ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
การค้นหาขั้นสูง

149661 กระทู้ ใน 4435 หัวข้อ- โดย 847 สมาชิก - สมาชิกล่าสุด: axlrose

23 เมษายน 2024 | 02:06:40 PM
Thai Progressive Rock CommunityThaiProgWelcome To The Machineรายละเอียดเรื่องซ้อมวง Part 3
หน้า: [1] 2 3 ... 12
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: รายละเอียดเรื่องซ้อมวง Part 3  (อ่าน 80954 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Layla F Mulder
Administrator
Blackfield
*****
เพศ: ชาย
กระทู้: 3604


Without appreciation, the music isn't worth.

basnaphon@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« เมื่อ: 15 พฤษภาคม 2008 | 08:35:36 PM »

หลังจากที่เราเล่นกันมาซักพักนึง หยุดบ้าง เว้นบ้าง ทำให้มันดูขาดตอนยังไงชอบกล พี่พยายามอยากจะนัดวันซ้อมประจำให้น้องๆ ไปเลย คือวันอาทิตย์ ถ้าเป็นไปได้คือเราจะซ้อมแบบติดๆ กันไปเรื่อยนะครับ เป็นไปได้อยากจะให้ล็อควันไว้เลย ถ้าวันไหนอาทิตย์ไหนใครไม่ว่างก็ขอให้รีบบอกกันแต่เนิ่นๆ เราจะได้ยกเลิกการซ้อมอาทิตย์นั้นๆ ไปได้

วิธีการซ้อมของเราอาจต้องปรับเปลี่ยนไปบ้าง เพราะจากที่เราเล่นๆ กันมาในช่วงแรก มันเปรียบเสมือนการทดลองว่าเราเล่นเพลงนั้นๆ ได้รึเปล่า ซึ่งเราก็พิสูจน์กันแล้วว่าเราเล่นได้จริง ทีนี้พอเราวางเซ็ทลิสต์เสร็จปั๊ป ขั้นตอนต่อไปก็คือการทำให้การเล่นของเราเนียนขึ้น สมบูรณ์แบบขึ้น เพราะฉะนั้นการซ้อมในช่วงต่อไปของเราควรจะหันมาเน้นที่ตรงนี้ให้มากขึ้น เวลาที่เราเล่นแล้วเราเจอที่ที่มันผิด ยังไม่ดีเท่าที่ควร หรือไปต่อไม่ได้ เราไม่ควรข้ามมันไปเลย แต่ควรจะกลับมาเล่นที่พาร์ตนั้นจนกว่าจะเล่นได้ แล้วจึงค่อยเล่นเพลงนั้นให้จบๆ ต่อไป ยกตัวอย่างเช่น ท่อนเชื่อมระหว่างท่อนอินโทรกับท่อนร้องของเพลง Echoes ที่ตอนแรกเริ่มจะเป็นการจิ้มเปียโนที่ผ่านเลสลี่ของโอ๊ค คู่ไปกับกีตาร์โซโล่ดันสายช้าๆ ของพี่ แล้วมันจะเข้าสู่ท่อนร้องโดยที่จะมีกลองกับเบสเข้ามา แล้วมันจะมีการไล่คอร์ด A ไป G# แล้วไปหา C#m อะไรประมาณนี้ เรายังเล่นตรงนี้กันไม่ได้เลย แล้วเราก็มักจะข้ามมันไปเสมอ แล้วก็เข้าสู่ท่อนร้องเลย คราวหน้าพอเราเล่นเพลงนี้ เราควรจะเล่นพาร์ตนี้ใหม่ซ้ำไปซ้ำมาจนกว่าจะเล่นได้จริง ไม่ใช่ข้ามไปท่อนร้องเลยแบบที่เคยทำกันอยู่

ส่วนใหญ่เวลาพี่เล่น พี่ก็ไม่ค่อยได้ฟังภาพรวมของ Performance ซักเท่าไหร่ เพราะพี่เองก็ต้องพุ่งสมาธิไปที่กีตาร์ของพี่เป็นหลัก แต่ก็ยังพอฟังอะไรได้บ้าง วันนี้พี่เลยขอเอาสิ่งที่คิดว่าพวกเราน่าจะแก้ไขออกมาลิสต์ให้หมด ซึ่งก็จะมีเป็นบางเพลง บางเพลงเราก็เล่นกันได้ดีอยู่แล้ว อีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องคีย์บอร์ดสองคนของเรา พี่ยังไม่แน่ใจว่าใครเล่นพาร์ตไหน อะไรบ้าง คือตอนเล่นไม่ค่อยได้ฟัง ถึงฟังก็จำไม่ได้ เดี๋ยวก็จะลองลิสต์ๆ แล้วถามดูว่าใช่แบบนี้ไหม

Speak To Me/Breathe
เพลงนี้เราเล่นกันได้ดีอยู่แล้ว สำหรับอินโทรที่เป็นสไลด์นั้น เวลาเล่นจริงพี่จะเอา Lap Steel ตัวเล็กของพี่ไปใช้เล่นด้วย แต่ทุกวันนี้ที่ไม่อยากเอาไปเพราะขี้เกียจแบก เอาเป็นว่าท่อนสไลด์นั้นให้ฟิวเล่นตรงนี้ไปก่อน ไว้เดี๋ยวพี่เอา Lap Steel มาเล่นจริงๆ แล้วค่อยนัดแนะกันอีกที
On The Run
ไม่มีปัญหา เพราะเปิดเอา
Time/Breathe Reprise
อย่างที่ตกลงกันไว้ว่า เราจะนับเสียงหัวใจเต้น ตึกๆ ตึกๆ หลังเสียงกริ่งนาฬิกาให้ผ่านไปสี่ครั้ง แล้วพอครั้งที่ห้าเราก็จะเล่นโน้ตตัว E ขึ้นมาเลย ซึ่งก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร สำคัญว่าอย่าหลง เพราะอินโทรเพลงนี้มันหลงง่าย ขนาดเดฟเล่นเองยังหลงเลย ท่อนร้องกับท่อนโซโล่ก็ไม่มีอะไร มีเพิ่มเติมนิดหน่อยตรงท่อน Counter นั่นแหละ คือเรื่องเสียงประสาน Tired of lying in the sunshine…… ก็ลองซักซ้อมกันดูว่าใครจะร้องเป็นเสียงริก ร้องให้ถูกไลน์แล้วกัน แล้วพี่จะร้องรองเสียงให้ตอนที่ถึงท่อน And then one day you find…… ส่วน Breathe Reprise ก็ไม่มีปัญหา

เพิ่มเติมเรื่องคีย์บอร์ด เพลงเนี้ย ขอให้ใช้สูตรว่าโอ๊คเล่น Electric Piano ทั้งเพลง ส่วนฟิวรับหน้าที่ Organ ไปนะ ช่วงอินโทร โอ๊คจะเล่นคอร์ดจิ้มๆ (ใช้ศัพท์วิชาการไม่เป็น) ไปเรื่อย ส่วนฟิวก็รองด้วยเสียงคอร์ดออร์แกนแบบเบาๆ ท่อนร้องนั้น โอ๊คเล่น Electric Piano ซะ ฟิวอยู่เฉยๆ จนถึงท่อน Counter และโซโล่ ฟิวถึงค่อยใส่เสียงออร์แกนเข้ามา โอเคไหมครับ?
The Great Gig in the Sky
เพลงนี้เป็นมีปัญหาหลายอย่าง ความจริงเราจะร้องกันเองไปก่อนก็ได้ แต่เวลาขึ้นเวทีจริง ขอร้องว่าอย่าทำแบบนี้ ไปหาผู้หญิงเสียงดีๆ มาร้องดีกว่านะ สิ่งที่เราควรจะทำให้ดีที่สุดในตอนนี้คือ เล่นดนตรีให้สมบูรณ์แบบที่สุด เพลงนี้ฟิวเล่นเปียโนใช่ไหม ส่วนโอ๊คเล่นออร์แกน พี่อยากให้ดูในส่วนของออร์แกน เพลงนี้สปีดของตู้ลำโพงเลสลี่มีความสำคัญมาก ในท่อน Heavy Part น้องต้องปรับเอฟเฟคต์ Rotary ของน้องให้เป็นตู้เลสลี่สปีดหมุนเร็ว ส่วนในท่อนท้ายๆ ที่ดนตรีเริ่มเบาลง น้องก็ต้องปรับสปีดให้กลายเป็นหมุนช้า พูดง่ายๆ คือน้องต้องเล่นไปปรับไปนั่นเอง สำหรับ Lap Steel ก็เหมือน Breathe นั่นแหละ คือไว้พี่จะเอาไปเล่นด้วยบ้างแล้วกันนะครับ เพราะว่าเพลงนี้พี่ก็ยังไม่เคยเล่นซ้อม Lap Steel กับวงเต็มๆ เลย ก็ต้องลองดู
Money
เพลงนี้ดูเผินๆ ก็เล่นกันได้ แต่ปัญหามีอยู่หลายอย่างเหมือนกัน อย่างแรกคือพี่โซโล่ได้มั่วมาก ไม่เคยมีแบบแผน คือว่ามั่วตลอด อันนี้พี่ต้องปรับปรุงให้โซโล่ของพี่มีความแน่นอนกว่านี้ อย่างที่สองคือเรื่องเทมโปของเพลง ที่เรามักจะเล่นกันได้เร็วเกินกว่าปรกติ สังเกตได้จากกลองของเหม่งจังหวะจะเร็วเกินไป เมื่อเทียบกับต้นฉบับ ซึ่งอันนี้ความผิดพลาดไม่ได้เกิดจากเหม่งเพียงคนเดียว เพราะว่าทุกคนเล่นเร็วกัน เหม่งก็ต้องตีตามให้มันเร็วขึ้น เพราะฉะนั้นพี่อยากให้ช่วยปรับเทมโปของเพลงใช้ช้าลง ให้ถูกต้อง พี่ขอยกตัวอย่างว่าสมมุติเพลงนี้จริงๆ ยาวประมาณ 6 นาที แล้วพวกเราเล่นกันเทมโปเร็วเกินไป มันอาจจะใช้เวลาแค่ 5 นาที ก็จบแล้ว ซึ่งความจริง ระยะเวลาที่เราเล่นเพลงนั้นๆ จะเป็นตัวบอกถึงเรื่องความแม่นยำของเทมโปที่เราเล่นได้เป็นอย่างดี (ถ้าอยากให้เม่นเป๊ะๆ ให้ใช้ดรัม แมชชีนนะคร้าบ 555+) ประเด็นสุดท้ายคือเรื่องท่อนโซโล่ที่เหมือนกับว่ามันตะกุกตะกัก เวลาพี่เล่นโซโล่แล้ว รู้สึกว่าเหมือนมันข้ามท่อนบางท่อนไป คือว่ามันจบเร็วเกินไปนั่นเอง อันนี้ก็ขอให้ลองฟังโซโล่กีตาร์ของเดฟจริงๆ ให้ดีๆ ว่ามันจะจบตอนไหน คืออารมณ์มันเหมือนกับว่า พี่โซโล่อยู่ดีๆ น้องก็จะพากันจบแล้วซะงั้นน่ะครับ ก็ลองดู

คีย์บอร์ดเพลงนี้ โอ๊คเล่น Electric Piano ทั้งเพลงเหมือนเดิม สำหรับฟิวก็ให้เล่นออร์แกนในท่อนโซโล่กีตาร์ ส่วนเสียงแซ็กโซโฟน ฟิวก็เล่นแทนไปก่อนแล้วกัน ลองฟังในเพลงจริงๆ ดูแล้วกันนะครับ สำหรับออร์แกน ว่าต้องเล่นประมาณไหน อ้อ! อย่าลืมว่าสปีดเลสลี่ต้องเป็นหมุนเร็วนะครับ
Us And Them
เพลงนี้พี่ขอภูมิใจเสนอ และขอบอกว่าเล่นกันได้ดีทุกคน เหม่งตีได้ดีมากตรงท่อนที่เป็นท่อนคอรัส ทุกอย่างค่อนข้างโอเคเลยทีเดียว เพลงนี้โอ๊คเล่นเปียโนใช่ไหม ส่วนฟิวเล่นออร์แกน ก็เหมือนเดิม ขอให้ดูสปีดของตู้เลสลี่ด้วย ในท่อนอินโทร-เวิร์ส สปีดจะช้า แล้วพอเป็นคอรัสสปีดจะเป็นเร็ว ก็เล่นไปปรับไปเหมือนเดิมจ้า ทุกอย่างโอเค ด้านเสียงร้องอาจต้องมาฝึกฝนการประสานกัน ถ้าเรามีนักร้องหญิงแล้วล่ะก็ จะเอามาช่วยประสานด้วยก็คงดีไปเลย
Any Colour You Like
เพลงนี้ปัญหาหลักๆ มาจากพี่เลยแหละ เพราะหาทางกลับบ้านไม่ถูก (ลงท่อนจบไม่ได้) เพลงนี้โอ๊คเล่นออร์แกนใช่ไหม ส่วนฟิวโซโล่เสียงซินธ์ไป พอฟิวโซโล่จนพอใจแล้ว ก็ให้ส่งสัญญาณมาทางพี่ พี่ก็จะโซโล่กีตาร์ต่อไปเลย พี่มักจะชอบอิมโพรไวส์ในเพลงนี้มากๆ (เพราะไม่เคยแกะเล่นมาก่อน 555+) ที่นี้พออิมฯ ไปเรื่อยๆ แล้วมันจะหาที่ลงไม่ได้ ก็อิมฯ ต่อไปอีก สุดท้ายคือไม่รู้จะจบลงตรงไหน อันนี้พี่ก็ต้องไปแก้ไขและฝึกฝนให้ลงได้อย่างสวยงาม อีกเรื่องที่อยากให้ช่วยดูคือเทมโปของเพลงครับ รักษาให้คงที่กันด้วยล่ะ
Brain Damage/Eclipse
เพลง Brain Damage นี้ก็ไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ ท่อนเวิร์สก็โอเคอยู่ เพราะมีแค่กีตาร์กับเสียงร้อง ท่อนคอรัสมีกลอง เบส ออร์แกนเข้ามา ก็พยายามทำให้เนียนๆ แล้วกันนะ เพลงนี้โอ๊คเล่นออร์แกนซะ แล้วฟิวก็โซโล่เสียงซินธ์ไปเหมือนเดิม ปัญหาของพี่อีกเรื่องนึงคือ ช่วงที่เป็นท่อนเชื่อมของสองเพลงนี้ พี่มักจะหยุดเล่นไปดื้อๆ เพราะว่าจำคอร์ดตรงช่วงท่อนเชื่อมไม่ได้ ก็เป็นเรื่องที่พี่จะต้องกลับไปแก้ไขล่ะครับ ส่วนเพลง Eclipse นั้น ก็พยายามบิวท์ ให้อารมณ์มันพีคๆ กันหน่อย เล่นออร์แกนสองตัวพร้อมกันไปเลยนะ ให้มันฟังดูหนาแน่นเต็มที่ สปีดเลสลี่ต้องหมุนเร็วล่ะ อย่าลืม เสียงประสานก็คงต้องซักซ้อมกันอีกที เพราะเราจะต้องมีสองไลน์ ไลน์ร้องนำ เป็นเสียงคีย์ต่ำของโรเจอร์ ส่วนไลน์สูงอาจจะช่วยกันร้องสองคน หรือคนเดียวก็ได้ เป็นไลน์ของเดฟกับริก ต้องซ้อมกันให้ดี อย่าให้หลงทางเป็นอันขาด ไม่งั้นมันจะมั่ว
Shine On
อันนี้คงต้องคุยกันยาวนิดนึงนะครับ เพลง Shine On นี้เป็นเพลงใหม่ที่เราเพิ่งได้เล่นกันเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมานี่เอง คือวางแผนกับโอ๊คว่าจะเล่นกันมานานแล้ว แต่ว่าไม่ได้เล่นซะที ก็ลองกันหลายเวอร์ชั่น เหม่งอยากเล่นเวอร์ชั่นแบบใน Pulse ซึ่งเราก็ลองกันไปแล้ว หลังจากนั้นก็ได้ลองแบบที่เล่นกีตาร์กับเปียโนอย่างเดียวแบบ Remember That Night ด้วย ซึ่งพี่คิดว่าใช้ได้ทีเดียว เพราะอยากจะเบรกบรรยากาศมาเป็นเหงาๆ บ้าง แล้วก็อยากให้เล่นแบบที่เป็น Wine Glasses Version ด้วย สำหรับคนที่ยังไม่รู้จัก Wine Glasses Version ก็ขออธิบายดังนี้ครับ

ทัวร์ On An Island เมื่อปี 2006 ที่ผ่านมา ในช่วงครึ่งแรกของทัวร์ คือตั้งแต่ทัวร์ยุโรป อเมริกา และมาปิดท้ายครึ่งแรกที่ Royal Albert Hall ที่ London ซึ่งได้บันทึกภาพและเสียงมาเป็นเวอร์ชั่นที่อยู่ในดีวีดี Remember That Night นั้น ในช่วงอินโทรของเพลง เดฟจะสร้างเสียงคอร์ด Gm, Dm, Cm มารองรับการโซโล่กีตาร์ในท่อนอินโทรของเค้าด้วยเอฟเฟคต์ Sound on Sound คือการดีดคอร์ด แล้วค่อย Swell หรือ Fade เสียงขึ้น เพื่อให้เสียงนี้ผ่านเข้าไปในเอฟเฟคต์ Long Delay มันก็จะเกิดเป็นเสียงคล้ายๆ เสียงคอร์ดของคีย์บอร์ดประเภทซินธ์อะไรซักอย่างขึ้นมา เทียบกับเวอร์ชั่นในสตูดิโออัลบั้มแล้วจะแตกต่างกันมาก เวอร์ชั่นสตูดิโอและแบบ Pulse คือแบบที่เราเล่นกันอยู่คือจะสร้างเสียงของคอร์ด Gm, Dm, Cm เหล่านี้ขึ้นมาจากเสียงคีย์บอร์ดที่เป็นเสียง Strings (เสียงเครื่องสาย)

แต่พอครึ่งหลังของทัวร์ ตั้งแต่ทัวร์ที่เวียนนา เวนิช และที่โปแลนด์ เดฟเปลี่ยนการสร้างเสียงคอร์ดของอินโทรเพลงนี้ขึ้นมาใหม่ด้วยการใช้ Glass Harp หรือไอเจ้าแก้วน้ำที่มีระดับน้ำต่างๆ กันแล้วเอามือมาลูบนั่นแหละ สร้างเป็นเสียงคอร์ด Gm, Dm, Cm ขึ้นมา โดยใช้คนสามคนเล่น พออ่านมาถึงตรงนี้แล้วหลายคนอาจนึกสงสัยว่า แล้วเราจะสามารถเอาวิธีนี้มาทำได้แบบเขาจริงๆ เหรอเนี่ย? มันเป็นไปได้เหรอ?

คำตอบคือเป็นไปได้ครับ เราต้องมีแก้วน้ำทั้งหมด 9 ใบ เพื่อจูนเป็นเสียงโน้ตที่ 9 ตัวแตกต่างกัน โดยโน้ต 9 ตัวจะถูกแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 3 ตัว (ก็คือแก้ว 3 ใบนั่นแหละ) เราสามารถใช้โน้ต 3 ตัวสร้างเป็นคอร์ดขึ้นมาได้หนึ่งคอร์ดครับ โดยวิธีการคือเราต้องทราบว่าในคอร์ดๆ นั้นมีโน้ตอะไรประกอบอยู่บ้าง ยกตัวอย่างเช่น คอร์ด Dm ประกอบด้วยโน้ตตัว D ตัว F และตัว A เราก็ต้องจูนน้ำในแก้วสามใบให้เป็นตัวโน้ตเหล่านี้ แล้วก็แจกไปให้ผู้ที่รับหน้าที่ถูแก้ว ซึ่งต้องมีทั้งหมด 3 คน คนละใบ ซึ่งถ้าทำทั้งหมดสามคอร์ด แต่ละคนก็จะมีแก้วคนละสามใบ เวลาเล่นจริงก็ให้แต่ละคนเรียงแก้วไว้ แล้วก็ถูแก้วให้ออกมาเป็นคอร์ดๆ นั้นพร้อมกัน เราก็จะสามารถสร้างเสียงอินโทรที่เป็นคอร์ดได้แล้วครับ ยิ่งถ้าใส่ Reverb ที่มอนิเตอร์ไปหน่อยละก็ ซาวน์จะยิ่งกลมกล่อมมากเลยทีเดียว

ถ้าใช้น้ำเปล่า อย่าลืมซื้อน้ำแดงเฮลล์บลูบอยมาด้วยล่ะ จะได้ผสมให้สีสวยๆ เวลาเล่นก็คงจะเท่ห์น่าดู มองไกลๆ นึกว่าไวน์ แต่ที่ไหนได้ กลายเป็นน้ำแดงซะนี่ ถูๆ ไป แล้วยังจิ้มกินได้อีกตะหาก เจ๋งไปเลย

เราคงไม่ได้ซ้อมด้วยวิธีการแบบนี้ทุกครั้งหรอกครับ บอกไว้เป็นไอเดียเฉยๆ เพื่อได้ออกงานขึ้นมาจริงๆ ค่อยซ้อม (จะซ้อมครั้งแรกตอนวันออกงานกับสถานที่จริงเลยก็ได้ครับ 555+) แต่พี่รับรองได้เลยว่า ถ้าเล่นอะไรแบบนี้ จะสามารถเรียกร้องความสนใจจากคนดูได้อย่างแน่นอน ยิ่งถ้าเล่นในที่มืดๆ ตอนกลางคืนล่ะก็ สุดยอดไปเลยนะเนี่ย ระหว่างนี้ก็ซ้อมแบบธรรมดาๆ ไปก่อนคือใช้คีย์บอร์ดกดเป็นเสียง Strings นี่แหละ

Shine On เป็นเพลงที่ซับซ้อนและมีหลายท่อนบรรเลงมาก เวลาแสดงสดบางทีก็มีโซโล่ตรงโน้น ตรงนี้ บางทีก็ไม่มี พี่เลยขอกำหนด Step ให้ชัดเจนว่าเราจะเล่นอะไรตรงไหนบ้าง เพื่อที่จะได้มีหลัก และเห็นกันชัดๆ ไปเลย

-   อินโทร เสียง Strings, Wine Glasses
-   โซโล่ซินธ์เลียนแบบเสียง Moog โดยโอ๊ค
-   โซโล่กีตาร์เสียงคลีน โดยพี่เอง
-   เมื่อจบท่อนโซโล่กีตาร์เสียงคลีน พี่จะเล่นกีตาร์โน้ตสี่ตัว ของ Syd’s Theme ตรงนี้คนที่เล่น Wine Glasses สามคนให้หยุดเล่นและเดินกลับเข้ามาประจำที่เครื่องดนตรีของตนเอง
-   Syd’s Theme + โซโล่กีตาร์ที่สองที่เป็นเสียง Overdrive ตรงนี้กลองกับเบสจะเข้ามาเป็นจุดแรก
-   โซโล่เสียงซินธ์เลียนแบบเสียง Moog รอบที่สอง โดยโอ๊ค กลองกับเบสยังเล่นอยู่ จนจบท่อนโซโล่ตรงนี้ กลองและเบสจะหยุดเล่น
-   ท่อนร้อง ตรงนี้เราจะเล่นกับแบบ Remember That Night คือมีแค่กีตาร์ เปียโน และเสียงร้องเท่านั้น (อาจมีออร์แกนเบาๆ คลอไปก็ได้) ที่ต่างกับ Remember That Night คือเราจะเน้นเสียงเปียโนให้เด่นขึ้นมาคู่กับกีตาร์ด้วย
-    ท่อนก่อนโซโล่แซ็กโซโฟน + ท่อนโซโล่แซ็กโซโฟน ตรงนี้พี่ยังคิดอยู่ว่าควรจะเอากลองกับเบสใส่เข้ามาตรงท่อนที่ร้องว่า Well you wore out your welcome… แบบใน Remember That Night ดี หรือจะปล่อยให้มันมีแค่กีตาร์ เปียโน ออร์แกน แล้วก็โซโล่แซ็กโซโฟนทับลงไปเหมือนในดีวีดี In Concert ดี ก็ลองพิจารณากันดูแล้วกันนะครับ

จบแล้วครับสำหรับเพลง Shine On You Crazy Diamond เวอร์ชั่นของเรา รวมความเบ็ดเสร็จแล้วน่าจะมีความยาวอยู่ที่ประมาณ 12 นาที
Echoes
เพลงนี้ก็เป็นอีกเพลงที่เราค่อนข้างตะกุกตะกัก เนื่องจากมันมีหลายพาร์ต ปัญหาหลักๆ ของเพลงนี้ก็อย่างที่พี่ชี้แจงไปแล้วข้างต้นนั่นแหละ ในเรื่องของท่อนที่เชื่อมระหว่างอินโทรกับท่อนร้องที่จะมีการไล่คอร์ด A ไป G# แล้วไปหา C#m ตรงนี้เราต้องทำให้เข้าล็อคให้ได้ ถ้าผิด หรือไม่สมบูรณ์ต้องย้อนไปเล่นใหม่ให้จนได้ สำหรับการประสานเสียงในเพลงนี้จะต้องมีสองไลน์ที่ร้องคู่กันไปตลอดทั้งเพลง คือถ้าฟังในเวอร์ชั่นสตูดิโอจาก Meddle หรือ Live At Pompeii เดฟจะเป็นคนร้อง ไลน์เสียงต่ำ ส่วนริกจะร้องไลน์ที่เป็นเสียงสูง ซึ่งจะต้องร้องแบบเทียบเคียงแบบนี้กันไปตลอดทั้งเพลง ทีนี้พี่คิดว่าน่าจะให้พิ่สิทธิ์ร้องเป็นเสียงเดฟ แล้วพี่จะเป็นคนร้องเสียงริกเอง เพราะว่าพี่ค่อนข้างเสียงใสและเสียงสูงเหลือเกิน แหะๆ บางทีก็ทนรับเสียงแหลมๆ ของตัวเองไม่ได้เหมือนกัน

ซ้อมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาครั้งล่าสุดเนี่ย รู้สึกว่าเหม่งจะลืมท่อนโซโล่ตรงกลางเพลงของพี่ไป ข้ามมากลายเป็นท่อน Heavy Riff เลย ก็อย่าลืมกันล่ะว่ามีท่อนที่พี่ต้องโซโล่กีตาร์ด้วย แล้วพอโซโล่จบก็เป็นท่อน Heavy Riff แบบรัวๆ จบด้วยการไล่คอร์ด E ไปหา B, C และ C#m ตามลำดับ

ท่อน Funky Part เราก็พอเล่นกันได้แบบมั่วๆ อยู่ พี่กับโอ๊คจะต้องแจมกัน โดยมีเบสกับกลองคุม ปัญหาก็เกิดจากพี่เอง พี่เล่นโซโล่แจมในท่อนนี้ได้สะเปะสะปะมาก แล้วก็บอกตามตรงว่าไม่เคยแกะเล่นอย่างจริงๆ จังๆ เลย ก็ใช้วิธีอิมฯ ไปเรื่อย ซึ่งมันก็พอได้อยู่แต่ว่าไม่ดีเท่าที่ควร โอ๊คก็ต้องพยายามฝึกตรงท่อนโซโล่ออร์แกนนี้ให้ดีๆ ล่ะ ถ้ามีเวลาว่างๆ ก็แกะไปเลย ยิ่งถ้าเราอยู่กับมันนานๆ เข้า เราก็สามารถอิมฯ ได้แม่นยำและใกล้เคียงของจริงมากยิ่งขึ้นนะ พอจบท่อนนี้ กลองกับเบสก็จะค่อยๆ เบาลง

เข้าสู่ตรงช่วงที่เป็น Seagull Effect อย่างที่พี่เคยเอา Wah-Wah ไปทำเสียงหอนให้ดู ก็ให้ทำแบบนั้นแหละครับ แล้วสันก็ต้องหาปิ๊คหรืออะไรมาถูๆ สายให้เป็นเสียงครืนๆ ส่วนพี่ก็จะทำ Seagull Effect ไป แต่ไอเจ้า Wah-Wah นื่เป็นเอฟเฟคต์ที่อันใหญ่แล้วก็หนักมาก ขี้เกียจแบกไปจริงๆ ใช้ก็นิดเดียวเองเนอะ

ต่อไปคือท่อน Build-Up Part ซึ่งตรงนี้ก็จะเริ่มต้นขึ้นมาเป็นเสียงคีย์บอร์ดจากโอ๊ค พี่ไม่แน่ใจว่าโอ๊คใช้ซาวน์ตัวไหนเล่นตรงนี้ เสียง Strings หรือเปล่า? ความจริงอยากให้หาเสียงที่เหมาะสมและใกล้เคียงกับเสียงของออร์แกนที่ริกเล่นใน Remember That Night ซึ่งริกจะใช้ Farfisa Compact Duo ซึ่งเป็น Combo Organ แบบโบราณ ก็ลองหาเสียงที่เหมาะสมดูแล้วกัน แล้วพี่ก็จะเล่นกีตาร์แบบ Palm Mute กับเสียงดีเลย์ที่ 300 ms เข้ามา ตรงนี้ก็ลองฝึกอีกซักนิด ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรมาก ก็เล่นไปเรื่อยจนถึงท่อน อเพคจิโอของพี่ ตรงนี้เบสของสันจะต้องทำหน้าที่ค่อนข้างเด่น แต่พี่เองก็ยังไม่ได้ตั้งใจฟังแบบละเอียด ก็จะลองไปฟังดูอีกที ก็ไล่ไปเรื่อยจนถึงท่อนร้องที่สองในช่วงครึ่งหลัง

ท่อนร้องให้ช่วงครึ่งหลังก็ไม่ค่อยต่างจากครึ่งแรกเท่าไหร่ ต่างกันนิดหน่อยตรง Heavy Riff ที่ไล่ในช่วงท้าย ที่มันจะมีจังหวะแบบที่โดดๆ ก่อน แล้วค่อยเล่นแบบรัวๆ แบบในตอนพาร์ตแรก (อธิบายค่อนข้างยากไว้ตอนซ้อมจริงจะไปเล่นให้ดูขยายความอีกที) สำหรับอาทิตย์ที่ผ่านมาเราข้ามตรงช่วงจังหวะโดดกันไป ก็ไม่น่ามีปัญหาไร ปรับปรุงเล็กน้อยก็คงผ่านได้ฉลุย

จบลงที่ท่อนโซโล่ท้ายเพลง ซึ่งเป็นการดวลกันระหว่างการจิ้มเปียโนของโอ๊คกับกีตาร์โซโล่ของพี่อีกครั้ง อันนี้ก็เป็นเรื่องของพี่กับโอ๊คที่ต้องฝึกร่วมกันให้ดีๆ ก็ต้องหาเวลาซ้อมแบบสองคนบ้าง เพราะว่าเราจะได้เน้นตรงนี้กันอย่างละเอียดเลยครับ
Comfortably Numb
เชื่อว่าเพลงนี้คงเป็นเพลงโปรดสำหรับหลายๆ คน เพราะว่าเล่นกันได้อย่างมีความสุขมากเท่าที่พี่ดู (ยกเว้นสัน ที่พี่คิดว่าไม่ตื่นเต้นเท่าคนอื่น แต่พี่ก็ดูผ่านๆ นะ) อย่างเช่นโอ๊คนี่เวลาพี่เล่นโซโล่ที่สองมักจะหันมาดูพี่เล่นเสมอๆ ส่วนเหม่งก็ตีได้รุนแรงและหนักหน่วงมาก (ระบายอารมณ์หรือเปล่า) ส่วนพี่ก็หลุดโลกอยู่หน้าตู้แอมป์ ตอนซ้อมครั้งก่อนโน้น ที่ฟอร์จูน พี่จำได้ว่า เราเล่นเพลงนี้กันไปสามรอบ แล้วมีพี่อ้อยมาดูด้วย พี่คิดว่าโซโล่ในการเล่นเพลงนี้รอบที่สองของวันนั้นพี่ทำได้โอเคเลย แล้วเวลาเล่นจริงก็อยากเล่นแบบนั้น คือไม่นิ่งไป แล้วก็ไม่บ้ามากจนเกินไป สมดุลดี (อาจเป็นเรื่องของแอมป์ที่มีส่วนช่วยให้ฟังออกมาดูดีด้วย) แต่เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ที่มีพ่อของพี่มายืนดูนี่ พี่ก็ใส่ซะ.... เต็มที่เลย ทำหยั่งกับตัวเองเป็น Gary Moore เล่นแบบบ้าบอสุดๆ แล้วก็ยังมีใช้คันโยก กลายเป็นโซโล่โรคจิต บ้าเถื่อน ดูไม่มีสกุลรุนชาติเอาซะเลย เพราะงั้นคราวหน้าพี่จะพยายามปรับปรุงตรงนี้ คือเล่นให้มันพอดี ไม่มากไม่น้อยไปจนเกินงาม เพลงนี้ทุกคนเล่นได้ปึ๊กและยอดเยี่ยมกันอยู่แล้ว พี่ขอเสนอแนะเพิ่มเติมบางประเด็นดังนี้

-   สงสัยว่าพาร์ตคีย์บอร์ดของทั้งสองคนแบ่งกันอย่างไร คนที่พี่เห็นว่าเล่นหลักๆ คือโอ๊ค ที่จะเล่นเสียงสตริงแบบไล่เสียง ซึ่งเป็นพาร์ตที่ปรกติ Jon Carin จะเป็นคนเล่น แล้วพอท่อนโซโล่ที่สองโอ๊คก็ไปเล่นออร์แกน ส่วนฟิวนั่นเล่นเสียงอะไรน่ะ พี่จำไม่ได้แล้ว พี่ขอเสนอว่า อยากให้แบ่งกันไปเลยคนละเสียง คือให้ฟิวเล่นเสียงสตริงตลอดทั้งเพลง ทั้งท่อนร้องและท่อนโซโล่ ส่วนโอ๊คก็ควรเล่นออร์แกนตลอดทั้งเพลงเช่นกัน เพราะว่าเห็นว่าตอนท่อนคอรัสไปเล่นซ้ำซ้อนพาร์ตเดียวกัน มันก็เลยตีกันมั่ว
-   ตอนท่อนโซโล่ที่สอง สันน่าจะเล่นแบบว่าโน้ตตัวสูงๆ เป็นลูก Fill-in ซะหน่อย แบบที่โรเจอร์เล่นตอน Live 8 นั่นแหละ มันจะช่วยทำให้เพลงดูมีสีสันมากขึ้น จะได้ดูไม่เลี่ยน เพราะมีแต่เสียงกีตาร์โซโล่ของพี่อย่างเดียว
-   เหม่งตีได้ดีและยอดเยี่ยมอยู่แล้วในท่อนโซโล่ที่สอง หนักแน่นดี แล้วก็ท่อนจบก็ทำได้เยี่ยมมากเลยคร้าบ ลงตัวมากๆ เลย
-   คอมเมนต์ตัวเองบ้าง อย่างแรกคือท่อนโซโล่ท่อนแรกพี่มักจะเล่นเพี้ยน ผิดโน่นผิดนี่อยู่เป็นประจำ บางครั้งมีตะกุกตะกักและไม่เนียน ส่วนท่อนโซโล่ท่อนที่สองเนี่ย เป็นอะไรทีพี่ต้องดูแลเป็นพิเศษเลย เพราะว่าพี่ต้องบาลานซ์ระหว่างตัวเมโลดี้หลักที่เดฟเล่นในต้นฉบับ กับการอิมโพรไวส์แบบบ้าๆ ของพี่ให้พอเหมาะ รวมถึงเรื่องไดนามิคที่ต้องควบคุมอย่าให้รุนแรงจนเกินไป และที่สำคัญคือต้องเล่นให้มีการบิวต์อารมณ์ของคนฟังที่ไล่ระดับจากระดับกลางๆ ไปจนถึงจุดพีค ก็เป็นการบ้านของพี่อีกเช่นกันที่ต้องไปฝึกฝนและพัฒนาในส่วนตรงนี้ครับ

โดยส่วนตัวแล้วรู้สึกแฮปปี้มากครับที่เห็นทุกๆ คนแฮปปี้เช่นกันเวลาที่เล่นเพลงนี้ เพลงนี้เป็นเพลงสุดท้ายที่เราจะใช้เป็นเพลงปิด ก็ควรจะทำให้สามารถสร้างความประทับใจให้กับคนดูให้ได้มากที่สุดครับ
เพลงเพิ่มเติมสำหรับเซ็ทลิสต์ที่อาจพิจารณาใส่เพิ่ม
Wish You Were Here

จริงๆ เพลงนี้เป็นเพลงที่ควรเล่นมาก เพราะว่ามันดัง และมันก็ฟังดูป๊อบมากๆ แล้วทั้งโรเจอร์และเดฟก็เล่นแทบทุกงาน ความจริงเพลงนี้ไม่ได้ยากเลย เพียงแต่ว่ามันต้องใช้กีตาร์โปร่ง ซึ่งตอนนี้กีตาร์โปร่งของพี่เป็นแบบอคูสติกจริงๆ คือต่อเข้ากับแอมป์ไม่ได้ ถ้าจะเล่นจริงก็คงต้องรอซื้อกีตาร์ตัวใหม่ที่เป็นโปร่งไฟฟ้า หรือไม่ก็ซื้อปิ๊คอัพที่ใช้แปลงมาใส่ อีกปัญหานึงคือเพลงนี้จะเล่นให้ได้ไพเราะจริงๆ มันต้องมีกีตาร์อคูสติกสองตัว ไม่งั้นมันจะแหว่งๆ ไป ให้ความรู้สึกแปลกๆ แก่ผู้ฟังอย่างยิ่ง ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดเพลง เพลงนี้เล่นง่ายแทบทุกชิ้นครับ
The Happiest Days of Our Lives / Another Brick in the Wall Part 2
เมื่อวานได้คุยกับเหม่งทางโทรศัพท์เป็นเวลานาน ก็มีความเห็นที่ตรงกันว่าเพลงนี้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่จะเอามาใส่ในช่วง Encore ของเราเหมือนกัน เพราะว่าเพลงอื่นๆ ที่เราเล่นค่อนข้างโอนเอียงไปทางฟลอยด์ฝั่งทางเดฟเสียมาก เพลงนี้ถือเป็นเพลงที่ดีที่จะมาช่วยสร้างความบาลานซ์ให้กับทางฝั่งโรเจอร์ เพลงสุดดังเพลงนี้น่าจะเรียกเสียงเฮจากคนดูได้ดี ถึงแม้ว่าแฟนพันธุ์แท้ฟลอยด์หลายคนจะไม่ชอบมันก็เถอะ แล้วตัวเพลงก็ไม่ได้ยากอะไรมากมายนัก ปัญหาอาจจะอยู่ตรงเสียงเด็กที่มาร้อง ว่าเราจะทำอย่างไร เราช่วยกันตะโกนกันเองหรือว่าอย่างไร ปัญหาหลักคือเราไม่สามารถสกัดเสียงเด็กจากตัวเพลงในอัลบั้มออกมาได้ ครั้นถึงสกัดออกมาได้ เวลาเอาไปเล่นสดจริงๆ เราจะเปิดมันให้ตรงกับจังหวะที่เราเล่นได้อย่างไร ซึ่งมันก็จะมีวิธีเดียวคือต้องซิงค์จังหวะกลองให้ตรง ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับฝีมือและอุปกรณ์ที่เรามี อีกประเด็นคือเรื่องกีตาร์ เพลงนี้ถ้าจะเล่นให้ฟังดูดีมันต้องมีกีตาร์ไฟฟ้าสองตัว ตัวนึงเล่นเสียงคอร์ดแบบคลีน อีกตัวเล่นเป็นไลน์เมโลดี้ ตื่อ ตือ ตื้อ ตือ...... เป็นเสียงดิสทอร์ทชั่น ดังนั้นก็ยังคิดๆ อยู่ เพลงนี้จึงดูเหมือนจะไม่สมบูรณ์แบบนักถ้าหากเราจะเอามาเล่นจริงๆ แต่ถ้าไม่คิดมาก ก็โอเคเลย เพราะว่าไม่ได้เล่นยากอะไรเท่าไหร่ แถมอาจเปิดโอกาสให้มือคีย์บอร์ดสองคนได้โซโล่แข่งกันด้วย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15 พฤษภาคม 2008 | 08:45:46 PM โดย Agent Fox Mulder » บันทึกการเข้า

 
Tsundere (ツンデレ?) (pronounced /(t)sʌnˈdɪə(r)/ in English or /t͡sun.de.ɽe/ in Japanese) is a Japanese concept of a character archetype which describes a person with a conceited, irritable, and/or violent personality that suddenly becomes modest and loving when triggered by some sort of cause (such as being alone with someone)
♫ phil_wc ♫
Phi
Blade Runner
*****
เพศ: ชาย
กระทู้: 2083


นักดนตรีบ้าบอ

chupawicht@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: 15 พฤษภาคม 2008 | 08:41:04 PM »

อะโจ้ว!!! ตกใจ
วันอาทิตย์ผมติดเรียนอ่ะ ยัน4โมงเย็น
ช่วงนี้ต้องเตรียมตัวสอบตรงแล้วง่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15 พฤษภาคม 2008 | 08:43:36 PM โดย phil_wc » บันทึกการเข้า

ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 8547


nagoya_mega_snake@windowslive.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: 15 พฤษภาคม 2008 | 08:51:13 PM »

เยี่ยมเลยครับพี่บาส ชัดเจนดีมาก สามารถชี้จุดที่เด่นหรือบกพร่องของสมาชิกทุกคนได้อย่างชัดเจนด้วย หวังว่าซ้อมคราวต่อไปจะสามารถเล่นได้ตามแผนและเป็นรูปเป็นร่างขึ้นครับ
บันทึกการเข้า


Stay cheap, praise the explicit, embrace the scuzz, be true to art and yourself, eat shit, keep music evil.
lilivm's self-indulgence: https://rateyourmusic.com/~potatahtapapoh
Layla F Mulder
Administrator
Blackfield
*****
เพศ: ชาย
กระทู้: 3604


Without appreciation, the music isn't worth.

basnaphon@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: 15 พฤษภาคม 2008 | 08:53:31 PM »

อะโจ้ว!!! ตกใจ
วันอาทิตย์ผมติดเรียนอ่ะ ยัน4โมงเย็น
ช่วงนี้ต้องเตรียมตัวสอบตรงแล้วง่ะ

ไม่เป็นไรครับ ไว้อาทิตย์หน้าก็ได้ครับ พี่พิมพ์ที่โรงงานแล้วก๊อบเอามาลงครับ พิมพ์ไปสองวัน เอาเวลาว่างงานมานั่งคิดๆ แล้วพิมพ์ไป เลยอัพเดตไม่ทันเหตุการณ์ครับ
บันทึกการเข้า

 
Tsundere (ツンデレ?) (pronounced /(t)sʌnˈdɪə(r)/ in English or /t͡sun.de.ɽe/ in Japanese) is a Japanese concept of a character archetype which describes a person with a conceited, irritable, and/or violent personality that suddenly becomes modest and loving when triggered by some sort of cause (such as being alone with someone)
Layla F Mulder
Administrator
Blackfield
*****
เพศ: ชาย
กระทู้: 3604


Without appreciation, the music isn't worth.

basnaphon@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: 15 พฤษภาคม 2008 | 09:22:37 PM »

ผมคุยกับน้องๆ เรื่องพี่สิทธิ์แล้วครับ ถ้าพี่สิทธิ์สนใจ จะมาร่วมเป็นสมาชิกวงของเราเลยก็ได้นะครับ จะได้มาช่วยร้องในหลายๆ เพลง เพราะว่าเสียงผมมันแหลมเหลือเกินให้ตายเถอะ ไม่เข้ากับพิงค์ฟลอยด์เลย

บางเพลง บางท่อน ผมขอร้องเองนะครับ เพราะเป็นความไฝ่ฝัน บางเพลงผมก็จะช่วยร้องประสานแล้วให้พี่ร้องนำไปเลย บางเพลงร้องคู่ (อย่างเช่น Echoes เป็นต้น)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15 พฤษภาคม 2008 | 09:24:25 PM โดย Agent Fox Mulder » บันทึกการเข้า

 
Tsundere (ツンデレ?) (pronounced /(t)sʌnˈdɪə(r)/ in English or /t͡sun.de.ɽe/ in Japanese) is a Japanese concept of a character archetype which describes a person with a conceited, irritable, and/or violent personality that suddenly becomes modest and loving when triggered by some sort of cause (such as being alone with someone)
TRON
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 12866



ดูรายละเอียด
« ตอบ #5 เมื่อ: 15 พฤษภาคม 2008 | 09:33:35 PM »

ถามเล่นๆนะครับว่าเพลง Echoes ทำไมไม่ลองเล่นเวอร์ชั่น Echoes (The Best Of) เหรอครับ มันกระชับกว่าและสั้นกว่า 6 นาที ซึ่งเท่าที่ฟังก็ไม่ได้ตัดส่วนสำคัญออกเลยครับ ที่ถามนี่เผื่อว่ามันอาจจะเล่นง่ายขึ้นน่ะครับ แต่ถ้าชอบแบบ original ก็เข้าใจนะครับ  ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า
Layla F Mulder
Administrator
Blackfield
*****
เพศ: ชาย
กระทู้: 3604


Without appreciation, the music isn't worth.

basnaphon@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #6 เมื่อ: 15 พฤษภาคม 2008 | 09:36:25 PM »

ถามเล่นๆนะครับว่าเพลง Echoes ทำไมไม่ลองเล่นเวอร์ชั่น Echoes (The Best Of) เหรอครับ มันกระชับกว่าและสั้นกว่า 6 นาที ซึ่งเท่าที่ฟังก็ไม่ได้ตัดส่วนสำคัญออกเลยครับ ที่ถามนี่เผื่อว่ามันอาจจะเล่นง่ายขึ้นน่ะครับ แต่ถ้าชอบแบบ original ก็เข้าใจนะครับ  ยิ้มกว้างๆ

ผมขอยึด Remember That Night เป็นหลักครับ อยากให้ได้แบบเต็มๆ และซาวน์ออก Modern หน่อย
บันทึกการเข้า

 
Tsundere (ツンデレ?) (pronounced /(t)sʌnˈdɪə(r)/ in English or /t͡sun.de.ɽe/ in Japanese) is a Japanese concept of a character archetype which describes a person with a conceited, irritable, and/or violent personality that suddenly becomes modest and loving when triggered by some sort of cause (such as being alone with someone)
ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 8547


nagoya_mega_snake@windowslive.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #7 เมื่อ: 15 พฤษภาคม 2008 | 09:43:27 PM »

ถามเล่นๆนะครับว่าเพลง Echoes ทำไมไม่ลองเล่นเวอร์ชั่น Echoes (The Best Of) เหรอครับ มันกระชับกว่าและสั้นกว่า 6 นาที ซึ่งเท่าที่ฟังก็ไม่ได้ตัดส่วนสำคัญออกเลยครับ ที่ถามนี่เผื่อว่ามันอาจจะเล่นง่ายขึ้นน่ะครับ แต่ถ้าชอบแบบ original ก็เข้าใจนะครับ  ยิ้มกว้างๆ

ผมขอยึด Remember That Night เป็นหลักครับ อยากให้ได้แบบเต็มๆ และซาวน์ออก Modern หน่อย

ใช่ครับ เพลงนี้ต้องเล่นให้เต็มจึงจะถึงอารมณ์ครับี แต่อย่างไรก็ตามถ้าไปเล่นที่ใหนแล้วเวลาจำกัดก็อาจจะตัดเพลงนี้ออกไปเลย.....มั้ง
บันทึกการเข้า


Stay cheap, praise the explicit, embrace the scuzz, be true to art and yourself, eat shit, keep music evil.
lilivm's self-indulgence: https://rateyourmusic.com/~potatahtapapoh
TRON
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 12866



ดูรายละเอียด
« ตอบ #8 เมื่อ: 15 พฤษภาคม 2008 | 09:47:49 PM »

ดีใจนะครับที่น้องๆชวน พี่ยินดีมากๆนะครับเพียงแต่พี่ไม่ค่อยมั่นใจว่าจะทำได้ดีแค่ไหน เอาเป็นว่าเราลองซ้อมๆกันไปเรื่อยๆนะครับ ถ้ามันออกมาดีก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้วครับ ส่วนเรื่องร้องนี่พี่เข้าใจน้องบาสดีครับว่าความใฝ่ฝันมันเป็นยังไง เต็มที่เลยครับ จริงๆพี่ยังคิดเลยว่าต่อไปนี้น้องควรร้องพาร์ทของเดฟทั้งหมด จะได้สมบูรณ์แบบเหมือนเดฟจริงๆ พี่อายุเยอะแล้วให้โอกาสน้องๆดีกว่า พี่คอยช่วยร้องเสริมเท่าที่จำเป็นได้ครับ แค่นี้ก็ดีใจแล้วครับ  ยิ้มกว้างๆ

ผมคุยกับน้องๆ เรื่องพี่สิทธิ์แล้วครับ ถ้าพี่สิทธิ์สนใจ จะมาร่วมเป็นสมาชิกวงของเราเลยก็ได้นะครับ จะได้มาช่วยร้องในหลายๆ เพลง เพราะว่าเสียงผมมันแหลมเหลือเกินให้ตายเถอะ ไม่เข้ากับพิงค์ฟลอยด์เลย

บางเพลง บางท่อน ผมขอร้องเองนะครับ เพราะเป็นความไฝ่ฝัน บางเพลงผมก็จะช่วยร้องประสานแล้วให้พี่ร้องนำไปเลย บางเพลงร้องคู่ (อย่างเช่น Echoes เป็นต้น)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15 พฤษภาคม 2008 | 11:49:35 PM โดย Tron » บันทึกการเข้า
TRON
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 12866



ดูรายละเอียด
« ตอบ #9 เมื่อ: 15 พฤษภาคม 2008 | 10:49:40 PM »

หรือตอบง่ายๆสั้นๆว่า "ตกลงครับ"  ยิงฟันยิ้ม

ผมคุยกับน้องๆ เรื่องพี่สิทธิ์แล้วครับ ถ้าพี่สิทธิ์สนใจ จะมาร่วมเป็นสมาชิกวงของเราเลยก็ได้นะครับ จะได้มาช่วยร้องในหลายๆ เพลง เพราะว่าเสียงผมมันแหลมเหลือเกินให้ตายเถอะ ไม่เข้ากับพิงค์ฟลอยด์เลย

บางเพลง บางท่อน ผมขอร้องเองนะครับ เพราะเป็นความไฝ่ฝัน บางเพลงผมก็จะช่วยร้องประสานแล้วให้พี่ร้องนำไปเลย บางเพลงร้องคู่ (อย่างเช่น Echoes เป็นต้น)
บันทึกการเข้า
ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 8547


nagoya_mega_snake@windowslive.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #10 เมื่อ: 15 พฤษภาคม 2008 | 10:59:17 PM »

หรือตอบง่ายๆสั้นๆว่า "ตกลงครับ"  ยิงฟันยิ้ม

ผมคุยกับน้องๆ เรื่องพี่สิทธิ์แล้วครับ ถ้าพี่สิทธิ์สนใจ จะมาร่วมเป็นสมาชิกวงของเราเลยก็ได้นะครับ จะได้มาช่วยร้องในหลายๆ เพลง เพราะว่าเสียงผมมันแหลมเหลือเกินให้ตายเถอะ ไม่เข้ากับพิงค์ฟลอยด์เลย

บางเพลง บางท่อน ผมขอร้องเองนะครับ เพราะเป็นความไฝ่ฝัน บางเพลงผมก็จะช่วยร้องประสานแล้วให้พี่ร้องนำไปเลย บางเพลงร้องคู่ (อย่างเช่น Echoes เป็นต้น)

ตอบง่ายๆสั้นๆว่า เย้!!!!!  ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า


Stay cheap, praise the explicit, embrace the scuzz, be true to art and yourself, eat shit, keep music evil.
lilivm's self-indulgence: https://rateyourmusic.com/~potatahtapapoh
kongbei
Administrator
The Snow Goose
*****
เพศ: ชาย
กระทู้: 6534


ขงปี่

pink_floyd@thaiprog.net
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 16 พฤษภาคม 2008 | 04:43:41 PM »

หรือตอบง่ายๆสั้นๆว่า "ตกลงครับ"  ยิงฟันยิ้ม

ผมคุยกับน้องๆ เรื่องพี่สิทธิ์แล้วครับ ถ้าพี่สิทธิ์สนใจ จะมาร่วมเป็นสมาชิกวงของเราเลยก็ได้นะครับ จะได้มาช่วยร้องในหลายๆ เพลง เพราะว่าเสียงผมมันแหลมเหลือเกินให้ตายเถอะ ไม่เข้ากับพิงค์ฟลอยด์เลย

บางเพลง บางท่อน ผมขอร้องเองนะครับ เพราะเป็นความไฝ่ฝัน บางเพลงผมก็จะช่วยร้องประสานแล้วให้พี่ร้องนำไปเลย บางเพลงร้องคู่ (อย่างเช่น Echoes เป็นต้น)

ตอบง่ายๆสั้นๆว่า เย้!!!!!  ยิ้มกว้างๆ

เย้ด้วยคน
บันทึกการเข้า
♫ phil_wc ♫
Phi
Blade Runner
*****
เพศ: ชาย
กระทู้: 2083


นักดนตรีบ้าบอ

chupawicht@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #12 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2008 | 06:23:10 PM »

Wish You Were Here เล่นแบบ Live 8 ดีใหมครับ
ให้สันมาเล่นกีต้ารองพื้น
บันทึกการเข้า

Layla F Mulder
Administrator
Blackfield
*****
เพศ: ชาย
กระทู้: 3604


Without appreciation, the music isn't worth.

basnaphon@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #13 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2008 | 06:49:16 PM »

Wish You Were Here เล่นแบบ Live 8 ดีใหมครับ
ให้สันมาเล่นกีต้ารองพื้น

ได้ครับ อาทิตย์นี้ซ้อมนะครับ เวลาเดิม 12.00 - 15.00 น.
คราวนี้ขอเป็นฟอร์จูนนะครับ
บันทึกการเข้า

 
Tsundere (ツンデレ?) (pronounced /(t)sʌnˈdɪə(r)/ in English or /t͡sun.de.ɽe/ in Japanese) is a Japanese concept of a character archetype which describes a person with a conceited, irritable, and/or violent personality that suddenly becomes modest and loving when triggered by some sort of cause (such as being alone with someone)
kongbei
Administrator
The Snow Goose
*****
เพศ: ชาย
กระทู้: 6534


ขงปี่

pink_floyd@thaiprog.net
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2008 | 07:35:20 PM »

ดีใจมากครับที่ซ้อม เพราะทนกับการเรียน + ครู + เพื่อน + ทรงผมมานานแล้ว ขอไปปลดปล่อย ไปช๊อปปิ้งบ้างครับ

อิอิอิ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3 ... 12
พิมพ์
กระโดดไป:  

ThaiProg.net Ver 4.0 by tisanai,Shineon,kongbei
Top 10 Best Sellers in Kindle eBooks Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers In Automotive Parts And Accessories Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers in Tools and Home Improvement Under $10, Reviewer 2016
Top 10 Best Sellers in Clothing for 2017 Top 10 Best Sellers in Clothing Best Sellers in Clothing
Top 10 Best Sellers in Books reviewer 2017 Top 10 Best Sellers in Books Best Sellers in Books
Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Reviewer 2017 Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Best Sellers In Grocery