Thai Progressive Rock Community

Barclay James Harvest เป็นอีกคณะหนึ่งที่มีอายุยืนยาวมากไม่แพ้ The Moody Blues และมีผลงานทั้งอัลบั้มและซิงเกิ้ลออกมามากมายจนตามเก็บไม่หวาดไม่ไหว, ไม่ทราบว่าท่านชอบผลงานของ BJH ยุคไหนกันบ้างครับ ระหว่าง

- ยุคแรก (ซึ่งเล่นดนตรีแบบซิมโฟนิคร็อคแท้ ๆ มีวงออร์เคสตร้าแจมด้วย โดยมีผลงานสติวดิโออัลบั้มได้แก่ Barclay James Harvest, ... And Other Short Stories, Baby James Harvest, Once Again)

- ยุคที่สอง (เป็นยุครุ่งเรืองแห่งทศวรรษที่ 70 เมื่ออยู่สังกัด Polydor และยังมี Stuart Wooly Wolstenholme เล่นคีย์บอร์ดอยู่ มีผลงานตั้งแต่ชุด Everyone Is Everybody Else ถึง XII

- ยุคที่ Wolstenholme ลาออกไป จนเหลือสมาชิกอยู่แค่สามคน (ผลงานตั้งแต่ชุด Eyes Of The Universe เป็นต้นมา)

หลายคนมองว่าผลงานยุคแรกฟังยาก ส่วนผลงานที่ทำให้ BJH เป็นที่รู้จักกว้างขวางขึ้น น่าจะเป็นยุค Polydor แล้วท่านมีความเห็นอย่างไรกันบ้างครับกับผลงานของวงดนตรีวงนี้

เนื่องจาก Mel Pritchard มือกลองของวงนี้ได้เสียชีวิตไปแล้ว จึงขอถือโอกาสนี้ไว้อาลัยมือกลองผู้มากฝีมือคนหนึ่งของวงการด้วยครับ

ชอบยุคแรกและยุค 2 ครับ ส่วนยุค 3 ชอบเฉพาะ Eyes of the Universe แต่ก็ยังตามเก็บอยู่ทุกชุด อย่างน้อยก็เอาไว้ดูปกซึ่งสวยดี ผมชอบ DVD แสดงสดชุด Caught Live มาก แม้ว่า เสียงจะไม่ดี และภาพออกสีแดงมาก เพราะบันทึกไว้นานมากแล้ว แต่ก็เป็นการแสดงที่ได้เห็น Wooly Wolstenholme เล่นคีย์บอร์ด และร้องนำในบางเพลงครับ

ชอบผลงานของวงนี้มากครับ ชุดแรกที่มีโอกาสได้ฟังคือ Turn of The Tide ฟังแล้วชอบมากครับ มีโอกาสได้ฟังชุด Live Tapes  เป็นลำดับถัดมา หลังจากนั้น ก็เลยติดตามผลงานของวงนี้มาตลอดครับ
  ชุดที่ชอบค่อนข้างมากคือ Octoberon; Gone To Earth; XII; Time Honour Ghosts; Live นอกนั้นก็เฉยๆครับ

ผมแทบจะลอกคำตอบคุณ The Black Tulip ได้เลยนะครับเนี่ย ยกเว้นแต่ชุดอื่นๆผมก็ยังฟังได้อยู่ครับ ค่อนข้างประทับใจเพราะเป็นเหมือนประตูบานแรกสู่ prog world สำหรับผม ..

ชุด Turn of the Tide นี่เป็นหนึ่งในโปรเกรสสีฟร๊อคอัลบั้มแรกที่ผมฟังเลยครับ (จากเทปพีค๊อกของคุณพ่อผมครับ)

เพลง pop อย่าง How do you feel now นี่ยากที่จะปฎิเสธจริงๆเลยนะครับ ..

ขอเรียนถามคุณ panyarak ว่า ไม่ชอบผลงานของ BJH ตั้งแต่ชุด Ring Of Changes, Victims Of Circumstance เป็นต้นไปหรือครับ? หรือว่าซาวน์ดของดนตรีรุ่นนี้มันฉีกไปไกลจากที่เคยเป็นอยู่ และ DVD แสดงสด Caught Live นี้เป็นบันทึกการแสดงสดประมาณปีไหนครับ (ก่อนยุค 80 หรือเปล่า)

ขอบคุณครับ

1. ไม่ชอบแนวดนตรีตั้งแต่ Ring of Changes เป็นต้นมาแล้วครับ รู้สึกเพลงไม่เข้มข้นเหมือนก่อน
2. Caught Live บันทึกจากการแสดงในปี 1977 ครับ

ครั้งแรกที่ฟังวงนี้ เป็นเทป 4 track ชุด Live Tapes จำได้ว่า พอเริ่มเพลงแรก คือ เพลง Child of the Universe ที่มีเสียงเอฟเฟคขึ้นก่อน จนกระทั่งไปถึงท่อนที่มีกลอง มันช่าง เท่ห์จริงๆ ทุกวันนี้ยังขนลุกอยู่เลยกับ การเปิดอัลบั้มนี้


ชอบยุค 1, 2, 3  จนถึงยุค 80 ประมาณอัลบั้ม Victim of circumstances จากนั้นไม่ได้ตามเท่าไหร่เลย


ผมยังชอบงานในยุค 80 อาจเป็นเพราะโตมาในช่วงนั้นพอดี แม้ว่า เพลงอาจจะไม่เข้มข้นเท่ายุค 70 แต่ได้เสียงที่ใหม่ๆ และผมว่า วงนี้ ผสม ป็อบ เข้ากับ Prog ได้ถูกใจผมมากๆ

ต้องหามาฟังซะแล้วครับ

ขอแนะนำให้หา DVD แสดงสดชุด Classic Meets Rock ของ Barclay James Harves featuring Les Holroyd with Prague Philharmonic Orchestra มาดูครับ ที่จริงผมชอบเพลงและเสียงร้องของ Holroyd มากกว่า John Lees ซึ่งงานนี้มีเพลงเพราะๆ ที่เขาแต่งทั้งนั้น ยกเว้น Hymn เพลงเดียวที่เป็นของ Lees ประทับใจมากๆ ก็คือ Berlin เพลงนี้เสียงเครื่องสายจากวงออเคสตราช่วงส่งเพลงให้โดดเด่นมากๆ

ได้ฟังเพลงนึงแล้ว สุดยอดมากครับ

เป็นวงแรกที่ผมตามเก็บซีดีจนครบทุกชุดด้วยความสุขใจอย่างเป็นที่สุด

เพลงวงนี้เพราะโคตรๆ แต่ไฉนถึงไม่ดังในวงกว้าง

นั่นสิครับ ใน Last.fm ฟังไปแค่แสนเกือบๆ สองแสนเท่านั้นเอง (ปกติ เป็นล้าน) ผมชอบผลงาน And Other Short Story ครับ ไพเราะมากๆ

เป็นวงดนตรีวงหนึ่งที่ถูก underrate จากสื่อและนักวิจารณ์ในต่างประเทศ และไม่ดังในอเมริกา แม้แต่ในประเทศอังกฤษ บ้านเกิดของพวกเขา BJH ก็ยังไม่ค่อยจะดัง แต่ในยุโรปภาคพื้นทวีป โดยเฉพาะเยอรมนี วงนี้จะเป็นที่นิยมมากครับ

และเป็นวงหนึ่งที่เป็นนิยามของคุณภาพที่ไม่เกี่ยวกับความเป็นที่นิยม (popularity) ครับ

ถามแฟนวงนี้ว่า ชุดไหนน่าจะเป็นชุดที่ดีสุดของวงครับ

ล่าสุดเมื่อพฤหัสฯที่แล้วมีแผ่นซีดีแบบ Mini-LP เลียนแบบแผ่นเสียงงานยุคแรกออกมาอีกจำนวนนึง ผมกะว่าจะซื้อซ้ำชุด Once Again ครับ

(http://img81.imageshack.us/img81/346/6213930500jc9.jpg)

ความเห็นส่วนใหญ่ น่าจะยกให้ Gone To Earth ครับ แต่ผมให้ Everyone Is Everybody else ดีกว่าครับ เพราะเพลงมีความเป็นตัวของตัวเองสูงกว่า ไม่มีข้อสงสัยว่าไปเหมือนใครโดยบังเอิญ ทางเมืองนอกจะเห็นต่าง มักจะให้อัลบั้มในยุคแรกๆของวงซึ่งมีส่วนของ Blues และ Rock อยู่สูง

โดยความเห็นส่วนตัว น่าจะเป็นชุด Gone To Earth (1977) ซึ่ง BJH บรรลุจุดสูงสุดในการออกผลงานยุค Polydor ส่วนในยุคแรก (สังกัด Harvest) ผมขอยกให้เป็นผลงานชุด Once Again ครับ

ผลงานของ BJH แต่ละชุดมักจะถูกมองว่าคงเส้นคงวา ไม่มีอะไรแปลกใหม่ ไม่มีอัลบั้มใดโดดเด่นเหนือหรือด้อยกว่ากัน (คือมาตรฐานใกล้เคียงกันมาก) แต่ผมสังเกตว่าโทนดนตรีและรายละเอียดปลีกย่อยของผลงานแต่ละชุดจะแตกต่างกันออกไปบ้าง ไม่มากก็น้อย ขึ้นอยู่กับสไตล์เฉพาะของโพรดิวเซอร์แต่ละคน ได้แก่ Rodger Bain (โพรดิวซ์ให้ผลงานชุด Everyone Is Everybody Else), Elliot Mazer (โพรดิวซ์ให้ผลงานชุด Time Honoured Ghosts), David Rohl (โพรดิวซ์ให้ผลงานชุด Octoberon, Gone To Earth, Live Tapes), Martin Lawrence (โพรดิวซ์ให้ผลงานชุด XII, Eyes Of The Universe, Turn Of The Tide), Pip Williams (โพรดิวซ์ให้ผลงานชุด Ring Of Changes, Victims Of Circumstances) และสังเกตว่าแม้วงจะถูก underrate ขนาดนี้ ผลงานยังออกมามากมายจนแฟนตัวจริงตามเก็บไม่ค่อยหมดเลยทีเดียวละครับ

ชุดนี้ราคาเท่าไรครับ (เห็นแล้วชักอยากได้)

ผมมีผลงานสี่ชุดนี้ (ซีดี) ที่ออกเป็นซีดีสองแผ่นแยกจากกัน คือ พูดง่าย ๆ ว่าสองอัลบั้มต่อซีดีหนึ่งแผ่น และรีมาสเตอร์ด้วย แต่เป็นแผ่นที่ผลิตในอังกฤษครับ เสียงดีใช้ได้ แต่ที่ชอบเป็นพิเศษคือ คำนิยมที่พิมพ์มาเป็นเล่ม ได้อ่านประวัติช่วงนี้กันเพลินเลยครับ

มีแต่ชุด Octoberon ตอนนี้เจอชุด Once Again แล้วครับ กำลังโหลดอยู่

ถ้าจำไม่ผิดจะอัลบั๊มล่ะ $22 ครับ กะว่าจะสอยชุดชุด Once Again ตามที่ได้ลั่นวาจาเอาไว้ข้างบน (แต่ต้องขอยกยอดไปเดือนหน้า เพราะเดือนนี้กรอบแห้งเหลือแต่กระดูกแล้วครับ)  :-\

เห็นมีกล่องโตๆวางอยู่ข้างๆด้วย ค่าตัวเป็นอย่างไรครับ

ค่าตัวมหาโหดครับ เพราะต้องซื้อให้ครบทั้งซีรีย์นี้ (ไม่แน่ใจว่า 4 ตามรูปหรือว่า 5) เกินได้แต่ห้ามขาด แล้วก็จะได้กล่องไปใส่เล่นครับ เฉพาะที่ร้าน diskUnion ณ โตเกียวแห่งเดียว (ซื้อแยกแต่กล่องก็มีครับ ต้องลองหาที่ eBay ครับ เพราะเคยเห็นมีคนเอามาประมูล) ส่วนผมขอหากล่องร้องเท้ามาแล้วหาภาพปกสวยๆของวงแปะใส่แทนดีกว่าครับ  ;D

ถ้าเรื่องกล่อง Mini-LP นี่ต้องผู้เชี่ยวชาญ และชำชอง แถมโชกโชน อย่างพี่ No.7 ครับ เพราะเห็นกระทู้ Renaissance Box ข้างล่างแกมีหมดทุกกล่องเลย  :D

ที่แท้ก็กล่องกิเลศนี่เอง (ล้อเล่นนะครับ อย่าซีเรียส)   ;)

ส่วนตัวผมคิดว่าผลงานของวงนี้น่าฟังแทบทุกชุดครับ ถึงแม้งานชุดหลังๆดนตรีจะไม่เข้มข้นเหมือนยุคแรกๆ แต่ก็ยังเป็นอัลบั้มที่ฟังได้ไพเราะนุ่มนวล ฟังได้เรื่อยๆและมีความสุขครับ  ;)

เห็นด้วยมาก ๆ ครับ

ทราบมาว่าชุดนี้ทั้งชุด (รวมกล่องด้วย) ใน eBay จะมีราคาซื้อขาย/ประมูลอยู่ราว ๆ ไม่เกิน US$ 130.00 ถ้าเกินว่านี้ถือว่าแพงครับ

ผมว่าถ้าไม่เอากล่อง ซื้อแยกเป็นชิ้นถูกกว่านะครับ ตกชิ้นล่ะ $23 เองครับ

ใช่ครับ ราคาแต่ละแผ่นจะอยู่ราว ๆ ที่ว่ามานี้ (หากไม่เอากล่อง) และไม่ควรเกิน $25.00 ครับ

4 ชิ้น = 92$ ค่ากล่องอีก 38$ ไงครับ  :D

กล่องแพงจัง ทำด้วยอะไร

ตอบจริงๆก็ ทำด้วยกระดาษครับ





ตอบไม่จริงก็ ทำด้วยเสน่ห์ยั่วยวนจิตใจให้ลุ่มหลงครับ

ก็คงเป็นแค่กระดาษแข็งอาบมันน่ะครับ ที่แพงก็คงเป็นเพราะว่ามันเป็น collector's item แต่ถ้าไม่ซีเรียสก็จะซื้อเฉพาะแผ่นก็ได้ ซึ่งราคาแต่ละแผ่น (ใหม่) มันจะอยู่ราว ๆ ที่ว่าไว้ข้างต้น

อัลบั้มสี่ชุดแรกของ BJH เป็นเสน่ห์ที่น่าลุ่มหลงของดนตรี prog ต้นยุค 70 ครับ

พวกเพลงโปรเกสสีพหาซื้อได้ที่ไหนบ้าง เพราะไปกี่ร้านกี่ร้านไม่เห็นมีขายเลย วันก่อนแวะไปดูร้านแมงป่องมีแต่พวกเพลงร็อค

ไปโดเรมีสยาม
หรือ J.U.พันธุ์ทิพย์สิครับ

Gram Paragon

ชอบจังเลยครับคำนี้

รวมกล่องด้วย เจอค่าส่งอานเหมือนกันครับ
ใครมีโรงพิมพ์ จะทำกล่องแบบว่า ไปแข่งคงได้กำไรดีนะครับ

แล้วถ้ามีค่ายเทปล่ะครับ

ค่ายเทปคงยากที่จะทำงานเก่าๆและไม่ดังมากแบบนี้ออกมาหรอกครับ ไม่คุ้มสำหรับการขายเลยครับ  :D

เรียนคุณ panyarak ผมได้ดูดีวีดีคอนเสิร์ต BJH Featuring Les Holroyd ซึ่งร่วมเล่นกับวงออร์เคสตร้าแล้ว ขอบคุณมากครับ แต่นักดนตรีแบ็คอัพนี่ไม่คุ้นหน้าคุ้นตาเลย มือลีดกีตาร์เล่นได้ดีมาก คงไม่ใช่ทีมแบ็คอัพที่เคยร่วมงานกับ BJH ใช่มั้ยครับ?

เป็นทีมใหม่ของ Les Holroyd ยกเว้น Colin Browne ที่เล่นคีย์บอรด์เวลาทัวร์ให้ BJH วงดั้งเดิมก่อนแตกเป็น 2 เสี่ยง ผมว่า เขาช่างหามือกีตาร์หน้าและทรงผมเหมือน Les Holroyd มาได้

(http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/bj4.jpg)
Les Holroyd (http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/bj2.gif)
มือกีตาร์ Michael Byron-Hehir (http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/bj1.gif)
มือคีย์บอร์ด Colin Browne (http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/bj3.gif)

มือกีตาร์นี่ผมไม่เคยได้ยินชื่อของเขามาก่อนเลย แต่ Colin Browne สิครับ ดูชราลงไปเยอะจนผมจำไม่ได้ เพราะเคยเห็นรูปของเขาที่ถ่ายไว้เมื่อหลายปีก่อน ซึ่งตอนนั้นยังดูหนุ่มกว่านี้มากครับ (ตอนแรกผมนึกว่าเป็น Bias Boshell เสียอีก)

Bombadil เป็นนามแฝงของ BJH เมื่อครั้งที่ออกซิงเกิ้ลเพลงบรรเลงชื่อ Breathless ใช่หรือไม่? มีใครพอจะช่วยยืนยันได้บ้างครับ

จาก www.answers.com ครับ

External works
The band released a single "Breathless"/"When the City Sleeps" under the pseudonym of "Bombadil" in 1972. "Breathless", an instrumental, was credited to "Terry Bull" (actually John Lees). The B side "When the City Sleeps" was credited to "Lester Forest" (actually Woolly Wolstenholme), who also played every instrument and sang. This obscure track made an appearance on the soundtrack in the 2007 series Life on Mars, although it was not featured on the CD release.

เป็นเรื่องบังเอิญโดยแท้เลยครับที่วันมีทติ้ง คือวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา ช่วงสาย ๆ ผมเอาแผ่น Live Tapes มาเปิดฟัง พอตกตอนเย็นเดินทางมาถึงสถานที่มีทติ้ง คุณ panyarak ได้กรุณาอัดแผ่น DVD ชุด Caught Live ของ BJH มาให้ผมไปดู พอได้ดูก็ทราบว่าเป็นบันทึกการแสดงสดของ Live Tapes แต่มีเพียงไม่กี่เพลงเท่านั้น และมีภาพเบื้องหลังการทัวร์คอนเสิร์ต การซักซ้อม และการจัดเวทีก่อนการแสดงของวงนี้ด้วย ซึ่งหาดูได้ไม่ง่ายนัก ก็ขอขอบคุณ คุณ panyarak อีกครั้งครับ 

เมื่อวานไปบ้านพี่ชายได้ยืม BJH มา 2 ชุด หวังว่าจะไม่ทำให้ผมติดใจจนต้องไปซื้อ mini lp มาเก็บอีก  ;D

อาจจะยากนะครับเนี่ย  :D

แอบไปดูมาแล้ว โชคดีที่ mini lp ของ BJH เป็นของค่าย Universal ที่มักทำโอบิไม่สวยเอาเสียเลย ดีแล้วครับจะได้ไม่เสียตังค์  :D

แต่ว่าไปเซ็ทนี้มันก็ดูยั่วดีนะครับ ถึงแม้โอบิไม่สวย ยืมรูปจากคุณไม่ประสงค์มานะครับ

(http://img81.imageshack.us/img81/346/6213930500jc9.jpg)

ผมชอบBJH เหมือนกันครับ ผมซื้อผลงานBJHที่เสียเงินซื้อครั้งสุดท้ายก็คือBOXSETเป็น ซีดีห้าแผ่นAll Is Safely Gathered In (an anthology 1967-1997)ยังจำได้ดีสมัยวัยรุ่นผมและเพื่อนชอบวงนี้มาก

ถ้าจะซื้อ mini lp ของ BJH มาฟัง ผมว่าน่าจะเริ่มที่ 5 ชุดถัดมาดีกว่าครับ น่าฟังกว่าเยอะ...
แต่ mini lp บางชุดอาจจะหายากหน่อยครับ

(http://img121.imageshack.us/img121/1407/72605234.jpg)

ผมว่าชุดแรกๆก็น่าฟังนะครับ ความเป็นพร๊อกอาจจะไม่เท่าชุดที่ออกต่อจากนั้น แต่ดนตรีก็ยังเต็มไปด้วยความงดงาม แถมได้อารมณ์แบบบ้านๆ กรุ่นไอดินกลิ่นไอหญ้าดีครับ  ;D

ขอเอาลิงค์มาแปะไว้หน่อยนะครับ ไว้เป็นข้อมูล

http://www.bjharvest.co.uk/ukalbums.htm

+1 เห็นด้วยครับ  :D  4 ชุดแรกจริงๆแล้ว Classic กว่า (sound ออกหม่นๆ style น้อง ((((l i l i u m))))™ เลย  :D)
แต่ที่แนะนำ 5 ชุดหลังเพราะผมว่าน่าจะฟังง่ายกว่า 4 ชุดแรก สำหรับคนที่เริ่มฟังครับ (ผมชอบหวานๆน่ะครับ  ;D)

ผมก็เริ่มจากหวานๆ และชอบมากกว่าเช่นกันครับ  :D

ผมเริ่มจาก Turn of the Tide ก่อนเลย  ;D

mini lp ยุคแรกมือหนึ่งยังมีขายอยู่ cdjapan เลย แถมลดราคาต่างหาก นอกจากชุด Once Again ที่หมดและหายากแล้ว ส่วนยุคสองก็ยังหาซื้อได้ไม่แพงนอกจากชุด Gone To Earth ที่หายากเหมือนกัน ที่แน่ๆของปลอมรัสเซียเกลื่อนอีเบย์เลย จะซื้อต้องดูให้ดีครับ

ว่าแต่ Once Again และ Gone To Earth นี่หายากเพราะงานดีหรือเพราะปกสวยครับ  ::)

Once Again และ Gone To Earth ถือเป็นผลงานสุดยอดของ BJH ยุคแรก (สังกัด Harvest) และยุคที่สอง (สังกัด Polydor) ตามลำดับครับ

Gone to Earth เป็นปก gimmick คนเลยซื้อไปเก็บกันเยอะ เห็นของรัสเซียออกมา ราคาถูก และทำสวยดีครับ

เท่าที่อ่านนี่สังเกตุว่าอัลบั้มไหนที่เราได้ฟังเป็นอัลบั้มแรก มักเป็นอัลบั้มที่เราจะชอบเป็นพิเศษอย่างคุณปีศาจ, คุณ Analog Kid จะชอบ Live Tapes คุณหมอ Black Tulip, คุณ polotoon กับน้องเหม่งจะชอบ Turn The Tide เป็นอัลบั้มแรกๆ ก็คงเหมือนพี่ชายผมที่ชอบอัลบั้มแสดงสด Berlin ที่ฟังจากเทปพีค๊อกสมัยก่อน ผมเพิ่งยืมแผ่น Berlin จากพี่ชายมาฟังเมื่อเช้านี้ฟังไปครึ่งแผ่นก็พบว่ามีเพลงเพราะมากๆซึ่งก็คงเป็นเพลงเด่นจากอัลบั้มเก่าๆของทางวงเช่น Mockingbird และ Nova Lepidoptera เดี๋ยวเย็นนี้กลับไปฟังต่อ

Mockingbird ผมฟังแบบแสดงสดแล้ว ชอบกว่าแบบสตูดิโอมากเลย หรืออาจจะเพราะ ได้ฟังมาก่อน ได้ฟังมาก เคยชินมากก็ได้ครับ  :D

+1 ครับ  และหลายๆเพลง ก็มาในทำนองเดียวกัน เช่น rock and roll star เป็นต้น

เห็นอัลบั้ม Live Tapes มีแบบ Expand ที่เพิ่มเพลงในแผ่นมา (มีเพลง Medecine Man ยาวเกือบ 12 นาที) อยากทราบว่าถ้าจะซื้อควรซื้อแบบเก่าหรือแบบใหม่ครับ เกรงว่าเพิ่มเพลงมากๆจะทำให้ความขลังในการฟังแบบของเก่าลดลงไปหรือเปล่า?

เห็นว่าปกติ เวลาที่ซื้อครั้งแรก มักจะมองหาเวอร์ชั่นล่าสุดกันนะครับ ถ้าเป็นเพลงในคอนเสิร์ตเดียวกัน เรียงเพลงตามจริงแล้ว ผมว่าก็น่าสนใจนะครับ แม้ว่าอาจจะเป็นเพลงที่เคยถูกตัดออกไปก่อนก็ตาม แต่เชื่อไหมครับว่าคนที่เคยฟังเวอร์ชั่นเทปม้วนเดียวของพีค็อกต้องชอบแบบสั้นๆและเพลงไม่ครบนั้นที่สุดแล้ว  :D

นั่นคือประเด็นที่ผมให้ความสำคัญครับ อัลบั้มนี้มันคลาสสิคจากสมัียก่อน ผมก็อยากฟังในปริมาณที่เหมือนคนสมัยก่อนฟัง ถึงแม้ของใหม่ได้เพลงเพิ่มซึ่งอาจได้ในแง่ความสมบูรณ์มากกว่า ยิ่งเห็นอัลบั้มต่างๆของ BJH มารีมาสเตอร์เพิ่มเพลง 1 ถึง 5 เพลงในอัลบั้มแบบซีดีนี่ มันดูลดคุณค่ายังไงไม่ทราบ สู้เอาเพลงแถมพวกนี้มารวมแผ่นเดียวขายต่างหากยังจะดีกว่า

มีเพลงอะไรในอัลบั้มแสดงสดใน Berlin บ้างครับ? ที่คนร้องไม่ใช่คนเดียวกับที่ร้องในเวอร์ชั่นสตูดิโอดั้งเดิม แล้วมีความต่างบ้างไหมครับ

Mocking Bird เดิมร้องโดย Wooly Wolstenholme (คีย์บอร์ด) แต่ในชุด Berlin ร้องโดย John Lees ซึ่งเสียงเข้มและชัดเจนกว่าและได้อารมณ์คนละแบบ และคีย์บอร์ดก็คนละสไตล์ เนื่องจากในการแสดงสด Berlin วูลลี่ย์ได้ออกจากวงไปแล้ว

เดิมเพลง Medicine Man ไม่มีบรรจุอยู่ในอัลบั้มแผ่นคู่ Live Tapes แต่เป็นแผ่น Live EP (แผ่นเสียงแผ่นเล็ก) แยกออกจำหน่ายต่างหากซึ่งมีเพลง 2 เพลงคือ Rock N Roll Star (เพลงเดียวกันกับใน Live Tapes) และ Medicine Man ซึ่งถูกแบ่งออกเป็นสองภาค เวลาฟังเพลงนี้จึงต้องกลับแผ่นเสียงเล่นต่อในหน้าสองถึงจะเล่น Medicine Man ได้จนครบเพลง แต่ในอัลบั้มรวมเพลงชุด Endless Dreams เพลง Medicine Man ซึ่งถูกแบ่งออกเป็นสองภาคใน EP ได้ถูกนำมาตัดต่อจนกลายเป็นเพลงเดียวที่สมบูรณ์และสามารถฟังได้ต่อเนื่องโดยไม่สะดุด (ในการเล่นสดมันก็คือเพลงที่เล่นสิบกว่านาทีจบ แต่ในยุคแผ่นเสียง ด้วยความจำกัดของร่องเสียง เพลงนี้จึงถูกตัดแบ่งออกเป็นสองภาคทั้ง ๆ ที่เป็นเพลงเดียวกันครับ)

ขอบคุณครับ ฟังอย่างนี้แล้วก็น่าซื้ำอเวอร์ชั่นใหม่แบบเต็มๆเหมือนกันครับ

กรณีที่เป็นซีดี ผมยังให้ความสำคัญกับซีดีที่จำลองเพลงจากอัลบั้มเดิมโดยไม่ขาดไม่เกินมากกว่า ส่วนพวกอัลบั้มรุ่นที่มีเพลงแถมเอามาล่อให้ซื้อซ้ำอีกนี่ผมจะไม่สนใจเลยครับ

Les Holroyd เป็นคนร้องเพลง Mockingbird ใน version ของ BJH featuring Les Holroyd ซึ่งเสียงนิ่มนวล และเพราะไปอีกแบบครับ

กำลังฟังอัลบั้ม Ring of Changes ที่ยืมพี่ชายมา ผมว่ามันไพเราะฟังสบายๆดีนะครับ เพลง Waiting For the Right Time ไพเราะมาก

ชุดนี้อยู่ในยุค 80's ที่ดนตรีของ BJH ลดระดับความเข้มข้นของโปรเกรสสีฟลงไปมาก แต่ก็ยังคงความไพเราะของบทเพลงไว้อยู่ อัลบั้มในช่วงนี้ที่ผมชอบก็ืคือ Turn of the Tide กับ Face to Face ส่วนอัลบั้มยุคหลังๆผมชอบชุด Caught in the Light มากที่สุดครับ

ชอบผลงานในช่วงนี้เหมือนกันครับ เป็น prog + pop ที่กลมกล่อมจริงๆ

เพิ่งฟัง Everyone Is Everybody Else จบรอบแรกไป รู้สึกเป็นงานนี่ลงตัวดีทีเดียวครับ ถึงแม้ซาวนด์อาจจะแน่นและหนักตามสไตล์โปรดิวเซอร์ไปหน่อย ตอนนี้ต่อด้วย Time Honoured Ghosts ฟังถึงเพลง Tiltles นี่ไพเราะเหนือคำบรรยาย ขึ้นต้นด้วยอินโทรของ Long and Winding Road ของ The Beatles เนื้อเพลงก็เหมือนเอาชื่อเพลง The Bealtes มาร้อยเรียงกันน่าจะเป็นการอุทิศให้ The Beatles สุดยอดจริงๆครับเพลงนี้

John Lees เล่าว่าเคยได้กีตาร์จาก John Lennon ด้วย เอ เหมือนมีเพลงชื่อ John Lennon's Guitar ด้วยนะครับ จำไม่ได้ว่าอยู่ชุดไหน  :D

อยู่ชุด Welcome to the Show ครับ แต่น่าเสียดายที่เพลงชุดนี้ออกจะจืดๆไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไร แต่อัลบั้มที่ออกต่อจากนั้นอย่าง Caught in the Light นี่ผมว่าโอเคเลยครับ ถึงแม้จะมีบางช่วงของอัลบั้มที่ชวนงีบหลับไปหน่อยก็ตาม

ตอนนี้หลงรัก Time Honoured Ghosts เข้าเต็มไปเปาแล้วครับ ทำไมมันไพเราะตั้งแต่ต้นจนจบอะไรแบบนี้ แล้วอัลบั้ม Gone To Earth ที่ว่ากันว่าที่ดีที่สุดในยุค Polydor นี้จะดียิ่งกว่าอัลบั้มนี้อีกหรือครับ  ???

จริงๆผมว่างานยุค Polydor นี่น่าฟังทุกชุดครับ แล้วแต่ว่าใครจะชอบชุดใหน ผมเองชอบชุด Gone to Earth ที่สุด ส่วนคุณพ่อของผมชอบชุด Octoberon ครับ

ครับ สงสัยต้องไล่เก็บทุกชุด  :D

วงนี้แปลกอย่างคือ แฟนๆมักจะไม่ค่อยเห็นตรงกันว่า ชุดไหนคือชุดที่ดีที่สุด

คงจะจริงครับ ลองดู listmania ของแต่ละคน  :D

http://www.amazon.co.uk/My-Top-10-Barclay-James-Harvest-Albums/lm/R2K0L7FP943N04/ref=cm_srch_res_rpli_alt_1

http://www.amazon.co.uk/My-Top-Barclay-James-Harvest-Albums/lm/R2F3DZQPOCH9FG/ref=cm_srch_res_rpli_alt_2

http://www.amazon.com/My-20-Desert-Island-Albums/lm/6B5XTRDCJ4SI/ref=cm_srch_res_rpli_alt_2

คงเป็นเพราะมีเพลงที่ไพเราาะปะปนอยู่ในแต่ละชุดมังครับ แล้วแต่ใครจะชอบแบบไหน
ส่วนผมชอบ Octoberon มากที่สุด

ว่าแล้วก็ขอขุดเอาของเก่าๆเอามาดูกันเล่นๆครับ  :D (มาช่วยกระตุ้นกิเลสคุณ Tron หน่อย :D)

(http://img297.imageshack.us/img297/9575/58935702.jpg)

(http://img214.imageshack.us/img214/8969/00scorpionslovedriveb.jpg)

คุณ Arnold นี่จับทางผมได้อีกแล้ว ตอนนี้ผมง่วนกับการหาของบนอีเบย์อีกแล้ว สนใจเซ็ท 5 แ่ผ่นล่างครับ

(http://img121.imageshack.us/img121/1407/72605234.jpg)

ฟัง Octoberon จบไปแล้ว เพลงเพราะๆเยอะเหมือนเคย เพียงแต่โทนรวมๆเหมือนเนือยๆซาวน์ลอยๆไม่ร๊อคมากเหมือนชุดก่อนๆ แต่ผมว่ามันก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบครับ เพลง Rock N'Roll Star เยี่ยมจริงๆ สงสัยคงต้องขอเวลาอีกนานกว่าจะตัดสินได้ว่าชอบชุดไหนมากกว่ากัน เลือกยากจริงๆครับ  :D

ได้ฟัง Mockingbird ทั้งแบบต้นฉบับ, Live Tapes และ Berlin แล้ว คงต้องบอกว่าผมติดเสียงเปียนโนในเวอร์ชั่น Berlin มากๆ คงต้องให้เวอร์ชั่น Berlin เป็นเวอร์ชั่นที่ชอบสุดไปโดยปริยายครับ แต่เวอร์ชั่นดั้งเดิมแบบซิมโฟนิคก็ทำไ้ด้เยี่ยมคลาสสิคเหมือนกันครับ

http://www.youtube.com/watch?v=Cufotls4hRY

ผมชอบ XII มากที่สุดครับ

- ถ้าจำไม่ผิด อัลบั้ม Everyone Is Everybody Else โปรดิวซ์โดย Rodger Bain ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์ของวง Black Sabbath แต่ในชุดนี้มีเพลง Child Of The Universe ซึ่งเป็นสติวดิโอเวอร์ชั่นที่เล่นไม่เหมือนกับเวอร์ชั่นที่นำออกแสดงสดในชุด Live Tapes และ Berlin แต่จะหาฟังสติวดิโอเวอร์ชั่นที่แตกต่างเช่นนี้ได้ในอัลบั้มรวมเพลง Endless Dreams

- ต่อมาในปี 1975 BJH ได้ออกผลงานชุด Time Honoured Ghosts ซึ่งโปรดิวซ์โดย Elliott Mazer ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์ของศิลปินหลายคนในยุคนั้น เช่น Neil Young, Linda Ronstadt etc. ดังนั้น ผลงานชุดนี้ค่อนข้างจะฉีกแนวไปจากอัลบั้มชุดก่อน โดยมีกลิ่นอายของดนตรีคันทรี่ร็อค, โฟล์ค และไซคิเดลิค และอิทธิพลของ Pink Floyd และ Neil Young เจือปนอยู่ประปราย ผลงานชุดนี้มีเพลงดีน่าฟังและปกก็สวยด้วย ดูเท่าไรก็ไม่เบื่อครับ

- ผมคิดว่า BJH ให้ความเคารพ The Beatles ในฐานะเป็นวงรุ่นพี่และเป็นวงต้นแบบให้แก่ BJH ด้วย สังเกตว่าหลายเพลงของ BJH ในยุคแรกจะมีลักษณะของ rock and roll เจือ psychedelic สไตล์ The Beatles ยุคหลังก่อนจะแตกวงเจือปนอยู่ และให้สังเกตว่า BJH ยุคแรกอยู่กับสังกัด Harvest ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ EMI ต้นสังกัดของ The Beatles และสติวดิโอที่ BJH ใช้บันทึกเสียงในยุคนั้นก็เป็นที่เดียวกันกับที่ The Beatles ใช้บันทึกเสียงครับ (มีข้อมูลและข้อเท็จจริงบางส่วนปรากฏอยู่ในเพลง John Lennon's Guitar)

ความจริงผมเริ่มต้นฟังผลงานของ BJH ด้วยอัลบั้ม Turn of the Tide แต่ขอแนะนำ Live Tapes สำหรับผู้ที่จะเริ่มทำความรู้จักกับผลงานของ BJH ในยุครุ่งเรืองสุดขีด เพราะอัลบั้มคู่แสดงสดชุดนี้เปรียบเสมือนงานรวมเพลงฮิตของพวกเขาในลักษณะของการแสดงสดซึ่งส่วนใหญ่เล่นได้ค่อนข้างเหมือนสติวดิโอเวอร์ชั่นครับ

หลังจากออกคอนเสิร์ต Berlin วง BJH ก็หยุดพักผ่อนระยะสั้น ๆ ช่วงหนึ่ง แล้วก็กลับมาในช่วงต้นปี 80 ด้วยอัลบั้ม Ring of Changes ซึ่งทางวงเคยให้สัมภาษณ์ว่า "เปรียบเสมือนเป็นการแต่งงานใหม่อีกครั้ง" ถ้าจะให้เดาตามคำสัมภาษณ์นี้ก็คงเป็นเพราะอัลบั้มนี้มีวงออร์เคสตร้าร่วมเล่นด้วย ซึ่งอำนวยเพลงโดย Pip Wlliams ซึ่งเขาก็ยังรับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์อีกด้วย จากการที่มี Pip Williams เข้ามาเป็นโปรดิวเซอร์ ทำให้ผลงานชุด Ring of Changes และ Victims of Circumstance มีสไตล์คล้ายกับอัลบั้มร่วมสมัย คือ Long Distance Voyager และ The Present ของ The Moddy Blues เหตุเพราะผลงานเหล่านี้มีโปรดิวเซอร์คนเดียวกัน

แม้จะถูกวิจารณ์ว่าเป็นผลงานที่ค่อนข้างอ่อน แต่ Ring of Changes ก็บรรจุเพลงดี ๆ ที่ไพเราะเพราะพริ้งน่าจดจำมากมาย (โดยเฉพาะเพลงดี ๆ อัดแน่นอยู่ในหน้าสองของแผ่นเสียงทั้งสิ้น) เช่น Fifties Child, Waiting For The Right Time, Just A Day Away (Forever Tomorrow), Paraiso dos Cavalos แต่เพลงไทเทิลแทร็ค Ring of Changes ฟังแล้วค่อนข้างยืดยาดและน่าเบื่อไปหน่อย ไม่สมกับเป็นไทเทิลแทร็คเลยครับ

ขอบคุณคุณปีศาจที่แนะนำครับ ผมก็ได้ยินกิตติศัพท์ Live Tapes มานานแล้ว แต่ด้วยความที่ชอบฟังงานสตูดิโอเป็นหลักก่อนค่อยไปฟังงานแสดงสด ผมจึงอดไม่ได้ที่จะฟังงานสตูดิโอก่อนครับ เพื่อจำแนกซาวนด์และแนวทางในแต่ละอัลบั้มก่อน เสร็จแล้วก็จะไปฟังการแสดงสดอีกทีเหมือนสมมุติตัวเองเป็นแฟนเพลงรุ่นก่อนที่ฟังอัลบั้มแล้วไปดูคอนเสริต์อีกทีอะไรแบบนี้ครับ แต่ไม่ต้องห่วงครับผมคงต้องซื้อ Live Tapes และต้องฟังหลายๆรอบแน่ เพราะมันก็เหมือนรวมเพลงเด่นๆของ BJH ไปในตัว เห็นแฟนๆหลายคนบอกว่าเวอร์ชั่นแสดงสดใน Live Tapes ดีกว่าในสตูดิโอเสียอีก

BJH ในยุครุ่งเรืองนี้ทำดนตรีได้ค่อนข้างคงเส้นคงวา ดังนั้น จึงเป็นที่กล่าวกันว่าไม่มีอัลบั้มชุดไหนดีไปกว่ากันหรือเป็นที่สุด และเป็นวงดนตรีวงหนึ่งที่มีผลงานออกมามาก ทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ ไม่ว่าจะเป็น LP, EP, single และผลงานรวมเพลง ฯลฯ จนยากที่แฟนเพลงของวงนี้จะตามเก็บได้ครบครับ

เมื่อเช้าฟัง Gone To Earth จบรอบแรก โดยรวมผมกลับไม่ค่อยรู้สึกสะดุดอะไรมาก จะมีก็ Hymn, Poor Man's Moody Blues (ล้อเลีบนได้เนียนดี), Spirit of The Water ที่ไพเราะดี แต่ผมกลับรู้สึกชอบอัลบั้ม Time Honoured Ghosts และ Octoberon มากกว่าครับ ยังเสียดายนิดหน่อยถ้าอัลบั้ม Everyone Is Everybody Else ทำซาวนด์ไม่หนักมาก (ตอนฟังนึกถึงซาวนด์พวก Led Zeppelin, Black Sabbath) น่าจะเป็นอัลบั้มที่ดีกว่านี้ก็ได้ เย็นนี้จะไปฟัง XII ที่พี่ panyarak ชอบต่อครับ

ขอนำรูปมาลงบ้างนะครับ  ;)



(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/DSC00628.jpg)



(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/DSC00629.jpg)



 1970 Barclay James Harvest

 1971 Once Again

 1972 Baby James Harvest

 1972 Barclay James Harvest and Other Short Stories



(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/SANY3749.jpg)

(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/DSC00634.jpg)



 1974 Everyone Is Everybody Else



(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/SANY3746.jpg)



(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/DSC00633.jpg)



 1974 Live

(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/DSC00642.jpg)




 1975 Time Honoured Ghosts




(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/DSC00643.jpg)




 1976 Octoberon

(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/SANY3747.jpg)



(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/DSC00641.jpg)




 1977 Gone to Earth




(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/DSC00636.jpg)




 1978 Live Tapes

(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/DSC00638.jpg)




 1978 XII




(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/DSC00635.jpg)




 1979 Eyes of the Universe

(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/SANY3750.jpg)




1981       Best of Barclay James Harvest, Vol. 3 ( แผ่นนี้น่าจะเป็นแผ่นเสียงที่ผมซื้อเป็นแผ่นแรกเลย )




(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/DSC00644.jpg)




 1981 Turn of the Tide




(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/SANY3748.jpg)




(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/DSC00639.jpg)




 1982 Berlin: A Concert for the People [live]

(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/DSC00640.jpg)




 1983 Ring of Changes



(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/SANY3752.jpg)



1984 Victims of Circumstance


(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/DSC00630.jpg)




1990 Alone We Fly

(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/DSC00631.jpg)




1991 The Harvest Years




(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/DSC00632.jpg)




 1993 Sorcerers & Keepers

(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/SANY3751.jpg)



(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/DSC00637.jpg)




1992 Face to Face




 (http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/DSC00645.jpg)




  1992Welcome to the Show

(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/DSC00646.jpg)




  1993 Caught in the Light

 


(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/DSC00647.jpg)




1999 River of Dreams

เป็นแผ่น copy อยู่ชุดนึงนะครับ  :D

ผมหา 1984 Victims of Circumstance ไม่เจอ ไม่รู้ไปซ่อนอยู่ที่ไหน

คุณ polotoon น่าจะตั้งกระทู้ BJH ใน Treasure Boxes ด้วนะครับ ไว้ผมอาจได้ไปแจมด้วย  ;D

ดีจังครับเห็นมีซีดีอัลบั้ม polydor รุ่นแรกที่ไม่เพลงโบนัสมากมายมากวนใจในการฟัง แต่แปลกใจว่าทำไม Live Tapes จึงเป็นกล่องแบนธรรมดาครับ ไม่ใช่กล่อง Fat Jewel Case หรือครับ? หรือเป็นรุ่นหลังที่รีมาสเตอร์และมีเพลงแถม 3 เพลง? แล้วไม่เก็บแผ่นเสียง BJH บ้างเหรอครับ?

ที่จริง ผมก็รู้สึกว่าบางทีกระทู้เกี่ยวกับวงดนตรีต่างๆที่เราพูดคุยกันกับใน Tressure Boxes มัแยกกันอยู่อย่างไรไม่ทราบครับ ผมอยากให้มันอยู่รวมกันไปเลยมากกว่าน่ะครับ เพราะเวลาพูดถึงเรื่องราวต่างๆกับของสะสม บางทีมันถูกกล่าวอ้างถึงกันอยู่เสมอๆ

Live Tapes เดี๋ยวผมกลับไปดูอีกทีครับ อาจจะเป็นเวอร์ชั่นใหม่แล้วน่ะครับ

เมื่อก่อนเล่นเทป แล้วจึงมาเร่ิ่มเล่นแผ่นเสียงครับ เพราะซื้อเทปครบหมดแล้ว พอมีซีดีออกมา ปรากฎว่าหาซื้อได้ง่ายกว่าแผ่นเสียงมากเลยครับ ผมมีแผ่นเสียงของ BJH อยู่ไม่กี่แผ่นเองครับ ไว้จะกลับไปถ่ายรูปมาลงอีกครับ  :D

ผมมีซีดีแผ่นคู่ของBJH เป็นแผ่นทองใช้ชื่อชุดว่า THE GOLD COLLECTION(2CD Deluxe Edition)รู้สึกว่าเป็นแผ่นแสดงสดด้วยนะครับผลิตที่Germany
ไม่ทราบคุณpolotoon มีชุดนี้หรือเปล่าครับ ตอนนั้นผมฝากพี่ชายซื้อให้ครับ พอทราบรายละเอียดข้อมูลชุดนี้ไหมครับ

น่าจะเป็นชุดนี้รึเปล่าครับ

(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/g18920dwslv.jpg)



2003 Gold Collection

          1    Listen Now!    Festival    Lees, Wolstenholme    5:39
          2    Listen Now!    The Iron Maiden    Barclay James Harvest    2:52
          3    Listen Now!    Brave New World    Lees, Wolstenholme    6:09
          4    Listen Now!    Hors d'Oeuvres    Lees, Wolstenholme    :55
          5    Listen Now!    Mocking Bird    Barclay James Harvest    7:21
          6    Listen Now!    Sitting on a Shelf    Lees, Wolstenholme    4:30
          7    Listen Now!    Hymn    Lees    4:46
          8    Listen Now!    The Devils That I Keep    Lees, Wolstenholme    5:03
          9    Listen Now!    Titles    Traditional    5:26
          10    Listen Now!    Star Bright    Lees, Wolstenholme    6:51
          11    Listen Now!    A Devilish Intro    Lees, Wolstenholme    :43
          12    Listen Now!    She Said    Holroyd    8:33
          13    Listen Now!    Festival    Lees, Wolstenholme    4:32
          14    Listen Now!    For No One    Lees    5:35
          15    Listen Now!    The Iron Maiden    Barclay James Harvest    3:21
          16    Listen Now!    Harbour    Wolstenholme    2:15
          17    Listen Now!    River of Dreams    Lees    3:43
          18    Listen Now!    Poor Man's Moody Blues    Lees    8:18
          19    Listen Now!    New Song (Old Story)    Lees, Wolstenholme    4:51
          20    Listen Now!    Galadriel    Lees    3:14

ไม่ทราบว่า box รวม 4 ชุดแรกนี้ชื่ออะไรครับ?

ใช่แล้วครับ ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าข้อมูลรายละเอียดไม่ค่อยบอกอะไรไว้ที่แผ่นปกสวยมาก เสียงอัดมาดีด้วยตอนนั้นได้มากำลังย้ายบ้านพอดีเลยเอาใส่กล่องไว้
เปิดฟังไปได้รอบเดียว ผมต้องไปค้นเอามาฟังแล้วครับเราพูดถึงวงนี้กัน

Four Barclay James Harvest .... ( ต่อด้วยอะไร จำไม่ได้ครับ  :D ) ด้านในเป็นมินิแอลพี่ด้วยนะครับ

ชุดนี้ ซื้อเป็นแผ่นเสียงที่คลองถมไม่ใช่หรือครับ

Four Barclay James Harvest Originals แต่ปก mini lp คุณภาพไม่ค่อยดีครับ

จำได้ว่ามีซีดีด้วยครับพี่ แต่คงหยิบฟังแล้วเก็บแยกกันอยู่น่ะครับ แผ่นเสียงแผ่นนั้นสภาพดีมากเลยครับ  :)

mini lp เป็นปก gatefold หรือไม่ครับ? ดูเหมือนกระดาษอ่อนกว่า mini lp จริงใช่ไหมครับ?

นานๆ จะเห็นแผ่นเสียงสภาพดีเยี่ยมอย่างนั้นที่คลองถมซะที พี่แจ็คช่วยต่อราคาให้เหลือเท่าไหร่นะครับ

gatefold เฉพาะแผ่นน่ะครับ กระดาษอ่อนเล็กน้อย mini lp จริง หมายถึงอะไรหรือครับ  ::)

หมายถึงกระดาษที่ใช้ทำปกไม่แข็งเท่า mini lp ทั่วไปใช่หรือเปล่าครับ? พอดีดูตามรูปแล้วเดาเอาครับ

ถูกต้องครับ  :)

เพลงนี้มนต์ขลังน่าจะอยู่ที่เสียงร้องและเสียงเมลโลทรอนของ Wolstenholme นะครับ (อย่างที่เล่นใน Live Tapes) แต่พอมาถึง Berlin เสียงเมลโลทรอนก็ถูกทดแทนด้วยเสียงเปียโนและคีย์บอร์ดรุ่นใหม่ของ Kevin McAlea มือคีย์บอร์ดรับเชิญ ส่วนเสียงร้องก็เป็น John Lees มาร้องแทน ก็ดูแปลกไปอีกแบบหนึ่งครับ แต่ผมชอบเพลงนี้ใน Live Tapes มากกว่า

+1 ผมว่า ในชุด Berlin มันกระด้างไปหน่อย

+1 ครับ ถ้าให้เลือกระหว่าง สองอัลบั้มนี้ คงต้องเลือก Live Tapes ครับ  :D

คงเป็นเพราะผมฟังแบบ Berlin ก่อน จึงติดเวอร์ชั่นนี้มากกว่า แต่ไว้ฟัง live tapes หลายๆรอบแล้วผมอาจเปลี่ยนใจได้ครับ

ดูไปดูมา เหล่าเพลงแถมที่มากับซีดีรีมาสเตอร์ก็มีน่าสนใจหลายเพลงนะครับ  

Child Of The Universe (John Lees) [U.S. single version]
Child Of The Universe (John Lees) [remake for planned U.S. single]
Maestoso (A Hymn in the Roof of the World) (Original BJH recording 1974)
Lied (John Lees) [Previously unreleased]
Our Kid's Kid (John Lees) [B-side of "Hymn" single]
Hymn (John Lees) [Single edit]
Medicine Man  (John Lees) [live EP version]
Nova Lepidoptera (John Lees) [Ambient instrumental mix]

แหม... ช่างเข้าใจเอาเพลงแถมมาล่อ ถ้าคุณ TRON ได้มาฟังแล้ว ช่วยแจ้ง catalog no. แผ่นให้ผมทราบหน่อยนะครับ

โหย นานจัดครับ
ต้องไปรำลึกความทรงจำผม สักวันนะครับพี่ตั๊ม ฮิฮิ  :D

สตูดิโออัลบั้มทั้งหมดของ BJH ตามรายการนี้ ใช่ไหมครับ

•   Barclay James Harvest, 1970
•   Once Again, 1971
•   Barclay James Harvest And Other Short Stories, 1971
•   Baby James Harvest, 1972
•   Everyone Is Everybody Else, 1974
•   Time Honoured Ghosts, 1975
•   Octoberon, 1976
•   Gone to Earth, 1977
•   XII, 1978
•   Eyes of the Universe, 1979
•   Turn of the Tide, 1981
•   Ring of Changes, 1983
•   Victims of Circumstance, 1984
•   Face to Face, 1987
•   Welcome to the Show, 1990
•   Caught in the Light, 1993
•   River of Dreams, 1997



อัลบั้มเหล่านี้เป็นอัลบั้มรวมเพลงหรือเป็น solo albumใช่ไหมครับ

•     1972Early Morning Onwards
•     2001Through the Eyes of John Lees Solo
•     2002Nexus
•     2003Echoes of a Brave New World
•     2003Revolution Days
•     ...and Other Short Stories
•     That Was Then... This Is Now

BJH Through the Eyes of John Lees หรือ John Lee's BJH มีอัลบั้มแสดงสดออกมา 2 ชุด คือ Revival และ Legacy ส่วน Nexus เป็นอัลบั้มจากสตูดิโอ นำเพลงเก่าของ BJH ที่ John Lees แต่งมาบันทึกเสียงใหม่ปนกับเพลงใหม่

BJH featuring Les Holroyd มีอัลบัมแสดงสดออกมา 2 ชุด เช่นกัน คือ  Live in Bonn 30th October 2002 และ Classic Meets Rock - Live ส่วน Revolution Days เป็นอัลบั้มจากสตูดิโอ นำเพลงเก่าของ BJH ที่ Les Holroyd แต่งมาบันทึกเสียงใหม่ปนกับเพลงใหม่ และ That was Then...This is Now เป็นการนำ Revolution Days กับดีวีดี On the Road มาห่อใหม่ขายรวมกันครับ

Early Morning Onwards เป็นอัลบั้มรวมเพลงชุดแรกของ BJH

Echoes of a Brave New World เป็นอัลบั้มรวมเพลง BJH ที่ John Lees แต่ง

ดีวีดี On the Road เป็นอย่างไรบ้างครับ?

On the Road ได้รับคำชมมากกว่า Legacy แต่ผมไม่ได้ซื้อมาเพราะมี Classic Meets Rock ที่เล่นกับวงออเคสตราอยู่แล้วครับ
(On the Road ไม่มีออเคสตรา)

ขอประชาสัมพันธ์หน่อยนะครับว่าที่ร้านเจ๊จู/โดเรมีสยามยังมีอัลบั้มของ Barclay James Harvest เก็บไว้ดังนี้ครับ

XII (1978)

EYES OF THE UNIVERSE (1979)

BERLIN : A CONCERT FOR THE PEOPLE (1982)

OCTOBERON (2003)

TIME HONOURED GHOSTS (2003)

EVERY ONE IS EVERY BODY ELSE (2003)

GONE TO EARTH (2003)

ใครสนใจฝากผมซื้อได้นะครับ ถือว่าช่วยๆกันอุดหนุนงานระดับคลาสิคดีๆ ช่วยร้านซีดีในเมืองไทยที่มีน้อยลงทุกที

ใครที่เคยฟังผลงานของวง The Enid คงจะรู้จักหรือคุ้นเคยกับชื่อ Robert John Godfrey เดิมทีเขาเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบเรื่อง orchestration หรือการจัดเรียบเรียงวงเครื่องสายให้แก่ Barclay James Harvest สำหรับผลงานยุคแรก และบางทีก็ดูเหมือนจะเป็นสมาชิกอีกคนหนึ่งของ BJH เลยทีเดียว แต่ต่อมาก็มีเหตุให้ไม่ได้ร่วมงานกับ BJH และออกมาตั้งวง symphonic prog ของตัวเองที่ชื่อ The Enid ในที่สุดครับ

ผมชอบอัลบั้มเดี่ยวของ Robert John Godfrey ที่มีอยู่ชุดเดียวมากกว่าผลงานในนาม The Enid หลายๆ ชุดครับ

(http://www.uppicfree.com/images/709_rob.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-709_rob.jpg)

(http://i324.photobucket.com/albums/k328/sithichai/CIMG4322.jpg)

มากันทีเดียวพร้อมหน้าพร้อมตาเลยครับ ไว้คงต้องหาบ้านให้อยู่กันเสียแล้ว  ;D

เห็นคุณ panyarak พูดถึงอัลบั้มชุดนี้ เมื่อคืนก็เลยไปงัดออกมาฟังบ้าง แต่ผมรู้สึกว่าเป็น classical rock ที่ค่อนข้างฟังยาก (ฟังสองสามเที่ยวแล้วยังไม่ค่อยซาบซึ้งเท่าไร) ในขณะที่ผมชอบผลงานสองชุดแรกของ The Enid คือ In the Region of Summer Stars และ Aerie Faerie Nonsense ส่วนชุดอื่น ๆ ก็งั้น ๆ ไม่ได้ประทับใจอะไรมากมายครับ

ชุด the Spell ก็ไม่เลวนะนับ วงนี้มาแบบเดียวกับ ELP คือเพลงดีๆและไม่ค่อยดี ในแต่ละอัลบั้ม

มาเร็วจังครับ เรียบร้อยสมอารมณ์หมาย  :D

BJH ยุครุ่งเรืองก่อนปี 80 มาเป็นชุดเลยครับ ยินดีด้วย  :)

ขอบคุณครับ เมื่อวานได้เปิดฟังไป 4 อัลบั้มต่อเนื่องกันได้อย่างเพลิดเพลินมาก หลังจากฟังแบบ mp3 มานาน ตอนนนี้กลับมาเริ่มหลงไหลอัลบั้ม Everyone Is Everybody Else มากขึ้นอีก น่าจะเรียกได้เป็นอัลบั้มที่มีความเป็นร๊อคของ BJH มากที่สุด ดีทุกเพลงจริงๆ

ดนตรีและเนื้อหาของ Everyone Is Everybody Else ค่อนข้างเข้มข้นและดุเด็ดเผ็ดมันกว่าชุดอื่นครับ คงเป็นเพราะ BJH ต้องการจะฉีกแนวจาก symphonic rock เมื่อครั้งอยู่สังกัด Harvest มาเป็นแนวร็อคที่หนักหน่วงขึ้นเมื่อย้ายสังกัดมาอยู่กับ Polydor และอัลบั้มชุดนี้ก็เป็นชุดประเดิมกับต้นสังกัดใหม่นี้ อีกทั้งยังได้ Rodger Bain โปรดิวเซอร์ของ Black Sabbath มาโปรดิวซ์ให้อัลบั้มชุดนี้อีกด้วยครับ

แจ้ง Cat No. Live Tapes (Remaster) ตามที่คุณปีศาจขอมาครับเป็น ECLEC22123 ปี 2009 เป็น re-issue ที่ออกมาครั้งนึงแล้วเมื่อปี 2006 ครับ :)

ขอบคุณครับ จดนัมเบอร์ไว้แล้ว ไม่ทราบว่าแผ่นทำที่ไหนครับ?

ไม่แน่ใจครับ น่าจะเป็นแผ่นยุโรป เดี๋ยวกลับไปดูให้อีกทีครับ

(http://i654.photobucket.com/albums/uu270/Jayavarman/DSC00675.jpg)
(http://i654.photobucket.com/albums/uu270/Jayavarman/DSC00676.jpg)

(http://img.villagephotos.com/p/2007-1/1236224/JAMLIVTA.JPG)

ผมหละ ที่นับถือ ค่ายเทป 4Track(Musicland) ที่ตัดต่อ เรียงเพลง ได้เหนือชั้นมาก
ลองพิจารณาดูซิ

อ้อ.. อีกประการหนึ่ง เฉพาะชุดนี้
การฟังจาก ซีดี จะให้อรรถรสดีเยี่ยม กว่าฟังจากแผ่นเสียงครับ

ลื่นไหล ไร้รอยตะเข็บต่อ ดั่งภูษิตฟ้า..

ถ้าไม่ตัด Mockingbird ออกจะดีกว่านี้นะผมว่า :D

ของ peacock ดีกว่า เสียงดีกว่าด้วยครับ

ถ่ายมาดูจิ๊
เค้ามีแต่ 4แทร็ค


ส่วนเพลงม็อคกิ้งเบิร์ด
ก็เป็นหนึ่งในหลายๆเพลง ที่นักฟังเพลง-ทุนน้อย สมัยก่อน ต้องพลาดไปอย่างน่าเสียดาย
แต่ก็อย่างว่า เขาทำให้ฟัง ก็เป็นพระคุณแล้วละ
20 บาท กินเตี๋ยวยังไม่ได้เลย สมัยนี้

ของ Peacock มี Mocking Bird ด้วยครับ

Mocking Bird นี่คล้ายๆ Love Bird ใช่ไหมครับ ที่ลองได้ตกลงจับคู่กันแล้ว ถ้าใครจากไปก่อน ก็จะปลงใจตามไปด้วย

เอิ้ว..
นั้นมัน นกเป็ดน้ำ-เอียเท้า ไม่ใช่หรือ
แต่เขาว่า นกเงือก ก็รักเดียวใจเดียวนะคร้าฟ

ได้ชุดเด่นๆมาครบทุกชุดแล้ว ขอเวลาไล่ฟังก่อนครับ

ถ้าเอาแบบเพราะลอยๆ Octoberon น่าจะโดนสุดเลยครับ เพลงเปิดกับเพลงปิดอัลบั้มสุดยอดมาก

ชอบเพลงเปิดอัลบั้มมากๆเช่นกันครับ

ชุดนี้ฟังมานานแล้วครับ ประทับใจThe World Goes On กับ Ra

เพลง Cold War อยู่ชุดไหนเอ่ย

อยู่ชุด Caught in the Light ครับ ถือว่าเป็นยุคเสื่อมและตกต่ำสุดๆของ BJH แล้ว แต่ผมว่าชุดนี้เพลงไพเราะและล่องลอยทุกเพลง เป็นอัลบั้มที่ชอบมากๆเป็นการส่วนตัวครับ

โดยรวมแล้ว ผลงานชุดนี้ก็พอฟังได้ แม้จะออก soft ไปนิด เมื่อเทียบกับผลงานที่เข้มข้นของ BJH ในยุคก่อน ๆ จำได้ว่ามีเพลงที่มีเมโลดี้ติดหูหลายเพลงทีเดียวครับ

(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/SANY4187.jpg)

บังเอิญไปเจอบทสัมภาษณ์ล่าสุดของ Robert John Godfrey สมาชิกยุคก่อตั้งของ BJH ซึ่งกล่าวถึงเบื้องหลังความขัดแย้งใน BJH ว่า สาเหตุที่เขาต้องออกจาก BJH ก็เป็นเรื่อง "ผู้หญิง" โดยเฉพาะแฟนของ Les Holroyd ชื่อ Christine ซึ่งเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุตกม้าไปเมื่อปี 2002 Christine เป็นผู้หญิงที่สะสมความเกลียดชังไว้มากมาย และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความทุกข์ยากของผู้คนจำนวนมาก ยิ่งกว่านั้น เธอเป็นคนที่ทำให้ภริยาของ John Lees เสียคนไปด้วย ส่วนตัว Godfrey นั้น เขาชอบกับน้องชายของ Christine แต่ไม่เคยมีความสัมพันธ์กัน พอ Christine รู้เข้า ก็ดำเนินการทุกอย่างเพื่อขับเขาออกจากวง รวมทั้งไม่ให้เขาได้รับเครดิตจากการแต่งเพลง Mockingbird ซึ่งการฟ้องร้องทวงสิทธิ์ของเขา ทำให้ Woolly Wolstenholme ซึ่งเป็นคนที่ Godfrey สนิทด้วยมากที่สุดในวง และลาออกจากวงในเวลาต่อมา ต้องได้รับผลกระทบไปด้วยและทำให้ Wolstenholme โกรธเขาจนบัดนี้ Godfrey เห็นว่า Wolstenholme คือคนที่มีสมองมากที่สุดในวง ในขณะที่ John Lees มีความคิดสร้างสรรค์แต่ไร้การศึกษา และมีบุคลิกเป็นคนโลเลเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา และคนที่สร้างความหายนะแก่ทุกอย่างคือ Les Holroyd แม้ว่า Godfrey จะไปได้ดีกับวง The Enid แต่เขาก็ยังติดใจเรื่องการเป็นคนแต่งเพลง Mockingbird อยู่ และวางแผนไว้ว่า สักวันหนึ่ง เขาจะเล่นเพลงนี้ในช่วง encore ของ The Enid เพราะเขาเป็นเจ้าของเพลงนี้ที่แท้จริง แต่ไม่เคยได้รับค่าลิขสิทธิ์จากเพลงนี้แม้แต่นิดเดียว

(http://www.uppicfree.com/images/778_rjg.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-778_rjg.jpg)

แกแก่ไปเยอะเลยนะครับ

ชอบงานของวง Enid ทุกชุดที่มี

นางมารร้ายจริงๆ

หากเป็นเช่นนั้นจริงดังคำสัมภาษณ์ของ Robert John Godfrey ก็ถือว่าภรรยาของ Les Holroyd นั้นร้ายกาจมาก เพราะโดยวิถีการทำงานตามปกติของคนตะวันตก เขามักจะไม่เอาเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องครอบครัวไปก้าวก่ายในหน้าที่การงานของตนหรือคนใกล้ชิดเด็ดขาด ซึ่งเรื่องนี้คนฝรั่งเขาถือกันมาก ผมยังแปลกใจเลยว่าภรรยาของ Holroyd ช่างเป็นผู้หญิงที่กล้าแหกวิถีปฏิบัติของคนตะวันตกจริง ๆ (หากเป็นสังคมเอเชีย เรื่องทำนองนี้ก็คงถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา)

ส่วนที่ว่า Wolstenholme เป็นคนที่มีมันสมองที่สุดนั้น ผมเห็นด้วย เมื่อพิจารณาจากเพลงหลาย ๆ เพลงที่เขาเขียนและร้อง ซึ่งล้วนแต่เป็นเพลงที่ลุ่มลึกและทรงภูมิทั้งสิ้น ผิดจากเพลงที่แต่งโดย Lees และ Holroyd ซึ่งโดยทั่วไปจะมีเนื้อหาที่ดูตื้นและออกแนวตลาดมากกว่าเพลงที่แต่งโดย Wolstenholme ครับ 

Mockingbird Godfrey แต่งดนตรีด้วยหรือไม่

Robert John Godfrey เป็นคนเรียบเรียงเสียงและนำวงออเคสตราเข้ามาสู่ BJH และเป็นคนร่วมแต่งดนตรี Mockingbird ด้วยครับ อยากให้ลองฟังเพลงที่เขาร่วมแต่งและชนะความที่ใช้เวลาฟ้องร้องถึง 20 ปี คือ Dark Now My Sky, When the World Was Woken, Galadriel, Song for Dying และ The Sun Will Never Shine ว่า บรรยากาศมันต่างจากเพลงอื่นๆ เพียงใด และพอ Godfrey ถูกขับออกจากวง ดนตรีของ BJH เป็นอย่างไร เมื่อเทียบกับผลงานที่ Godfrey ไปสรรสร้างต่อในนาม The Enid ชุดแรก - In the Region of Summer Stars

อ่านแล้ว เข้าใจว่าคุณGodfrey แกเป็นเกย์หรือครับเนี่ย

เป็นแบบเปิดเผยครับ

บันทึกการแสดงสดที่เล่นกับออเคสตราปี 1972 ถ้าซื้อแบบแผ่นคู่ จะมีทั้ง Mono และ Stereo ซึ่งต้นฉบับเป็น Mono ส่วนแบบ Stereo เป็นการทำ remaster ฟังทั้ง 2 แบบแล้ว ผมชอบแบบ Mono มากกว่าครับ

(http://www.uppicfree.com/images/171_bbc1.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-171_bbc1.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/446_bbc2.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-446_bbc2.jpg)

ทุกเพลงที่คุณ panyarak ระบุมา ล้วนแต่เป็นเพลง symphonic rock สุดอลังการซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของผมทั้งสิ้น เมื่อได้ฟังเพลงของ BJH ในยุคแรกที่มี Robert Godfrey คอยจัด orchestration ให้ ผมจะนึกถึง The Moody Blues ในยุคของ Days of Future Passed เช่นกัน แต่พอ BJH ย้ายสังกัดมาอยู่กับ Polydor นับตั้งแต่ผลงานชุด Everyone Is Everybody Else เป็นต้นมานั้น โครงสร้างดนตรีมันกลายเป็นของตลาด เป็นของเด็ก ๆ ไปเลยเมื่อเทียบกับดนตรีในยุคแรกที่มี Robert Godfrey ช่วยงานอยู่ในฐานะที่เปรียบเสมือนสมาชิกคนที่ห้าของวงครับ

เคยเห็นรูปถ่ายของ RJG ซึ่งแต่งตัวเนี้ยบ บางครั้งก็ใส่หมวกในสไตล์สุภาพบุรุษชาวอังกฤษ ผมเองก็นึกไม่ถึงว่าแกจะเป็นเกย์ครับ

เคยอ่านประวัติของเขาที่คนอื่นเขียนว่า เขาเป็นคนที่อารมณ์แปรปรวนอย่างร้ายกาจ โดยเฉพาะเวลาใช้สมาธิในการแต่งเพลง ไม่มีใครเข้าหน้าเขาติด ใครทำอะไรขวางหูขวางตา เขาจะเขวี้ยงของใส่

(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/SANY4326Small.jpg)



ไปค้นเจอ ความหลังครั้งเก่า  :D

สุดยอดจริง ๆ ที่ยังอุตส่าห์เก็บไว้อยู่ เทปรุ่นนั้นของผมมันหายไปไหนหมดแล้วก็ไม่รู้

เทปพีค็อคชุดนี้ที่ผมมี ยังเป็นแบบเก่า ที่สีขาวๆ ของคุณโปโปตูนน่าจะใหม่กว่า

ของผม 2nd issue ครับ remaster แล้ว   :D

ของที่คุณพ่อผมเก็บไว้ก็น่าจะเป็นรุ่นเดียวกับพี่ Analog Kid ครับ

น่่าจะเป็น master เดียวกันหรือเปล่าครับ เพราะอัลบั้มนี้ยังไม่เคย remaster มาก่อน อาจเป็นตอนที่ออกเป็นซีดีครั้งแรกแล้วเทปพีค๊อกเลยซื้อซีดีมาออกซ้ำอีกครั้ง :D

remaster by peacock ไงครับ :D

;D

ไม่ทราบว่ามีใครเก็บหรือเคยฟังผลงานรวมเพลงชุด Alone We Fly กันบ้าง? ผมมีแผ่นเสียงอัลบั้มคู่ชุดนี้อยู่ แต่ฟังแล้วเสียงไม่ค่อยจะสู้ดี รู้สึกว่าคุณภาพเสียงต่ำกว่ามาตรฐานไปหน่อย มีใครรู้สึกเหมือนผมบ้างครับ?

(http://www.showmejoe.com/research/BarclayJamesHarvest_AloneWeFly.gif)

ฟังจากไฟล์ครับ เสียงไม่ค่อยดีนักครับ  :)

มีใครชอบ single สองเพลงนี้กันบ้างครับ?

You Need Love
On The Wings of Love

ผมว่าเป็นเพลงที่ไพเราะและโรแมนติกมากทีเดียว เป็นเพลงแถมมากับซีดีชุด Face to Face (แผ่นเยอรมัน) และมีรวมอยู่ใน Alone We Fly ด้วย (แต่เสียงไม่ค่อยจะดีนัก)

เพลง Poor Boy Blues ซึ่งต่อด้วยเพลง Mill Boys ตอนจบเพลงขึ้นเพลงใหม่ได้เนียนมาก จนนึกว่าเพลงเดียวกัน

Berling DVD มีให้ pre-order กันแล้ว พี่ พอทราบไหมครับว่ามีเพลงมากกว่าสมัย VHS หรือเปล่า ?

http://www.amazon.co.uk/Barclay-James-Harvest-Berlin-Concert/dp/B003PHJLWS/ref=sr_1_1?ie=UTF8&qid=1279985009&sr=1-1-spell

ตัวนี้ผมก็สนใจครับ มีใครเคยดูบ้างแล้วหรือไม่ครับ  ::)

http://www.amazon.co.uk/Barclay-James-Harvest-Berlin-Concert/dp/B003PHJLWS/ref=sr_1_1?ie=UTF8&qid=1279985009&sr=1-1-spell

ตามลิ้งค์นี้เลยครับ

http://www.thaiprog.net/webboard/index.php?topic=65.45

มีที่อยู่เป็นที่เป็นทางเสียที  :D

(http://www.uppicfree.com/images/489_CIMG4496.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-489_CIMG4496.jpg)

(http://www.uppicfree.com/images/803_CIMG4516.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-803_CIMG4516.jpg)

ไม่ทราบมีใครได้ฟังอัลบั้มแสดงสดชุด Glasnost (1988) ของ BJH กันแล้วบ้าง? ผมฟังแล้วไม่ค่อยประทับใจเท่าที่ควร เพราะ
1. หลายเพลงที่ควรจะเล่นให้ดี กลับไม่ดีอย่างที่หวัง เช่น Poor Man's Moody Blues
2. บันทึกและมิกซ์เสียงมาค่อนข้างจะแห้งไปสักหน่อย ถ้าไม่ออกเป็น official album คนทั่วไปอาจนึกว่าเป็น bootleg album
โดยรวมแล้ว รู้สึกว่าจะอ่อนกว่าชุด Berlin เสียอีกครับ

ผมขายไปแล้วครับ

โอ้โฮ ไม่เก็บไว้ให้ครบๆหรือครับพี่

ผมก็ไม่ค่อยชอบ แต่ชอบปกอยู่บ้างครับ

poor man นี่ poor มากเลย :D

ผมเองก็เกือบจะขายไปเหมือนกัน แต่แผ่นเสียงที่ได้มามีสภาพดีมากและราคาไม่แพงนักก็เลยเก็บไว้ จำได้ว่าซื้อมาจากร้านที่ฟอร์จูนทาวน์หลายปีแล้วครับ

อยากได้ 5-CD boxset ของ BJH ชุด All Is Safely Gathered In ไม่ทราบว่าคุณ panyarak หรือเพื่อน ๆ ท่านใดมี boxset ชุดนี้อยู่ในครอบครองกันบ้างครับ?

(http://www.bjharvest.co.uk/jpg/bjhboxs.jpg)

รู้สึกว่าพี่อั๋นมี box นี้อยู่ครับ และคุณ foxtrot เคยนำมาขายในเว็บเราด้วย ไ่ม่รู้ว่าสมาชิกท่านในซื้อไป

http://www.thaiprog.net/webboard/index.php?topic=1991.0

ขออภัยด้วยครับ ผมลงลิงค์ผิดทำให้คุณปีศาจเข้าใจผิด ผมหมายถึงดีวีดีชุด Glasnot/Victims of Circumstances รวมวีดีโอ 2 ชุดในแผ่นเดียวกัน ผมว่าคุ้มดีนะครับ ถึงแม้ไม่ใช่ยุครุ่นเรือง ตามลิงค์นี้ครับ ใครเคยได้ดูบ้างครับ?

http://www.amazon.co.uk/Barclay-James-Harvest-Glasnost-Circumstance/dp/B000C4ETL0/ref=sr_1_2?s=dvd&ie=UTF8&qid=1280460852&sr=1-2

ถ้าเป็น 2 in 1 ก็โอเคครับ ไม่แพงดี

Glasnost ผมเคยฟังแต่คาสเสทและแผ่นเสียง โดยรวมแล้วไม่ชอบเลย ทั้งในแง่เพลงที่เล่นและการบันทึกเสียง
วิดีโอ Victims of Circumstance มีลักษณะเป็นกึ่งคอนเสิร์ตกึ่งมิวสิควิดีโอ โดยรวมก็พอใช้ได้ในความเห็นส่วนตัว เนื่องจากมีการนำเพลงยุคหลังที่ผมชอบออกเล่นคอนเสิร์ตด้วย เช่น Waiting for the Right Time, Paraiso dos Cavalos เป็นต้น

ขอบคุณครับ โดนรวมไม่ค่อยน่าสนใจมากแล้วไว้ผมจะคิดดูอีกที ;)

มีบทวิพากษ์ชุด Alone We Fly ตามลิ้งค์นี้ครับ

http://www.thaiprog.net/webboard/index.php?topic=26.new#new

ผมมีชุดBoxset 5CDนี้ครับ ถ้าหากใครที่ต้องการที่จะซื้อผลงานรวมเพลงของBJHอัลบั้มBoxsetชุดนี้น่าจะดีที่สุด
เป็นการรวบรวมเพลงที่เด่นๆของBJHไว้เกือบหมด แถมมีพวกSingle Version หรือเพลงพวกUnreleasedต่างๆและแสดงสดไว้ด้วย
ถ้าคุณปีศาจลายครามหรือเพื่อนสมาชิกอยากฟังผมจะอัดไปให้ฟังครับ
(http://www.uppicfree.com/images/173_SDC11471.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-173_SDC11471.jpg)
(http://www.uppicfree.com/images/529_SDC11472.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-529_SDC11472.jpg)
(http://www.uppicfree.com/images/134_SDC11473.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-134_SDC11473.jpg)
(http://www.uppicfree.com/images/148_SDC11474.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-148_SDC11474.jpg)

ผมแนะนำเพิ่มให้อีกชุดของBJH รวมเพลงแสดงสดเป็นแผ่นทองบันทึกเสียงได้ดีชื่ออัลบั้มGOLD [2CD Deluxe Edition]

(http://www.uppicfree.com/images/718_SDC11475.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-718_SDC11475.jpg)
(http://www.uppicfree.com/images/589_SDC11476.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-589_SDC11476.jpg)

^^^
ขอบคุณครับ ไม่ทราบว่าบ็อกซ์เซ็ต 5 แผ่นข้างต้นนี้แพงไหมครับ? อาจจะไปลองหาดูในอีเบย์น่ะครับ

ไม่แพงครับ ถ้าจำไม่ผิดประมาณสองพันกว่าบาทราคาไม่เกินนี้

มีใครพอจะบอกได้บ้างว่าในเพลง Titles จากอัลบั้มชุด Time Honoured Ghosts นั้น มีชื่อเพลงของ The Beatles อยู่ทั้งหมดกี่เพลงครับ?

Lyrics:
The long and winding road that leads to your door
Here comes the sun it's alright people shout for more
But were you trying to deceive telling me
All you need is love to succeed

Across the universe one after nine 'o' nine
I got a feeling for you blue and I feel fine
I tried so hard to make believe that I'd see
All you need is love to succeed

CHORUS:

Lady Madonna let it be
Something in the way you moved me yesterday
All you need is love so they say

ผมว่าจะเอาคำถามนี้ไปตั้งคำถามในงานมีตติ้งพอดีเลย :D

เท่าที่ดูคร่าวๆประมาณ 10 เพลง

เพลงนี้เวอร์ชั่นในชุด Gold ที่นำมาเรียบเรียงใหม่ไพเราะมากๆ ขอบคุณพี่อั๋นมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

เพลง He Said Love ในอัลบั้ม Face to Face นี่พูดถึงพระเยซูใช่ไหมครับ?

จองคุณอั๋นดีกว่า CD Boxset 5 CD ชุดนี้ คุณอั๋นมี Files แล้ว จะเก็บแผ่น CD ไว้ทำไม

^^^
ในฐานะที่ผมยังไม่เคยอุดหนุนสินค้าของคุณอั๋น501โดยตรงมาก่อน คุณอั๋น501ก็ควรจะขายให้ผมก่อนครับ ;D

ผมนับชื่อเพลงของ The Beatles ที่ปรากฏอยู่ในเพลง Titles ของ BJH ได้ทั้งหมด 12 เพลง ถ้าใครนับได้ต่างจากนี้ก็ช่วยบอกด้วยนะครับ

Lyrics:
The long and winding road (1) that leads to your door
Here comes the sun (2) it's alright people shout for more
But were you trying to deceive telling me
All you need is love (3) to succeed

Across the universe (4) one after nine 'o' nine (5)
I got a feeling (6) for you blue (7) and I feel fine ( 8 )
I tried so hard to make believe that I'd see
All you need is love to succeed

CHORUS:

Lady Madonna (9) let it be (10)
Something (11) in the way you moved me yesterday (12)
All you need is love so they say

ผมเริ่มต้นฟังผลงานของ BJH ด้วยชุด Turn of the Tide เช่นเดียวกับคุณ lilium ครับ
มีเกร็ดเกี่ยวกับเพลง How Do You Feel Now ว่า John Lees แต่งเพลงนี้เมื่อลูกสาวที่ชื่อ Esther เพิ่งเกิด (ไม่ทราบว่าจะใช่คนเดียวกันกับในภาพถ่ายบน inner sleeve ของอัลบั้ม Berlin A Concert for the People ที่มีรูป Lees กำลังอุ้มทารกคนหนึ่งอยู่หรือเปล่า)

ได้แผ่น EP ชุด Live (1977) ซึ่งมีเพลง Rock 'N' Roll Star และ Medicine Man Part I & II มาแล้ว
สำหรับเพลง Rock 'N' Roll Star ใน EP จะเหมือนเพลงที่เล่นใน Live Tapes แต่ทีเด็ดของ EP ชุดนี้คือเพลง Medicine Man Part I & II ซึ่งเล่นเมลโลทรอนได้มันและหนาแน่นมากอย่างที่ไม่เคยได้ยินจากสติวดิโอเวอร์ชั่น และผมรู้สึกว่าเพลงนี้เป็นส่วนเติมเต็มของชุด Live Tapes เพราะเป็นเพลงที่นำออกแสดงสดในปีเดียวกัน คือ 1977
อาจเสียอารมณ์ไปบ้างที่ต้องกลับแผ่นเสียงเพื่อเล่นต่อ Part II แต่ถ้าท่านมีอัลบั้มรวมเพลงชุด Endless Dreams เพลงทั้งสองส่วนนี้ได้ถูก edit ให้กลายเป็นเพลงเดียวกันโดยสมบูรณ์แล้ว
เอาไว้ว่าง ๆ จะถ่ายรูปแผ่น EP ชุดนี้มาให้ดูครับ

(http://www.bjharvest.co.uk/jpg/liveep.jpg)

ในซีดี Live Tapes แบบรีมาสเตอร์ก็มี Medicine Man จากโชว์เดียวกันแบบเต็มๆครับ

Disc: 1

1. Child of the Universe
2. Rock 'N' Roll Star
3. Poor Man's Moody Blues
4. Mockingbird
5. Hard Hearted Woman
6. One Night
7. World Goes On
8. Medicine Man
9. Crazy City
10. Jonathan
11. For No One
12. Polk Street Rag
13. Hymn

Disc: 2

1. Taking Me Higher
2. Suicide
3. Crazy City
4. Polk Street Rag
5. Hymn For the Children
6. Jonathan
7. For No One
8. Hymn

ทำไมหลายเพลงใน Disc 1 จึงซ้ำกับเพลงใน Disc 2 ล่ะครับ (Crazy City, Jonathan, For No One, Polk Street Rag, Hymn)?

โทษทีครับ พอดีเว็บที่ไปเอามาพิมพ์ผิด ที่ถูกต้องตามนี้ครับ

Disc 1:

Child Of The Universe
Rock And Roll Star
Poor Man's Moody Blues
Mockingbird
Hard Hearted Woman
One Night
World Goes On
Medicine Man (11:55)

Disc 2:

Taking Me Higher
Suicide?
Crazy City
Polk Street Rag
Hymn For The Children
Jonathan
For No One
Hymn

Woolly Wolstenholme ฆ่าตัวตายแล้วครับ RIP

It is with profound sorrow that we have to announce the passing of Woolly Wolstenholme. In recent weeks Woolly's mental health had taken a turn for the worse and sadly he took his own life on Monday 13th December 2010. In this difficult time our thoughts are with Woolly's partner, Sue. We would ask all of Woolly's fans to remember his incredible contribution to popular music and his unique presence on stage.

to remember his incredible contribution to popular music and his unique presence on stage.

I will do, all the ways.

RIP ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องฆ่าตัวตายด้วย น่าเสียดายมากครับ

เขามีปัญหาด้านสุขภาพจิตมาตั้งแต่หนุ่มๆ เข้ารักษาตัวมาหลายหนแล้วครับ

RIP ครับ

เมื่อวานก่อน Captain Beefheart ก็พึ่งจากไปเอง

ทราบข่าวนี้แล้วอึ้งเลย Mel Pritchard จากไปแล้ว ตอนนี้ก็ถึงคิวของ Wooly Wolstenholme ซึ่งผมก็นึกไม่ถึงว่าเขาจะจากไปเร็วถึงขนาดนี้

จึงขอไว้อาลัยต่อการจากไปของมือคีย์บอร์ดฝีมือดีของ BJH และเป็นสุดยอดมือคีย์บอร์ดคนหนึ่งในดวงใจของผมครับ :'(

(http://www.harlowbandsarchive.co.uk/IMAGES/bjhearly.gif)

ฺ๋ิBJH น่าจะมารียูเนี่ยนแสดงคอนเสริ์ตการกุศลไว้อาลัยกันซักครั้งนะครับ อยากให้เล่นเพลง Mocking Bird โดยที่ไม่มีคนร้อง แต่เปิดภาพวิดีโอเก่าสมัย Woolly ร้องตอนหนุ่มๆร้องคลอไปด้วย (มีถ่ายไว้แบบโคลสอัพในดีวีดีที่พี่ panyarak ไรท์มาให้ดู) คงจะให้ความรู้สึกอาลัยมากๆ

ตอนนี้เหลือแค่สองพระหน่อในวงแล้ว (And the there were two...) คุณ panyarak หรือเพื่อน ๆ ท่านใดมีใครทราบบ้างครับว่า Lees และ Holroyd คิดจะหาสมาชิกใหม่มาเพิ่มเพื่อทำวงต่อไป หรือใช้วิธีหานักดนตรีรับเชิญมาร่วมเล่นจะดีกว่าครับ?

ถ้าเช่นนั้นผมว่าปล่อยให้ชื่อ BJH เป็นตำนานดีกว่า อย่าทู่ซี้หาใครมาเล่นแล้วใช้ชื่อวงต่ออีกเลย

ใช้นักดนตรีรับเชิญดีกว่าครับ แต่ให้เครดิตรนักดนตรีที่เชิญมาเสียหน่อยครับ :D

เหลือ 2 คน แต่เขาแยกกันเป็น 2 วง 2 ขั้วเด็ดขาด ไม่พูดกันเลยครับ

แปลกดีครับ
เห็นอายุมากๆ ส.ว.กันทั้งนั้น น่าจะอภัยกันได้  :)

ทั้ง John Lees และ Les Holroyd เมื่อครั้งอยู่กับ BJH ดูเหมือนจะแข่งกันร้องและแต่งเพลงอยู่ในที ไม่ค่อยมีใครอยากจะน้อยหน้าใคร ในผลงานบางชุด สมมติว่ามีเพลงสิบเพลง แต่ละคนก็จะแบ่งกันแต่งและร้องคนละครึ่ง คือห้าเพลง บางทีวางแทร็คในอัลบั้มสลับกันไปมาระหว่างเพลงของสองคนนี้
ผมอาจจะรู้สึกไปเองก็ได้ครับ

ผมได้ฟังBarclay James Harvest อัลบั้ม Welcome to the show บทเพลง African nights ว่ารู้สึกว่าSoundมันคล้ายกับเพลง Africa ของ TOTO มากๆ(ในความรู้สึกผม) ทั้งในส่วนของPercussion,Keyboardsและเสียงร้องของBobby Kimballก็คล้ายกับJohn Lees ไม่ทราบว่าหลายๆท่านที่เคยฟัง2เพลงนี้คิดว่ามันคล้ายกันรึเปล่าครับ

วงนี้ เพลงเกือบทั้งหมด ก็ร้องและแต่งโดย 2 คนที่เหลือของวงนี้อยู่แล้ว ก็ไม่น่ามีผลอะไร ถ้าจะ Reunion หรือออกผลงานใหม่ๆ แม้จะเป็นผลงานเดี่ยวก็ตาม เปรียบได้กับ John Lennon / Paul McCartney  Roger Waters / David Gilmour  Justin Hayward / John Lodge  Robert Plant / Jimmy Page

และส่วนใหญ่ผมจะชอบเพลงของ Les Holroyd มากกว่าเสียด้วยครับ

+1 ครับ เวลานำอัลบั้มเก่าๆ ที่เป็นซีดีมาฟัง ผมมักจะกดข้ามเพลงของ John Lees เสมอเลยครับ

ผมชอบฟังทั้งสองคนสลับกันครับ รู้สึกว่าไม่จำเจดีครับ :D

+1 เหมือนส่วนผสมที่ต่างกัน ที่เมื่อนำมารวมกันแล้วกลมกลืนน่าฟัง

เมื่อคืนนั่งดู DVD ชุด Caught Live ของ BJH (โดยความเอื้อเฟื้อของคุณ panyarak) ได้เห็นรอยยิ้มสวย ๆ อย่างอ่อนโยนของ Wooly Wolstenholme และ Mel Pritchard ในยุคนั้นทั้งตอนที่เล่นคอนเสิร์ตและให้สัมภาษณ์แล้ว รู้สึกสะท้อนใจครับ

(http://www.vintageprog.com/bjhdvd.jpg)

ผมเพิ่งได้แผ่นเสียง Made in UK แผ่นนี้มา อยากทราบว่า ปกติ อัลบั้มที่มี Printed Inner Sleeve มาให้แล้ว จะมี Plain Inner Sleeve มาให้ด้วยแบบนี้รึเปล่าครับ ผมได้มาทั้งสองแบบเลยครับ และดูที่ Plain Inner Sleeve ก็ระบุว่า Made in UK ด้วยครับ  ::)



(http://img580.imageshack.us/img580/4552/img7715e.jpg) (http://img580.imageshack.us/i/img7715e.jpg/)

แผ่นอังกฤษของผมมีแต่ Printed Inner Sleeve แต่แผ่นเยอรมันมี lyric insert แยกจาก inner sleeve ครับ

คือผมคิดว่า มันน่าจะมี Inner Sleeve แค่ใบเดียว ไม่ว่าจะเป็น Printed หรือ Plain ไม่น่าจะมีทั้งสองใบมาด้วยกัน ถูกไหมครับ :D

ปกติก็ควรจะเป็นเช่นนั้น ไม่ควรจะมีซ้ำ แต่ให้ลองเช็คดูว่าตัวเลข catalog no. ของ sleeve กับ insert นั้นตรงกันหรือเปล่า ถ้าตรงกัน แผ่นของคุณโปโลตูนอาจเป็น special edition ก็ได้ครับ :D

แผ่นเสียงอังกฤษหรือแผ่นจากยุโรปโดยมากไม่มี plastic inner sleeve แบบของญี่ปุ่นมาให้ บางทีเวลาดึงแผ่นออกจากซองกระดาษเปล่า ๆ (แถมบางทีกระดาษยังหยาบอีกต่างหาก) ถ้าไม่ระวังหรือดึงออกมาเร็วเกินไปอาจเกิดรอยบนแผ่นเสียงได้ และทำให้แผ่นไม่สวย ดังนั้น ควรหาซื้อ inner sleeve บาง ๆ แบบที่ใช้กับแผ่นญี่ปุ่นมาไว้ใส่แผ่นก่อนจะสอดเก็บเข้า original inner sleeve เพื่อจะช่วยป้องกันรอยขีดข่วนได้ครับ

ผมได้ดูดีวีดีชุด 25th Anniversary Concert ของ BJH โดยความเอื้อเฟื้อของคุณ panyarak แล้ว รู้สึกว่าเพลง Poor Man's Moody Blues และ Hymn ไม่ว่าจะเล่นสดในคอนเสิร์ตครั้งนี้หรือครั้งไหน ก็ฟังดูยิ่งใหญ่ ดื่มด่ำ และใกล้เคียงต้นฉบับได้ไม่เท่ากับที่เล่นในชุด Live Tapes โดยเฉพาะเพลง Poor Man's Moody Blues สติวดิโอเวอร์ชั่นนี่ฟังแล้วเศร้าที่สุด แต่พอนำมาเล่นคอนเสิร์ต เสียงของ John Lees ฟังดูดัดจริตอย่างไรชอบกล แต่ที่ใกล้เคียงและพอยอมรับได้หน่อยก็ต้องเป็นชุด Live Tapes ครับ

ชอบ Hymn ใน Berlin : Concert For The People ครับ รู้สึกอบอุ่น ยิ่งใหญ่ดีครับ

ผมรำคาญเสียง Yeah ของ John Lees เป็นช่วง ๆ รู้สึกว่ามันทำลายความขลังและอรรถรสของเพลงนี้น่ะครับ และใน 25th Anniversary Concert ก็มีเสียง yeah แบบนี้อีกเช่นกันครับ

+1 ครับ

+2 ครับ รำคาญเหมือนกันครับ ถ้าซักทีเดียวพอไหวนี่แกเล่นไม่เลิก

ผมก็ไม่เข้าใจว่า เพลง Hymn เป็นเพลงสรรเสริญพระเจ้า แกจะตะโกน Yeah ไปทำไมบ่อยๆ

รู้สึก น่ารำคาญเหมือนกัน แต่ก็ชอบครับ :D

มีหมายเหตุเกี่ยวกับเพลง Lady Loves จากอัลบั้ม Once Again ไว้ในเว็บไซต์ของ BJH ว่า "John's closer includes a special guest appearance - the Jaws Harp was played by Alan Parsons..."

อยากทราบว่าเครื่องดนตรี Jaws Harp ที่ Alan Parsons ได้เล่นไว้ในเพลงนี้นั้น หน้าตาเป็นอย่างไร? ใครมีรูปให้ดูบ้างครับ?

Yeah ผมฟังแล้ว รู้สึกว่าตลก ขำดีออก  :D

(http://saintcleveland.com/wp-content/uploads/2010/03/guimbarde.jpg)

The Jew's harp, jaw harp, mouth harp, Ozark harp, trump , or juice harp, is thought to be one of the oldest musical instruments in the world

ref : wikipedia

^^^
ขอบคุณครับ
น่าจะสะกดว่า Jew's Harp มากกว่า แต่เว็บของ BJH เขาสะกดว่า Jaws Harp ผมก็เลยออกจะงง ๆ แต่ของเขาก็สะกดถูกเหมือนกันนะครับ ไม่ว่า Jew's harp, jaw harp หรือ jaws harp ใช้ได้หมด :D

เรียนถามคุณ panyarak

Caught Live DVD ของ BJH ที่คุณ panyarak ได้กรุณาสำเนามาให้ดูนั้น หน้าปกเป็นอย่างนี้หรือเปล่าครับ?

(http://www.vintageprog.com/bjhdvd.jpg)

ใช่ครับ

ดูวิดีโอชุดนี้ไปอีกรอบเมื่อคืนนี้ มี extra program ซึ่งเป็นการแสดงสดที่ Drury Lane ด้วย เขาระบุว่าเป็นการแสดงในปี 1977 แต่สังเกตจากความเก่าของภาพและคุณภาพเสียง ตลอดจนการที่ John Lees ไว้หนวดเครา ผมว่าน่าจะเป็น live ในปี 1974 มากกว่า เผลอ ๆ เป็น material เดียวกันกับที่นำมาใส่ไว้ในอัลบั้มคู่ Barclay James Harvest Live (1974) เสียด้วยซ้ำครับ

ใครที่ดูบันทึกภาพคอนเสิร์ต Berlin เคยสงสัยบ้างไหมครับว่าคอนเสิร์ตนี้ทำไมช่างสั้นนัก คือประมาณหนึ่งชั่วโมง หากนับเพลง Love on the Line และ Rock 'N' Roll Lady เข้าไปด้วย (ซึ่งสองเพลงนี้ไม่มีอยู่ในฉบับวิดีโอ หรือแม้แต่ในแผ่นเสียงหรือซีดีเวอร์ชั่นปกติทั่วไป) แต่ถ้าไม่นับสองเพลงนี้ เวลาที่เล่นคอนเสิร์ตครั้งนี้ก็น่าจะเพียงแค่ 50 นาทีเท่านั้น

เผอิญผมได้ไปเจอรายการเพลงที่เล่นเต็ม (full set list) ในคอนเสิร์ตครั้งนี้ ซึ่งรวมแล้วก็สองชั่วโมงกว่า โดยมีเพลงดังต่อไปนี้

Love on the Line, Capricorn, Jonathan, Poor Man's Moody Blues, Rock 'N' Roll Lady, Nova Lepidoptera, The Song (They Love to Sing), Mockingbird, Crazy City, Suicide?, Sip of Wine, In Memory of the Martyrs, Life Is for Living, Sperratus, Play to the World, Child of the Universe, Berlin, Loving is Easy, Hymn

เพลงที่ผมยังไม่เคยได้ฟังหรือดูในคอนเสิร์ต Berlin ได้แก่ Capricorn, Jonathan, Poor Man's Moody Blues, The Song (They Love to Sing), Crazy City, Suicide?, Sperratus, Play to the World เซ็ตลิสท์เจ๋ง ๆ อย่างนี้ทำไมไม่ออกเป็น LP หรือ CD แผ่นคู่ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย (ออกทำไม แผ่นเดี่ยว -- ไม่จุใจและเสียอารมณ์เปล่า ๆ >:()

สังเกตว่ามีหลายเพลงที่มาจากอัลบั้ม Eyes of the Universe จึงขอวิเคราะห์โดยส่วนตัวว่า BJH ออกทัวร์ "คอนเสิร์ตเพื่อประชาชน (เบอร์ลิน)" ครั้งนี้โดยถือโอกาสโปรโมทอัลบั้ม Eyes of the Universe ไปในตัวด้วยครับ

(http://www.progarchives.com/progressive_rock_discography_covers/655/cover_27521321122011_r.jpeg)

เดี๋ยวนี้มีถ้วยกาแฟขนาด 11 ออนซ์ สกรีนภาพหน้าปกอัลบั้มของ BJH ออกจำหน่ายที่เมืองนอกด้วย เท่าที่เห็นมีอยู่สองแบบ เดี๋ยวผมจะลองสั่งมาไว้เก็บไว้ใช้และสะสมดูบ้างครับ

(http://i321.photobucket.com/albums/nn367/paiboonp/bjhmug_zps206238fd.jpg)

(http://i321.photobucket.com/albums/nn367/paiboonp/bjhmug1_zpse8e5f82b.jpg)

   ท่านพี่ปีศาจ ช่างสรรหาจริงๆ ครับ ผมก็ชอบ รบกวนบอกพิกัดด้วยครับ

ส่งข้อความ PM ไปบอกแล้วครับ

North (2013) การกลับมาของ John Lees และ Barclay James Harvest อีก 14 ปีให้หลังกับอัลบั้มล่าสุดชุดนี้ ซึ่งอุทิศให้แก่เพื่อนสมาชิกวงทั้งสองคนผู้ล่วงลับ อันได้แก่ Wooly Wolstenholme และ Mel Pritchard ทราบจากความเห็นของต่างประเทศมาว่าผลงานชุดนี้คุ้มค่าแก่การรอคอย (หลังจากที่ล้มลุกคลุกคลานมานาน) ไม่ทราบมีใครแถวนี้เคยได้ฟังแล้วบ้างครับ?

(http://www.progarchives.com/progressive_rock_discography_covers/655/cover_479188102013_r.JPG)

ลืมบอกไปว่าอัลบั้มชุด North นี้มีออกเป็นแผ่นไวนิล Limited Edition 180 กรัม ด้วยครับ

(http://www.progarchives.com/progressive_rock_discography_covers/655/cover_479188102013_r.JPG)

ได้ฟังแล้วก็ไม่เลวครับชุดนี้ ดีกว่าที่คิด หากไม่หวังอะไรที่มันพร๊อกมาก (จริงๆ BJH ก็ไม่ค่อยพร๊อกมาหลายทศวรรษแล้วล่ะนะ๗ เพลงส่วนใหญ่ก็ไพเราะ ฟังสบาย อบอุ่นแกมเศร้าในแบบที่ John Lees ถนัดอยู่แล้ว แต่ส่วนตัวผมว่ายังสู้งานของ BJH ยุคหลังสุดอย่าง Caught in the Light หรือ River of Dreams ไม่ได้ครับ 

อั้มบั้ม - The Harvest Years โดยปกติผมไม่นิยมแผ่นเสียงประเภทรวมเพลง แต่มาสะดุดชุดนี้โดยไม่ทราบสาเหตุ จึงขอสอบถามว่านอกจากจะมีเพลง 3  Unreleased Songs และปกซึ่งกางได้ 3 ทบแล้ว มีสิ่งพิเศษที่ควรค่าแก่การสะสมอื่นอีกหรือไม่ครับ

ชุดนี้ผมมีทั้งแผ่นเสียงและซีดี แต่เนื่องจากเก็บไว้นาน ไม่ค่อยได้หยิบมาเปิดฟัง จึงจำไม่ได้ว่ามีรายละเอียดอื่นใดแถมมาด้วยรึเปล่า แผ่นเสียงของผมเป็นแผ่นเยอรมันและออกแบบมาเป็นแบบปกเดี่ยว คือ จับแผ่นเสียงทั้งสามแผ่นสอดเข้าไปในปกนั่นเลย อัลบั้มรวมเพลงชุดนี้เป็นการรวมเพลงของ BJH ในยุคแรกของพวกเขาที่สังกัดอยู่กับ Harvest อันที่จริงเพลง Early Morning และ Mr. Sunshine ที่อยู่ในอัลบั้ม The Harvest Years นั้น เคยออกเป็นซิงเกิ้ลในสังกัด Parlophone มาก่อน ต่อมาถูกนำมารวมไว้ใน The Best Of Barclay James Harvest Vol. 2 แล้วจึงถูกนำมารวมไว้อีกครั้งใน The Harvest Years ส่วนเพลง Eden Unobtainable ซึ่งเป็นเพลงหนึ่งที่ผมโปรด ผมยังไม่เคยเห็นรวมอยู่ในชุดใด เข้าใจว่าน่าจะเป็นซิงเกิ้ลและถูกนำมารวมไว้ใน The Harvest Years ซึ่งเพลงในชุดนี้มีดีอยู่อย่างนึงคือถูกนำมารีมาสเตอร์ด้วยระบบ NO Noise ซึ่งให้เสียงที่เนียนละเอียดดีมากครับ

(http://www.progarchives.com/progressive_rock_discography_covers/655/cover_1531521122011_r.jpg)

ผมบิดไปแล้วครับ เป็นแผ่นเยอรมัน ด้วยความเข้าใจคลาดเคลื่อน ว่าปกเป็นแบบ 3 ทบ

แผ่นเสียงชุดนี้เท่าที่ผมเคยเจอมา มีแต่แผ่นเยอรมันทั้งนั้นแหละครับ ยุค 90's สื่อการฟังดนตรีส่วนใหญ่เป็นดิจิตอล (ซีดี) เต็มรูปแบบ ไม่ค่อยมีที่ไหนผลิตแผ่นเสียงออกขาย นอกจากเยอรมนีซึ่งยังยืนหยัดอยู่ รองลงมาก็คืออังกฤษ ผลงานเพลงจำนวนมากที่ออกในยุค 90's ในรูปแผ่นไวนิลมักจะผลิตในเยอรมนีครับ

       สอบถามเพิ่มเติมครับ BJH มีอัลบั้มรวมเพลงชุดใดบ้างครับ ที่มีสิ่งควรค่าแก่การสะสมครับ

BJH เป็นวงหนึ่งที่ขยันออกอัลบั้มรวมเพลงมาตบทรัพย์แฟน ๆ และเป็นวงที่มีซิงเกิ้ลที่ยากจะตามเก็บได้ครบ ผมว่าถ้ามีอัลบั้มที่ออกเป็นทางการครบแล้วก็ไม่จำเป็นต้องเก็บผลงานรวมเพลงก็ได้ แต่สิ่งที่ทำให้แฟนเพลงต้องเก็บอัลบั้มรวมเพลงของพวกเขาก็คือเพลงที่ไม่เคยออกจำหน่ายมาก่อน ประเภท previously unreleased singles ซึ่งมักจะปะปนมากับอัลบั้มรวมเพลง ผมมีชุด The Best of Barclay James Harvest Vol. 1-3, The Harvest Years (3LP), Alone We Fly (2LP), Endless Dreams (CD), Master Series (CD) และ The Compact Story of Barclay James Harvest (CD) ซีดีบางชุดซื้อมาแล้วก็รู้สึกเสียดายเงิน ดังนั้น ในส่วนที่เป็นอัลบั้มรวมเพลง ต้องเลือกดูดี ๆ ก่อนซื้อ ลองเข้าไปดูเว็บเพจตามลิงค์ข้างล่างนี้ก็ได้ครับ

http://www.progarchives.com/artist.asp?id=655

ขอถามว่า ชุด Caught in the Light มีทำเป็นเเผ่นเสียงไหมครับ

อัลบั้มชุดนี้ลำพังเป็นซีดีก็มี running time นานอยู่แล้ว ถ้าทำเป็น LP ก็คงจะต้องเป็นแผ่นคู่ แต่เท่าที่ทราบจากเว็บของ BJH เอง มีแค่สองฟอร์แมทเท่านั้น คือ ซีดีและเมทัลคาสเสท (MC) ครับ

ผมขาดอั้ลบั้มชุดแรก และคงจะหามาเพื่อเก็บเป็นคอลเลคชั่นในเร็วๆนี้ครับ ทั้งนี้ อัลบั้มอื่นนั้น ผมมีอังกฤษและเยอรมันปะปนกันไป แต่อัลบั้มชุดแรกผมมีความลังเลว่าจะหาแผ่นของอังกฤษหรือเยอรมัน จึงขอสอบถามว่าน่าจะเก็บแผ่นจากประเทศใดครับ แต่ถ้าเป็นท่านพี่ปีศาจ คงเก็บทั้ง 2 ประเทศ 55555

อัลบั้มชุดแรกผมก็กำลังหาแผ่นเสียงอยู่เหมือนกัน แต่เท่าที่ผ่านมา เจอแต่แผ่นสภาพไม่สวย หรือถ้าเจอแผ่นสภาพสวยแต่ราคาก็แพงเว่อร์ ดังนั้นผมจึงรอไปเรื่อย ๆ ก่อน ไม่ว่าแผ่นอังกฤษหรือเยอรมัน ถ้าสภาพดีผมก็เอาทั้งนั้นแหละครับ แต่ไม่ถึงกับว่าจะต้องหาให้ได้ในตอนนี้ เพราะเพลงส่วนใหญ่ในอัลบั้มชุดแรกนั้นผมอาศัยฟังจากชุดรวมเพลงของพวกเขาครับ

วันนี้ผมตั้งใจจะซื้ออั้ลบั้มชุดแรก แต่ไม่พบแผ่นที่ได้หมายตาไว้ เข้าใจว่าคงโดนลูกค้าท่านอื่นจัดการไปเรียบร้อยแล้วครับ ส่วนรายอื่นๆ สภาพ/ราคา ไม่ค่อยถูกใจเท่าไร แต่ผมไปพบชุด Alone We Fly แผ่นคู่ประเทศอังกฤษ จึงได้สอยแก้ขัดไปก่อน จะว่ากันจริงๆ ผลงานของคณะนี้ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด เยอะจริงๆ ครับ

รอไปก่อนก็ได้ครับ ไม่ต้องรีบร้อน คิดเสียว่าแผ่นเสียงก็เหมือนเครื่องเสียง มันเลือกเจ้าของที่จะไปอยู่ด้วยครับ

ฟังเพลงของ BJH มาก็มากแล้ว ผมสังเกตว่าสิ่งที่ทำให้ดนตรีของ BJH มีลักษณะเป็น art rock ที่สามารถจัดอยู่ในทำเนียบ progressive rock ได้ นอกจากฝีมือการแต่งเพลงของสมาชิกวงและสไตล์การเล่นคีย์บอร์ดที่ลึกล้ำของ Wooly Wolstenholme (R.I.P.) แล้วก็ยังต้องรวมไปถึงฝีมือการเล่นกลองของ Mel Pritchard (R.I.P.) ด้วย เคยฟังแนวเดินจังหวะและโซโลกลองของเขาไหมครับ ผมว่าไม่ธรรมดาเลย อุดมไปด้วยลูกเล่นลูกขัดเต็มไปหมด แบบที่ชาวบ้านทั่วไปเขาเรียกว่า "ตียาก" อะไรทำนองนั้น เพลงร็อคทั่วไปอาจมีจังหวะกลองแบบพื้น ๆ ไม่ซับซ้อน ไม่มีลูกเล่นแพรวพราวมากนัก แต่สำเนียงของในเพลงของ BJH นั้นซับซ้อนกว่า ทำให้ผมรู้สึกว่าเพลงของพวกเขาไม่ใช่เพลงร็อค แอนด์ โรล ทั่วไป โดยความเห็นส่วนตัวของผม Mel Pritchard ถือเป็นมือกลองฝีมือชั้นยอดคนหนึ่งของวงการเพลงร็อคเลยทีเดียว เสียดายที่เขาด่วนจากไปค่อนข้างเร็ว

ไม่ทราบสมาชิกท่านอื่นเห็นอย่างไรบ้างในเรื่องนี้ครับ?

(http://cache2.asset-cache.net/gc/91001510-drummer-mel-pritchard-of-english-rock-group-gettyimages.jpg?v=1&c=IWSAsset&k=2&d=X7WJLa88Cweo9HktRLaNXtvtl8MERdZlboqFxqQJQmI9OHot%2F7fs3nISoWfuSY74Y4YJRK%2FetzHx%2FVgHXLuAiA%3D%3D)

ท่อนอินโทรเพลง Capricorn จากอัลบั้มชุด Eyes of the Universe (1980) ฟังแล้วรู้สึกคล้ายท่อนอินโทรของเพลง More Than A Feeling จากอัลบั้มชุดแรกของ Boston (1977) จังเลย ผมไม่อยากคิดว่า John Lees ฟังเพลงของ Boston แล้วประทับใจ เลยขอยืมคอร์ดและเมโลดี้มาใช้สักนิดหนึ่ง แต่อย่างไรก็ดี ความเหมือนคล้ายย่อมอาจเกิดขึ้นได้โดยมิได้ตั้งใจ หรือท่านว่าไงครับ?

ท่วงทำนองและการเดินคอร์ดดนตรีของเพลง Girl On The Moon จากอัลบั้ม Foreigner 4 คล้ายกับในเพลง Rock 'N Roll Lady ในชุด Eyes Of The Universe เลยนะครับ คุณว่ามั้ย?

The Harvest Years (3LP compilation album) ฟังอัลบั้มรวมเพลงยุคแรกของ BJH สมัยอยู่สังกัดแผ่นเสียง Harvest และอ่านใบแทรก insert ในซองแผ่นเสียง จึงทราบว่าความสัมพันธ์ของ BJH กับ Harvest เริ่มไม่ดีในผลงานชุด Baby James Harvest (1972) ประกอบกับการใช้วงออร์เคสตร้าร่วมเล่นทั้งในห้องอัดและเมื่อออกแสดงสด ทำให้วงประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก จนในที่สุดต้องจากอ้อมอกของ Harvest หลังจากอัลบั้มชุด Baby James Harvest แล้วมาอยู่กับสังกัดใหม่คือ Polydor ซึ่งเป็นยุคที่ BJH ทำดนตรีให้ฟังง่ายขึ้นและลดโครงสร้างที่ซับซ้อนของ classical rock ลง ผลงานที่ออกกับ Polydor หลายชุดในช่วงปี 1970's ถึง 1980's จึงเข้าถึงคนฟังได้มากกว่าผลงานสี่ชุดแรกที่ออกกับสังกัด Harvest ผมเองก็รู้สึกว่าบางเพลงในช่วงยุคแรกออกจะฟังยากอยู่บ้าง เช่น Dark Now My Sky แต่ถึงอย่างไร ผลงานยุคแรกก็มีเสน่ห์ของ classical rock ของปลายยุค 1960's ต่อกับต้น 1970's และอุดมไปด้วยสีสันของ mellotron ครับ

เครดิตภาพ www.progarchives.com

(http://www.progarchives.com/progressive_rock_discography_covers/655/cover_1531521122011_r.jpg)

โดยทั่วไปแฟน ๆ ของ BJH มักจะทราบว่าวงนี้มีสมาชิก 4 คน (เสียชีวิตไปแล้วสองคน, R.I.P.) แต่เมื่อผมได้ดู documentary DVD ชุด Caught Live ซึ่งถ่ายทำบันทึกการดำเนินชีวิตของสมาชิกวงและทีมงานขนย้ายสิ่งของ (roadie crews) ซึ่งกำลังเดินสายทัวร์อังกฤษและยุโรปในช่วงปี 1977-1978 พบว่าในภาคอัตชีวประวัติ (biography) ของสมาชิกวง แจ้งจำนวนสมาชิกไว้ทั้งหมด 6 คน อีกสองคนที่เพิ่มเข้ามาได้แก่ Robert John Godfrey ซึ่งเคยทำภาค orchestration ให้ผลงานยุคแรกของ BJH และต่อมาได้ลาออกไปเป็นสมาชิกผู้นำวง The Enid และอีกคนหนึ่งคือ Martin Lawrence ซึ่งเป็น producer ให้ผลงานของ BJH ในช่วงปลายยุค 1970's ถึงต้นยุค 1980's เช่น XII, Turn of the Tide และหลังจากนั้นอีกประปราย เช่น ผลงานชุด Caught in the Light และ River of Dreams และยังเป็น producer ให้ 10 C.C. และ Sad Cafe ด้วย ก็เอามาเล่ามาแชร์ให้ทราบเป็นข้อมูลไว้ ใครมี DVD ชุด Caught Live นี้ก็ลองไปเปิดดูเอานะครับ

เครดิตภาพ www.vintageprog.com

(http://www.vintageprog.com/bjhdvd.jpg)

Robert John Godfrey

เครดิตภาพ https://rawramp.files.wordpress.com

(https://rawramp.files.wordpress.com/2016/03/rjg_1_350.jpg)

Martin Lawrence ภาพเก่าจากเว็บ www.bjharvest.co.uk ป่านนี้เขาอายุมากแล้ว ไม่รู้หน้าตาเปลี่ยนไปแค่ไหน อย่างไร ครับ

(http://www.bjharvest.co.uk/jpg/mloct99.jpg)

เข้าท่าแฮะ... Eden Unobtainable (1975) ถ้า BJH มีอัลบั้มชุดนี้ออกมาก็ดีสิครับ 555 :D

http://albumsiwishexisted.blogspot.com/2018/10/barclay-james-harvest-eden-unobtainable.html

วันนี้ผมเห็นผู้ขายในไทย ลงขายแผ่นเสียง Barclay James Harvest ชุด Gone To Earth แผ่น US ไม่ทราบว่าพี่ปีศาจมีแผ่นเสียง BJH ผลิตใน USA มากน้อยเพียงใดครับ

วันนี้ผมเห็นผู้ขายในไทย ลงขายแผ่นเสียง Barclay James Harvest ชุด Gone To Earth แผ่น US ไม่ทราบว่าพี่ปีศาจมีแผ่นเสียง BJH ผลิตใน USA มากน้อยเพียงใดครับ

---> Gone To Earth แผ่นเสียง Made in USA มีอยู่ 2 เวอร์ชั่นนะครับ เวอร์ชั่นแรก ผลิตเมื่อปี 1977 โดย MCA Records USA สี label กลางแผ่นเป็นสีน้ำเงินดำ ค่อนข้างหายากในสภาพดี ส่วนเวอร์ชั่นที่ผลิตอีกครั้งเมื่อปี 1980 โดย MCA อเมริกาเช่นเดียวกัน พื้น label กลางแผ่นเป็นสีฟ้าอ่อน หาได้ง่ายกว่า ผมมีเวอร์ชั่นอย่างหลังนี่ จะเก็บไว้ให้ เอามั้ยครับ?

อัลบั้มของ BJH ที่ออกเป็นแผ่นเสียงในสหรัฐอเมริกานั้นมีอยู่ไม่มาก และสิ้นสุดที่ชุด Eyes Of The Universe (1980) แสดงให้เห็นว่าสหรัฐอเมริกาไม่ใช่ตลาดเพลงสำคัญสำหรับ BJH เนื่องเพราะ, อันนี้ผมขอสันนิษฐานเอาเอง, แนวเพลงและสไตล์ดนตรีของ BJH ไม่ถูกจริตคนอเมริกันส่วนใหญ่ครับ

ข้อมูลจาก www.bjharvest.co.uk

U.S.A. Albums

1970 Barclay James Harvest               Sire/London   SES 97026
1971 Once Again ['negative' band photo inside gatefold]      Sire      SI 4904
1971 Barclay James Harvest And Other Short Stories *      Sire      SI 5904
1972 Baby James Harvest                  Harvest      SW 11145
1974 Everyone Is Everybody Else               Polydor      PD 6508
1975 Time Honoured Ghosts               Polydor      PD 6517
1976 Octoberon [with lyric insert]            MCA      MCA 2234
1976 Octoberon [reissue, plain inner]            MCA/Scorpio   MSM 35037
1977 Gone To Earth [with lyric inner]            MCA      MCA 2302
1977 Gone To Earth [reissue, non cut-out, plain inner]      MCA/Scorpio   MSM 35038
1978 XII                     Polydor      PD 1-6173
1980 Eyes Of The Universe               Polydor      PD 1-6267

* Includes different mix of "Medicine Man" from UK album

ขอบคุณมากครับ สำหรับแผ่นนี้ผมมีเป็นแผ่นประเทศอังกฤษ ผลงานของพวกเขาเยอะจริงๆครับ

ขอบคุณมากครับ สำหรับแผ่นนี้ผมมีเป็นแผ่นประเทศอังกฤษ ผลงานของพวกเขาเยอะจริงๆครับ

---> ลำพัง studio albums ยังไม่เท่าไหร่... ยังพอจะเก็บได้ครบ แต่สิ่งที่ทำให้แฟน ๆ ที่สะสมผลงานของ BJH ตามเก็บผลงานของพวกเขาได้ยากเย็นแสนเข็ญคือ แผ่น single ซึ่งออกมาหลากหลาย ต่างกรรมต่างวาระ และต่างสถานที่ ผมคนหนึ่งละครับที่ยอมแพ้ ขอเก็บเฉพาะผลงานที่สำคัญ เป็นชิ้นเป็นอันก่อน ส่วนพวกผลงานรวมเพลง singles & EP อะไรพวกนี้ เอาไว้ทีหลังสุด แต่ยังโชคดีที่แผ่นเสียงใช้แล้วของวงนี้ยังมีอยู่มากมายในท้องตลาดและหาซื้อได้ในราคาไม่แพงครับ

ฟังผลงาน 4 ชุดแรกของ BJH ในต้นยุค 1970s ที่พวกเขายังอยู่สังกัด Harvest ได้แก่ชุด Barclay James Harvest, Once Again, ...And Other Short Stories และ Baby James Harvest แล้วฟังผลงานยุค 1980s ของพวกเขา เช่น Ring of Changes, Victims of Circumstance สังเกตว่าดนตรีสองยุคสองช่วงเวลาแทบจะเป็นคนละแนวกันเลย ดนตรีของ BJH ต้นยุค 1970s ซีเรียสและอึมครึมกว่าดนตรียุค 1980s ซึ่งออกแนว pop และมีสีสันของอิเล็กทรอนิกส์ตามสไตล์ดนตรีตลาดในยุคนั้น (บางเพลงผมฟังแล้วนึกถึงวงยุค 1980s อย่าง Shakatak เสียด้วยซ้ำ) เพื่อนผมคนหนึ่งชอบ BJH เหมือนกัน แต่เขาชอบผลงานยุคกลางและยุคหลังของวงนี้เพราะฟังแล้วไพเราะและติดหูง่ายดี แต่เขาไม่ฟังผลงานยุคแรก เพราะฟังแล้วรู้สึกเครียด และการที่มีคำวิจารณ์ไว้ว่าผลงานยุคแรกของ BJH คล้ายผลงานของ The Moody Blues ใครเห็นด้วยในประเด็นนี้บ้าง? แต่ผมว่าไม่เห็นจะเหมือนกันเลย เพราะ BJH ก็มีแนวดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์หรือ signature ของตนเองอยู่ โอเค... การได้รับอิทธิพลทางดนตรีจากวงรุ่นพี่อย่าง The Moody Blues ก็คงมีส่วนอยู่บ้าง แต่ผมว่าน้อยมากครับ

ผมชอบฟังผลงานบันทึกการแสดงสด ผมว่ามีพลังมากกว่าในสตูดิโอครับ

ผมชอบฟังผลงานบันทึกการแสดงสด ผมว่ามีพลังมากกว่าในสตูดิโอครับ

---> เห็นด้วยครับ โดยเฉพาะในช่วงที่พวกเขายังท็อปฟอร์มกันอยู่ในช่วงยุค 1970s ถึง 1980s เล่นสดได้ดีมาก บางเพลงนี่ improvise ขยายออกไปนานหลายนาทีเลยทีเดียว เป็นวงหนึ่งที่เล่นสดบ่อยมาก แต่ที่บันทึกเสียงไว้เป็นทางการจริง ๆ มีอยู่ไม่กี่ชุดเท่านั้นเองครับ

วันนี้ 26 เม.ย. เมื่อปี 2511 Barclay James Harvest ออกซิงเกิ้ลเพลง Early Morning

(ข้อมูลจาก https://bjharvest.co.uk)

26 April, 2021:    "Early Morning" was released this day in 1968

ถึงเวลานี้ John Lees และ Les Holroyd จะลืมเรื่องต่างๆ ได้หรือยังครับ อายุก็มากๆกันแล้ว ถ้าแยกย้ายไปออกผลงานในนามตนเองก็ว่าไปอย่างครับ แต่นี่ใช้ชื่อเดิมๆมาหากิน 5555555

By the end of the decade the band's popularity was starting to wane. In the 1990s, a traumatic court case and widening musical differences between band members took its toll. In 1998 the two songwriters HOLROYD and LEES agreed to go their separate ways while continuing to work under the umbrella of the old band name. Thus was born the two outfits which remain today: BARCLAY JAMES HARVEST FEATURING LES HOLROYD perseveres with the AOR style of their later work; while JOHN LEES' BARCLAY JAMES HARVEST (JLBJH) has returned to the more Prog orientated work of the 1970s, including working again with Woolly Wolstenholme. Sadly, MEL PRITCHARD passed away in 2004.

ข้อมูลข้างต้นมาจาก progarchives สรุปความได้ว่า ปลายยุค 1980s วงเริ่มเสื่อมความนิยม ต่อมาในช่วงปี 1990s มีคดีความกันในศาล (พฤติกรรมมาในแนว Pink Floyd เลย พวกฝรั่งนี่ทำไมชอบค้าความกันจัง ทั้ง ๆ ที่เป็นเพื่อนเกลอ สนิทชิดชอบ เล่นดนตรีหากินด้วยกันมาตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น คงจะเป็นเพราะผลประโยชน์กระมังครับ) และมีความขัดแย้งกันในเรื่องแนวดนตรี ส่งผลให้แตกออกเป็นสองวงย่อยที่ใช้ชื่อ Barclay James Harvest แต่มีชื่อของ John Lees และ Les Holroyd ผนวกอยู่ด้วย วงหนึ่งคือ BARCLAY JAMES HARVEST FEATURING LES HOLROYD ซึ่งเล่นออกแนว AOR ส่วนอีกวงหนึ่ง JOHN LEES' BARCLAY JAMES HARVEST (JLBJH) ซึ่งพยายามกลับไปสู่รากเหง้าดนตรีของ BJH ในยุค 1970s และกลับไปร่วมงานกันอีกครั้งกับ Woolly Wolstenholme มือคีย์บอร์ด เกลอเก่า ปัจจุบัน Woolly Wolstenholme มือคีย์บอร์ด และ Mel Pritchard มือกลอง เสียชีวิตแล้ว เหลือแต่ John Lees และ Les Holroyd ที่ยังมีชีวิตอยู่ครับ

U.S.A. Albums

1970 Barclay James Harvest               Sire/London   SES 97026
1971 Once Again ['negative' band photo inside gatefold] Sire              SI 4904
1971 Barclay James Harvest And Other Short Stories *   Sire              SI 5904
1972 Baby James Harvest                  Harvest      SW 11145
1974 Everyone Is Everybody Else               Polydor      PD 6508
1975 Time Honoured Ghosts               Polydor      PD 6517
1976 Octoberon [with lyric insert]            MCA              MCA 2234
1976 Octoberon [reissue, plain inner]            MCA/Scorpio   MSM 35037
1977 Gone To Earth [with lyric inner]            MCA              MCA 2302
1977 Gone To Earth [reissue, non cut-out, plain inner]   MCA/Scorpio   MSM 35038
1978 XII                                     Polydor      PD 1-6173
1980 Eyes Of The Universe                       Polydor      PD 1-6267

แหล่งที่มา www.bjharvest.co.uk

แผ่นเสียงอัลบั้มของ Barclay James Harvest ที่ผลิตและจำหน่ายในอเมริกา (Made in USA) จะสังเกตได้ว่ามีเฉพาะผลงานตั้งแต่ชุดแรกถึง Eyes Of The Universe (1980) เท่านั้น ส่วนผลงานตั้งแต่ชุด Turn Of The Tide (1981) เป็นต้นไป ไม่มีทำในอเมริกาแล้ว และอัลบั้มแสดงสดชุด Live (2LP, 1974), Live Tapes (2LP, 1978) และ Berlin A Concert for the People (1982) ก็ไม่มีผลิตและจัดจำหน่ายในอเมริกา จากข้อมูลนี้พอจะวิเคราะห์และอนุมานได้ว่าผลงานของ BJH ไม่ค่อยเข้าตาคนฟังชาวอเมริกาเท่าใดนัก ทำให้ผลงานของพวกเขาที่จัดจำหน่ายในอเมริกามีเพียงไม่กี่ชุดในช่วงปี 1970-1980 เท่านั้น ผมอยากได้แผ่นเสียงของ BJH ที่ทำในอเมริกา แต่พอนั่งนับดูที่ซื้อไว้ก็มีแค่ไม่กี่ชุดเท่านั้นครับ ได้แก่ Time Honoured Ghosts, Gone To Earth, Eyes Of The Universe และไม่แน่ใจว่ามีชุด Octoberon อยู่ด้วยหรือไม่ แผ่นเสียงของ BJH ที่ทำในอเมริกาหายากกว่าที่ทำในประเทศอื่น ๆ เช่น อังกฤษ เยอรมนี ญี่ปุ่น ครับ