจำหน่ายใน U.K. ล่วงหน้า (ประมาณปลายปี 1983) ก่อนตัวอัลบั้มเต็มๆ เสียอีก พร้อมด้วย บทเพลงแถม 2 แทร็ค...
แล้วใครเล่าจะไม่ซื้อมาครอบครอง  ;D  ;D  ;D

หลังจากตัวอัลบั้มออกวางตลาดได้ประมาณ 3 เดือน แผ่นซิงเกิ้ลลำดับที่สองก็จ่อรอออกมาคลอดอีก โดยมีกำหนดเอาไว้ตามตารางว่าน่าจะ
เป็นวันที่ 12 มีนาคม ปี 1984 ดังจะอ่านได้จากโฆษณาที่ลงในหนังสือ Kerrang! ของประเทศอังกฤษ ข้างล่างนี้ครับ...

(http://www.uppicfree.com/images/770_OzzySoTiredAd.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-770_OzzySoTiredAd.jpg)  (http://www.uppicfree.com/images/116_OzzySoTiredAd.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-116_OzzySoTiredAd.jpg)

วันนี้ขอพักก่อนครับ แล้วพรุ่งนี้จะมาเล่าต่อ  :D

ผมได้ฟังผลงาน Prince of Darkness ที่ออกในปี 83 (ใช่ม่ะ?) มาบ้างแล้วครับ
ถ้าจำไม่ผิด จะมีงานที่บันทึกร่วมทั้งกับ แรนดี้ และก็ เจค อี ลี
เพลงYou Looking @ me,Looking @ you.ที่บันทึกกับแรนดี้นั้น ลูกโซโล่ เหมือนกับว่ายกไลน์โซโล่นั้นมาจากเพลงของQuiet Riotเลยครับ

ใช่ครับ...เป็นการรวมเพลงของทั้ง 2 ยุค ซึ่งผมกำลังเล่าอยู่ ถ้ามีเวลาก็อ่านต่อได้ มันเป็นเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ


ยังมีอีกหลายเพลงครับที่ Randy Rhaods นำ โซโล่กีตาร์ บางส่วน หรือ ริ้ฟฟ์ บางท่อน มาใช้ในการแต่งเพลง
ร่วมกันกับ Ozzy Osbourne...

อย่างเช่นเพลง You Looking At Me Looking At You นี่ท่อนโซโล่บางส่วนมาจากเพลง Picking Up The Pieces แล้วก็
เมนริ้ฟฟ์ ของเพลง Suicide Solution ก็มาจากเพลง Force Of Habit เป็นต้น  :D

หลายคนคงสงสัยว่าด้วยเหตุใดผมจึงลงภาพโฆษณาแผ่นเสียงซิงเกิ้ลลำดับที่สอง คือเพลง So Tired ของ Ozzy Osbourne เอาไว้
ถึงสอง Ad ด้วยกัน ?!?!?

ถ้าได้อ่านจบหมดทั้งสองภาพก็คงจะเดากันถูกว่าเพลงนี้ได้ถูกโรคเลื่อนขยายเวลาออกไปอีกราวๆ 2 เดือนเห็นจะได้ แล้วก็มีการเปลี่ยน
แปลงโบนัสแทร็คทั้งหมดอีกต่างหาก

เท่าที่ผมทราบมันมีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับมือกลองที่ชื่อว่า Carmine Appice คนนี้ครับ...

(http://www.uppicfree.com/images/481_CarmineAppice.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-481_CarmineAppice.jpg)

หลังจากบันทึกเสียงอัลบั้มชุด Bark At The Moon แล้วเสร็จ มือกลองในความฝันที่เป็นจริงของ Ozzy Osbourne ที่ชื่อว่า Tommy Aldridge
ก็โดนอัปเปหิออกจากวงก่อนหน้าการทัวร์ไม่นาน 

ผู้จัดการชีวิตและผู้จัดการวง คือ Sharon Osbourne จึงชักชวน Carmine Appice เข้ามาร่วมทีมงานด้วย โดยเซ็นต์สัญญาตลอดตาราง
ตระเวณแสดงทัวร์ แต่ปรากฏว่ามือกลองชื่อดังคนนี้ (อดีตสมาชิกคณะ Vanilla Fudge, Cactus, B.B.A., Rod Stewart และอีกมากมาย) 
ก็โดนไล่ออกกลางคันอีกเหมือนกันระหว่างช่วง US Tour 1984 ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ !!!

ดังนั้นแผ่นซิงเกิ้ลเพลง So Tired จึงมีปัญหาขึ้นมาทันทีไม่สามารถวางจำหน่ายตามกำหนดการณ์ได้ เพราะเรื่องลิขสิทธิ์อันมีส่วนเกี่ยวโยง
กับไอ้ โบนัสแทร็ค นี่แหละครับ

หากความจำผมยังดี เคยอ่านรายละเอียดในหนังสือเพลงของต่างประเทศฉบับนึงเขียนบอกรายละเอียดเอาไว้ว่า เพลง Forever กับเพลง
Paranoid ในแบบ Live Version เป็นการแสดงสดที่ประเทศเยอรมันนี สมัยมหกรรมดนตรี Rock Pop Festival เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ปี 1983
และแน่นอนที่สุด การบันทึกเสียงในครั้งนั้น มือกลองก็คือ Carmine Appice นั่นเอง แถมยังมีช่วงโซโล่กลองรวมอยู่ในเพลงเสียด้วย  ::)

ปัจจุบันยังมี ดีวีดี บู้ทเล็คของมหกรรมดนตรีในครั้งนั้นแอบขายและโหลดกันฟรีทั่วโลกไซเบอร์กันไปหมด และผมเชื่อว่าแทบทุกคนน่า
จะคุ้นเคยกับคอนเสิร์ตนี้ ที่มีคณะ Def Leppard, Iron Maiden, Krokus, M.S.G., Quiet Riot, Scorpions, และ Judas Priest  รวมอยู่
ด้วยในรายการเดียวกัน  :D  :D  :D

Carmine Appice เป็นมือกลองรุ่นเก๋าคนหนึ่งซึ่งผมนิยมชมชอบในฝีไม้ลายมือของเขาครับ

เรื่อยมาจนถึงเดือน พฤษภาคม วันที่ 21 ปีเดียวกัน (1984) นี้เอง แผ่นซิงเกิ้ลเพลง So Tired ก็คลอดออกมาจนได้ !!!

(http://www.uppicfree.com/images/981_OzzySoTiredEP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-981_OzzySoTiredEP.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/478_OzzySoTiredEP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-478_OzzySoTiredEP.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/397_OzzySoTiredEP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-397_OzzySoTiredEP.jpg)

และถ้าเป็น แฟนพันธุ์แท้ ควรจะคว้ามาเก็บสะสมตั้งแต่ 10,000 แผ่นแรกแล้วนะครับ ที่วางจำหน่ายพร้อมด้วยของแถม...

(http://www.uppicfree.com/images/584_OzzySoTiredEP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-584_OzzySoTiredEP.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/246_OzzySoTiredEP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-246_OzzySoTiredEP.jpg)

รูปร่างหน้าตาของ Patch มันก็เป็นอย่างที่เห็นในภาพที่สองข้างบนนี่แหละครับ ส่วนราคาในตอนนั้นที่ผมซื้อมาก็ US$4.99 เท่านั้นเอง
จากร้าน Tower Records ในเมืองที่ผมอาศัยอยู่ในขณะนั้น :D

เมื่อปี ค.ศ. 1984 ซึ่งผ่านล่วงเลยมาแล้วเกือบ 30 ปี มือกลองที่ชื่อว่า Carmine Appice เป็นนักดนตรีระดับอาชีพจริงๆ
ตัวเค้าคนเดียวเปรียบเสมือน สมาชิกวงดนตรีทั้งหมดของคณะใดคณะหนึ่งเลยทีเดียว เพราะว่ามีทั้ง ผู้จัดการส่วนตัว
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ นักบัญชี ผู้ดูแลธุรกิจ ต่างๆ อีกหลายคน  เรียกว่า ครบวงจรธุรกิจดนตรี อย่างสมบูรณ์แบบ
นอกเหนือจากฝีมือที่ทุกคนยอมรับทั้งในและนอกวงการดนตรีครับ.

กลับมาถึงเรื่อง โบนัสแทร็ค ของแผ่นซิงเกิ้ลเพลง So Tired กันดีกว่าครับ...

ในแผ่นไวนิลขนาด 7 นิ้ว ทั้งสองแบบมีรายละเอียดตามรูปภาพข้างล่างนี้...

(http://www.uppicfree.com/images/234_OzzySoTiredEP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-234_OzzySoTiredEP.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/452_OzzySoTiredEP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-452_OzzySoTiredEP.jpg)

เมื่อกี้นี้เป็นแผ่นซิงเกิ้ลธรรมดา แต่แผ่นต่อไปนี้มีหน้าปกแบบ Gatefold ครับ และบรรจุไวนิลเอาไว้ถึง 2 แผ่นด้วยกัน

(http://www.uppicfree.com/images/715_OzzySoTiredEP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-715_OzzySoTiredEP.jpg)

อย่างที่ผมบอกแล้วไงครับว่า ซองของแผ่นเสียงขนาด 7 นิ้วนี่มันดูกำลังสวยเลยทีเดียว  :D  :D  :D

แต่ส่วนใหญ่ชอบใช้กระดาษบางๆนะครับ มีบางชุดที่ใช้กระดาษหนาเหมือนปกอัลบั้ม ผมชอบมากเลยครับ แถมบางครั้งยังทำเป็น gatefold เสียด้วย

สมัยก่อนนี้จะหาซื้อแผ่นแต่ละทีก็แสนลำบากเพราะว่าไม่มีอินเตอร์เน็ท ถ้าหากร้านแผ่นเสียงในเมืองไม่มีขายก็ต้องไปตระเวณหาตาม
ร้านในเมืองใกล้เคียง หรือ สั่งซื้อทางไปรษณีย์จากร้าน Mail Order ที่เราเป็นลูกค้าประจำอยู่ รวมทั้งตามเช็คในหนังสือ Goldmine
อีกทางหนึ่งด้วย

ลองคิดดูซิครับว่า หนึ่งหมื่นแผ่นแรกจาก UK ที่บินร่อนมาพร้อมกันกับ Patch นั้นมาถึงมือของผมได้อย่างไร ทั้งๆ ที่ตอนนั้นผมอาศัยอยู่ใน
เมืองเล็กๆ ของมลรัฐ California  ซึ่งถ้าหากบวกลบคูณหารถึงจำนวนที่น่าจะเป็นไปได้ในการสั่งซื้อจากทั่วโลกแล้ว มันไม่น่าเชื่อว่าผมได้มัน
มาเก็บสะสมเอาไว้จริงๆ  :D  :D  :D

เป็นเรื่องไม่แปลกเลยที่ โบนัสแทร็ค จำนวนมากสุดก็บรรจุอยู่ในแผ่นซิงเกิ้ลขนาด 12 นิ้วนี่เอง คือ นอกจากเพลง Bark At The Moon กับ
Paranoid แล้ว อีกเพลงนึงก็คือ Suicide Solution ซึ่งทุกแทร็คเป็น บันทึกการแสดงสด จาก The Salt Palace ใน Salt Lake City เมื่อ
วันที่ 18 เดือน มีนาคม ปี 1984  และมือกลองในคอนเสิร์ตครั้งนี้ชื่อว่า...Tommy Aldridge...หน้าเก่าคนเดิมครับ !!!

น่าเสียดายที่เพลง Suicide Solution ตอนจบค่อยๆ ถูกหรี่ลง (Fade Out) แต่ยังสามารถทดแทนได้ด้วย การเป็นเจ้าของเทป VHS
ซึ่งออกมาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเวลาต่อมาในแบบเต็มคอนเสิร์ต...

(http://www.uppicfree.com/images/306_OzzyBarkVHS.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-306_OzzyBarkVHS.jpg)  (http://www.uppicfree.com/images/169_OzzyBarkVHS.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-169_OzzyBarkVHS.jpg)  (http://www.uppicfree.com/images/365_OzzyBarkVHS.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-365_OzzyBarkVHS.jpg)

ในประเทศสหรัฐอเมริกาเท่าที่ผมทราบไม่มีวางจำหน่ายผลงานชุดนี้นะครับ ต้องซื้อจากประเทศแถบทวีปยุโรปโดยเฉพาะประเทศอังกฤษ
และเมื่อกาลเวลาผ่านมาเรื่อยๆ จึงมีหน้าปกให้เก็บสะสมกันหลายแบบอย่างที่เห็น

สำหรับประเทศญี่ปุ่น ไม่ได้น้อยหน้ากับเค้าหรอกครับ มีเทป VHS ผลิตออกมาขายเช่นกันโดยมีหน้าปกออกมาแล้วประมาณ 2 รุ่น
ถ้าข้อมูลผมไม่ผิดพลาด...

(http://www.uppicfree.com/images/913_OzzyBarkVHS.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-913_OzzyBarkVHS.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/408_OzzyBarkVHS.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-408_OzzyBarkVHS.jpg)

รายชื่อเพลงเรียงลำดับตามนี้เลยครับ

  1. I Don't Know
  2. Mr. Crowley
  3. Rock 'n' Roll Rebel
  4. Bark At The Moon
  5. Revelation (Mother Earth)
  6. Steal Away (The Night)
  7. Suicide Solution (incl. Guitar Solo)
  8. Centre Of Eternity / Drum Solo
  9. Flying High Again
10. Iron Man
11. Crazy Train
12. Paranoid

เป็นมนุษย์หมาป่าที่น่าเกลียดดีครับ

ผมนึกถึงหมาหูยาวพันธุ์ Cocker Spaniel ตลอดเลย

ปัจจุบันยังไม่มีแผ่น DVD ผลิตคอนเสิร์ตในปี 1984 ออกมาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแม้แต่ประเทศเดียว เท่าที่เห็นกันมากมาย
ในอินเตอร์เน็ทเป็นผลงานนอกสารบบทั้งนั้นนะครับ

ถ้าจะหาก็อปปี้ดีๆ ให้ภาพมันชัดๆ หน่อย ส่วนมากจะก็อปมาจากแผ่น LaserDisc จากประเทศญี่ปุ่น...

(http://www.uppicfree.com/images/145_OzzyBarkLD.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-145_OzzyBarkLD.jpg)

คุณภาพเสียงไม่ดีเท่าที่ควร แต่ว่าเวอร์ชั่นที่แถมมากับแผ่นซิงเกิ้ลทุกรูปแบบคงเป็นการมิ้กซ์คนละครั้งกัน เพราะซาวด์โดยส่วนรวม
ฟังแล้วสมบูรณ์กว่ามาก  :D

สำหรับแฟนเพลงของ Ozzy Osbourne ในระดับ Hardcore ก็ต้องหาซื้อแผ่นเสียง Radio Show ของรายการ Captured Live มาเก็บ
สะสมเอาไว้อีก 3 ชุด ซึ่งมาจากคอนเสิร์ตในเมือง Salt Lake เหมือนกัน...เอาไว้มีโอกาศดีๆ จะนำแผ่นเสียงทั้ง 3 ชุดมาเล่าให้ฟังอีก
ครั้งเพราะถ้าเอามาผสมกับบทความนี้ ผมว่าเรื่องมันจะยาวจนเกินไป

...เพียงแค่นี้ก็ยืดมาพอสมควรแล้วครับ  ;D  ;D  ;D

มาถึงตรงนี้คงพอทราบกันแล้วนะครับ ว่าบทเพลงจำนวน 4 แทร็คซึ่งบรรจุอยู่ในผลงานแผ่นเสียง 12 นิ้ว ชุด Prince Of Darkness ที่
ท่านผีฯ นำรูปมาให้ได้เชยชมนั้น มีต้นกำเนิดมาจากแห่งหนตำบลใดบ้าง?

แต่ความจริงแล้วยังไม่ครบทุกเพลงนะครับ เพราะว่าแทร็คที่ชื่อ You Looking At Me Looking At You นั้น เอามาจาก Side B ของ
แผ่น 7" ซิงเกิ้ลอีก (เหมือนเคย) ที่ชื่อว่า Crazy Train...

(http://www.uppicfree.com/images/585_OzzyCrazyTrainEP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-585_OzzyCrazyTrainEP.jpg)

เห็นมั้ยล่ะครับว่า พียุ่นแกไม่ธรรมดาเลยจริงๆ เพราะว่าสามารถนำบทเพลงจากแผ่นเสียงหลายแผ่นมารวมกันได้ในผลงานชุดเดียว
และโปรดอย่าลืมว่าในอดีตนั้น ไม่มีประเทศไหนเค้าทำกัน มันเป็นอีกทางเลือกนึงของนักสะสมแผ่นที่ยากจะปฏิเสธได้ ไม่ว่าจะคิด
เรื่อง บทเพลงในแผ่นเสียง หรือว่า รูปลักษณ์ ของผลงานที่นำเสนอตามสไตล์อันน่าสนใจจากประเทศญี่ปุ่น

ด้วยความที่ต้องเร่งรีบผลิตแผ่นซิงเกิ้ลชุด So Tired ออกมาวางจำหน่ายให้เร็วที่สุดหลังจากยกเลิกการวางจำหน่ายไปแล้วครั้งนึง
ตามที่ผมได้เล่าให้ได้ทราบกันไปแล้วนั้น มันมีผลกระทบทำให้เกิดข้อผิดพลาดที่ไม่ค่อยมีใครเห็นมากนัก แม้แต่ใน website ของ
แฟนเพลงฝรั่งระดับเหนียวแน่นก็ไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องนี้   :o  :o  :o

....แต่ว่าผมจะชี้ให้ดูกันจะๆ เลยครับ  

เชิญมองดูรูปหน้าปกแผ่นซิงเกิ้ลชุดนี้กันอีกครั้งนึง...

(http://www.uppicfree.com/images/418_OzzySoTiredEP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-418_OzzySoTiredEP.jpg)

แล้วภาพนี้มันจะดู "ดีกว่า" นี้ หรือว่า "ถูกต้อง" กว่านี้มั้ยครับ ถ้าหากผมจะกลับหัวกลับหางมันซะ !!!

(http://www.uppicfree.com/images/209_OzzySoTiredEP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-209_OzzySoTiredEP.jpg)

ใน artwork ของโฆษณาหนังสือ Kerrang! ยังลงรูปเอาไว้แบบไม่มีผิดทั้งสองครั้ง มา "ปล่อยไก่" ตัวเบ้อเริ่มก็ตอนหน้าปกแผ่นเสียง
ตัวจริงออกวางขายครั้งนั้นแหละครับ แถมยัง ผิด แล้ว ผิดอีก บนหน้าปกทุกรูปแบบด้วย

การที่จะสังเกตุว่า ลูกตา สมควรตั้งอยู่ด้านไหนนั้นให้ดู ถุงตา เป็นหลักครับ คิ้วก็เห็นลางๆ พอสมควร พร้อมด้วย Eye Liner ที่ทา และ
ขนตาปกติด้านบน (ที่ต้องยาวกว่าด้านล่าง) ของ Ozzy ทั้งสองข้าง

จวบจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ยังไม่มีใครจับผิดสิ่งนี้ได้สักคนเดียว  ถ้าจะบอกว่า จงใจ และ ตั้งใจ กลับภาพเพื่อให้เป็นศิลปะนั้น

...ผมไม่มีวันที่จะเชื่ออย่างแน่นอน  !!!

ลองย้อนกลับไปดู Ad ทั้งสองครั้งที่ผมเพิ่งเอ่ยถึงเมื่อสักครู่นี้สิครับ!

เว็ป ThaiProg กล้า "แฉ" ความผิดเป็นครั้งแรกเลยครับเนี่ย...เดี๋ยวจะหาว่าคนไทยเราไม่เก่ง หรือ ไม่แน่จริง  :D

ฝรั่งมันชอบทำผิดอย่างนี้เป็นประจำครับ เพียงแต่มัน เนียน กว่าเราก็เท่านั้นเอง แต่ถ้าเราเป็นคนละเอียดมันไม่มีอะไรจะผ่านตาหรือ
ความรู้พวกเราไปได้หรอกครับ ในเมื่อมนุษย์ทุกคนเกิดมามี(มัน)สมองเหมือนกันหมด แต่ว่าความ "มัน" นั้นต่างกันได้  :D   :D   :D

หลังจากเฉลยภาพที่สมควรจะกลับด้านให้ดูธรรมชาติและมีความถูกต้องไปแล้ว ลองกลับไปดูหน้าปกของแผ่นเสียงซิงเกิ้ล
ชุด So Tired นี้กันอีกสักครั้งซิครับ

...มันดูขัดๆ ตายังงัยชอบกล ?!?!?!?    ???  ???  ???

เอาล่ะครับ  ตอนนี้ก็มาถึงแผ่นเสียงของ ท่านผีฯ ชุดนี้โดยตรงเลยที่ชื่อว่า Prince Of Darkness ซึ่งผมเรียกมันว่าเป็น
แผ่น 12" ซิงเกิ้ล ก็แล้วกัน  ส่วนเหตุผลต้องอ่านต่อไปเรื่อยๆ ครับ  :D  :D  :D

ผลงานชุดนี้วางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น เพื่อเอาใจตลาดของตัวเองเป็นอันดับแรก เนื่องจากว่าสมัยนั้นอัลบั้มชุด Bark At The Moon
บรรจุเพลงเอาไว้เหมือนกับแผ่นในประเทศสหรัฐอเมริกา คือมีเพลง Slow Down ไม่มีเพลงที่ชื่อว่า Spiders

แล้วว่าถ้าหากจะเก็บสะสม LP จากพี่ยุ่นก็ต้องหาซื้อที่มันมีครบ set ทุกอย่างตามภาพด้านล่างนี้ครับ...

(http://www.uppicfree.com/images/680_OzzyBarkLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-680_OzzyBarkLP.jpg)

แผ่นเสียงในแบบ Special Issue !! จะแถม 7" ซิงเกิ้ลเพิ่มเติมมาให้ ซึ่งมีเพลง You Said It All (Live) และ Suicide Solution (Live)
บรรจุอยู่หน้าละหนึ่งเพลง สมัย Blizzard Of Ozz Tour ครั้งแรกร่วมกับ Randy Rhoads ใส่ paper sleeve อย่างดีตีตรา CBS Sony สีส้ม
วางไว้อย่างระมัดระวังบนกระดาษโปสเตอร์รีไซเคิ้ลแบบแข็งซึ่งเจาะไว้พอดิบพอดีเพื่อความเรียบร้อย

ของแถมอีกอย่างหนึ่งก็คือ กระดาษรูปลอก Tattoo ของ Ozzy Osbourne รวม 4 รูปด้วยกัน ส่วน Lyrics Sheet กับซองพลาสติกป้องกัน
แผ่นไวนิลนั้นเป็นสแตนดาร์ดของประเทศญี่ปุ่นเค้าอยู่แล้วที่ต้องมีมาด้วยทุกแผ่นและไม่มีข้อยกเว้น  :D

ผมลืมบอกไปว่า เพลงแถม ในแผ่นเสียงขนาด 7" นั้นนำมาจาก 12" ซิงเกิ้ลเพลง Mr. Crowley (1980) ที่วางจำหน่ายในประเทศอังกฤษ...

(http://www.uppicfree.com/images/184_OzzyCrowleyEP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-184_OzzyCrowleyEP.jpg)

คอนเสิร์ตเดียวกันกับ 2 เพลงก่อนสุดท้าย (Goodbye To Ramance และ No Bone Movies) ในอัลบั้มคู่ชุด Tribute (1987) ที่ผมเคยกล่าวถึง
ไปแล้วในกระทู้อื่นนั่นแหละครับ.

ในปี ค.ศ. 1984 นั้นเมื่อได้ทุกอย่างมาเป็นเจ้าของสมดังใจหมาย รวมทั้งแผ่นเสียงของ ท่านผีฯ ด้วย คราวนี้มาอีกแล้วครับท่าน...

(http://www.uppicfree.com/images/309_OzzyOtherLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-309_OzzyOtherLP.jpg)  (http://www.uppicfree.com/images/421_OzzyOtherLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-421_OzzyOtherLP.jpg)

โปรดอ่านดูรายชื่อเพลงก่อนนะครับ ( เพลง Spiders พิมพ์ผิด ขาดตัว "S" )

และนี่เป็น LP ชุดเต็มที่ชื่อว่า The Other Side Of Ozzy Osbourne ที่มีวางขายเฉพาะประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ซึ่งเท่าที่ผมทราบยังไม่มีผลิตออกมา
เป็น CD หรือว่า Mini LP แม้แต่แผ่นเดียว  :D

เพราะฉะนั้น แผ่นเสียง 12" ของท่านผีจึงน่าจะเป็นซิงเกิ้ลของอัลบั้มชุดนี้นะครับ.

เพื่อเอาใจบรรดานักสะสมของเว็ปนี้ก็ต้องลงรูปของแถมที่มากับแผ่นเสียงชุด The Other Side Of Ozzy Osbourne (1984) ให้ดูกัน
ตามระเบียบ ซึ่งนอกจาก Lyrics Sheet แล้วก็ไม่มีอะไรมากนอกเสียจาก รูปภาพ ขนาดเท่าแผ่นเสียง 3 รูปด้วยกัน...

(http://www.uppicfree.com/images/157_OzzyOtherLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-157_OzzyOtherLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/890_OzzyOtherLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-890_OzzyOtherLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/915_OzzyOtherLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-915_OzzyOtherLP.jpg)

ทุกภาพมีชื่อกำกับอยู่แล้ว จึงไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่มเติมอีก

(http://www.uppicfree.com/images/684_OzzyOtherLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-684_OzzyOtherLP.jpg)

ผมว่า "เสน่ห์" ของแผ่นเสียงผลิตในประเทศญี่ปุ่นนี่มัน "รุนแรง" ดีเหลือเกิน !!!

นักสะสม ในเว็ปนี้หลายต่อหลายคน ห้ามใจตัวเองไม่ค่อยอยู่ ซื้อมาแล้ว ติดอกติดใจ ต่อมาก็ต้องซื้ออีก เรียกว่า ตกหลุมรักเข้าให้แล้ว
ก็คงจะไม่ผิดนัก ใช่มั้ยครับ?   :)  :)  :)

นี่ขนาดแค่ชุด Bark of The Moon ยังมีให้เล่ากันขนาดนี้ อัลบั้มที่เหลือคงมีรออีกเป็นกระบุงแน่ ๆ  ;D
พี่โป่งนี่เป็น encyclopedia ของ Black Sabbath ภาคภาษาไทย จริง ๆ ครับ (ทำเป็นหนังสือได้เลยนะครับเนี่ย)

เป็นไปได้ ผมอยากให้มีหนังสือแนวแบบที่พี่โป่งมารีวิวให้เราดูจริงๆ  :)

พี่โป่งโปรดเฉลยให้จะจะ
ว่าแผ่นThe Other Side Of Ozzy Osbourne (1984) นี้
เพลงไหน มือกีต้าร์คนไหนเล่นครับ
เห็นแถมรูปทั้งแรนดี้ ทั้ง เจค แปลว่าต้องเล่นทั้งสองคนใช่ไหมครับ

ปล. หน้าปก So Tired ที่จับผิดนั้น ถูกต้องครับ
เป็นความจงใจของออซซี่จริงๆ ลงรูปกลับหัวซะงั้น

เพราะถ้ากลับถูกด้าน ยาเธอจะเป็น"มนุษย์"
ผิว่ากระดกกลับ น้องยาเธอจะกลายเป็น "อมนุษย์" โดยพลัน
ฮ่ง ฮ่ง บรู้วว์..  :P

ผมชอบฉายา "ท่านค้างคาววิปลาส" ที่ท่านผีฯตั้งให้ Osbourne มากที่สุด เพราะได้ยินแล้วนึกถึงหน้าของพี่ท่านที่เพ้นท์ขอบตาทั้งสองข้างเป็นรูปค้างคาว แถมแยกเขี้ยวโชว์อีกต่างหาก

อย่างนี้ต้องจับท่านผีฯไปตั้งฉายาศิลปินแข่งกับน้าวิฑูรย์ วทัญญูเสียแล้ว  ;D

พี่ผีตั้งชื่อคล้ายชื่อคุณเพชรนะครับ :D

ว่างๆ เรานัดกัน ไปคารวะคุณวิฑูรย์ วทัญญู กันดีไหมครับ
ที่ขาดไม่ได้ ต้องมีคุณโป่ง หนีบเมรัยไปด้วย
ไม่เมา มิเลิกรา..  8)


ใช่ครับ
เมื่อก่อน โอเขาชื่อ Crazy Diamond ไงล่ะ
CD = CiD = SyD
ซึ่งหน้าตาของโอ ก็เข้าทางฉายาใหม่มากๆ คริๆ  ;D

พี่แจ็คไว้ว่าง ๆ ช่วยตั้งฉายาให้วงอื่น ๆ บ้างสิครับ เอาวงทั้งหมดที่เราคุยกันในบอร์ดตอนนี้อ่ะครับ  ::)

+1 ครับ เปิดกระทู้ใหม่เลยครับ

ไปแจมกระทู้เก่าได้เลยครับ :D

http://www.thaiprog.net/webboard/index.php?topic=2224.0

ก่อนจะเปิดเผยชื่อมือกีตาร์ในแต่ละแทร็ค ขอบอกให้ทราบว่ารูปของ Jake E. Lee ถ่ายมาจากการแสดงสดบนเวที
ในมหกรรมคอนเสิร์ต US Festival '83 ณ. Glen Helen Regional Park เมือง Devore ( San Bernardino county)
มลรัฐ California ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม ปี ค.ศ. 1983 และวันนั้นเค้าเรียกกันว่า...
Heavy Metal Day ครับ

สำหรับรูปภาพของ Ozzy Osbourne กับ Randy Rhoads นั้น ไม่สามารถบ่งบอกได้ เพราะว่าแบ็คกราวด์มันมีให้ดู
น้อยมาก...เดาให้ตายยังงัยก็ไม่มีทางถูก คร้าบ...บ !!!

เฉลยชื่อมือกีตาร์ในแต่ละแทร็ค...

Side A = Randy Rhoads
  1. Mr. Crowley
  2. I Don't Know
  3. Suicide Solution
  4.You Looking At Me Looking At You (Studio)
  5. You Said It All

Side B = Jake E. Lee
  1. Bark At The Moon
  2. One Up The "B" Side (Studio)
  3. Spiders (Studio)
  4. Paranoid
  5. Suicide Solution

เพลงส่วนใหญ่จะเป็น live version ครับ ยกเว้นที่ผมวงเล็บเอาไว้

แล้วที่มาของเพลงเหล่านี้ก็คือแผ่นเสียงซิงเกิ้ลที่ผมเพิ่งได้พูดถึงทั้งหมดนั่นแหละครับ ยกเว้นเพลง I Don't Know (live)
ที่เอามาจากซิงเกิ้ลเพลง Over The Mountain (UK) หรือ Flying High Again (USA)

(http://www.uppicfree.com/images/389_OzzyOverEP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-389_OzzyOverEP.jpg)  (http://www.uppicfree.com/images/979_OzzyFlyingEP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-979_OzzyFlyingEP.jpg)

ซึ่งมันเป็นเวอร์ชั่นเดียวกันกับอัลบั้มคู่ชุด Tribute (1987) ด้วย เพียงแต่ว่ามิ้กซ์เสียงแตกต่างกัน...ลองหามาฟังดูสิครับ  :)  :)  :)

 ระบบเสียงในเพลง Bark @ the Moon ในอัลบัมดังกล่าว ได้อารมณ์มากครับ มโนภาพตามก็เห็นออสซีบ้าอยู่บนเวที
 โดยที่มีร่างกายฉุๆ(สมัยนั้น)ปกคลุม ไร้ที่ติครับ

มีคนมาติดต่อผมจะทำหนังสือรวมเล่มของคอลัมน์ที่ลงใน สตาร์พิคส์ ซึ่งผมก็ตกลงไปแล้ว แต่ว่าเวลาผ่านมาเกือบ
สองปี ผมยังไม่ได้ค้นเล่มเก่าๆ ให้เค้าไปทำเลยครับ มันขี้เกียจน่ะ  เค้า ทวง แล้ว ทวงอีก จนเลิกทวงไปแล้ว !!!

เออ...อ...อ  อย่าว่าอย่างโน้นอย่างนี้เลยนะครับ

ฉายาว่า ปีศาจลายคราม นี่ ฟังดูแล้วมันเท่ห์ไม่หยอกเลย ถ้าเป็นภาษาไทย  8)

แต่ถ้ามากลับเป็นภาษาอังกฤษนี่มันทะแม่งๆ  ชอบกลตามความคิดของผม...ลองเรียกชื่อดูสิครับว่า...
ท่าน...Blue & White Devil...!!!  หมดเท่ห์เลยครับ  ;D  ;D  ;D

ไปหาคอนเสิร์ตมาดูเลยซิครับ ในอินเตอร์เน็ทมีถมไป จะได้ไม่ต้องคิดมโนภาพตามงัย  ;D

ผมมีวีดิโอ ตอนทัวร์อัลบัม The Ultimate sinครับ สุดยอดเหมือนกัน

ประเทศญี่ปุ่นได้ผลิต ดีวีดีคอนเสิร์ต ที่หาซื้อไม่ได้จากประเทศไหนอย่างเป็นทางการมา 2 ชุด แล้วครับ...

(http://www.uppicfree.com/images/698_OzzyDVD.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-698_OzzyDVD.jpg)(http://www.uppicfree.com/images/352_OzzyDVD.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-352_OzzyDVD.jpg)

ผมว่าอีกไม่นานคงจะมีชุด Bark At The Moon ตามมาด้วย  :D

โหหหหห สุดยอด เราต้องหาสอยมาเป็นสมบัติให้ได้ ยอดๆทั้งนั้นเลย ขอบคุณมากครับ

ไม่ทราบมี DVD Live & Loud เวอร์ชั่นตะแกรงเหล็กมั้ยครับ

อยากเห็นเป็นบุญตามากๆเลยครับ

เท่าที่ทราบไม่น่าจะมีนะครับ มีแต่ซีดี.

ในขณะที่รอแผ่นซีดี Madman ของ ท่านผีฯ มาลองฟังเพื่อที่จะคอนเฟิร์มว่า คอนเสิร์ตนั้นอัดมาจากที่ไหน ผมขอนำแผ่นเสียงเรดิโอโชว์ของ
Ozzy Osbourne มาให้ดูและชมกันสักหนึ่งชุด ดังที่ได้เคยเอ่ยเอาไว้ว่า ถ้ามีเวลาจะเอามาเล่าให้ฟังต่อ ถึงการแสดงสด ที่ Salt Lake City
ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นเดียวกันกับ เพลงแถม ในแผ่นซิงเกิ้ล So Tired ที่ได้ร่ายยาวจบไปเมื่อไม่นานมานี้

นี่คือแผ่นเสียง เรดิโอโชว์ จากรายการ Captured Live ที่ผลิตโดย PG Productions Inc. ครับ...

(http://www.uppicfree.com/images/321_OzzyCapturedLiveLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-321_OzzyCapturedLiveLP.jpg)

ทั้งชุดมีแผ่นเสียง 2 แผ่น (1 & 3, 2 & 4) รวม 4 หน้า แยกออกเป็น 4 Segments เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง วันที่ออกอากาศและรายชื่อเพลง
อ่านได้จาก Cue Sheets ข้างล่างนี้เลย...

(http://www.uppicfree.com/images/683_OzzyCue.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-683_OzzyCue.jpg)(http://www.uppicfree.com/images/184_OzzyCue.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-184_OzzyCue.jpg)

คุณภาพเสียงดีกว่าใน วิดิโอ หรือ เลเซอร์ดิสค์ คอนเสิร์ตอีกครับ เพราะว่าเป็นการมิ้กซ์เสียงคนละครั้งที่ไม่เหมือนกัน

ถ้าหากลองหารูปของแผ่นเรดิโอโชว์ชุดนี้ คง "ยาก" ครับ เพราะไม่มีใครนำมาลงให้ดูกันง่ายๆ ผมเจออยู่หนึ่งเว็ปแต่ภาพเล็กมาก สำหรับเว็ปเรา
ผมสแกนมาให้ขนาดใหญ่พอดี เห็นกันชัดๆ ไม่ต้องหรี่ตาดูแม้แต่น้อย :D  :D  :D

นานๆ ถึงจะหลุดมาให้ซื้อซักที เพราะเท่าที่ผมทราบ จำนวนที่ส่งให้สถานีวิทยุออกอากาศในประเทศสหรัฐอเมริกา คือประมาณไม่เกิน 300 ชุด
บางที่อาจจะน้อยกว่านั้นด้วยซ้ำไปครับ ผมโชดดีจริงๆ ที่มีโอกาศได้ฟังเรดิโอคอนเสิร์ตของ Ozzy Osbourne ในครั้งนี้.

  

อาโป่ง เทพ แห่ง ดนตรี เฮฟวี่ ร็อก จริงๆครับ

อยากดูของสะสมOzzyของอาโป่งจังเลย เคยจัดมาลงยังครับ

ผมมีของสะสมของ Ozzy Osbourne ในนามศิลปินเดี่ยว ไม่ค่อยเยอะหรอกครับ ที่ซื้อมาส่วนมากจะเป็นตัวเพลงซึ่งสามารถดูหรือฟังได้
มากกว่าที่จะเป็นสินค้าเอาไว้เก็บอย่างเดียว คือ มักจะเป็น LP, LaserDisc, DVD แล้วก็ 12" Single และ Radio Show LP & CD

เอาเป็นว่าผมจะค่อยๆ ทะยอยนำมาลงให้ดูในกระทู้นี้...คอยติดตามอ่านก็แล้วกันครับ  :D

มาพูดกันถึงแผ่นบู้ทเล็คบันทึกการแสดงสดอีกนิดนึงนะครับ

ผมซื้อผลงานประเภทนี้ของ Ozzy Osbourne น้อยมากในสมัยก่อน เนื่องจากว่าพอได้ฟังหรือดูรายชื่อเพลงแล้ว ส่วนใหญ่เป็นการ
"ก็อปปี้" มาจากแผ่นเรดิโอโชว์แทบทั้งนั้น ซึ่งผมมีเก็บสะสมเอาไว้หมดแล้ว เลยตัดสินใจไม่ซื้อ

ไอ้การที่จะเก็บเฉพาะหน้าปกนั้นบางทีมันก็เป็นอีกทางเลือกนึง แต่ผมก็ไม่ได้ซื้อมาเก็บเอาไว้ซักเท่าไหร่ เพราะมันเป็นการสิ้นเปลือง
อีกทั้ง คอนเสิร์ตนึงมีการทำแผ่นบู้ทเล็คออกมาขายแทบนับไม่ถ้วน เรียกว่า มากจนเกินไป เลยทำให้ถอดใจแถมยังรู้สึกน่าเบื่ออีกด้วย
ไม่มีอะไรแปลกใหม่

...ในใจยังคิดเลยว่าไอ้พวก Bootlegger นี่มันทำอะไรวะ ก็อปปี้กันอยู่ได้ซ้ำๆ ซากๆ  >:(

และนี่คือแผ่นซีดีบู้ทเล็คที่ผมกำลังพูดถึงครับ...

(http://www.uppicfree.com/images/398_OzzyBoot.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-398_OzzyBoot.jpg)  (http://www.uppicfree.com/images/580_OzzyBoot.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-580_OzzyBoot.jpg)

เมื่อมองด้านหลังของ insert แล้วมีรูปด้วยครับ แต่พอเปิดกางออกมา ปรากฏว่าไม่มีอะไรพิมพ์เอาไว้เลย มีแต่สีกระดาษขาวโพลน
ทั้งแผ่น...สงสัยคงประหยัดเงินค่าจ้างในการพิมพ์ปกสี่สีน่ะครับ  ;D

(http://www.uppicfree.com/images/291_OzzyBoot.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-291_OzzyBoot.jpg)

ทั้ง หน้าปก กับ หลังปก แลดูสวยงาม คุณภาพเสียงก็ดีทีเดียว แต่ว่าดัน "โกหก" บอกว่าเป็นการแสดงสดจาก Starplex Auditorium
เมือง Dallas มลรัฐ เท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อเดือน สิงหาคม ปี 1981

มันเป็นความเคยชินเสียแล้วของนักสะสมอย่างผมที่พอได้เห็น รายชื่อเพลง ก็อาจสามารถคาดเดาได้ว่า คอนเสิร์ตนี้มันก็อปปี้มาจาก
แผ่นเรดิโอโชว์ชุดไหนกัน เพราะสาเหตุว่า ผลงานประเภทนี้ที่เสียงดีๆ เหมือนกับ official live album นี่ โดยเฉพาะยุค Randy Rhoads
เป็นมือลีดกีตาร์แล้วล่ะก็ มันมีอยู่เพียงไม่กี่ชุดเท่านั้น!

มาแล้วครับ ภาพของแผ่นเสียงต้นฉบับที่มี Randy Rhoads เป็นมือลีดกีตาร์ ซึ่งถูกนำไปก็อปปี้ทำเป็นแผ่นบู้ทเล็คมากที่สุดในโลก...

(http://www.uppicfree.com/images/221_OzzyKBFH.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-221_OzzyKBFH.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/701_OzzyKBFH.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-701_OzzyKBFH.jpg)

ใช่ครับ...มัน คือ รายการที่ชื่อว่า King Biscuit Flower Hour (ผลิตโดย D.I.R. Broadcasting Corporation) นั่นเอง !!!

เนื่องจากรายการ KBFH นี้จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ดังนั้นแผ่นเสียง 2 แผ่นจึงมีบทเพลงบรรจุอยู่เพียง 3 หน้า ผมเลยเอารูปมาให้ดูว่า
หน้าที่เหลือเขาพิมพ์เอาไว้ชัดเจนว่ามันเล่นไม่ได้นะครับ ใครเผลอเปิดไปล่ะก็มีสิทธิ์เสียเงินซื้อเข็มเล่นจานเสียงใหม่แน่นอน  :D

วันที่ที่กำหนดให้ออกอากาศคือ 17 มกราคม ปี 1982 ผมยังจำได้ดีตอนเปิดวิทยุฟังครั้งแรก มีความรู้สึกว่า Ozzy ค่อนข้างร้องเสียงหลงอยู่หลาย
แห่ง แต่ว่าเสียงกีตาร์นี่สุดยอดมากครับ โดยเฉพาะช่วงโซโล่เดี่ยว  

...ผมจึงไม่แปลกใจเลยว่า เวอร์ชั่นนี้ได้ถูกนำไปตัดต่อในอัลบั้มคุ่ชุด Tribute ที่มีวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการภายหลัง  :)
 

เรามาดูรายชื่อเพลงกันครับ เรียงคิวเหมือนกันเปี้ยบกับแผ่นบู้ทเล็คซีดีที่ผมนำมาให้ดูเลย...

(http://www.uppicfree.com/images/800_OzzyKBFHCue.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-800_OzzyKBFHCue.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/168_OzzyKBFHCue.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-168_OzzyKBFHCue.jpg)

ขนาดเป็นรายการทางวิทยุฟอร์มยักษ์ใหญ่ แต่ถ้ามากล่าวถึงรายละเอียดการทำงานแล้วล่ะก็ เหมือนๆ กันทั้งนั้นแหละครับ คือว่า มีจุดบกพร่องให้
เห็นบ้างเล็กๆ น้อยๆ ตามวิสัยของมนุษย์โดยทั่วไป  ;D  ;D  ;D

ในการบันทึกเสียงแต่ละครั้งนั้น ต้องมีการติดต่อตกลงทางธุรกิจและลิขสิทธิ์ อย่างละเอียดถี่ถ้วน พร้อมเซ็นสัญญาค่าจ้างเหมือนปกติ ผมจึงคิดว่าน่า
จะมีรายละเอียดของทั้ง บทเพลง และ สมาชิกนักดนตรี ที่ถูกต้อง เพราะว่านี่คือ การช่วยโปรโมททัวร์ ให้กับทางคณะ...

แต่ก็อย่างที่เห็นกันในกระดาษแผ่นแรกซึ่งเรียกว่า Promo Sheet นั้น ลงชื่อนักดนตรีผิดอย่างไม่น่าให้อภัยเลยแม้แต่น้อย  >:(  >:(  >:(

ยังดีที่ในรายการ Radio Announcer หรือ ดีเจ ไม่ได้บอกว่าสมาชิกนักดนตรีชื่ออะไรบ้าง ไม่อย่างงั้นคงจะเสียฟอร์มมากกว่านี้ครับ.

ขอถามอาโป่งครับ

สรุปงานไลฟ์ของ OZZY ยุค RANDY นี่ เขาบันทึกกี่โชว์ครับ
เคยอ่านเจอว่า พวกOzzy ก็มีงานที่เก็บไว้นิดเดียวเอง

งานยุคของ Ozzy กับ Randy นี่มีเป็น Radio Show บ้างไหมครับ  ::)

ถ้าถามถึงผลงานชุด Tribute ก็บันทึกมาจากสามคอนเสิร์ต และ สตูดิโอเซสชั่นอีกหนึ่งแทร็ค

สำหรับแผ่นเสียงเรดิโอโชว์เท่าที่ผมทราบมีทั้งหมด 6 ชุดครับ เป็นรายการ King Biscuit Flower Hour 3 ชุด แล้วก็รายการ SuperGroups
In Concert อีกหนึ่งชุด ที่เหลือคือรายการของ The Source ทั้งหมด 2 ชุดด้วยกัน  :D

ส่วน Ozzy จะมีคอนเสิร์ตสมัยร่วมทีมงานกับ Randy Rhoads อัดเก็บไว้กี่ชุดนี่ ผมไม่ทราบจริงๆ ครับ เคยได้ยินมาเหมือนกับที่
คุณ PANTERISTA ทราบนั่นแหละครับ ว่ามีนิดเดียวเอง เพราะอัลบั้มคู่ชุด Tribute ก็นำวัตถุดิบมาจากแผ่นเสียงเรดิโอโชว์ทั้งนั้น
ยกเว้นสองเพลงที่นำมาจากคอนเสิร์ตสมัย Blizzard Of Ozz Tour ร่วมกับ Bob Daisley และ Lee Kerslake ครับ.

ก็แผ่นเสียงของรายการ King Biscuit Flower Hour ที่ผมเพิ่งนำรูปเลเบิ้ลมาให้ดูนี่ไงครับ  :D

เมื่อสักครู่ ท่านผีฯ เพิ่งแวะมาหย่อนแผ่นซีดีชุด Madman Alive ให้ฟัง ขอบคุณมากครับที่กรุณาสละเวลามาส่งให้ถึงถ้ำเสือ !!!

ผมลองฟังแบบผ่านๆ เท่านั้น แต่ขอ "ฟันธง" เลยว่าแผ่นนี้ก็อปปี้มาจากแผ่นเสียงเรดิโอโชว์ชุด Captured Live แน่นอน แล้วก็มีเพลง
ไม่ครบเสียด้วย...บรรดาพวก Bootlegger นี่คิดจะก็อปทั้งทีก็ไม่ก็อปให้มันหมดทุกแทร็ค พ่อเจ้าประคุณเอ้ย !!!

วันหลังจะมาเขียนให้อ่านกันครับ วันนี้ขอแค่นี้ก่อน  :D

http://www.youtube.com/watch?v=8OgYWLSrmlI
 ;D

ได้เห็นแผ่นเสียงเรดิโอโชว์ของ Ozzy Osbourne ที่มี Randy Rhoads เป็นมือกีตาร์ที่ถูกนำไปทำเป็นแผ่นบู้ทเล็คมากที่สุดกันไปแล้ว
คราวนี้มาถึงเกร็ดประวัติเล็กๆ น้อยๆกันบ้างที่หาอ่านไม่ได้จากที่ไหน...

มันเป็นข้อมูลของผมเองที่สะสมเอาไว้ในสมอง เพราะความอยากลองและไขว่คว้าหาความรู้ในสมัยก่อนยุคอินเตอร์เน็ท ซึ่งใครที่เป็น
แฟนเพลงพันธุ์แท้ก็น่าจะมีพฤติกรรมคล้ายกับผม คือว่า ต้องการอยากรู้อย่างละเอียดเกียวกับ การแสดงสด ในรูปแบบแผ่นเรดิโอโชว์
ของ ท่านค้างคาววิปลาส คนนี้นั้น สามารถมีให้ซื้อเก็บสะสมได้กี่ชุดกันแน่?

มันอาจเป็นคำถามที่ค้างคาใจนักสะสมแผ่นเสียงหลายๆ คน แต่ในยุคแผ่นเสียงเฟื่องฟูนี่ แหล่งข้อมูล มีอยู่น้อยมากๆ แล้วจะเริ่มต้นทำ
ยังงัยดีถ้าหากอยากหาข้อมูลที่แท้จริง...

ผมขอตอบแบบตรงไปตรงมาเลยก็คือ ต้องใช้หลักสุภาษิตโบราณของบรรพบุรุษเราครับ ที่บอกเอาไว้ ว่า..."ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน" !!!

เริ่มต้นจากการหาซื้อ นิตยสารทางด้านดนตรีของต่างประเทศก่อนเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น หนังสือ Hit Parade, Rip, Circus, Kerrang!,
และ อื่นๆ อีกมากมาย แต่ผมขอบอกว่าผมไม่อ่าน Rolling Stone กับ Billboard นะครับ เพราะมันเป็นหนังสือตามกระแสไม่มีแง่มุมหรือ
ความเชี่ยวชาญทางด้านเพลงประเภทร็อคซักเท่าไหร่นัก  ???

เพราะฉะนั้นหนังสือประเภทรวมเล่มตีตรารับประกันจากหัวหนังสือเล่มนี้ผมจะไม่ซื้อเลยนะครับ แต่ความจริงก็เคยซื้อมาครั้งนึงเพื่อลองดู
ผลปรากฏว่า ข้อมูลของวงดนตรีร็อคลงเอาไว้บิดเบือนข้อเท็จจริงมาก ไม่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะประวัติของนักดนตรี และ การเรียบเรียง
อัลบั้มทุกชุดของวงดนตรีนั้นๆ

บางครั้งผมได้ยินมาจากวงในของสื่อสารมวลชนหลายๆ คนที่ยกย่องหนังสือ Rolling Stone ว่าอยู่ในระดับหัวแถว ยิ่งฝรั่งด้วยกันนี่ต้องเอ่ย
ปากหรือว่ายกนิ้ว (โป้ง) ให้เลย ซึ่งผมก็ไม่ได้ขัดแย้งหรือโต้ตอบสิ่งใด เนื่องจากนี่เป็นความเห็นของผมเพียงคนเดียว

ส่วนสมาชิกเว็ปนี้ และ ท่านที่กำลังอ่านจะคล้อยตามหรือมีความเชื่อเหมือนกับผมหรือไม่นั้น ก็สุดแล้วแต่ครับ แต่นี้เป็นการเล่าประสพการณ์
ของผมให้ฟังเพราะฉะนั้นนี่คือมุมมองของผมด้านเดียวครับ และผมก็ได้บอกเหตุผลไปแล้วด้วย   ;)

บ่ายนี้มีเวลาแค่นี้ เดี๋ยวกลับมาใหม่ครับ ต้องออกไปธุระกับลูกสาว จะกลับมาพร้อมรูปภาพอีกทีครับ  :D  :D  :D

เห็นด้วยกับพี่โป่ง เรื่องความรู้และประสบการณ์นั้นสามารถแลกเปลี่ยนหรือแชร์กันได้ ส่วนการตัดสินใจ ตนย่อมเป็นที่พึ่งแห่งตนเท่านั้นครับ

นอกจากหนังสือเหล่านั้นแล้ว สมัยก่อนยังจำได้อีกเล่มนึงที่ชื่อว่า Trouser Press ก็ค่อนข้างโอเคครับ มีโฆษณาของร้านค้าที่ขายแผ่นเสียง
ทางไปรษณีย์ด้วย แล้วที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือ Goldmine ครับ เป็นนิตยสารขนาดฉบับเท่าครึ่งนึงของหนังสือพิมพ์ไทยเรา ข้างในมีแต่โฆษณา
ขายแผ่นหรือประมูลแผ่นแทบทั้งนั้น รวมทั้งบทความอีกมากมายสำหรับนักสะสมแผ่นเสียง คล้ายๆ กับ Record Collector (UK) นั่นแหละ
ครับ เพียงแต่ว่าเป็น USA เวอร์ชั่นเท่านั้นเอง

(http://www.uppicfree.com/images/761_TrouserPressMag.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-761_TrouserPressMag.jpg)  (http://www.uppicfree.com/images/750_Goldmine.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-750_Goldmine.jpg)

ที่ผมเอ่ยถึงแค่นั้นยังไม่พอนะครับ ทุกๆ วันยังจะต้องติดตามข่าวสารทาง MTV และ วิทยุเพื่อจะได้ไม่ตกข่าวโดยเฉพาะรายการพิเศษที่เป็น
เรดิโอโชว์นี่ แทบต้องเอาหูแนบกับสเตอริโอเลยล่ะครับ เพราะว่าไม่อยากพลาด และผมมักจะอัดเทปเก็บไว้แทบทุกตอน แต่พอหลังจากรู้ว่า
รายการเหล่านี้ทำเป็นเทป reel-to-reel และ แผ่นเสียงแล้ว ผมก็เลิกอัดครับ กลับมาตามเก็บของแท้ซะเลยดีกว่า

ผมยังจำได้ดีว่า Randy Rhaods เสียชีวิตเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม ปี 1982  ก่อนหน้านี้ Ozzy & Randy จะแวะมาเล่นที่เมือง Fresno
ที่ผมเรียนอยู่ แต่ว่าโดนเลื่อนไปอีกหนึ่งอาทิตย์ ผมเองซื้อตั๋วไว้แล้ว ตอนแรกนึกว่าจะได้ดูแน่นอน แต่ก็มายกเลิกอีกครั้ง เลยอดดูคอนเสิร์ต
ไปเลย หลังจากนั้นอีกไม่เกิน 2-3 เดือน Randy Rhoads จึงประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต  :(

รายการ King Biscuit Flower Hour เปิดคอนเสิร์ตของ Ozzy Osbourne สมัย Randy Rhoads เป็นมือลีดกีตาร์ไปแล้วเมื่อวันที่ 17 มกราคม
1982 ซึ่งผมได้ลงรูปโชว์ไปให้ดูแล้ว

แต่ในเวลาไม่นานต่อมาหลังจาก Randy Rhoads ตาย ทางรายการก็  re-run อีกครั้ง กลายเป็น Best Of The Biscuit โดยใช้คอนเสิร์ต
เดิมมาออกอากาศใหม่ครับ...

(http://www.uppicfree.com/images/382_OzzyKBFHCue.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-382_OzzyKBFHCue.jpg)(http://www.uppicfree.com/images/900_OzzyKBFHCue.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-900_OzzyKBFHCue.jpg)

นักสะสมหลายคนไม่รู้ว่ามีแผ่นเสียงเรดิโอโชว์ 2 แผ่นที่เหมือนกัน แต่ว่าวันที่ออกอากาศนั้นแตกต่างกัน...

(http://www.uppicfree.com/images/840_OzzyKBFH.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-840_OzzyKBFH.jpg)  (http://www.uppicfree.com/images/393_OzzyKBFH.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-393_OzzyKBFH.jpg)

เห็นมั้ยครับ รายการเดียวกันเลยแต่ว่าวันที่ไม่เหมือนกัน ถ้าไม่สังเกตุหรือไม่ดูรายละเอียดก็คงจะไม่สนใจอะไรมากเพราะว่า "เนื้อใน" มันเป็น
"คอนเสิร์ต" เดียวกันกับโชว์ครั้งที่แล้ว เพียงแต่ว่า โฆษณา กับ เรื่องราวที่พูดของผู้ดำเนินรายการ มันแตกต่างกัน ก็เท่านั้นเอง  :D

...แต่ว่า ผมก็ "สอย" มาเป็นสมบัติเก็บไว้ในกรุอีกนั่นแหละครับ เนื่องจากว่าต้องการเทียบเสียงว่าโชว์ไหนมันมีคุณภาพเสียงที่ดีกว่ากัน ?!?!?!?

ต่อเลยครับพี่ แหล่มจิงๆ

ขอตอนจบที่ แผ่นทริบิวท์นะครับ
เอาแบบว่า แทรคไหน เอามาจากไหน ตัดต่อโซโล่ จากที่ไหน
มิกซ์เสียงอะไร เข้าไปเพิ่มบ้าง
ขอแบบเรียงแทร็ค ตามแผ่นเลยนะครับท่าน
จะตั้งตารออ่านไปเรื่อยๆครับ
(http://2.bp.blogspot.com/_DdqlCHIqbfY/SrercWGHaUI/AAAAAAAAAUY/VTr6nzMdnVg/s1600/Ozzy-Osbourne-Tribute-Randy-Rho-454711.jpg)

มาคุยต่อกันถึง แผ่น Radio Show ของ Ozzy Osbourne ในรายการ King Biscuit Flower Hour กันดีกว่า...

หากสังเกตุดูใน Promo Sheet ที่กล่าวถึงข้างบนเมื่อกี้นี้จะเห็นว่า รายชื่อของสมาชิกนักดนตรียังพิมพ์ผิดอยู่เหมือนเดิม แทนที่จะเปลี่ยน
ให้เหมือนกันกับในอัลบั้มแสดงสดชุด Tribute (1987)  ???

แล้วก็คุณภาพเสียงของเจ้าแผ่นเสียงเรดิโอโชว์ทั้งสองชุดที่ผมมีเป็นเจ้าของนั้น มันคล้ายคลึงกันมากครับ แต่ผมคิดว่าแผ่นสมัยออก
อากาศครั้งแรกจะให้ความสดใสมากว่านะครับ ( ที่ต้องคิดอย่างนี้เพราะว่ากลัวเสียดายเงินที่จ่ายไป! )  :D  :D  :D

แต่ที่แน่ๆ เลยก็คือ แผ่นเรดิโอโชว์ของรายการ King Biscuit Flower Hour ครั้งแรกเริ่มจริงๆ เสียงดีที่สุดครับ...

(http://www.uppicfree.com/images/700_OzzyKBFH.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-700_OzzyKBFH.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/648_OzzyKBFH.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-648_OzzyKBFH.jpg)

อย่างที่เห็นใน Promo/Cue Sheet นะครับว่า ในวันที่ 13 กันยายน ปี 1981 นั้น รายการ KBFH มีการเปิด 2 คอนเสิร์ต ออกอากาศ
ในชั่วโมงเดียวกัน อันมี Ozzy Osbourne ร่วมกับ Derek/St. Holmes ซึ่งการแสดงสดทั้งสองวงนี่ ปัจจุบันหาฟังยากมากทีเดียว
โดยเฉพาะวงหลังของหนึ่งในสมาชิกคณะ Aerosmith นี่แหละ !!!

ไม่ต้อง "งง" หรอกครับ ทุกท่านเข้าใจถูกแล้ว นี่คือ แผ่นเรดิโอโชว์จากรายการ KBFH เหมือนกัน แต่ว่าเป็นการทำเปิดออกอากาศ
สมัย US Tour เพื่อสนับสนุนอัลบั้มชุด Blizzard Of Ozz นั่นเอง  :D

สำหรับแผ่นเรดิโอโชว์อีกสองชุดที่ผมเพิ่งเอ่ยถึงนั้น เป็นการเปิดออกอากาศสมัย Diary Of A Madman Tour ครับ ดังนั้น ทางผู้ผลิตคือ
D.I.R. Broadcasting Corp. จึงได้นำเพลง Flying High Again มาใส่ไว้เป็นแทร็คแรกของคอนเสิร์ตเพื่อเป็นการโปรโมทแผ่นซิงเกิ้ลที่
กำลังวางจำหน่ายอยู่ในขณะนั้น (ลองกลับไปดูรายชื่อเพลงใน Promo Sheet อีกสักครั้งซิครับ)

ซึ่งถ้าจะให้เรียงเพลงอย่างถูกต้องตามที่เล่นในคอนเสิร์ตจริงๆ ก็ต้องเป็นไปตามแผ่นเรดิโอโชว์ที่ผมนำมาลงให้ดูชุดนี้นี่เองครับ...

(http://www.uppicfree.com/images/583_OzzyKBFH.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-583_OzzyKBFH.jpg)  (http://www.uppicfree.com/images/964_OzzyKBFH.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-964_OzzyKBFH.jpg)

ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า คอนเสิร์ตในแผ่นเรดิโอโชว์ทั้งสามชุด จากรายการ King Biscuit Flower Hour นั้น บันทึกเสียงมาจาก ประเทศ
คานาดาในปี ค.ศ. 1981 ทั้งหมด และเป็นการแสดงสดคืนเดียวกันด้วย

เพียงแต่ว่า คอนเสิร์ตของแผ่นนี้มีเพลง Iron Man / Children Of The Grave ที่ไม่ถูกบรรจุอยู่ในอีกสองรายการซึ่งออกอากาศภายหลัง
เท่านั้นเอง และ พวกแผ่นผี หรือ แผ่นบู้ทเล็ค มักจะไม่มีแผ่นนี้เสียด้วยสิครับ เลยทำให้บทเพลงทั้งสองหาฟังยากอยู่ซักหน่อย ไม่ค่อยถูก
รวมอยู่ในเซ็ทเดียวกันกับเพลงอื่นๆ ที่มาจากแหล่งเดียวกัน

ปัจจุบันผมเห็นมีแผ่นซีดี bootleg ทำการตัดต่อนำเพลง I Don't Know จากเวอร์ชั่นแผ่นนี้มาขึ้นต้น และเติมเพลง Iron Man / Children
Of The Grave เข้ารวมอยู่ใน set list แล้วนะครับ แต่คุณภาพเสียงคงจะสู้แผ่นเสียงต้นฉบับทั้งสามชุดไม่ได้อย่างแน่นอน

ผมเองอยากลงมือ edit คอนเสิร์ตนี้อยู่เหมือนกัน ทว่าติดตรงที่ เล่นโปรแกรมตัดต่อเพลง ไม่เป็นครับ ไม่อย่างนั้นคงผลิตแผ่นบู้ทเล็คมาตี
ตลาดแผ่นบู้ทเล็คอีกทีนึงแล้วล่ะครับ  ;D  ;D  ;D

เอา "ผี" มาแข่งกับ "ผี" แล้ว ท่านผีฯ มีความเห็นว่ายังงัยบ้างล่ะ ?!?!?!?

ตอบแทนท่านผีฯดีกว่าครับ ครืออ้ายกระพ้มคิดว่าเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับเพศของผีน่ะครับ ถ้าเป็นผีผู้หญิงแล้ว การแข่งขันครั้งนี้ถือว่าแสนเข็ญเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะต้อง "หันหัวสู้ผี" ลูกเดียวครับท่าน (ตอบตรงประเด็นมั้ยเนี่ย กลัวโดนพี่โป่งเตะจังเลย)  ;D

ก่อนจะ "เจาะใจ" อัลบั้มชุด Trbute (ตามคำขอ) ถ้าไม่เอ่ยถึงแผ่นเรดิโอโชว์จากรายการที่ชื่อว่า The Source ของ NBC Radio's Young
Adult Network มันคงเป็นไปไม่ได้...

(http://www.uppicfree.com/images/252_OzzyTheSource.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-252_OzzyTheSource.jpg)

O.M.G. ไปเรท X  เลยนะครับเนี่ย ผมไม่เคยนึกลึกซึ้งถึงอย่างนั้นเลย อย่างนี้ต้องโดนเตะอย่างแน่นอน  แต่เป็นการเตะถ่วงเพื่อไม่ให้กลับบ้าน
เมื่อเจอกันด้วยการดวลน้ำเขียวครับ  ;D  ;D  ;D

ขอทบทวนนิดหนึ่งครับพี่ radio show นี่เป็น show ที่อัดมาโดยใคร เป็นงานเดียวกันทั้ง show หรือเปล่า แล้วทำไมทางรายการเอามาเปิดได้ มีลิขสิทธิ์ไหม ทำเป็นซีดี official หรือเปล่า ปกติจะเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดเวลาเปิดออกอากาศหรือไม่ครับ

ถามหลายคำถาม สงสัยคงต้องตอบยาวเลยมั้งครับ  งั้นผมขอตั้งตัวก่อนในอาทิตย์นี้ ขออนุญาติ "อ็อฟ" สองวัน แล้ว
จะกลับมาใหม่ในวันจันทร์ พร้อมเรื่องราวของแผ่นเรดิโอโชว์ซึ่งน่าจะทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นนะครับ  :D

ย้อนกลับไปดู


ขอบคุณครับ ที่อุตส่าห์มอบแผ่นแก็บเชอร์ ไลฟ์นี้ มาให้ฟังเป็นบุญหู  ;D
แต่ว่า...
แผ่น Mad Man alive (กระทู้#1) มันมีเพลงที่ไม่มีใน capture live ตั้งเยอะนาครับ อาทิ
1 นาย โครว์ลีย์
2 ผู้หลงเชื่อ
3 กรูไม่รุ๊
4 เด็กเก็บหลุม(ศพ)

แต่ผมก็ว่าน่าแปลกที่เพลงเด็ดๆ ไม่ได้เล่นในซีดี ซึ่งมือกีต้าร์ น่าจะไม่ใช่ แรนดี้ โรดส์ จริงๆ (หรือ) ???
เที่ยวให้สนุก แล้วกลับมา ไขข้อข้องใจนะครับ  :D

ท่านผีฯ คงสับสนแล้วล่ะครับ...  :-\

แผ่นที่ไร้ท์ไปให้นั้นเป็นรายการ Captured Live ก็จริงอยู่ แต่ว่าเป็นต้นฉบับของแผ่นซิงเกิ้ลเพลง So Tired ที่มีโบนัสแทร็ค
ในแบบแสดงสดแถมมาสามเพลง คือ Bark At The Moon, Suicide Solution และ Paranoid งัยล่ะ (เวอร์ชั่นเดียวกันกับ
แผ่น Prince Of Darkness ซึ่ง ท่านผีฯ มีเก็บสะสมอยู่) แต่มีเพลงเพิ่มมาให้อีกด้วย และ ปีที่ออกอากาศคือ 1984 ส่วนวันที่
ดูจากเลเบิ้ลของแผ่นเสียงได้เลย

แล้วที่ ท่านผีฯ เพิ่งฟังจบมันเป็นคอนเสิร์ตที่อัดมาจาก The Salt Palace ใน Salt Lake City เมื่อปี 1984 โดยมี Jake E. Lee
ทำหน้าที่เป็นขุนขวานมือขวาให้แก่ท่าน Ozzy Osbourne สมัย Bark At The Moon Tour ครับ

สำหรับแผ่นบู้ทเล็คซีดีชุด Madman Alive นั้น ต้นฉบับมาจาก แผ่นเสียงเรดิโอโชว์รายการ Captured Live เหมือนกัน แต่เป็น
การออกอากาศคนละครั้งกัน คือ ปี 1982 ครับ แล้วก็มือกีตาร์ ชื่อว่า Brad Gillis สมัย Diary Of A Madman Tour ที่คั่งค้างอยู่
หลังจากการเสียชีวิตของ Randy Rhoads  :(

ผมยังไม่ได้นำแผ่นเรดิโอโชว์ของปี 1982 ชุดนี้มาให้ดูรูปกัน พอดีมีหลายเรื่องแล้วยังเขียนไม่จบซักเรื่อง เลยอาจทำให้อ่านกัน
แล้วเข้าใจยากหน่อย  ผมไม่ได้ร่างพล็อตคร่าวๆ ของการเล่าเรื่องเอาไว้ซะด้วย มันเลยกลายเป็นอย่างนี้..กรุณาอย่าถือสาก็แล้ว
กันนะครับ อ่านๆ แล้วถ้าไม่เข้าใจก็ถามมา ก็จะตอบคำถามกลับไปให้เห็นกระจ่างครับ  :D  :D  :D

ผมก็ขอทบทวนเล่าให้ฟังอีกซักครั้งว่า เรดิโอโชว์ คือรายการพิเศษทางวิทยุที่ผลิตโดย บริษัทเอกชน ครับ บริษัทประเภทนี้จะ
ทำรายการออกมาเพื่อขายให้แก่สถานีวิทยุทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา เหมือนกับ BBC ของประเทศอังกฤษ แต่จะแตกต่างกัน
ตรงที่ว่า BBC มีสถานีวิทยุเป็นของตัวเอง

แต่ว่า บริษัทเอกชน ใน USA นี่ ไม่มีสถานีวิทยุส่วนตัวนะครับ มีแต่สถานีที่ได้รับซื้อและเซ็นต์สัญญากันแล้วว่าจะเปิดรายการ
ซึ่งผลิตให้ทุกอาทิตย์ตามเวลาที่กำหนด ก็เลยเรียกกันว่า สถานีวิทยุในเครือข่าย ครับ

เรียกว่ามีลูกค้า กี่คน(สถานี) ก็สามารถพูดได้ว่า มีเครือข่าย ทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา เท่านั้น ช่อง(คลื่นวิทยุ)

ส่วนรายการที่ผลิตมีหลากหลายมากครับ ตั้งแต่ จัดอันดับเพลงของแต่ละประเภท  สัมภาษณ์นักดนตรี หรือ นักร้อง แม้กระทั่ง
บันทึกการแสดงสด โดยใช้ Mobile Recording ของตนเอง เรียกว่า ลงทุนกันหนักทีเดียว สำหรับการเปิดบริษัทของแต่ละแห่ง
บางครั้งก็เป็นการ ถ่ายทอดสด ออกอากาศผ่าน Satellite กันเลยก็มีเป็นครั้งคราว

การผลิตรายการโดยทั่วไปก็เหมือนกับที่เราเปิดฟังวิทยุกันประจำล่ะครับ เพียงแต่ว่าพวก เรดิโอโชว์ นี่จะมีรูปแบบเฉพาะตัว
และเหมือนกันทุกอาทิตย์ เพราะว่า ต้องการขาย รูปแบบ และ เวลา หรือ ความยาว ของรายการทีมีให้เลือกแตกต่างกันออกไป
สำหรับ ดีเจ ก็มีตั้งแต่อินเฮ้าส์ ไปจนถึง บุคคลที่มีชื่อเสียง ในวงการบันเทิง ซึ่งต้องว่าจ้างมาอีกทีนึง

ตั้งแต่ต้นยุค 70's เป็นต้นมา รายการพวกนี้จะอัดใส่เทป reel-to-reel ส่งให้สถานีวิทยูในเครือข่ายเปิด พอมาถึงประมาณปลาย
ปี 1979 จึงเปลี่ยนมาปั้มเป็น แผ่นไวนิล แทน ครั้นพอมาถึงประมาณ ปี 1987 ก็เปลี่ยนเป็น silver-pressed CD สุดท้ายจนถึง
ทุกวันนี้เป็นการอัดใส่แผ่น CD-R แล้วครับ

ความจริงผลงานประเภทเรดิโอโชว์ ที่สถานีวิทยุเปิดออกอากาศเสร็จ จะต้องส่งคืนภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อให้บริษัทผู้
ผลิตเอาไปทำลาย โดยเฉพาะ รายการที่เป็นบันทึกการแสดงสด เพราะว่า ส่วนใหญ่จะเป็นการเปิดเพื่อสนับสนุนอัลบั้มหรือ
ทัวร์ในขณะนั้น ของวงดนตรีแต่ละคณะที่ได้ทำสัญญาหรือขออนุญาติอย่างเป็นทางการกันไว้

แต่ว่ากฏระเบียบตรงนี้คงไม่รัดกุมหรือว่าอะไรก็ไม่ทราบล่ะครับ ผลงานเรดิโอโชว์ มันสามารถเดินทางมาอยู่ในมือของนัก
เก็บสะสมหลายๆ คนได้ ซึ่งถ้าให้ประมาณตัวเลขของแต่ละโชว์ก็ไม่น่าจะเกิน 300 ชุด ต่อการผลิตรายการหนึ่งครั้งครับ

แล้วรายการที่ส่วนมากจะได้รับความนิยมที่สุดก็คือ การบันทึกการแสดงสด นี่แหละครับ เพราะเป็นคอนเสิร์ตที่ทันต่อเหตุ
การณ์ บางคณะยังไม่เคยมีผลงานในแบบ live album บางทียังต้องมาฟังกันทางวิทยุนี่เอง แล้วส่วนใหญ่รายการก็โดนอัด
เทปทั้งนั้น บางคนก็เก็บไว้ฟังเอง พวกพ่อค้าก็ทำแผ่นบู้ทเล็คกันไป ใครอยากลงทุนหน่อยก็ต้องตามหาซี้อต้นฉบับให้ได้
เพื่อนำมาก็อปทำแผ่นบู้ทเล็คคุณภาพเสียงดีๆ  นักสะสมประเภท completist ของวงดนตรีต่างๆ ก็ต้องมีอยู่ในคอลเล็คชั่น
เหมือนกันแทบทุกคน

ครั้นพอมาถึงยุคที่สามารถอัดแผ่นซีดีได้เองแล้ว คุณภาพเสียงของผลงานประเภทบู้ทเล็คเลยมีเสียงดีขึ้นด้วยเป็นส่วนมาก
เพราะการอัดรายการลงแผ่นซีดีเปล่านั้น เสียงไม่ได้ "ดร็อพ" ลงซักเท่าไหร่ เปิดกี่ครั้งก็ยังให้ซาวด์ที่ชัดเจนเหมือนเดิม

บางคนที่ไม่ซีเรียสมาก พอมีแผ่นซีดีก็อปให้ฟังแล้วก็เลิกลากันไป ไม่ได้สนใจที่จะเก็บสะสมต้นฉบับก็มีมากครับ ราคาที่ซื้อ-ขาย
ในปัจจุบันจึงตกลงบ้าง แต่ก็ยังไม่แน่นอน มัน ผีเข้าผีออก น่ะครับ ฟันธงไปเลยคงจะไม่ได้ ขึ้นอยู่กับเหตุผลหลายๆ อย่าง  ซึ่งผม
คงไม่ต้องบอกรายละเอียดในที่นี้ เพราะมันจะทำให้บทความยาวจนเกินไป

แผ่นบู้ทเล็คตั้งแต่ยุค 70's เป็นต้นมาที่มีเสียงแบบ SBD นั้น ผมบอกให้ทราบกันเลยว่า ส่วนใหญ่มาจากรายการของ เรดิโอโชว์ แทบ
ทั้งนั้น และด้วยสาเหตุนี้เอง ในระยะหลังๆ ผมจึงไม่ซื้อแผ่นบู้ทเล็คมาเก็บสะสมอีก

ผมว่าอธิบายคร่าวๆ เช่นนี้คงพอเข้าใจนะครับ และพวกแผ่นเรดิโอโชว์ ที่ผมนำมาลงให้ดูนี่จะเป็นรายการบันทึกการแสดงสด
เสียเป็นส่วนใหญ่  ซึ่งในรายการจะไม่ค่อยบอกวันที่ที่ทำการบันทึกเสียงหรอกครับ จะบอกแต่สถานที่ และ เมือง รวมทั้ง ปี
ด้วยในบางโอกาศ

มันขึ้นอยู่กับบรรดาพวกแฟนเพลงพันธุ์แท้ที่ต้องหมั่นศึกษาหาข้อมูลกันเองทั้งนั้น แล้วลองคิดดูซิครับว่าตั้งแต่ ต้นยุค 70's เป็น
ต้นมา สมัยยังไม่มีอินเตอร์เน็ท พวกเค้าไปได้รายละเอียดมาจากไหนกัน? ...ผมว่ามันหายากจริงๆ นะครับ สำหรับข้อมูลเหล่านี้ถ้า
ไม่มีทัวร์โปรแกรมถืออยู่ในมือ

ผมว่าการที่วงดนตรีแต่ละคณะตกลงปลงใจให้ทำการบันทึกเสียงระหว่างแสดงสดอย่างเป็นทางการมันก็ประหยัดเงินให้ทางวง
ไปด้วย เพราะเท่าที่เห็นมา พวกเพลงโบนัสแทร็คแบบไล้ฟ์เวอร์ชั่น หรือ การสัมภาษณ์ ก็มักจะมาจาก รายการพิเศษ ที่เรียก
ว่า เรดิโอโชว์ นี่อีกนั่นแหละครับ

ส่วนลิขสิทธิ์ของโชว์จะเป็นของทาง วงดนตรี หรือว่า บริษัท อันนี้ก็สุดแล้วแต่สัญญา ซึ่งผมคงไม่เจาะลึกไปกว่านี้ครับ เอาเป็น
ว่า รายการทุกรายการ ถูกต้องอย่างเป็นทางการ และ เป็นไปตาม ครรลองของ ธุรกิจดนตรี ทุกอย่างก็แล้วกัน

หากใครอ่านแล้วยังต้องการทราบอะไรอีก ก็ถามมาได้เลยครับ ผมจะตอบเพิ่มเติมให้...ไม่ต้องเกรงใจ  :D  :D  :D

ขอบคุณครับพี่ ไว้จะมาถามอีก :D

พอได้ ไอเดีย มั้ยครับว่า เรดิโอโชว์ คืออะไร?   ;D

พอได้อยู่ครับ ผมได้ allman brothers มาชุดหนึ่ง มี 3 แผ่น มี cue sheet แบบพี่ด้วยครับ  ยังไม่ได้ฟังเลย :D

ผมทายว่าเป็น รายการ Superstar Concert Series ของ Westwood One ใช่มั้ยครับ?

คณะ Allman Bros. มีแผ่นเรดิโอโชว์ เยอะพอสมควรครับ และมีหลายคอนเสิร์ตด้วย  ลองดูที่เลเบิ้ลซิครับ จะเห็น โชว์นัมเบอร์
พิมพ์อยู่อย่างชัดเจน ( Yr-Nr )

ผมขอวันที่ออกอากาศกับโชว์นัมเบอร์แล้วจะบอกให้ว่าคอนเสิร์ตอัดมาจากที่ไหนวันที่เท่าไหร่?  ;D  ;D  ;D

แล้วจะกลับไปดูให้พี่ครับ :D

อย่าลืมนะ ขอบคุณมากครับ  :)

ทีแรก ผมนึกว่า Radio show คือเล่นสดๆในสถานีวิทยุซะอีก 555+

โอ้..ว ผมฟิ้วส์เองจริงๆ  :-[
เข้าใจแจ่มแจ้งแดงทะลุหัวใจเลยก๊าบ
งั้นรอแก็บเจ้อไลฟ์ ปี1982 ฮิฮิ  ;D

กลัวจะรอนาน...เอารูป 3-LP Box Set สวยๆ ของรายการ Captured Live ปี 1982 ไปชมเล่นพลางๆ ก่อนครับ...

(http://www.uppicfree.com/images/657_OzzyCapturedLiveBox.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-657_OzzyCapturedLiveBox.jpg)

วันหลังค่อยมา "แกะกล่อง" กันนะ  ;D  ;D  ;D

โอ้โฮ..  :o :o :o
งามเกินห้าม ล้ำเกินใจ ใหญ่มะลักกั่ก..

"กระจับของน้าเวตาลวิปลาส"

สวยงามครับ

ข่าวล่าสุด เห็นว่างาน Super Deluxe Editon ของ Blizzard of Ozz กับ Diary of Madman น่าจะเป็นรูปเป็นร่างในเดือนตุลานี้แล้วนะครับ

http://www.cdjapan.co.jp/detailview.html?KEY=EICP-1418

*Japan advanced release. Reissue from Ozzy Osbourne featuring remastering. Limited edition includes a bonus disc featuring more than 10 tracks. Part of a three-album Ozzy Osbourne reissue series featuring the albums "Blizzard Of Ozz (30th Anniversary Edition) Legacy Edition," "Blizzard Of Ozz (30th Anniversary Edition) Regular Edition" and "Diary Of A Madman (30th Anniversary Edition)."

(All product details, including availability, images, language(s), special features, and bonus extras, are subject to change without prior notice. Actual item weight may be different from the one indicated above.)

เท่าที่ทราบมา เบสและกลองในชุดนี้ใช้ไลน์เก่าที่เล่นโดย Bob Daisley และ Lee Kerslake ครับ

แบบนี้ค่อยน่าดีใจหน่อย เพราะตัวรีอิชชูเมือปี 2002 ให้นักดนตรีคนอื่นมาเล่นในส่วนนี้แทนต้นฉบับ ทำให้ขาดความคลาสสิคไปเลย

ได้ดูรายละเอียดมาหรือยังครับ ?

ผมได้แต่เพียงหวังในใจไว้ว่าไอ้เพลงแถม 10 แทร็คนั้น คงจะไม่เป็นบทเพลงที่พวกเราเคยได้ยินกันมาแล้วจากอัลบั้ม
ต่างๆ ของ Ozzy Osbourne (w/Randy Rhoads) ที่ผลิตออกมาขายพร้อม โบนัสแทร็ค  เพราะเท่าที่นึกออกในตอนนี้
ผมมีรายชื่อเพลงตามรายการข้างล่างนี่เลยครับ...

1. You Looking At Me Looking At You
2. Mr. Crowley (live)
3. You Said It All (live)
4. Suicide Solution (live)
5. I Don't Know (live)
6. Crazy Train (live) edited version

คือถ้าเผื่อไอ้เพลง 10 เพลงที่จะเอามารวมแถมในแผน Deluxe Edition มาจากพวก B-Sides แล้วล่ะก็ สงสัยงานนี้
ต้องมีการเดินขบวนเขกกะบาล ประท้วง กันอย่างแน่นอน ผมคนนึงล่ะครับ ที่จะเข้าร่วมแจมด้วยความสมัครใจ  :D  :D  :D

เรื่องราวในกระทู้นี้ บางทีอาจจะออกนอกประเด็นไปบ้าง แต่ก็ยังมีส่วนเกี่ยวข้องหรือว่าเชื่อมโยงกับ ท่านค้างคาววิปลาศ  Ozzy Osbourne
อยู่ดีนะครับ เรียกว่า อ่านกันไปเพลินๆ อย่าคิดมาก  :D

เมื่ออาทิตย์ที่แล้วยังเล่าเรื่องแผ่นเรดิโอโชว์ของรายการ The Source ไม่จบ ผมก็ขอร่ายต่อเลยก็แล้วกัน...

ดังที่ได้เห็น Cue Sheet ของแผ่นเสียงคู่ชุดนี้ไปแล้ว พร้อมรายชื่อเพลง ซึ่งเรียงตามเหตุการณ์ในคอนเสิร์ตที่ใกล้เคียงความเป็นจริงที่สุด
ไม่มีการสลับสับเปลี่ยนหรือตัดเพลงไหนออกไปเพื่อให้พอดีกับเวลา และนี่คือ เสน่ห์ปลายจวัก ของคอนเสิร์ตจาก The Source เค้าครับ

เนื่องจากว่า แผ่นเรดิโอโชว์ชุดนี้ค่อนข้างพิเศษอยู่สักหน่อย ผมเลยตัดสินใจลงภาพเลเบิ้ลให้ดูทั้งหมดทุกหน้าเลยนะครับ...

(http://www.uppicfree.com/images/268_OzzyTheSource.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-268_OzzyTheSource.jpg)  (http://www.uppicfree.com/images/647_OzzyTheSource.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-647_OzzyTheSource.jpg)
(http://www.uppicfree.com/images/657_OzzyTheSource.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-657_OzzyTheSource.jpg)  (http://www.uppicfree.com/images/137_OzzyTheSource.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-137_OzzyTheSource.jpg)

บันทึกเสียงมาจากการแสดงสด ณ. Music Hall เมือง Cleveland มลรัฐ Ohio ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ปี 1981  
ด้วยความยาวประมาณ 80 นาที  รายการ The Source ได้บรรจุคอนเสิร์ตในคืนนั้นเอาไว้บนแผ่นไวนิล 2 แผ่น แต่ใช้เนื้อที่เพียงแค่ 3 หน้า
ดังนั้น Side Four จึงต้องปล่อยเว้นว่างตามปกติ

ซึ่งรายการ The Source โดยส่วนใหญ่ไม่เหมือนกันกับ รายการ King Biscuit Flower Hour  ที่จะเน้นเวลาเพียงแค่ หนึ่ง ชั่วโมงเท่านั้น
(นานๆ จะมีรายการที่เกินเวลาซักทีนึง)  ถ้าหากคอนเสิร์ตใช้เวลานานแค่ไหน ก็มีความเป็นไปได้อย่างมากที่ความยาวของรายการจาก
The Source จะคล้อยตามความเป็นจริงนั้นเสมอ

และนี่เป็นแผ่นเสียงเรดิโอโชว์ของ Ozzy Osbourne สมัยที่มี Randy Rhoads เป็นมือกีตาร์ชุดที่ 4 แล้วนะครับ ที่ผมนำมาให้ดูกัน แต่ที่
น่าสนใจที่สุดก็คือ ข้อเท็จจริงที่นักเก็บสะสมผลงานประเภทนี้ทราบกันดีว่า คอนเสิร์ตในครั้งนั้นเป็น ต้นฉบับหลักๆ ของอัลบั้มคู่ชุด Tribute
ซึ่งผลิตออกมาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ในปี 1987 ครับ  ;)

เป็น Superstar Concert Series อย่างที่พี่ว่าจริงๆด้วยครับ :D

ขอ โชว์นัมเบอร์ ด้วยครับ แล้วจะบอกรายละเอียดให้ทราบเพื่อเก็บไว้เป็นข้อมูล  :D

ขอเป็นคืนนี้นะครับพี่ :D

คณะ The Allman Brothers Band  มีแผ่นเสียงในรายการ Superstar Concert Series อยู่ทั้งหมด 4 ชุด คือ ปี 1989 และ 1990
แยกกันปีละ 2 ชุด ครับ  :)

มาตรงประเด็นกันเลยนะครับว่า อัลบั้มคู่ชุด Tribute ของ Ozzy Osbourne & Randy Rhoads นั้น มันมีที่มาที่ไปอย่างไรกัน...

(http://www.uppicfree.com/images/164_OzzyTributeLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-164_OzzyTributeLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/183_OzzyTributeLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-183_OzzyTributeLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/678_OzzyTributeLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-678_OzzyTributeLP.jpg)

ผมขอพักก่อน แล้วจะมาเล่าต่อ...รอสักครู่นะครับ  :D

.... เดี๋ยวผมขอคั่นรายการระหว่างพักซักครู่นะครับ เป็นรีวิว Ozzy : Scream จาก manager.co.th

"เมื่อซาตานปล่อยของ" / ต่อพงษ์
Ozzy Osbourne - Diggin' Me Down

(http://www.uppicfree.com/images/590_553000011637201.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-590_553000011637201.jpg)
       
        การบำบัดความอึดอัดและความรู้สึกแค้นที่ว่าประเทศเราเสียดินแดน เพราะ รัฐมนตรีที่ไปเจรจามันโง่ หรือ แกล้งโง่ หรือ แกล้งฉลาด...แล้วหัวหน้าของรัฐมนตรีคนนั้นยังฉลองวันเกิดพร้อมกับทำหน้ามึนโยนความผิดให้คนโน้นคนนี้หน้าตาเฉยนี่ งานนี้ดนตรีเบาๆไม่สามารถรักษาอาการ ‘อยากกระโดดถีบ’ ได้นะครับ
       
        มันต้องหาดนตรีที่ให้ความรู้สึกเหมือนกองทัพช้างวิ่งขย่มบนหัวกบาลคุณถึงจะได้ผล
       
        ผมกำลังพูดถึงงานของ Ozzy Osbourne ชุดใหม่ในชื่อ Scream ที่ทำออกมาแล้วต้องยอมรับว่า นับตั้งแต่งานชุด No More Tear (ที่เป็นงานดีที่สุดในยุคที่มือกีตาร์คือ แซ็ค ไวลด์) ออสซี่ ออสบอร์น ก็ไม่เคยสร้างความตื่นเต้นได้อีกเลย...ไม่แค่ความตื่นเต้นหรอกครับ แค่รู้สึกว่าแกยังมีไฟอยู่ผมยังจินตนาการไม่ออกเลย
       
        แต่สำหรับชุดกรี๊ด (Scream) นี่แตกต่าง...ค่าพลังงานของ ออสซี่ นั้นมาจากไหนไม่ทราบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณรับรู้ข้อมูลว่า นับบัดนี้ ออสซี่ มีอายุปาเข้าไป 62 ขวบปีแล้ว แต่ผลงานล่าสุดของแกคือการประกาศให้โลกเห็นว่า โคตรพ่อซาตานคนนี้ ถ้าจะเอาจริงในสิ่งที่แกถนัด รับประกันว่าเขายังแจ๋วอยู่และไม่มีอุปสรรคทางอายุมาเกี่ยว
       
        งานชุดนี้คือจุดเริ่มของมือกีตาร์คนใหม่ซึ่งงานนี้ แซค ไวลด์ เจ้าเดิมไม่ได้รับสัมปทานอีกต่อไป แต่กลับเป็น ‘กัส จี’ นักกีตาร์เชื้อชาติกรีกอดีตวง Firewind วงพาวเวอร์เมตัลชื่อดังอีกวงหนึ่งมาประกบเทพมารตัวนี้แทน สไตล์ของ กัส จี นั้นเมื่อก่อนผมว่าแกยังอีกในท่วงทำนองของพวกนีโอคลาสสิกอยู่ แต่เมื่อมาเล่นกลับออสซี่...สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือ สำเนียงอ้วนพีและอาการครวญครางของกีตาร์ที่อดจะทำให้นึกถึง โทนี่ ไอออมมี่ มือกีตาร์และหัวหน้าวง แบล็ค ซับบาธ ไม่ได้
 
       สำหรับคนที่ชอบความหวือหวาที่จะต้องได้ยินเสียงโอเวอร์โทนหรือฮาร์โมนิกกัดปิ๊กอยู่ตลอดเวลาอาจจะผิดหวังนิดๆ เพราะกัส จี ไม่ได้โชว์ลูกเล่นแบบนั้นแบบ แซ็ค ไวลด์ เลยครับ แต่เอาเข้าจริงๆ ผมชอบมันมากกว่าแฮะ เพราะมันทำให้เพลงเป็นเพลง มิใช่นิทรรศการแสดงเทคนิคกีตาร์จนกระทั่งหลายต่อหลายครั้งมันบดบังเสียงร้องของ ออสซี่ ออสบอร์น ไปอย่างน่าเพลียใจ...และเพราะว่าเพลงเป็นเพลง เสียงของออสซี่เอง และซาวด์กีตาร์สอดรับกันได้แบบพอดีๆ สุดท้ายมันจึงกลายเป็นความงดงามขึ้นมา
       
        กัส จี มีอนาคตแน่ๆ เพราะแกสามารถบาลานซ์งานกีตาร์ของแกให้ไปอุ้มวัยที่โรยราของออสซี่ได้ระดับเพอร์เฟคท์ (แม้จะไม่ถึงขั้นที่ แรนดี้ โร้ดส์ เคยทำไว้ที่ทั้งสวยงาม ทั้งดุดัน เพียบพร้อมไปทั้งบู๊และบุ๋นซึ่งมีเพลงอย่าง Mr. Crowley,Crazy Train ,Suicide Solution, I Don’t Know เป็นตัวแทน จะต้องไม่ลืมว่าช่วงเวลานั้นออสซี่แกก็ท็อปฟอร์มเสียด้วย... )
       
        ถ้าจะเอาแทร็คที่เป็นไฮไลท์ก็ต้องไม่แคล้วเพลงที่ชื่อว่า“Digin’ me down” ที่เริ่มต้นด้วยเสียงกีตาร์เหงาๆที่มีกลิ่นอายของดนตรีคลาสสิก มีกลิ่นของความตาย (ใครนึกไม่ออกก็ลองหา Diary Of Madman ที่แรนดี้ โร้ดส์ เคยทำไว้มาฟังนะครับ) ก่อนจะระเบิดออกมาเป็นพาวเวอร์คอร์ดที่หนักแน่น ทุกๆส่วนของชิ้นดนตรีนั้นใส่กันไม่ยั้ง...ริฟฟ์ของกัส จี และลูกโซโล่เสียวรูหูในท่อนกลางที่สวยงาม เพลงนี้เป็นตัวอย่างที่ดีขึ้นการเขียนเพลงที่มีเรื่องราว มีไฮไลท์ มีขึ้นมีลง มีเรื่องราว มีจุดระเบิดตรงกลาง!! และที่ทำให้สมบูรณ์ก็คือ เสียงร้องของ ออสซี่ ซึ่งผมไม่ได้ยินแกร้องแบบนี้มานานแล้ว..เพราะมันพาออสซี่กลับไปอยู่ในจุดที่แกเคยเป็นนั่นคือ ‘เทพมารสะท้านภพ’ ของดนตรีเฮฟวี่เมตัล ไม่ใช่ตาแก่ที่ร้องเพลงไม่ไหว แต่ยังซ่าอยู่บนเวที หรือ คอยหลบเสียงตลอดเวลาแบบนั้น
       
        แต่ส่วนที่ปรุงแต่งเพื่อให้ดูร่วมสมัยอยู่ก็มีนะครับ งานอย่าง Let It Die หรือ Let Me Hear You Scream ที่เอาซาวด์อินดัสเตรียลมาใส่ ก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไร สำหรับคอบัลลาดต้องดูไลน์เบสของ Life won’t wait ที่ผสมผสานงานอ่อนหวานกับท่อนโซโล่ที่ดุดันได้อย่างเมามัน...เพลงนี้ไม่ต้องกลัวเลี่ยนเลยครับ Crucify และ Fearless ก็มันส์ไม่แพ้กันเลยครับ โดยเฉพาะเพลงหลังนี่ออสซี่ แสดงให้เห็นว่าแกยังร้องเพลงเร็วๆ ไหวอยู่...หลังๆ ดูแกเล่นคอนเสิร์ตบนเวทีแล้วเหนื่อยแทน เพราะเหมือนกับแกหายใจไม่ทันจังหวะที่เร้าสุดๆ ของเมตัลนะครับ ขณะที่ Time จะทำให้คุณนึกถึง Road to Nowhere และ แซ็ค ไวลด์ เพราะระนาบของเพลงและท่วงทำนองนั้นมาในแบบเดียวกันเลยครับ
       
        จะมีดูเหมือนไม่เข้าพวกเท่าไหร่ก็คือไอ้เพลง Latimer’s Mercy ซึ่งเป็นแทร็กเกือบสุดท้ายของอัลบั้มนี่แหล่ะ ดูเหมือนออสซี่แกพยายามจะเล่นตลกอะไรบางอย่างด้วยการกดเสียงเสียยานแบบคนแก่เลย และนั่นนำมาสู่บทเพลงสุดท้ายที่ดูฝืดมากนั่นคือ I Love You All ที่มีเฉพาะเสียงยานๆ ของออสซี่กับกีตาร์ 1 ตัวและความยาวของเพลงแค่ 1 นาทีเท่านั้น
       
        แต่โดยรวมต้องย้ำอีกครั้งว่า นี่คืองานที่จะทำให้คุณโยกหัวและดับอารมณ์อยากระโดดถีบคนได้ชะงัดนัก ในฐานะของแฟนออสซี่ต้องบอกว่า แกเลือกคนมาทำงานได้แจ๋ว ที่สำคัญมันหลุดกรอบไปจากยุคสมัยของ แซ็ค ไลด์ ได้อย่างดีเยี่ยม ถ้านึกไม่ออกว่าอายุขนาดนี้ปู่แกยังไหวอยู่หรือไม่...งานชิ้นนี้คือเครื่องยืนยันว่า ถ้าแกจะเอาจริง...ออสซี่สามารถอยู่ในวงการนี้ไปได้ตลอดกาลแน่ๆ
       
        และเป็นอีกอย่างของวลีที่ว่า Rock will never die ของจริงเลย!! 

อยากดูไลฟ์ที่กรุงเทพจังเลย มาเถอะนะป๋า ชีวิตนี้จะได้นอนตายตาหลับ  ;D

สมัยที่ Randy Rhoads ยังไม่ตาย Ozzy Osbourne มีโครงการปล่อยอัลบั้มบันทึกการแสดงสดออกมาวางจำหน่าย โดยกำหนดคร่าวๆ
ไว้ว่า น่าจะหลังจาก Diary Of A Madman Tour สิ้นสุดลงแล้ว

(http://www.uppicfree.com/images/400_OzzyBernie.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-400_OzzyBernie.jpg) (Ozzy & Bernie Torme)

เพราะฉะนั้น ตามความคิดของผม ควรจะมีการอัดเสียงคอนเสิร์ตเก็บเอาไว้มากกว่านี้นะครับ เพราะเท่าที่เราได้ยินได้ฟังกัน แหล่งวัตถุดิบ
มันมาจากเรดิโอโชว์แทบทั้งนั้น แล้วในกรุหีบสมบัติของ ท่านค้างคาววิปลาส หรือ บริษัทต้นสังกัด มันไม่มีเลยหรืออย่างไร? นอกเสียจาก
เทปการแสดงสดบนเวทีสมัยที่ผลิตแผ่นเสียง EP ชุด Mr. Crowley ออกมาตั้งแต่ปี 1980 โน่น

(http://www.uppicfree.com/images/917_OzzyMrCrowleyEP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-917_OzzyMrCrowleyEP.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/907_OzzyMrCrowleyEP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-907_OzzyMrCrowleyEP.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/960_OzzyMrCrowleyEP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-960_OzzyMrCrowleyEP.jpg)

ถึงแม้ Ozzy จะออกมาให้สัมภาษณ์หลังจากอัลบั้มชุด Tribute วางตลาดแล้วว่า เค้ามีคอนเสิร์ตร่วมกันกับ Randy Rhoads อยู่เพียงแค่นี้
ประกอบกับ Delores Rhoads มารดาของ RR อนุญาติให้นำผลงานของลูกชายออกมาให้แฟนเพลงได้ระลึกถึงกันอีกเพียงแค่ครั้งเดียวนั้น
บรรดาสาวกระดับเหนียวแน่นอย่างผมหรือว่าท่านอื่นๆ ก็ยังไม่เชื่ออยู่ดีล่ะครับว่า นี่คือผลงานชิ้นสุดท้ายที่เราจะได้สัมผัสกับฝีมือกีตาร์ของ
ชายหนุ่มผู้ล่วงลับก่อนวัยอันควรคนนี้

เผอิญผมเป็นคนชอบฟังผลงานประเภทนอกสารบบจนติดเป็นนิสัย เลยมีโอกาศเสพคอนเสิร์ตอันหลากหลายรสชาติจากวงดนตรีมากมาย
ซึ่งก็รวมถึง Ozzy & Randy ด้วย เท่าที่ได้ผ่านหูมามีการแสดงสดหลายชุดเหมือนกันที่คุณภาพเสียงไม่น่าจะเป็นการนำเครื่องบันทึกเทป
ขนาดจิ๋วเข้าไปแอบอัด

แต่จากประสพการณ์ที่ผ่านมาผมยังไม่เคยเจอ ต้นฉบับของแท้ ที่มีเสียงอันสมบูรณ์เหมือนกับรายการ King Biscuit Flower Hour หรือ
The Source ที่ได้เล่าให้ฟังไปแล้ว  นอกเสียจากรายการของเมือง Phoenix ในเว็ปไซท์ที่โดน "แบน" นานมากแล้ว ซึ่งถ้าผมจำไม่ผิด
น่าจะชื่อ Phoenix Radio หรืออะไรทำนองนี้ ที่สมัยตอนเปิดตัวบนโลกไซเบอร์ใหม่ๆ เคยบอกว่ามี เทปคอนเสิร์ต ของ Ozzy Osbourne
เล่นร่วมกับ Randy Rhoads อยู่ในครอบครองด้วย

อีกคอนเสิร์ตนึงที่น่าจะเป็นไปได้ คือ เมือง Denver ที่ Rainbow Music Hall เพราะว่าส่วนใหญ่สถานที่แห่งนี้มักจะอัดคอนเสิร์ตที่มาแสดง
แทบทุกครั้ง และบางทีวงดนตรีที่เล่นเองก็ไม่รู้ตัวซะด้วย เรียกว่า มีแผนแอบบันทึกเสียงอยู่แล้วในแบบเป็นทางการ แต่มันไม่เป็นทางการครับ
และนี่คือ แหล่งที่มาของแผ่นซีดีที่เราเห็นวางขายกันเป็นแบบซีรีย์ที่ชื่อว่า Concert Classics นั่นเอง (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น Alive In America)

(http://www.uppicfree.com/images/484_ConcertClassicsGammaCD.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-484_ConcertClassicsGammaCD.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/315_ConcertClassicsJudasPr.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-315_ConcertClassicsJudasPr.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/613_ConcertClassicsKraftwe.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-613_ConcertClassicsKraftwe.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/529_ConcertClassicsPatBena.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-529_ConcertClassicsPatBena.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/225_ConcertClassicsStarcas.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-225_ConcertClassicsStarcas.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/790_ConcertClassicsSupertr.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-790_ConcertClassicsSupertr.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/138_ConcertClassicsFirefal.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-138_ConcertClassicsFirefal.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/924_ConcertClassicsPureCD.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-924_ConcertClassicsPureCD.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/588_ConcertClassicsUKCD.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-588_ConcertClassicsUKCD.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/793_ConcertClassicsStrawbs.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-793_ConcertClassicsStrawbs.jpg)

อย่างไรก็ดีไม่ว่าจะ มี คอนเสิร์ตของ Ozzy & Randy จริง หรือว่า ไม่มี ก็ตามที ถ้ายังมีคนที่ชื่อว่า Sharon Osbourne กุมบังเหียนคอยรักษา
ผลประโยชน์อยู่อย่างรัดกุมแบบนี้ ผมว่า ไม่มีทาง ที่ผลงานเหล่านี้จะเร็ดลอดออกมาให้พวกเราได้ซื้อกันหรอกครับ เพราะว่า ยิ่งศิลปินรวยมาก
เท่าไหร่ ความเสี่ยงในการที่จะนำผลงานของเค้าออกมาขายแบบผิดกฏหมายคงจะสูงมากขึ้นเท่านั้น เรียกว่า มีสิทธิ์ล้มละลายแบบ ไม่มีทาง
ตั้งตัวได้ผุดได้เกิดอีกต่อไปอย่างแน่นอนตลอดชีวิตอายุขัยในชาตินี้  :o  :o  :o

เอามาให้พี่ชมแล้วครับ

http://www.thaiprog.net/webboard/index.php?topic=2276.15

:D

ผมไม่ทราบว่า คุณโปโลตูน จะโดน "ย้อมแมว" หรือไม่ โปรดอ่านคำแนะนำของผมด้วยครับ  :D  :D  :D

(http://www.uppicfree.com/images/341_36398_439973115662_576.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-341_36398_439973115662_576.jpg)

(http://www.uppicfree.com/images/650_36676_445641065662_576.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-650_36676_445641065662_576.jpg)

เท่าที่ทราบมาแผ่น 30th Anniversary Edition นี่น่าจะออกวางตลาดประมาณเดือน ตุลาคม นี้นะครับ  :)

I can't f***ing wait !!!!

หากอดใจรออีกสองเดือนไม่ไหวเหมือนผม วันที่ 6 กันยายน หาซื้อ CD/DVD ของ Ozzy Osbourne - Blizzard Of Ozz ชุด
นี้แก้ขัดไปพลางๆ ก่อนก็ได้...

(http://www.uppicfree.com/images/594_OzzyDVD.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-594_OzzyDVD.jpg)(http://www.uppicfree.com/images/123_OzzyDVD.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-123_OzzyDVD.jpg)

แต่ว่ามือกีตาร์คือ Brad Gillis ไม่ใช่ Randy Rhoads นะครับ  :)

น่าสนใจมากครับ ราคาเท่าไหร่ครับอาโป่ง??

อาโป่งมีเว็บOZZY ที่เขาทำเพื่อให้เราได้ดูของสะสมของแฟนๆไหมครับ??

เรียกอาโป่ง สงสัยจะไม่ได้ดูของสะสมแล้วต้องเรียกเฮียซิถึงจะได้ดู ;D

สิไห่เว่าต๋ามความขึดเจ้าเบ๊าะ !! ป๋านขับ

แค่นี้ไม่มีปัญหาหรอกครับพี่

เท่าที่ทราบราคาประมาณ 12.99 ปอนด์ ครับ มีขายเฉพาะที่ประเทศอังกฤษ


ผมไม่ทราบจริงๆ ครับ เคยหาแต่ไม่เจอเลย มีแต่ discography ซึ่งก็เป็นแค่อัลบั้มที่ออกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
ไม่มีอะไรพิเศษ  :(

ในที่สุดก็ได้ฤกษ์งามยามดีในการ ขุดรากเง่า ของอัลบั้มคู่ชุด Tribute เสียที :D

ผมจะเขียนเปรียบเทียบกับแผ่นเรดิโอโชว์จากรายการ The Source ทีละเพลงตามลำดับนะครับ...

(http://www.uppicfree.com/images/247_RandyRhoads.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-247_RandyRhoads.jpg)

ก่อนอื่นต้องให้ Randy Rhaods จัดการจูนเสียงจนเรียบร้อยเสียก่อน แล้วค่อยมาว่ากันอีกที  ;)

TRACKLIST:

  1. "I Don't Know" - 5:40
* Originally from Blizzard of Ozz

  เริ่มต้นคอนเสิร์ตก็โดนตัดออกแล้วครับ  ที่ถูกตัดออกไปบางส่วนคือเพลงโหมโรงชื่อ O Fortuna (Carmina Burana) โดย Carl Orff
ซึ่งในคอนเสิร์ตต้นฉบับของ The Source จะได้ฟังตั้งแต่เริ่มต้นกันเลย แต่ใน Tribute นี่ความยาวเพียงแค่ประมาณหนึ่งนาทีเท่านั้น แทน
ที่ควรจะปล่อยไว้ให้เหมือนเดิมคือราวๆ 2 นาทีครึ่ง นอกนั้นดนตรีในทุกเพลงยังคงเหมือนเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลง แล้วก็เป็นอย่างนี้
ทุกๆ แทร็ค ไปจนถึงเพลง Paranoid ยกเว้นสองเพลงที่ผมกำลังจะพูดถึงในลำดับต่อไปเมื่อถึงคิวของมันครับ
  เพลง I Don't Know นี้เป็นเวอร์ชั่นเดียวกันกับเพลงแถมในแผ่นซิงเกิ้ลเพลง Over The Mountain หรือ Flying High Again อย่างที่ผม
เคยเล่าให้ฟังแล้ว เพียงแต่มีการมิ้กซ์เสียงที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งเป็นที่สังเกตุได้ว่า การปรับแต่งเสียงจากมาสเตอร์เทปนั้นสร้างความแตกต่าง
และบรรยากาศของการแสดงสดได้มากทีเดียว จนบางครั้งอาจนึกว่าเป็นคนละคอนเสิร์ตไปเลย
  ถ้าใครมีแผ่นเสียงหรือซีดีเพลงนี้ทั้งสองเวอร์ชั่นลองนำมาเปิดพร้อมๆ กันซิครับ มันเหมือนกันแป้ะ ทุกท่อนจริงๆ  :D  :D  :D
  
  2. "Crazy Train" - 5:19
* Originally from Blizzard of Ozz

  จบเพลงเมื่อกี้ Tommy Aldridge มือกลอง ก็เคาะจังหวะด้วยไม้กลองนับ หนึ่ง...สอง...สาม...สี่ เป็นอันเข้าเพลงที่สองทันที ถ้าฟังเผินๆ
ก็คงไม่มีอะไร แต่ปรากฏว่า Randy Rhoads มือกีตาร์ขวัญใจของพวกเรา ดันเล่นผิดเล็กๆ น้อยๆ ครับ  ;D  ;D  ;D
  ก่อนจะเข้าช่วงโซโล่กีตาร์ท่อนกลาง ประมาณ 2:50 นาทีของอัลบั้มชุด Tribute ท่านโปรดิวเซอร์ Max Norman จัดการขัดเกลาการเล่น
ผิด fret ตอนเริ่มต้นลีดของ RR ให้ฟังดูรื่นหูมากขึ้นไม่เพี้ยนอย่างที่แผ่นเรดิโอโชว์เฉยเมยทิ้งเอาไว้อย่างนั้น
  ...."Thank you. OK. That's what Rock and Roll is about !!! "
  ประโยคสุดท้ายข้างบนถูก add เพิ่มเติมมา ทำให้แฟนเพลงพันธุ์แท้หลายคนหลงทาง นึกว่าเป็นคนละคอนเสิร์ตกับรายการของ The Source
ซึ่งนับว่าเป็นการ "ย้อมแมว" ที่น่าจะแยบยล แต่สำหรับคนอย่างผม มันไม่แนบเนียนเลยซักนิดเดียว

  3. "Believer" - 5:08
* Originally from Diary of a Madman

  "...and the track that we're gonna do for you now is a number called Believer".
   ก่อนเริ่มเพลงต่อไป Ozzy เกริ่นเอาไว้อย่างนั้น แต่ก่อนหน้านี้มีประโยคที่โดนตัดออกไปครับ ซึ่งมีรายละเอียดตามประโยคภาคภาษา
อังกฤษข้างล่างนี่เลย...
  "We're gonna do a brand new number for you now. It's a number from our forthcoming album. The Album's called
Diary Of A Madman..."
  นี่คือคำพูดที่โดนหั่นออก และเป็นการบอกได้ว่าอย่างน้อยคอนเสิร์ตนี้อัดมาจาก Blizzard Of Ozz Tour ในปี 1981
  ส่วนช่วงเข้าเพลงไปแล้วได้ยิน Ozzy ตะโกนว่า..."Stand Up!  Let's go, man".  นั้นยังคงอยู่เหมือนเดิมครบถ้วนทุกถ้อยคำ  :)

  4. "Mr. Crowley" - 5:37
* Originally from Blizzard of Ozz

  "OK. We're gonna do a number now entitled Mr. Crowley".
   ประโยคนี้ไม่ได้อยู่ในอัลบั้มคู่ชุด Tribute ช่วงก่อนขึ้นต้นเพลง...โดนสับออกอีกแล้วครับท่าน  >:(
   จนถึงทุกวันนี้ผมก็ยังคิดไม่ออกว่าไอ้ประโยคต่างๆ เหล่านี้ทำไมมันไม่ถูกบบรรจุอยู่ในอัลบั้มด้วย   ???  ???  ???

  5. "Flying High Again" (Osbourne, Rhoads, Daisley, Lee Kerslake) - 4:17
* Originally from Diary of a Madman

   หลังจากบอกกล่าว Thank you กันเหมือนเดิมตอนจบเพลง Ozzy เปล่งเสียงตะโกนไม่ดังมากอีกครั้งนึงว่า...
   "OK. Alright !!..." ซึ่งโดนตัดออก แต่ค่อยๆ มีเสียง fade in เข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ...
   "We're gonna do another brand new number..."  จนชัดเจนและจบประโยค และผมก็ลืมบอกไปอีกอย่างว่า เสียงปรบมือ
ของคนดูเป็นการอัดทับเพิ่มเข้ามาอีกให้ฟังเด่นชัดกว่าเดิมครับ

  6. "Revelation (Mother Earth)" - 5:58
* Originally from Blizzard of Ozz

  มาถึงเพลงที่หกแล้วครับ คราวนี้ Ozzy & Max Norman อารมณ์ดี เปิดโอกาสปล่อยทุกอย่างเอาไว้อย่างที่มันควรจะเป็น...
   "OK. We're gonna do a number now entitled Revelation (Mother Earth)".
  แม้แต่ระหว่างเพลงกำลังบรรเลงอยู่ก็มีเสียงของ Ozzy พยายามสื่อกับคนดูเพื่อปลุกให้คอนเสิร์ตคึกคักได้อารมณ์มากขึ้นด้วย
   "Let me see you standing up, man.  Everybody stands up!"
  ผมว่าจะยืนฟังหรือนั่งฟัง มันก็ "มันส์" ตลอดอยู่แล้วครับ ถ้าผมมีบุญได้ดู Ozzy หรือ Randy Rhaods ตัวจริงซักครั้งนึงในชีวิต !!!!

  7. "Steal Away (The Night)" [with Drum Solo] - 8:04
* Originally from Blizzard of Ozz

  เพลงนี้ส่วนมากจะเล่นติดกับเพลง Revelation ทุกครั้ง แม้แต่ในแผ่นเสียงหรือซีดีก็ยังฟังต่อกันไม่มีหยุดให้พักหายใจหรอกครับ
ซึ่งในการแสดงสดจะมีช่วง โซโล่กลอง ของ Tommy Aldridge มือกลองคนโปรดของ Ozzy และของผมอีกคนนึงด้วย  :D  :D  :D

(http://www.uppicfree.com/images/279_TommyAldridge.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-279_TommyAldridge.jpg)

  นี่ก็สามารถบอกได้อีกว่ามันเป็นการโซโล่กลองคืนเดียวกันกับแผ่นเรดิโอโชว์ ถึงแม้ว่าส่วนมากนักดนตรีจะพยายามเล่นให้เหมือนกันหมด
ทุกคืนที่แสดงคอนเสิร์ตก็ตาม แต่จะให้มันเหมือนทุกกระเบียดนิ้วคงเป็นไปไม่ได้แน่นอน และผมก็เชื่อว่าเป็นอย่างนั้น เพราะว่าหากนำอัลบั้มคู่
ชุด Tribute มาเปิดชนกันกับรายการ The Source แล้ว มันฟ้องกันอย่างเห็น(ฟัง)ได้ชัด!

  ผมขออนุญาติ พักยก สักครู่ใหญ่แล้วจะกลับมา ชก ต่ออีกทีครับ กับการโซโล่กีตาร์ของ Mr. Randy Rhoads.

  สมาชิกหลายท่านคงนึกสงสัยว่า นอกเหนือจากรายละเอียดคำพูดของ Ozzy Osbourne แล้ว จะทราบให้แน่นอนได้อย่างไรว่า อัลบั้มคู่ชุด
Tribute นั้นเป็นคอนเสิร์ตเดียวกันกับแผ่นเรดิโอโชว์ของรายการ The Source จริงๆ
  ถ้าให้ผมตอบโดยใช้ความเห็นส่วนตัวของผมคนเดียว มันง่ายมากครับ เหมือนปลอกกล้วยเข้าปาก !!!
  อยากบอกว่าถ้าทุกคนได้ฟังคอนเสิร์ตนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าตั้งแต่ปี 1981 จนถึง 1987 แทบนับครั้งไม่ถ้วนอย่างผมในสมัยก่อน มันสามารถ
รู้ได้เลยโดยอัตโนมัติครับ แค่หลับตาฟังตอนเพลงเริ่มก็รู้แล้วว่าเป็นเวอร์ชั่นไหน
  แล้วการสื่อสารกันระหว่าง Ozzy กับคนดูในระหว่างช่วงดนตรีได้บรรเลงไปแล้วนั้น มันไม่เหมือนแบบร้อยเปอร์เซ็นต์อย่างนี้หรอกครับ
ถ้าหากมันเป็นการแสดงสดคนละที่กัน  ;D
  
 8. "Suicide Solution" [with Guitar Solo] -7:46
* Originally from Blizzard of Ozz

  " We're gonna do a number now featuring Randy Rhoads on lead guitar. It is a number titled Suicide Solution".
  เพลงนี้ตอนช่วงกลางจะให้ Randy Rhoads โซโล่กีตาร์คนเดียวแบบโชว์เดี่ยว ซึ่งการตัดต่อไม่มีความเนี้ยบเลยแม้แต่นิดเดียว
(ประมาณเวลา 4:55 นาทีของเพลง) แต่ก็ต้องยอมรับว่าทั้ง Ozzy กับ Max Norman มีความตั้งใจที่จะให้คอนเสิร์ตในครั้งนี้ฟังแล้ว
สมบูรณ์ และ หายอยาก กับฝีไม้ลายมือกีตาร์ของ RR ที่ทุกคนหลงใหลคอยเฝ้าคิดถึงมาตลอดเวลา
  แล้วจากความเห็นส่วนตัวของผม เมื่อได้ฟังการโซโล่ของเค้าจากต้นฉบับในรายการ The Source แล้ว มันสู้ในรายการ King Biscuit
Flower Hour ไม่ได้จริงๆ ครับ ความลื่นไหล และ ความลงตัว ของการใส่อารมณ์ตอนเล่นในรายการ KBFH มันมีมากกว่าเยอะอย่างยาก
ที่จะปฏิเสธได้
  สรุปก็คือว่า แม้จะเสียความรู้สึกว่ามันเป็นการแสดงสดคนละแห่งกัน แต่ผมว่ามันไม่ สะดุด มากซักเท่าไหร่หรอกครับ ถ้าไม่ซีเรียสกับ
ข้อเท็จจริงนี้มากจนเกินไป...อย่าคิดมากจนฟังเพลงแล้วไม่สนุกสิครับ  ;D  ;D  ;D

(http://www.uppicfree.com/images/725_OzzyRandy.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-725_OzzyRandy.jpg)

  9. "Iron Man" (Osbourne, Tony Iommi, Geezer Butler, Bill Ward) - 2:50
* Originally from Paranoid

  ผมรู้สึกเสียดายครับ ที่คำพูดจาก ท่านค้างคาววิปลาส ของเราโดนตัดออกไปตั้งมากมาย ซึ่งมันทำให้บรรยากาศกระชับเกินไปนิดนึง
โดยเฉพาะเพลงนี้ที่ตอนช่วงแรกจะเป็นการชักชวนให้แฟนเพลงที่เข้ามาชมคอนเสิร์ตได้ปลดปล่อยอารมณ์โดยการช่วยกันตะโกนดังๆ
  "Alright. We're gonna finish up now but before we go I'd just like to say...you are the f***ing greatest !!!! "
  (ไอ้คำสบถนั่นโดนเซ็นเซอร์นะครับ เพราะว่าไม่สามารถเปิดออกอากาศได้)
  " I'm gonna finish with Sabbath numbers. OK. ...Tommy take it away".
  "Alright, I'll tell you what I want you to do..."
  นี่แหละครับบรรยากาศของแท้ที่ไม่มีรวมอยู่ในอัลบั้มชุด Tribute เพราะหลังจากนี้แล้ว Ozzy ก็ให้คนดู shout คำว่า yeah ซัก 2-3 ครั้ง
เห็นจะได้ โดยการนับ one...two...three พร้อมๆ กับการเริ่มได้ยินเสียง bass drum มาเป็นจังหวะ ซึ่งมันหมายความว่าเพลง Iron Man
ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว  :D
  "OK. Let's go for Iron Man..."

10. "Children of the Grave" (Osbourne, Iommi, Butler, Ward) - 5:57
* Originally from Master of Reality

  เพลง Iron Man จะพ่วงท้ายด้วยเพลงนี้เสมอครับ คล้ายกับนำมา medley กันโดยปริยาย Tommy Aldridge กับกลองชุดสองกระเดื่อง
ตีขัดจังหวะแบบสามพยางค์ได้ยอดเยี่ยมไร้เทียมธารจริงๆ
  ครั้นพอฟังมาถึงประมาณ 1:49 นาที มือกลองของเรา พลาดท่า ทำไม้กลองหล่นซะแล้วครับ !!
  (หากฟังดีๆ จะมีเสียง "กระทบ" ของไม้กลองกับขอบเหล็กดัง "กิ้ก" ด้วย)
  นี่เป็นจุดสำคัญเลยทีเดียว...เนื่องจากว่าคงไม่มีมือกลองคนไหนเผลอทำอาวุธหลุดมือวินาทีเดียวกันในการแสดงแต่ละคอนเสิร์ตอย่างแน่นอน!
  และตามความคิดของผม ไหนๆ ก็ตัดต่อตกแต่งคอนเสิร์ตมาพอสมควรแล้ว น่าจะมีความคิดนำเพลงนี้จากเวอร์ชั่นของรายการ KBFH มาบรรจุ
ในอัลบั้มแทน เพราะว่า Randy Rhoads ลีดกีตาร์ได้ไพเราะกว่าเวอร์ชั่น Tribute นี้มาก  :D

11. "Paranoid" (Osbourne, Iommi, Butler, Ward) - 2:59
* Originally from Paranoid

  "Alright...Thank you.  We love you all.  Good night !!!"
  เสียง Ozzy บอกคนดูหลังจากเพลงของคณะ Black Sabbath ทั้งสองเพลงบรรเลงจบลงด้วยความยาวประมาณ 8 นาทีกว่าๆ ในแบบ non-stop
ซึ่งต่อจากนี้ไปเป็นช่วง encore แล้ว
  คนดูเสียงดังมากขึ้นในแผ่นต้นฉบับ ไม่ต้องเอาเทปปรบมือปลอมมาช่วยเปิดเสริมอีกต่อไป
  "OK...You can't kill Rock and Roll".
  "Alright...We're gonna do...Paranoid...d...d...d   Let's go".
  ทุกคำพูดบรรจงเก็บไว้อย่างทะนุถนอมไม่ได้โดนตัดออกเหมือนอย่างเคย เป็นอันจบสิ้นของการแสดงสด ณ. Music Hall เมือง Cleveland
มลรัฐ Ohio ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 11 เดือน พฤษภาคม ปี ค.ศ. 1981 ที่เรารู้จักกันในนามของ Tribute อัลบั้มครับ  ;D
 สำหรับคอนเสิร์ตของรายการ KBFH นั้นบันทึกเสียงเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ปี 1981 นะครับ ไม่ใช่วันที่ 31 อย่างที่ผมเคยบอกเพราะว่าได้เจอ
ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การแสดงในวันนั้นโดนเลื่อนตามหลักฐานที่น่าเชื่อถือได้ข้างล่างนี้...

(http://www.uppicfree.com/images/677_St.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-677_St.jpg)

  เดี๋ยวเราจะมาพูดกันต่อเรื่องเพลงที่เหลืออีกสามแทร็คครับ.

ซึ้งมากเลยครับ ยิ่งทำให้คิดว่า RR ไม่น่าจากพวกเราไปไวขนาดนั้นเลย

  อีกสองแทร็คในแบบบันทึกการแสดงสดไม่มีใครสามารถคอนเฟิร์มได้ว่ามันมาจากไหนกันแน่ แต่คาดกันว่าน่าจะมาจากคอนเสิร์ต
ชุดเดียวกันกับแผ่นซิงเกิ้ลเพลง Mr. Crowley ในอดีต คือวันที่ 2 ตุลาคม ปี 1980 ณ. Gaumont Hall เมือง Southampton และสาเหตุ
ที่ไม่ยอมชี้แจงรายละเอียดไว้ในอัลบั้มซึ่งออกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ก็เนื่องจากว่า ถ้าบอกต้นตอที่มาที่ไปพิมพ์บันทึกเป็นหลัก
ฐานอย่างดีไว้ในอัลบั้ม อาจจะมีนักดนตรีบางคนร้องเรียน เพื่อเรียกขอส่วนแบ่งในการขายผลงานชุดนี้อีกอย่างน้อยสองคน

  เพราะฉะนั้นสมาชิกนักดนตรีของสองเพลงสุดท้ายเป็นคนละไลน์อั๊พกับทั้งอัลบั้มนะครับ ผมฟังดูก็รู้แล้วว่าไม่ใช่ฝีมือการหวดกลอง
ของ Tommy Aldridge และกล้า ฟันธง สู้คดีให้ Lee Kerslake กับ Bob Daisley ด้วย  ;D  ;D  ;D

  แล้วที่ผมดีใจได้เป็นเจ้าของอัลบั้มคู่ชุด Tribute ตอนนั้นก็สืบเนื่องมาจากการบรรจุสองเพลงข้างล่างเอาไว้ในอัลบั้มชุดนี้นี่แหละครับ
เพราะว่าไม่มีใครเคยได้ยินได้ฟังมาเลย แถมยังไม่มีแผ่นบู้ทเล็คเล็ดรอดออกมาให้ได้ลองกันก่อนเสียด้วย   >:(

12. "Goodbye to Romance" - 5:33
* Originally from Blizzard of Ozz

13. "No Bone Movies" (Osbourne, Rhoads, Daisley, Kerslake) - 4:02
* Originally from Blizzard of Ozz

  เป็นอันว่าบรรดาสาวกของ Randy Rhoads มีผลงานในแบบการแสดงสดจากปี 1980 นี้อยู่ในครอบครองแล้วทั้งหมดถึง 5 เพลงด้วยกัน
เมื่อนับรวมกับแผ่น 12" ซิงเกิ้ลดังที่ผมเพิ่งเอ่ยถึงไปเมื่อตะกี้นี้  ;D  ;D  ;D

  อย่างนี้แปลว่า Ozzy ยังมีเพลงในคอนเสิร์ตเดียวกันนี้และยังไม่มีใครเคยฟังอีกประมาณ 7-8 เพลง ซึ่งมีความเป็นไปได้อย่างสูงที่บท
เพลงที่เหลือคั่งค้างอยู่บางแทร็คมัน "อาจจะ" กลายเป็น เพลงแถม ในแผ่นครบรอบ 30 ปีก็เป็นได้

  บทเพลงที่เหลือผมเดาว่ามีดังต่อไปนี้ครับ...I Don't Know, You Looking At Me Lookig At You, Crazy Train, Revelation (Mother
Earth), Steal Away (The Night), Iron Man, Children Of The Grave, และ Paranoid

  แต่ถ้า Ozzy มีคอนเสิร์ตสมัย Diary Of A Madman Tour 1982 ขึ้นหิ้งเก็บตุน "กั๊ก" เอาไว้ตั้งแต่ผลิตอัลบั้มคู่ชุด Tribute และไม่ยอม
ปล่อยออกมานานมากแล้ว ก็น่าจะมีเพลงแถมเพิ่มเติมมาอีก อย่างเช่น เพลงบรรเลงก่อนช่วงโซโล่กลองหรือโซโล่กีตาร์ใน Suicide Solution
หรือเพลง Over The Mountain อีกหนึ่งแทร็ค เป็นต้น

  นอกเหนือจากบทเพลงที่ผมกล่าวถึงข้างต้นแล้ว ไม่น่าจะมี live version อื่นๆ ที่จะนำมาเป็น โบนัสแทร็ค ได้อีกนะครับ ยกเว้น Alternate
Takes ใน Studio ที่ไม่เคยมีใครได้สัมผัสมาก่อน เหมือนกับเพลงสุดท้ายนี้ครับ...

14. "Dee" [Randy Rhoads studio out-takes] (Rhoads) - 4:22
* Originally from Blizzard of Ozz

(http://www.uppicfree.com/images/214_RandyRhoads.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-214_RandyRhoads.jpg)

  ผมเล่าเรื่องมายาวพอสมควร หวังว่าทุกคนคงได้เกร็ดประวัติที่หาอ่านไม่ได้จากที่ไหนกันไปบ้างไม่มากก็น้อย สำหรับผม ได้เพลงที่ไม่เคยฟัง
จากอัลบั้มคู่ชุด Tribute ในสมัยนั้น (1987) น้อยมากครับ คือแค่ 3 แทร็ค แต่ก็ไม่ได้วิตกกังวลหรือว่าตีโพยตีพายอะไร เพราะว่าการมิ้กซ์เสียง
ใหม่ของ Max Norman นั้น มันทำให้ฟังคอนเสิร์ตสนุกสนานเหมือนพาเราไปสู่อีกมิตินึง

  ในขณะเดียวกัน ถ้าให้ผมเลือกฟัง ผมจะขอฟังแผ่นเรดิโอโชว์ของผมเอง เพราะว่า ซาวด์มัน ดิบ และ สด กว่าหลายเท่าครับ  :D  :D  :D

จบแล้วครับ  ;)

ตอนต่อไปจะเป็นการนำแผ่นเรดิโอโชว์สมัย Randy Rhoads เป็นมือกีตาร์ให้กับ Ozzy Osbourne มาโชว์ให้ครบหมดทุกแผ่น  :D  :D  :D

พอดีเหลือบเห็นแผ่น 12" ซิงเกิ้ลของอัลบั้มคู่ชุด Tribute ซึ่งถูกปล่อยออกมาวางจำหน่ายพร้อมๆ กับมิวสิควิดิโอ...

(http://www.uppicfree.com/images/965_OzzyCrazyTrainEP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-965_OzzyCrazyTrainEP.jpg)

ในอีเบย์มี คนบ้า ขายแผ่นเสียงเพลง Crazy Train นี้ในราคา 199 ดอลล่าห์สหรัฐ ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นผลงานหาซื้อยาก
มากมายอะไร  ผมคิดว่าไอ้นี้มันคงสติแตกไปแล้ว ก็เลยนำภาพมาลงให้ดูกันครับ

ข้างบนนั่นเป็นหน้าปก หลังปกจะบอกว่ามีเพลงอะไรในไวนิลแผ่นนี้บ้าง...

Side A  Crazy Train - Live (5:12) เพลงนี้เป็น Edited Version นะครับ ไม่ยาวเหมือนในตัวอัลบั้ม

Side B  Crazy Train (4:48) เวอร์ชั่นเดียวกับอัลบั้มชุด Blizzard Of Ozz และ I Don't Know - Live (5:43) ถูกคัดเลือกมาบรรจุ
อยู่ในแผ่นนี้อีกเพลงนึง ซึ่งเพลงหลังสุดมาจากเวอร์ชั่นในอัลบั้มคู่ชุด Tribute ครับ.

คนขายไม่ได้สติแตกหรอกครับ แต่รอคนสติแตกมาซื้อไปในราคานั้นต่างหากล่ะครับ  :D

+1 น่าลองบ้างนะครับ  :D

สำหรับท่านที่เป็นเจ้าของ CD หรือว่า Mini LP ผมจะโชว์รูปของแผ่นเสียงชุด Tribute นี้ให้ดูกันชัดๆ เลยนะครับ เผื่อว่าจะได้เอามา
เปรียบเทียบกันได้  :D

หน้าปกจากประเทศสหรัฐอเมริกา รุ่นแรก ต้องมี สติ้คเกอร์ สีดำแปะติดมาด้วยกับ shrink wrap...

(http://www.uppicfree.com/images/492_OzzyTributeLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-492_OzzyTributeLP.jpg)

ภาพด้านหลังปก
(http://www.uppicfree.com/images/652_OzzyTributeLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-652_OzzyTributeLP.jpg)

และ เมื่อกางปกออกมา...
(http://www.uppicfree.com/images/877_OzzyTributeLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-877_OzzyTributeLP.jpg)

สำหรับ Inner Sleeve ทั้งสองแผ่น มีภาพสีสดงดงามมากหลายภาพเลยครับ...

(http://www.uppicfree.com/images/321_OzzyTributeLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-321_OzzyTributeLP.jpg)  (http://www.uppicfree.com/images/646_OzzyTributeLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-646_OzzyTributeLP.jpg)

(http://www.uppicfree.com/images/151_OzzyTributeLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-151_OzzyTributeLP.jpg)  (http://www.uppicfree.com/images/914_OzzyTributeLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-914_OzzyTributeLP.jpg)

แผ่นเสียงของ USA จะมีเลเบิ้ลสีฟ้าตามรูปข้างล่างนี้
(http://www.uppicfree.com/images/487_OzzyTributeLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-487_OzzyTributeLP.jpg)

แผ่นเสียงจากประเทศอังกฤษเป็น single sleeve ครับ

(http://www.uppicfree.com/images/887_OzzyTributeLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-887_OzzyTributeLP.jpg)

แล้วถ้าซื้อ รุ่นแรก จะแถมภาพโปสเตอร์มาให้ด้วย แต่ว่ามันคือรูปเดียวกันกับภาพของด้านในปกแบบ gatefold sleeve นั่นเอง...

(http://www.uppicfree.com/images/854_OzzyTributeLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-854_OzzyTributeLP.jpg)

ใครซื้อไม่ทันก็อดได้ หมายความว่า ขาดทุน ไม่มีรูปครบเหมือนกับแฟนเพลงชาวอเมริกันเค้า  :(  :(  :(

สุดท้ายก็ต้องคว้าแผ่นเสียงที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่นมาเก็บเอาไว้ถ้าหากอยากได้รูปให้ครบ หรือว่า ชอบรูปลักษณ์ของหน้าปก
ที่ดูมีคลาสขึ้นมาหน่อย...

(http://www.uppicfree.com/images/886_OzzyTributeLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-886_OzzyTributeLP.jpg)

นอกเหนือจาก lyrics sheets กับ  booklet แปดหน้า แล้ว ยังมี sticker หน้าปกอัลบั้มแถมมาให้เพิ่มเติมอีก เอาไว้แปะติดฝาผนัง
ให้มันรกลูกตาเล่น  ;D

(http://www.uppicfree.com/images/558_OzzyTributeLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-558_OzzyTributeLP.jpg)

ท่านสมาชิกทั้งหลายคงมีอัลบั้มชุดนี้เก็บสะสมอยูในคอลเล็คชั่นกันเกือบทุกคนนะครับ ถ้าไม่มีล่ะก็รีบไปหาซื้อมา เพราะว่า
มันเป็นบันทึกการแสดงสดชุดเดียวที่มี Randy Rhoads เล่นเต็มคอนเสิร์ต และทั้งอัลบั้มด้วย  ;)

เคยมีซีดีและขายไปแล้วครับ เพราะหยุดเงียบระหว่างเพลงทุกเพลงเลยครับ

เอ...เป็นไปได้ยังงัยครับ เพราะว่าคอนเสิร์ตมันติดต่อกันทุกเพลงโดยมีเสียงคนดูคั่น ไม่ได้ fade in หรือว่า fade out
ตลอดทั้งแผ่น   :-\  ???

แผ่นเสียง ก็เงียบระหว่างบางเพลงนะ (ถ้าจำไม่ผิด)
ผมชอบการมิกซ์แบบ ปีเตอร์ แฟรมตัน มากกว่า
คือให้เสียงคนดูดังตลอดช่วงต่อเพลงเลย

ตามอ่านด้วยความขอบคุณอย่างสูงครับพี่โป่ง
Pong is God!

สมัยเด็กๆเคยซื้อชุดนี้ เป็นเทปPeacock ราคา35บาทครับ

เปิดฟังไปถึงเพลงที่2 นั่นคือ Crazy Train ก็ทำให้ต้องรีเทปกลับ ฟังแล้วฟังอีกฟังแล้วฟังอีก!!

นี่อาจจะเป็นท่อนริฟฟ์ที่กระแทกหูผมริฟฟ์แรกๆในชีวิตก็ว่าได้ครับ

Ozzy Osbourne - Scream ความดิบโหด พร้อมริฟฟ์กีตาร์กลับมาแล้ว หลังจากที่เล่นกับจังหวะเมทัลพื้นๆในชุดที่แล้ว

พี่โป่งบอกช้าไปครับ ผมปล่อยแผ่นนี้ผ่านไปแล้ว คงต้องรอเที่ยวหน้าแล้วล่ะครับ ขอบคุณครับ

199 เหรียญฯ ผมไม่เอาหรอกครับ -- ไม่อยากเป็น "คนซื้อวิปลาส" เหมือนท่านค้างคาวฯครับ

เท่าที่จำได้ในแผ่นเสียงไม่มีช่วงปล่อยว่างหรือมี "แก็ป" ระหว่างเพลงในหน้าเดียวกันนะครับ ซึ่งในแผ่นซีดีก็เช่นกัน
...ผมต้องกลับไปเช็คดูอีกทีให้แน่ใจซะแล้วล่ะครับ  ???

แล้วก็ใครมี มินิแอลพี ของอัลบั้มชุดนี้ ช่วยมาไขข้อข้องใจของผมหน่อยได้มั้ยครับว่า คุณพี่ยุ่น ได้ผลิตออกมาขาย
โดยมีอะไรแนบแอบแถมมาให้บ้าง ?!?!?!?

ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ  :D

+16.67 ครับ
ปรกติไม่ค่อยได้เก็บของน้าอ๊อซเท่าไหร่ อ่านแล้วสงสัยต้องไปหามามั่งแล้วครับ  :D

ผมหมายถึง คนขาย ครับ
น่าลองทำแบบเจ้าคนขายดูบ้างครับ  :)

ครับ แล้วเดี๋ยวอีกไม่นานผมจะมาคุยกันถึงอัลบั้มชุดล่าสุด อยากให้สมาชิกที่ชอบ Ozzy Osbourne ซื้ออัลบั้มมาฟังกันก่อน
แล้วอาทิตย์หน้าเข้ามาร่วมแจมสาธะยายถึงผลงานชุด Scream นี้พร้อมๆ กันเลย  ;)

แฟน ๆ Randy ยังไงก็ติดตามหนังสือแกด้วยนะครับ ยังอยู่ในระหว่างการทำอยู่เลย

(http://www.uppicfree.com/images/510_998_rrbookcover.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-510_998_rrbookcover.jpg)

According to a posting on the Ultimate Randy Rhoads MySpace page, there is a Randy Rhoads book in the works entitled "You Can't Kill Rock & Roll" that has a "major publisher" backing the project. Rock photographer Jay Banbury, whose picture of Randy was selected as the front cover image for the book, states, "'You Can't Kill Rock & Roll'  will be the most complete and comprehensive book ever written on Randy Rhoads, period! I've personally read numerous chapters from the book and I can honestly tell all of you, that this is the book we've all been waiting for! No rehashed guitar magazine articles or fluff story. 'You Can't Kill Rock & Roll' is being written by Randy's lifelong friend Kelly Garni along with award-winning editor/screenwriter Michael Lynn. Kelly Garni sets the record straight and tells the real Randy Rhoads story as only Kelly  can!

"Not only will this book be a great read, it will also contain numerous unpublished photos, memorabilia, personal artifacts, drawings and clippings created by Randy Rhoads himself, along with personal letters that were handwritten by Randy to friends, family and most importantly letters that go into great detail about life on the road while on tour."

Regarding the fact that one of his pictures was selected to be the front cover image for the "You Can't Kill Rock & Roll" book, Banbury says, "It's been nearly 30 years since I shot those special pictures of Randy and I never would have imagined back then how lucky I was to be at the right place at the right time."

In 1982, Rhoads, the then-lead guitarist for Ozzy Osbourne, and two others were killed at Flying Baron Estates, just outside Leesburg, Florida, when their small plane struck Osbourne's tour bus, then crashed into a mansion.

เพลง Crazy Train นี่ Randy Rhoads เคยนำบางท่อนมาเล่นสดๆ สมัยอยู่กับวง Quiet Riot ช่วงโชว์โซโล่กีตาร์มาแล้ว  
ลองหาอัลบั้มชุด The Randy Rhoads Years มาฟังสิครับ เปิดแทร็คที่ชื่อว่า Laughing Gas แล้วข้ามไปประมาณกลาง
เพลง น่าจะเจอแจ็คพ็อตนะครับ  :D

ไหนๆ ก็พูดถึงผลงานชุด Tribute ของ Ozzy Osbourne มาตั้งหลายวันติดต่อกัน มันคงจะเป็นไปไม่ได้ ถ้าไม่เอ่ยถึงรูปภาพที่ถูกคัด
เลือกมาทำเป็นหน้าปกอัลบั้มครับ...

(http://www.uppicfree.com/images/793_OzzyTributeBook.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-793_OzzyTributeBook.jpg)  (http://www.uppicfree.com/images/930_OzzyTributeBook.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-930_OzzyTributeBook.jpg)  (http://www.uppicfree.com/images/445_OzzyTributeBook.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-445_OzzyTributeBook.jpg)

ผมไม่ทราบจริงๆ ครับว่า เป็นภาพที่ถูกถ่ายมาจากคอนเสิร์ตที่ไหน จำได้ว่าเคยอ่านในบทความเจอสอง-สามครั้ง และ ความจำผมก็
ค่อนข้างเลือนลางเสียด้วย แต่ถ้าให้นึกก็บอกได้แบบไม่ค่อยแน่ใจว่าน่าจะเป็น การแสดงสดที่ The Palladium ในกรุงนิวยอร์ค
ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ปี 1981 ครับ

ทว่าอีกแหล่งข้อมูลนึงที่ผมทราบ มีรูปมาให้ดูกันด้วย...

(http://www.uppicfree.com/images/715_OzzyRandy.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-715_OzzyRandy.jpg)  

มันก็เลยเกิดมีอาการ "หัวปั่น" เล็กน้อยครับ   :-\  :-\  :-\

เพราะว่าตามความจริงไม่มีใครเคยนับว่า Ozzy นั้น อุ้ม Randy ขึ้นในลักษณะเช่นนี้สมัยเล่นคอนเสิร์ตร่วมกันตั้งแต่ ปี 1981-1982
ทั้งหมดกี่ครั้งกันแน่ ?

แต่ที่แน่ๆ เลยก็คือ คอนเสิร์ตตามรูปภาพที่เห็นมาจากเมือง Knoxville มลรัฐ Tennessee ณ. Civic Coliseum เมื่อวันที่ 18 มีนาคม
ปี 1982 ครับ ซึ่งเป็นการเหยียบขึ้นบนเวที ครั้งสุดท้าย ของมือกีตาร์ที่ชื่อเต็มๆ ว่า Randall William Rhoads   :(  :(  :(

ให้คะแนนเชียร์ผมน้อยมาก ผมขอบวกอีกซัก .02 จะได้มั้ยครับ?
...พอรวมคะแนนใหม่แล้ว มันพอยอมรับได้หน่อย   :P  :P  :P

นี่ถ้า คุณอาร์โนลย์ เจอกับผมครั้งต่อไป หากคุยเรื่อง ท่านค้างคาวฯ ไม่รู้เรื่องผมจะไม่นั่งเป็นเพื่อนชนน้ำเขียวด้วยนะครับ  ;D

ผมแว็บไปดู Randy แสดงสดกับ Ozzy ในรายการ After Hours มา 3 เพลง (ฉันไม่รู้, รถไฟมรณะ, นายคลาวลี่)

Randy แกตัวผอมบางจริง ๆ Ozzy ถึงได้ยกแกได้บ่อย ๆ แบบสบาย ๆ (แบบว่าหมั่นเขี้ยว อยากโยน Randy ลงเวที ว่างั้น)
ส่วนกรณีของ Zakk นั่น ป๋ายกไม่ไหวเลยใช้วิธีดึงผมแทน (ขอโทษครับ หารูปไม่เจอ  :P)
 

+16.67 นี่ไม่คะแนนนะครับ  ;D แต่เป็นดีกรีของแอลกอฮอล ที่เพิ่มขึ้นจากเดิมนะครับ  ::) จะให้มากๆเกรงว่าจะแรงไปน่ะครับ !!

ตามที่เคยได้บอกไว้แล้วว่าแผ่นเสียงเรดิโอโชว์จากประเทศสหรัฐอเมริกาของ Ozzy Osbourne ที่มี Randy Rhoads เป็นมือกีตาร์นั้น
มีให้ตามเก็บสะสมกันประมาณ 6 ชุด แต่ละชุดหายากพอๆ กัน ราคาก็สูงบ้างกลางบ้างแล้วแต่จังหวะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่านานๆ โผล่มาที
หรือว่ามากันถี่ๆ ติดต่อกันในแต่ละปี บางชุด 2-3 ปีจะเห็นกันทีก็มีครับ แล้วก็ผมไม่ได้โม้ด้วย

ผมจะทบทวนแผ่นเรดิโอโชว์ทั้ง 4 ชุดที่ได้กล่าวไปแล้วเพื่อที่จะได้ไม่ต้องย้อนกลับไปอ่านกันอีกครั้ง  :D

1. รายการ King Biscuit Flower Hour - Ozzy & Derek/St. Holmes 2LP's  airdate : September 13, 1981
2. รายการ King Biscuit Flower Hour - Ozzy Osbourne 2LP's airdate : January 17, 1982
3. รายการ King Biscuit Flower Hour - Best of The Biscuit 2LP's  airdate : May 2, 1982
4. รายการ The Source Concert - Ozzy Osbourne 2LP's  airdate : August 14-16, 1981

อย่าลืมว่าข้อมูลพวกนี้จะ search หาในเน็ทคงจะไม่มีนะครับ น้อยคนมากในโลกนี้ที่จะสะสมแผ่นเรดิโอโชว์จนครบ หรือว่าจะพยายาม
หารูปถ่ายก็มีน้อยมาก ไม่เชื่อก็ลองดูกันได้ ผมไม่ได้ท้าแต่อยากให้ช่วยกันมองๆ เอาไว้ เผื่อใครอยากซื้อจะได้บอกกล่าวกันในเว็ปนี้
เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ไปในตัวด้วย

กลับมาที่แผ่นเรดิโอโชว์อีก 2 ชุด และ ชุดนี้เป็นชุดแรกครับ จากรายการ The Source...

(http://www.uppicfree.com/images/228_OzzyTheSource.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-228_OzzyTheSource.jpg)  (http://www.uppicfree.com/images/383_OzzyTheSource.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-383_OzzyTheSource.jpg)

นี่เป็นชุดรวมเพลงของรายการครับ แล้วตอนที่ผมสั่งซื้อมาไม่มี Cue Sheet แนบมาให้ด้วย แต่ก็ต้องเอามาเก็บสะสมอยู่ดีล่ะครับ
จนทุกวันนี้ยังไม่เคยเห็นแผ่นเรดิโอโชว์ชุดนี้ในเน็ทมาเป็นเวลาสิบกว่าปีแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าจะหาเอกสารเหล่านั้นมาจากที่ไหนได้
เพื่อนๆ ชาวต่างประเทศที่สะสมแผ่นเรดิโอโชว์เหมือนกัน ไม่มีใครมีชุดนี้ในคอลเล็คชั่นเลยครับ  :(  :(  :(

ชื่อรายการก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นการรวมขุนพลประเภทเมทัล แผ่นเสียงทั้งหมดมี 4 หน้า แบ่งสันปันส่วนกันวงละหนึ่งหน้าแผ่นเสียงครับ

(http://www.uppicfree.com/images/245_OzzyTheSource.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-245_OzzyTheSource.jpg)

พอดีบนซองกระดาษมี ดีเจฝรั่ง มือบอน เขียนข้อมูลเอาไว้เล็กน้อย อย่างที่เห็นนี่แหละครับ

ไม่ว่าจะเป็นคณะ Iron Maiden, Ted Nugent, Pat Travers Band, หรือว่า Ozzy Osbourne คอนเสิร์ตของแต่ละ คน/วง เคยเปิดออกอากาศในแบบ
เต็มๆ มาแล้ว นี่เป็นเพียงแค่บางส่วนเท่านั้น แต่ผมก็ยังอุตส่าห์หามาเพิ่มในคอลเล็คชั่นจนได้ เนื่องจากว่ามันไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด  :D  :D  :D

เหลืออีกหนึ่งชุด แล้วผมจะมาเล่าต่อครับ รออีกสักพักนึง.

อัลบัมใหม่นี้ แผ่นญี่ปุ่นยั่วกระเป๋าตังค์จริงๆครับ ดูท่าว่าต้องสอยอีกจนได้

Ozzy Osbourne: special 'Scream' Japanese edition to include bonus tracks
According to CDJapan.co.jp, a special Japanese edition of Ozzy Osbourne's latest album, "Scream", will be released on October 13 via Sony Music Entertainment. The CD will include a Japan original sport towel as well as several bonus songs.

The track listing is as follows:

01. Let It Die
02. Let Me Hear You Scream
03. Soul Sucker
04. Life Won't Wait
05. Diggin' Me Down
06. Crucify
07. Fearless
08. Time
09. I Want It More
10. Latimer's Mercy
11. I Love You All
12. Hand of the Enemy (new song)
13. One More Time (previously released as iTunes bonus)
14. Jump The Moon (Japanese bonus track)
15. Let Me Hear You Scream (live)
16. Bark At The Moon (live)
17. No More Tears (live)

เท่าที่ผมทราบและได้ดูผ่านตามา หลังจาก Randy Rhoads แล้ว มือกีตาร์แทบทุกคนโดน Ozzy กระชากผมหมดล่ะครับ

Jake E. Lee โดนใน VHS The Ultimate tour แต่ทำเนียนเป็นไม่เจ็บ 555+
ผมว่าJake เก่งนะครับ น่าจะได้รับการยอมรับมากกว่านี้

เจ็คเป็นมือกีตาร์ที่มีฝีมือไม่เป็นสองรองใคร แต่ระหว่างที่มีทุกอย่างกลับหมกมุ่นอยู่กับยาเสพติดชนิดโงหัวไม่ขึ้น
ซึ่งน่าเสียดายมากครับ

ปัจจุบันใช้ชีวิตอยู่กับสาว escort คนหนึ่งแถวเมืองลาสเวกัส ถ้าผมจำไม่ผิด  และคิดว่ายังอยู่ในนรกเหมือนเดิม หนีออกมาก็ไม่ได้ด้วย  :(  :(  :(

กลิ่นดีกรีของแอลกอฮอลนี่ แรงกว่ากลิ่นกาวติดกล่องมั้ยครับ  :D
อันไหนแรงกว่าก็โซ้ยอันนั้นแหละ แล้วก็  ดมกาวบ่อยๆ ระวังติดงอมแงม ....ขอบอก  ;)

ให้ชมแผ่นเรดิเอโชว์ชุดที่ 5 ไปแล้ว แต่ยังไม่ได้บอกรายละเอียด ก็เลยขอถือโอกาศบันทึกไว้ตรงนี้เลยครับ

Iron Maiden คอนเสิร์ต  เคยออกอากาศเมื่อวันที่ 3-6 กันยายน ปี 1982 (Show # 82-33) เป็นบันทึกการแสดงสดจาก
The Palladium ในมหานคร New York วันที่ 29 มิถุนายน ปี 1982

Pat Travers Band คอนเสิร์ต  เคยออกอากาศเมื่อวันที่ 7-9 มกราคม ปี 1983 (Show # 83-01) เป็นบันทึกการแสดงสดจาก
Civic Center เมือง Baltimore มลรัฐ Maryland  วันที่ 9 ธันวาคม ปี 1982

Ted Nugent คอนเสิร์ต  เคยออกอากาศเมื่อวันที่ 15-17 ตุลาคม ปี 1982 (Show # 82-37) เป็นบันทึกการแสดงสดจาก
Cobo Hall เมือง Detroit มลรัฐ Michigan วันที่ 3 กันยายน ปี 1982

Ozzy Osbourne คอนเสิร์ต  เคยออกอากาศเมื่อวันที่ 14-16 สิงหาคม ปี 1981 (ไม่มี Show #) เป็นบันทึกการแสดงสดจาก
Music Hall  เมือง Cleveland มลรัฐ Ohio วันที่ 11 พฤษภาคม ปี 1981

(http://www.uppicfree.com/images/642_OzzyRandy.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-642_OzzyRandy.jpg)

อย่างที่เห็นแล้วนะครับ ว่าการแสดงสดของ Randy Rhaods ร่วมกับ Ozzy Osbourne นั้นซ้ำกับของเดิมไม่ใช่ของแปลกใหม่อะไร
ส่วนวงดนตรีอื่นๆ นั้น ถ้าเป็นแฟนเพลงของพวกเค้าคงเคยเห็นแผ่นบู้ทเล็คจากการบันทึกเสียงแห่งเดียวกันมาบ้างไม่มากก็น้อย
แต่หลังจากได้รู้จักกับแผ่นเรดิโอโชว์แล้วคงเดากันได้นะครับ ว่าคอนเสิร์ตคุณภาพเสียงดีๆ ที่เป็นต้นฉบับน่ะมันมาจากที่ไหนกัน

ผมเลิกซื้อแผ่นบู้ทเล็คมานานพอสมควรครับ คือตั้งแต่เริ่มสะสมแผ่นเรดิโอโชว์ในแบบบันทึกการแสดงสดเป็นต้นมา ถ้าจะเก็บจริงๆ
ต้องรู้ว่าคอนเสิร์ตนั้นมันมีเสียงที่แจ่มแจ๋วมากๆ จนไม่อาจมองข้ามไปได้

กลับมาที่ผลงานของ Randy Rhoads อีกครั้งนึงครับ...

รูปภาพข้างล่างนี้จะเห็น Promo/Cue Sheet สภาพค่อนข้างเก่า ของรายการ SuperGroups In Concert อันเป็นแผ่น Radio Show ลำดับที่ 6
ซึ่งหมายความว่านี่คือไวนิลชุดสุดท้ายแล้ว...

(http://www.uppicfree.com/images/277_OzzySGIC.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-277_OzzySGIC.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/538_OzzySGIC.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-538_OzzySGIC.jpg)

อ่านรายละเอียดกันก่อนนะครับ วันหลังผมจะมาเล่าต่อพร้อมรูปอีกครั้ง  :)

รายการ SuperGroups In Concert นี้ผลิตโดย D.I.R. Broadcasting Corp. บริษัทเดียวกันกับรายการ King Biscuit Flower Hour ครับ  :D

ความยาวของโชว์นี้ประมาณ 2 ชั่วโมงเต็ม มีแผ่นเสียง 3 แผ่น เริ่มต้นด้วยคณะ Krokus ต่อด้วย Scorpions แล้วก็ Ozzy Osbourne ของเรา
(อยู่ในหน้า D, E และ F) ตามลำดับ...

(http://www.uppicfree.com/images/742_OzzySGIC.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-742_OzzySGIC.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/606_OzzySGIC.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-606_OzzySGIC.jpg)

คณะ Krokus เป็นบันทึกการแสดงสดจาก The Palladium ในเมือง Los Angeles มลรัฐ California เมื่อวันที่ 4 มีนาคม ปี 1984
สมัย Headhunter Tour ส่วนคณะ Scorpions น่าจะอัดมาจาก Sun Plaza Hall กรุง Tokyo เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ปี 1980 นะครับ

สำหรับ Ozzy Osbourne นั้น ทั้ง Promo Sheet และ DJ ให้ข้อมูลไว้ว่าเป็นคอนเสิร์ตจากเมือง Indianapolis มลรัฐ Indiana ซึ่งตาม
แหล่งข้อมูลเชื่อถือได้คือวันที่ 18 พฤษภาคม ปี 1981 แต่ปรากฏว่า เมื่อผมได้เปิดฟังแล้ว มันเป็นคอนเสิร์ตเดียวกันกับที่ใช้กับรายการ
King Biscuit Flower Hour เลยครับ !!!   >:(

เห็นมั้ยครับ แม้แต่แผ่นเรดิโอโชว์ที่ควรจะน่าเชื่อถือได้ก็ให้รายละเอียดที่ผิดๆ เลยพลอยทำให้แผ่นบู้ทเล็คซึ่งนำการแสดงสดในครั้ง
นี้ไปก็อปปี้บอกสถานที่เล่นคอนเสิร์ตผิดไปด้วย แล้วตัวผมเองก็โมโหนิดๆ ตอนที่ซื้อมาครั้งแรก เพราะราคามันสูง ก็เลยปลอบใจตัวเอง
ด้วยการคิดว่าเป็นผลงานของ Randy Rhoads ที่น่าจะเก็บสะสมให้ครบคอลเล็คชั่น :D  :D  :D

(http://www.uppicfree.com/images/509_RandyRhoads.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-509_RandyRhoads.jpg)

ที่เพิ่งจบไปคือแผ่นเรดิโอโชว์ทั้งหมดของ Randy Rhoads สมัยที่เล่นดนตรีให้กับ Ozzy Osbourne ในแบบบันทึกการแสดงสดเท่านั้น
นอกจากนี้แล้วยังมีแผ่นเรดิโอโชว์อีอย่างนึงซึ่งเป็นรายการสัมภาษณ์นักดนตรีแล้วก็เปิดเพลงไปด้วยที่บรรดาสาวกของ RR พยายามหา
เพราะอยากฟังกันเป็นนักหนา ชื่อว่า รายการ Metalshop ครับ

เท่าที่ทราบมีอยู่ 2 โชว์ครับ คือ ปี 1984 และ 1987 และในวันพรุ่งนี้ผมจะสแกนรูปเลเบิ้ลมาให้ดูกัน วันนี้ขอลาเพียงเท่านี้ก่อนต้องออก
ไปข้างนอกแล้ว  :D  :D  :D

ที่บอกว่า JAKE ติดยาโงหัวไม่ขึ้นนั้น ช่วงปัจจุบัน หรือ หลังจากออกจากวงOzzyครับ??

ก็ตลอดเวลาที่กำลังดังล่ะครับ ปัจจุบันซาลงแล้วเพราะทรัพย์จางแต่ก็ยังเลิกไม่ได้ เลยไม่สามารถเกิดได้อีกหน
เนื่องจากไม่มีใครเอาด้วย ได้แตรับจ้างอัดเสียงสมัย ทริบิ้วอัลบั้ม กำลังติดตลาด ตอนนี้ไม่ทราบว่าทำอะไรอยู่
...รู้แต่ว่า น่าเสียดาย ครับ  :(

น้องๆ เครียดยังไง ก็อย่าเข้าไปเล่นยานะครับ
คนดีๆ หายไปจากความเป็นมนุษย์ไปเลย

อ้อ แล้วก็อย่าไปนึกว่า เราจะรอดได้ แบบ อ็อซซี่ แคลปตัน หรือ วงโรลลิ่ง สโตน (หรือแม้แต่ เดอะ บี้ตเทิ้ล  ???)
ศิลปินพวกนั้น ถ้าเงินไม่ถึง
ป่านนี้ กลายเป็น ตาแก่ไร้คนสนใจ ทั้งๆ ที่ควรเป็นเวลาที่เขาจะได้ขึ้นเป็นศิลปินระดับอมตะ
เช่น ปีเตอร์ กรีน หรือ ซิด แบเร็ต เหล่านั้น

ไม่ต้องห่วงลูกหลาน ผลาญยาเสพติด
แค่ห่วงตัวเอง รักตัวเอง จะได้เป็นกำลังให้สังคม ห่างไกลยาเสพติด (และเหล้า บุหรี่ :D)

...พูดถึง Jack E. Lee  ฝีมือของเขาช่วงที่ทำงานในนาม badland น่าสนใจนะครับ

ถ้า แจ็ค อีหลี นั่นผมเอง  ;D
คุณนพร็อค น่าจะหมายถีง แจค อีลี หรือ Jake E. Lee (Jakey Lou Williams) มากกว่านะครับ  ;)

ขอแนะนำ ชุดดีที่ถูกลืมครับ  :'(
A Fine Pink Mist
(http://i47.tinypic.com/29ni920.jpg)
งานเลิศหลุด สุดยอดมาก

ชุดที่ว่านี่แกเล่นเป็นไงครับ ปกหลอนจัง ยังกะไคโรผีอินเตอร์เน็ต

แกก็ตั้งใจดีนะครับ
งานสร้างอาจจะไม่เนี๊ยบแบบคมชัด เพราะแกเล่นเองหมดทุกชิ้น

ซาวด์รวมหลอนๆหน่อย
เพราะแกชอบเล่นโน้ตแปลก แบบนอกสเกลอยู่แล้วนี่นา

ชุดนี้ ใครชอบของแปลก ล้ำยุคนิดๆ น่าลิ้มลองครับ
ไม่ใช่งานเมทัลแบบที่แกเล่นอยู่กับวงนะครับ
ออกไปทาง งานบรรเลงกีต้าร์เมทัล ที่มีฮาร์โมนิกแปลกหู แต่ไม่น่าเบื่อครับ ถือว่ามีความคิดสร้างสรรค์  :D
http://www.youtube.com/watch?v=70TMBUm996c

ขอบคุณครับ ว่าแต่ แจ๊ค อีหลี นี่มีอะไรเด็ดแนะนำบ้างครับ อิอิ

เขามีนิ้วก้อยที่เกี่ยวสายตวัดสายได้ไวมากครับ
และเป็นมือกีตาร์ที่เกลียดการใช้คันโยก
การวางนิ้วบนคอกีตาร์ของเขา วางยากมากๆ ซึ่งจุดนี้ผมยอมรับเขาจริงๆครับ
และก็เป็นคนที่แต่งเพลงได้ดีมากคนนึง เสียอย่างเดว พอหมดยุคกับป๋า ผลงานอาจจะไม่เป็นที่ยอมรับสักเท่าไหร่

แจ๊ค อีหลี ตัวจริงของน้อง ชาแมน
มีของเด็ดประเภท เค-ป็อบครับ  ::)
www.http://withkara.com/forums/  ;D
www.http://www.soshifanclub.com/  :D
เพราะ พวกนรกเนเวอร์ดาย ตายไปไหนแล้วก็ไม่รู้

ลิงค์แรก ผมชอบซ้ายสุดครับ ดีดสีตีเป่าเขย่าดึงดูดจริงๆครับ

เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาต่อเรื่อง Ozzy ให้ครับ มัวแต่แจกแผ่นซีดีกับนับแผ่นเสียง เลยไม่ได้เข้ามาคารวะท่านค้างคาวฯ   ;D
ผมจะนำแผ่นเรดิโอโชว์ของรายการ Metalshop มาให้ดู 2 ชุด ซึ่งเป็นของสะสมของ Ozzy ในยุค Randy Rhoads ครับ.

นอกเหนือจากแผ่นเรดิโอโชว์ทั้งหมด 6 ชุดที่บรรดาสาวกระดับแฟนพันธุ์แท้ต้องมีเก็บสะสมไว้ในคอลเล็คชั่นแล้ว แผ่นเรดิโอโชว์
อีกแบบนึงที่ไม่ใช่คอนเสิร์ตก็เป็นผลงานที่มีคนถามหามากมายไม่แพ้กัน และที่สำคัญก็คือ แผ่นเสียงประเภทนี้หายากมากกว่าพวก
บันทึกการแสดงสดเสียอีกครับ

รายการนี้ชื่อว่า Metalshop ผลิตโดย MJI Broadcasting, Inc. ในกรุงนิวยอร์ค...

(http://www.uppicfree.com/images/342_RandyRhoadsMetalshopLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-342_RandyRhoadsMetalshopLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/489_RandyRhoadsMetalshopLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-489_RandyRhoadsMetalshopLP.jpg)

สมัยเพลงเมทัลกำลังครองโลกผลงานของวงดนตรีต่างๆ มีให้เลือกซื้อเลือกฟังกันมากมาย สถานีวิทยุแต่ละคลื่นโถมเปิดเพลงเมทัลกัน
ดังสนั่นไปแทบทุกช่อง เรียกว่าเพลง ป็อป Top 40 Hits แทบไม่มีใครอยากจะได้ยิน รูปแบบรายการก็แตกต่างกันไปแล้วแต่ระเบียบหรือ
กฏเกณฑ์ของวิทยุแต่ละสถานีในประเทศ สหรัฐอเมริกา

แต่ที่ค่อนข้างได้รับความนิยมมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันในหมู่นักฟังเพลงระดับ หูเหล็ก ก็คือรายการ Metalshop นี่แหละครับ เพราะ
ว่าสมัยรุ่งๆ มีสถานีวิทยุในเครือข่ายประมาณ 250 สถานีทั่วสหรัฐอเมริกา...จำนวนตัวเลขขนาดนี้ไม่น้อยเลยครับ

ดีเจและคนที่มีส่วนร่วมในการผลิตรายการเกือบทุกขั้นตอนชื่อว่า Charlie Kendall เริ่มออกอากาศเมื่อปี 1984 เรื่อยมาจนผ่านยุค 80's
แต่ก็ต้องมาจบและปิดฉากรายการลงในปี 1995 รวมแล้วมีอายุอานามประมาณ 11 ปีไม่ขาดและไม่เกิน โชว์ที่มีออกอากาศน่าจะประมาณ
ซัก 500 กว่าครั้ง

จากข้อมูลของผมเอง มีรายการพิเศษที่ Metalshop นำเสนอเพื่อเป็นการระลึกถึง Randy Rhoads ประมาณ 2 ครั้ง คือในปี 1984 และ 1987
แทนที่จะเป็นการเปิดเพลงเมทัลและดำเนินรายการตามปกติตลอดหนึ่งชั่วโมง (เริ่มต้นตั้งแต่ปี 1988 ขยายเวลาเป็น 2 ชั่วโมง) ซึ่งผมได้พยายาม
หาซื้อมาเก็บไว้ทั้งสองชุดเหมือนกัน...

คือ วันที่ 2 มีนาคม ปี 1984  และ วันที่ 10 เมษายน ปี 1987 ส่วน "เนื้อใน" จะเป็นอย่างไรนั้น ผมจะกลับมาเล่าต่อในโอกาศต่อไปครับ  :D

กลับมาต่อถึงเรื่องแผ่นเรดิโอโชว์รายการ Metalshop ครับ  :D

เนื่องจากว่าตอนซื้อแผ่นเสียงทั้งสองชุด ไม่มี Cue Sheet แนบมาด้วยเลย จึงทำให้ต้องเปิดฟัง ซึ่งผมก็ได้อัดใส่เทปคาสเซ็ตท์เรียบ
ร้อยแล้วในสมัยก่อน แต่มันเป็นเวลานานมาแล้วไม่รู้ว่าเก็บเทปทั้งสองตลับเอาไว้กล่องไหน  ส่วนความจำก็ค่อนข้างเลือนลางจึงทำ
ให้นึกรายละเอียดของรายการไม่ออกจริงๆ ต้องขออภัยด้วยที่เล่าให้ฟังไม่ได้  ???

ประกอบกับตอนนี้ผมไม่สามารถเปิดเครื่องเล่นแผ่นเสียงเพื่อทบทวนความจำได้ เพราะว่านำลำโพงไปซ่อม จึงขอผ่านรายละเอียด
ไปชั่วคราวก่อน บอกได้เพียงว่า โชว์ในปี 1984 มีบทสัมภาษณ์ของนักดนตรีที่รู้จักกับ Randy Rhoads หลายคน อาทิเช่น Kevin DuBrow,
Paul Stanley, George Lynch, etc. พร้อมทั้งเปิดเพลงจากสมัย Quiet Riot และ Blizzard Of Ozz

สำหรับโชว์ในปี 1987 เป็นการนำอัลบั้มคู่ชุด Tribute มาแนะนำ พร้อมด้วยการสัมภาษณ์ Ozzy Osbourne ซึ่งถ้าผมจำไม่ผิดน่าจะ
ตลอดทั้งเวลาหนึ่งชั่วโมงเต็มเลยทีเดียว

เอาไว้ให้ได้ลำโพงคืนมาก่อน แล้วจะเปิดฟังอีกทีครับ  :D

ข้ามมาที่แผ่นซีดีบู้ทเล็คของ ท่านผีฯ ที่ชื่อว่า Madman Alive กันอีกที กับ แผ่นเรดิโอโชว์ Box Set ต้นฉบับของรายการ Captured Live...

(http://www.uppicfree.com/images/761_OzzyCapturedLiveBox.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-761_OzzyCapturedLiveBox.jpg)

ผมนำรูปมาลงให้ดูอีกทีจะได้ไม่ต้องเสียเวลาย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ซึ่งคืนนี้เรามาเปิดกล่องกันดีกว่าครับ...

อันนี้เป็นภาพด้านหลังของกล่องที่พิมพ์รายละเอียดของรายการเอาไว้ครบถ้วน ดังนั้นรายการนี้จึงไม่มี Promo หรือ Cue Sheet
แนบมาให้ด้วย

(http://www.uppicfree.com/images/698_OzzyCapturedLiveBox.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-698_OzzyCapturedLiveBox.jpg)

เมื่อเปิดฝากล่องออกมาก็เห็นตามรูปภาพนี้เลยครับ...

(http://www.uppicfree.com/images/671_OzzyCapturedLiveBox.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-671_OzzyCapturedLiveBox.jpg)

รายการนี้ดีเจ "ปล่อยไก่" ตัวเบ่อเริ่มบอกว่ามือกีตาร์คือ Randy Rhoads แต่ความจริงแล้วเป็น Brad Gillis ครับ รายละเอียดของ
นักดนตรีตามรายชื่อข้างล่างนี้เลย...

Ozzy Osbourne : Vocals
Rudy Sarzo : Bass
Brad Gillis : Guitars
Tommy Aldridge : Drums
Don Airey : Keyboards

นี่คือซาวด์แทร็คหรือคอนเสิร์ตเดียวกันกับ วิดิโอ/เลเซอร์ดิสค์ ชุด  Speak of The Devil ครับ...

(http://www.uppicfree.com/images/830_OzzySpeakLD.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-830_OzzySpeakLD.jpg)  (http://www.uppicfree.com/images/567_OzzySpeakLD.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-567_OzzySpeakLD.jpg)

รายชื่อเพลงจะเรียงไม่ตรงกันกับคอนเสิร์ตที่เกิดขึ้นจริงๆ เนื่องจากเนื้อที่บนแผ่นไวนิลแต่ละหน้ามันจำกัด ด้งนั้นจึงจำเป็นต้องสลับ
สับเปลี่ยนใหม่เพื่อให้พอดีกับเวลาในแต่ละหน้าของแผ่นเสียง...

Side 1

1,000 hertz tone
Cue Two : Good evening everyone...
1. Over The Mountain
2. Mr. Crowley
3. Crazy Train
Out Cue : ...in just a moment.

Side 2

Cue Two : We're Back...
1. Revelation (Mother Earth)
2. Steal Away (The Night)
3. Goodbye To Romance
Out Cue : Ozzy Osbourne after this

Side 3

Cue Two : We continue now...
1. Believer
2. Flying High Again
3. I Don't Know
Out Cue : ...Don't you dare go away.

Side 4

Cue Two : Ozzy Osbourne rocks on ...
1. Suicide Solution
Out Cue : ...Ozzy Osbourne Captured Live.

Side 5

Cue Two : Ozzy Osbourne returns now...
1. Iron Man
2. Children Of The Grave
3. Paranoid
Out Cue : ...to wrap things up.

Program End Cue : ...thanks for joining us.
 
Total Program : 78:06

เห็นมั้ยครับ มีเพลงครบทุกเพลงสมัยตระเวณแสดงทัวร์เพื่อสนับสนุนอัลบั้มชุด Diary Of A Madman ในปี 1982 เลย  :)  :)  :)

แผ่นเสียงในกล่องมีทั้งหมด 3 แผ่น แต่เล่นได้เพียง 5 หน้า เพราะเวลาของคอนเสิร์ตประมาณไม่ถึง 80 นาทีด้วยซ้ำไป

(http://www.uppicfree.com/images/883_OzzyCapturedLiveBox.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-883_OzzyCapturedLiveBox.jpg)

นอกจากเพลงที่ได้เห็นตามที่พิมพ์ไว้บนกล่องแล้ว ยังมีเพลงบรรเลงอีกหนึ่งเพลงซึ่งรวมอยู่กับดนตรีใน Suicide Solultion พร้อม
ทั้ง Brad Gillis กีตาร์โซโล่ และการโชว์เดี่ยวกลองสองกระเดื่องของ Tommy Aldridge ด้วย ซึ่งใครเคยได้สัมผัสกับคอนเสิร์ตนี้
มาก่อนคงจะรู้ว่ามัน "เจ๋ง" และ "เร้าใจ" ขนาดไหน  ;D

สวยดีครับพี่โป่ง
จนป่านนี้ ผมยังไม่ได้สอยชุด speak of the devil มาฟังเลย  ;D

มาพูดกันถึงแผ่นเรดิโอโชว์ Box Set ของรายการ Captured Live กันอีกนิดนึงครับ...

คอนเสิร์ตเป็นการแสดงสดที่ Irvine Meadows Amphitheater (ปัจจุบันเปลียนชื่อใหม่ เรียกว่า Verizon Wireless Amphitheater)
เมือง Irvine มลรัฐ California เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ปี 1982 เมืองนี้อยูใน Orange county แต่ว่ามีแผ่นบู้ทเล็คมากมายพิมพ์ว่าเป็น
บันทึกการแสดงสดจากเมือง Los Angeles บ้างก็อ้างว่ามือกีตาร์คือ Randy Rhoads ตามที่ดีเจพูดข้อมูลผิดๆ ไปในรายการ  >:(

เท่าที่ผมจำได้ถ้าหากเจอบู้ทเล็คไม่ว่าจะในรูปแบบซีดีหรือแผ่นเสียงเหล่านี้ "เนื้อใน" เหมือนกันหมดเลยครับ...

Crazy Train, Death or Glory, Ozzy The Butcher, L.A. Madness, Live '82, Dirty Rhoads, Tears Of The Sinner,
Live In L.A. 1982 featuring Randy Rhoads - Captured Live!,
(http://www.uppicfree.com/images/702_OzzyBootLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-702_OzzyBootLP.jpg)

Captured Live! featuring Randy Rhoads,
(http://www.uppicfree.com/images/533_OzzyBoot.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-533_OzzyBoot.jpg)
(http://www.uppicfree.com/images/783_OzzyBoot.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-783_OzzyBoot.jpg)

โดยเฉพาะแผ่นนี้ก็อปเรดิโอโชว์มาทุกอย่าง แบ่งแยกขายเป็น Vol. 1 กับ Vol. 2 ...
(http://www.uppicfree.com/images/439_OzzyCapturedLiveBootLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-439_OzzyCapturedLiveBootLP.jpg)

(http://www.uppicfree.com/images/552_OzzyCapturedLiveBootLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-552_OzzyCapturedLiveBootLP.jpg)

และ ยังมีอีกหลายชุดที่ไม่ได้เอ่ยถึงในที่นี้...แล้วก็อย่าลืม Madman Alive ของ ท่านผีฯ เค้าด้วยล่ะ ที่มีทั้ง LP และ CD version ให้เลือก
เก็บสะสม  ;D  ;D  ;D

ความจริงแล้วของแท้ต้นฉบับทำเอาไว้อย่างสวยงาม แต่พอถูกนำมาก็อปเป็นผลงานประเภทนอกสารบบ ทำไมดันทำให้อย่างน้อย
ดูดีเหมือนกับของจริงก็ไม่ได้...

(http://www.uppicfree.com/images/388_OzzyCapturedLiveBoxLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-388_OzzyCapturedLiveBoxLP.jpg)

ผมยังจำได้ดีว่า 3-LP Box Set ชุดนี้ของ Ozzy Osbourne ซื้อมาจากร้านที่ชื่อว่า Rockaway Records แถวๆ Glendale ในเมือง Los Angeles
ราคา US$ 125.- ถ้วน สภาพใหม่เอี่ยมอ่อง SS (= Still Sealed ) อย่างดี  ซึ่งหมายความว่า ยังไม่มีใครเคย เปิดบริสุทธิ์ แผ่นไวนิลเลยซักกะ
แผ่นเดียว

เมื่อไม่กี่อาทิตย์ทีผ่านมามี ผลงานชุดนี้ประมูลในอีเบย์จบไปที่ US$ 94.- แต่เมื่อปีที่แล้ว คนซื้อโดนเข้าไป US$250.- เพราะเป็นของใหม่
ยังไม่แกะกล่อง (SS) ถ้าเปิดแล้วเท่าที่จำได้เมื่อต้นปี 2010 น่าจะประมาณ US$ 158.-

ก็อย่างที่บอกล่ะครับ ราคาของแผ่นเสียงเรดิโอโชว์ มันไม่ค่อยแน่นอน แต่ที่แน่ๆ คือ คอนเสิร์ตเดียวกันนี้มีให้ซื้อในประเทศญี่ปุ่นแล้วในรูป
แบบแผ่นดีวีดี อย่างที่ผมเคยเอ่ยถึง แล้วก็อีกไม่นานจะมีวางขายในประเทศอังกฤษอีกพร้อม Bonus CD ด้วย เพราะฉะนั้น ผลงาน Box Set
กล่องนี้ของรายการ Captured Live อาจจะราคาตกไปบ้างก็ได้นะครับ ในอนาคตอันใกล้นี้  ???

ดีวีดีวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น
(http://www.uppicfree.com/images/509_OzzyDVD.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-509_OzzyDVD.jpg)

CD/DVD ที่กำลังจะมีวางจำหน่ายเดือนกันยายน...
(http://www.uppicfree.com/images/561_OzzyDVD.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-561_OzzyDVD.jpg)(http://www.uppicfree.com/images/445_OzzyDVD.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-445_OzzyDVD.jpg)

กลับมาที่ร้าน Rockaway Records กันต่อครับ เพราะผมอยากบอกว่า นอกจากก็อปปี้ของผมแล้ว ทางร้านยังมีเก็บในสต็อคอีกประมาณ 4-5
ชุดที่ไม่ได้แกะกล่องเหมือนของผม...

คนขายบอกว่าเรามีคอนเน็คชั่นเลยได้มาหลายชุด หลังจากนั้นไม่นานจึงขายหมด และ ผมเลยกลายเป็นลูกค้าประจำของร้านนี้ไปเลย เวลา
มี "ของเข้า" ก่อนจะพิมพ์แค็ทตาล็อค ผู้จัดการจะโทรศัพท์ทางไกลมาหาผมเสมอว่ามีอะไรใหม่บ้าง  ผมก็ "สอย" ก่อนนักสะสมคนอื่นในประเทศ
สหรัฐอเมริกาจะได้เห็นแค็ทตาล็อคเสียอีก และถึงแม้เค้าจะเห็นของที่ตีพิมพ์เอาไว้ แต่แผ่นจริงมันอยู่บ้านผมเสียแล้วล่ะครับ

อย่าเพิ่งคิดว่าผมซื้อหมดทั้งแค็ทตาล็อคนะครับ ผมซื้อเฉพาะแผ่นเสียงเรดิโอโชว์ที่อยากได้ ซึ่งร้านนี้เป็นแหล่งที่ผมซื้อมากที่สุดเลยใน
ช่วงแรกๆ ที่เริ่มเก็บสะสมผลงานประเภทนี้  แล้วก็ราคาจะค่อนข้างแพงแต่ผมได้ส่วนลดเพราะเป็นลูกค้าประจำครับ

ฝรั่งมันก็เหมือนคนไทยในเรื่องของการค้า คือต้อง คุยดีๆ มีศิลปะ และที่สำคัญ คือ ต้องมียอดให้เห็นด้วยครับ ไม่ใช่ว่า โม้ อย่างเดียว  8)

รู้จักร้านนี้ครั้งแรกจากหนังสือ Goldmine หน้าโฆษณา set sale พอผมสั่งซื้อได้สักพักจึงโทรไปคุย แล้วก็ไปเยี่ยมร้าน หลังจากนั้นจึงได้
แผ่นเรดิโอโชว์ระดับ หายาก มาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับ

เมื่อก่อนนี้ร้าน Rockaway Records ใหญ่มาก ถ้าจำไม่ผิดมี 2-3 สาขา เรียกว่าเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการแผ่นเสียง Promo เลยก็ว่าได้ ไม่
แพ้กันเท่าไรนักกับร้านที่ชื่อว่า The Old Hippies (เจ้าของเสียชีวิต ปิดกิจการไปแล้ว) ปัจจุบันก็ยังดำเนินกิจการอยู่ ในอีเบย์ก็มีสินค้ามา
ให้ประมูลกันอย่างสม่ำเสมอ แต่ธุรกิจซบเซาลงเยอะมาก ร้านใน แอลเอ ก็หดจากทั้งคูหา เหลือเพียงแค่ 2 ห้อง และนี่คือ กิจการแผ่นเสียง
และซีดี ทีเคยยิ่งใหญ่มาก่อน

นี่แหละครับสัจธรรมของธุรกิจ และ ชีวิตของคนเรา มีใหญ่ มีเล็ก มีหด มีหาย มีมาก มีน้อย เหล่านี้ล้วนอนิจจัง  สู้เก็บพลังสร้างความสุข ใน
วันนี้ให้เพียงพอดีกว่า เพราะพรุ่งนี้เราไม่มีทางรู้ว่าเราจะยังอยู่บนโลกใบนี้อีกหรือไม่ ?!?!?

ท่านค้างคาวกับท่านเพชรนี่เป็นญาติกันหรือเปล่าครับพี่โป่ง? เพราะผมเห็นใช้นามสกุลว่าวิปลาสเหมือนกัน (ไร้สาระอีกแล้ว เดี๋ยวโดนพี่โป่งตื้บแน่เลย) ;D

ผมว่านามสกุลเหมือนกันแต่ไม่ใช่ญาติกันครับ  มีเหมือนกันคือนิสัยชอบของแปลกคล้ายๆ กัน มั้งครับ :D

พักหลังๆ ก็เห็นเริ่มออกทะเลเหมือนๆ กันอีกด้วย ฮาๆๆ  ;D

  ;D คอเฮฟวี่เนี่ย สุดยอดกันทั้งนั้นเลยนะครับ คารวะ 1 ที

  อาโป่ง เคยไปดูคอนเสิร์ต Ozzy  ไหมครับ ยุคไหนก็ได้??

ผมเคยเล่าในเว็ปนี้ว่าพลาดคอนเสิร์ตของ Ozzy Osbourne สมัยเล่นกับ Randy Rhoads มาแล้วครั้งนึงเพราะมีการ
ยกเลิกกระทันหัน หลังจากนั้นไม่กี่เดือน RR ก็เสียชีวิต

ตลอดระยะเวลามี่ผ่านมาไม่มีโอกาสได้ชมการแสดงสดของ Ozzy อีกเลยทั้งๆ ที่ผมเนี่ยเรียกได้ว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้
ระดับพ่อ จนเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นปี 2004 ผมถึงจะได้เห็นตัวจริงเป็นๆ ติดขอบเวทีในแถวหน้าสุด
ตรงสื่อมวลจากการประสานงานของ Sony Music ในมหกรรมคอนเสิร์ต OzzFest ครับ ซึ่งคราวนั้นกลายเป็นวง Black
Sabbath

นอกจากนี้ยังพลอยได้สัมผัสกับคอนเสิร์ตของ Black Label Society, Slayer, และ Judas Priest บนเวทีแห่งเดียวกัน
อีกด้วย ก็เลยคิดว่าชาตินี้นอนตายตาหลับแล้วครับ   :D

Black Label Society นี่พี่โป่งเป็นหัวหน้าก๊วน เอ๊ย หัวหน้าวงรึเปล่าครับ? เห็นเล่นทีเป็นลิตรเลย (ไร้สาระอีกแล้ว ไม่แคล้วจะโดนพี่โป่งเตะ) ;D

ผมจำได้ พี่โป่งเคยเขียนสกู๊ปเรื่องไปทัวร์ Ozzfest 2004 ในสตาร์พิคส์แหล่ะ มีุ่ถ่ายรูปคู่กับ 2 มือเพชรฆาตจูดาส พรีสด้วย
งานนั้นพี่โป่งเกือบเอาตัวไม่รอดเหมือนกัน เพราะเจอฝูงพายุวัยรุ่นถาโถม แต่สุดท้ายก็ยังสอยเสื้อทัวร์มาอีกประมาณ 4 ตัว

แต่สกู๊ปเขียนไม่จบ ไปต่ออีกเล่มซึ่งไม่แน่ใจว่าพี่โป่งได้เขียนต่อหรือเปล่า ผมหาไม่มีเลย incomplete ซะงั้น  :-\

ห้ามพลาดงานใหม่ของ BLS กันนะครับ มีชื่อว่า Order of the Black  Zakk Wylde ท่าจะเก็บกดอัดอั้นจริงๆ ทำให้งานชุดนี้ เฉียบขาดกว่างานที่ผ่านๆมาครับ

ท่านประธานครับ สมาชิกท่านนี้สงสัยต้องมีการทำโทษอย่างจริงๆ จังๆ เสียแล้วครับ

...ด้วยการให้เป็นเจ้ามือซักหนึ่งมื้อแล้วก็หนึ่งลิตร  ;D

นี่คุณ JKNoremorse ติดตามผลงานของผมด้วยหรือนี่  ดีใจมากครับที่ยังจำได้  :D
ผมไม่ได้เขียนต่อครับ บทความนั้นไม่จบเพราะผมมันขี้เกียจ แต่รู้ว่าจะเขียนอะไรต่อแต่มันก็ไม่มีเวลาจริงๆ ด้วยช่วงนั้น

เอาไว้เจอกันเล่าให้ฟังต่อก็ได้ ไม่มีปัญหาครับ  :)

ได้ครับ -- เพื่อพี่โป่ง น้อยกว่านี้ได้อย่างไร (สมกับเป็นหัวหน้าวง แบล็ค เลเบิล โซไซตี้ จริงจริ๊งงง) ;D

เอาละสิครับ ไป ๆ มา ๆ ตั้งชื่อวงกันได้แ้ล้ว Black Label Society หามาสดับด่วน! เสียดายที่ไม่ได้ประกบป๋าในชุด Scream
และหวังว่า คงไม่มี Red Label หรือ ฺBlue Eagle ตามมานะครับ ...อิอิอิ...

มันเป็นงานที่ผม ต้องหันซ้ายหันขวา เพื่อมองหาเบียร์มาซดจริงๆครับ คืนนี้ไม่รอดแน่ๆ

ใครที่ยังไม่มีงานชุดล่าสุดของท่านค้างคาววิปลาส อดใจรออีกหน่อยนะครับ
จะมี Tour edition แถมมาอีกแผ่น มีเพลงแถม กับ ไลฟ์ฺแทร็ค และวีดีโอเบื้องหลังด้วย (คนซื้อเวอร์ชั่นแรกเซ็งนิดหน่อย)

วางแผงอีกทีต้นเดือนตุลาครับ และมีขายแบบไวนิลเพิ่มด้วย (ชุดนี้ดังแฮะ)
ดูรายละเอียดเลยครับ

Ozzy Osbourne: 'scream' tour edition to receive u.s. release in october
On October 5, Epic Records will release an expanded two-CD version of Ozzy Osbourne's "Scream" album. This "Tour Edition" package will feature seven bonus songs:previously unreleased tracks and live recordings. Three of the songs - "One More Time" and "Jump The Moon", plus the never-before-released "Hand of The Enemy" - are from the "Scream" sessions. The other four songs are live tracks - "Bark at the Moon", "Let Me Hear You Scream" and "No More Tears", as well as the Black Sabbath nugget "Fairies Wear Boots" - that were recorded this year in Folkestone and Birmingham in the U.K. The package will also contain video content including the Jonas Åkerlund-directed video for "Let Me Hear You Scream" and behind-the-scenes footage from the set of the video, along with footage documenting the making of the "Scream" album.

Epic will also issue a four-sided vinyl edition that includes five bonus tracks: the three aforementioned songs from the "Scream" sessions and the live version of "Let Me Hear You Scream", along with the single version of "Life Won't Wait" (the second single from "Scream").

The track listing for the U.S. expanded version/tour edition is as follows:

01. Let It Die
02. Let Me Hear You Scream
03. Soul Sucker
04. Life Won't Wait
05. Diggin' Me Down
06. Crucify
07. Fearless
08. Time
09. I Want It More
10. Latimer's Mercy
11. I Love You All

The Bonus Cd:

01. Hand of the Enemy
02. One More Time
03. Jump The Moon
04. Bark At The Moon (Live)
05. Let Me Hear You Scream (Live)
06. No More Tears (Live)
07. Fairies Wear Boots (Live)

* "Let Me Hear You Scream" video
* Making of "Let Me Hear You Scream" video
* Making of the album "Scream"

The track listing for the four-sided vinyl:

Side A

01. Let It Die
02. Let Me Hear You Scream
03. Soul Sucker
04. Life Won't Wait

Side B

01. Diggin' Me Down
02. Crucify
03. Fearless

Side C

01. Time
02. I Want It More
03. Latimer's Mercy
04. I Love You All

Side D

01. Hand of the Enemy
02. One More Time
03. Jump The Moon
04. Let Me Hear You Scream (Live)
05. Life Won't Wait (Edit)

ขอบคุณ คุณ JKNoremorse ที่ส่งข่าว ผมเลยหยุดออร์เดอร์ แผ่นนี้ (US version) ไปแล้ว จะรอ 2-CD Tour Edition ครับ   
ตอนนี้มีแต่ Scream แผ่นปั้มในไทย  :D

 :Dเสร็จผมแน่ๆครับเวอร์ชันนี้ แต่ล่าสุดผมได้ฟัง EP แสดงสด ที่ชื่อ iTune festival @ London's Roundhouse on July 3rd 2010
 มันบรรจุ 6 เพลง ก็มี Let me hear you scream , Mr.Crowley , I don't know , Suicide Solution , I Don't want to change the world , War Pig
 ซึ่งโชว์เต็มๆนั้น set list ก็ประมาณนี้ครับ
'Bark At The Moon'
'Let Me Hear You Scream'
'Mr. Crowley'
'I Don't Know'
'Fairies Wear Boots' (BLACK SABBATH cover)
'Suicide Solution'
'Road To Nowhere'
'Shot In The Dark'
'Rat Salad' (Black Sabbath cover)
'Iron Man' (Black Sabbath cover)
'Crazy Train'
Encore:
'Mama, I'm Coming Home'
'I Don't Want To Change The World'
'War Pigs' (Black Sabbath cover)
'Paranoid' (Black Sabbath cover)
สำหรับเรื่องซาวน์นั้นไม่ต้องพูดถึงครับ ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว เสียงป๋าก็ดีที่สุดในรอบหลายๆปี
และโดยส่วนตัวผม ไลน์อัปชุดนี้ของป๋า ผมรู้สึกว่ามันทำให้ป๋า เป็นศิลปินเดี่ยวจริงๆก็งานนี้ละครับ นักดนตรีไม่ไ้ด้โดดเด่นเกินกันในแต่ละตำแหน่ง
Gus G. เก่งจริง แต่ก็ยังเป็นรองพี่หมีของใครหลายคนอยู่หลายขุม ร่ายมาตั้งนาน ผมว่าพี่ๆคงได้ฟังEP ตัวนี้ไปแล้วนะครับ ว่ามันเจ๋งหรือไม่??

ผมยังไม่ได้ฟังเลยครับ เพราะไม่ค่อยถนัดเรื่องการโหลดเพลงมาก สงสัยคงต้องหาแผ่นบู้ทเล็คมากระแทกรูหูเสียแล้ว  :D

ไหนๆ ก็พูดกันถึงอัลบั้มชุดใหม่ของ Ozzy Osbourne ที่ชื่อว่า Scream กันแล้ว  ใครที่ฟังจบหมดทุกเพลงสามารถเข้ามาคุยถึงผลงานชุดนี้
ได้เลยตรงนี้ครับ  :)

ผมฟังจาก youtubeครับ ซาวน์เยี่ยมเลย ไม่รู้ถ้าเป็นแบบแผ่นซาวน์มันจะขนาดไหน  :o

ยังหาแผ่นบู้ทเล็คไม่เจอเลยครับ มีแต่ให้โหลดซึ่งมีเพลงไม่ครบ...

Tracklist:
1. Let Me Hear You Scream (Live) [08:29]
2. Mr. Crowley (Live) [03:18]
3. I Don't Know (Live) [06:13]
4. Suicide Solution (Live) [05:06]
5. I Don't Want To Change The World (Live) [05:25]
6. War Pigs (Live) [04:31]

เฉพาะร้าน Best Buy มี Limited Edition ของอัลบั้มชุด Scream วางจำหน่ายพร้อม T-Shirt เป็นแพ็คเกจพิเศษด้วย...

(http://www.uppicfree.com/images/227_OzzyScreamCD.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-227_OzzyScreamCD.jpg)

การตลาดเยี่ยมมากเลยครับ
อัลบัมชุดใหม่ ผมชอบเพลง Time ที่สุดครับ อารมณ์หม่นๆหน่อย
งานชุดนี้ฟังได้เรื่อยๆครับ แต่ยังไงซะก็อดคิดถึง Zakk Wyldeไม่ได้
ต้องเอางานชุดใหม่ของป๋ากับของBLSมาวางคู่กัน หรือฟังต่อกันครับ  ;D

รีวิวอัลบั้ม Scream ดยจ่าวิส Rebirthera ครับ ลองอ่านกันดู

http://rebirthera.exteen.com/20100619/ozzy-osbourne-scream-2010

Scream โดยรวมผมชอบครับ คือ สามารถฟังทีเดียวได้หมดอัลบั้ม มีเพลงช้า กลาง เร็ว หลากหลายอารมณ์ดี
ผมชอบ Let it Die เพลงแรกก็โดนแล้ว ไม่ค่อยได้ฟัง Ozzy ร้องสไตล์นี้เท่าไหร่ Scream, Soul Sucka ก็ติดหูดีเหลือเกิน

เสียงร้องของ Ozzy มีพลังมากกว่าเดิม เรียกว่าฟิตมาดีจริง ๆ สำหรับงานชุดนี้ กอปรให้งานกีต้าร์ของ Gus G. ดูดี เฉียบ
และเข้ากันในทุก ๆ เพลง แต่อาจจะต้องพิสูจน์กันต่อถ้ามีงานชุดต่อไป แต่เวลาเล่นไลฟ์ต้องดู+ฟังอีกทีเหมือนกัน เพราะ
ยังไม่เคยฟังเล่นสดเลย     

ผมฟังอัลบั้มชุด Scream หลายเที่ยวแล้ว บอกได้ว่า ดี กว่าผลงานชุดที่แล้วที่ไม่ได้เรื่องพอสมควร (Black Rain) เดี๋ยวอาทิตย์หน้า
จะมารีวิวแบบเจาะกระโหลกกันเลย แทร็คต่อแทร็ค วันนี้ยังไม่ค่อยมีเวลาต้องออกไปข้างนอก วันเกิดภรรเมียครับ 28 สิงหาคม

...Bye bye ครับ.

ทานอาหารให้อร่อยนะครับ Enjoy the Night!  ;)

วันจันทร์ที่ 30 อากาศช่วงเช้าแดดไม่ค่อยจัด ท้องฟ้าดูหม่นๆ ด้วยซ้ำไป แต่ยังงัยก็จะเอาอัลบั้มชุดใหม่ของ ท่านค้างคาวผีวิปลาส
มาผ่าตัดส่องกล้องดูไส้ในหน่อยว่ามันเป็นยังงัยบ้าง   :o

เดี๋ยวจะกลับมาพร้อมกับเครื่องมือครบเซ็ท ขอออกไปทำธุระให้เสร็จก่อน...สักครู่เดียวครับ  :)  :)  :)

เมื่อกี้เพิ่งซัดก๋วยเตี๋ยวไก่มาสองชาม ได้พลังของ Chick(en) เพิ่มขึ้นมาในร่างกาย เลยถือโอกาสหยิบแผ่นซีดีของ ท่านค้างคาววิปลาส
มาฟัง พร้อมๆ กับเขียนความรู้สึกของผมที่มีต่ออัลบั้มชุดนี้อย่างตรงไปตรงมา ไม่เกรงใจใคร ทั้งนั้น เพราะนี่คือ ความคิดของผมคนเดียว
ใครใคร่อ่านก็อ่านนะครับ ไม่อยากอ่านก็ "คลิ้ก" ไปอ่านกระทู้อื่นได้ ไม่ว่ากันครับ  ;)

สำหรับใครที่อยากเข้ามาแจมมีความเห็นหลากหลายไม่เป็นไรครับ ผมเปิดใจรับเสมอ ถือว่าความคิดแตกต่าง แต่เราไม่แตกแยก (เชยมาก)  :D

(http://www.uppicfree.com/images/259_OzzyScreamCD.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-259_OzzyScreamCD.jpg)  (http://www.uppicfree.com/images/114_OzzyScreamCD.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-114_OzzyScreamCD.jpg)

ก่อนอื่นต้องรู้ว่า อัลบั้มชุด Scream นี้เป็นการร่วมงานของโปรดิวเซอร์ที่ชื่อว่า Kevin Churko กับ Ozzy Osbourne ครั้งที่สอง หลังจาก
ผลงานชุด Black Rain เมื่อปี 2007 ที่ตามความคิดของผม มัน "ล้ม" อย่างไม่เป็นท่า  >:(  ???  >:(  ???

แล้วคุณ Kevin Churko เป็นใครมาจากไหน?  หลายคนอาจฉงนอยู่ในใจ ซึ่งตัวผมเองเคยได้ยินชื่อมาเล็กน้อย แต่ว่าในฐานะที่เค้า
เป็นเอ็นจิเนียร์ให้แก่ Britney Spears ในอัลบั้มดังของเธอคือชุด Oops I Did It Again นะครับ  :-X

เรียกว่ามันเป็นดนตรี คนละสาย กับที่ผมชอบฟัง หลังจากนั้นชายหนุ่มวัยกลางคนชาวคานาเดี้ยนคนนี้ก็ค่อยๆ "ไต่เต้า" ก้าวข้ามขั้น
มาเป็นโปรดิวเซอร์ในเวลาต่อมา พร้อมๆ กับประพันธ์เพลงร่วมกับศิลปินอีกหลายคน ซึ่งผมคิดว่า การเข้ามาแต่งเพลงให้กับ ท่าน
ค้างคาวฯ นั้น มันไม่ค่อยตรงกับ ความถนัด ของแนวดนตรีที่ผ่านมาของ Kevin Churko ซักเท่าไรนัก

(http://www.uppicfree.com/images/902_KevinChurko.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-902_KevinChurko.jpg)

ด้วยวัยเพียง 42 ปี Kevin Churko ค่อนข้างมีฝีมือทางด้านการอัดเสียงและเล่นซ็อฟท์แวร์เพื่อช่วยปรับปรุงสตูดิโอให้ทันสมัยมากขึ้นและ
ทันต่อเหตุการณ์  ไม่ว่าจะในตำแหน่ง หน้าที่  Programming, Programmer, Pro Tools Editor, Mixer หรือ แม้แต่ Engineer ตลอด
จน Co-Producer เค้าทำได้ทุกอย่าง

ดูจาก โหวงเฮ้ง แล้วหน้าตา อาร์ตร็อค ดี แต่ผลงานที่ผ่านมาไม่ได้เข้าตากรรมการอย่างผมเลยแม้แต่น้อย ยิ่งเมื่อสองปีที่ผ่านมา เล่น
มาช่วยแต่งเพลงให้กับ Ozzy ของผม เปลี่ยนแปลงดนตรีให้ร่วมสมัย ทำเอา ท่านค้างคาวฯ "ขาเป๋" ไปเลย ไม่เมาก็เหมือนเมาล่ะครับ
เดินยังไงก็ไม่ตรง อุตส่าห์สร้างสมบารมีมาแทบตาย ไอ้เจ้า เควิน มันเกือบจะทำพังพินาศ เสียแล้ว !?!?!

ผมไม่ทราบว่าจะเป็นไอเดียของใครในการพลิกผันดนตรีของอัลบั้มชุด Black Rain แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า Kevin Churko น่าจะมีส่วน
ร่วมอยู่ด้วย แล้วก็เจ้าแม่ Sharon Osbourne ดูเหมือนจะเป็น "ตัวการ" ในการ "ชี้นิ้ว" และ "กดปุ่ม" เรียกใช้บริการของโปรดิวเซอร์คน
นี้ เพราะว่าเค้ามีทั้งความรู้และความพร้อมในด้านห้องสตูดิโอของตัวเอง :D

อย่าให้กล่าวถึง Zakk Wylde เลยดีกว่า เพราะมือกีตาร์คนนี้ อยู่กับทีมงาน มานานแสนนาน "งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข" ครับ
ตามความคิดของผมไม่ว่าจะบัญชาอะไรมาก็ทำตามนั้น คงไม่ได้ใส่ใจมากเหมือนแต่ก่อน ผลงานโดยส่วนรวมซึ่งกีตาร์กับเสียงร้อง
ต้องเป็นพระเอกจึงมีผลลัพท์ออกมาอย่างที่ได้ยินได้ฟังกันมาแล้ว

เวลาเกือบสามปีผ่านไป Kevin Churko กลับมาจับมือกับ Ozzy Osbourne อีกแล้วครับท่าน แถมแต่งเพลงร่วมกันทั้งอัลบั้ม โดยมีลูก
ชายของ พ่อมดคีย์บอร์ด Rick Wakeman คือ Adam Wakeman เข้ามาร่วมประพันธ์ถึง 4 แทร็คด้วยกัน  :D

(http://www.uppicfree.com/images/207_AdamWakeman.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-207_AdamWakeman.jpg)

มานั่งตาบ้องแบ๊วฟังพี่โป่งโม้ เอ๊ย เล่าเรื่องริมขอบอ่าง เอ๊ย เวที ครับพ้ม :D

คราวนี้เรามาว่ากันในแบบ แทร็คต่อแทร็ค Back To Back กันเลยครับ...

Let It Die :
     ขึ้นต้นด้วยสำเนียงคล้ายดนตรีของคณะ Dream Theater กลองสองกระเดื่องได้ยินชัดเจน เร้าใจดีครับ ทว่ามันสั้นไปนิดนึง
แล้วจึงมีเสียงร้องของ Ozzy เปล่งออกมาคล้ายหลุดรอดจากกระป๋องนมสดเจาะรู !!!
     จังหวะดนตรีค่อยๆ ขับเคลื่อนให้ชวนโยกศรีษะมากขึ้นๆ เสียงร้องก็พุ่งขึ้นมาจากกระป๋องเรียบร้อยในเวลาต่อมา เรียกว่า เป็น
ลูกเล่นเรียกน้ำย่อยให้แก่ คอร็อค รู่นเก๋าอย่างผมได้มากทีเดียว ตลอดเพลงมีการเปลี่ยนอารมณ์หลายครั้งฟังแล้วทันสมัย Gus G
มื่อกีตาร์คนใหม่ทำหน้าที่ได้ไม่เลว ลีดได้น่าฟัง ซึ่งถ้าผมจะเรียกแทร็คนี้ว่ามันเป็นเพลงกึ่ง Progressive Metal ก็น่าจะได้นะครับ

Let Me Hear You Scream :
    
(http://www.uppicfree.com/images/293_OzzySingleCD.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-293_OzzySingleCD.jpg)

      เท่าที่ทราบดูเหมือนจะเป็นแผ่นซิงเกิ้ลเพลงแรกที่ถูกคัดออกมาให้ได้ฟังกัน เพลงนี้บ่งบอกสัญญลักษณ์ความเป็น Metal Madman
ตัวตนขนานแท้ของ Ozzy Osbourne ได้ชัดพอสมควร ดนตรีไม่ได้เปลี่ยนจังหวะบ่อยเหมือน Let It Die จึงฟังง่าย แต่ผมติตรงที่ว่า
ท่อน "ฮุ้ค" เมโลดี้มันยังไม่โดนจังๆ ครับ ติดหูยากหน่อยต้องฟังหลายหน...ระดับ Ozzy มันต้อง "อั๊พเปอร็คัท" ครับ ถึงจะเอาอยู่ด้วยการ
ปล่อยเพียงหมัดเดียว  ;D

Soul Sucker :
     พอได้ยินเสียงกีตาร์หนืดๆ ออกดูมหน่อยๆ ช่วงกลางเสียงกีตาร์ตีคอร์ดสะใจ ดนตรีพลิกอารมณ์ ก็พลอยคิดย้อนไปถึงเพลง
Electric Funeral ของคณะ Black Sabbath ในอัลบั้มชุด Paranoid ทันทีเลยครับ ซึ่งโครงสร้างของแทร็คนี้น่าจะมาจากเพลงของ
"ผู้หนักแน่นดุจภูผมถล่มทะลาย" นี่เอง
     ผมว่าใครที่อยากฟังเพลงของ ท่านค้างคาวฯ ที่ใกล้เคียงสมัยก่อนน่าจะชอบเพลง Soul Sucker แทร็คนี้นะครับ  :D

ชุด scream เอาแค่ 3 เพลงแรก ก็อยู่หมัดเลยครับ ได้ครบทุกสไตล์ท่านค้างคา้ววิปลาสเลย 8)

ปล พี่โป่งรบกวนรีวิวงานชุดใหม่ของ Iron Maiden ด้วยนะครับ (ถ้ามีเวลา) ผมว่าชุดนี้มันฟังยากชิบ! ชวนหลับมาก ๆ  :P

Life Won't Wait :
     เสียง กระเดื่องกลอง (Bass Drum) ดังขึ้นมาพร้อมคอร์ดกีตาร์โปร่งใส สำเนียงใกล้เคียงกับเพลง Dance Tonight ของ ท่านเซ่อร์
Paul McCartney  แม้จะฟังดูป็อปๆ แต่สักครู่จึงนำคนฟังเข้าสู่โลกของดนตรีร็อค พอเหมาะพอเจาะมาก สมกับเป็นแผ่นซิงเกิ้ลลำดับที่
สองจากอัลบั้มชุด Scream นี้
     ผมชอบเพลงนี้มากกว่าเพลง Let Me Hear You Scream อีกครับถ้าหากจะนำไปเปิดในรายการวิทยุ เนื่องจากว่า แทร็คนี้มันสามารถ
นำไปเปิดต่อกับเพลงป็อปอื่นๆ ได้แยบยลกว่า และอาจเป็นการชักชวนให้คนหันมาฟังดนตรีเมทัลได้มากขึ้น  ;)

(http://www.uppicfree.com/images/964_OzzySingleCD.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-964_OzzySingleCD.jpg)

Diggin' Me Down :
     สี่เพลงติดต่อกันจากหนักไปหาเบา มาถึงแทร็คที่ห้า กีตาร์โปร่งค่อยๆ เกราให้ได้ยินทีละโน๊ต บางทีอาจหลงใหลได้ง่ายๆ ว่าเพลงนี้
คงจะเป็นบาลลาดส์ แต่อีกไม่นานหรอกครับ เสียงกีตาร์ขุดมาจากนรกขุมไหนก็ไม่รู้ ดังสนั่นกลบเกลื่อนอารมณ์ที่กำลังเลื่อนลอยเสีย
หมดเกลี้ยง...นี่ล่ะครับ ที่เค้าเรียกกันว่า "รากเหง้า" ของ Ozzy Osbourne !!!
     ...แทร็คนี้ขุนขวานมือขวาคนใหม่โชว์ฝีมือกำลังพอดีไม่สปีดมากเกินไป ได้เมโลดี้ติดรูหูมาง่ายหน่อย...ใช้ได้เลยครับ   :)

Crucify :
     มาถึงแทร็คนี้ความตื่นเต้นเริ่มถดถอยทีละนิดแล้ว เพลงฟังดูธรรมดาไม่มีลูกเล่นอะไรให้ประทับใจ นี่คือผลเสียจากการที่นำเพลงเด็ดๆ
อย่าง Let It Die มาโหมโรง จึงทำให้เพลงอื่นๆ ฟังดู จืดไปสนิท แต่ไม่ใช่ว่าฟังไม่ได้นะครับ เพียงแต่ว่า อารมณ์มันค้างน่ะครับ คล้ายๆ
กับมาสะกิดต่อม ร็อคแอนด์โรล แล้ว แต่ยังไม่ได้ปลดปล่อยเต็มที่เท่านั้นเองครับ   :-\
     เพลงนี้ผมว่าไม่ค่อยมีเสน่ห์ เพราะว่า จะ "มันส์" ก็ไม่ใช่ จะ "ช้า" ก็ไม่เชิง ความรู้สึกเหมือนกับว่าเพลงมันไม่มีจุดเด่น ถ้าผมเป็นโปรดิว
เซอร์ ผมจะบอกให้ Ozzy แหกปากตะโกนร้องให้สุดเสียงกว่านี้ เล่นลูกเสียง ทั้งสูงต่ำ และ ลากเสียง ตามที่เค้าถนัด เพื่อที่จะทำให้เพลง
มันน่าสนใจกว่าที่เป็นอยู่  ;)

Fearless :
     สำหรับผมนี่เป็นการเรียงเพลงที่ไม่ถูกใจเพราะอารมณ์ไม่ต่อเนื่อง แทร็คนี้ดีมากนะครับ แต่ว่าควรรองรับต่อกลอนกับเพลงที่ห้า
คือ Diggin' Me Down มากกว่า
     ก็อย่างที่ผมพูดไปแล้วครับว่ากำลังสนุกอยู่ยังไม่เหนื่อยเลยดันเอาเพลง Crucify มาขั้นเสียแล้ว แต่ก็ทำให้สะดุดนิดเดียวแหละ
ครับไม่มากเท่าไหร่

Time :
     หลายคนหลงใหลเพลงท่วงทำนองช้าของ ท่านค้างคาวฯ อย่าง Goodbye To Romance, So Tired, Dreamer, etc. อยากฟัง
เพลงใหม่ๆ สไตล์แบบนั้นอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งคณะ Scorpions ได้ตอบสนองคนไทยไปมากแล้วสำหรับอารมณ์ของบทเพลงดังกล่าว 
     ทว่าหลายคนเถียงแบบ หัวชนฝา โต้ตอบว่า มันไม่เหมือนกัน เนื่องจาก แมงป่อง มันไม่ใช่ ค้างคาว นี่ครับ!
     ...พูดไปมันก็ถูกอีก ไม่มีผิดด้วยครับ เพราะ เพลงใครเพลงมัน แถมคนละวงกันด้วย เอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้หรอก  ???
     อย่างนั้นถ้าผมนำเพลงนี้ไปเทียบกับเพลงอื่นๆ ในทำนองเดียวกันของ Ozzy ที่ผ่านมา ผมว่า คุณภาพยังห่างไกลแทร็คเก่าอื่นๆ อีก
มาก ผมบอกตามตรงว่าฟังเพลง Time นี้หลายเที่ยว แต่ยังไม่ติดใจหรือชอบตรงไหนแม้แต่น้อย สู้กลับไปฟังเพลง She's Gone ที่ไม่
ค่อยมีคนรู้จักของคณะ Black Sabbath ในอัลบั้มชุด Technical Ecstasy ดีกว่า  8)

I Want It More :
     ยังกับรู้ใจผมซะอย่างนั้นแหละ ขอมา ก็จัดให้ไป !!!
     อยากร็อคแอนด์โรลต่อ Ozzy ภูมิใจนำเสนอ เพลงกระแทกโสตประสาท ต้องปาดเหงื่อฟัง กลองฟาดไม่ยั้ง กีตาร์สะบัดปิ้ค
รัวริ้ฟฟ์ ด้วยเสียงอันเหนียวหนึบ  ช่วงกลางเพลง สองกระเดื่องสับแหลก พร้อมด้วยลีดกีตาร์อันสะใจ...สุด สุด จริงๆ
     โอโฮ...แค่ถึงแทร็คนี้ผมว่าก็ เกินคุ้ม สมกับเงินที่จ่ายซื้อซีดีมาฟังแล้วล่ะครับ  ;D  ;D  ;D
      ยกตัวอย่าง อย่างคุณ JKNoremorse ยังบอกว่าฟัง 3 เพลงแรกก็ขึ้นสวรรค์แล้ว ไม่เสียดายสตางค์แม้แต่น้อย  :D
      (ผมอาจเปลี่ยนคำพูดแต่คิดว่าคงรู้สึกอย่างนี้นะครับ ถ้าไม่ใช่กรุณาคัดค้านด้วย)

Latimer's Mercy :
     ดนตรีเริ่มลดสปีดช้าลงเพื่อรอปิดอัลบั้ม ผมยังฟังต่อได้...ไม่เบื่อครับ
     ซึ่งความรู้สึกโดยส่วนลึกในฐานะที่เป็นแฟนเพลงพันธุ์แท้ของ Ozzy มาช้านาน ผมอยากให้มันดีกว่านี้อีกครับ แต่ก็ไม่ได้ผิดหวัง
เพียงอยากให้มัน เจ๋ง สมบารมีและศักดิ์ศรีหน่อย
     อัลบั้มชุดนี้อาจทำให้ Kevin Churko แจ้งเกิดในวงการดนตรีร็อคก็ได้  ส่วน Ozzy นั้น ผมว่า แค่เสมอตัวเท่านั้นครับ
     และนี่อาจเป็นข้อตกลงทางธุรกิจที่ Sharon เจรจากันไว้ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่จ้างโปรดิวเซอร์ระดับมืออาชีพค่าตัวสูงลิ่วใน
แวดวงร็อคอย่างที่เรารู้จักกัน !?!?!

I Love You All :
     จะเรียกว่าเป็นเพลงแถมก็ได้เพราะว่า ประโยคนี้ Ozzy ใช้มันทุกครั้งหลังคอนเสิร์ตจบ เนื้อหาของเพลงชื่อมันก็อธิบายอยู่แล้ว
ในตัวของมันเองครับ ความยาวเพียงแค่ 1:03 นาทีเท่านั้น สั้นมากๆ ไม่ได้ให้ความประทับใจอะไรเลย  :(

     สำหรับคนที่เป็นสาวกของเพลงจังหวะจะโคนรวดเร็วแบบ Non-Stop คงอาจจะบอกว่าผลงานชุดนี้ เบา ไปหน่อย แต่ผมขอเถียง
ว่ามันหนักกว่าปกติด้วยซ้ำไปครับ ค่อนข้างตามสมัยพอสมควรแล้ว จะออกแนว Power Metal กลายๆ ด้วย แถมสำเนียงกีตาร์ก็ใกล้
เคียงคณะ Pantera ของ Dimebag ( R.I.P.) ในอดีตมากทีเดียว

     งานนี้คงต้องเริ่มยอมรับฝีมือโปรดิวส์ของ Kevin Churko ว่าแก้ตัวได้ดีกว่าที่ผมคาดไว้เยอะ (ไม่เหมือนในอัลบั้มชุดที่แล้วคือ Black Rain)
ดนตรีค่อนข้างกระชับไม่หลุดยุคหรือล้าสมัยจนเกินไปนัก   :)
     
     ...บางทีอาจบอกได้ว่า อารมณ์เพลงกำลังพอเหมาะ คอร็อคแบบ เด็กฟังได้ ผู้ใหญ่ฟังดี ครับ ;D  ;D  ;D

     ส่วน Gus G อาจารย์ Pong-Wanchai ฉายา Handsome Man (เพราะยังไม่มีประธานมาสรุป จึงใช้ฉายานี้ชั่วคราว) แห่งเว็ป
ThaiProg ให้ศิษย์ผู้น้อง สอบผ่าน ไปได้ด้วย เกรด A- และจงจำไว้ด้วยว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่เจ้าสามารถมีเครดิตแต่งเพลงลงตีพิมพ์
อยู่ในอัลบั้มด้วยแล้ว เมื่อนั้นเจ้าจึงจะได้เขยิบเกรดขึ้นเป็นระดับ A+ อย่างทันตาเห็น  :o  :o  :o

     สรุปแล้วพอฟังจบก็ต้องตะโกนว่า...All Aboard...(เปิดเพลง Let Me Hear You Scream เพราะช่วงขึ้นต้นมีส่วนคล้ายเพลง
Crazy Train)  ไอ๋...ไอ๋...ไอ๋...ไอ๋  

     ไอ๋ คิ้ด  หว่า  พ่วก เอ็ง เสี้ย เงิน ซื้อ แผ๋น ไอ๋ แน่ๆ ...!!!  (สำเนียงฝรั่งพูดภาษาไทย)

ป.ล. โปรดใช้วิจารณญานในการอ่านและตัดสินใจของท่านเองในการเลือกซื้ออัลบั้มชุด Scream ครับ.

ติดตามอ่านข้อเขียนของพี่ Pong-Wanchai เกี่ยวกับน้าออสซี่มาถึงตอนนี้ แสดงว่าพี่เป็นคนที่เชี่ยวชาญเรื่องดนตรีของน้าออสซี่อย่างหาตัวจับยาก ผมจึงขอคารวะและยกตำแหน่งให้พี่เป็น "ผู้ชำนาญการด้านค้างคาววิปลาส" ไปโดยไม่มีข้อกังขาครับ

เห็นด้วยกับที่พี่โป่งรีวิวครับ "เด็กฟังได้ ผู้ใหญ่ฟังดี"
ท่านที่ไม่ใช่สาวกของท่านค้างคาว ก็สามารถ "หวด" มาฟังได้ครับ

แต่ ... ทำไมต้องมี Tour Edition ตามมาด้วยล่ะครับ เจ๊ นะ เจ๊
ปล. พี่โป่งครับ ช่วยจัด "Ozzy One Night in Bangkok" หน่อยสิครับ (เงินเฮียโป่งน่ะครับ  ;D อิอิอิ)

รางวัลอยู่ไหนครับ  บอกตามตรงว่าผม อยากได้ รางวัล ครับ เอาใส่ถ้วยทองมาเลย  ชน...น... ข้างในเป็น
น้ำเปล่า นะครับ ผมไม่ดื่มเหล้า ต้องขอโทษด้วย !!!

จะเปรียบพี่โป่ง ก็เปรียบเหมือน ป๋าออซซี่นั่นแหล่ะครับ (แต่หลัง ๆ ผมนึกถึงพี่อั๋น พาลนึกถึงออซซี่เหมือนกัน) ยกตำแหน่งให้ใครดี ?  ???

จริงอ้ะ? งั้นเจอกันคราวหน้าผมไม่ต้องหิ้วอะไรไปฝากพี่นะครับ ;D

แค่ส่งใจมาก็ ตื้นตัน แล้วครับ (หวานจ๋อย)  :-*  :-*  จุ้บ...จุ้บ... แหวะ   :P

พี่โป่งนี่ น้าค้างคาวอ๊อสซี่  แน่นอน (ยิ่งเวลาเมาๆ เสียงจะอ้อแอ้ๆ เหมือนเปี๊ยบ)
(http://imstars.aufeminin.com/stars/fan/ozzy-osbourne/ozzy-osbourne-20070116-199174.jpg)

ส่วนพี่อั๋น นี่เลยครับ วิ๊นซ์ นีล แห่งมอทลี่ ครู แน่นอน
(http://www3.pictures.gi.zimbio.com/Vince+Neil+Off+Strip+Poker+0k5LndLe7pWl.jpg)

เห็นพี่โป่งบอกว่าแกกลับตัวกลับใจ ไม่ข้องแวะสุรานารีใด ๆ ทั้งสิ้นแล้วนี่ครับ

รูปนี้ ถ้าเติมหนวดเข้าไป ผมว่าคล้ายพี่โป่งตอนไว้หนวดและไว้ผมยาวครับ ยิ่งตอนที่น้าออสซี่ทำหน้าตาน่ากลัวแฝงความหื่นนิด ๆ ในสไตล์ค้างคาววิปลาสแบบนี้แล้วล่ะก็ ผมว่ายิ่งคล้ายพี่เค้าเข้าไปใหญ่เลยครับ :D

เห็นด้วยอย่างสุดโต่งครับ

จัดแบบที่ คุณ JKNoresmorse ชอบใช่มั้ยครับ?  

...ได้ครับ ผมสามารถจ่ายค่าห้องสูตรให้ได้โดยไม่มีลิมิต จะอยู่จนปิดเลยก็ได้ ต้องการทัวร์กี่คนบอกมาแต่
เท่าที่ไปมาห้องใหญ่สุดจุได้ 4 ห้องเล็กถ้าทำกิจกรรมพร้อมกัน ตรงกลางมี จาคูซี่ แล้วก็ ซาวน่า ด้วย คาราโอเกะ
เด็กเสริฟ พร้อมเพรียงครับ

แต่อย่างอื่นต้องจ่ายเองนะครับ ผมรับเหมาไม่ไหว  แชร์ค่าอาหารกันไปไม่แพงหรอกครับ ส่วนคนที่อยากทำกิจ
กรรมนั่นก็อีกเรื่องนึง เปลี่ยนบรรยากาศได้เลย  :D

ว่าแต่ว่ามีแต่คนคุยกันเก่งๆ ทั้งนั้นเลยครับ พอนัดจริงๆ ก็หายกันไปหมด (ฮา)

ที่จะหายกันก็เพราะพี่เปิดประเด็นเรื่องเกียร์มัว กลัวเมีย อะไรไว้นี่แหละครับ :D

งั้นเราหยุดกันเถอะครับ เดี๋ยวสมาชิกท่านอื่นๆ หายหมด...ผมขอเผ่นก่อนนะครับ !!!

พาเด็กบริสุทธิ์อย่างผมไปด้วยสิครับ พี่ๆ ;D

เชิญไปลงชื่อไว้ที่ห้อง Breathe ได้เลยครับผม

ผมพาเข้าเรื่องเพลงได้ครับ แฟน Ozzy ที่สนใจ Japan mini lp re-issue ใหม่ราคาประหยัดก็เชิญได้เลย  :)

http://www.cdjapan.co.jp/rcms/music/ozzy_osbourne.html

ชุดนี้มี gimmick ไหมครับ

Live & Loud [Cardboard Sleeve] [Limited Release][Priced-down Reissue]
Ozzy Osbourne

ไม่เป็นครับ ยังนึกไม่ออกเหมือนกันว่า ถ้าเป็นแล้วจะทำตะแกรงโลหะยังไง

แต่ก็ถือว่า ยังคงรักษาประเพณีของ mini lp อยู่ คือ ย่อส่วนจากแผ่นเสียง เพราะแผ่นเสียงก็ไม่มี gimmick ใช่ไหมครับ

มี mini lp ชุดไหน ที่ทำไม่เหมือนแผ่นเสียงเดิมไหมครับ

เคยเห็นแต่ mini lp ที่ทำออกมาทั้งๆที่ไม่เคยมีแผ่นเสียงมาก่อนครับ

มี Black Sabbath - Born Again ของรัสเซีย ที่ต้นฉบับเป็นซองเดี่ยว แต่ทำ mini lp เป็น gatefold ครับ

http://www.thaiprog.net/webboard/index.php?topic=3681.msg84309#msg84309

ขอแจ้งพี่โป่งว่าผมก็บ้าจี้พอ เพราะในที่สุด แผ่นเสียง (ญี่ปุ่น) ชุด Diary of a Mad Man ของท่านค้างคาวปีศาจวิปลาสก็เสร็จผมจนได้ครับ :D

อาโป่งครับ !!
หมายความว่า อัลบัม Black Rain นั้น Zakk Wylde ไม่ได้สร้างสรรค์ริฟฟ์ของเขาเลยใช่ไหมครับ แค่เล่นตามใบสั่งเท่านั้น??

ตกลงไม่มีใครหาหน้าอ็อซซี่เจอหรือครับ (ปกหลัง)

ส่วนปกหน้า ไม่เห็นมีใครออกมาเถียงกันมั่งล่ะ สนุกดีนะครับ
ฟังเพลงไป หาอะไรดูๆ อ่านๆ มีความสุขกับศิลปิน
นี่เราเว็บฟังเพลง กันเป็นหลักนะครับ

ส่วนชุดใหม่ สารภาพกับท่านค้างคาวเมืองไทยไปแล้ว ว่ายังไม่ได้ซื้อ
กำลังรอ เวอร์ชั่น สเปฯ หรือ ไวนิ่ว ดี
รอท่านค้างคาวเมาทุกศุกร์ มาคอนเฟิร์มอีกที
เพราะ อ่านรีวิวของแกแล้ว กั๊กๆ ยังไงบอกไม่ถูกครับ
(ปล. ชุดหลังๆ ของน้าแก ผมไม่ได้ซื้อมาตั้งแต่ No more tear เป็นชุดสุดท้าย ซึ่งเพลงไตเติ้ลชุดนี้ ผมว่า โคตรดีเลยแหละ  ;D)

อันนี้ผมไม่ทราบจริงๆ ผมคิดของผมเองครับ  :D

ค...า...า...ย...ย..ย..  ว่า  โผม มาว..ว...วง

มันจะไม่กั๊กได้ยังงัยล่ะ ท่านผีฯ ถ้าเล่นเป็นกลม ก็คงพิมพ์ไม่เป็นภาษาแล้วล่ะคร้าบ...บ...บ

ผมเขียนไปฟังไปมันก็เลยไม่ลื่นน่ะครับ ไม่รู้จะเขียนอะไรด้วย  ไม่รู้ว่า อารมณ์ มันหายไปไหน เดินหาตั้งหลายที่แล้วก็ไม่เจอ  :D

เออ...อ...คือว่า  ผมไม่รู้จะตอบยังงัยดีครับ  ;D  ;D  ;D

ความจริงแล้วพรุ่งนี้ คุณอั๋น501 มีแผนขุดหลุม หากรุสมบัติ ท่านผีฯ ผมก็เลยอาสาจะติดสอยห้อยตามไปด้วย ปรากฏว่าทุกอย่างพร้อม
เสร็จสรรพ ทั้งกล้องถ่ายรูปและสิ่งที่จำเป็น แต่ คุณอั๋น เสียฟอร์ม ไม่รู้ว่าต้องไปสุสานที่ไหนครับ !!!

อยากจะไปน่ะ มันไปได้ครับ แต่ไปไม่ถูกเพราะไม่รู้ทาง  ???  >:(  ???  >:(  ???

วันนี้ก็เลยต้องขอลาก่อน ผมต้องไปเติมน้ำมัน พอดีมันใกล้จะหมดแล้วครับ  ;D  ;D  ;D

แผ่นเสียงเสร็จผมครับ -- ไม่ใช่ท่านค้างคาวที่เสร็จผม :D
ถามจริง วันนี้พี่โป่งเล่น Black Label Society เกินขนาดหรือเปล่าครับ? ดูจะเพี้ยน ๆ ชอบกล :D

An und fur sich schon.  (Basically, yes).

ศุกร์เมา
เสาร์นอน
อาทิตย์ถอน
จันทร์ลา
เหล่านี้ คือปัจจัยสี่ ที่พึงมีแก่สาธุชน คนใจดี แต่ขี้เหล้าทั้งหลาย นะญาตโยม
(สาธุ)(ประดิษฐ์ ซอย13)

ไม่พูดพล่ามทำเพลงละ
(http://www.uppicfree.com/images/980_Live_Evil1.jpg)

รับปากกับพี่โป่งไว้ว่าจะช่วยหารูปท่านค้างคาวฯออสซี่ที่หลังปกชุดนี้ให้อีกแรงหนึ่งด้วย แต่กว่าแผ่นเสียงจะมาถึงก็คงอีกสักระยะ เพราะเพิ่งติดต่อขอซื้อได้จากผู้ขายเจ้าประจำที่ญี่ปุ่นและต้องรอเคลียร์หนี้แผ่นล็อตเก่ากับเขาเสียก่อนครับ

สังเกตดูดี ๆ มันก็เหมือนหน้าคนนะครับ แต่จะเป็นหน้าของท่านค้างคาวฯออสซี่หรือไม่นี่ ผมไม่แน่ใจครับ

มือกลองที่ดีที่สุด ที่เคยหวดให้ท่านค้างคาววิปลาส ตามความเห็นของพี่ๆ คือใครครับ?? :o

ถ้าโดยส่วนตัวแล้วชอบ Tommy Aldridge มากๆ มันลงตัวพอดีกับดนตรีของ Ozzy อย่างไม่มีที่ติในสมัยนั้นครับ  :D

ผมว่าทั้ง ตา จมูก และ ปาก มันใกล้เคียงสุนัขมากเลยครับ แถมยังมีหูยาวทั้งสองข้างอีกด้วย  :o

อย่างนี้ไม่ใช่คนแล้วล่ะครับ แต่อาจจะเป็น ท่านค้างคาวฯ ตอนแปลงร่างเป็น มนุษย์หมาป่า สมัย Bark At The Moon !!!

คราวนี้ทุกคนคงทราบแล้วว่า อ๊อซซี่ นั้นเอาไอเดียในการทำอัลบั้มมาจากไหน ?   :D  :D  :D

แหม.. ท่านค้างคาวฯนี่เก่งจริงจี้งเลย

พี่โป่งวานชำแหละอัลบั้มชุด No More Tears หน่อยครับ  :D
ชุดนี้ ผมฟังแค่เพลงไตเติ้ล ก็คุ้มเงินแล้ว
ขึ้นต้นเป็น พิ๊งค์ ฟลอยด์
ท่อนแยกเป็น เล็ด เซ็พพลิน
ช่วงบริดจ์กลายเป็น แฟนธอม ออฟ ดิ โอเปร่า
 ???
http://www.youtube.com/watch?v=TnnTgwS23LE

ผมว่าจะเขียนถึงอัลบั้มคู่บันทึกการแสดงสดชุด Speak Of The Devil ก่อนครับ แล้วค่อยเรียงคิวต่อไปเรื่อยๆ  ;D

(http://www.uppicfree.com/images/590_OzzySpeakLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-590_OzzySpeakLP.jpg)  (http://www.uppicfree.com/images/544_OzzySpeakLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-544_OzzySpeakLP.jpg)

ซึ่งบางคนอาจเคยเห็นในชื่อคล้ายกันมากคือ Talk Of The Devil ที่วางขายในประเทศแถบทวีปยุโรป...

(http://www.uppicfree.com/images/329_OzzyTalk.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-329_OzzyTalk.jpg)

ความจริงแล้วมันก็คืออัลบั้มชุดเดียวกันนั่นแหละครับ  :D  :D  :D

อยากทราบว่าเค้าเป็นเกย์ ติดยา ป่าวคับ  ;D ไอ้ผมละชอบจริงๆ พวกเพี้ยนๆ เนี๊ยะ ทำเพลงได้บรรเจิดดี แถมมีฮา  :D :D :D

คำถามนี้ผมไม่เข้าใจครับ คุณKitaro Sylvian เทพเจ้าแห่งดนตรี หมายถึง Ozzy Osbourne หรือครับ?

ผมมีแผ่นซีดีซึ่งเป็นอัลบั้มชุด Scream ของ Ozzy Osbourne ที่ ซื้อ และ ส่งตรง มาจากประเทศอเมริกา (มีขายที่ร้าน Borders
Books Music Movies & Cafe) รูปร่างลักษณะดูจากภายนอกก็ดีๆ เหมือนปกติทั่วไป...

(http://www.uppicfree.com/images/587_OzzyScreamUS.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-587_OzzyScreamUS.jpg)(http://www.uppicfree.com/images/599_OzzyScreamUS.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-599_OzzyScreamUS.jpg)

หน้าปกด้านหน้าแตกต่างกันนิดหน่อยกับแผ่นไทย แต่ด้านหลังพอมองและอ่านดูดีๆ จะตกใจเล็กน้อย...

(http://www.uppicfree.com/images/215_OzzyScreamUS.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-215_OzzyScreamUS.jpg)

ปรากฏว่าตัวแผ่นทำในประเทศแม็กซิโกซะแล้วครับท่าน !!!

นี่ผมเอาตัวอัลบั้มที่ยัง Still Sealed มาสแกนให้ดูกันก่อน ยังไม่ได้แกะกระดาษแก้วหุ้มปกเลยครับ อย่างนี้ต้องรีบทดลองฟัง
เปรียบเทียบคุณภาพเสียงว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งถ้าให้เดาก็ต้องบอกว่ามันน่า "ดร็อพ" ลงนิดหน่อย แต่ผมยังไม่อยากฟังธงตอน
นี้ครับ รออีกสักครู่ใหญ่แล้วถึงกลับมาอีกที   :-\

เมื่อวานลองหาในเน็ทก็เห็นว่า แผ่นซีดี ของชุด Scream นี้ที่ขายใน USA เหมือนกันหมด คือ ตัวแผ่นผลิตใน Mexico เพื่อตัด
ต้นทุน  

ดังนั้นผมจึงอยากถามเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในเว็ปนี้ที่เพิ่งสั่งแผ่นซีดีจากอเมริกาว่า อัลบั้มออกใหม่ชุดอื่นๆ ของวงดนตรีทั่วไป
หลากหลายประเภท มีการลดต้นทุนการผลิตเหมือนกันกับแผ่นซีดีของ อ๊อซซี่ หรือเปล่าครับ?

ผมเลิกสั่งแผ่นอเมริกามานานแล้ว หลังๆสั่งแต่แผ่น EU เพราะได้ของเร็วและถูกกว่าเยอะครับ :D

ไอ้กัน มันทำระยำ มาก ๆ ครับ ผมก็โดนมากะตัว แต่แค่ไม่อยากมาเล่า ในเมื่อมีคนร่วมชะตากรรมเดียวกันก็ต้องขอประฌามบ้าง
ขอให้ทุกคนชาวคณะแบบเว็บ USA เท่าที่จะืำทำได้ ถ้าไม่จำเป็น

เรื่องมีอยู่ว่า....
ผมซื้องานชุด Ozzy : Scream แผ่นไทยนี่แหล่ะ ที่เคยบ่น ๆไปก่อนหน้านี้ แล้วขายต่อให้น้อง Pantalica (ขอบคุณครับ  :-*)
แล้วไปซื้อแผ่นอิมปอร์ต ตั้งใจว่าจะหวดแผ่นเมกาซะหน่อย ....หวยไปตกอยู่ที่ WWW.CDWOW.US (ประจานซะให้เข็ด)

ครั้นพอได้รับของ กลับเป็น Made in Messi ซะงั้น กล่องก็แตก เซ็งบรม (ผมว่าคุณภาพอาจห่วยกว่าของ Mexico อีก)
ผมรีบอีแมวต่อว่าทันที และบอกว่าครั้งต่อไป จะพิจารณาให้ดีก่อนเลือกซื้อของในเว็บคุณ มันก็ตอบกลับมาว่าให้ผมส่งของกลับ
และมันจะทำการ refund ให้

ผมก็ตอบกลับไปว่า ... เจริญเถอะ พ่อคู๊ณณณณ ผมไม่มีเวลาไปส่งของห่วย ๆ ของเอ็งกลับไปหรอก แทนที่เอ็งจะกุลีกุจอ
ส่งแผ่นเมกาตรานกอินทรีมาให้เร็ว ๆ แทน กลับแก้ปัญหาได้ง่าย ๆ ประทับใจผมจริง ๆ ไอ้ฟายเอ๊ย.... (ผมแค้นครับน่ะครับ)

ผมว่าคุณ jknoremorseไปด่าเว็บ cdwow แบบนี้ไม่น่าจะถูกต้องนะครับ เว็บนี้ไม่ได้ขายแผ่นอเมริกานะครัีบ เขาเป็นเว็บคลอบคลุมทั้งอเมริกาและยุโรป อยู่ที่ถ้าลูกค้าอยากจ่ายเป็นเงินสกุล US$ ก็เข้า cdwow.us อยากจ่ายเิงินสกุลอื่นก็ข้า cdwow.com แล้วให้เลือกสกุลเงินที่เราอยากจ่าย ส่วนแผ่นจะเป็นประเทศอะไรก็อีกเรื่องหนึ่ง เพราะเว็บเขาไม่เคยบอกว่าเขาขายแต่แผ่นอเมริกา การต่อว่าแบบนี้ดูไม่ค่อยแฟร์ต่อ cdwow นะครับ อีกอย่างในเมื่อค่ายเพลงเขาไปจ้างโรงงานในเม็กซิโกผลิตแผ่นแทนโรงงานในอเมริกาที่อาจเริ่มปิดตัวลงเพราะยอดขายแผ่นซีดีมันลดลง มันไม่น่าเป็นความผิดของเว็บ cdwow ที่เป็นเพียงร้านซีดีออนไลน์เท่านั้น เท่าที่ดูแผ่นของพี่โป่งแผ่นเม็กซิโกมีการติดสติ๊กเกอร์แถบบนเหมือนในอเมริกา แสดงว่าแผ่นเม็กซีฺโกนี้ผลิตเพื่อขายในอเมริกา เขาถึงแปะว่า Made In Mexico ให้คนที่อเมริการู้ แสดงว่ามันอาจไม่มีแผ่นอเมริกาผลิตออกมาจริงๆหรอกครับ อาจฟังดูแรงไปแต่ผมอยากค้านให้มองในมุมมองคนอื่นบ้างนะครับ เอาใจเขามาใส่ใจเรา ;)

เว็บ cdwow เท่าที่ผมสั่งนี่ได้แต่แผ่น EU แทบทั้งนั้น นอกจากเวลาสั่งเราต้องเช็คดูค่ายให้ดีว่าค่ายที่จัดจำหน่ายเป็นค่ายในอเมริกาหรือไม่ แต่กรณี Ozzy นี้ผมว่าค่ายอเมริกาแต่เป็นแผ่นเม็กซิโกครับ อีกอย่างการที่เราไม่ชอบของที่ได้มา เขามักให้เราส่งกลับแล้ว refund ให้เสมอครับ เป็นอย่างนี้ทั้งใน ebay, amazon และเว็บ อื่นๆ นอกจากกรณีส่งของมาผิดหรือมาถึงช้า เขาถึงจะส่งของใหม่มาให้ครับ

ทีแรกผมเข้าใจว่า .us คือ หมายถึง แผ่นที่ผลิตในอเมริกาซะอีก (เหมือนกับ amazon.com) เพราะ cdwow ที่ผ่านมา
ผมเล่นแต่ .us กับ .com (.com คือ แผ่น EU, UK)

ผมใช้บริการ cdwow.us ไม่ถึง 10 ครั้ง แต่ทุกครั้งก็จะได้่แผ่นเมกาตามที่คาด ส่วน cdwow.com นั้นก็เป็นแผ่น EU, UK ตามปกติ

เพียงแต่ครั้งนี้ มันไม่ใช่ ผมแค่อยาก complain ไปตามปกติ เพราะได้ของไม่ถูกใจ เหมือนกับที่ทางเว็บต้องการ comment จากลูกค้าทุกครั้ง
ลองว่าลูกค้าเขียนเมล์ตำหนิไป ทางเว็บก็ต้องแสดงความเป็นมืออาชีพมากกว่านี้ ไม่ใช่ให้ลูกค้าวิ่งไปส่งของคืนให้ แล้วก็ refund เงินมาง่าย ๆ แค่นั้น

...มันง่ายไปครับ

แผ่น Ozzy นี้ ผมไม่อยากทำให้มันวุ่นวายก็แค่นั้น แค่อยาก complain ให้เขารู้ อีกอย่างตัวเงินมันไม่มาก ไม่อยากเสียเวลา
ในเมื่อทางเว็บก็ดูไม่แคร์เท่าไหร่ ต่อไปผมก็แค่เช็คให้ดีก่อน แล้วค่อยว่ากัน

ถ้าสังเกตุดีๆหลายครั้งเราจะเห็นแผ่นเดียวกันในเว็บ cdwow แต่มีหลายราคาให้เลือก ส่วนใหญ่แผ่นราคาสูงกว่าจะเป็นแผ่นอเมริกาครับ แต่อย่างที่บอกคือต้องดูชื่อค่ายให้ดี อย่างแผ่น Pink Floyd ถ้าเขียนว่า Captiol แสดงว่าเป็นแผ่นอเมริกา เพราะถ้าของยุโรปจะเป็น EMI แต่กรณีแผ่นอัลบั้มใหม่ๆค่ายอเมริกาเขาอาจจ้างโรงงานเม็กซิโกแทน ซึ่งเป็นประเทศที่ติดกับอเมริกาและค่าแรงต่ำ ตรงนี้แนะนำให้ส่งเมล์ไปถามก่อนว่า made in usa หรือไม่? จะได้ไม่มีปัญหาครับ :)

อย่างกรณี Guns N' Roses - Chinese Democracy ผมสั่งจากเว็บในอเมริกา แต่ก็ได้แผ่น Canada มาเพราะเขาจ้างโรงงานที่ Canada ผลิต (แต่ตุณภาพไม่ต่างกัีนนะผมว่า) ฉะนั้นต่อไปนี้ใครที่เน้นสะสมแผ่น US ต้องทำใจแล้ว่าต่อไปนี้แผ่น US จะค่อยๆหายไปจากตลาด เดี๋ยวนี้เห็น US Seller ใน ebay ขายแผ่น Argentina ด้วยซ้ำโดยเฉพาะพวกเบอร์เก่าๆที่ US เลิกผลิตไปแล้ว

ใช่ครับ ใน eBay บางตัวที่ราคาถูก และคนขายมาจากอเมริกา ผมก็หวั่น ๆ อยู่เหมือนกัน
หลัง ๆ มา เวลาจะเล่นแผ่นเมกา ต้องดูแล้วดูอีก

ปล. แต่กรณีที่สั่ง Chinese Democracy แผ่นเมกา แต่ได้แผ่น แคนาดา นี่ยังดีครับ ของผมก็เคยเจอเหมือนกัน
แต่ลองได้ของพวกแถบอเมิรกาใต้นี่ ความรู้สึกเหมือนโดน Rip-off น่ะครับ

เทียบกันเป็นกรณี ๆ กันไปเลย

สั่งแผ่น US ได้ CA = Good
สั่งแผ่น EU ได้ US = Great
สั่งแผ่น UK ได้ EU = Good
สั่งแผ่น US ได้ Argen = Bad  >:( (ของขึ้น)

ต่อไปนี้ก็เล่นแผ่น japan อย่างเดียวไปเลยสิครับ สบายใจดี :D

ฮ่า ๆ มันแพงน่ะครับ จะซื้อแผ่นญี่ปุ่นทั้งที ต้องเลือกที่ชอบจริง ๆ ครับ

เพิ่มเติมอีกนิดอย่าหาว่าผมเชียร์ cdwow เลยนะครับ อยากบอกว่า cdwow ป็นเว็บที่คืนกำไรให้ลูกค้ามากที่สุดเท่าที่ผมเคยสั่งแผ่นมา นอกจากไม่เสียค่าส่งแล้ว ยังคอยส่ง coupon ลดราคามาให้สม่ำเสมอ และมักมีโปรโมชั่นลดราคาที่หน้าเว็บแทบทุกอาทิตย์ด้วย ที่สำคัญเดี๋ยวนี้สั่งของไ่ม่ถึงอาทิตย์ก็ได้ของแล้ว เร็วพอๆกับ Amazon UK เลย

ผมเห็นด้วยกับความเห็นของ คุณTRON ทุกอย่างครับ แล้วก็อยากเสริมอีกด้วยว่า แผ่นซีดี ท่านค้างคาวฯ นี่ "สอย" มาจากร้าน
ในประเทศสหรัฐอเมริกาโดยใช้เงินสด ไม่ได้เป็นการสั่งสินค้าออนไลน์ เพราะฉะนั้นการที่มีข้อความพิมพ์ให้เห็นบนสติคเกอร์ว่า
Disc Made In Mexico นั้น ถูกต้องและแฟร์แล้วครับ แต่หากเป็นการซื้อจากเว็ปทางอินเตอร์เน็ทมันก็อีกเรื่องนึง มันขึ้นอยู่ว่าทาง
ร้านค้าเค้าอธิบายสินค้าไว้ให้ละเอียดหรือเปล่าก็เท่านั้นเอง  :D

จากอัลบั้มเดียวกันนี้ เมื่อผมอ่านรายละเอียดของบริษัทต้นสังกัดที่พิมพ์ไว้บนหลังปกด้วยตัวหนังสือขนาดเล็กจิ๋วของด้านล่างแล้ว
พอนำแว่นตาพร้อมแว่นขยายมาอ่านก็ได้ความว่า แผ่นนี้เป็นแผ่นจากอเมริกา ซึ่งผมเดาว่านอกเหนือจากตัวซีดีแล้วทุกอย่างผลิต
โดยแรงงานอย่างถูกต้องใน USA หมด

วันนี้ยุ่งๆ เลยยังไม่ได้ฤกษ์ เปิดบริสุทธิ์ ซักที รออีกไม่นานครับ ของดี อย่างนี้ไม่ต้องรีบเร่งก็ได้ ของตาย สำหรับเราคนเดียวอยู่แล้ว  ;D  ;D  ;D

ภาพข้างล่างคือ ด้านหลังของแผ่นซีดีที่พิมพ์บอกไว้ว่าใครเป็นผู้จัดจำหน่าย ซึ่งผมสแกนมาให้ดูเปรียบเทียบกัน ระหว่าง
แผ่นไทย กับ แผ่นอเมริกา ครับ...

(http://www.uppicfree.com/images/605_OzzyScreamThaiCD.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-605_OzzyScreamThaiCD.jpg)  (http://www.uppicfree.com/images/399_OzzyScreamUS.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-399_OzzyScreamUS.jpg)

รู้สึกว่ามีคนมาเคาะประตูบ้านในขณะที่ผมกำลังเปิดบริสุทธิ์ให้กับ Scream CD ของ Ozzy Osbourne...

(http://www.uppicfree.com/images/723_OzzyScreamUS.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-723_OzzyScreamUS.jpg)

เลยดึงปลอกออกมาค้างคาอยู่ครึ่งนึงครับ  ;D

Who the hell....? ;D

พี่โป่งนี่ บรรจงแกะจริง ๆ นะครับ

ผมเป็นคนที่เก็บทุกอย่างก็เลยต้องลอกสติคเกอร์ออกมาแล้วแปะมันไว้ที่ด้านหลังของกระดาษแก้วที่ห่อแผ่นซีดีมาตั้งแต่แรก...

(http://www.uppicfree.com/images/450_OzzyScreamUS.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-450_OzzyScreamUS.jpg)

นับถือพี่จริง ๆ ครับ

ข้างในคงไม่ต้องสแกนมาโชว์ให้ดูกันนะครับ เพราะว่า inserts นั้นเหมือนกันกับแผ่นที่ปั้มในไทยไม่ผิดเพี้ยน  :D

แต่ว่าแผ่น USA มีกระดาษโฆษณาขนาดจิ๋ว สอดใส่ มาในอัลบั้มชุดนี้ด้วย...

(http://www.uppicfree.com/images/768_OzzyScreamUS.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-768_OzzyScreamUS.jpg)  (http://www.uppicfree.com/images/930_OzzyScreamUS.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-930_OzzyScreamUS.jpg)

มันคือการโปรโมทอัลบั้ม Blizzard Of Ozz กับ Diary Of A Madman ในแบบ 30th Anniversary Edition ครับ  
ลองอ่านรายละเอียดกันเอาเองตามรูปได้เลย.

พี่โป่งช่างเป็นคนที่ละเอียดรอบคอบดีจริง ๆ ครับ ด้วยความนับถือ และนับถือ :D

อ่านไม่ออกครับพี่
ตกอังกิด
มีแถมอะไรมั่ง บอกมาให้หมดเปลือกล่อนจ้อน   ;D

อ้อ.. ระวังปลอกหล่นนะครับ
อยากทราบวิธีการรักษาปลอกที่ใช้แล้วหน่อยฮะ ;)

ปล.นึกถึงมุกทิชชู่ของพี่อั๋น  :D

คราวนี้มาถึงตัวแผ่นซีดีบ้าง ซึ่งรูปข้างล่างนี้ เป็น แผ่นไทย และ แผ่น USA ตามลำดับ...

(http://www.uppicfree.com/images/480_OzzyScreamUS.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-480_OzzyScreamUS.jpg)

หน้าตาไม่แตกต่างกันมากนักหรอกครับ แต่ว่าพอผมฟังเสียงแผ่นซึ่งตามที่สติคเกอร์บอกเอาไว้ว่าผลิตในประเทศแม็กซิโก
เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับแผ่นไทยของเรา  ผมบอกได้ว่า เสียงแผ่นนอก สดใสกว่านิดนึงครับ แต่ว่านิดเดียวจริงๆ นะครับ
และนี่เป็นการฟังจากคอมพิวเตอร์ด้วย ไม่ใช่เครื่องเล่นสเตอริโอ เพราะว่า ลำโพงของผมมันป่วยครับ กำลังรอคิวรักษาอยู่  :D

เออ...ขอโทษทีครับ คุณJKNoremorse เข้าใจผิดแล้ว บรรจง ไม่ได้เป็นคนแกะนะครับ วันชัย ต่างหากล่ะ :D

ผมว่าคงไม่ใช่อย่างที่ ท่านผีฯ พูดแล้วล่ะครับ รูปมัน เล็ก เกินไปใช่มั้ยล่ะ...ลืมหยิบแว่นมาใส่ซิท่า?
งั้นจัดให้ครับ สำหรับสมาชิก ส.ว. คนสำคัญ...

(http://www.uppicfree.com/images/326_OzzyScreamUS.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-326_OzzyScreamUS.jpg)

เห็นชัดเจนดีหรือยังล่ะครับ  :D  :D  :D



ปลอกไม่มีทางหล่นแน่นอนเพราะว่าหลังจากฟังแล้วผมก็สวมกลับเข้าไปใหม่อีกครั้งหนึ่ง...

(http://www.uppicfree.com/images/759_OzzyScreamUS.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-759_OzzyScreamUS.jpg)

ง่ายมากเลย...แต่ต้องใจเย็นและไม่รีบร้อนนะครับ
การฟังเพลงและเล่นแผ่นมันเปรียบเสมือนศิลปะอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นต้องมีเวลาให้กับมันจริงๆ ถึงจะจริงใจ  ;)

ผมรักษาปลอกด้วยการมีซองแบบ resealable ใส่ให้กับอัลบั้มอีกทีนึงด้วย  8)

สำหรับ ทีชชู่ มีไว้ตลอดเวลา เมื่อต้องการเช็ดเหงื่อ  ::)

พี่โป่งครับ ไอ้ชุดครบรอบ 30 ปีเนี่ย มันเลื่อนวันจำหน่ายแล้วใช่ไหมครับ

ยังไม่ทราบเลยครับ.

โอ้วว :o...ปรกติผมใช้แล้วทิ้งเลย...พี่โป่งใช้แล้วสวมกลับเข้าไปใหม่อีกครั้งหนึ่งหรือครับ  :D ;D ::)

กระดาษแก้วห่อแผ่นซีดีผมชอบสวมกลับเข้าไปใหม่ครับ มันดูครบสมบูรณ์ดี ไอ้ที่ใช้แล้วทิ้งน่ะ มัน ก.ก.น. นะครับ
โยนใส่ตะกร้าให้คนใช้ซักถึงจะเอามาสวมกลับใช้ต่ออีกครั้งนึงน่ะคร้าบ...บ...บ  :D

วันนี้เหลือบไปเห็นอัลบั้มชุด Ozzmosis รูปแบบ LP ของ Ozzy Osbourne บนเน็ทในอีเบย์...

แม่เจ้าโว้ย...ลงขายตั้ง US$179.99  :o  ...ผมแทบเป็นลม แต่ในใจก็ ยิ่มแฉ่ง เพราะว่ามีอยู่แผ่นนึงเหมือนกัน  :D  :D  :D

(http://www.uppicfree.com/images/632_OzzyOzzmosisLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-632_OzzyOzzmosisLP.jpg)

แผ่นเสียงของอัลบั้มชุด Scream กำลังจะวางขายแล้ว...ใครอยากมีไว้ในคอลเล็คชั่น ต้องรีบคว้าเอามาไวๆ นะครับ
เนื่องจากว่าปั้มจำนวนจำกัด วันที่ 13 นี้แล้วในประเทศอังกฤษ...อีก 2 วันเอง !!!

สำหรับประเทศสหรัฐอเมริกาสั่งซื้อทาง Amazon ได้วันที่ 28 ช้ากว่าอังกฤษอีก ???  >:(  ???

เจอกันแน่ครับ  ;D
ผมสอยอังกฤษดีก่า เพราะน้าแกเป็นบริติช

เจองานสรรเสริญน้าอ็อด
ใครได้ฟังแล้งบ้างเอ่ย..

Flying High Again-Ultimate Tribute to Ozzy Osbourn
(http://cdn.cdwow.com/tn/270/STM/1840000/1838772.jpg)
   1.   Mr. Crowley - Tim "Ripper" Owens/Yngwie Malmsteen
   2. Shot in the Dark - Children of Bodom
   3. S.A.T.O. - Icarus Witch/George Lynch
   4. Bark at the Moon - Forever Say Die!
   5. Close My Eyes Forever - Lita Ford
   6. Desire - Lemmy Kilmister/Richie Kotzen
   7. Crazy Train - Dee Snider/Doug Aldrich
   8. Over the Mountain - Mark Slaughter/Brad Gillis
   9. I Don't Know - Jack Blades/Jeff Pilson
  10. Hellraiser - Joe Lynn Turner/Steve Lukather
  11. Revelation (Mother Earth) - November's Doom
  12. Goodbye to Romance - Alex Skolnick Trio

Madmen of Ozz: Tribute to Ozzy Osbourne
(http://cdn.cdwow.com/tn/270/STM/1895000/1894178.jpg)

Ultimate Sin, the - Soulless
Bark at the Moon - Sanctorum
Suicide Solution - Coffin Texts
Waiting for Darkness - Anno Daemonicus
Mr. Crowley - Ion Vein
Steal Away the Night - Killswitch
S.A.T.O. - Deceased
Believer - Decay of Salvation
Over the Mountain - Tyrant
Flying High Again - Vile
I Don't Know - October 31

Ultimate Tribute to Ozzy Osbourne
(http://cdn.cdwow.com/tn/270/STM/3360000/3354787.jpg)

Paranoid - Neil, Vince & George Lynch
Crazy Train - Snider, Dee & Jason Bonham
Close My Eyes Forever - Ford, Lita
I Don't Know - Blades, Jack
Hellraiser - Turner, Joe Lynn & Steve Lukather
Mr Crowley - Malmsteen, Yngwie
Over the Mountain - Mark Slaughter & Brad Gillis
Goodbye to Romance - Loeb, Lisa & Dweezil Zappa
Shot in the Dark - Scoot Soto, Jess & Bruce Kulick
Suicide Solution - Paskowitz, Adam
Children of the Grave - Gilbert, Paul & Jeff Martin
Sato - Lynch, George

แหม ดูมันเข้าท่าทั้งนั้นนะเนี่ย  8)

ผมได้ฟัง 2 ชุดนี้ครับ...

(http://www.uppicfree.com/images/444_OzzyBatCD.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-444_OzzyBatCD.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/917_OzzyRRTributeCD.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-917_OzzyRRTributeCD.jpg)

เพลงน่าจะเหมือนกับชุดแรกกับชุดสุดท้ายที่ ท่านผีฯ ลำดับชื่อเพลงเอาไว้  :D

สมัยผลงานประเภท ทริบิ้ว ล้นตลาดตอนนั้นผมถึงกับ "เอียน" ไปเลย ไม่รู้ว่าออกกันมากี่ชุดกี่ค่าย ดีบ้างไม่ดีบ้าง คละเคล้ากันไป
ระยะหลังๆ นี่ "ซา" ไปเยอะแล้วครับ ค่อยยังชั่วหน่อย  :)

หลายชุดลอกคราบเปลี่ยนปกให้เราหลงซื้อซ้ำมาอีกครับ ก่อนซื้อต้องหาข้อมูลก่อน แต่ในบรรดา Tribute to Ozzy ที่เกลื่อนตลาด ผมชอบชุดนี้มากที่สุดครับ

(http://www.uppicfree.com/images/482_iron.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-482_iron.jpg)

ยังไม่ได้ฟังเลย ไม่ใช่ออกแนว เฮฟวี่ ใช่มั้ยครับ?

เป็นแนว bluegrass ครับ ต้องยกย่องคนที่นำเพลงของลุงอ๊อดมาเรียบเรียงใหม่หมดจนกลายเป็นดนตรีในทุ่งหญ้าไปเลย ผมทำสำเนาไว้ให้พี่โป่งแล้วครับ

ขอบคุณมากครับ.

2ชุดที่อาโป่งร่ายถึง ผมมีแผ่นยูเอสของ Bat Head Soup ครับ อัลบั้มนี้จะสุดยอดกว่านี้ ถ้าตัดHellraiser - Joe Lynn Turner/Steve Lukather  กับ Desire - Lemmy Kilmister/Richie Kotzen แล้วเล่น Bark at the Moon และเพลงอื่นๆในยุคแรกกับยุคกลางแทน

ในขณะที่มีคนคอย ปะล่อมๆ ท่านผีฯ ให้เปิดกรุด้วยการลงรูปภาพใหญ่ ผมไม่อยากเสียเวลาคอยรอก็เลยหันกลับ
มาหาท่านค้างคาวฯ นำเรื่องราวมาเล่าต่อดีกว่า...

อย่างที่ทราบกันดีว่าเมื่อ Ozzy เสียมือกีตาร์ฝีมือดีที่ชื่อว่า Randy Rhoads ไป Bernie Torme ได้เข้ามาแทนที่เพียง
ไม่กี่อาทิตย์ แล้วจึงเปลี่ยนมือกีตาร์อีกทีเป็น Brad Gillis ส่วนสมาชิกนักดนตรีคนอื่นๆ ยังคงเดิมตามรูปด้านล่างนี้...

(http://www.uppicfree.com/images/184_Ozzy82.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-184_Ozzy82.jpg)

จากซ้ายไปขวา...Rudy Sarzo, Don Airey, Ozzy Osbourne, Brad Gillis และ Tommy Aldridge.

ระหว่างช่วง Diary Of A Madman Tour 1982 ได้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องเลื่อนวันที่คอนเสิร์ต หรือว่า
ทางเมือง San Antonio มลรัฐ Texas ห้าม Ozzy ไม่ให้เข้ามาเหยียบในท้องที่อีกเป็นอันขาดเพราะว่าดันไปฉี่รดบริเวณป้อม
Alamo เข้าให้

ก่อนหน้านี้ ท่านค้างคาวฯ ของเราก็โดนส่งตัวด่วนเข้าโรงพยาบาล เนื่องจากกัดหัวค้างคาวจริงๆ มันเลยงับตอบอย่างจัง โดยที่
Ozzy นึกว่าไอ้พวกตุ๊กตาสัตว์ต่างๆ ซึ่งแฟนเพลงโยนขึ้นมาบนเวทีนั้น มันคือ ของเล่น  ;D  ;D  ;D

แต่ที่ร้ายที่สุดเห็นจะเป็นการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของ Randy Rhoads ดังนั้น โครงการผลิตอัลบั้มบันทึกการแสดงสดจึงมี
การเปลี่ยนแปลงขึ้นมาทันที

(http://www.uppicfree.com/images/112_OzzySpeakCD.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-112_OzzySpeakCD.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/849_OzzySpeakCD.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-849_OzzySpeakCD.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/140_OzzySpeakCD.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-140_OzzySpeakCD.jpg)

ผมจำได้แม่นเลยครับว่าอัลบั้มคู่ชุด Speak Of The Devil นี้ ออกมาตัดหน้า อัลบั้มคู่ชุด Live Evil ของคณะ Black Sabbath เฉยเลย
ทั้งๆ ที่ประโคมข่าวได้ไม่นาน (ยุคทำเป็นซีดีครั้งแรกโดนตัดไปหนึ่งเพลง)

สมัยก่อนการรับทราบข่าวสารก็มีวิทยุ นิตยสาร แล้วก็ MTV ซึ่งการที่จะรู้ว่ามีเพลงอะไรบรรจุอยู่ในอัลบั้มนี่เป็นเรื่องที่เป็นไปแทบไม่
ได้เลย นานๆ ถึงจะได้รายละเอียดทีนึงจากหนังสือเพลง แล้วผลงานของ น้าอ้อด ชุดนี้ถูกใจผมเสียจริงๆ เนื่องจากว่าเอาเพลงของ
คณะ Black Sabbath มาเล่นสดในแบบยกชุด !!!

ถ้าผมจำไม่ผิดระหว่างที่กำลังตระเวณแสดงทัวร์เพื่อสนับสนุนอัลบั้มชุด Diary Of A Madman ต่อนั้น ท่านค้างคาวฯ ของเราไม่ทราบ
ว่า เพี้ยน หรือ สติไม่ค่อยเต็ม วันดีคืนดีแกก็ตัดสินใจ โกนหัว เสียจนหมดจด โล้นเกลี้ยงทั้งกระบาน กลายเป็น นักร้องเฮฟวี่หัวเหม่ง
เรียกว่า แปลงโฉมไปเลยในแบบอัตโนมัติ  :o  :o  :o

(http://www.uppicfree.com/images/937_OzzyShaved.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-937_OzzyShaved.jpg)  (http://www.uppicfree.com/images/264_OzzyShaved.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-264_OzzyShaved.jpg)

เป็นยังงัยล่ะครับ หน้าตาดูได้ขนาดไหน ?

แล้วก็นักสะสมอย่างผมถ้าชอบอัลบั้มชุดไหนก็จะซื้อมาเก็บไว้ในคอลเล็คชั่นหลายชุดเหมือนกันดังที่ได้โชว์รูปไปแล้ว แต่ว่า
เชื่อมั้ยครับว่าผมไม่มีรูปแบบแผ่นซีดีเลยซักชุดครับ รูปที่เห็นทั้งหมด "ดูด" มาทั้งนั้น  :D

สำหรังเว็ปนี้ต้องเอาแผ่นเสียงผลิตจากประเทศญี่ปุ่นมาลงให้ดูครับ...

อันนี้เป็นภาพหน้าปกและหลังปก
(http://www.uppicfree.com/images/554_OzzySpeakLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-554_OzzySpeakLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/595_OzzySpeakLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-595_OzzySpeakLP.jpg)

เปิด gatefold กางออกมาจะมีรูปใหญ่ของ Ozzy อยู่ข้างใน ซึ่งเหมือนกันหมดทุกเวอร์ชั่น  แต่ของพียุ่นต้องมี Lyrics Sheet มาด้วยเหมือนเดิม
(http://www.uppicfree.com/images/419_OzzySpeakLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-419_OzzySpeakLP.jpg)  (http://www.uppicfree.com/images/462_OzzySpeakLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-462_OzzySpeakLP.jpg)

รูปนี้สวยดีเลยนำมาลงให้ดูว่าในแผ่นเสียงชุดนี้มีอะไรแนบมาบ้าง...

(http://www.uppicfree.com/images/116_OzzySpeakLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-116_OzzySpeakLP.jpg)

ของแถม คือ แผ่นเสียงขนาด 7 นิ้ว หนึ่งแผ่นครับ...

(http://www.uppicfree.com/images/887_OzzySpeakLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-887_OzzySpeakLP.jpg)  (http://www.uppicfree.com/images/422_OzzySpeakLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-422_OzzySpeakLP.jpg)

เท่าที่เห็นขายในเน็ทไม่ค่อยมี "กระดาษแข็งสีเทาแบบรีไซเคิ้ล" สอดมาให้ แต่ว่า 2LP's ของผมมีพร้อมครับ เพราะมันช่วยทำให้เวลาใส่
แผ่นเสียง 7" ซิงเกิ้ลกลับเข้าไปแล้วเรียบร้อย ไม่ทำให้ซองหน้าปกหนาจนมีรอยวงกลมเล็กๆ และดูเสียหาย ซึ่งหน้าตาของ "ตัวช่วย" มัน
เป็นอย่างนี้...ดูกันใกล้ๆ เลย  :D

(http://www.uppicfree.com/images/698_OzzySpeakLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-698_OzzySpeakLP.jpg)

เพียงแต่ใส่แผ่นเสียงไว้ตรงกลางซึ่งเจาะเป็นสี่เหลี่ยมขนาดเดียวกันไว้พอดี มีสก็อชเทปแปะติดปกพลาสติคอีกทีเพื่อไม่ให้หล่น...เมื่อใส่
เข้าไปพร้อมแผ่นก็เหมือนกับ Insert อีกแผ่นนึงเพียงแต่มีความหนากว่าปกติเท่านั้นเอง  :)

สุดท้ายต้องมี โปสเตอร์ รวมมาด้วยอีกหนึ่งอย่างถึงจะสมบูรณ์  :D

(http://www.uppicfree.com/images/222_OzzySpeakLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-222_OzzySpeakLP.jpg)

แต่ถ้าจะให้ เพอร์เฟค สำหรับคอลเล็คชั่นของทัวร์นี้ ต้องนี่เลยครับ...

(http://www.uppicfree.com/images/310_OzzyTheSourceLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-310_OzzyTheSourceLP.jpg)

แผ่นเสียงเรดิโอโชว์จากรายการ The Source ซึ่งเป็นคนละชุดกันกับที่ผมเคยนำมาลงให้ดูนะครับ เพราะนี่เป็นสมัย Brad Gillis
เล่นร่วมกันกับ Ozzy Osbourne ที่เมือง Memphis มลรัฐ Tennessee เมื่อวันที่ 28 เมษายน ปี 1982

เพลงในแผ่นเรดิโอโชว์จะเหมือนกันกับ ดีวีดี คอนเสิร์ต Speak Of The Devil แต่อัดมาจากสถานที่คนละแห่งกัน

(http://www.uppicfree.com/images/536_OzzyTheSourceLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-536_OzzyTheSourceLP.jpg)  (http://www.uppicfree.com/images/874_OzzyTheSourceLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-874_OzzyTheSourceLP.jpg)

แล้วที่จะขาดเสียไม่ได้ก็คือ แผ่นซิงเกิ้ล อย่างที่เห็นในโฆษณาข้างล่างนี้ ซึ่งผมต้องตามซื้อให้หมดทุกอย่างจนกว่าจะครบถึงจะสามารถพูด
ได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าเป็น แฟนพันธุ์แท้   ;D  ;D  ;D

(http://www.uppicfree.com/images/505_OzzySymptomAd.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-505_OzzySymptomAd.jpg)

เมื่อไม่นานที่ผ่านมา ผมเห็นคนขายในอีเบย์ลงแผ่น 12" Single ชุดนี้แล้วก็ ตกใจ เหมือนกันว่า ทำไมตั้งราคาไว้เกือบหนึ่งร้อยเหรียญดอลล่าห์สหรัฐ  ???

(http://www.uppicfree.com/images/663_OzzySymptom.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-663_OzzySymptom.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/214_OzzySymptomEP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-214_OzzySymptomEP.jpg)

ป้ายราคาแผ่นเสียงของผมยังติดอยู่ด้านหลังเลยครับว่า 6 เหรียญ แล้วถ้าจำไม่ผิดน่าจะคว้ามาได้จากประเทศคานาดาด้วย ซึ่งสมัยนั้นค่าของ
เงินเหรียญก็ถูกกว่าสหรัฐหลายบาทอยู่เหมือนกัน  :)

ไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่า แผ่นเสียง ของผมมันจะมีราคาสูงถึงขนาดนี้ได้  :D

ไม่ต้องฉงนหรอกครับ -- คนขายเขาเอามาวางไว้ดักรอคนซื้อที่เป็นสาวกคลั่ง วิปลาส และสติแตกมาซื้อไป -- แต่ถ้าเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องค้างคาววิปลาสฯ Crazy Ozzy Bat Man อย่างพี่โป่งแล้ว รับรองว่าโดนหลอกยากส์ครับ
และอยากจะบอกพี่ว่า "ทุกสิ่งเป็นไปได้ในอีเบย์นะ จุ๊บ จุ๊บ" (ฮา) :D :D :D

เกือบจะลำดับสุดท้ายแล้วครับ สำหรับแผ่น 7" ซิงเกิ้ลที่เรียกกันว่า Picture Disc...

(http://www.uppicfree.com/images/965_OzzySymptomEP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-965_OzzySymptomEP.jpg)(http://www.uppicfree.com/images/853_OzzySymptomEP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-853_OzzySymptomEP.jpg)

ผลงานประเภทนี้พอถ่ายรูปมาดูแล้วก็ สวยดี แต่ผมว่า คุณภาพเสียง ใช้ไม่ได้เลยครับ  ???

และที่ผมเก็บเอาไว้เป็นรูปอำลาสำหรับอัลบั้ม Speak Of The Devil นี้ก็คือ เสื้อ T-Shirt ในแบบแขนกุด(มาจากโรงงาน) ซึ่งปัจจุบันหาซื้อยากมากๆ
เพราะมูลค่าไม่มีใครสามารถประเมินได้ นานๆ จะเห็นกันสักตัวนึงบนอีเบย์ เมื่อก่อนผมเคยใส่อยู่ตอนเป็นวัยรุ่น แต่ว่าปัจจุบันพับใส่ลิ้นชักเสื้อผ้าเก็บ
เอาไว้อย่างดีเลยครับ...

(http://www.uppicfree.com/images/366_OzzyShirt.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-366_OzzyShirt.jpg)ด้านหน้า (http://www.uppicfree.com/images/701_OzzyShirt.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-701_OzzyShirt.jpg)ด้านหลัง

หากรวมคอลเล็คชั่นเฉพาะ Speak Of The Devil ของผมเข้าด้วยกันทั้งหมด ยกเว้นแผ่นซีดี (เพราะว่าไม่มีครับ) แล้วจัดการคำนวณเป็นตัวเงิน
เสร็จสรรพ ผมไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมเมื่อก่อนต้องทานแต่บะหมี่สำเร็จรูปยี่ห้อ Top Ramen แทบทุกมื้อ  ???  >:(  ???

แต่บะหมี่ ramen ยี่ห้อที่พี่ทานแทบทุกมื้อนั้น อาจจะราคาแพงกว่ามาม่าของไทยก็ได้นะครับ ;D ;D ;D

นี่เป็นภาพหน้าปกของทัวร์โปรแกรมสมัย Speak Of The Devil...

(http://www.uppicfree.com/images/267_OzzySpeakTourProgram.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-267_OzzySpeakTourProgram.jpg)

รูปนี้เอามาลงให้ดูกันเฉยๆ ผมไม่ได้มีเก็บสะสมเอาไว้หรอกครับ  :D

เพลินดีจริงๆครับ  ;D
ขอถามนิดครับ
น้าค้างคาวผมแกยาวเร็วขนาดเลยหรือครับ
โกนหัวแหม็บๆ เล่นคอนเสิร์ทผมยาวเชียว
หรือผมลำดับเวลาผิดครัฟ ???

นิสัยเหมือนผมเลยครับ แต่ว่าไอ้สติ๊กเกอร์สีขาวที่มีชื่อศิลปินกับบาร์โค้ดที่แปะอยู่ด้านบนกล่องนั้น ผมจะไม่ลอกออกมา แต่จะใช้วิธีงัดฝาด้านล่าง เพื่อเอาแผ่นหรือ booklet ภายในออกมาครับ

เพื่อนๆที่เคยมาเที่ยวบ้านยังบอกเลยว่า ถ้าสามารถหากระดาษแก้วมาห่อใหม่ หรือถ้าเป็นแบบซองพลาสติกแบบมีกาวในตัวก็แค่เปลี่ยนซอง จากนั้นมันก็เหมือนแผ่นใหม่ๆดีๆนี่เอง  :D

หลังจากทุกอย่างลงตัวแล้ว คือได้มือกีตาร์คนใหม่ที่ค่อนข้างจะถาวร (ในสมัยนั้น) พี่อ้อด ของเราก็จัดงาน "เบียด"
กับ Sharon Arden ในวันที่ 4 กรกฏาคม ปีเดียวกัน (1982) โดยมี Tommy Aldridge มือกลองคนโปรดเป็น Best Man

หยุดพักได้ไม่กี่วันก็ "ลุย" ต่อตามคำสั่งของผู้จัดการส่วนตัวที่เข้ามาจัดการชีวิตด้วยแล้ว  :D  ซึ่งถ้า Ozzy ไม่ได้ผู้หญิง
คนนี้มาดูแล ผมว่าแกคงไม่มีสินทรัพย์มั่งคั่งก้าวขึ้นมาสู่ระดับดาราฮอลลีวู้ดได้เหมือนทุกวันนี้หรอกครับ

ครั้นพอเที่ยวตระเวณแสดงทัวร์ได้สักพักประมาณปลายๆ ปีนี่แหละครับ ท่านค้างคาวฯ ของเราก็โกนศรีษะเสียจน
หมดเกลี้ยง ซึ่งทั้งแฟนเพลงและสื่อมวลชนต่างคาดเดากันต่างๆ นาๆ ว่าสงสัย Ozzy คงจะ "บ้องส์" ไปเสียแล้ว !!!

แต่จากบทสัมภาษณ์ที่ผมมีอยู่ในรายการ Night Flight (อัดมาจากเคเบิ้ลทีวี) นั้น Ozzy ได้อธิบายว่า เส้นผมของเค้าโดน
ทั้ง เจล และ ครีมบำรุงผม รวมทั้ง สเปรย์ และอื่นๆ อีกมากมาย ประกอบกับ แสงสป็อตไลท์ บนเวที่ที่แรงจ้า มันมีผลทำให้
ผมของเค้าเสียและแห้งดูไม่มีชีวิตชีวา ก็เลยตัดสินใจตัดผมเก่าออกให้หมดแล้วเริ่มต้นไว้ใหม่

ตอนเล่นคอนเสิร์ตช่วงนั้นก็ขึ้นเวทีร้องเพลงแบบหัวล้านอย่างนี้แหละครับ...

(http://www.uppicfree.com/images/633_OzzyShaved.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-633_OzzyShaved.jpg)

เมื่อเข้าสู่ช่วงปลายปี 1982 นักดนตรีกลับยังไม่ค่อยลงตัวซักเท่าไหร่ โดยเฉพาะมือเบส มีการเปลี่ยนแปลงสองครั้งเพราะ
ว่า Rudy Sarzo ลาออกไปอยู่กับ Quiet Riot เหมือนเดิม ไม่ยอมเดินทางไป UK Tour กับ Ozzy อีก

Pete Way (UFO) เข้ามาแทนที่สมัย British Tour แต่เล่นอยู่ร่วมกันกับคณะ Blizzard Of Ozz ในระยะเวลาอันสั้น เพราะว่า
พอทัวร์จบ Pete Way ก็ลาออก และคราวนี้จับมือกันไปพร้อมๆ กับ Brad Gillis อีกคนนึงด้วย  >:(   ซึ่งวันที่ 20 ธันวาคม ปี
1982 คือการร่วมงานครั้งสุดท้ายของนักดนตรีทั้งสองกับ ท่านค้างคาววิปลาส ครับ

กว่าสมาชิกนักดนตรีจะลงตัวได้ก็เกือบๆ ทั้งปี 1983 นั่นแหละครับ ส่วนมือกีตาร์คนใหม่ในสมัยนั้นชื่อ Jake E. Lee ได้เข้าร่วม
ทีมงานกับ Ozzy Osbourne และเล่นบนเวทีครั้งแรกอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 มกราคม ปี 1983 โดยมีมือเบสคนใหม่ชื่อว่า
Don Costa ร่วมด้วยอีกหนึ่งคน   ;)

แจ่มแจ้งมากเลยครัฟพี่โป่ง

แล้วมีดีวีดี สมัยพี่แกหัวล้านเจ๊งเหม่ง แบบนี้ไหมครับ
น่าจะสนุกนะ ได้เทร็นด์แบบร่วมสมัยดีจัง  ;D
อยากดูแล้วซิ

ขอเบรกนิดนะครับ

อยากทราบว่า หลังจาก Randy Rhoads เครื่องบินตก สภาพศพของเขาไหม้เกรียม หรือยังเป็นร่างมนุษย์อยู่ครับ???


 ::) ::) ::) ::) ::) ::)

ผมไม่มีวิดิโอภาพเคลื่อนไหว แต่มีรูปมาเรียงให้ดูเพื่อลำดับความและเตือนความจำครับ  :D

สมาชิก Blizzard Of Ozz ยุคที่คิดว่าน่าจะลงตัวแล้ว คือ ประมาณต้นปี 1982...
(http://www.uppicfree.com/images/356_Ozzy82.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-356_Ozzy82.jpg)

Ozzy Osbourne ล้างซวย ด้วยการเข้าพิธีอภิเษกสมรสที่ Maui บนหมู่เกาะฮาวาย...

(http://www.uppicfree.com/images/629_Ozzy82.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-629_Ozzy82.jpg)

หนึ่ง...สอง...                                                    ...สาม...เอ้า...จุมพิศเจ้าสาวได้  :-*  :-*  :-*
(http://www.uppicfree.com/images/245_Ozzy82.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-245_Ozzy82.jpg)  (http://www.uppicfree.com/images/722_Ozzy82.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-722_Ozzy82.jpg)

เริ่มตั้งแต่เหน่งใหม่ๆ สมัยทัวร์กับ Brad Gillis ในห้องแต่งตัวหลังเวทีแห่งหนึ่ง...

(http://www.uppicfree.com/images/541_Ozzy82.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-541_Ozzy82.jpg)

ผมคิดว่าช่วงประมาณ กลาง/ปลาย ปีนี่แหละครับที่ Ozzy Osbourne โกนหัว และนี่คือภาพที่ออกสัมภาษณ์ทางเคเบิ้ลทีวีในรายการ
Night Flight ปีเดียวกันนี้เอง...

(http://www.uppicfree.com/images/721_Ozzy82.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-721_Ozzy82.jpg)(โปรดสังเกตุว่าผมยังขึ้นไม่เยอะ)

Diary Of A Madman Tour 1982 มีคิวต่อยาวไปถึงสิ้นปี แต่ก็ต้องมาสะดุดหรือใกล้ตายตอนจบ เพราะว่า Rudy Sarzo เล่น
"โนโชว์" สมัย European Tour ดังนั้น Sharon จึงจัดการดึง Pete Way ซึ่งกำลังฟอร์มวง Wasted เข้ามาช่วยทีมงานโดยเล่น
สดด้วยกันประมาณ 10 คอนเสิร์ต...

(http://www.uppicfree.com/images/439_OzzyPeteWay82.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-439_OzzyPeteWay82.jpg)

ภาพนี้หาดูยากครับ ผมสแกนมาจากหนังสือที่ผมเก็บสะสมไว้  :)  :)  :)

ข้ามมาถึงปี 1983 และนี่คือโฉมหน้าของทีมงานอีกยุคหนึ่งของ Blizzard Of Ozz...

(http://www.uppicfree.com/images/279_Ozzy83.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-279_Ozzy83.jpg)

จากซ้ายไปขวา Jake E. Lee, Ozzy Osbourne, Tommy Aldridge, Don Costa และ Lindsay Bridgewater

ผมของ ท่านค้างคาววิปลาศ เริ่มยาวขึ้นเรื่อยๆ   ::)  ::)  ::)

อีกรูปนึงครับสำหรับ Ozzy Osbourne ในช่วงการแสดงสดของปลายปี 1982 หรือไม่ก็ ต้นปี 1983...

(http://www.uppicfree.com/images/859_Ozzy83.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-859_Ozzy83.jpg)

ผมว่าบรรดาสมาชิกเว็ปนี้ที่ได้อ่านและดูรูปภาพแล้ว คงพอจะเรียงลำดับของช่วงระหว่างปี 1982-1983 พอได้นะครับ  :D

อีกสามเดือนเต็ม...การตระเวณแสดงทัวร์จึงสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 5 เมษายน ปี 1983 พร้อมด้วยการอัปเปหิของ Don Costa มือเบสอดีตสมาชิก
คณะ W.A.S.P. และผู้ที่เข้ารับตำแหน่งแทนไม่ใช่ใครที่ไหน กลับกลายเป็นการหวนคืนมาของ Bob Daisley มือเบสคนเก่าหน้าเดิม โดย
มีมหกรรมคอนเสิร์ตอันยิ่งใหญ่จ่อรอคิวเป็นการโหมโรงเล่นร่วมกันอีกครั้งในรอบเกือบสามปี...

(http://www.uppicfree.com/images/286_OzzyUSFestival83.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-286_OzzyUSFestival83.jpg) คนซ้ายมือคือ Bob Daisley ครับ

US Festival '83 ที่ Ozzy ต้องปรากฏตัวอีกทีบนเวทีถูกจัดขึ้นในวันที่ 29 พฤษภาคม ซึ่งพอถึงวันนั้นผมของ ท่านค้างคาวฯ ยาวพอสมควรแล้ว
ดังจะเห็นได้ตามรูปถ่ายด้านหลังภาพนี้เลย...

(http://www.uppicfree.com/images/865_OzzyUSFestival83.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-865_OzzyUSFestival83.jpg)

รูปด้านหน้าเห็นทรงผมชัดๆ ของ Ozzy ซึ่งเป็นภาพจากมหกรรมคอนเสิร์ตเดียวกัน...

(http://www.uppicfree.com/images/848_OzzyUSFestival83.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-848_OzzyUSFestival83.jpg)

หลังจาก US Festival '83 ในเดือน พฤษภาคม แล้วกว่า ท่านค้างคาวฯ จะกรายร่างย่ำขึ้นเวทีอีกครั้งก็เลยไปอีก 5 เดือนแล้วครับ คือ
ได้ฤกษ์งามยามดีเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน สำหรับคอนเสิร์ตในประเทศสวีเดน และนั่นก็เข้าสู่ยุค Bark At The Moon Tour ที่ผมได้เคย
เขียนไปแล้วยังงัยล่ะครับ  :D  :D  :D

...ต้องเล่า "ยาว" กันเลย เพราะจะได้เห็นว่ามันเป็นเวลา กว่าหนึ่งปี ก่อนที่ Ozzy จะได้ไว้ "ผมยาว" จนดูเป็นปกติเหมือนเดิม  ;)

ชักสับสน กันใหญ่แล้วครับพี่ท่าน
แปลว่า นักดนตรี มีสองชุดหรือครับ
อัดใน สตูฯ กับ เล่นคอนเสิร์ท  ???

ไอ้ผม ก็นึกว่ามีกันแค่นี้ ตามwiki.com
(http://www.uppicfree.com/images/241_ozzy.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-241_ozzy.jpg)

แปลว่า ข้อมูลจริงๆ ที่ยังไม่ได้ลงไซเบอร์สเปซ อีกบานเบอะเลยครับเนี่ย  ::)
ดีใจจริงๆๆๆ  ;D
ขอบคุณคร้า...บ  :D

ไม่ใช่สองชุดครับ หลายชุดเลยครับท่าน หวังว่าคงอ่านตามกันทันและพอเข้าใจนะครับ  :D



ผมก็บอกอยู่บ่อยๆ ว่าอย่าไปเชื่อฝรั่งมาก แล้วผมก็พยายามเขียนเพิ่มเติมจากที่พวกเราค้นหาอ่านกันได้อยู่
แล้วน่ะครับ มันจะได้เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจบ้าง ไม่มากก็น้อย

มาถึงตรงนี้ก็อยากจะชี้แจงอีกนิดนึงว่า Bernie Torme เล่นกับ Ozzy เพียงแค่ 7 โชว์แล้วก็ลาออก คนที่มาแทน
คือ Brad Gillis ซึ่งชื่อก็ไม่มีในชาร์ทอีกแล้วครับท่าน

ส่วนมือคีย์บอร์ดถ้าดูในชาร์ท มีเพิ่มมาอีกคนระหว่างช่วง Johnny Cook กับ Don Airey ปี 1981-1983 ซึ่งก็คือ
Lindsay Bridgewater แต่เจ้าตัว Don Airey นี่ก็ เข้า-ออก "คั่นตรงกลาง" ช่วงนั้นประมาณ 3 หนด้วยกัน

สำหรับมือเบสนั้นในชาร์ท หดหาย ไปถึงสามคน อันได้แก่ Rudy Sarzo, Pete Way และ Don Costa ครับ
...ข้อมูล ตกๆ หล่นๆ อย่างนี้ไม่สมควรให้อภัยนะครับเนี่ย  ???  >:(  ???

นี่ถ้าไม่มี รูป มาโชว์หลายคนก็คงจะไม่เชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ ดังนั้นผมเลยต้องร่ายยาวให้เห็นกันอย่างเต็มตา   :o  :o  :o



ขอบคุณที่เสียเวลาตามมาอ่านจนจบครับ ถ้ามีเวลาจะต่อ The Ultimate Sin ให้ได้อ่านและชมภาพกันอีก   :)  :)  :)

เข้าใจที่ คุณเพขร วิปลาส ทำครับ แต่ถ้าทิ้งต่อไปนานๆ แล้วไอ้สติ้คเกอร์มันมีสิทธิ์เหนียวเกินกว่าจะแกะหรือเปรอะเลอะ
เทอะได้ อีกอย่างนึงก็คือบางทีผมพลาดทำกล่องหักเพราะงัดแรงไปเลยเสียดายกล่องน่ะครับ ก็เลยทำแบบทุกวันนี้  :)



ครับก็ดีไปอีกอย่าง แต่ผมคิดว่าน่าจะสวมซองพลาสติกกันอีกซักชั้นถึงจะดีนะครับ  :D

ผมไม่รู้ข้อเท็จจริงครับ แต่เท่าที่ทราบ ผู้ที่เสียชีวิตทั้งสามคน ร่างกายไหม้หมดจนจำไม่ได้ ต้องชันสูตรพลิกศพด้วยวิธี
เช็คดูประวัติในการหาหมอทำฟันครับ แล้วนอกจาก มนุษย์ ที่เกรียมแล้วยังมี รถยนต์ ยี่ห้อ Oldsmobile กับ Ford Grandana
อีกสองคัน ซึ่งมอดไหม้เป็นเถ้าถ่านข้างในโรงจอดรถที่เครื่องบินเสียหลักพุ่งเข้าชนจนวอดวายด้วยครับ

ภาพนี้ไม่ค่อยชัดแต่หาได้เพียงแค่นี้ครับ...รูปโรงจอดรถในวันเกิดเหตุ 19 มีนาคม 1982...  :-[  :'(  :-[  :'(

(http://www.uppicfree.com/images/487_RandyRhoadsCrashSite.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-487_RandyRhoadsCrashSite.jpg)

(http://www.uppicfree.com/images/241_ozzy.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-241_ozzy.jpg)


[/quote]

...ดูจากตารางแล้วพอจะทราบเหตุผลมั้ยครับว่าทำไม Zakk Wylde ถึงได้อยู่ร่วมกับท่านค้างคาวได้ยาวนานกว่าใครอื่น...

...ดูจากตารางแล้วพอจะทราบเหตุผลมั้ยครับว่าทำไม Zakk Wylde ถึงได้อยู่ร่วมกับท่านค้างคาวได้ยาวนานกว่าใครอื่น...
[/quote]

นอกจากฝีมือดี คาแรคเตอร์ชัดเจน อีกอย่างที่สำคัญคือแกน่าจะบ้าพอๆกันครับ
ผมก็ยังทึ่ง Zakk Wylde เรื่องที่แกเล่นไปพ่นน้ำลายไปทั้งคอนเสิร์ตครับ
ไมค์พอร์ตนอยก็พ่นบ้าง นานๆครั้ง แต่ Zakk Wylde นี่พ่นหยั่งกะท่อแตกตลอด เอาน้ำมาจากไหนนักหนา  :D

สงสัยต่อมฉี่อักเสปเหมือนกันครับ
เลยพ่นน้ำลายฟู่ๆ พอกัน ทั้งเจ้านาย-ลูกน้อง

พี่โป่งคร้า..บ อย่าเพิ่งไปด่า วิกิ.คอมเลย
มันแค่ตัดตอนมาแค่อัลบั้มนั้นๆ ว่ามีใครเล่นบ้าง แล้วผมก็ลงมาด้วนๆ  :'(

เพื่อล้างบาปที่ก่อ
ผมทำตารางให้ใหม่ ตอนนี้ถึงปี 1983 แล้ว
พี่โป่งโม้มาเรื่อยๆ (พูดเล่น ;D)
ผมก็จะอัพ ตารางนักดนตรี ไปเรื่อยๆ ครับผม
ประมาณนี้ (ผิดตรงไหน บอกได้ครับ -ถ้าสมบูรณ์แล้ว ผมจะอัพเข้า วิกิ.คอม  8))
(http://www.uppicfree.com/images/992_ozzy01.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-992_ozzy01.jpg)

Zakk Wylde ผมว่าแกพ่นน้ำลายเกินเหตุ พ่นน้ำที่ดื่มยังพอเข้าท่า นี่พ่นน้ำบ่อน้อยอยู่นั่น ใครทะลึ่งอยู่ขอบเวที คงต้องคอยหลบ คอยลุ้น ฯ  :D

ผมเคยไปดูคอนเสิร์ตของเขาในสถานที่เล็กๆ เป็นบัตรยืนหมด โดยผมหนีไปยืนอยู่หลังสุดของห้องเลยครับ

ดูที่ประเทศอะไรครับพี่ พี่หมีเล่นในฐานะวงอะไรครับ Pride & Glory or BLS ???

หนีไปไกลขนาดนั้นเลย  :D :D :D

ผมพูดเล่นๆนะครับ ปล.แต่ผมว่าหน้าตาแก ออกจะเอ๋อๆดีนะครับ หะ หะ ฯ  ;)

ที่ญี่ปุ่น ในนาม Zakk Wylde เล่นในสถานที่จัดคอนเสิร์ตของห้างสรรพสินค้า ซึ่งวันนั้นระบบเสียงทึบและห่วยมากจนฟังแทบไม่รู้เรื่อง และเหม็นบุหรี่มากจนต้องเดินออกก่อนจบครับ

ช่วงของมือกลอง Tommy Aldridge มี Carmine Appice ขั้นด้วย อย่างที่ผมได้เคยโม้ไปแล้วเรื่องแผ่น 12" ซิงเกิ้ล
เพลง So Tired ยังงัยล่ะครับ  :D

เด็กญี่ปุ่นคนนี้ดังมาจากการนำเทปแสดงสดของตัวเองในงานประกวดมือกีตาร์แห่งนึงมาลงให้คนดูในเว็ป YouTube ซึ่งส่วน
มากเล่นเพลงของ Blizzard Of Ozz และ Black Sabbath แถมด้วย Classic Rock ระดับเทพอีกหลายเพลง

ถ้าข้อมูลผมจำไม่ผิด มีคน "ฮิท" ดูทั่วโลกประมาณ เกือบสองล้าน ครั้ง ก็เลยเรียกว่า เป็นวีดีโอ ที่ต้องยกขึ้นแท่นไปอีกคลิปหนึ่ง
ของประวัติศาสตร์ดนตรีร็อค

แล้ว ท่านค้างคาวฯ ของผมไม่มีทางตก "เทรน" อย่างแน่นอน  เพราะว่า Yuto Miyazawa ได้รับเชิญให้ไปปรากฏตัวในรายการ
ทีวี  The Ellen Show และช่วงท้ายมี surprise โดย Ozzy Osbourne โผล่ออกมามอบของที่ระลึก...

http://www.youtube.com/watch?v=Gz2fWwdvhOY

ผมว่าการตลาดของค่ายมวยค้างคาววิปลาส ไม่เลวเลยทีเดียว นอกจากจะเปลี่ยนมือกีตาร์เพื่อทำให้ดนตรีของ น้าอ้อดของ
บรรดาสาวกหูเหล็กทุกคนร่วมสมัยในแบบมีพลังอยู่เสมอแล้ว ยังมีเคล็ดลับเอาใจคนดูตามเหตุการณ์สำคัญที่มีคนสนใจซึ่ง
เกิดขึ้นทุกวันในสังคมของโลกดนตรีอีกด้วย

หลังจากออกรายการทีวีโชว์ Ozzy ก็คว้าตัว หนูยูโตะ เที่ยวตระเวณแสดงคอนเสิร์ตไปด้วยกันหลายครั้ง และทุกครั้งจะออกมา
ในช่วงของ encore ซึ่งผมว่ามันเปรียบเสมือน hightlight ก่อนจบคอนเสิร์ตเสียด้วยซ้ำไป เรียกว่าไม่ธรรมดามากๆ

ด้านล่างคือรูปเมื่อเร็วๆ นี้ ในเมือง Camden มลรัฐ New Jersey เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ปี 2010 ครับ...

(http://www.uppicfree.com/images/246_OzzyYutoMiyazawa.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-246_OzzyYutoMiyazawa.jpg)

แต่ว่าภาพที่เพิ่งเห็น เคลื่อนไหว ไม่ได้ ถ้าอยาดู ของจริง ต้อง click ลิ้งค์นี้เลย...

http://www.youtube.com/watch?v=0rtJOMBvLuQ&feature=related

อันที่เพิ่งดูจบไปเป็น Pro. Shot นะครับ ซึ่งผมว่าเสียงลีดกีตาร์ไม่ค่อยชัดซักเท่าไหร่นัก  ผมคิดว่า Audience Shot
ลิ้งค์ข้างล่างนี้ เวลา หนูยูโตะ กรีดสายกีตาร์มันชัดขึ้นมาอีกนิดนึงครับ ฟังดีกว่า Pro Shot เสียอีก  ;D

http://www.youtube.com/watch?v=Gz2fWwdvhOY

ไม่ต้องสงสัยกันนะครับว่า ตอนขึ้นต้นเป็นการลีดคู่พร้อมกันของสองมือกีตาร์ เด็ก v.s. ผู้ใหญ่  แต่ท่อนกลางนี่ฝีมือ
Yuto Miyazawa แกล้วนๆ ซึ่งรวมถึงตอนท้ายก่อนจบเพลงด้วย  :)

ผมประทับใจ หนูยูโกะ ตรงที่มีหน้าตายิ้มแย้มดูแจ่มใสตลอดทุกวินาทีของเพลง Crazy Train มันกลับทำให้เพลงมีชีวิต
ชีวาขึ้นมาอีกทั้งๆ ที่เคยฟังมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน

...แค่วีดีโอคอนเสิร์ตนี้ผมก็ดูซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่เบื่อเลยจริงๆ

ได้ชมกันแล้วมีความเห็นเป็นยังงัยบ้างล่ะครับ?

ผมเคยเห็นก่อนหน้านี้แล้วครับ ขอบคุณที่เอามารื้อฟื้น
ภาพที่พี่โป่งเอามาฝากนี่ ดูป๋า Ozzy มีความสุขมากนะครับ เหมือนแกได้เจอ Randy อีกครั้งเลย

เดี๋ยวผมหาเวลากลับไปดูที่บ้านอีกที ที่ทำงานดูได้แต่ภาพ  :)

ดูแล้วอิจฉาเด็กครับ :(

พี่โป่งแปะยูทูปง่ายนิดเดียว
1. กดปุ่มYou Tube ใต้ตัว I
 [ youtube=425,350][/youtube]

2. ก็อปปี้ลิ้งค์ เฉพาะขีดเส้นใต้ไปใส่
http://www.youtube.com/watch?v=0rtJOMBvLuQ&feature=related

 [ youtube=425,350]0rtJOMBvLuQ[/youtube]

.จะได้ยังงี้ครับ
  http://www.youtube.com/watch?v=0rtJOMBvLuQ

http://www.youtube.com/watch?v=Gz2fWwdvhOY

อายเด็กครับ

สุดยอดจริงๆครับ อยากให้เด็กๆที่มีความสามารถได้มีโอกาสแบบนี้กันเยอะๆ

ถ้าโตขึ้นน้องแกยังเล่นต่อไปรับรองอนาคตไกลแน่นอนครับ แต่เดียวนี้พวกเด็กรุ่นอายุไม่เกินสิบขวบที่เล่นดนตรีเก่งๆเยอะมาก เล่นเอาผู้ใหญ่อายไปเลยครับ

เห็นด้วยครับ กลัวจะเป็นแบบเพลง shine on you crazy diamond เพราะพวกที่เก่งและประสบความสำเร็จมากๆในตอนเด็กๆ ไม่รู้หายไปไหนกันหมด

Remember when you were young, you shone like the sun.
Shine on you crazy diamond.
Now there's a look in your eyes, like black holes in the sky.
Shine on you crazy diamond.
You were caught on the crossfire of childhood and stardom,
blown on the steel breeze.
Come on you target for faraway laughter,
come on you stranger, you legend, you martyr, and shine!
You reached for the secret too soon, you cried for the moon.
Shine on you crazy diamond.
Threatened by shadows at night, and exposed in the light.
Shine on you crazy diamond.
Well you wore out your welcome with random precision,
rode on the steel breeze.
Come on you raver, you seer of visions,
come on you painter, you piper, you prisoner, and shine!

เอ้อ...กระทู้น้าอ๊อดแท้ๆ ยังพาออกอ่าวไทยไปหาพิงค์ฟลอยด์ได้อีก

พอโตแ้ล้วความสนใจเปลี่ยนมั้งครับ เลยทำให้พรสวรรค์หายไปด้วย แล้วก็มีบางคนที่พอโตขึ้นแล้วไม่สามารถพัฒนาตัวเองขึ้นได้ ก็ถูกลืมไป

สำหรับผีนะ..

ขอเป็น"ดาวหาง" ดีกว่า เป็น"ดาวเคราะห์" ครัฟ..

(ถึงจะเสี่ยง แต่ ตื่นเต้นดีครัฟ)

รถไฟฟ้ามาหานะเธอ มากๆ 5555

ผมกลัวว่ารถไฟฟ้ามันมาพร้อมกันหลายคันน่ะซิครับ แล้ว ท่านผีฯ อาจจะสับรางไม่ทันเอา  :D

ผมว่าพี่โป่งประเมินท่านผีฯผิดไปแล้ว เพราะท่านผีฯคือนายสถานีรถไฟระดับมือพระกาฬครับ

มิกล้าๆ ท่านทั้งหลาย
อันข้าพเจ้า ยังด้อยไร้สามารถ มิกล้าเทียบรุ่นท่านโป่งวิปลาส(แปลว่า "บ้า") ได้ดอก

ขึ้นชื่อว่าผี ที่ฝันอยากจะเป็น "ดาวหาง" รึ
อย่างมาก มันก็เป็นได้แค่ "ไอ้ผี..พุ่งไต้" เท่านั้นเอง  :'(

ถ้าหากจะเป็นนายสถานี ก็ไม่แคล้วอยู่ขบวนรถไฟนี้..เท่านั้นแหละจ้า มาหลอกกันตรึม :P
(http://www.dvdup2u.net/images/thumb_1212476439.gif)

ว่าแต่ตอนนี้งานครบรอบ 30 ปี Blizzard of Ozz กับ Diary of Madman เงียบไปเลยนะ  ???

ผมเจอข่าวว่าเลื่อนไปออกปีหน้าโน่นเลยครับ 2011...
และตามความคิดของผม...ผมมีลางสังหรณ์ว่าดีไม่ดีอาจจะไม่ได้ออกด้วยซ้ำ เพราะว่าตกลงทางธุรกิจไม่ได้
กับ Bob Daisley และ Lee Kerslake  :(  :(  :(

ใครเป็นแฟนป๋าออสซี่มี account ของ facebook และเป็นสมาชิก Allmusiclover อยู่ คืนนี้ป๋าเขาจัดกิจกรรมให้แฟนๆได้แสดงออกกัน :D

====================

Subject: กิจกรรมคืนนี้ของป๋า
อาจจะต้องมีการเตรียมตัวหน่อย...เลยมาบอกกันก่อน...สำหรับเอ็งโดยเฉพาะนะเนี่ย...

กิจกรรมคืนนี้คือ THE PLAYLIST อันมีขั้นตอนในการเล่นดังนี้

1.คิด concept ของ playlist มาก่อน เช่น "เพลงดิสโก้ที่ผู้หญิงร้องนำ" "เพลงที่เฮียฮ้อน่าจะมอบให้แอนนี่" "สุดยอดเพลงที่ป๋าออสซี่ร้องไว้กับแบล็คซับบาธ" หรือ "เพลงที่อยากเปิดสมน้ำหน้านาดาล"

2.เลือก 5 เพลงที่อยู่ในคอนเซ็พนั้นๆ และหาคลิปจาก youtube หรืออะไรก็ได้

3.ถ้าเป็นไปได้ สร้าง youtube playlist หรือถ้าทำไม่เป็นก็ไม่เป็นไร ใส่ลิงค์เพลงต่อเพลงก็ได้

4.หาภาพปลากรอบ playlist นั้นๆ อันนี้ไม่ต้องวิลิศมาหรา ภาพอะไรก็ได้ ให้เข้ากับชื่อ playlist

5.post ภาพพร้อมกับใส่คำบรรยายและลิงค์ลงใน aml wall เหมือนกับที่ทำใน My Top Ten Forever

6.กิจกรรมนี้ให้โพสต์กันได้คนละ 2 เพลย์ลิสต์ รวม 10เพลง

7.ห้ามโพสต์แยกเป็นเพลงๆเด็ดขาด เพราะมันจะเยอะมาก

8.ไม่เข้าใจถามแอดมินได้

ดูตัวอย่างที่ป๋าทำไว้ที่นี่

http://www.facebook.com/photo.php?pid=61923&l=96e58e85ac&id=100001638128205

ไหนๆ ก็มีคนตั้งกระทู้ให้ ท่านค้างคาววิปลาศ มาตั้งแต่ต้นแล้ว ซึ่งคนที่เริ่มไอเดียดันไม่ใช่มนุษย์เสียด้วย แต่เป็น ผีที่ชอบฟังเพลง
ส่วนตัวคนเขียนเองก็ไม่ถึงกับเป็น บุคคลวิปริต แค่ใกล้เคียงกับคำว่า จิตไม่ว่าง เท่านั้นเองครับ เพราะถือคติว่า...

"สัปดน วันละนิด จิตแจ่มใส" ตามที่ อาจารย์ประยูร จรรยาวงษ์ นักเขียนการ์ตูนชื่อดังในอดีต ( R.I.P.) ได้เคยกล่าวเอาไว้เสมอ

...ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ตาม Mr. Madman (still) Alive! ครับ ตามชื่อแผ่นบู้ทเล็คของท่านผีฯ  ;D

เฉกเช่นเดียวกันกับ Ozzy Osbourne นักร้องที่มีคนให้ความสนใจมากที่สุดคนหนึ่งในวงการบันเทิง ตั้งแต่เริ่มกัดหัวนกตายต่อหน้า
ต่อตาสื่อมวลชนในงานเลี้ยงของบริษัทแผ่นเสียงต้นสังกัดเมื่อประมาณปี 1980 โน้นเลย...

(http://www.uppicfree.com/images/958_Ozzy.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-958_Ozzy.jpg)

ซึ่งเรื่องของ กรรม นี่มัน สนองกรรม ได้เร็วพอสมควรมากในสมัยนี้เพราะไม่ต้องรอเห็นกันในชาติหน้าเหมือนที่คนโบราณเคยเชื่อถือ
กันมา ท่านค้างคาวฯ ก็เลยโดนสัตว์ปีกกัดเข้าให้บนเวทีเป็นการแก้แค้นแทนเพื่อนร่วมเหล่าเดียวกันหลังจากนั้นไม่นาน

แต่ด้วยความเป็นคน ไม่ซีเรียส แถมติดตลกเล็กน้อยก็เลยให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า....

"I got rabies shots from biting a head off a bat...but that's OK - the bat had to get Ozzy shots!"

หลายคนนึกว่าการที่ พี่อ้อด จัดการโกนศรีษะทิ้งนั้นสืบเนื่องมาจากว่าจิตใจอันไม่ปกติที่เริ่มทำท่าจะ บ้องส์ ขึ้นมาทีละนิด จากพิษบ้า
ของค้างคาวที่กัด และเรื่องราวรวมทั้งอุปสรรคที่ โถม เข้ามาก่อปัญหาให้แก่ Ozzy ในช่วงเวลานั้น แต่ความจริงแล้วอาจเป็นแผนการ
เพื่อ โปรโมท ชื่อเสียงจากมันสมองของ ผู้จัดการคนเก่ง ที่ชื่อว่า ชารอน ออสบอร์น ก็เป็นได้ ใครจะไปรู้ทัน ;D

ถึงแม้จะเสียมือกีตาร์คู่บารมีฝีมือดีอย่าง Randy Rhoads ไปแล้ว บางทีอาจกล่าวได้ว่า ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาบนถนนหนทางแห่งโลก
ดนตรีร็อคสายนี้ Ozzy Osbourne คนนี้นี่แหละเป็นผู้ สรรสร้าง หรือ เปิดตัว มือลีดกีตาร์เข้าสู่วงการได้มากที่สุดคนหนึ่งเลยทีเดียว

ใช่ครับ...หลังจาก Randy Rhaods, Bernie Torme และ Brad Gillis แล้ว มือกีตาร์ที่ได้ไต่เต้าอันดับและขึ้นหิ้งเป็นที่ยอมรับของบรรดา
สาวกหูเหล็กเรียบร้อยคนต่อมา ก็คือ Jake E. Lee...

และนี่คือ อารัมภบท ของภาคต่อไป จาก ท่านค้างคาววิปลาศ กับผลงานที่ตั้งชื่อเอาไว้ว่า The Ultimate Sin ครับ  :D

แต่ตอนนี้ใกล้เช้าแล้ว พอดีลูกร้องต้องขอตัวไปให้นมลูกก่อน...

(http://www.uppicfree.com/images/660_Ozzy.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-660_Ozzy.jpg)

เย้... พี่ Pong-Wanchai คัม แบ๊ค แล้ว ดีใจจังฮู้ :D

+1 ขอบคุณครับพี่ :D

ผมคิดว่าก่อนที่จะได้อ่านเรื่องอัลบั้ม The Ultimate Sin ของ ท่านค้างคาววิปลาส กันน่าจะอัดคอนเสิร์ตสมัยนั้นมาให้กระแทก
รูหูเป็นการชิมลาง เพื่อทุกท่านจะได้มี "อารมณ์ร่วม" ซึ่งจะทำให้บทความสนุกยิ่งขึ้นไปอีก  :D

และนี่คือ Cue Sheet ของแผ่นเรดิโอโชว์ จากคอนเสิร์ต ณ. Kemper Arena ในเมือง Kansas มลรัฐ Missouri ประเทศสหรัฐ
อเมริกา เมื่อวันที่ 1 เมษายน ปี 1986 จากรายการ King Biscuit Flower Hour เจ้าเก่าครับ...

(http://www.uppicfree.com/images/572_OzzyKBFHCue.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-572_OzzyKBFHCue.jpg)

รายชื่อเพลงเห็นได้อย่างชัดเจน.

สำหรับภาพที่เห็นข้างล่าง ก็คือ แผ่นซีดี ที่ใช้เปิดออกอากาศจริงๆ เมื่อปี 1992 พร้อมซองกระดาษที่ใส่มาด้วยกัน

(http://www.uppicfree.com/images/889_OzzyKBFHCD.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-889_OzzyKBFHCD.jpg)  (http://www.uppicfree.com/images/256_OzzyKBFH.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-256_OzzyKBFH.jpg)

หากใครเป็น แฟนพันธุ์แท้ ของ อ๊อสซี่ อ๊อสบอร์น น่าจะพอทราบว่าการแสดงสดที่เมือง แคนซัส ในคืนนั้นเป็นคอนเสิร์ตครั้ง
เดียวกันกับ วีดีโอ เลเซอร์ดิสค์ และ ดีวีดี ของผลงานที่ชื่อว่า The Ultimate Ozzy นะครับ  :D

แต่อย่าเพิ่ง โวยวาย ไปว่าทำไมระดับ ส.ว. อย่างนี้ถึงเลือกคอนเสิร์ตซ้ำๆ มาอัดให้ฟังกัน  ???

(http://www.uppicfree.com/images/256_OzzyUltimateVHS.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-256_OzzyUltimateVHS.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/598_OzzyUltimateLD.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-598_OzzyUltimateLD.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/467_OzzyUltimateDVD.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-467_OzzyUltimateDVD.jpg)

คิดจะลงมือนั่งรอไรท์แผ่นซีดีให้ทั้งทีมันต้องมีอะไรดีๆ ซิครับ ไม่อย่างงั้นก็เสียเวลาไปเปล่าๆ  8)

ไม่ว่าจะเป็นสินค้าสามรูปแบบดังที่ได้กล่าวไปเบื้องต้น หากเคยดูมาแล้วคงพอนึกออกว่า เพลง Shot In The Dark กับ
The Ultimate Sin นั้นเป็นเพียง Music VDO ไม่ได้เป็นคอนเสิร์ตดั่งเช่นแทร็คอื่นๆ

ทว่าในรายการของ KBFH ที่ผมมีนั้น ทั้งสองเพลงที่ได้เอ่ยถึงมันเป็นบันทึกการแสดงสดที่หาฟังไม่ได้จากที่ไหนหรือผลงาน
ที่ Ozzy Osbourne ออกมาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการจนถึงปัจจุบันเลย

เพราะฉะนั้น รีบๆ มาลงชื่อกันไว้ซะ เพียงสองวันเท่านั้นนะครับ หมดเขต วันวันศุกร์ตอนเที่ยงวัน ครับ (10/8/53) แล้วอาทิตย์
หน้าค่อยมาว่ากันต่อ  :D  :D  :D

...ขอกระซิบนิดนึงว่า คนที่เคยฟังแผ่นเรดิโอโชว์ซึ่งผมอัดให้ไปแล้ว คงจะรู้ดีถึงวินาทีที่เปิดฟังว่ามันให้บรรยากาศเหมือนกำลัง
สัมผัสกับการออกกาศทางสถานีวิทยุอยู่ที่เมืองนอกจริงๆ เพราะว่า มีทั้งเสียงคนจัดรายการ และ รวมถึงโฆษณาด้วย  :)

1) JKNoremorse ขอบคุณคร้าาาบ  :)

เพชร วิปลาสขอร่วมย้อนอดีตด้วยคนครับ  ;)

+1 ขอบคุณครับพี่  :D

PANTERISTA ครับท่าน
น้องชายพี่ JK นั่นเอง 55+

ตกลงมีสี่ท่านนะครับ ถ้าหากใครเกิดอยากฟังขึ้นมาตอนนี้ก็ต้องติดต่อใครคนนึงขอไรท์ให้เองก็แล้วกัน  ;D  ;D  ;D

แล้วก็ด้วยความที่เป็นคอนเสิร์ตของ ท่านค้างคาววิปลาศนี่เอง เมื่อไรก็ตามมี่ผมมีข้อมูลหรือทราบข่าวมาว่าทางรายการ
King Biscuit Flower Hour มีการออกอากาศบันทึกการแสดงสดของ Ozzy Osbourne ครั้งใด ก็พยายามติดตามเพื่อ
ซื้อมาเป็นเจ้าของให้ได้ เพราะว่าในสมัยนั้นหารายละเอียดได้ยากมาก

ดังนั้นการซื้อแผ่นเรดิโอโชว์แต่ครั้งบางทีก็ต้อง ทำใจ เพราะว่าอาจได้คอนเสิร์ตเดียวกันมาเป็นเจ้าของซ้ำแล้วซ้ำเล่า
แบบนี้ครับ...

(http://www.uppicfree.com/images/519_OzzyKBFHCue.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-519_OzzyKBFHCue.jpg)

ขอถามพี่โป่งว่า Ozzy นำเพลง Staying Alive ออกแสดงสดบ้างมั้ยครับ

ดูจากรูปกระทู้ข้างบนจะเห็นว่า วันที่ออกอากาศคือ ระหว่าง 30 พฤศจิกายน ถึง 6 ธันวาคม ในปี 1992 โดยมีรายชื่อเพลงที่เหมือน
กันเพียงแต่ว่าบางเพลงอาจมีการสลับที่เล็กน้อย

นอกจากนี้ยังมีคณะ Ugly Kid Joe เพิ่มเข้ามาในรายการด้วยอีกสองแทร็ค คือเพลง Too Bad กับ เพลง Everything About You ครับ

เลเบิ้ลแผ่นยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงเหมือนกันกับโชว์แรกที่ผมนำมาลงให้ดูทุกประการ...

(http://www.uppicfree.com/images/569_OzzyKBFH.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-569_OzzyKBFH.jpg)

ราคาแต่ละแผ่นก็ไม่ใช่ว่าถูกนะครับ แต่ทำยังงัยได้ในเมื่อตัดสินใจเป็นสาวกระดับนี้แล้วแถมยังชอบเก็บสะสมแผ่นเรดิโอโชว์อีก มันจึง
ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองโดยการซื้อโชว์ที่เคยมีแล้วมาโดยไม่รู้ล่วงหน้าก่อนมาอีกจนได้  ???  >:(  ???

เท่าที่ผมรู้ยังไม่เคยเห็นผ่านตามาเลยครับ แค่ฟังสตูดิโอเวอร์ชั่นก็ฮาพอแล้วจริงๆ หากนำไปแสดงสด
คงต้องเป็นงานที่ไม่ใช่คอนเสิร์ตเต็มๆ มากกว่า เนื่องจากอาจโดนสาวกของเค้าเอง โห่ เอาก็ได้  :D

ยังครับ...ยังไม่เข็ด

เข้ามาในยุค Y2K แล้ว ผมก็ยังอุตส่าห์ "คัน" อีกเพราะเห็นว่าเวลามันผ่านมานาน ทางรายการน่าจะเสนอคอนเสิร์ตใหม่ๆ บ้าง
ก็เลย "ลอง" ซื้อมาอีกสักครั้งนึง...

(http://www.uppicfree.com/images/660_OzzyKBFHCue.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-660_OzzyKBFHCue.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/974_OzzyKBFHCue.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-974_OzzyKBFHCue.jpg)

พอเห็น Cue Sheets ทั้งสองแผ่นแล้วก็เก็บแผ่นเข้ากรุเลยครับ เพราะหวังว่าอย่างน้อยน่าจะมีเพลงที่แตกต่างกันบ้างหากเป็น
คอนเสิร์ตเดียวกัน แต่ว่ามันเหมือนกันทุกประการจริงๆ ถ้าไม่นับโฆษณา  :'(  :'(  :'(

เอาแผ่นซีดีสมัยที่ทางรายการ KBFH เปลี่ยนเป็นแผ่น CD-R แทนที่จะเป็น silver pressed CD เหมือนสมัยแรกๆ มาให้ดูครับ

(http://www.uppicfree.com/images/655_OzzyKBFH.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-655_OzzyKBFH.jpg)

ผมว่าจะใช้แผ่นนี้เป็นต้นฉบับอัดให้น่ะครับ เพราะว่าถ้าเผื่อวันนึงแผ่นเกิดขัดข้องทางเทคนิคไม่สามารถเล่นได้ บางทีผมอาจขอ
ให้หนึ่งสมาชิกทั้งสี่ท่านอัดกลับมาให้ผมฟังบ้างก็ได้นะครับในอนาคตอันไม่แน่นอนข้างหน้านี้  ;D  ;D  ;D

แต่ผมได้อัดให้คุณโปโลตูนไปแล้วโดยใช้แผ่นซีดีแผ่นแรกที่ลงไปเมื่ออาทิตย์ก่อนโน้น เพราะฉะนั้นโฆษณาจะไม่เหมือนกัน
แตเนื้อในเหมือนกันทุกอย่าง แต่รายชื่อเพลงอาจสลับกันบ้าง  แค่นั้นเองครับ :D   :D   :D

พี่โป่งเคยฟังเพลงนี้ที่น้าออสซี่ร้องหรือเปล่าครับ? พอดีผมชอบ Peter Gabriel มากเลยพาลชอบเวอร์ชั่นนี้ไปด้วย :D

http://www.youtube.com/watch?v=F86qWCF5dXs

เพิ่งจะเคยฟังนี่แหละครับ ขอบคุณมาก  :D

ตกลงผมอัดรายการ KBFH ลงในแผ่น CD-R ให้ครบทั้ง 4 ท่านแล้วนะครับ แล้วก็เป็นโชว์เดียวกันทั้งหมด แทนที่บางท่านอาจจะ
ได้ก็อปปี้ของ Ozzy โชว์สุดท้ายที่ผมเพิ่งได้นำมาภาพมาลงให้ชมกัน

พอดีผมสังเกตุว่ามันขาดเพลง Shot In The Dark ไปหนึ่งแทร็คน่ะครับ ก็เลยตัดสินใจไม่นำมาเป็นต้นฉบับเพราะเพลงไม่ครบครับ.

ไม่เป็นไรครับ สุดแล้วแต่พี่โป่งจะจัดครับ

 :)ขอคั่น เป็นโฆษณาละกันครับ ไปเปิดดูSetlistโชว์ที่ญี่ปุ่นเมื่อไม่กี่วันมานี้ของท่านค้างคาวมา :D

Ozzy Osbourne Concert at Loud Park, Kobe, Japan Setlist on October 16, 2010
        
        Bark at the Moon
        Let Me Hear You Scream
        Mr. Crowley
        I Don't Know
        Fairies Wear Boots (Black Sabbath cover)
        Suicide Solution
        Road to Nowhere
        Shot in the Dark
        Rat Salad (Black Sabbath cover) (w/ guitar and drum solos)
        Iron Man (Black Sabbath cover)
        Killer of Giants
        I Don't Want to Change the World
        Crazy Train
        Encore:
        Mama, I'm Coming Home
        Paranoid (Black Sabbath cover)

ชอบ ไลน์กีตาร์ของ JAKE ในท่อนก่อนโซโล่ ในเพลง Crazy Train ครับ

มันเหมือนเป็นเครื่องหมายการค้าของเขาอย่างแท้จริง

(http://i2.photobucket.com/albums/y18/tfl/Pedals/P1010808.jpg)

ระหว่างกำลัง หาเทปยี่ห้อ อวาลอน มาย้อนอดีตซะหน่อย
ดันไปเจอเทปของ อั๋น501เข้า

เลยขอสอบถามความถูกต้อง จากคุณก้อยผู้เกรียงไกร ซะหน่อยว่า
ปกเทป กับ ต้นฉบับจริงๆ
มันคือที่ไหน อย่างไร
หรือเป็นความจริงตามเทปของ คุณอั๋นผู้อึดอัด

OZZY OSBOURNE
WELCOME TO HELL
(http://www.uppicfree.com/images/946_DSC07065.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-946_DSC07065.jpg)

นี่แหละครับที่ผมว่า ท่านผีฯ ตกขาว เป็นประจำ !!!

ไอ้เทปม้วนนี้ของยี่ห้อ 501 น่ะผมนำมันมา "ชำแหละ" แล้วก็ทำการ Unmasked ไปเรียบร้อยโรงเรียนของน้าอ็อด เมื่อปี
ที่ผ่านมา (2009) ขอรับกระผม

ตามไปดูและอ่านได้ที่หน้านี้เลย...

http://www.thaiprog.net/webboard/index.php?topic=2801.30

...อย่างนี้มันต้อง "ปรับ" ด้วยการเลี้ยงหนึ่งมื้อ เพราะว่าต้องมาเสียเวลาพิมพ์บอกแล้วก็หาลิ้งค์ให้อีกครั้งนึง  ???  :D  :D  :D