ต่อไป »

[ปีศาจลายคราม]

ไม่ทราบว่าคนรุ่นเก่าอย่างผมจะตอบกระทู้นี้ได้มั้ยเนี่ย 

ความจริงผมเริ่มสนใจดนตรี prog อย่างจริงจังเมื่อประมาณปี 1982 หรือพ.ศ. 2525 ซึ่งในช่วงนั้น ดนตรี prog ได้เสื่อมความนิยมลงแล้วหลังจากช่วงกระแสความนิยมประมาณหนึ่งทศวรรษได้ผ่านพ้นไป แต่ตอนนั้นผมได้ฟังเพลง pop ทั้งไทยและเทศมาเยอะแล้ว และเริ่มรู้สึกเบื่อเพลงพวกนี้มาก ก็เลยหันไปฟังพวก hard rock / heavy metal ตามสถานีวิทยุ โดยเฉพาะรายการเพลง Top Teen Talent แล้วก็ไปจบลงที่ prog ในที่สุดครับ

[panyarak]

ในฐานะคนรุ่นเก่า ฟัง hard rock มาก่อน พอปี 1979 เพื่อนร่วมชั้น ก็นำเทป Yes - Going for the One มาให้ฟังแล้วติดใจ ก็หาซื้อเทปอื่นๆ รวมทั้งอัดเทปจากร้านแผ่นเสียงทั้งที่โรงแรมอินทรา ร้านมิวสิควัน ร้านเร็กซ์ ร้านไม่มีชื่อแถวสี่พระยา กับหัวถนนสีลม แล้วก็ติดตามคอลัมน์ของคุณพัณณาศิสฯ ในสตาร์พิคส์ รวมทั้งหาหนังสือต่างประเทศมาอ่านครับ

[Analog Kid]

2 ปัจจัยหลัก

1. เทปพีค็อค และ 4 Track และ เทปผียี่ห้ออื่นๆ
2. คอลัมน์ของคุณพัณณาศิสฯ

[akayutaka]

จริงๆ ผมร้างลาพวก Progressive และ Hard Rock ไปพอสมควร
เนื่องจาก Source ของผมส่วนใหญ่ที่เป็นเทปขนกลับบ้านไปหมดเกลี้ยง ตั้งแต่เรียนจบ
หลังๆ เลยหนักไปทางแจ็สกับพวกอินดี้เสียเป็นส่วนใหญ่

สมัยตอนเรียนก็บ้ากันอยู่สองคนกับเพื่อนที่เรียนด้วยกัน ตอนนี้ไปเป็นเสี่ยอยู่ยโสธรแล้ว อิอิ
เคยเห็นแว็บๆในเว็บนี้เมื่อปีก่อนมั้งครับ

[panyarak]

สมัยตอนเรียนก็บ้ากันอยู่สองคนกับเพื่อนที่เรียนด้วยกัน ตอนนี้ไปเป็นเสี่ยอยู่ยโสธรแล้ว อิอิ
เคยเห็นแว็บๆในเว็บนี้เมื่อปีก่อนมั้งครับ

ชื่อคุณเสกสิทธิ์ หรือเปล่าครับ

[akayutaka]

ใช่ครับเรหรือเสกสิทธิ์ นั่นละครับ

[.. polotoon ..]

ใช่ครับเรหรือเสกสิทธิ์ นั่นละครับ

ไม่ค่อยเข้ามาคุยเลยนะครับ คุณ raylee 

[bomb]

เริ่มที่ Dream Theater เมื่อปี 1997 ครับ ช่วงนั้น DT ออกอัลบัม Falling into Infinity พอดี ตอนนั้นประทับใจ Trial of Tear มาก เพลงนี้ถือว่าเป็นหนึ่งไม่กี่เพลงของ DT นะครับที่ John Myung เป็นคนเขียนเนื้อเพลง

อัลบัมนี้อาจจะเอาใจตลาดไปหน่อย แต่ก็ถือว่าช่วยต่อยอดให้ผมเดินทางไปหาอัลบัมชุดพระกาฬอย่าง Images and Words ครับ

[ท่านผีเพลง]

จริงๆ ผมร้างลาพวก Progressive และ Hard Rock ไปพอสมควร
เนื่องจาก Source ของผมส่วนใหญ่ที่เป็นเทปขนกลับบ้านไปหมดเกลี้ยง ตั้งแต่เรียนจบ
หลังๆ เลยหนักไปทางแจ็สกับพวกอินดี้เสียเป็นส่วนใหญ่

สมัยตอนเรียนก็บ้ากันอยู่สองคนกับเพื่อนที่เรียนด้วยกัน ตอนนี้ไปเป็นเสี่ยอยู่ยโสธรแล้ว อิอิ
เคยเห็นแว็บๆในเว็บนี้เมื่อปีก่อนมั้งครับ

ไม่น่าเชื่อนะครับ ว่ากี่ยุค กี่สมัย "คนไทย"ที่ทำอะไรนอกกระแส มักมีอยู่ไม่กี่คน
แล้วมักถูกมองว่าเป็นคนแปลกๆ ไม่ก็ว่า"บ้า"

สมัยผม ทั้งโรงเรียน ฟังกันอยู่3คน จากพันกว่าคน
(แต่ก็ทำให้ทุกคนในร.ร. จำเราได้นะ ตอนงานรวมรุ่น )

เอ..ผมก็ถือว่าเป็นนักฟังเพลงรุ่นใหม่ ได้นะครับ
เพราะเลิกฟังเพลงโปรกและเฮฟวี่เมทัล "ปลอมๆ" ไปหลายปีทีเดียว (โดนหลอกมากๆ เลยเข็ดครับ)
กลับมาสนใจแนวนี้อีกรอบ เพราะรุ่นน้องเอาวงBurzum มาให้ฟังครับ

Burzum - Det Som Engang Var [1993]
ชุดนี้ อาจจะไม่ใช่ดีที่สุด แต่ทำให้ผมเข้าใจว่า ดนตรีโปรก สาขาบรรยากาศ(แอมเบี้ยนท์) มันมีอิทธิพลเพียงไร ต่อนักดนตรีรุ่นใหม่ ที่อยากจะทำดนตรี"ใหม่ๆ" หรือ"นอกกระแส" ไม่ว่าพวกเขาจะเล่นเพลงแนวอะไรเป็นหลักก็ตาม
เพราะความคิดสร้างสรรค์ (Creative) มันแยกไม่ออกจากความก้าวหน้า (Progressive) นั่นเอง

สรุป ผมหันมาฟังเพลง Progressive อีกรอบ เพราะวงนี้ครับ 

[.. polotoon ..]

ถ้านักฟังรุ่นใหม่ หมายถึงการกลับมาฟังใหม่ ผมขอถูกรวมไว้ด้วยคนครับ ผมได้กลับมาฟัง Prog อีกครั้งก็เพราะเว็บนี้ และที่ช่วยต่อลมหายใจในการฟัง Prog ออกไป ก็บบรดา Prog จากประเทศอื่นๆที่เมื่อก่อนไม่ได้ฟังมากนัก แต่เพิ่งมารู้จักที่นี่ โดยเฉพาะ Italian Prog ปัจจุบันนี้ การได้ฟังงานจากศิลปินที่เคยรู้จักแล้ว แม้จะชอบอยู่ แต่ก็ไม่ดึงดูดความสนใจได้เท่า วงโนเนมที่ไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อน 

[akayutaka]

จริงๆ ผมร้างลาพวก Progressive และ Hard Rock ไปพอสมควร
เนื่องจาก Source ของผมส่วนใหญ่ที่เป็นเทปขนกลับบ้านไปหมดเกลี้ยง ตั้งแต่เรียนจบ
หลังๆ เลยหนักไปทางแจ็สกับพวกอินดี้เสียเป็นส่วนใหญ่

สมัยตอนเรียนก็บ้ากันอยู่สองคนกับเพื่อนที่เรียนด้วยกัน ตอนนี้ไปเป็นเสี่ยอยู่ยโสธรแล้ว อิอิ
เคยเห็นแว็บๆในเว็บนี้เมื่อปีก่อนมั้งครับ

ไม่น่าเชื่อนะครับ ว่ากี่ยุค กี่สมัย "คนไทย"ที่ทำอะไรนอกกระแส มักมีอยู่ไม่กี่คน
แล้วมักถูกมองว่าเป็นคนแปลกๆ ไม่ก็ว่า"บ้า"

สมัยผม ทั้งโรงเรียน ฟังกันอยู่3คน จากพันกว่าคน
(แต่ก็ทำให้ทุกคนในร.ร. จำเราได้นะ ตอนงานรวมรุ่น )

เอ..ผมก็ถือว่าเป็นนักฟังเพลงรุ่นใหม่ ได้นะครับ
เพราะเลิกฟังเพลงโปรกและเฮฟวี่เมทัล "ปลอมๆ" ไปหลายปีทีเดียว (โดนหลอกมากๆ เลยเข็ดครับ)
กลับมาสนใจแนวนี้อีกรอบ เพราะรุ่นน้องเอาวงBurzum มาให้ฟังครับ

Burzum - Det Som Engang Var [1993]
ชุดนี้ อาจจะไม่ใช่ดีที่สุด แต่ทำให้ผมเข้าใจว่า ดนตรีโปรก สาขาบรรยากาศ(แอมเบี้ยนท์) มันมีอิทธิพลเพียงไร ต่อนักดนตรีรุ่นใหม่ ที่อยากจะทำดนตรี"ใหม่ๆ" หรือ"นอกกระแส" ไม่ว่าพวกเขาจะเล่นเพลงแนวอะไรเป็นหลักก็ตาม
เพราะความคิดสร้างสรรค์ (Creative) มันแยกไม่ออกจากความก้าวหน้า (Progressive) นั่นเอง

สรุป ผมหันมาฟังเพลง Progressive อีกรอบ เพราะวงนี้ครับ 

บ้า ในบริบทของผมคงหมายถึง คลั่งใคล้ หรือ Crazy มากกว่าจะเป็น Mad น่ะครับ 555

แต่เผมห็นด้วยเลยน่ะครับว่าผมกลับมาติดตามฟัง Prog อีกครั้งเว็บนี้ก็มีส่วนเหมือนกัน
ดูจากกระทู้ต่างๆ ผมว่าเว็บนี้สมาชิกส่วนใหญ่ฟังเพลงค่อนข้างกว้างขวางและหลากหลายนะครับ

ในส่วนตัวผม ดนตรี Prog มีส่วนอย่างมากในการสร้างประสบการณ์การฟังเพลงที่หลากหลาย
และช่วยให้ผมรับมือกับดนตรีในสายอื่นๆ ที่มาสนใจในภายหลังได้มากพอสมควร
โดยเฉพาะพวกเอาท์ๆ ทั้งหลาย ทั้งพวก AVG Free Jazz Minimal

คิดว่าบอร์ดนี้แฟนแจ๊สคงมีอยู่พอสมควร เดี่ยวผมจะมีช่วยตั้งกระทู้ครับ หาพวกสักหน่อย อิอิ

[ไอแอมตองสาม]

"Kongbei" .... 

[Layla F Mulder]

"Kongbei" .... 

วงนี้สุดยอดจริงๆ ครับ มาคอนเฟิร์มเลย แต่ฟังยากนิดนึงนะ ไม่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นเท่าไหร่

[kerenski_t]

ส่วนตัวผมเริ่มมาจากพี่ชายเปิดThe end (The door) ให้ฟัง แล้วก็เลยโยงมาหา Syd Barrett ทำให้รู้จัก Pink Floyd,
และแล้วความรักที่มีต่อ Progressive ก็เกิดขึ้นเมื่อพบ MV ANOTHER BRICK IN THE WALL (PART TWO) ในรายการบันเทิงคดีของพี่มาโนช

[Not.Now.John]

ไปนั่งคุยกับอาจารย์  กีรติ กนิษฐายน
เรื่องเพลง power metal(ช่วงนั้นเพิ่งเข้าโรงเรียนไปได้ 2-3วัน )
คุยเรื่อง dragonforce helloween slipknot queen เยอะแยะ 
ถามอาจารย์มีวงใดที่อาจารย์โปรดปรานเป็นพิเศษหรือเปล่า
อาจารย์ตอบมาว่า yes  ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นbrit pop
วันรุ่งขึ้น อาจารย์ยื่นแผ่นmp yesมาให้  เย็นวันนั้นเป็นวันแรกที่ได้รู้จักกับprogressive จากเพลง heart of sunriseครับ