ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
การค้นหาขั้นสูง

149656 กระทู้ ใน 4435 หัวข้อ- โดย 847 สมาชิก - สมาชิกล่าสุด: axlrose

18 เมษายน 2024 | 10:47:21 AM
Thai Progressive Rock CommunityThaiProgOutside The Wall10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
หน้า: 1 ... 5 6 [7]
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ  (อ่าน 102180 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
panyarak
The Snow Goose
**********
กระทู้: 9716



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #90 เมื่อ: 07 กันยายน 2012 | 01:32:29 PM »

เลือกยากจัง แล้วจะมาเติมให้เต็มต่อไปด้วยคนครับ
 

    ดีใจครับที่รสนิยมการฟังเพลงส่วนหนึ่งใกล้เคียงคุณปัญญรักษ์ (สะกดผิดตั้งหลายเพลง ผมไม่ค่อยเก่งอังกฤษน่ะครับ)
    going for the one , the turn of... , made in japan ผมก็ชอบมากครับ
    ตอนแรกคิดว่าคุณปัญญรักษ์จะชอบเพลงที่หนักๆ ฟังยากซะอีก


เพลงหนักๆ ก็ฟังครับ แต่ถ้าต้องเลือกแค่ 10 ชุด ก็ขอเลือกพวกนี้ก่อนครับ (เน้น 30 ปีขึ้นไป)

เอาเพลงหนักๆ บ้างครับ ส่วน Deep Purple ไม่เอ่ยซ้ำ เพราะถือว่าอยู่ในลิสต์แรกแล้ว
1. Wishbone Ash - Wishbone Four - เพราะเพลง Everybody Needs a Friend เพลงเดียว ทำให้ต้องขวนขวายหาทั้งอัลบั้มมาฟัง และก็หลงรักทั้งชุึดตั้งแต่นั้นมา
2. Rainbow - On Stage - ประทับใจทั้งระบบเสียงและการนำเสนอ แถมยังเป็น line up ที่เล่นแสดงสดได้ยอดเยี่ยมที่สุดของวง
3. Motorhead - Ironfist - เป็นอัลบั้มชุดแรกที่ได้ฟังและหลงรักทันที ทั้งๆ ที่คนอื่นเขาชื่นชอบชุึดก่อนหน้านี้กันหมด
4. UFO - Strangers in the Night - เลือกยากสำหรับวงนี้ ก็เลยลงเอยกับบันทึกการแสดงสดที่มีเพลงโปรดอยู่ทั้งอัลบั้ม
5. Black Sabbath - Heaven & Hell - ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ
6. Michael Schenker Group - same - เหมือนการเกิดใหม่ของ Michael Schenker ซึ่งตอนนั้น เป็นผลงานที่ทำให้มีความหวังว่า พวกสมาชิกที่แยกไปตั้งวงใหม่ จะทำให้ได้ฟังผลงานดีๆ แบบไม่ขาดสาย
7. Judas Priest - Defenders of the Faith - ชุดนี้ออกมาตอนเรียนปริญญาโทที่อเมริกา น่าจะเป็นผลงานที่หนักที่สุดที่่วิทยุในอเมริกาเปิดออกอากาศในช่วงนั้น แม้ Metallica ยังไม่มีสถานีร็อคเปิดออกอากาศเลย
8. Metallica - Ride the Lightning - ได้ฟังครั้งแรกพร้อมกับชุด Kill em all แต่ก็หลงรักชุึดนี้มากกว่าเล็กน้อย
9. Rainbow - Down to Earth - แม้ว่าจะชอบเสียงและสไตล์การร้องของ Ronnie James Dio แต่เสียงแผดร้องของ Graham Bonnet มันช่างถูกโฉลกกับหูเสียจนต้องตามเก็บผลงานของเขามาตลอดจนปัจจุบัน
10. Iron Maiden - Killers - ด้วยความที่ติดใจเสียงร้องของ Paul Di'anno มากกว่า Bruce Dickinson ที่หลายคนชื่นชอบ

ชุดที่น่าจะติดอันดับแต่จำใจต้องตัดออกไปก็มี Triumph - Just a Game, AC/DC - For Those about to Rock, Suzi Quatro - Rock Hard, Whitesnake - Ready 'an Willing, Gillan - Magic, Blue Oyster Cult - Cultosaurus Erectus, Thin Lizzy - Live & Dangerous, Quatermass - same, Aerosmith - Toys in the Attic, Scorpions - Taken by Force, Loudness - Live Loud Alive, Runaways - Queens of Noise, Uriah Heep - Sweet Freedom, Led Zeppelin - In Through the Out Door, Heart - Bebe Le Strange ฯลฯ

ขอแถมดัวยอัลบั้มเพลงบรรเลงที่ทรงอิทธิพลสำหรับผมมา 30 กว่าปีแล้วครับ
1. Brian Eno - On Land
2. Philip Glass - Glassworks
3. Jon Hassell - Fourth World Vol.1 - Possible Musics
4. Kitaro - Silk Road
5. Jean Michel Jarre - Equinoxe
6. Mike Oldfield - Ommadawn
7. Laraaji - Day of Radiance
8. Tangerine Dream - Encore
9. Vangelis - Antarctica
10. Sky - Sky2

ชุดที่ต้องตัดออกไปเพราะยังไม่เก่าพอก็มี Steve Hackett - Bay of Kings, Yngwie J Malmsteen - Concerto Suite for Electric Guitar & Orchestra in E Flat Minor Op 1, Rick Wakeman - Simply Acoustic
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 กันยายน 2012 | 04:38:28 PM โดย panyarak » บันทึกการเข้า

TRON
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 12866



ดูรายละเอียด
« ตอบ #91 เมื่อ: 07 กันยายน 2012 | 06:23:09 PM »

dire straits - brothers in arms (1985)   ฟังแล้วนึกถึงสมัยตอนที่เข้าเรียนมหาลัยใหม่ๆ เป็นเด็กดี ขี้อาย ขยันตั้งใจเรียน

จริงๆชุดนี้ผมก็เกือบจะให้ติด 1 ใน 10 เหมือนกันครับ เป็นแผ่นเสียงแผ่นแรกที่ซื้อและเป็นช่วงเริ่มเข้าวัยรุ่นมีความทรงจำทั้งดีและไม่ดีปนๆกันตามประสาในเวลานั้น
บันทึกการเข้า
ปีศาจลายคราม
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 14361


Reap What You Sow


ดูรายละเอียด
« ตอบ #92 เมื่อ: 02 ตุลาคม 2012 | 01:39:19 PM »

ผมเห็นกระทู้นี้นานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้เข้ามาตอบเสียที ด้วยคิดอยู่เป็นนาน (นับปี) ว่า อะไรหนอคืออัลบั้มเพลงฝรั่งที่ทรงอิทธิพลต่อชีวิตของเราที่สุด ครั้นพอเลือกไปเลือกมา (แบบรักพี่เสียดายน้อง) ตัดอัลบั้มอื่นทิ้งไปก็หลายชุด ในที่สุดก็ได้มาสิบชุดในลิสท์ตามกติกา ดังปรากฏข้างล่างนี้ เอาไว้ว่าง ๆ จะเข้ามาจาระไนรายละเอียดความมีอิทธิพลของแต่ละอัลบั้มดังกล่าวอีกที

ปีพ.ศ.ในวงเล็บคือปี (โดยประมาณ) ที่เริ่มรู้จักหรือซื้อผลงานชุดนั้น ๆ ครับ

1. Dschinghis Khan - Dschinghis Khan (2522)
2. Pictures at an Exhibition - Emerson Lake and Palmer (2524)
3. Turn of the Tide - Barclay James Harvest (2524)
4. Close to the Edge - Yes (2525)
5. Crises - Mike Oldfield (2526)
6. Ocean - Eloy (2530)
7. Renaissance - Turn of the Cards (2531)
8. IV - Toto (2534)
9. Days of Future Passed - The Moody Blues (2535)
10. Suspiria OST - Goblin (2545)


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04 ตุลาคม 2012 | 08:15:31 AM โดย ปีศาจลายคราม » บันทึกการเข้า
ปีศาจลายคราม
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 14361


Reap What You Sow


ดูรายละเอียด
« ตอบ #93 เมื่อ: 03 ตุลาคม 2012 | 03:33:48 PM »

อัลบั้มชุดแรกของ Dschinghis Khan วงดิสโก้พ็อพสัญชาติเยอรมัน ผมรู้จักเพลงต่าง ๆ ในอัลบั้มชุดนี้ ไม่ว่าจะเป็น Dschinghis Khan, Moskau, Samurai, Rockin' Son of Dschinghis Khan และอีกหลายต่อหลายเพลง จากการเปิดออกอากาศทางรายการเพลง "เดอะ มาร์มาเลด คลับ" โดยคุณอภิพันธ์ วงศ์ยฤทธิ์ (ไม่แน่ใจว่าสะกดชื่อของเขาถูกหรือเปล่า) ผู้จัดและดำเนินรายการ ทางคลื่นวิทยุเอเอ็ม 954 กิโลเฮิร์ตส ทหารอากาศ สะพานแดงบางซื่อ ซึ่งออกอากาศหลังรายการ "จิ๊กโก๋ยามบ่าย" ของคุณนฤชา เพ่งผล เมื่อปี 2522 ซึ่งในปีนั้นผมเรียนอยู่ชั้นป.6 และคลั่งไคล้การฟังเพลงสากลอย่างเหลือล้น เพลงสากลมีให้รับฟังตามสถานีวิทยุหลายช่อง แม้คลื่นเอเอ็มก็ยังมีรายการเพลงฝรั่งไม่แพ้เอฟเอ็ม ประกอบกับกระแสดนตรีดิสโก้ยังมาแรงอยู่ นอกจาก Boney M, ABBA, Tina Charles แล้ว ก็มี Dschinghis Khan นี่แหละที่แหวกตลาดเข้ามาแชร์ความดัง โดยแรกเริ่มที่คุณอภิพันธ์ได้นำแผ่นเสียงชุดนี้มาเปิดออกอากาศทางรายการ "เดอะ มาร์มาเลด คลับ" นั้น เขาได้พูดสำทับไว้ในตอนนั้นว่า "ท่านไม่ต้องไปหาซื้อแผ่นเสียงที่ไหน เพราะแผ่นไม่มีขายครับท่าน" ซึ่งในเบื้องต้นก็คงจะจริง เพราะไม่มีเพลงของ Dschinghis Khan เปิดออกอากาศในรายการวิทยุอื่นเลยนอกจากรายการของคุณอภิพันธ์เพียงรายการเดียว แต่ต่อมาเพลงของวงนี้ก็เริ่มฮิตและแพร่หลายไปตามสถานีวิทยุช่องอื่นเช่นกัน -- นี่พูดถึงเฉพาะช่องเอเอ็มเท่านั้นนะครับ -- เพลงจากอัลบั้มชุดนี้ไม่ว่าเพลงใดที่คุณอภิพันธ์นำมาเปิดให้ฟัง เป็นต้องโดนใจผมทั้งสิ้น ต่อมาผมได้เจียดเงินค่าขนมซื้อเทปอัลบั้มชุดนี้มา ซึ่งเป็นยี่ห้อ 4 Tracks ทั้ง ๆ ที่ยังไม่มีเครื่องเล่นเทปเลย หลังจากนั้นต่อมาอีกหลายปี ผมเรียนจบ มีงานมีการทำแล้ว และเริ่มเล่นแผ่นเสียง ในระหว่างนั้นเทปเพลง Dschinghis Khan คงได้อันตรธานหายไป ผมก็ลืมมันไปชั่วระยะหนึ่ง บังเอิญวันหนึ่งได้มีโอกาสไปคุ้ยกองแผ่นเสียงที่ร้านแห่งหนึ่งย่านหลังกระทรวงฯ เกิดฟลุคเจอแผ่นเสียงชุดนี้เข้า แถมยังเป็นแผ่น original ทำในเยอรมนีเสียด้วย จึงรีบจ่ายเงินและหนีบกลับบ้านอย่างมีความสุขด้วยรู้สึกเหมือนเจอเพื่อนเก่าอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้เจอหลายปี และครั้งนี้ตัวจริงมาเอง ไม่ใช่สำเนาหรือตัวแทน และทุกวันนี้ผมก็ยังเปิดอัลบั้มชุดนี้ฟังในบางครั้งที่เกิดอารมณ์ดิสโก้ แถมยังรู้สึกไพเราะทุกเพลงตั้งแต่เพลงแรกยันเพลงสุดท้ายเสียด้วย นี่คือเรื่องราวของอัลบั้มเพลงชุดแรกที่มีความผูกพันและอิทธิพลต่อการฟังเพลงของผมครับ

บันทึกการเข้า
ปีศาจลายคราม
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 14361


Reap What You Sow


ดูรายละเอียด
« ตอบ #94 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2012 | 09:14:01 AM »

หากจะว่าไปแล้ว อัลบั้มชุด Pictures at an Exhibition โดย Emerson Lake and Palmer (ELP) นั้น หาใช่เป็นผลงานสุดโปรดของผมไม่และคุณภาพของผลงานโดยรวมก็สู้ผลงานชุดอื่น ๆ บางชุดของพวกเขาไม่ได้ แต่อัลบั้มชุดนี้ก็มีอิทธิพลต่อชีวิตการฟังเพลงของผมอยู่ไม่น้อย เนื่องเพราะเป็นอัลบั้มชุดแรกของ ELP ที่ผมซื้อได้มา ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยฟังเพลงในอัลบั้มชุดนี้มาก่อนเลย ตอนนั้น (ประมาณปี 2524) ผมเริ่มรู้จัก ELP จากการที่ได้อ่านบทความตามนิตยสารเพลงต่าง ๆ ซึ่งชื่นชมวงนี้ว่าเป็นทริโอร็อคซูเปอร์แบนด์ในยุคนั้น และได้มีโอกาสฟังเพลงอย่าง Hoedown, C'est La Vie, Lucky Man ทางวิทยุ จึงเกิดความสนใจวงนี้ขึ้นมา ครั้นพอไปเดินซื้อเทป กลับได้ Pictures at an Exhibition มาเป็นชุดแรก และเท่าที่จำได้ ตอนนั้นเทปพีค็อกยังไม่ค่อยอัดผลงานของ ELP ออกขายตามแผงมากชุดนัก นอกจาก Pictures at an Exhibition และ Works I & II ส่วนยี่ห้อโฟร์แทร็คผมเห็นเพียงชุด The Best of... ซึ่งหน้าปกเป็นรูปพวกซามูไรญี่ปุ่นกำลังเล่นแผ่นเสียงอยู่ ดังนั้น Pictures at an Exhibition จึงถือเป็นประตูสู่การฟังผลงานชุดอื่น ๆ ของ ELP นอกจากนี้ยังนำผมไปสู่การฟังเพลงในแนวคลาสสิกอย่างได้ผลอีกด้วย ต่อมาเมื่อได้มีโอกาสได้ซื้อหาแผ่นเสียงมาเก็บไว้ ผมก็เก็บทั้งแผ่นตรา Cotillion ของอเมริกา, แผ่นญี่ปุ่น และแผ่นของ MFSL (แผ่นโมบายล์ฯ) ซึ่งในเวอร์ชั่นของ MFSL นี้ฟังแล้วรู้สึกว่าปลายเสียงมู้ก (moog) ทอดยาวสะท้านทรวงดีจริง ๆ ครับ

บันทึกการเข้า
eric camen
Three of a Perfect Pair
******
กระทู้: 1507


ดูรายละเอียด
« ตอบ #95 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2012 | 12:27:48 PM »

เพลงเปิดรายการ "จิ๊กโก๋ยามบ่าย" ชื่อเพลงอะไรครับ
บันทึกการเข้า
ปีศาจลายคราม
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 14361


Reap What You Sow


ดูรายละเอียด
« ตอบ #96 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2012 | 12:57:14 PM »

เพลงเปิดรายการ "จิ๊กโก๋ยามบ่าย" ชื่อเพลงอะไรครับ
ไม่รู้จักชื่อเพลง ๆ นั้นครับ แต่บางครั้งคุณนฤชาใช้เพลง Rain Forest ของ Biddu Orchestra เป็นจิงเกิ้ลทั้งเปิดและปิดรายการครับ
บันทึกการเข้า
ปีศาจลายคราม
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 14361


Reap What You Sow


ดูรายละเอียด
« ตอบ #97 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2012 | 01:13:20 PM »

ปัจจุบันคุณนฤชา เพ่งผล ยังจัดรายการวิทยุชุมชนอยู่ที่วิทยุทหารอากาศ สะพานแดง บางซื่อ ขอเชิญตามลิ้งค์นี้ได้เลย มีรูปปัจจุบันของเขาอยู่รูปหนึ่งด้วยครับ

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=729850
บันทึกการเข้า
ปีศาจลายคราม
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 14361


Reap What You Sow


ดูรายละเอียด
« ตอบ #98 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2013 | 01:04:25 PM »

อัลบั้มทรงอิทธิพลต่อชีวิตการฟังเพลงของผมลำดับที่สาม Turn of the Tide โดย Barclay James Harvest และเป็นผลงานชุดแรกของ BJH ที่ผมซื้อในชีวิต เพราะติดใจเพลง In Memory of the Martyrs ที่เปิดออกอากาศในรายการ Top Teen Talent ในช่วงปี 2524-2525 ผมจึงไปซื้อเทปพีค้อกมาฟัง ตอนนั้นไม่รู้หรอกครับว่าเพลงในเทปอัดสลับกันมั่วไปหมดไม่เหมือนการจัดวางลำดับเพลงในแผ่นเสียงต้นฉบับ แต่ผมก็ชอบแทบทุกเพลงในอัลบั้มชุดนี้ ซึ่งเป็นบันไดให้ผมต่อยอดไปหาผลงานอื่น ๆ ของ BJH มาฟังอย่างได้ผล จำได้ว่าตอนนั้นหลงใหลวงนี้เอามาก ๆ (ทุกวันนี้ก็ยังเป็นเช่นนั้นอยู่) เทปของวงนี้มีอยู่ในตลาดเท่าใดเป็นซื้อหมดโดยยอมอดออมค่าขนมรายวันเพื่อเอาไว้ซื้อเทปฟัง (ยังไม่มีปัญญาซื้อแผ่นเสียง เพราะเทปราคาม้วนละ 25-30 บาท ส่วนแผ่นเสียงราคาแผ่นละ 250-300 บาท) ถึงกับชวนเพื่อนสนิทคนหนึ่งให้ลองฟังผลงานของวงนี้ดู ซึ่งเขาก็ฟังและก็ชอบเหมือนผม แต่สำหรับงานสี่ชุดแรกซึ่งออกแนวไซคีเดลิกนั้น เขาบอกว่ารับไม่ได้ ดนตรีในชุด Turn of the Tide นั้นเป็นร็อคที่ละเมียดละไมในสไตล์ยุโรป (อังกฤษ) และเข้าถึงง่าย เพราะวงนี้เริ่มหันเหเข้าสู่ความเป็นพ็อพมากขึ้นในยุค 80's ที่สำคัญคือ ไม่มีสากเสี้ยนความเป็นอเมริกัน (บลูส์) ให้ระคายหู โดยมี How Do You Feel Now, Back To The Wall, Echoes and Shadows, I'm Like A Train, Live Is For Living และ In Memory of the Martyrs เป็นเพลงเด่นที่อยู่ในใจผมตลอดมา และเป็นอัลบั้มชุดหนึ่งของ BJH ที่ผมหยิบออกมาฟังมากที่สุดครับ

บันทึกการเข้า
ปีศาจลายคราม
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 14361


Reap What You Sow


ดูรายละเอียด
« ตอบ #99 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2013 | 12:37:40 PM »

อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลฯชุดที่ 4 ของผม ก่อนอื่นขอเรียนว่า สำหรับคนที่ฟัง progressive rock คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักอัลบั้ม Close To The Edge (1972) ของ Yes (ถ้าไม่รู้จักก็อย่าเรียกว่าตัวเองฟัง progressive rock) ผลงานชุดนี้ถือได้ว่าเป็นมาสเตอร์พีซชุดหนึ่งในโลกดนตรีโพรเกรสสีฟว์ซึ่งลงตัวในทุกองค์ประกอบและอุดมไปด้วยทั้งศาสตร์และพาณิชย์ศิลป์ ไล่เรียงตั้งแต่งานศิลป์หน้าปกยันไปถึงดนตรีที่บรรจุอยู่ในอัลบั้ม ตอนแรกผมไม่ทราบหรอกครับว่าเพลง And You And I อยู่ในอัลบั้มชุดนี้ แต่เคยฟังเพลงนี้จากอัลบั้มแสดงสด Yessongs ซึ่งเปิดออกอากาศในรายการวิทยุ Top Teen Talent เมื่อประมาณปี 2525 รู้สึกว่าเพลงนี้มันช่างซับซ้อน อลังการแต่แฝงไปด้วยความไพเราะเสียจริง ๆ ภาคคีย์บอร์ดของ Rick Wakeman ถ้าจะพูดไปก็ต้องบอกด้วยสำนวนสมัยนี้ว่าเข้าขั้น "มหาเทพ" เลยทีเดียว ผมเคยเห็นแผ่นเสียงชุดนี้วางขายอยู่ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว ราคาในตอนนั้น 300 บาท (แผ่นซีล) ก็ได้แต่เพียงหยิบมาลูบ ๆ คลำ ๆ ดู แต่ไม่มีปัญญาซื้อ เพราะนอกจากยังไม่มีเครื่องเล่นแผ่นเสียงแล้ว ผมได้เงินค่าขนมไปโรงเรียนแค่วันละ 20 บาทเท่านั้นเอง ต่อมาผมได้เทปคาสเสทของ Four Tracks มาฟัง แต่หน้าปกเทปไม่ใช่พื้นสีเขียว เพราะเขาเล่นเอาภาพกลางปกที่เป็นรูปน้ำตกในจินตนาการมาทำเป็นปกเทปคาสเสทแทน (เทปผีก็มักเป็นเช่นนี้แล) และอีกต่อมาเพื่อนคนหนึ่งที่เรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันได้ยืมคาสเสทชุดนี้ไปฟังแล้วเอามาส่งคืนผมพร้อมบอกว่า "สำเนียงกลองซับซ้อนเป็นบ้า แกะโน้ตเพื่อหัดตีตามยากมาก" (อ้าวเพื่อน ก็มันไม่ใช่ร็อคตลาดนี่เว้ยเฮ้ย แลบลิ้น) สรุป ผมขึ้นครูกับ Close To The Edge เลย แล้วจึงค่อยหาผลงานอื่น ๆ ของ Yes มาฟังอีกในภายหลัง พอเรียนจบมีงานทำและมีปัญญาหาแผ่นเสียงมาเก็บ ผมก็เก็บมันซ้ำ ๆ ซะหลายก็อปปี้ให้สมอยากสมแค้นไปเลย อ้อ มีแผ่นที่ออกโดย MFSL ด้วยนะครับ ตอนนั้นเมื่อประมาณปี 2545 ผมได้แผ่นนี้มาจากร้านขายแผ่นเสียงแห่งหนึ่งที่ฟอร์จูนทาวน์ ราคาพันกว่าบาท สภาพขั้นเทพ แต่เมื่อไม่นานมานี้เห็นแผ่นนี้วางขายอยู่ในอีเบย์ ราคาสามร้อยกว่ายูโร แลบลิ้น ไข้แทบจับเลยครับ

บันทึกการเข้า
Pho
In The Court Of The Crimson King
*
เพศ: ชาย
กระทู้: 14


visitgak@hotmail.com
ดูรายละเอียด
« ตอบ #100 เมื่อ: 21 มกราคม 2015 | 11:34:37 PM »

ขอเรียงตามความชอบนะครับ พึ่งฟังเพลงไม่นานครับ แต่ละอัลบั้มก็ไล่ๆกันครับสัก3-4ปี ยกเว้นซิลลี่ฟูล อันนี้ฟังตั้งแต่เด็กครับสัก10ปีได้

10.slayer - reign in blood


9.silly fools - juicy


8.metallica - and justice for all


7.pantera - far beyond driven


6.pantera - vulgar display of power


5.the beatles - abbey road


4.tool - aenima


3.rage against the machine - rage against the machine


2.metallica - master of puppets


1.tool - lateralus








« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 มกราคม 2015 | 11:37:48 PM โดย Pho » บันทึกการเข้า

ปีศาจลายคราม
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 14361


Reap What You Sow


ดูรายละเอียด
« ตอบ #101 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2016 | 04:26:15 PM »

อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลฯลำดับที่ห้าของผม ก่อนอื่นต้องขอเรียนว่าผมรู้จักอัลบั้มชุด Crises (1983) เพราะเพลง Moonlight Shadow และรู้จักชื่อ Mike Oldfield เป็นครั้งแรกก็เพราะอัลบั้มชุด Crises (รู้จักก่อน Tubular Bells I เสียอีก) ผลงานของ Mike Oldfield ก่อนหน้า Crises เป็นอย่างไร มีกี่ชุด ตอนนั้นผมยังไม่ทราบ แต่ความรู้สึกตอนที่ได้ฟังชุด Crises นี่ ลงความเห็นได้เลยว่ามันคือ electronic progressive ที่เล่นได้ยอดเยี่ยม แม้ครึ่งหนึ่งของอัลบั้มจะเป็นเพลงตลาด แต่ก็เป็นเพลงตลาดที่มีคุณภาพและให้ "อะไร" มากกว่าเพลงตลาดทั่วไป พอฟังชุด Crises จนปรุแล้วก็ต่อด้วย Discovery (1984) ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับเป็นอัลบั้มฝาแฝดกับ Crises แล้วเขยิบไปอัลบั้มคู่รวมเพลงที่ออกในปีต่อมา (1985) คือ The Complete Mike Oldfield ได้ฟังพวกเพลงคัดย่อ excerps ทั้งหลายแล้วรู้สึกไม่สะใจ จึงต้องย้อนไปหาอัลบั้มเต็มมาฟัง ไล่ตั้งแต่ Tubular Bells (1973) เรื่อยมาจนถึงชุด Earth Moving (1989) ตอนนั้นผมเริ่มรู้สึกว่า Mike Oldfield ชักจะแย่แล้ว แต่ในฐานะศิลปินในดวงใจ ผมยังแอบเชียร์เขาอยู่ ดูเหมือนเขากู้หน้าคืนได้จากผลงานชุด Amarok ก่อนจะย้ายสังกัด ถ้าจะว่ากันจริง ๆ แล้ว ผลงานที่มีคุณภาพที่สุดของ Mike Oldfield จะมีแค่ถึงอัลบั้มคู่แสดงสด Exposed เท่านั้นครับ

เครดิตภาพ www.progarchives.com

บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 5 6 [7]
พิมพ์
กระโดดไป:  

ThaiProg.net Ver 4.0 by tisanai,Shineon,kongbei
Top 10 Best Sellers in Kindle eBooks Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers In Automotive Parts And Accessories Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers in Tools and Home Improvement Under $10, Reviewer 2016
Top 10 Best Sellers in Clothing for 2017 Top 10 Best Sellers in Clothing Best Sellers in Clothing
Top 10 Best Sellers in Books reviewer 2017 Top 10 Best Sellers in Books Best Sellers in Books
Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Reviewer 2017 Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Best Sellers In Grocery