Thai Progressive Rock Community

ThaiProg => Any Colour You Like => ข้อความที่เริ่มโดย: ปีศาจลายคราม ที่ 29 กันยายน 2021 | 01:19:30 PM



หัวข้อ: Decade of 1960s (Year 1960-1969)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจลายคราม ที่ 29 กันยายน 2021 | 01:19:30 PM
ช่วงทศวรรษ 1960s ซึ่งนับตั้งแต่ปี 1960 ถึง 1969 หรือ พ.ศ. 2503 ถึง 2512 ใครจำได้บ้างว่า ณ ห้วงเวลานั้น ท่านทำอะไรอยู่และหรือมีเหตุการณ์สำคัญหรือโดดเด่นอะไรเกิดขึ้นกับท่านบ้าง เชิญเล่ามาเลยครับ


หัวข้อ: Re: Decade of 1960s (Year 1960-1969)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจลายคราม ที่ 29 กันยายน 2021 | 05:32:25 PM
ผมจำไม่ได้ว่าช่วงปี 1960s ได้ทำอะไรหรือมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นกับตัวเองบ้าง เพราะเพิ่งลืมตาดูโลกได้ไม่กี่ปี จำได้แต่เพียงว่าชีวิตช่วงนั้นมีความสุข อยู่บ้านที่สงบร่มรื่นราวกับอยู่ในรั้วในวัง พ่อแม่คอยเอาใจ วิ่งตามป้อนข้าว เพราะยังเป็นลูกคนเดียวและเป็นคนที่กินอะไรยาก (เลือกกิน) จนกระทั่งแม่คลอดน้องสาวมาคนหนึ่งให้มาวิ่งเล่นเป็นเพื่อนผมครับ 5555 :D


หัวข้อ: Re: Decade of 1960s (Year 1960-1969)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจลายคราม ที่ 30 กันยายน 2021 | 08:31:04 AM
ผมไม่ทราบว่ามีสมาชิกท่านใดของชุมชนเราบ้างซึ่งเป็นวัยรุ่น (อายุสัก 16-17 ปี) ในช่วงปี 1960s ถ้ามี สมาชิกท่านนั้นคงจะได้มีโอกาสใช้ชีวิตในช่วงยุค "โก๋หลังวัง" และคงจะชอบเพลงแนว oldies อย่างของ The Beatles, Elvis, Cliff Richard อะไรเทือกนี้ มากกว่าจะเป็นแนว progressive rock นะครับ 5555 :D


หัวข้อ: Re: Decade of 1960s (Year 1960-1969)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจลายคราม ที่ 04 ตุลาคม 2021 | 08:33:32 AM
เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา คงเป็นวันเลี้ยงอำลาชีวิตราชการของใครหลายคนที่มีอายุครบ 60 ปี หรือเป็นผู้ที่เกิดปี 1961 หรือพ.ศ. 2504 ก็ขอแสดงความยินดีกับชีวิตหลังเกษียณของทุกท่านที่ครบ 60 ปีนี้ด้วยครับ


หัวข้อ: Re: Decade of 1960s (Year 1960-1969)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจลายคราม ที่ 14 ตุลาคม 2021 | 03:43:57 PM
ปลายยุค 1960s The Beatles เริ่มใกล้จะอิ่มตัว และวง progressive rock บางวงมีผลงานชุดแรกออกมาแล้ว เช่น King Crimson, The Moody Blues, Yes แต่ผมยังเด็กเกินไปที่จะรู้จักครับ ;D


หัวข้อ: Re: Decade of 1960s (Year 1960-1969)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจลายคราม ที่ 11 สิงหาคม 2022 | 11:01:50 AM
ใกล้ถึง "วันแม่แห่งชาติ" อีกคำรบหนึ่งแล้ว ผมคิดถึงคุณแม่ซึ่งอยู่บ้านน้องสาวขึ้นมาตะหงิด ๆ เห็นทีจะต้องไปเยี่ยมท่านบ้าง แม่บอกลูก ๆ คือผมและน้อง ๆ อยู่เสมอว่า "ไม่ว่าจะยังไง ฉันก็ยังเห็นพวกแกเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำ" ซึ่งหมายความว่า ไม่ว่าลูก ๆ จะอายุมากแค่ไหน ก็ยังเป็นเด็กในสายตาของแม่อยู่ดี ความพิเศษของแม่ของผมคือ สมองดีและความจำแม่นมาก แม้อวัยวะส่วนอื่น ๆ จะอ่อนเปลี้ยไปตามวัย ท่านจำได้เสมอว่า ลูกแต่ละคนเป็นหนี้หรือเคยเอาเงินของท่านไปเท่าไหร่ (ฮา ;D) แต่ท่านก็ไม่เคยจะทวงถามหรือเรียกหนี้คืนจากลูก ๆ เลย... นี่ล่ะ คุณแม่คนดีที่หนึ่งของผม

ไหน ๆ พูดถึงคุณแม่แล้ว ขอเล่าเรื่องชีวิตในวัยเด็กของผมสักนิดดีกว่า ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี เอาเป็นว่าผมเกิดในยุค sixties หรือในช่วงปี 1960s พ่อแม่เป็นคนต่างจังหวัดที่เข้ามาหากินอยู่ในกรุงเทพเหมือนคนต่างจังหวัดทั่ว ๆ ไป พ่อทำงานรับใช้รัฐบาลต่างประเทศ มีเจ้านายเป็นฝรั่งหรือชาวต่างชาติ จึงได้มีบ้านพักอาศัยสำหรับคนงานอยู่ในอาณาบริเวณบ้านของ "นายฝรั่ง" เพื่อจะได้คอยรับใช้หรือทำงานให้เจ้านายได้สะดวก บ้านนายฝรั่งตั้งอยู่บนถนนสาทร ซึ่งถนนสาทรในยุคนั้นไม่เหมือนยุคปัจจุบัน เพราะยังเป็นถนนราดยางมะตอยหรือแอสฟัลต์ทั้งสาทรเหนือและสาทรใต้ และคลองสาทรซึ่งคั่นระหว่างถนนสาทรเหนือกับสาทรใต้ยังมีฟุตปาธให้คนเดินและมีบันไดทำไว้ให้ลงไปลอยกระทงได้ด้วย ผมจำได้ว่าแม่เคยพาผมไปลอยกระทงที่คลองสาทรในคืนวันลอยกระทง ซึ่งค่ำคืนวันนั้นสว่างไสวและสนุกครึกครื้นมาก บ้านนายฝรั่งมีรั้วรอบขอบชิดและมีอาณาบริเวณกว้างขวาง สงบร่มรื่น และมีการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด มียามทั้งไทยและแขกรักษาความปลอดภัยที่ประตูใหญ่ด้านหน้าตลอด 24 ชั่วโมง สนามหญ้าหลังตึกที่นายฝรั่งพักอยู่นั้นกว้างขวางมาก เวลาที่คนงานตัดหญ้าสั้นเตียนแล้วน่าวิ่งเล่น ผมกับน้อง ๆ และเพื่อน ๆ ซึ่งเป็นลูกคนงานเพื่อนของพ่อชอบไปวิ่งเล่นและหรือเล่นว่าวในช่วงหน้าร้อนซึ่งเป็นเวลาที่นายฝรั่งไม่อยู่หรือกลับไปบ้านต่างประเทศเป็นเวลานาน รอบที่ดินบ้านนายฝรั่งถูกล้อมรอบด้วยคลองซึ่งน้ำไม่ค่อยสะอาดนัก แต่ก็มีปลาให้จับมากินได้และสามารถลงไปว่ายเล่นได้อยู่ (ผมกับเพื่อน ๆ นี่แหละครับที่ชอบลงไปว่ายเล่นกัน) และพ่อของผมก็จับปลาหรือวางเบ็ดวางตาข่ายดักมาทำกับข้าวได้บ่อย ๆ

ด้านหนึ่งของแปลงที่ดินบ้านนายฝรั่งอยู่ติดโรงงานผลิตแผ่นเสียงและห้องบันทึกเสียงของบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่งในยุคนั้น (ทุกวันนี้บริษัทดังกล่าวก็ยังอยู่ แต่หันไปทำธุรกิจอย่างอื่น) และตอนนั้นยังไม่ได้สร้างรั้วปิดกั้นระหว่างที่ดินสองผืนอย่างถาวร ผมจึงมีโอกาสได้ข้ามไปวิ่งเล่นกับเพื่อนคนหนึ่งซึ่งอยู่บ้านพักคนงานของบริษัทผลิตแผ่นเสียงที่ว่านี้อยู่บ่อย ๆ เพื่อนของผมคนนี้มักจะเก็บแผ่นเสียงที่เหลือทิ้งจากการผลิตมาให้ผม หรือบางทีก็เอาม้วนเทปรีลขนาด 7 นิ้วมาให้หลายม้วน ผมจึงสงสัยว่าความชอบและฝักใฝ่ในสื่อฟังเพลงแบบอนาล็อกได้เริ่มต้นจากจุดนี้, จากเพื่อนในวัยเด็กคนนี้ของผมหรือเปล่า, เหมือนถูกปลูกฝังโดยไม่รู้ตัว เพราะตั้งแต่นั้นมาผมก็ชอบแผ่นเสียงทั้งที่ยังไม่มีเครื่องเล่น ขอให้ได้เห็นและรูปคลำไว้ก่อนก็มีความสุขแล้ว เดี๋ยวจะมาเล่าต่อครับ


หัวข้อ: Re: Decade of 1960s (Year 1960-1969)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจลายคราม ที่ 11 สิงหาคม 2022 | 02:28:32 PM
พรุ่งนี้ก็จะถึงวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2565 ผมจึงถือโอกาสใช้กระทู้นี้เล่าเรื่องแม่และชีวิตในวัยเด็กยุค 1960s เสียเลย

ในวัยเด็กของผม ชีวิตครอบครัวไม่ได้ร่ำรวยหรอกครับ ติดจะยากจนเสียด้วยซ้ำ เพราะพ่อมีเงินเดือนไม่มาก แม่ก็อยู่เฉย ๆ ทำงานบ้านและเลี้ยงลูก ไม่ได้ช่วยพ่อทำงานหาเงินอีกแรงหนึ่ง อาศัยแต่ว่าพอมีสวัสดิการอย่างอื่นอยู่ เช่น บ้านพักคนงาน และสาธารณูปโภค (น้ำประปา ไฟฟ้า) ซึ่งมีให้ใช้ฟรี ถึงกระนั้น พ่อกับแม่มีวิสัยทัศน์ที่ยาวไกลอยู่อย่างหนึ่งคือ ต้องให้ลูกทุกคนได้รับการศึกษาอย่างดีที่สุดและสูงสุดเท่าที่พ่อแม่จะส่งเสียให้ลูกเรียนได้ ในช่วงปี 1960s ผมยังไม่ได้เข้าโรงเรียน เพราะอายุยังไม่ถึงเกณฑ์เข้าเรียน ถือเป็นช่วงต้นของชีวิตที่มีความสุขมาก ๆ เพราะมีแต่กิน เล่น และนอน ในสภาพแวดล้อมและสังคมที่สงบสุข ปราศจากมลพิษ บางครั้งแม่ก็พูดถึงเรื่องเก่า ๆ ให้ลูก ๆ ฟังว่า "แม่เลี้ยงลูก ๆ มาเหมือนอยู่ในรั้วในวังเลยนะ" ก็คงจะจริงอย่างที่แม่พูด เพราะผมและน้อง ๆ ถูกเลี้ยงมาในสภาพที่ไม่ใช่เป็นซอยคับแคบ อยู่ใกล้ตลาด หรือตามถนนที่จอแจและมีแต่ฝุ่นควัน หากแต่เป็นสภาพที่มีอาณาบริเวณกว้างขวางเต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจีและมีทางน้ำล้อมรอบเป็นรูปเกือกม้า ถ้าคน "ในรั้วในวัง" อย่างที่แม่ของผมได้เปรียบเปรยไว้ มีสภาพความเป็นอยู่อย่างไร ผมเชื่อว่าบ้านพักคนงานของ "นายฝรั่ง" ก็มีสภาพไม่ต่างกัน เพราะมีความร่มรื่น สงบสุข กว้างขวาง และปลอดภัยสูง พ่อของผมรักที่นี่มาก ท่านทำงานจนตัวเองเกษียณอายุแล้วยังทำอยู่ที่นี่ต่อไปจนเสียชีวิตในที่สุดครับ


หัวข้อ: Re: Decade of 1960s (Year 1960-1969)
เริ่มหัวข้อโดย: eric camen ที่ 13 สิงหาคม 2022 | 07:38:26 AM
ผมเกิดปี 2512 นะครับพี่ปีศาจ จำอะไรไม่ได้เลยครับ 5555


หัวข้อ: Re: Decade of 1960s (Year 1960-1969)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจลายคราม ที่ 17 สิงหาคม 2022 | 09:43:07 AM
น้องสาวคนโตของผมก็เกิดปี 2512 หรือ ค.ศ. 1969 ครับ

ไม่แปลกหรอกครับที่คนเราทั่วไปในช่วงอายุตั้งแต่เกิดจนถึง 2-3 ปีแรกของชีวิตมักจะจำอะไรไม่ได้ เพราะคนที่ "จำความได้" มักจะมีอายุ 4-5 ปีขึ้นไป

ปี 2512

- มนุษย์อวกาศของสหรัฐอเมริกาขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์ได้สำเร็จ
- King Crimson ออกผลงานชุดแรก In The Court Of The Crimson King ซึ่งถือเป็นผลงานชั้นครูของโลกดนตรี progressive
- Yes ออกผลงานชุดแรก

แล้วมีเหตุการณ์สำคัญอะไรอีกบ้างครับในปีนี้ ซึ่งเป็นปีหัวเลี้ยวหัวต่อที่จะเข้าสู่ทศวรรษ 1970s


หัวข้อ: Re: Decade of 1960s (Year 1960-1969)
เริ่มหัวข้อโดย: eric camen ที่ 19 สิงหาคม 2022 | 11:18:20 AM
ถ้าปี 1969 ก็ต้อง
   1.ผลงาน 2 อัลบั้มแรกของ Led Zeppelin ล่ะครับ
   2.ผลงานอัลบั้มแรกของ Van Der Graaf Generator
   


หัวข้อ: Re: Decade of 1960s (Year 1960-1969)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจลายคราม ที่ 29 สิงหาคม 2022 | 10:09:59 AM
- Procol Harum ออกผลงานชุดแรกที่มีเพลงดัง A Whiter Shade Of Pale เมื่อปี 1967
- Uriah Heep ออกผลงานชุดแรก Very 'Eavy Very 'Umble เมื่อปี 1969

รู้สึกเหมือนเคยได้ยินเสียงออร์แกนล่องลอยจากเพลง A Whiter Shade Of Pale และริฟฟ์มัน ๆ จากเพลง Walking In Your Shadow ในอัลบั้มชุดแรกของ Uriah Heep ติดหูและอยู่ในสมองมานานแสนนานแล้ว เผลอ ๆ อาจจะเป็นตอนที่ผมยังเป็นเด็กเป็นเล็ก ในช่วงหรือไม่นานหลังจากที่เพลงทั้งสองนี้เปิดออกอากาศตามสถานีวิทยุในยุคนั้น คุ้นมากกับท่วงทำนอง แต่ไม่รู้จักชื่อเพลงหรอกครับ เพิ่งมาทราบเอาตอนโตแล้ว


หัวข้อ: Re: Decade of 1960s (Year 1960-1969)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจลายคราม ที่ 08 กันยายน 2023 | 10:06:00 AM
นึกย้อนไปในยุคปี 1960s ซึ่งช่วงนั้นผมยังเล็กมาก จำความอะไรไม่ค่อยได้ บ้านที่พักอาศัยเป็นห้องพักคนงานชั้นเดียวซึ่งปลูกติดกันให้อยู่กันครอบครัวละหนึ่งห้อง ครอบครัวผมมีพ่อ แม่ และลูกอีกสาม รวมเป็นห้าคน ก็ไม่รู้ว่าอยู่กันได้อย่างไรในตอนนั้น ห้องพักคนงานก็ไม่ได้ใหญ่โตหรือกว้างขวางแต่อย่างใด หากจะให้เปรียบ ก็มีขนาดพอ ๆ กับห้องพักหรือห้องเช่าของอพาร์ตเม้นท์ทั่วไป ใส่เตียงเข้าไปเตียงเดียวก็เกือบจะเต็มห้องแล้ว ยังดีที่พ่อของผมได้ห้องครัวและซักล้างมาใช้ประโยชน์อีกหนึ่งห้อง (ในขณะที่ครอบครัวคนงานอื่น ๆ ไม่ได้รับสิทธิ์เช่นนี้) ผมจึงรู้สึกว่า "บ้าน" (ถ้าจะเรียกให้ถูกก็คือ "ห้องพัก") ไม่ได้คับแคบจนอยู่ไม่ได้ และสมัยนั้นอากาศไม่ได้เลวร้ายเหมือนทุกวันนี้ เรือนพักเล็ก ๆ ก็นอนกันได้สบาย ผู้ใหญ่สอง กับเด็กอีกสามคน นอนรวมกันในห้องเดียว เมื่อร้อนก็เปิดพัดลม ก็อยู่กันได้ หน้าร้อน หน้าฝน และหน้าหนาว แต่ละหน้ามีความชัดเจน พอถึงหน้าหนาวก็หนาวจริง ๆ แม่ต้องหยิบเสื้อกันหนาวออกมาให้ใส่ ไม่ใช่หน้าหนาวอย่างทุกวันนี้ เพราะเย็นอยู่ได้ไม่กี่วันก็ร้อนเหมือนเดิมแล้ว

ยุคนั้นคนมักจะฟังละครวิทยุกัน ผมจำได้ว่าพอตกค่ำสักทุ่มสองทุ่ม บรรยากาศมืดสลัว เรือนพักใกล้เคียงบางแห่งเปิดวิทยุทรานซิสเตอร์ฟังละครผี ซึ่งเมื่อละครเริ่มจะมีอินโทรเป็นเสียงหมาหอน บ๊อก... บ๊อก... บ๊อก... บรู๋วว์... คล้ายจะบอกว่าละครผีมาแล้วนะ ทำให้ผมซึ่งตอนนั้นยังเป็นเด็กเล็กเมื่อได้ยินเสียงหมาหอนแล้วรู้สึกขนลุก และกลัวขึ้นมาจับจิต ประกอบกับบรรยากาศที่มืดมิดในยามค่ำคืน มองไปที่ใดก็มืด ก็ยิ่งรู้สึกกลัวขึ้นไปใหญ่ครับ