ต่อไป »

[ท่านผีเพลง]

Rainbow
สายรุ้งสกาวสุกใส
"วงดนตรีที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครกล้าเหมือน"


ถ้าคำพังเพยของไทยที่ว่า "เขียนด้วยมือ ลบด้วยเท้า" จะยกให้ใคร ก็คงไม่พ้น วงดนตรีวงนี้แน่นอน
และผู้ที่ต้องรับผิดชอบทั้งหมด ก็ต้องไม่พ้น ริชชี่ แบล็คมอร์ แต่เพียงผู้เดียว


และที่ว่า ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครกล้าเหมือน เพราะอะไรล่ะ  
แน่นอนว่า..
ทุกคนคงจะคาดเดาได้ไม่ยาก ว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ดีซักเท่าไหร่  

ก็วงดนตรีบ้าอะไร ช่างใช้บุคลากร และทรัพยากรบุคคล มากมายเสียเหลือเกิน (เอ่อ.. มันต่างกันตรงไหนง่ะ)

ทั้งๆที่มีStudio albums แค่ 8 ชุด

1. Ritchie Blackmore's Rainbow
2. Rising
3. Long Live Rock 'n' Roll
4. Down to Earth
5. Difficult to Cure
6. Straight Between the Eyes
7. Bent out of Shape
8. Stranger in Us All

แต่แม่เจ้า..
ใช้นักดนตรีไป 22 คน (นี่ยังไม่รวมตัวแกเองนะครัฟ)
มาลองแยกประเภทดูกัน (ขอบคุณวิกกี้.คอม)

1. นักร้อง 4 คน
· Ronnie James Dio (ลาออก-แนวทางขัดแย้ง)
· Graham Bonnet (ถูกไล่ออก-ไอ้ขี้เมา)
· Joe Lynn Turner (ยุบวง 1984)
· Doogie White

2. มือเบส 6 คน
Craig Gruber (ถูกไล่ออก-เล่นกระตุกๆ ฟั๊งกี้มากไป)
· Jimmy Bain (ถูกไล่ออก-ฝีมือไม่เข้าขั้น)
· Mark Clarke (ถูกไล่ออก-ฝีมือไม่ถึง)
· Bob Daisley (ถูกไล่ออกอย่างไร้เหตุผล)
· Roger Glover (ยุบวง 1984)
· Greg Smith

3. มือกลองอีก 6 คน
Gary Driscoll (ถูกไล่ออก-เล่นเนิบมากไป)
· Cozy Powell (ลาออก-แนวทางขัดแย้ง)
· Bobby Rondinelli (ถูกไล่ออก-เล่นไม่เข้าตาเจ๊แก)
· Chuck Burgi (ยุบวง 1984)
· John O'Reilly (ไม่มีข้อมูล)
· John Miceli ·

4. มือคีย์บอร์ดไม่น้อยหน้า 6 คน
· Micky Lee Soule (ไล่ออกอย่างไร้เหตุผล)
· Tony Carey (ไล่ออก-ฝีมือไม่ถึงใจเจ๊) <-- ที่จริงเพราะอิจฉา (ข้อมูลเพิ่มเติมคุณpanyarak)
· David Stone (ไล่ออกอย่างไร้เหตุผล)
· Don Airey (ลาออก-แนวทางขัดแย้ง)
· David Rosenthal (ยุบวง 1984)
· Paul Morris

(ถ้าอยากดูแบบละเอียด เชิญที่วิกกี้นะครับ)

สุดท้ายน้าแก ก็ไล่ตัวเองออกจากวงจนได้ เมื่อไม่มีใครให้ไล่ออกแล้ว
ต้องไปรับเชิญแกมจ้าง ที่วงเก่า ม่วงเข้ม

แล้ววงนี้มันดีเด่นตรงไหนล่ะ เออ..

อืมม์ พูดตรงๆนะครับ ถ้าเพลงอะไร ที่มันยังแว่วมาในหัวผมอยู่เกิน 20ปี นี่ถือว่า มันต้องมีความพิเศษแน่นอน
ไม่ทางใดก็ทางนึง
ไม่ดีมาก ก็เลวมาก  

วงสายรุ้ง มีเพลงที่โคด-ตะ-ระ ฮิตในเมืองไทย คือเพลง The Temple of the King ซึ่งพวกฝรั่งไม่ฮิต เพราะรสนิยมเทียบเทียมพวกเราไม่ได้ ฮิฮิ

อันที่จริงอัลบั้มแรกของพวกเขา มีเพลงดีๆหลายเพลง แต่ดนตรียังไม่ค่อยหนักแน่นถึงใจนัก

Ritchie Blackmore's Rainbow


ซึ่งต่างจากชุดที่สองมากมาย
Rising


โดยเฉพาะเพลงโชว์ของอย่าง Stargazer ที่พูดได้เต็มปากว่า ยังไม่มี (หรือไม่เคยเจอ) ว่าจะมีใครที่ไหน เล่น"สด" ได้ดีเท่าในแผ่นสตูดิโอ ไม่ว่าจะเป็นวงRainbow เอง หรือวงรุ่นใหม่อย่าง Dream Theater ก็ตาม

เพลงนี้ถือว่าแบล็คมอร์ทำดนตรีได้อลังการณ์ ปานเพลงซิมโฟนีของดนตรีคลาสสิคเลยทีเดียว  
(จากข้อมูลที่ได้ความอนุเคราะห์จากคุณpanyarak   ทราบว่า ยังมีอีกหลายเวอร์ชั่น)

อยากจะขอข้อมูลเพิ่มเติมหน่อยครับ
1. วงเก่าของ Ronnie James Dio ก่อนมาร่วมวงเรนโบว์ ที่ชื่อวง Elf น่าสนใจไหมครับ
2. มีชุดแสดงสด ชุดไหนแนะนำครับ - ยิ่งมีเพลง Stargazer ยิ่งดีครับ
3. เพลง The Temple of the King ของชาวไทย ทางวงเคยเล่นสดบ้างไหมเอ่ย

[KoOk_drum]

ข้อ1 ไม่เคยฟังเหมือนกันครับ ..

ข้อ2 ผมชอบชุด on stage ครับ คิดว่าน่าจะท๊อปฟอร์มที่สุดของวงแล้ว .. ส่วนถ้ามีStargazer รู้สึกว่าชุดLive in Germany จะมีเพลงนี้ครับ ..

ข้อ3 The Temple of the King เคยฟังและดูในyoutube เล่นในช่วงยุคทัวร์อัลบั้มStranger in Us All ครับ ..

[panyarak]

ขอตอบปัญหาก่อนครับ
1. ต้องนับถือป้าริทชี่ที่หูถึง ตาถึงที่ไปคว้า Ronnie James Dio จากวง Elf มาได้ แถมพ่วงนักดนตรีจาก Elf มาอีก 3 คน เพราะแนวดนตรีของ Elf นั้นเป็น hard rock ที่อ่อนปวกเปียก และไม่ได้ใช้ประโยชน์จากน้ำเสียงของ Dio เลย วง Elf น่าจะตั้งชื่อมาจาก Dio ที่ตัวเล็กศรีษะโตเหมือนคนแคระ
2. ชุดแสดงสดที่บันทึกเสียงได้ยอดเยี่ยมมากคือ On Stage เป็นบันทึกการแสดงสดจากปี 1976 แต่ขาดความสมบูรณ์แบบ เพราะมีการตัดเพลง Stargazer ที่ท่านผีฯ ชื่นชอบออก และท่อนโซโล่กลองที่อิงเพลงคลาสสิค 1812 Overture กลางเพลง Still I'm Sad ของ Cozy Powell ออกไป และเป็นการนำการแสดงสดจากหลายๆ ที่มายำรวมกัน หากต้องการซึมซาบกับฉบับสมบูรณ์ ต้องฟังจาก Live in Germany 1976 (แผ่นคู่) หรือ Live in Germany 1976: 30th Anniversary Box Set (6 แผ่น) ซึ่งฟังเพลง Stargazer จาก 2 ชุดนี้แล้วพอจะเข้าใจว่า ที่ป้าริทชี่สั่งตัดเพลง Stargazer ออกไปจาก On Stage เพราะท่อนอินโทรด้วยเสียงซินธ์ที่ยืดเยื้อและไม่เข้ากับเพลง ในขณะที่ Tony Carey โซโล่คีย์บอร์ดในท่อนกลางเพลง Still I'm Sad ได้อย่างน่าประทับใจ รวมทั้งการที่ Rainbow เล่นเพลงนี้สู้ในสตูดิโอไม่ได้


3. Rainbow เคยนำเพลง Temple of the King ออกแสดงสดในคอนเสิร์ตครั้งแรกๆ ของวง เล่นอยู่ไม่กี่ครั้งก็ตัดออกไป กลับมาเล่นอีกหนก็ตอนกลับมาฟอร์มวงใหม่ และออกทัวร์ในปี 1995 หลังจากนั้น ก็นำออกแสดงเป็นครั้งคราวในนาม Blackmore's Night ครับ

[เพชร วิปลาส]

แอบย่องไปฟัง Stargazer จาก Cozy Powell - Munich 1977 มาครับ
ไม่รู้ว่าใช่เวอร์ชันเดียวกันหรือเปล่าครับเห็นมีคำอธิบายประกอบว่า an early mix (from Cozy Powell's own collection) of Stargazer, off the Rainbow Rising album. It features an extended keyboard intro (cut from the final release) and a longer outro.

[panyarak]

แอบย่องไปฟัง Stargazer จาก Cozy Powell - Munich 1977 มาครับ
ไม่รู้ว่าใช่เวอร์ชันเดียวกันหรือเปล่าครับเห็นมีคำอธิบายประกอบว่า an early mix (from Cozy Powell's own collection) of Stargazer, off the Rainbow Rising album. It features an extended keyboard intro (cut from the final release) and a longer outro.

Stargazer ฉบับสตูดิโอ กับ On Stage และ Live in Germany ทั้ง 2 แบบ Tony Carey เล่นคีย์บอร์ด ถ้า Munich 1977 เป็น David Stone เล่นคีย์บอร์ดครับ



Stargazer แบบแสดงสดที่ยอดเยี่ยมที่สุดน่าจะอยู่ใน Monsters of Rock ซึ่งเป็นอัลบั้มรวมเพลงเด่นๆ จากคอนเสิร์ตนี้ ของ Rainbow มี 2 เพลงคือ Stargazer และ All Night Long คีย์บอร์ดโดย Don Airey กลองโดย Cozy Powell เบสโดย Roger Glover และ Graham Bonnet ร้องนำ ซึ่งร้องเพลง Stargazer ของ Dio ได้อย่างน่าประทับใจ อีกทั้งไม่มีอินโทรเสียงซินธ์ให้เสียอารมณ์ อัลบั้มนี้ยังไม่มีออกเป็นซีดีอย่างเป็นทางการครับ และบันทึกการแสดงสดจาก Monsters of Rock ฉบับวีดีโอที่มีครบทุกเพลง ก็มีแต่วีดีโอคุณภาพต่ำ

[panyarak]

ในการทัวร์ญี่ปุ่นครั้งสุดท้ายปี 1984 ก่อนยุบวงกลับไป reunion กับ Deep Purple ป้าริทชี่นำเพลงบรรเลง Difficult to Cure (Beethoven's Ninth) ออกแสดงด้วย ซึ่งตอนต้นเพลงก็เล่นเหมือนในสตูดิโอ แต่พอกลางเพลง อยู่ดีๆ ม่านดำหลังเวทีก็ถูกรูดเปิดออก เผยให้เห็นวง
ออเคสตราวงใหญ่ พร้อมกับเสียงกระหึ่มของเครื่องสาย ดูทีไรขนลุกทุกที บันทึกการแสดงสดนี้หาดูได้จาก DVD ชุด Ritchie Blackmore's Rainbow Live at Budokan, Tokyo ซึ่งภาพและเสียงไม่คมชัดนัก เนื่องจากแปลงมาจากวีดีโอ

[Analog Kid]

ชอบเพลง Stagazer มากๆด้วยครบครับ 

[ท่านผีเพลง]

ขอบคุณครับ

ต้องขอบอกก่อนนะครับว่า เพลง"เก็บดาว" นี่ยิ่งฟังชุดเครื่องเสียง ยิ่งทึ่ง มากกว่าจากหูฟังนะครับ แฮ่ม

Rainbow Live In Germany 1976

แบล็คมอร์โซโล่กีต้าร์คนเดียวล้วนๆ

ผมว่าแนวทางของเจ๊แบล็คมอร์ก็ชัดเจนดีนะครับ
คือเน้นซาวด์แบบยุคกลาง(Medieval) ซี่งเห็นชัดในวง Deep ยุคแรกๆ (Shades of Deep Purple+The Book of Taliesyn)

พอมาจับคู่กับดิโอ เลยออกแนว ดาบและเวทมนต์(Sword and Sorcerer)ไปเลย ก็เลยเข้มข้น มีพลังดีมาก ยิ่งผสมกับความบ้าเพลงคลาสสิค ร่วมกันระหว่างริชชี่ แบล็คมอร์และโคซี่ พาวเวล (แต่ทำไมออกเสียง โคซี่ โพเหวอะ) ยิ่งทำให้เพลงยุคนี้ อลังการงานสร้างจริงๆ

เสียดายที่โคซี่ พาวเวล อายุสั้นไปหน่อย 

[panyarak]

ขอกล่าวถึง Tony Carey ซึ่งเป็นมือคีย์บอร์ดของ Rainbow ตอนเล่นเพลง Stargazer ว่า เขาเป็นอดีตสมาชิก Rainbow ที่มีผลงานออกมามากที่สุด ไม่ต่ำกว่า 30 ชุด ทั้งอัลบั้มเพลงบรรเลงที่ไม่ระบุชื่อศิลปิน อัลบั้มเพลงร็อคในนามเขาเอง ซึ่งชุดที่คนไทยสมัยนั้นรู้จักดีคือ Some Tough City ที่มีเพลงฮิต A Fine, Fine Day และในนาม Planet P Project ซึ่งชุดแรกจะมีเนื้อหาไปทางนิยายวิทยาศาสตร์ และชุดที่ 2 ชื่อ Pink World ก็ออกไปทางนิยายวิทยาศาสตร์เช่นกัน และได้รับการยกย่องว่า มีคอนเซ็ปไม่แพ้ Pink Floyd - The Wall ทีเดียว



ส่วนสาเหตุที่ Tony Carey ออกจาก Rainbow เขาว่า เป็นเพราะป้าริทชี่รู้ว่า เขาแต่งเพลงเป็น จึงพยายามกีดกันไม่ให้เขามีบทบาทในวงมากนัก และชอบแกล้งเขาต่างๆ นานา จนมาถึงจุดแตกหักเมื่อป้าริทชี่เอากาวตราช้างทาขอบประตูห้องพัก จนเขาออกจากห้องไม่ได้ พอพังประตูออกจากห้องได้ เขาก็เก็บกระเป๋าเดินออกจากวงไปเลย อันเป็นที่มาของเพลง L.A. Connection จากอัลบั้ม Long Live Rock n Roll ตอนนี้ Tony Carey ร่วมกับ Joe Lynn Turner, Greg Smith, Bob Rondinelli และ JR Blackmore ลูกชายของป้าริทชี่ กำลังออกทัวร์ในนาม Over the Rainbow เล่นเพลงเก่าๆ ของ Rainbow อยู่ครับ

[kongbei]

ได้ฟัง The Temple of the King  เป็นเพลงแรกๆเลยครับ ซึ่งคิดว่าไม่น่าเป็นเพลงฮิตในเมืองฝรั่งเช่นกัน แต่คนไทยคงชอบแนวนี้

[.. polotoon ..]

ชอบผลงานของ Tony Carey มากครับ รวมทั้งกับ Planet P. ด้วย ชอบเสียงร้อง เสียงคีย์บอร์ดรวมทั้งลีลาการแต่งเพลงของเขา ใครตามฟังงานเดี่ยวของเขาจะพบว่า เขาเอา melody ใน A Fine, Fine Day ไปใช้ในหลายต่อหลายเพลงโดยแอบแฝงให้หวนระลึกถึงอยู่เสมอๆ บางครั้งก็นำมาเป็นท่อนเชื่อมต่อระหว่างเพลง เรียกได้ว่าใช้คุ้มจริงๆ 

[TRON]

ชอบผลงานของ Tony Carey มากครับ รวมทั้งกับ Planet P. ด้วย ชอบเสียงร้อง เสียงคีย์บอร์ดรวมทั้งลีลาการแต่งเพลงของเขา ใครตามฟังงานเดี่ยวของเขาจะพบว่า เขาเอา melody ใน A Fine, Fine Day ไปใช้ในหลายต่อหลายเพลงโดยแอบแฝงให้หวนระลึกถึงอยู่เสมอๆ บางครั้งก็นำมาเป็นท่อนเชื่อมต่อระหว่างเพลง เรียกได้ว่าใช้คุ้มจริงๆ 

ขนาดวง Uranium บ้านเราสมัยก่อนยังเอาไปใช้เลยครับ (ท่อนเมโลดี้คีย์บอร์ดของเพลง A Fine Fine Day) แต่ตัวเพลงจริงๆไม่ได้เข้ากันเลย ยังทู่ซี้จะเอาไปใช้ให้ได้ 

[ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ]

Rising คือสุดยอดอัลบั้มฮาร์ดร๊อคอันดับต้นๆในดวงใจของผมเลยครับ แต่แทร๊คโปรดที่สุดของผมประจำชุดนี้กลับเป็นเพลงจั่วหัวอัลบั้มอย่าง Tarot Woman แฮะ ถึงแม้ริฟฟ์และโซโล่ของน้าริชชี่ในเพลงนี้ไม่ไ่ด้โดดเด่นจนน่าทึ่งแต่ก็อร่อยมันส์ทุกเม็ดยังกะถั่วโก๋แก๋จริงๆ

[panyarak]

ขอกล่าวถึงอดีตมือคีย์บอร์ดของ Rainbow คนอื่นๆ บ้าง
Mickey Lee Soule เป็นมือคีย์บอร์ดคนแรกที่ป้าริทชี่ไปควักมาจากวง Elf ซึ่งเป็นวงเปิดให้ Deep Purple ในหลายโอกาส Mickey Lee Soule จึงมีควมมเชื่อมโยงกับ Deep Purple ค่อนข้างมาก เขาได้ร่วมงานในผลงานดี่ยวของ Roger Glover และ Ian Gillan และผันตัวเองเป็นคนตั้งเสียงคีย์บอร์ดให้ Deep Purple เวลาออกทัวร์

ก่อนที่ David Stone จะเข้าร่วมกับ Rainbow เขาเป็นมือคีย์บอร์ดของวง Symphonic Slam ซึ่งออกแนว prog และเป็นอัลบั้มแรกๆ ที่มีการใช้ guitar synth แต่หลังจากที่เขาร่วมงานกับ Rainbow แล้ว เขาหายไปจากวงการเลย



คนที่ active ไม่แพ้ Tony Carey คือ David Rosenthal เขาได้เล่นคีย์บอร์ดให้ Elton John, Billy Joel, Happy the Man, Dream Theatre - ผู้ตั้งโปรแกรมซินธ์ในชุด A Change of Season, Steve Vai, Whitesnake, Yngwie J Malmsteen โดยได้ร่วมงานกับอิงวี่ในชุด Inspiration เป็นชุดแรก และพัฒนาเป็นผู้แต่งสกอร์ทั้งหมดให้กับอัลบั้ม Concerto Suite for Electric Guitar and Orchestra เนื่องจากเขาจบการศึกษามาทางด้านดนตรีคลาสสิค และผุ้ควบคุมเสียงเวลาอิงวี่นำคอนแชร์โต้นี้ออกแสดงสด




นอกจากนี้ David Rosenthal ยังเป็นผู้ประพันธ์ดนตรีภาคคีย์บอร์ดให้ Movin' Out Musical (เกี่ยวกับเพลงของ Billy Joel) และแต่งเพลง Road to Babylon ซึ่งเป็นเพลงอินโทรใหม่ให้กับเพลง Gates of Babylon ของ Rainbow ที่วง Niji Densetsu (แปลว่า ตำนานแห่งสายรุ้ง) วง Rainbow Cover ของญี่ปุ่น ที่เล่นเพลง Rainbow ได้อย่างน่าประทับใจ



สำหรับ Don Airey น่าจะมีชื่อเสียงมากที่สุด นอกจากอัลบั้มเดี่ยว 2 ชุดแล้ว เขาก็เข้าออกวงต่างๆ เป็นว่าเล่น และมาลงเอยล่าสุดที่ Deep Purple ท่อนอินโทรด้วยคีย์บอร์ดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเขาน่าจะเป็นเพลง Mr. Crowley ของ Ozzy Osbourne
ส่วน Paul Morris นั้น ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนัก ก่อนเข้าร่วมกับ Rainbow เขาเล่นคีย์บอร์ดให้ Doro พอหลังจาก Rainbow ยุบวงเป็นครั้งสุดท้าย เขาก็ไปร่วมงานกับ Joe Lynn Turner และออกทัวร์กับน้กร้องเยอรมันชื่อ Nena ที่เคยมีเพลงฮิต 99 Luftballons

[panyarak]

ประเทศที่ Rainbow มีแฟนเพลงที่เหนียวแน่นที่สุดประเทศหนึ่งน่าจะเป็นญี่ปุ่น ภายหลังจากที่ Cozy Powell มือกลอง 2 กระเดื่องที่ฝึมือเยี่ยมที่สุด เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถแข่งในปี 1998 นักดนตรีร็อคจากญี่ปุ่นหลายคนได้รวมตัวกันออก tribute concert และ tribute album อุทิศให้ Cozy Powell เล่นทั้งเพลง Rainbow, Michael Schenker Group, Whitesnake, ELPowell, Black Sabbath



ส่วนที่เยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศที่มีบันทึกการแสดงสดของ Rainbow ออกมามากที่สุด มีออกมาชุดเดียว โดยวงเฉพาะกิจ Catch the Rainbow