ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ
|
|
« ตอบ #75 เมื่อ: 02 กันยายน 2011 | 10:47:56 PM » |
|
อัลบั้มหลุดมาแล้วนะจ๊ะ ลองลาวโดดมาฟังกันได้เลย
โอยยย ไม่ไหวแล้วครับ ฟังแล้วโคตรหลงรักเลย นี่ขนาดยังไม่ถึงครึ่งอัลบั้ม กลิ่นอายของ Genesis, King Crimson หรือแม้แต่ Uriah Heep ก็ฟุ้งไปหมดแล้ว ชอบมากกกกกครับ อยากตั้งกระทู้ประชันอัลบั้มใหม่ระหว่าง DT กับ Opeth ยังไงไม่รู้ว่าครับ งานนี้อยากรู้วงไหนมีพัฒนาไปไกลกว่ากันจริงๆ ผมว่าเทียบกันไม่ไ่ด้หรอกครับ มันดีไปคนละแบบอย่างสิ้นเชิง ของ DT นั้นไม่มีอะไรแปลกใหม่เลย แต่มันมีดีที่ความลงตัวน่าฟังกว่าเดิม ส่วน Opeth ก็มีดีในแง่ของการย้อนสู่รากเหง้ายุค 70's ที่ทำออกมาได้ดีครับ อีกอย่างนึงคือ DT ชุดใหม่นี่มีแต่ความติดหูเต็มไปหมด แต่ Opeth น่ะแทบไม่ติดหูเลยครับ แต่ไม่ใช่หมายความว่าไม่ดีนะครับ มันดีมากเลยแหละ เพราะเวลาฟังแบบยาวๆทั้งอัลบั้มแล้วมันไหลลื่นต่อกันดีมากเหมือนเป็นเพลงเดียวกันเลยครับ ฟังไปได้เพลินๆ ก็จบอัลบั้มโดยไม่รู้ตัวเสียแล้ว
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02 กันยายน 2011 | 10:52:24 PM โดย 1 i 1 i v m »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ
|
|
« ตอบ #76 เมื่อ: 03 กันยายน 2011 | 12:49:44 AM » |
|
รายการของคีย์บอร์ดที่ Per Wiberg ใช้ในอัลบั้ม Heritage มีดังนี้ครับ... Hammond B3, Mellotron, Fender Rhodes, Wurlitzer, Grand Piano (มีแต่ของชอบพี่บาสทั้งนั้น ยกเว้น Grand Piano )
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03 กันยายน 2011 | 12:51:18 AM โดย 1 i 1 i v m »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
TRON
|
|
« ตอบ #77 เมื่อ: 03 กันยายน 2011 | 10:25:48 AM » |
|
ตอนนี้ฟังถึงเพลงที่สี่ทั้ง I Feel The Dark, Slither ฟีลเดียวกับ Watershed เลย ดีใจและถูกใจมากๆ ถ้าฟังจบอัลบั้มแล้วโทนและโครงสร้างดนตรีแบบนี้ก็มีลุ้นว่า Heritage จะมาท้าอันดับหนึ่งอัลบั้มยอดเยี่ยมที่สุดของ Opeth สำหรับผมจาก Watershed ได้ครับ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03 กันยายน 2011 | 10:31:33 AM โดย TRON »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ
|
|
« ตอบ #78 เมื่อ: 03 กันยายน 2011 | 10:30:28 AM » |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03 กันยายน 2011 | 10:38:08 AM โดย 1 i 1 i v m »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
TRON
|
|
« ตอบ #79 เมื่อ: 03 กันยายน 2011 | 10:38:07 AM » |
|
ตอนนี้ที่ผมรู้สึกก็คือดนตรีทุกช่วงวินาทีของอัลบั้มนี้มันน่าค้นหามากๆ แต่ละเพลงแต่ละช่วงมีการสลับสับเปลี่ยนภาคดนตรีไปมาได้อย่างสุดยอดและหลากหลายจริงๆ ภาคดนตรีและโครงสร้างเพลงแบบนี้แหละที่เราสามารถฟังเป็นร้อยๆครั้งโดยไม่มีวันเบื่อเพราะมันมีรายละเอียดให้เราเก็บไปเรื่อยๆ แต่แน่นอนครับว่าต้องอาศัยการฟังที่ใช้สมาธิสักนิดไม่ใช่เปิดฟังเรื่อยๆไม่งั้นเราจะจับรายละเอียดและอารมณ์ไม่ได้
อย่างนี้แหละครับที่ผมเรียก Progressive Rock แท้ๆเลย
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03 กันยายน 2011 | 10:50:55 AM โดย TRON »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
TRON
|
|
« ตอบ #80 เมื่อ: 03 กันยายน 2011 | 10:43:07 AM » |
|
โซโลกีตาร์ไฟฟ้าเบาๆช่วงท้ายก็ไม่ใ่ช่ย่อยนะครับ แค่สั้นๆแต่ก็ทำให้เพลงปิดท้ายได้อย่างสมบูรณ์ได้เลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ
|
|
« ตอบ #81 เมื่อ: 03 กันยายน 2011 | 10:54:07 AM » |
|
อัลบั้มยังไม่ทันออกเป็นทางการเลย แต่ตอนนี้ใน progarchives ได้คะแนนไปแล้ว 4.40 ครับ เยอะที่สุดเท่าที่วงเคยได้มาเลย ต้องดูว่าในอนาคตจะมีเพิ่มมีลดอีกสักเท่าไร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
TRON
|
|
« ตอบ #82 เมื่อ: 03 กันยายน 2011 | 10:56:41 AM » |
|
ภาคกลอง The Lines In My Hand โดยเฉพาะตอนท้ายนี่ฟังแล้วนึกว่ามือกลองเล่นสายฟิวชั่นแจ๊สมาก่อน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
TRON
|
|
« ตอบ #83 เมื่อ: 03 กันยายน 2011 | 11:01:24 AM » |
|
ฟังถึงเพลงนี้แล้วครับ คือแบบว่า...... เพลงนี้สุดยอดมากครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
TRON
|
|
« ตอบ #84 เมื่อ: 03 กันยายน 2011 | 11:07:56 AM » |
|
ตอนนี้ผมฟังจบรอบแรกแล้วครับ ผมมั่นใจว่าผมไม่ได้ลำเอียงหรือคิดไปเอง อัลบั้มใหม่ของ Opeth มันยอดเยี่ยมเหนือคำบรรยายครับ ดีเหนือที่คาดไว้เสียอีก ใครชอบ Watershed รับรองไม่ผิดหวังหรืออาจลืม Watershed ไปชั่วขณะเลยด้วยซ้ำ ถึงแม้จะไม่มีเพลงเมโลดี้สวยๆอย่าง Burden (ซึ่งผมไม่ได้คาดหวังไว้อยู่แล้ว เพราะไม่ได้เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับผมเลย) แต่ความเป็น progressive และการเีรียบเรียงดนตรีอันเหนือชั้นไม่เป็นรอง Watershed เลย ใครชอบ Watershed แต่ไม่ชอบเสียงร้องแบบเดธก็สมใจแน่นอน เป็นอัลบั้มที่ผมฟังครั้งแรกก็หลงรักในทุกวินาทีเลย นานๆผมจะเจออัลบั้มแบบนี้ซักที แฮปปี้มากๆครับ ขอตัวไปฟังอีกซักสิบรอบ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03 กันยายน 2011 | 11:18:47 AM โดย TRON »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ
|
|
« ตอบ #85 เมื่อ: 03 กันยายน 2011 | 11:09:52 AM » |
|
ตอนนี้คิดไว้ว่าจะรีวิวอัลบั้มนี้ลงหนังสือ Into the Pit ไปก่อน แต่ถ้าได้ซีดีและดีวีดีมาเมื่อไร ผมจะเขียน Article เกี่ยวกับอัลบั้มนี้แบบเจาะลึกทุกซอกทุกมุมให้ได้อ่านกันนะครับ เพราะตอนนี้ค่อนข้างมั่นใจแล้วว่า Heritage จะเป็น Album of the Year ของผมแน่นอน
ป.ล. ส่วนนี่คือคำ "อวย" ของ Metal Hammer นิตยสารที่กดคะแนนมากๆหัวหนึ่ง แต่สำหรับ Opeth เขาให้ 9/10 ครับ
Heritage is no mere prog record, it's a progressive vision of metal's limitless possibilities when placed in the hands of our generation's greatest musicians, and it's an absolute masterpiece' - Metal Hammer UK (Issue 222 Sept 2011)
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03 กันยายน 2011 | 11:17:34 AM โดย 1 i 1 i v m »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
TRON
|
|
« ตอบ #86 เมื่อ: 03 กันยายน 2011 | 11:20:40 AM » |
|
Heritage is no mere prog record, it's a progressive vision of metal's limitless possibilities when placed in the hands of our generation's greatest musicians, and it's an absolute masterpiece' - Metal Hammer UK (Issue 222 Sept 2011)
ชอบคำนี้ครับ Absolute Masterpiece มันใช่เลย ไม่ต้องรอให้กาลเวลาผ่านไปเพื่อพิสูจน์ อัลบั้มยังไม่วางขายด้วยซ้ำ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Layla F Mulder
|
|
« ตอบ #87 เมื่อ: 03 กันยายน 2011 | 12:38:04 PM » |
|
รายการของคีย์บอร์ดที่ Per Wiberg ใช้ในอัลบั้ม Heritage มีดังนี้ครับ... Hammond B3, Mellotron, Fender Rhodes, Wurlitzer, Grand Piano (มีแต่ของชอบพี่บาสทั้งนั้น ยกเว้น Grand Piano ) ต้องบอกว่าจริงๆ ชอบหมดครับ ส่วน Grand Piano ผมเคยกระแนะกระแหนเอาไว้เพราะว่า มันมักเป็นเครื่องดนตรีที่คนส่วนใหญ่มองว่าเป็นตัวแทนของความหรูหรา ไฮโซ และรสนิยม คนไหนที่เล่นเปียโนอคูสติกจะมองว่ามันเท่ห์เหลือกัน ทั้งที่จริงๆ แล้วมีเครื่องดนตรีประเภทคีย์บอร์ดอื่นๆ อีกมากมายที่น่าสนใจครับ ของแต่ละอย่างที่ Per Wiberg ใช้ บ่งบอกถึงรสนิยมและความชื่นชอบต่อดนตรียุค 60's -70's ของเขาได้เป็นอย่างดีครับ น่าเสียดายที่หลังจากนี้เขาจะไม่อยู่กับวงแล้ว อัลบั้มใหม่ยังฟังไม่ครบครับ กำลังอยู่ในช่วงการย่อย ต้องบอกว่า ภาคดนตรีมีรายละเอียดน่าสนใจมากๆ ซาวน์และกลิ่นก็ดูเป็น Prog 70's จ๋าๆ มาเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่โดดเด่นมาก และทางวงไม่เคยทำแบบเต็มรูปแบบอย่างนี้มาก่อน อัลบั้มนี้ ย่อยยากพอสมควรครับ เมโลดี้ไม่โดดเด่นมากนัก (อย่างที่พี่สิทธิ์เทียบกับ Burden จะชัดเจนมาก) เห็นด้วยเลยครับว่าต้องใช้เวลา และสมาธิในการฟัง ไม่ใช่ฟังผ่านๆ ไป จำไม่สามารถรับรายละเอียดของดนตรีได้เต็มที่นัก และจะไม่ติดหูด้วย แต่ข้อดีของมันคือจะเป็นอัลบั้มที่ฟังได้นาน และน่าค้นหาอยู่เสมอ Opeth เดินมาถูกทางแล้วครับ พวกเขาพาเราเดินเข้ามาลึกเรื่อยๆ พาเราเข้าไปในดินแดนที่เต็มไปด้วยความละมุนละไม รายละเอียดซับซ้อน ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นทิศทางที่ตรงกันข้ามกับ DT ในขณะนี้ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ
|
|
« ตอบ #88 เมื่อ: 03 กันยายน 2011 | 01:27:40 PM » |
|
ของแต่ละอย่างที่ Per Wiberg ใช้ บ่งบอกถึงรสนิยมและความชื่นชอบต่อดนตรียุค 60's -70's ของเขาได้เป็นอย่างดีครับ น่าเสียดายที่หลังจากนี้เขาจะไม่อยู่กับวงแล้ว ผมว่าตรงนี้ไม่น่ามีปัญหานะครับ เพราะจริงๆผมกลับคิดว่าเป็น Mikael Akerfeldt เองซะอีกที่ต้องการให้ Per ใช้คีย์บอร์ดพวกนี้ ซึ่งมือคีย์บอร์ดใหม่ที่จะเข้ามาเล่นก็ต้องเล่นคีย์บอร์ดพวกนี้ได้เช่นกัน จึงไม่แปลกใจที่ตอนนี้เขาเลือกดึง Joakim Svalberg ที่เคยเล่นให้ Glen Hughes มาขัดตาทัพอยู่ ณ เวลานี้ครับ (แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเล่นถาวรเลยรึเปล่า)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ
|
|
« ตอบ #89 เมื่อ: 03 กันยายน 2011 | 01:42:36 PM » |
|
ตอนนี้ จุดติที่ผมเห็นในอัลบั้มนี้คือการเฟดจบของเพลง Folklore ซึ่งผมเสียดายมากๆ น่าจะลากต่อให้ยาวกว่านี้ ท่อนนั้นมันเพราะมากเลยจริงๆครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|