. . . จบข่าว . . .
น่่าเสียดายครับ แล้วค่อยลุ้นกันใหม่ปีหน้า
ถ้าได้ คิงเคนนี่ กลับมา แทนราฟา ผมว่าน่าจะดีนะครับ
อันนี้ก็ไม่ค่อยจะแน่ใจนะคะ คิงเคนนี่ โดดเด่นมากในฐานะคนทำทีม แต่เวลามันผ่านไปเป็นสิบๆ ปี รูปแบบการเล่นเทคนิคต่างๆ ก้าวหน้าไปมาก จนไม่ค่อยมั่นใจว่า พี่แกจะทำได้เยี่ยมเหมือนเดิมรึเปล่า
เคนนี่ ดัลกลิชแกเด่นเกมรุกครับ เพราะฉะนั้นสักสิบ-ยี่สิบปีก่อนใครทำทีมที่เกมรุกดีก็จะกวาดเเชมป์มากมาย เพราะเมื่อก่อนทีมเล็กทีมรองไม่อุดกันให้เสียศักดิ์ศรี
แต่สมัยนี้ทีมใหญ่เจอทีมเล็ก ทีมเล็กจะเล่นอยู่แบบเดียวเลยคืออุดๆๆๆๆๆๆๆๆ ทิ้งกองหน้าไว้หนึ่งตัวแล้วสวนกลับ กองหลังได้บอลแล้วสวนตูมเดียวไปลุ้นกันข้างหน้า
ทีมใหญ่ต้องชวนทะเลาะจนเหนื่อย บางทีเหนื่อยไป หมดแรง โดนสอยปลายคางร่วงมานักต่อนักแล้ว
กุนซือสมัยนี้จึงต้องบ้าแท็คติคเป็นพิเศษ และถ้าสังเกตุให้ดี พวกที่ประสบความสำเร็จในชีวิตกุนซือมักไม่ใช่นักเตะที่เก่งหรือประสบความสำเร็จ ไม่ใช่ผู้เล่นในแนวรุกด้วย อาจเป็นเพราะกุนซือที่เป็นดาวยิงมาก่อนไม่เข้าใจเกมรับหรือระบบการเล่นโดยรวมก็เป็นได้ครับ
คิดดูแล้วกันตอนสมัยผมดูบอลใหม่ๆ 4-4-2 คือระบบที่แพร่หลายที่สุด แต่ฟุตบอลปัจจุบันมันอะไรกันก็ไม่รู้แล้ว กลายเป็น 4-5-1 ,4-3-3, 4-2-3-1, 3-1-2-1-3, 5-2-1-2 ฯลฯ
ไม่แปลกใจเลยที่นักเตะเทพๆบางคนจะไม่เข้าใจแทคติคของผู้จัดการทีมจนเล่นผิดระบบ
คุณเพชรหมายถึงพวกสโมสรในอังกฤษหรือเปล่า ผมว่าที่ไม่เล่นอุดเพราะไม่ถนัดมากกว่า
เมื่อก่อนอังเกฤษเล่นบอลแบบเร่งเกมส์ เวลาตั้งรับก็จะเข้าแย่งบอลกองหน้าฝ่ายตรงข้าม
เวลารุกก็อาศัยโยนยาวแล้ววิ่งไล่ ใช้ได้ดีกับทีมที่อ่อนกว่า เจอทีมที่เทคนิคดีๆก็โดนดักกินหมด
อังกฤษถึงไม่ค่อยประสพความสำเร็จในระดับโลก
ปัจจุบันทุกทีมในโลกนี้เล่นบอลสไตล์เดียวกันหมดแล้ว แตกต่างกันตรงรายละเอียดที่โค้ชแต่ละคน
นำมาใช้ รวมถึงความสามารถเฉพาะตัวของนักบอล
แม้บอลสมัยนี้จะดูสนุกก็จริง แต่เป็นที่น่าเสียดายที่จะไม่ได้เห็นสไตล์เฉพาะของแต่ละทีม เช่น
ลูกเล่นและลีลาอันแพรวพราวของแซมบ้าบราซิล บอลที่มีระเบียบเล่นตามระบบของเยอรมัน
บอลตีหัวเข้าบ้านของอิตาลี