Thai Progressive Rock Community

เคยตั้งเป็นกระทู้ไว้ แต่หายไปแล้ว เลยถือโอกาสยกยอดมาตั้งกระทู้ใหม่
  สำหรับผม วงนี้เป็นวงโปรดวงหนึ่งทีเดียว เคยเก็บไว้หลายชุดแต่ไม่ได้ฟัง ช่วงนี้มีโอกาสได้ฟัง ก็เลยชื่นชอบเป็นพิเศษ และหาซื้อชุดอื่นเพิ่มเติมด้วย
  สำหรับ Annie Haslam นักร้องนำ ไม่สงสัยในความสามารถ แต่ที่น่าแปลกใจคือ Bass / Keyboard ซึ่งถูกใจมากเช่นกันครับ
  ชุดที่ประทับใจมากๆคือ Live at Carnegie  Hall  ครับ

ผมรู้จักวงนี้เป็นครั้งแรกด้วยผลงานชุด Turn Of The Cards ซึ่งทำให้สนใจ Renaissance นับแต่บัดนั้น เสียงนักร้องนำ Annie Haslam สุดยอดและมีพลัง โหนเสียงได้สูงมาก ราวกับเทพธิดาโอเปร่า อัลบั้มโปรดของผมได้แก่ชุด Prologue, Ashes Are Burning, Turn Of The Cards, Scheherazade And Other Short Stories, Live At Carnegie Hall, Novela ส่วนผลงานเดี่ยวของ Haslam ยังไม่เคยลองฟัง ต้องรอให้คุณ panyarak มาให้ความเห็นแล้วล่ะครับ

เรื่องผลงานเดี่ยวของ Annie Haslam เคยตอบไปแล้วเช่นกัน แต่ขอตอบใหม่ที่คงไม่ตรงกับที่ตอบไว้ว่า ผลงานเดี่ยวของเธอ จะคนละแนวกับ Renaissance ยุครุ่งเรืองครับ โดยแนวดนตรีจะเปลี่ยนไปตามนักดนตรีและ producer
Annie in Wonderland - ได้ Roy Wood (อดีต The Move และ ELO) มาร่วมงาน เพลงที่ผมชอบมากคือ If I Loved You และ Going Home
Still Life - ชุดนี้นำเพลงคลาสสิคมาใส่เนื้อร้องโดย Betty Thatcher ซึ่งเป็นขาประจำแต่งเนื้อร้องให้ Renaissance ยุครุ่งเรือง และบรรเลงดนตรีโดยวงออเคสตรา เป็นอัลบั้มเดี่ยวที่ผมชอบมากที่สุดและชอบทุกเพลง
Annie Haslam - ชุดนี้ออก pop มากๆ แถมยังร้องเพลง Moonlight Shadow ได้แย่กว่าต้นฉบับ
Fox โดย Akio Dobashi & Annie Haslam - น่าจะเป็นผลงานที่มีความไพเราะน้อยที่สุด
Blessing in Disguise - เธอห่างเหินวงการไปนาน เพื่อรักษาโรคมะเร็ง เมื่อหายแล้ว จึงกลับมาด้วยอัลบั้มที่ผมชอบมากรองจาก Still Life ชุดนี้น่าจะใกล้ prog มากที่สุด
Lily's in the Field โดย Annie Haslam & Steve Howe - ซิลเกิ้ลหารายได้ให้การกุศล ซึ่งทั้งสองเคยร่วมงานกันครั้งแรกใน Tales of Yesterday (Tribute to Yes) และมีแผนที่จะบันทึกเสียงเพลง cover ของ Yes เต็มอัลบั้ม แต่ก็ถูกพับไปก่อน
Live Under Brazilian Skies - บันทึกการแสดงสดที่เล่นเพลง Renaissance ปนกับผลงานเดี่ยว
The Dawn of Ananda - มาแนวเดียวกับ Blessing in Disguise
It Snows in Heaven Too - เพลงคริสต์มาสในสไตล์ของ Annie Haslam
One Enchanted Evening - บันทึกการแสดงสดที่ไม่มีเพลงของ Renaissance แต่มีเพลง She's Leaving Home ของ Beatles
Live in Philadelphia 1997 - บันทึกการเล่นสดในห้องอัด มีทั้งเพลง Renaissance และผลงานเดี่ยว (ชุดนี้มีออกเป็น DVD ด้วย)
Woman Transcending - รวมเพลงเก็บตก และ cover ซึ่งไม่ค่อยน่าประทับใจนัก

- โดยสรุป Annie Haslam ไม่เหมาะกับการร้องเพลง pop งานที่ออก prog หลังจาก Renaissance ยุบวงไปแล้วน่าจะเป็นเพลง Turn of the Century และ Ripples จาก tribute album 2 ชุด และเห็นด้วยครับที่นักดนตรีทั้งกีตาร์ เบส และคีย์บอร์ด สมัยรุ่งเรืองของ Renaissance ฝีมือแพรวพราวทุกคน สำหรับมือคีย์บอร์ด จำได้ว่า ได้แสดงสปิริตลาออกจากวงไปเนื่องจากเล่นผิดคีย์ในการแสดงสดครั้งหนึ่ง

- ประทับใจที่สุดก็เมื่อได้ชมการแสดงของ Renaissance ที่ญี่ปุ่น ที่คิดว่า ชาตินี้คงไม่ได้ชม เพราะเห็นเปิดการแสดงสดในอังกฤษหลังออกอัลบั้ม Tuscany เพียงรอบเดียว แล้วทำท่าจะยุบวง แต่ก็อุตส่าห์ไปเล่นที่ญี่ปุ่นอีก 3 รอบ เมื่อได้ชมการแสดงจริงๆ ถึงได้ซาบซึ้งในการเล่นเพลง Ashes are Burning แบบขยายเพลงจนยาวเหยียด เพราะนักดนตรีแต่ละคนได้โชว์ฝีมือกันเต็มที่ระหว่างที่ไฟสปอตไลท์ส่องไปที่ลูกบอลกระจกใบใหญ่เหนือเวที ทำให้เกิดแสดงระยิบระยับทั่วโรงแสดง Annie Haslam ในชุดกระโปรงกำมะหยี่สีม่วงเข้มแต่เท้าเปล่า เป็นจุดเด่นของวงจริงๆ ในขณะที่มือคีย์บอร์ด 2 คน ถูกแบ่งหน้าที่กันชัดเจน Mickey Simmonds จะเล่นซินธ์ ซึ่งเขาจะนั่งเฉยๆ ช่วงที่เล่นเพลงเก่าของ Renaissance ในขณะที่ Rave Tesar จะเล่นคีย์บอร์ดที่ให้เสียงแบบ Symphonic และมีบทบาทที่โดดเด่นกว่า Simmonds มาก

- หลังจากที่ Renaissance แตกวงในปี 1983 มีผลงานในนาม Renaissance ออกมาเป็นจำนวนมาก เช่น
The Other Woman - น่าจะเรียกว่าวงที่แอบอ้างใช้ชื่อ Renaissance มากกว่า เพราะนักร้องคนละคน โดย Stephanie Adlington จะมีที่เกี่ยวกับ Renaissance ก็เพียง Michael Dunford ดนตรีอ่อนมากๆ ไม่ควรเสียเวลาฟัง
At the Royal Albert Hall with the Royal Philharmonic Orchestra Vol 1 & 2 - ทั้ง 2 แผ่น เกือบจะดีเท่า Live at Carnegie Hall ไม่ควรพลาด
Ocean Gypsy ในนาม Michael Dunford's Renaissance - Dunford ยังไม่เข็ดหลาบ คราวนี้ให้ Adlington ร้องเพลงเก่าของ Renaissance แบบ unplugged พลังเสียงของ Adlington ไม่ได้ระดับจริงๆ
Songs from Renaissance Days - รวมเพลงประเภท unreleased ของวง ก็พอใช้ได้
Pictures in the Fire ในนาม Nevada - รวมเพลงเก็บตก หลังจากที่ Renaissance แตกวง มีทั้งเพลงที่ Dunford กับ Haslam พยายามทำ demo เพื่อฟื้นฟูวง และเพลงที่บันทึกเสียงสำหรับอัลบั้ม Camera Camera และ Time-line แล้วไม่ได้ใช้ คุณภาพค่อนข้างหลากหลาย มีเพลงเพราะๆ อยู่ 4-5 เพลง
BBC Sessions - บันทึกการแสดงสดแผ่นคู่ โดยไม่มีวงออเคสตรา
Unplugged Live at the Academy of Music - ดูเหมือนจะเป็นครั้งเดียวที่มีการบันทึกเพลง Okichi-san ที่แสนไพเราะในรูปแบบแสดงสด บันทึกเสียงไม่ค่อยดีนัก แต่เปี่ยมด้วยคุณภาพ
Tuscany - การกลับมารวมตัวกันครั้งล่าสุด น่าเสียดายที่ไม่ได้เล่นแนว prog ยุครุ่งเรือง
In the Land of the Rising Sun Live in Japan - ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าบันทึกการแสดงสดจากที่ไหน น่าเสียดายไม่มีออกมาเป็น DVD

ได้มีโอกาสฟังอัลบั้ม Scheherazade and Other Stories แล้ว ประทับใจมากเลยครับ สงสัยต้องไปติดตามหางานชุดอื่นมาฟังซะแล้วล่ะ

(http://i179.photobucket.com/albums/w296/Rikatonia/renaissance-scherezade.jpg)

Link  กระทู้เก่าครับ


http://www.forumtown.net/viewtopic.php?t=213&mforum=progrockthai

Renaissance

(by Panyarak Poolthup; 1987)
 


วง Renaissance ที่กล่าวถึงนี้ก่อตั้งขึ้นโดยสมาชิกที่แตกแยกมาจาก The Byrds อันประกอบด้วย Paul Samwell-Smith, Keith Relf และ Jim McCarty ซึ่งมีผลงานในนามนี้ในสไตล์ทดลองผสมผสานแนวดนตรี rock, folk และ classic ด้วยวงที่มีสมาชิกห้าคน (Relf กีตาร์และร้องนำ, McCarty กลอง, สมทบด้วยมือเบส Louis Cennamo, มือเปียโน John Hawken, และน้องสาวของ Relf; Jane Relf ร้องสมทบ) ออกผลงานมา 2 ชุดคือ Renaissance (1969) และ Illusion (1971) กับสังกัด Elektra ในอเมริกา และ Island ในอังกฤษ อัลบั้มแรกโปรดิวซ์โดย Samwell-Smith ที่ออกจากวงไปหลังจากนั้นไม่นานนัก ทิ้งให้ McCarty รวมวงขึ้นมาใหม่ด้วยนักดนตรีอื่นแล้ว McCarty ก็ออกจากวงไป
 
 
 
 
(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/anotherrenaissance.jpg)
 
Renaissance ในยุคบุกเบิกที่ตั้งขึ้นโดยสมาชิกที่แตกแยกมาจาก The Byrds
 



แล้วการรวมวงครั้งใหม่ที่กลายมาเป็นตำนานของวงการ Progressive Rock  อันประกอบด้วยนักร้องนำเสียง Soprano ชื่อ Annie Haslam ผู้ที่ได้ฟังผลงานของวงนี้โดยเฉพาะผลงานเด่นๆของวง ต้องยอมรับว่าเสียงของเธอยอดจริงๆ มีนักร้องหญิงอีกคนหนึ่งที่สุ้มเสียงใกล้เคียง Annie Haslam มากคือ Maddy Prior จากวง Steeleye Span แต่ร้องกันคนละสไตล์
 
 
 
 
(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/annie3.jpg)
 
Annie Haslam




(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/maddyprior.jpg)
 
Maddy Prior จากวง Steeleye Span
 
 
 
 
ส่วนสมาชิกที่เหลืออีก 4 คน เป็นชายล้วน คือ
 
1.   Terence Sullivan เล่นกลอง, เครื่องเคาะจังหวะ, ร้อง
2.   Michael Dunford เล่นกีตาร์โปร่ง, ร้อง
3.   Jon Camp เล่นเบส, ร้อง
4.   John Tout เล่นคีย์บอร์ด, ร้อง
 

สมาชิกทุกคนแต่งเพลงได้หมด ยกเว้น Haslam ซึ่งร้องอย่างเดียว แม้แต่ LP. เดี่ยวชุดแรกของเธอเองชุด Annie In Wonderland เธอก็ไปเอาเพลงของคนอื่นมาร้อง วง Renaissance มีบุคคลสำคัญที่มาช่วยแต่งเพลงให้อีกคนหนึ่งคือ Betty Thatcher ซึ่งเธอเป็นผู้ประพันธ์เนื้อร้องเพราะๆ ให้วงนี้หลายเพลง สำหรับ Betty Thatcher นี้เห็นนามสกุลแล้วอดไม่ได้ที่จะนึกไปว่า เป็นญาติกับอดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ Margaret Thatcher
 
สำหรับวิธีการแต่งเพลงของวงนั้น Dunford จะส่งโน้ตเพลงหรือเดโมเทปไปให้ Thatcher ซึ่งพักอยู่ที่ Cornwall ซึ่งอยู่ทางใต้สุดของอังกฤษ แล้ว Thatcher จะเขียนบทกวีของเธอเป็นเนื้อร้องแล้วส่งกลับไปให้วงที่อยู่ใน London
 

ผลงานของ Renaissance ในยุคหลังจากที่มี Annie Haslam เป็นสัญลักษณ์และนักร้องนำของวงนั้นมีดังนี้คือ
 
 
 
 
(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/prologue.jpg)
 
Prologue (1972)
 
Renaissance เริ่มประเดิมผลงานชิ้นแรกด้วย LP ที่ออกแบบหน้าปกที่เห็นแล้วต้องนึกว่าเพลงข้างในต้องเป็น Progressive แหงๆ แต่จริงๆ แล้วป็นเพลงค่อนข้างไปทาง Rock หลายแนว แต่ละเพลงค่อนข้างยาว โดยมีความไพเราะในตัวของมันเองสำหรับแต่ละเพลง ผู้ที่ชอบ Rock นิ่มนวล แบบหลายเพลงของ Scorpions ก็คงจะชอบ Sound of the Sea ซึ่งให้บรรยากาศของคลื่นและทะเลได้วิเศษสุดสมชื่อ การประเดิมผลงานชุดแรกด้วยเพลงชั้นยอด อาจถือได้ว่านักดนตรี และนักร้องวงนี้มีฝีมือเข้าขั้น
 
 
 
 
(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/ashes.jpg)
 
Ashes Are Burning (1973)
 
LP ชุดนี้ยังคงบรรจุเต็มเอียดไปด้วยเพลงแสนไพเราะเช่นเดียวกับชุดแรก โดยมีการลดท่อนโชว์การบรรเลงเครื่องดนตรีลงไป แล้วหันมาเน้นเสียงร้องของ Haslam มากขึ้น ยกเว้นเพลง title track ที่เริ่มเปิดศักราชความเป็น Progressive Rock ของวง แม้ว่าปกอัลบั้มชุดนี้จะไม่ชวนซื้อเหมือนชุดแรก แต่เพลงข้างในกลับตรงกันข้ามกับหน้าปกอย่างสิ้นเชิง
 
 
 
 
(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/beginning2-1.jpg) (http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/beginning1-1.jpg)
 
ปก Lp. คู่ที่ต่อมากลายมาเป็น Cd เดี่ยว ชุด In The Beginning
 

ในปี 1978 บริษัท Capitol ได้นำ LP  2 ชุดนี้มารวมออกใหม่เป็นแผ่นคู่โดยตั้งชื่อว่า In The Beginning ซึ่งออกแบบปกได้สวยงามมาก เป็นรูปผู้หญิงสวยนอนใส่ชุดราตรีสีแดงอยู่ที่ชายหาด ให้บรรยากาศเพลง Sound of the Sea ทำให้ผู้เขียนเลือกซื้อ LP คู่ชุดนี้แทนแยกซื้อ 2 แผ่น ซึ่งแพงกว่ามาก
 
 
 
 
(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/turnofthecards.jpg)
 
Turn Of The Cards (1974)
 
Renaissance ย้ายสังกัดจาก Capitol ไปอยู่ Sire ในชุดนี้มีเพลงที่ออกไปทาง Progressive ชั้นเยี่ยมอยู่ 2 เพลงคือ Black Flame กับ Mother Russia เพลงต่างๆ ใน LP ชุดนี้ฟังดูแล้วให้บรรยากาศปราสาทราชวังสมัยเก่า และนักรบในชุดเกราะเหล็กได้ดีมาก
 
 
 
 
(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/schehezade.jpg)
 
Scheherazade And Other Stories (1975)
 
และนี่คือ LP แนว Progressive Rock ที่ดีที่สุดในโลกชุดหนึ่ง ในหน้า A มีเพลงที่น่ากล่าวถึงมากที่สุดคือ Ocean Gypsy
 
เพลงนี้กล่าวถึงชีวิตของ Ocean Gypsy ซึ่งฟังดูแล้ว ทำให้ต้องนึกถึงนางผีเสื้อสมุทร จากเรื่องพระอภัยมณีฃองท่านกวีเอกสุทรภู่ทุกที โดยเฉพาะในท่อนที่กล่าวถึงคนรักของเธอว่า "เธอได้พบกับวิญญาณที่ว่างเปล่า" ซึ่งเปรียบเสมือนเธอได้พบกับคนที่เธอรัก แต่เขาไม่ได้รักเธอ
 
ในท่อนนี้ Betty Thatcher ผู้แต่งเนื้อร้อง ใช้อุปมา อุปไมยว่า "เธอเป็นเพียงดวงจันทร์ที่สะท้อนแสงดวงอาทิตย์สีทองของเขา จนเธอต้องตาบอดเพราะแสงของเขา"
 
และในท่อนที่กล่าวถึงความตายของ Ocean Gypsy, Thatcher บรรยายว่า "เธอถูกพันธนาการด้วยคลื่น ... บางสิ่งบางอย่างหายไปจากดวงตาของเธอ นิ้วอันปราศจากชีวิตของเธอเขี่ยทรายไปมา … เธอไม่ร้องไห้อีกแล้ว น้ำตาเธอได้เหือดแห้งไป แต่มหาสมุทรกลับร้องไห้แทนเธอ"
 
สำหรับหน้า B นั้นมีเพลงเดียวคือ Song Of Scheherazade (ออกเสียง ชา-เฮ-รา-สาด) ซึ่งแบ่งเป็น 9 ท่อน อันเป็นเรื่องราวของ 1001 ราตรี ซึ่ง Scheherazade เป็นผู้เล่าให้สุลต่านฟังเพื่อที่สุลต่านจะได้ไว้ชีวิตเธอ เพื่อให้เธอได้เล่าเรื่องต่อไปเรื่อยๆ เพลงนี้ถือเป็นเพลงที่ดีที่สุดของคณะนี้ ซึ่งพวกฝรั่งก็มักจะรู้จัก Renaissance กันจาก LP ชุดนี้
 
เป็นที่น่าเสียดายว่า Renaissance ซึ่งมีความคิดริเริ่มสรางสรรค์ ในการนำเสนอเพลง Progressive Rock แบบเล่าเรื่อง โดยมีวง Orchestra เป็น Back Up กลับไม่สามารถสานต่อความคิดอันนี้ต่อไปได้ โดยปล่อยให้ LP ชุดนี้เป็น LP ประวัติศาสตร์ไป

(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/carnegie.jpg)
 
Live At The Carnegie Hall (1976)
 
บันทึกการแสดงสดจาก Carnegie Hall ในนคร New York ซึ่งเป็นสถานที่แสดง Concert สำหรับดนตรีประเภทบรรเลงด้วย Orchestra ที่ดีที่สุดในโลก
 
LP คู่ชุดนี้ คัดเลือกเพลงมาแสดงจาก LP 4 ชุดที่ผ่านมา ซึ่งมีเพลง Scheherazade รวมอยู่ด้วย โดยในตอนต้นเพลง มีการเล่าเรื่องย่อของเพลงนี้ให้คนฟังได้ทราบด้วย การแสดงอยู่ในขั้นดีมาก และเล่นคล้ายแผ่นใน Studio มาก
 
 
 
 
(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/nevella.jpg)
 
Novella (1977)
 
LP ชุดนี้ แม้จะยังคงใช้ วง Orchestra ประกอบอยู่ แต่ทำออกมาไม่น่าประทับใจเท่าชุดก่อน เพลงต่างๆ ฟังดูแล้วเหมือนแม่ชีร้องเพลงกล่อมเด็กให้หลับ เหมือนรูปบนหน้าปกไม่มีผิด นั่นคือ น่าเบื่อ ชวนหลับ ผู้เขียนถือว่า ชุดนี้เป็นอัลบั้มยุคแรกที่ด้อยที่สุดของวงนี้ อาจเป็นได้ที่ว่าวงนี้หลังจากประสบความสำเร็จอย่างสูง ในการนำเสนอผลงานชิ้นอมตะ ในชุด Scheherazade แล้ว ไม่ต้องการทำผลงานที่ถือว่า เลียนแบบตัวเอง หรือย่ำอยู่กับความสำเร็จของผลงานเก่า จึงพยายามนำเสนอผลงานอีกแบบหนึ่งซึ่งออกมาดูด้อยกว่า ในปีเดียวกันนี้ Haslam ก็หันไปออก LP เดี่ยวของเธอ
 
 
 
 
(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/allseasons.jpg)
 
A Song For All Seasons (1978)
 
LP ชุดนี้น่าประทับใจมากกว่าชุดก่อนนิดนึง  แต่เพลงเริ่มเอนเอียงไปทาง Pop Rock มากขึ้น และเพลงมีความยาวน้อยลงแทนที่หันจับแนว Progressive Rock ซึ่งทำให้วงนี้มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ในชุดนี้มีเพลงที่ไพเราะมากๆ อยู่เพลงนึงคือ Northern Lights และมีบางเพลงที่ให้ผู้ชายเป็นผู้ร้องนำทั้งเพลง ซึ่งเป็นการทำลายเอกลักษณ์ของวง
 
 
 
 
(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/azuredor.jpg)
 
Azure D' Or (1979)
 
ผู้ที่ได้ฟัง LP ชุดนี้ อาจจะนึกว่าเป็นงานของ ABBA ก็ได้ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่เคยติดตามผลงานของวงนี้มาก่อน เพราะหลายเพลงเป็นเช่นนั้น อย่างไรก็ดีชุดนี้ก็มีเพลงดีๆ เพราะๆ มากกว่า 2 ชุดที่ผ่านมารวมกันเสียอีก ใน LP ชุดนี้เสียงวง Orchestra ถูกทดแทนด้วยเสียงคีย์บอร์ด ซึ่ง Renaissance ก็ทำได้ดีทีเดียว แต่กลับไม่เป็นที่ยอมรับจากแฟนเพลงของวง รูปแบบการผสมผสานเสียง Synthesizer เข้ากับเพลงในแบบ Progressive ของวงกลายมาเป็นแบบอย่างให้กับวงรุ่นต่อๆมา
 
 
 
 
(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/camera.jpg)
 
Camera Camera (1981)
 
พวกเขาย้ายสังกัดไปอยู่กับ I.R.S. พร้อมกับการลาออกของสมาชิก 2 คนคือ John Tout และ Terence Sullivan แต่พวกเขาก็ไม่ได้หาสมาชิกใหม่ เพียงใช้นักดนตรีรับเชิญ (รับจ้าง) มาช่วยอัดแผ่น
 
LP ชุดนี้ออกไปทาง Pop จ๋าเลยทีเดียว บางเพลงที่เป็นจังหวะเต้นรำซึ่งไม่เหมาะกับเสียงร้องเพลงของ Haslam เลย เมื่อพวกเขาเล่นเพลง Pop, Haslam ก็ไม่ต้องใช้ความสามารถด้านเสียงร้องเท่าไหร่ ซึ่งยิ่งทำให้เพลงในชุดนี้ฟังดูธรรมดามาก ที่น่าสังเกตคือ เมื่อ Haslam ไม่ได้ใช้พลังเสียงฃองเธอเป็นจุดเด่นของวงเธอก็หันไปปรับปรุงรูปโฉมตัวเองเสียใหม่ จากการไว้ผมยาวแสกกลาง เธอก็ไปทำผมตามสมัยนิยม
 
ชุดนี้มีเพลงแปลกๆ อยู่เพลงนึงคือ Okichi-San ซึ่งฟังดูคล้ายเพลงญี่ปุ่นสมชื่อ LP ชุดนี้เป็นชุดสุดท้ายที่ Betty Thatcher มาช่วยแต่งเพลงให้
 
 
 

(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/RenTimeLine.jpg)
 
Time-Line (1983)
 
LP แผ่นนี้มีการใช้ Synthesizer มากอย่างออกหน้าออกตา และหลายเพลงก็ฟังดูคล้ายเพลงของ ABBA มาก โดย Camp ได้ทำหน้าที่เป็นผู้แต่งเนื้อร้องของวงแทน Thatcher
 
หลังจากออกอัลบั้มชุดนี้ ทางวงก็ไม่มีผลงานออกมาอีก โดยทั้ง 3 ไม่ได้ประกาศยุบวงก็เพราะยังมีปัญหายืดเยื้ออยู่กับบริษัทแผ่นเสียงเก่า และยังหาสังกัดใหม่ไม่ได้ เพื่อที่จะกลับมาทำงานดีๆเป็นการตอบแทนแฟนเพลงที่ต้องรอพวกเขาเป็นเวลาหลายปี ในช่วงนั้นพวกเขา 3 คนพร้อมนักดนตรีรับจ้าง ก็ออกแสดง Concert เป็นครั้งคราว เพื่อหาเงินประทังชีวิตไปพลางๆ

หลังจากที่ Renaissance แตกวงในปี 1983 มีผลงานในนาม Renaissance ออกมาเป็นจำนวนมาก เช่น





(http://i378.photobucket.com/albums/oo225/polotoon6202/DSC00350.jpg)


The Other Woman

น่าจะเรียกว่าวงที่แอบอ้างใช้ชื่อ Renaissance มากกว่า เพราะนักร้องคนละคน โดย Stephanie Adlington จะมีที่เกี่ยวกับ Renaissance ก็เพียง Michael Dunford ดนตรีอ่อนมากๆ ไม่ควรเสียเวลาฟัง




At the Royal Albert Hall with the Royal Philharmonic Orchestra Vol 1 & 2 

ทั้ง 2 แผ่น เกือบจะดีเท่า Live at Carnegie Hall ไม่ควรพลาด




Ocean Gypsy

ในนาม Michael Dunford's Renaissance - Dunford ยังไม่เข็ดหลาบ คราวนี้ให้ Adlington ร้องเพลงเก่าของ Renaissance แบบ unplugged พลังเสียงของ Adlington ไม่ได้ระดับจริงๆ




(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/songfromrenaissancedays.jpg)

Songs from Renaissance Days

รวมเพลงประเภท unreleased ของวง ก็พอใช้ได้




(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/nevada.jpg)

Pictures in the Fire

ในนาม Nevada รวมเพลงเก็บตก หลังจากที่ Renaissance แตกวง มีทั้งเพลงที่ Dunford กับ Haslam พยายามทำ demo เพื่อฟื้นฟูวง และเพลงที่บันทึกเสียงสำหรับอัลบั้ม Camera Camera และ Time-line แล้วไม่ได้ใช้ คุณภาพค่อนข้างหลากหลาย มีเพลงเพราะๆ อยู่ 4-5 เพลง




BBC Sessions

บันทึกการแสดงสดแผ่นคู่ โดยไม่มีวงออเคสตรา




Unplugged Live at the Academy of Music

ดูเหมือนจะเป็นครั้งเดียวที่มีการบันทึกเพลง Okichi-san ที่แสนไพเราะในรูปแบบแสดงสด บันทึกเสียงไม่ค่อยดีนัก แต่เปี่ยมด้วยคุณภาพ


 
 
(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/tuscany.jpg)
 
Tuscany (2001)
 
ช่วงปลายยุค '90 Dunford ได้ฟอร์มวงโดยใช้ชื่อ Renaissance และออกผลงานอัลบั้มด้วยทีมนักดนตรีที่ต่างกันไป
 
ในปี 2000 ทางวงกลับมารวมตัวกันเพื่อบันทึกอัลบั้ม Tuscany, ออกแสดง Concert ที่ Astoria ใน London ก่อนที่จะออกทัวร์สั้นๆในญี่ปุ่น ซึ่งผู้เขียนมีความประทับใจที่สุดก็เมื่อได้ชมการแสดงของ Renaissance ที่นั่น โดยที่คิดว่า ชาตินี้คงไม่ได้ชม เพราะเห็นเปิดการแสดงสดในอังกฤษหลังออกอัลบั้ม Tuscany เพียงรอบเดียว แล้วทำท่าจะยุบวง แต่ก็อุตส่าห์ไปเล่นที่ญี่ปุ่นอีก 3 รอบ เมื่อได้ชมการแสดงจริงๆ ถึงได้ซาบซึ้งในการเล่นเพลง Ashes are Burning แบบขยายเพลงจนยาวเหยียด เพราะนักดนตรีแต่ละคนได้โชว์ฝีมือกันเต็มที่ระหว่างที่ไฟสปอตไลท์ส่องไปที่ลูกบอลกระจกใบใหญ่เหนือเวที ทำให้เกิดแสดงระยิบระยับทั่วโรงแสดง Annie Haslam ในชุดกระโปรงกำมะหยี่สีม่วงเข้มแต่เท้าเปล่า เป็นจุดเด่นของวงจริงๆ ในขณะที่มือคีย์บอร์ด 2 คน ถูกแบ่งหน้าที่กันชัดเจน Mickey Simmonds จะเล่นซินธ์ ซึ่งเขาจะนั่งเฉยๆ ช่วงที่เล่นเพลงเก่าของ Renaissance ในขณะที่ Rave Tesar จะเล่นคีย์บอร์ดที่ให้เสียงแบบ Symphonic และมีบทบาทที่โดดเด่นกว่า Simmonds มาก

หลังจากทัวร์ในครั้งนั้นทางวงก็ประกาศยุติบทบาทของ Renaissance อีกครั้ง

 
 
 
(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/renaissancejapan2001.jpg)

(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/renaissancejapanback.jpg)
 
In the Land of the Rising Sun: Live in Japan 2001 (2005)
 
เป็นอัลบั้มคู่บันทึกการแสดงโชว์ในญี่ปุ่นโดยสมาชิก Renaissance ยุคสุดท้าย น่าเสียดายไม่มีออกมาเป็น DVD
 
 
 
 
หลังจากนั้น Terry Sullivan ได้บันทึกผลงานเพลงในสไตล์แบบ Renaissance แต่ใช้ชื่อวงว่า Renaissant ด้วยการกลับมาเขียนเนื้อร้องของ Betty Thatcher และนักร้องคนใหม่แต่หน้าเก่าคือ John Tout โดยมี Christine ภรรยาของ Terry ร่วมร้องด้วยในหลายเพลง และตัว Terry ร้องนำอยู่ 2 เพลง ในอัลบั้มที่ชื่อ South of Winter (2005)
 

Renaissance ได้ถูกประกาศยุติลงอย่างถาวรโดย Annie Haslam ในปี 2005
 

สำหรับผลงานเดี่ยวของ Annie Haslam เคยเล่าไปแล้วเช่นกัน แต่ขอเล่าใหม่ซึ่งคงไม่ตรงกับที่เคยเล่าไว้ว่า ผลงานเดี่ยวของเธอ จะออกคนละแนวกับ Renaissance ยุครุ่งเรือง โดยแนวดนตรีจะเปลี่ยนไปตามนักดนตรีและ producer
 



(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/AnnieInWonderland.jpg)

Annie in Wonderland (1977)

ได้ Roy Wood (อดีต The Move และ ELO) มาร่วมงาน เพลงที่ผมชอบมากคือ If I Loved You และ Going Home




(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/StillLife.jpg)

Still Life (1985)

ชุดนี้นำเพลงคลาสสิคมาใส่เนื้อร้องโดย Betty Thatcher ซึ่งเป็นขาประจำแต่งเนื้อร้องให้ Renaissance ยุครุ่งเรือง และบรรเลงดนตรีโดยวงออเคสตรา เป็นอัลบั้มเดี่ยวที่ผมชอบมากที่สุดและชอบทุกเพลง




(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/AnnieHaslam.jpg)

Annie Haslam (1989)

ชุดนี้ออก pop มากๆ แถมยังร้องเพลง Moonlight Shadow ได้แย่กว่าต้นฉบับ




(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/fox2.jpg)

Fox

โดย Akio Dobashi & Annie Haslam น่าจะเป็นผลงานที่มีความไพเราะน้อยที่สุด




(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/blessingindisguise.jpg)

Blessing in Disguise (1994)

เธอห่างเหินวงการไปนาน เพื่อรักษาโรคมะเร็ง เมื่อหายแล้ว จึงกลับมาด้วยอัลบั้มที่ผมชอบมากรองจาก Still Life ชุดนี้น่าจะใกล้ prog มากที่สุด




Lily's in the Field

โดย Annie Haslam & Steve Howe ซิงเกิ้ลหารายได้ให้การกุศล ซึ่งทั้งสองเคยร่วมงานกันครั้งแรกใน




(http://img166.imageshack.us/img166/4452/talesfromyesterdayxm2.jpg)

Tales of Yesterday (Tribute to Yes)   และมีแผนที่จะบันทึกเสียงเพลง cover ของ Yes เต็มอัลบั้ม แต่ก็ถูกพับไปก่อน




(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/liveunderbrazilianskies.jpg)

Live Under Brazilian Skies (1998)

บันทึกการแสดงสดที่เล่นเพลง Renaissance ปนกับผลงานเดี่ยว

(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/dawnofananda.jpg)

The Dawn of Ananda (1999)

มาแนวเดียวกับ Blessing in Disguise




(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/itsnowsinheaventoo.jpg)

It Snows in Heaven Too (2000)

เพลงคริสต์มาสในสไตล์ของ Annie Haslam




(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/oneenchantedevening.jpg)

One Enchanted Evening (2002)

บันทึกการแสดงสดที่ไม่มีเพลงของ Renaissance แต่มีเพลง She's Leaving Home ของ Beatles




(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/livestudioconcertphiladelphia1997.jpg)

Live in Philadelphia 1997

บันทึกการเล่นสดในห้องอัด มีทั้งเพลง Renaissance และผลงานเดี่ยว (ชุดนี้มีออกเป็น DVD ด้วย)




Woman Transcending (2007)

รวมเพลงเก็บตก และ cover ซึ่งไม่ค่อยน่าประทับใจนัก




โดยสรุป Annie Haslam ไม่เหมาะกับการร้องเพลง pop งานที่ออก prog หลังจาก Renaissance ยุบวงไปแล้วน่าจะเป็นเพลง Turn of the Century และ Ripples จาก tribute album 2 ชุด และเห็นด้วยครับที่นักดนตรีทั้งกีตาร์ เบส และคีย์บอร์ด สมัยรุ่งเรืองของ Renaissance ฝีมือแพรวพราวทุกคน สำหรับมือคีย์บอร์ด จำได้ว่า ได้แสดงสปิริตลาออกจากวงไปเนื่องจากเล่นผิดคีย์ในการแสดงสดครั้งหนึ่ง



End.

Annie Haslam ดูๆไปหน้าคล้ายๆป้า บาบร่า สไตร์แซนด์

(http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/beginning2-1.jpg) (http://i137.photobucket.com/albums/q239/polotoon/beginning1-1.jpg)

In The Beginning (1978)

ขอลงรูปปกอัลบั้มชุดนี้อีกครั้งนะครับ รูปด้านบนมันไม่เต็มน่ะครับ ชุดนี้ผมเป็นเจ้าของ cd อยู่นานมาก เป็นอัลบั้มที่คุ้มค่ามากๆ เพราะเป็น double album in one cd แถมคุณภาพเพลงดีจริงด้วย (ไม่ใช่รวมอัลบั้มรองๆสองอัลบั้มเข้าด้วยกัน)

เห็นปกชุดนี้แล้วคิดถึงเทป  Pirate  จังเลยครับ

(http://i378.photobucket.com/albums/oo225/polotoon6202/DSC00350.jpg)




(http://i378.photobucket.com/albums/oo225/polotoon6202/DSC00351.jpg)




(http://i378.photobucket.com/albums/oo225/polotoon6202/DSC00352.jpg)



เปิดฟังเมื่อเช้า ป๊อปดีจังครับ มีข้อดีอยู่อย่างคือ นักร้องคนนี้สวยกว่า Annie ใน Booklet สกรีนภาพเธอเป็น Background ทุกหน้าเลย  :D

สมาชิกดั้งเดิมมาจาก the yardbyrds ของอังกฤษไม่ใช่ the byrds ที่เป็นวงUSAครับ

ผมตามเก็บ renaissance/annie เท่าที่หาได้
ผมไม่มี renaissance 2 ชุดแรก ที่ไม่มี annie haslam และ timeline,camera camera
ผมไม่มี annie haslam ชุด fox,nevada
นอกจากนี้ ผมยังมี ที่ยังไม่อยู่ใน list ที่กล่าวมา เพิ่มเติมดังนี้
-day of the dreamer
-british tour 76
-king biscuit flower hour(KBFH) live 1,2
-tales of 1001 nights  vol 1,2 รวมเพลง ที่มี liner note ที่ดีทีเดียว
-da capo รวมเพลงที่คัดจากแต่ละ album ตั้งแต่แรกสุด จน ถึง timeline 2 แผ่น
-dreams  and omens ที่เพิ่งออก เป็นแสดงสดช่วง song for all seasons
-can you hear me? แสดงสด รู้สึกจะซ้ำๆกับ KBFH

ในโอกาสครบรอบ 40 ปี การก่อตั้งวง Renaissance ในปี 2009 อดีตสมาชิก 2 คน คือ Annie Haslam และ Michael Dunford พร้อมด้วยนักดนตรีรับเชิญจะเปิดการแสดงคอนเสิร์ตเพื่อรำลึกถึงวง Renaissance ที่อเมริกาในเดือนตุลาคมนี้

(http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/ren.jpg)

คาดหวังเป็นอย่างมากว่า อัลบั้มแสดงสดชุด 40 ปีนี้ น่าจะมีวางจำหน่ายทั้ง DVD และ CD เร็วๆนี้ แม้ว่าสมาชิกจะไม่ครบก็ตาม
  ฟังRenaissance แล้วนึกถึงวง Wishbone Ash ยุครุ่งเรืองทุกทีไป

เพิ่งเห็นข่าว CD 'DREAMS and OMENS' ของวง Renaissance
'Live' at the Tower Theater, Philadelphia, PA, 1978"

 ตกข่าวไปนานมาก ต้องหามาฟังบ้าง

ฝากถามพี่ panyarak ว่า CD แผ่นนี้ซ้ำกับชุดไหนรึเปล่า กลัวซ้ำกับ british tour'76
แต่นี่ live in london '75
(http://www.uppic.net/tr/ren75.jpg) (http://www.uppic.net/show/de90625275d439eb3b30bc6dba65e663)

ไม่แน่ใจว่า bootleg หรือแผ่นแท้ของ japan แต่ดูแล้วเหมือนของทำมือ

เคยเห็นวางขายที่ญี่ปุ่น แต่ไม่ได้ซื้้อเพราะเป็น bootleg ครับ จำไม่ได้ว่า มีเพลงอะไรบ้าง

ขอบคุณครับ

ปกหลังของ CD ครับ
(http://www.uppic.net/tw/wcnba.jpg) (http://www.uppic.net/show/f94e8e056c78b1d40da9f549d0b91202)

แถมปก dvd

(http://www.uppic.net/tx/xowfr.jpg) (http://www.uppic.net/show/0e07d97d6a5eec565a5064e9dc6e298a)

(http://www.uppic.net/th/hoqin.jpg) (http://www.uppic.net/show/6dba171993ce6c74d1148a67772f678a)

รีวิวการแสดงคอนเสิร์ตล่าสุดของ Renaissance ตามลิงค์นี้ครับ ยังไม่มีข่าวว่าจะออก DVD

http://www.dprp.net/concrev/2010_renaissance_1.php

Annie Haslam และ Michael Dunford กลับมาฟื้นฟูวง Renaissance อย่างเป็นกิจจะลักษณะอีกแล้ว โดยมี Rave Tesar และ Tom Brislin (คนหลังนี้เคยเป็นสมาชิก Yes แป๊บนึง) เล่นคีย์บอรด์ David Keyes เล่นเบส และ Frank Pagano เล่นกลอง เริ่มออกทัวร์อเมริกาและแคนาดาตั้งแต่ต้นเดือนนี้แล้ว โดยบางรายการเป็นวงเปิดให้ Procol Harum และ Steve Hackett และมีโครงการจะออก EP เพลงใหม่ 3 เพลงเร็วๆ นี้ครับ

(http://www.uppicfree.com/images/878_ren.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-878_ren.jpg)

ขอถามเรื่องแผ่นเสียงชุด Live At Carnegie Hall หน่อยครับ คือผมรู้สึกว่าลำดับการเรียงเพลงลงหน้าแผ่นเสียงมันแปลกๆ เพราะเพลงยาวๆอย่าง Scheherazade หรือ Ashes are Burning ที่ปกหลังบอกอยู่หน้า C และ D ซึ่งควรอยู่ในแผ่นเดียวกันกลับไปอยู่คนละแผ่น เพลงแรกไปอยู่ที่หน้าบีของแผ่นแรก ส่วนอีกเพลงไปอยู่ที่หน้าบีของแผ่นสอง ทำให้เวลาเปิดเล่นต้องสลับแผ่นเล่นแทนที่จะพลิกหน้าแผ่นเสียงเฉยๆ ไม่ทราบว่านี่เป็นเหมือนกันทุกแผ่นหรือเปล่าครับ

แผ่นเสียงที่ผมมี ก็เป็นอย่างนี้ครับ

โอ้ ขอบคุณครับ ผมว่ามันแปลกดี

ต้องดูที่ Label ด้วยนะครับ บางครั้งแผ่นเดียวกัน แต่ระบุหน้าเป็น A กับ C ก็ได้ครับ

Renaissance น่าจะบารมีสูงกว่า Hackett นะ ไม่น่าไปเป็นวงเปิด

วงที่หายหน้าไปนาน บารมีไม่พอที่จะเป็นวงเอก เรียกคนได้เยอะๆ ครับ

แผ่นที่ผมมีหลาย copies ไม่เป็นนะครับ เรียงตามปกติ

Live at Carnegie Hall ช่วงระหว่างเพลงแรกจบ แล้วขึ้นเพลง Ocean Gypsy ยิ่งใหญ่อลังการมาก เหมือนเปิดปฐมบทแห่งเทพนิยาย

ข้อดีของการมีวงออเคสตรามาเล่น back up ครับ

ในการทัวร์ญี่ปุ่นเดือนสิงหาคมนี้  Renaissance เล่นที่เดียวกันและคนละวันกับ Steve Hackett โดยเล่นหลัง Steve Hackett วันนึงครับ

(http://www.uppicfree.com/images/914_renai.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-914_renai.jpg) (http://www.uppicfree.com/images/115_shac.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-115_shac.jpg)

หลังจากนั้น ก็ย้ายที่เล่นไปเล่นวันเดียวกัน โดย Yoninbayashi กับ Renaissance เป็นวงเปิดให้ Steve Hackett ครับ

(http://www.uppicfree.com/images/915_resh.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-915_resh.jpg)

ชอบชื่อวง Renaissance ที่มีดีไซด์เป็นเอกลักษณ์ดีจังครับ

น่าไปดูครับ
 ถามคุณ panyarak ว่าจะจองตํ๋วได้อย่างไรครับ

จะไปจริงๆ หรือครับ ต้องใช้ภาษาญี่ปุ่นอย่างคล่องแคล่วถึงจะสามารถจองออนไลน์และไปรับตั๋วได้ครับ วิธีที่ง่ายกว่า น่าจะเป็นการซื้อตั๋วหน้างานในวันแสดง ซึ่งดูจากสถานที่แสดงที่ค่อนข้างใหญ่แล้ว ไม่น่าจะ sold out ครับ หรือถ้า sold out ก็มีพวกยากูซ่ามายืนขายหน้างานอยู่ดีครับ

ไม่รู้จะไปได้หรือไม่ แต่ก็อยากไปครับ

ในโอกาสครบรอบ 40 ปี ของวง  Renaissance ค่าย Friday Music จะนำอัลบั้ม Scheherazade & Other Stories ฉบับ CD+DVD ออกจำหน่าย โดย DVD บันทึกจาก Bray & Mill House Studios 1979 ซึ่งไม่เคยออกจำหน่ายอย่างเป็นทางการมาก่อน ก็คงต้องติดตามต่อไปว่า คุณภาพ DVD จะเป็นอย่างไร

ดีใจจัง ขอให้มี DVD ภาพดีๆ เสียงดีๆ แต่ไม่แน่ใจปี 1979 นี่ line-up มีใครบ้าง

เป็น classic line-up ครับ Terry Sullivan, Michael Dunford, John Tout, Annie Haslam และ Jon Camp.

มีใครคิดเหมือนผมไหมครับว่าน้ำเสียง Annie Haslem ละม้ายคล้าย Jon Anderson ในบางช่วง

ก็มีส่วนครับ โดยเฉพาะถ้าฟังเปรียบเทียบในเพลง Turn of a Century ที่ Annie Haslam นำมาร้อง โดยมี Steve Howe เล่นกีตาร์

ขอเรียนถามคุณ panyarak เรื่องราคาตั๋วเข้าชมคอนเสิร์ตศิลปินต่างประเทศในญี่ปุ่นหน่อยครับ ปกติโดยเฉลี่ยแล้วเขาคิดราคากันสักเท่าไรครับ หรือว่าขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างประกอบกันด้วย เช่น ชื่อเสียงของศิลปิน สถานที่ แถวนั่งดู (หน้า กลาง หลัง) ฯลฯ

mini lp ล๊อตใหม่ของ Renaissance 2 อัลบั้มแรกในยุค Annie Haslam ครับ

http://www.cdjapan.co.jp/list_from_code_banner.html?key=181668

ขึ้นอยู่กับทั้งชื่อเสียงของศิลปิน + ความหรูของสถานที่ครับ ตามข้อมูลช่วง 5 ปีที่แล้ว วงดังอย่าง KISS เล่นที่ Tokyo Dome หรือ Blackmore's Night เล่นที่ Shibuya Cultural Hall หรือ Yes, Roxy Music, Marilyn Manson, Roger Waters เล่นที่ Tokyo International Forum หรือ David Bowie ที่ Budokan ก็ 10,000 เยน ถ้าวงที่มีชื่อเสียงลดหลั่นลงมา และเล่นสถานที่ที่หรูน้อยลงมาอย่าง 21st Century Schizoid Band, Renaissance, Alan Parsons เล่นที่ Koseinenkin Kaikan หรือ David Sylvian, Judas Priest เล่นที่ Nakano Sun Plaza ก็ 8,000 เยน ถ้าระดับต่ำลงอีกนิดอย่าง Focus เล่นที่ Club Citta (แม้ว่าหรู แต่อยู่นอกเมือง) หรือ Kansas เล่นที่ Yokohama Arena หรือ John Wetton เล่นที่ On Air West ก็ 6,000 เยน ส่วนสถานที่เล็กๆ วงท้องถิ่นอย่าง Ars Nova เล่นที่ Ruido Harajuku ซึ่งจุคนได้ไม่ถึง 100 คน ก็ 3.000 เยน ส่วนแถวนั่งดูว่าไกลหรือใกล้เวที ไม่ใช่ตัวกำหนดราคาบัตร ซึ่งจะขายเท่ากันหมด แต่ราคาบัตรยืน กับบัตรมีที่นั่งในสถานที่เดียวกัน จะต่างกันเล็กน้อยประมาณ 1,000-2,000 เยน ทั้งนี้ ราคาบัตรคอนเสิร์ตในญี่ปุ่นเมื่อเทียบกับค่าครองชีพที่นั่นแล้ว ถือว่า ค่อนข้างถูก เมื่อดูจากเงินเดือนขั้นต้นของผู้จบปริญญาตรี 200,000 เยน และการรับประทานอาหารแบบประหยัด แต่อิ่ม หนึ่งมื้อตก 1,000 เยนครับ

ผมฟังอัลบั้มมาหลายอัลบั้มแล้วยังไม่ได้ถูกใจอะไรมาก แต่พอได้ฟัง Live at Carnegie Hall นี่ซาวนด์มันอลังการจนรู้สึกไพเราะกว่าฟังอัลบั้มมากเลย ขอบคุณพี่ตั๊มตามเคยครับ  :D

สำหรับวงนี้ผมได้ฟังอัลบั้มขึ้นหิ้ง 4 ชุดแรก รู้สึกว่าชอบชุด Turn of the Cards มากที่สุดครับ ส่วนนึงคงเป็นเพราะบรรยากาศเพลงแบบยุคกลางจัดๆ ซึ่งผมว่ามันมีเสน่ห์น่าหลงใหลดีครับ

เห็นมีให้ pre-order แล้วครับ

ว่างๆเลยถ่ายรูปอัลบั้มแรกของ Renaissance แบบ mini lp มีปกให้ 2 แบบและมีแถมแผ่นซิงเกิ้ล 7 นิ้ว แบบ mini มาด้วย :D

(http://www.uppicfree.com/images/471_CIMG4547.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-471_CIMG4547.jpg)

ผมเคยฟังเพลง Kings and Queens จากอัลบั้มชุดแรก แต่ไม่เคยฟังเพลงอื่นในอัลบั้มชุดนี้ ไม่ทราบว่าโดยรวมทั้งอัลบั้มน่าสนใจไหมครับ?

(http://www.vintageprog.com/ren1.jpg)

ผมชอบในแง่เสียงเปียโนสไตล์คลาสสิค และเสียงร้องของ Jane Relf ครับ

เท่าที่ผมฟังไปไม่กี่รอบโดยรวมผมถือว่าโอเคนะครับ สำหรับอัลบั้มแรกของ Renaissance ถึงแม้ยุคแรกจะไม่มี Annie Haslam แต่ภาคดนตรีถือว่ามีความเป็นเอกลักษณ์มาตั้งแต่อัลบั้มแรกนี้เลย

+1 ครับ เสียงเปียนโนเด่นมาก และเพลงใช้ได้ที่เดียว

(http://www.uppicfree.com/images/242_renaissance1.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-242_renaissance1.jpg)
(http://www.uppicfree.com/images/222_renaissance2.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-222_renaissance2.jpg)

เรียนถามพี่ panyarak __อันนี้ไม่ซ้ำกับที่ออกมาก่อนหน้านี้รึเปล่า ตั้งใจจะซื้ออยู่ หรือเป็น_bootleg

เป็น bootleg ครับ ค่าย Highland ทำ bootleg อย่างเดียวครับ

แล้วอันนี้น่าสนมั้ยครับ

(http://www.uppicfree.com/images/558_renaissance3.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-558_renaissance3.jpg)
(http://www.uppicfree.com/images/619_renaissance4.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-619_renaissance4.jpg)
(http://www.uppicfree.com/images/627_renaissance5.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-627_renaissance5.jpg)

ก็น่าสนใจครับ แต่ไม่ทราบว่า เสียงดีหรือเปล่า ยิ่งอันที่อัดจาก Hibiya Open Air ถ้าไม่ใช่ soundboard ก็คงเสียงไม่ดี ผมอยากได้เป็นดีวีดีมากกว่าครับ ถ้าออกเป็นทางการก็ดี

ถ้าผมจำไม่ผิด แผ่นเสียงอัลบั้ม In The Beginning ซึ่งเหมือนกับรวมสติวดิโออัลบั้มชุดเก่าสองชุดไว้ด้วยกัน แต่มีบางเพลงรู้สึกว่าจะถูกหั่นออกไปใช่ไหมครับ?

(http://www.nlightsweb.com/lib/gallery/beginin2.jpg)

หนูก็สาวก Renaissance นะคะ :D

(http://www.uppicfree.com/images/993_58a9c0f45e9132bd12bb8b.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-993_58a9c0f45e9132bd12bb8b.jpg)

มีใครทราบบ้างว่าบนหน้าปก Ashes Are Burning ผู้ชายที่ยืนคู่กับ Annie Haslam นั้นคือใคร?
John Tout หรือ Terrence Sullivan ครับ?

(http://www.vintageprog.com/ren4.jpg)

(http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/ashes2.jpg) (http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/ashes3.jpg)

อัลบั้มนี้มีปก 2 แบบ Renaissance ยุค classic line-up มีนักดนตรีชาย 2 คนที่ไม่ไว้หนวด คือ Michael Dunford ก้บ Terrence Sullivan แต่จากปกทั้ง 2 แบบ ไม่มีแบบใดที่มีภาพ Michael Dunford เนื่องจากตอนนั้นยังเป็นแค่นักดนตรีรับเชิญ คนที่มีหนวดคือ John Tout และ Jon Camp ดังนั้น คนที่ไม่มีหนวดที่เหลือในวงคือ Terrence Sullivan คือคำตอบครับ

ขอบคุณครับ
บนปกอัลบั้ม Time Line ผู้ชายที่อยู่ซ้ายมือน่าจะเป็น Michael Dunford ส่วนคนขวานี้คือใครครับ? ใช่ John Tout หรือเปล่า?

(http://www.progarchives.com/progressive_rock_discography_covers/603/cover_49261122122007.jpg)

มือเบส Jon Camp ครับ (เลิกไว้หนวดแล้ว) John Tout ออกจากวงไปแล้ว

ชอบดนตรีของวงนี้ในหลาย ๆ อัลบั้ม ล่าสุดคิดว่าจะซื้ออัลบั้มแสดงสด Live at Carnegie Hall
มีใครทราบบ้างว่าเวอร์ชั่น The Deluxe Anniversary Edition ที่ออกปี 2009 (US)
มีอะไรเพิ่มเข้ามาบ้าง ดูแล้ว Track List ไม่เปลี่ยนแปลง
แผ่นราคา $19.85 แต่ค่าส่งแพงเหลือเกิน

ไม่มีอะไรเพิ่มเติมนอกจากราคาครับ

ที่ค่าส่งแพง เพราะหนัก Booklet รึเปล่าครับ

ค่าส่งจากอเมริกาและญี่ปุ่นมักจะแพงกว่าทางยุโรป แต่ถ้าไม่อยากเสียค่าส่ง ลองใช้บริการของ CDWow สิครับ www.cdwow.com
ซึ่งไม่คิดค่าส่ง และมักจะแจก voucher ลดราคาบ่อยๆ

สนใจจะซื้ออัลบั้ม Scheherazade and Other Stories ตัวที่ออกปี 2006
น่าจะเป็นแผ่นยูเอส แต่ไม่อยากได้ดีวีดี  http://www.amazon.com/Scheherazade-Other-Stories-Filmed-Studios/dp/B003NEVVSU/ref=sr_1_2?s=music&ie=UTF8&qid=1308533083&sr=1-2
อยากจะถามว่าดีวีดีที่ขายคู่กันมันคืออะไรเหรอครับ
แล้วตัวนี้น่าเก็บรึเปล่า

ขออภัย ตัวที่ออกปี 2010

ถ้าหมายถึงซีดีน่าเก็บไหม น่าเก็บมากครับ
ดีวีดี ไม่ทราบครับ

อยากได้แต่ซีดี ดีวีดีไม่อยากเลย มันบังคับซื้อคู่กันครับ

ถือว่าเป็นของแถมก็แล้วกันครับ แผ่นนี้ เพิ่งมาออกใหม่ หลังจากหายไปนานเลยครับ

ดีวีดีการแสดงของวงนี้ไม่ได้หาดูง่ายๆนะครับ ยิ่้งเป็น classic line-up แบบนี้ด้วย

รุ่นที่ออกปี 2010 มีดีวีดีที่บันทึกจากสตูดิโอ ไม่ใช่แสดงสด ภาพค่อนข้างซีดจาง ถ้าไม่อยากได้แบบ 2 แผ่น แบบแผ่นเดียวยังมีขาย คุณภาพเสียงพอกันครับ

หมายถึงเป็นการแสดงในสตูดิโอหรือเปล่าครับ?

ก็ทำนองนั้นครับ ไม่ค่อยประทับใจ

โชคดีที่ยังไม่ได้สั่ง วงนี้ชอบอัลบั้มแรก ๆ มาก แต่อัลบั้มที่ถามคือชอบที่สุด
แต่ไม่อยากได้ดีวีดี ว่าจะหันไปซื้ออัลบั้ม Turn of the Cards แทน
เป็นแผ่นเดี่ยว แผ่นยูเอสออกปี 2006 http://www.amazon.com/Turn-Cards-Renaissance/dp/B000GIXIGY/ref=sr_1_5?ie=UTF8&qid=1308543999&sr=8-5
ช่วยดูให้ที เก็บได้ไหมตัวนี้

เป็นผลงานที่ยอดเยี่ยม เก็บได้เลยครับ

ต้นมีอัลบั้มซีดีงานเดี่ยวของ Annie ออก เสียดายที่ไม่คิดว่าจะหาซื้อซีดีได้ง่าย ๆ
จึงโหลดมาฟังแล้ว ตัวออกใหม่ที่เพิ่ม 1 เพลง เป็นยังไงบ้างตัวนี้

สอบถามเกี่ยวกับซีดี reissue เวอร์ชั่นจำหน่ายในอเมริกา สังกัด Collectables
ไว้ใจได้ไหม (เดี๋ยวนี้มีแผ่นห่วย ๆ เช่น แผ่น CD-R ขายในเว็ปอย่าง amazon เลยระแวง)
ค่ายนี้ออกชุด Turn of the Cards

อีกสังกัดหนึ่งคือ Friday Music ค่ายนี้ออกชุด
- Scheherazade and the Other Stories
- Live at Carnegie Hall

ว่าจะทยอยซื้อให้ครบทั้ง 3 อัลบั้ม (load มาฟังแล้วชอบมาก อยากเก็บแผ่น)
ติดตรงยังไม่กล้าเสี่ยงนี่แหละ

รบกวนขอคำแนะนำ

ผมมีชุด Scheherazade ... ของค่าย Friday Music เป็นแผ่นปั๊มครับ แต่ค่าย Collectables ไม่น่าไว้ใจ ดูจากเว็ปแล้วให้ข้อมูลสับสนว่า เป็นแผ่น mini lp ของญี่ปุ่นด้วยซ้ำ แต่ mini lp ของญี่ปุ่น ไม่มีค่ายนี้ครับ หากสนใจ เว็ป amazon.uk ยังมีแผ่นค่าย Repertoire อยู่นะครับ ค่าส่งถูกกว่าสั่งจาก amazon.com อีก ถ้าไม่อยากเสียค่าส่งเลย cdwow.com ก็ยังมีของ Repertoire อยู่ครับ

ขอบคุณมากครับ เพื่อความปลอดภัยคงต้องอัลบั้ม Live at Carnegie Hall
ก่อน แล้วค่อยตามตัวอื่น

รู้จักวง Renaissance เป็นครั้งแรกก็ด้วยเทปชุด Turn of the Cards ซึ่งเป็นเทปยี่ห้อ 501 ตอนนั้นซื้อแบบมั่ว ๆ เพราะเห็นหน้าปกมันสวยแปลกตาดี จึงอนุมานว่าต้องใช่ progressive แน่เลย พอฟังแล้วก็เหมือนถูกหวย เพราะเพลงถูกใจผมทั้งชุดครับ

ผมก็ฟังด้วยม้วนนี้เช่นกัน ซื้อเก็บไว้ 2 ม้วนเลย ตอนหลังตามหาม้วนอื่นจาก JU DO RE MI
พอหัดซื้อ CD ก็ Song for all seasons ก่อนเลย ตอนนั้น musicone เพิ่งเปิด มีของไม่มาก

Song for all Seasons ชุดนี้ชอบนะ เพียงแต่ว่าไม่ชอบเพลงที่มี
เสียงนักร้องชายเลย

เห็นพวกทางเมืองนอกเขาว่าอัลบั้มชุดนี้เป็นผลงานช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่ไม่สม่ำเสมอหรือคงเส้นคงว่าเท่าที่ควร (คือเห็นคล้าย ๆ กับคุณ hallelujah) แต่โดยรวมยังคงความเป็น prog อยู่ครับ

(http://www.vintageprog.com/ren8.jpg)

Betty Thatcher Newsinger ผู้แต่งเนื้อร้องเพลงดังทั้งหลายของ Renaissance เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเมื่อ 15 สิงหาคม ที่ผ่านมาครับ

เพิ่งจ่ายเงินให้เจ้ Annie Haslam ไปผ่าน paypal

Dear Friends and Family:

It is with great excitement and pride that we are formally announcing the release of our Special Limited Edition DVD/CD set which was filmed and recorded on our recent US tour. With the exception of someone sticking a B&W camera at the back of a theater in the 70′s, this is the first time Renaissance has ever been filmed and professionally recorded in concert.

The love and energy bestowed upon us by those of you that were able to attend, reflects in our performance. It is especially exciting for us to have fans all around the world able to see and hear our wonderful new band. We now have five strong vocalists within the band, two keyboard players, an orchestral drummer/percussionist and phenomenal bass player who capture all the lush and richness of our orchestrations...........

Love

Annie and Michael

<iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/zHRvohYloEo" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    * Recorded live at the Keswick Theatre in Glenside, PA USA on September 23 2011
    * Over two hours of Renaissance live performance
    * Two classic albums performed live in their entirety: Turn of the Cards and Scheherazade and Other Stories
    * Not available in retail stores or elsewhere online
    * Hand-numbered and autographed Collector’s Edition available
    * NTSC All-Region DVD
    * LPCM 48KHz/16bit Stereo

ตามคุณหมอฯ ไปสั่งแล้ว ค่าส่งแพงเหมือนกันครับ

เท่าที่จำได้จากที่เคยดูเครดิตผู้แต่งเพลงจากอัลบั้มของ Renaissance ชื่อของ Thatcher คุ้นตาผมมาก และเพลงที่เธอแต่งล้วนโดนใจผมทุกเพลงครับ

ขอจงสู่สุคติ

เพิ่ง Bid ได้แผ่นเสียงของ Annie Haslam ชุด Still Life มา 2 copies น่าจะเป้นแผ่น Made in Germany

อย่างงี้ ต้องจอแบ่งครึ่งครับ
คุณหมอสบายดีมั้ยครับผม..

ได้มาแล้ว Special Limited Edition DVD/CD set

live at the Keswick Theatre in Glenside, PA USA on September 23 2011
number  102/500

มีลายเซ็นต์ สมาชิกวงยุคปัจจุบันใน booklet หน้ากลาง และ ใบประกาศ ลงชื่อคนซื้อ(พอดีใช้บัตรของน้อง เลยเป็นชื่อน้องผม) มีลายเซ็นต์ Annie Haslam กับ Michael Dunford และมี เข้มกลัด เป็น logo ของวง made in China
ส่วนแผ่นยังไม่ได้เปิดดู ของพี่ panyarak ได้แล้วยังครับ

ได้แล้วครับ ผิดหวังกับปกหน้าเล็กน้อย ออกแบบง่ายไปหน่อย โดยนำมาจากโปสเตอร์ทัวร์อเมริกา ทั้งๆ ที่  Annie Haslam วาดภาพสีน้ำไว้มากมาย กลับไปซ่อนไว้ในปกด้านใน

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/ren1.jpg) (http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/ren2.png)

New Renaissance Studio Album: Grandine il Vento

แนวคิดดีครับ
เหมือน อัลบั้มสั่งตัด
รอรวบรวมเงิน $44,000 ค่อยทำ
จะได้อะไร แล้วแต่งบที่เราสมทบทุนไป

http://www.kickstarter.com/projects/renaissancetouring/new-renaissance-studio-album-grandine-il-vento

ผมคิดว่า เป็นเรื่องการประชาสัมพันธ์ หวังผลทางการตลาดมากกว่า เพราะยังไงก็จะทำชุดใหม่อยู่แล้ว
  เพราะถ้าจะหาเงินจริงๆ  ให้จองแผ่นล่วงหน้า ก็ได้เงินแล้ว หรือขายตั๋ว concert ล่วงหน้าก็ได้ เงินไม่ได้มากมายอะไร มี sponsor ไม่กี่รายก็ได้เงินแล้ว

เห็นเขาได้เงินตามเป้าแล้ว มีการเพิ่มรางวัลสำหรับผู้สมทบทุน $7500 โดย Renaissance จะไปเปิดการแสดงแบบ unplugged ให้ที่บ้าน (แต่ถ้าอยู่นอกมลรัฐ Pennsylvania เจ้าของบ้านต้องออกค่าเดินทางให้) แต่ไม่มีใครยอมทุ่มทุนสร้างขนาดนั้นครับ

พี่ตั๊มร่วมสนับสนุนไปด้วยรึเปล่าครับ

ลืมไป พอนึกได้มันหมดเขต (ได้เงินทะลุเป้า) ไปแล้วครับ

บันทึกอัลบั้ัมใหม่เสร็จ ยังไม่ทันออกจำหน่าย Michael Dunford ก็จากพวกเราไปแล้วครับ RIP

RIP จะคอยติดตามฟังผลงานของเขาครับ

ความหวังที่จะมีทัวร์เพื่อโปรโมตอัลบั้มใหม่ เลยริบหรี่ลงทันที

ทางวงไม่มีความคิดที่จะหาสมาชิกมาเสริมเพื่อออกทัวร์หรือครับ

คงต้องติดตามดูต่อไปหลังอัลบั้มวางตลาดต้นปีหน้าครับ

น่าจะไปชวน Andy Powell ออกทัวร์แทน เพราะอย่างน้อยก็เล่นเพลง Ashes Are Burning ได้ ซ้อมอีกสัก 10 เพลงก็พอครับ

อ้าว แล้วที่ลงเงินไป แล้ว จะไป dinner กับ Annie Haslam และ Michael Dunford คงต้องไปกับป้า Annie ซะแล้ว

คุณหมอฯ ลงเงินไปด้วยหรือครับ ที่จริงป้า Annie ก็เพิ่งหายป่วย จะมี solo concert ในโอกาสคริสต์มาสด้วย

ผมก็ลงไม่ทันครับ ตอนแรก กะว่าจะลง 50 เหรียญ ให้มีชื่อcredit ใน booklet
วันนั้น คุ้นๆว่า วันที่ 29 จำเดือนไม่ได้ ติดธุระ พอกลับมาเล่นเนทปั๊บ มันเลยเวลา ไป 2-3 ชม. เอง ไม่ทันซะแล้ว

แต่ตอนที่ซื้อ DVD+ CD หนก่อน ผมใช้ paypal ของผมซึ่งผูกกับบัตรเครดิตของน้อง
แต่แจ้งว่าให้เป็นชื่อของผม
แต่สุดท้ายแก้ไม่ได้ ตอนที่สมาชิกวงแจกลายเซ็นต์ เขียนชื่อน้องผมมาแทน เลยลังเล

Dear Renaissance family,

I hope this note finds you and yours in the best of good health and spirit.

As you can imagine we've been tasked with the inevitable; the quest to find a guitarist that would be worthy of our Michael Dunford's blessing and musicality.

We recently auditioned a wonderful guitarist/vocalist from New Jersey named Ryche Chlanda whom we feel will be the right one to carry on with Michael’s legacy. He is a well respected and articulate musician who has toured both with Nektar and Fireballet.

Ryche Chlanda - new Renaissance guitarist

(http://image.ohozaa.com/i/g56/KynN2K.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wEht7duAk1Dnyxtq)

Please join us in welcoming Ryche (pronounced "Rich") to Renaissance. You will be seeing him on tour with us this April, and we hope you’ll feel the same way we do about him.

Looking forward to seeing you...

Annie

 Grandine il Vento

Studio Album, released in 2013

Songs / Tracks Listing

1. Symphony Of Light (12:09)
2. Waterfall (4:44)
3. Grandine il Vento (6:30)
4. Porcelain (6:41)
5. Cry To The World (5:44)
6. Air Of Drama (5:21)
7. Blood Silver Like Moonlight (5:16)
8. The Mystic And The Muse (7:48)

Total Time 54:16

Line-up / Musicians

- Annie Haslam / vocals
- Michael Dunford / guitar
- Rave Tesar / keyboards
- David J Keyes / bass guitar, vocals on "Air Of Drama"
- Jason Hart / keyboards, accordion
- Frank Pagano / percussion

- John Wetton / vocals on "Blood Silver Like Moonlight"
- Ian Anderson / flute on "Cry To The World"

Vocalist Annie Haslam describes the tracks:

Symphony of Light
A tribute to the genius Leonardo Da Vinci.

Waterfall
About the rainforests in Brazil… I have been there many times and love it!

Grandine il Vento
A love song that transcends life itself.

Porcelain
About an African village and the people who live there.

Cry to the World
Our ‘World Song’ in honour of Mother Earth and all who are part of her.

Air of Drama
A love song about two people who come together again later in their lives in Paris, where they had first met.

Blood Silver Like Moonlight
This is a duet with John Wetton. He has been a friend for many years and I always felt our voices were similar in their timbre and range. I was told once by a ‘spiritual’ energy friend that John and I sang in the Angels choir together. That is what this song is about. Remembering the choir!

The Mystic and The Muse
I was inspired to write this by two of my paintings The Mystic and The Muse. Although it is a fantasy in a way, I see Michael as The Muse and me as The Mystic.

เห็นมีขายใน Amazon USA แล้ว
คะแนนใน Progarchives ค่อนข้างดีมาก ได้ 4.00
ไม่แน่ใจว่าจะมีทำเป็น Vinyl หรือไม่ครับ

สมัยให้ร่วมทุนทำอัลบั้ม นี้ ผมกะจะเลือก แบบ 50 หรือ 75 $ จะได้มีชื่อ ลงใน booklet แถม CD พิเศษ
แต่ด้วยเหตูที่เคยบอก ซื้อแบบร่วมผ้าป่า ไม่ทัน
คิดว่ารอซื้อ ตอนออกก็แล้วกัน

The Mystic and The Muse มีเป็น EP CD แล้วหลายปีก่อน

ตอนนี้ที่ amazon USA ขายโดย seller ซึ่งก็คือ ทางวงเอง และขายให้เฉพาะ US ประเทศอื่น รอก่อนครับ(USA only – rest of the world soon)
 แต่ของ US เป็น normal version
ยังมีอีก version มีเพลงแถม Carpet Of The Sun (Annie and Michael acoustic duet version) ซื้ออันนี้ ดีกว่า สั่งแล้ว เย้

สั่งซื้อจากที่ไหนครับ

เพิ่งฟังชุด Tuscany  อีกหลายเที่ยว ก็เพราะดีนะครับ

http://www.amazon.com/gp/product/B00BZUTACS/ref=s9_psimh_gw_p15_d8_i1?pf_rd_m=ATVPDKIKX0DER&pf_rd_s=center-2&pf_rd_r=07EVN5NJ5V364HWF5NV7&pf_rd_t=101&pf_rd_p=1389517282&pf_rd_i=507846

ที่ amazon.com มีผู้มา review 10 คน ให้ 5 ดาวทุกคน สงสัยจะจริง บางคนบอกว่าดีกว่า Tuscany ที่ถือว่าเป็นการ come back

แผ่นญี่ปุ่นที่ออกเดือนหน้ามีเพลงแถมที่คุณหมอฯ พูดถึงด้วยครับ

  ถ้าเป็นเช่นนี้ ต้องรอแผ่นญี่ปุ่นเท่านั้น เสียดายที่ออกไม่ทันช่วงไปญี่ปุ่นอีกครั้ง 8-11 may 2013

แผ่นญี่ปุ่นจะเป็นแบบ mini lp ครับ

มีใครได้ข่าวแผ่นเสียงชุดใหม่นี้บ้างครับ ว่าจะมีทำขายหรือไม่ครับ

ตอนที่ซื้อผมไม่รู้หรอกครับว่าแผ่นเสียงอัลบั้มคู่ชุดนี้เป็นชุดรวมเพลงสองอัลบั้มของ Renaissance แต่ซื้อเพราะชอบหน้าปก และดูเหมือนจะเป็นแผ่นเสียงอัลบั้มแรก ๆ ของ Renaissance ที่ผมได้มาด้วย ตอนนั้นภูมิใจมากครับ (รู้สึกลำบากลำบนมากที่กว่าจะได้แผ่นเสียงแนว progressive rock มาสักชุดในยุคซีดีครองเมือง) :D

เครดิตภาพ www.progarchives.com

(http://www.progarchives.com/progressive_rock_discography_covers/603/cover_21221122122007.jpg)

อัลบั้มคู่แสดงสดชุด Academy of Music 1974 รวมผลงานแสดงสดยุค classic lineup ที่กรุงนิวยอร์กเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 1974 แต่เพิ่งออกจำหน่ายเมื่อปี 2015 นี้เอง และมีเป็นแผ่นไวนิลด้วย ไม่ทราบมีใครได้ฟังหรือเป็นเจ้าของรึยังครับ (ผมว่าแฟนเพลงยุครุ่งโรจน์ของวงนี้ไม่ควรพลาดนะครับ 555)

เครดิตภาพ www.progarchives.com

(http://www.progarchives.com/progressive_rock_discography_covers/603/cover_16563922015_r.jpg)

Renaissance - Academy of Music 1974 (Live)

Disc 1
1. Can You Understand (11:45)
2. Black Flame (7:30)
3. Carpet Of The Sun (4:47)
4. Cold Is Being (3:35)
5. Things I Don't Understand (10:29)
6. Running Hard (10:47)

Disc 2
1. Ashes Are Burning (21:00)
2. Mother Russia (10:33)
3. Prologue (7:48)

เห็นรายชื่อเพลงแล้ว ต้องยอมรับว่าน่าสนใจและน่าซื้อแผ่นเก็บมาก แทบจะยกมาทั้งอัลบั้ม Turn of the Cards เลยก็ว่าได้ แต่เสียอย่างเดียวที่หน้าปกที่ดูเห่ยมาก ไม่ชวนให้ซื้อเลยครับ 555

อัลบั้มบันทึกการแสดงสดในสติวดิโอ De Lane Lea Studios 1973 น่าจะเก็บคู่กับอัลบั้มคู่ข้างต้นนี้ได้เลย ออกจำหน่ายเมื่อปี 2015 และมีแผ่นไวนิลด้วยเช่นกันครับ

เครดิตภาพ www.progarchives.com

(http://www.progarchives.com/progressive_rock_discography_covers/603/cover_22543922015_r.jpg)