Thai Progressive Rock Community

กระทู้ลอกเลียนแบบสักครั้ง เห็นคุณปีศาจตั้งกระทู้ Turntable แล้ว  ขอตั้งกระทู้บ้าง

1. Thales Simplicity Mk II  $12000

ช่วยแปะรูปให้ครับ อาร์มนี้สวยมาก เหมาะกับเทิร์นฯตัวปัจจุบันของคุณ The Black Tulip มาก ๆ เลยครับ

(http://www.analogplanet.com/images/imagecache/600_wide/Thales2.JPG)

Graham Phantom II Supreme B-44
เดาเอาว่า ด้วยรูปลักษณ์แล้ว น่าจะติดโผกับเขาบ้างนะฮะ

(http://needledoctor.com/site/nd_flash/CLEARAUDIOComplete/Phantom.jpg)

Da Vinci Audio Grandezza Grand Reference ราคา 10200 เหรียญสหรัฐ บ้างก็ว่าสูงถึง $11k ในอเมริกา

ข้อมูลจาก www.sorasound.com

(http://www.sorasound.com/wp-content/gallery/davinci-audio/Tonearm_GrandReference_pic2.jpg)

เรียนคุณปีศาจช่วยเหลือข้อมูลเกี่ยวกับกระทู้นี้ต่อได้เลยครับ

ได้เลยครับ เอาไว้ผมจะอัพเดตและเพิ่มเติมให้เรื่อย ๆ เกี่ยวกับเรื่องโทนอาร์ม ซึ่งผมเห็นว่าสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าตัวแท่นแต่อย่างใดครับ

SME Series V ของอังกฤษ โทนอาร์มยอดนิยมตลอดกาล ถึงกับมีคำสโลแกนว่า The best tonearm in the world และเป็นโทนอาร์มที่ผมใฝ่ฝันถึงมาตลอด -- ว่าชาตินี้จะต้องเล่นและครอบครองให้ได้สักครา จึงจะนอนตายตาหลับ

(http://www.sme.ltd.uk/uploads/images/seriesvbig.jpg)

SME Series IV เห็นเขาว่าราคาประมาณ 60% แต่ให้สมรรถนะการทำงาน 9 ใน 10 ของรุ่น Series V ข้างต้น โดยส่วนตัว ผมให้คะแนนเรื่องรูปลักษณ์ที่ออกจะดูเหนือกว่าและโฉบเฉี่ยวกว่า Series V เสียด้วยซ้ำ

(http://www.sme.ltd.uk/uploads/images/series4big.jpg)

SME Series V Gold รุ่นฐานและตัวหนังสือขลิบทอง (สเปเชี่ยล เอดิชั่น) ก็มีนะครับ (เห็นแล้วน้ำลายหกเลย... อยากได้ที่ซู้ดดด... ;D)

(http://cgim.audiogon.com/i/vs/i/f/1256429284.jpg)

tonearm SME มีรุ่น 12 นิ้วที่เป็นอาร์มตรง เพิ่งออกวางจำหน่ายในช่วงไม่กี่ปีมานี้ มีทั้ง series 3 และ series 5 เสียงน่าจะดีกว่ารุ่น 9 นิ้ว   และราคาก็สูงกว่า และออกแบบโดยผู้ออกแบบ SME คนเดิม (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว ไม่เช่นนั้นอาจจะได้เห็น series 7 เลียนแบบรถ BMW)
ผมมีรุ่น 312s อยู่อันหนึ่ง และก็ใช้อยู่

ส่วน Tonearm Thales นั้น ก็สนใจมาก แต่ราคาโหดเหลือเกิน ถ้าต่อรองราคาได้บ้าง ก็อาจจะซื้อครับ

เคยอ่านเจอมาว่าตามหลักเรขาคณิต โทนอาร์มยิ่งยาวเท่าไรก็ยิ่งมีระยะทำมุมเพื่อให้หัวเข็มที่ปลายอาร์มเดินเซาะไปตามร่องโดยมีค่า tracking error น้อยลงและทำให้เกิดความแม่นยำในการถ่ายทอดเสียงมากขึ้นเท่านั้น เช่น โทนอาร์มยาว 12 นิ้วโดยทั่วไปมักจะให้ประสิทธิภาพและความแม่นยำในการเกาะร่องโค้งบนแผ่นเสียงดีกว่าโทนอาร์มยาว 9 นิ้ว ดังนั้น เสียงที่ถ่ายทอดออกมาจากร่องแผ่นเสียงจึงดีกว่า บังเอิญว่าผมอธิบายเรื่องคณิตศาสตร์ไม่ค่อยเก่ง รบกวนคุณ The Black Tulip หรือพี่แจ็คหรือคุณอั๋น501 ตลอดจนผู้มีความรู้คนอื่นช่วยยืนยันและอธิบายในเรื่องนี้ด้วยครับ

(http://www.sme.ltd.uk/uploads/images/312Sphoto.jpg)

เดาไว้ตั้งแต่แรกเจอกระทู้นี้แล้วครับว่าคุณ The Black Tulip จะต้องสนใจอาร์มตัวนี้เป็นพิเศษ :D
แต่ราคา 12000 เหรียญนี่สามารถซื้อเทิร์นฯไฮเอนด์ชั้นยอดอีกตัวหนึ่งได้สบาย ๆ เลยนะครับ ::)

โทนอาร์มอีกตัวหนึ่งที่สวยงามมากและอยู่ในใจผมเสมอมาพอ ๆ กับ SME Series V นั่นคือ (Wheaton) Tri-Planar ซึ่งตอนนี้ได้พัฒนามาเป็น Mk VII แล้ว ราคาขายไม่แน่นอน ตอนออกมาใหม่ ๆ น่าจะราว ๆ US$ 5000 ครับ

(http://www.tnt-audio.com/jpeg/triplanarbig.jpg)

โดยส่วนตัว ผมชื่นชอบโทนอาร์มของ Dynavector เป็นพิเศษตรงที่มีการออกแบบมาเก๋ไก๋ ล้ำหน้า และไม่เหมือนใคร (บางคนว่าเหมือนแขนหุ่นยนต์ไปโน่น) นอกจากการออกแบบแล้ว โทนอาร์มยี่ห้อนี้ยังได้รับการพัฒนาโดยมีทฤษฎีที่น่าทึ่งและมีเหตุผลรองรับ เพื่อให้ใช้งานได้สะดวกและทำให้หัวเข็มทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ตอนนี้ผมเล่นรุ่น DV-505 ซึ่งเป็นอาร์มรุ่นแรกของเจ้านี้ ออกมาตั้งแต่ปลายยุค 70's และโด่งดังในยุค 80's จวบจนถึงขณะนี้ได้พัฒนามาเป็นรุ่น 507 Mk II แล้ว ราคาเมื่อออกใหม่จำได้ว่าประมาณ 4000 เหรียญยูเอส แต่ตอนนี้เกิน 5000 เหรียญแล้ว เป็นอาร์มที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีหัวเข็มชั้นเยี่ยมอยู่หลายหัวและต้องการ swap ใช้หัวเข็มสลับถอดเปลี่ยนใช้งาน ถ้าใช้กับอาร์มตัวนี้รับรองสะดวกโยธินครับ

(http://www.dynavector.com/products/images/507mk2_full.jpg)

จริงครับ
จุดอ้างอิง ยิ่งยาว(หรือไกล) ยิ่งเพี้ยนน้อยกว่าครับ
เช่นการวัดระยะห่างของโลกกับพระอาทิตย์
เราต้องใช้จุดอ้างอิงเป็นดาวในระบบอัลฟ่า เซ็นทอเรียลโน้น..

ยิ่งอธิบาย กระผมจะงงไปด้วย เอาเป็นว่า
ยิ่งแขนมันยาว มันเลยกระดิกน้อยลงครับ -ง่ายๆยังงี้แหละ

ครับ คงมีคนถามต่อ
โหย..พี่ถ้ามันดีจริง
ทำไมไม่ทำ 30นิ้วไปเลยละ
จัดให้ครับ

(http://i88.photobucket.com/albums/k199/Urizen_2006/monachium_etc078.jpg)

แต่ผมว่า ณ จุดหนึ่ง น้ำหนักของตัวมันเอง จะเข้าควบคุมชนะความดีงามที่กล่าวมาทั้งหมด

Credit: http://www.audiokarma.org

Dynavector DV-505 ออกสู่ตลาดเมื่อปี 1977 ติดลมบนในยุค 80's และเป็นดาวค้างฟ้านับแต่บัดนั้น เป็นบรรพบุรุษของอาร์มรุ่น DV-501, DV-507 และ DV-507 Mk II (ดังในรูปข้างต้น) ความที่เป็นอาร์มค่อนข้างยาว ทำให้การติดตั้งหัวและปลายเข็มได้มุมกับร่องแผ่นเสียงโดยมีค่า tracking error ต่ำเมื่อใช้งานจริง ผลลัพธ์ที่ได้คือคุณภาพเสียงยอดเยี่ยมเท่าที่โทนอาร์มไฮเอนด์ตัวหนึ่งพึงจะให้ได้ ราคาขายมือสองสภาพดีไม่ต่ำกว่า US$ 1800 เป็นอาร์มที่ผมใช้ประจำการอยู่ในขณะนี้ และมันเข้าขาไปกันได้ดีกับหัวเข็มไฮเอนด์ทั้งหลายที่มีบอดี้ทรงสูงและก้านเข็มแข็ง ๆ หรือมีค่า compliance ต่ำครับ

(http://www.the-adam.com/adam/loci-4tn/dv505x.jpg)

Linn Ekos SE วิวัฒนาการของโทนอาร์ม Linn รุ่น Ekos ซึ่งทำมาเพื่อให้เข้าคู่กับเทิร์นเทเบิ้ล LP12 แต่คงต้องทำใจที่จะต้องควักเงินเพิ่มอีกพอสมควรเพื่อให้ได้ Ekos SE

ภาพจาก www.pisutshop.com

(http://www.pisutshop.com/temp/P13814.jpg)

โทนอาร์มของ VPI ผู้ผลิตเทิร์นเทเบิ้ลชั้นนำของสหรัฐ ในรูปนี้คือรุ่น JMW 12.7 ครับ

http://dagogo.com/

(http://dagogo.com/wp-content/uploads/2012/11/VPI-JMW-127-1.jpg)

คราวก่อนได้พูดถึงอาร์ม SME รุ่น Series IV & V ไปแล้ว คราวนี้มาดูอาร์มรุ่นราคาประหยัดลงมาอีกพอสมควร คือรุ่น 309 ซึ่งตัวอาร์มทำด้วยอะลูมิเนียม เฮดเชลล์สามารถถอดออกได้ ในขณะที่รุ่น Series IV & V ไม่สามารถถอดเฮดเชลล์ได้ SME 309 เป็นอาร์มที่คุณภาพเสียงดีคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา แต่ก็ยังสู้รุ่น Series IV & V ไม่ได้ครับ

(http://www.sme.ltd.uk/uploads/images/series300big.jpg)

Reed 3P โทนอาร์มจากผู้ผลิตชาวลิธัวเนีย เห็นแล้วรู้สึกว่ารูปทรงของมันคล้ายกับอาร์มโคตรแพงยี่ห้อหนึ่งซึ่งผมเคยลงไว้ในหน้าก่อนนี้มั้ยครับ
ลองพลิกกลับไปดู

www.analogplanet.com

(http://www.analogplanet.com/images/imagecache/600_wide/Reed1.jpg)

Funk FXR โทนอาร์มของเมืองผู้ดี ราคาเมื่อออกจำหน่าย 900 ปอนด์สเตอร์ลิง

(http://4.bp.blogspot.com/_BfmuVxzYgGQ/TLjBHEtKg0I/AAAAAAAAASU/qfC02PosUjE/s1600/66497_1678507800040_1157852898_31935581_1534038_n.jpg)

Helius รุ่น Omega โทนอาร์มของอังกฤษ แต่ผมชอบดีไซน์ของรุ่น Orion Mk 1 มากกว่าครับ

(http://www.tnt-audio.com/jpg/munich06/hen06_35.jpg)

(http://www.kabrna.com/hifi/helius_orion.jpg)

Origin Live โทนอาร์มอังกฤษที่มีชื่อเสียงอีกยี่ห้อหนึ่ง มีหลายรุ่นและหลายราคา เป็นอาร์มที่ได้ชื่อว่าคุ้มค่าสมราคายี่ห้อหนึ่งในท้องตลาด อันนี้ดูเหมือนจะเป็นรุ่นท็อปของเขา คือ Encounter Mk3C ราคาขาย 2000 กว่าปอนด์สเตอร์ลิง ติด Editor's Choice Award ประจำปี 2012 ของนิตยสาร The Absolute Sound ด้วยนะครับ

ภาพจาก www.audiorevelation.com

(http://www.audiorevelation.com/cre/images/0newimages/encounter_1_575_575.jpg)

Robin โทนอาร์มรุ่นประหยัดของ Graham จำได้ว่าราคาตอนออกวางตลาดใหม่ ๆ อยู่ที่ 600 กว่าเหรียญสรอ. เป็นอาร์มก้านตรงที่แลดูเรียบง่ายแฝงความสวยงามครับ

(http://www.stereophile.com/images/archivesart/GrahamTonearm.jpg)

โทนอาร์มก้านตรงรุ่นประหยัดของ SME ก็มีนะครับ (เดี๋ยวจะหาว่าเจ้านี้ทำเป็นแต่ของแพง) รุ่นที่ว่านี้คือ M2 ความยาว 9 นิ้ว และทราบมาว่า M2 รุ่นยาว 12 นิ้วก็มีครับ ชื่อรุ่น M2-12r ซึ่งเป็นอาร์มรูปตัว J และราคาก็ขยับขึ้นมาจากรุ่นประหยัดอีกมากพอสมควรอยู่

(http://www.sme.ltd.uk/uploads/images/seriesm2big.jpg)

(http://www.sme.ltd.uk/uploads/images/M2-12R.jpg)

The Wand Unipivot Tonearm จากผู้ผลิตนิวซีแลนด์ซึ่งเติบโตมาจากใจรักในงาน DIY อาร์มยี่ห้อนี้มีให้หาซื้อได้โดยตรงจากเว็บของเขาเองเท่านั้น เป็นอาร์มที่มีรูปร่างไม่ค่อยเหมือนอาร์มอื่นทั่วไป ราคาไม่แพงเกินเอื้อม (จำราคาไม่ได้ ต้องไปเปิดหนังสือดูอีกที) การันตีคุณภาพเสียงห้าดาวโดย Hi-Fi Choice และ Hi-Fi World ของอังกฤษ จะว่าไปแล้ว ก็ดูเซ็กซี่ไปอีกแบบนะครับ :D

(http://www.tnt-audio.com/jpg/garrard4-1_wand3.jpg)

The Wand ราคา 355 ปอนด์สเตอร์ลิง
นิตยสาร Hi-Fi Choice ฉบับที่ 366 ประจำปี 2012 ระบุไว้ว่า "Beautiful budget tonearm that performs way better than its price suggests"
ช่างน่าสนใจจริงจริ๊งง... ;D

Audio Origami PU7 ตามข้อมูลที่อ่านเจอ ระบุว่าเป็นอาร์มที่วิวัฒน์มาจาก Syrinx PU3 ที่โด่งดังในอดีต และเป็นอาร์มที่ต้องสั่งทำ จะเอาความยาวเท่าใด finish แบบไหน ฯลฯ ก็บอกผู้ผลิตไป ถ้าสเป็คพื้น ๆ ราคาขั้นต่ำก็ไม่น้อยกว่า 1700 ปอนด์สเตอร์ลิงครับ

(http://decoaudio.com/wpimages/wp905740f7.jpg)

Ortofon ใครที่ได้ยินชื่อนี้แล้วเป็นต้องนึกถึงหัวเข็มประสิทธิภาพสูงที่มีทุกระดับราคาของเขาเป็นอันดับแรก แต่เจ้านี้เขาก็ยังผลิตโทนอาร์มออกจำหน่ายมาหลายรุ่นแล้วด้วย อาร์มรุ่นที่นำมาให้ดูนี้ยังมีขายอยู่ในท้องตลาด ณ เวลานี้ ด้วยราคาประมาณพันกว่าเหรียญสหรัฐ เป็นอาร์มรูปตัวเอสที่มีความยาว 9 นิ้ว มีชื่อรุ่นว่า TA-110 ครับ

(http://tas.zeitpress.com/resizer/articles/images/ortofon_jh.png/?size=648,460)

เห็นจากนิตยสาร Audiophile ของเดือนก่อน พี่พลวัฒน์ เพื่อนคุณ The Black Tulip ก็กำลังเล่นตัวนี้อยู่ด้วยครับ
ดู ๆ ไปแล้ว อาร์มตัวนี้มันเหมือนเอาตะเกียบคู่หนึ่งมาประกบกันนะครับ

www.analogplanet.com

(http://www.analogplanet.com/images/imagecache/600_wide/Thales2.JPG)

โทนอาร์มเซ็กซี่รุ่นประหยัดของ Clearaudio รุ่น Unify ราคาประมาณ 1000 เหรียญสรอ.

https://clearaudio.de/en/products/tonearms-unify.php

Tri-Planar Mk VII Ultimate 2 (U2) Tonearm ผมละชอบจริง ๆ อาร์ม เมด อิน ยูเอสเอ ยี่ห้อนี้ เพราะทั้งสวยเก๋และเสียงยอดเยี่ยมมาก เป็นที่กล่าวขานถึงมากมาย แต่ราคาแพงถึงแพงหูดับ สัญญาเลย ถ้ามีโอกาสเล่นละก็ ผมจะไม่รอช้าเลยครับ 555

เครดิตภาพ www.dagogo.com

(https://www.dagogo.com/wp-content/uploads/2014/02/tri-planar-2.jpeg)

Durand "The Talea" tonearm ราคา 9500 เหรียญสรอ.

ภาพจาก www.tonepublications.com

(http://www.tonepublications.com/media/TALEA-side.jpg)

(http://www.tonepublications.com/media/TALEA-close.jpg)

โทนอาร์ม 12 นิ้วว่ายาวแล้ว ต้องมาเจอโทนอาร์ม Si ซึ่งมีความยาว 25 นิ้วของ Rossner & Sohn ดูซะก่อน ยิ่งยาวยิ่งดีนะ -- จะบอกให้ :D

(http://i321.photobucket.com/albums/nn367/paiboonp/rossnerampsohn_si25_zps12c445a1.jpg)

Moerch โทนอาร์มของเดนมาร์ก รุ่นท็อปของเขาคือ DP-8 มีทั้งสีโครเมี่ยมและสีทอง และยังมีเวอร์ชั่น 12 นิ้วด้วยครับ

ภาพจาก www.moerch.dk

(http://www.moerch.dk/img/morch_dp8_16.jpg)

(http://www.moerch.dk/img/P1010014a.JPG)

(http://www.moerch.dk/img/P1010004a.JPG)

โทนอาร์มของ RS Laboratory รุ่น RS-A1

เครดิตภาพ www.dagogo.com

(https://www.dagogo.com/wp-content/uploads/2012/12/RSLabRSA1-1.jpg)

Fidelity Research FR-66S โทนอาร์มที่เป็นตำนาน หายาก และราคาแพงที่สุดรุ่นหนึ่งของ Fidelity Research เลิกผลิตไปนานนับทศวรรษแล้ว ราคาซื้อขายในตลาดของเก่าแพงมาก สามารถเรียกราคาของพร้อมกล่องตั้งแต่ 6-7 พันเหรียญสหรัฐขึ้นไปได้อย่างสบาย ๆ ผมเคยเห็นนักเล่นคนไทยบางคนสั่งซื้อมาเล่นด้วย แสดงว่าคนไทยไม่จน สามารถสู้ชาติอื่นได้สบายครับ

(http://www.stefanopasini.it/images/FR66S.jpg)

Graham Phantom Elite โดย Graham Engineering มีทั้งความยาว 9 นิ้ว 10 นิ้ว และ 12 นิ้ว ให้เลือก และราคาก็สูงตามความยาวของอาร์ม เท่าที่เห็นราคาผ่านตามา อาร์มเวอร์ชั่น 12 นิ้ว ราคาประมาณ 12,xxx เหรียญสหรัฐ แสดงว่าในแต่ละหนึ่งนิ้วของโทนอาร์มจะมีราคาต้นทุนค่างวดอยู่ที่ประมาณหนึ่งพันกว่าเหรียญ ในประโยคสุดท้ายกรุณาอย่าเชื่อผม เพราะผมเอาแค่ฮาเท่านั้นครับ :D

(http://www.theaudiobeat.com/ces2013/pics010813/graham_phantom_elite_2.jpg)

(http://www.stantondj.com/pics/products/turntables/lg-turntables/t92-angle-lg.jpg)
Turn หน้าตาแบบนี้ ยี่ห้อนี้ พอใช้ได้ไหมครับ

เป็นเทิร์นรุ่นใหม่ซึ่งมีฟีเจอร์ USB เพื่อการถ่ายโอนและบันทึกสัญญาณเป็นไฟล์เพลงได้ด้วย รูปลักษณ์คล้าย Technics SL-1200 Mk II และเป็นระบบ direct drive น่าจะเหมาะกับการใช้งานของดีเจมากกว่า แต่ถ้าจะใช้ฟังเพื่อการพักผ่อนในแบบโฮมยูสทั่วไปก็ใช้ได้ไม่มีปัญหา แถมยังสะดวกแก่ผู้ที่ชอบถ่ายสัญญาณจากแผ่นเสียงเก็บไว้เป็นไฟล์ด้วย อันว่ากระบี่นั้นอยู่ที่ใจครับ :D

อยากได้อาร์ม SME 309 ถ้าซื้อทางออนไลน์ ราคาเป็นเงินเหรียญสหรัฐพอรับได้ (ของใหม่) แต่อัตราแลกเปลี่ยนสูงขึ้น ทำให้ต้องจ่ายเป็นเงินไทยแพงขึ้น ไม่ทราบมีท่านใดอยากจะปล่อยของมือสองให้ในราคามิตรภาพบ้างมั้ยครับ? (สนใจจริง ๆ นะจ๊ะ) :D

เครดิตภาพ www.springair.de

(https://www.springair.de/media/image/c6/dd/4f/45990-0-45990.jpg)

SME เลิกผลิตโทนอาร์มขายโดด ๆ แล้ว แต่จะผลิตโทนอาร์มขายควบคู่ไปกับเทิร์นเทเบิ้ลของตนเอง ส่วนการบริการและอะไหล่นั้นยังมีให้เหมือนเดิม ข่าวเมื่อปี 2019 อ่านรายละเอียดตามลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ

https://stereo-magazine.com/article/no-more-solo-tonearms-from-sme

Tri-Planar Mk VII U2 "Classic" Tonearm
อาร์มอเมริกันยี่ห้อนี้ เวอร์ชั่นนี้ ไม่ใช่เพิ่งออกใหม่ แต่มีมานานหลายปีแล้ว ราคาในยุโรปหกพันกว่ายูโร แต่ผมจำราคาขายในอเมริกาไม่ได้ และอาร์มยังมีเวอร์ชั่นที่มีความยาวแตกต่างกันออกไปด้วย ซึ่งราคาก็ต้องต่างกัน (อาร์มยิ่งยาว ความเพี้ยนยิ่งน้อย และราคาก็ยิ่งแพง)
สวยจัง... อยากด๊ายยย... อยากได้ ครับ 5555

เครดิตภาพ www.maplatine.com

(https://www.maplatine.com/en/6425-large_default/tri-planar-mkvii-u2-classic-tonearm.jpg)

Tri-Planar Mk VII U2 ยังไม่พอ (U เห็นเค้าว่าย่อมาจาก Ultimate ที่แปลว่า สุดยอด) แถมยังมีเวอร์ชั่น SE ด้วยครับ

เครดิตภาพ www.usaudiomart.com

(https://img.usaudiomart.com/uploads/large/2254665-7b786df7-triplanar-mk-vii-u2-se-tonearm.jpg)

เทิร์นเทเบิ้ลสวย
โทนอาร์มสวย
หัวเข็มสวย
ทั้งหมดรวมกันแล้ว เสียงต้องดีด้วย
รู้สึกเหมือนได้ครอบครองรถยนต์หรูสักคัน ยังไงยังงั้น
อยากจับต้อง อยากเช็ดถู และอยากขับขี่ไปไหนต่อไหนครับ 5555 :D

อดไม่ได้ที่จะคิดว่าโทนอาร์ม Abis SA-1.2 โดยผู้ผลิตชาวอาทิตย์อุทัย คือโทนอาร์มที่เลียนแบบดีไซน์มาจาก Dynavector DV-507 และ DV-507 Mk II ครับ

เครดิตภาพ www.tnt-audio.com

(https://www.tnt-audio.com/jpg/abis-sa1-sa1b.jpg)

Dynavector DV-507 Mk II

เครดิตภาพ www.dynavector.com

(https://www.dynavector.com/products/tonearm/images/507mk2_full.jpg)