ต่อไป »

[ปีศาจลายคราม]

ถึงวันนี้อยากรู้ครับว่าใครเปลี่ยนเครื่องเล่นซีดีไปบ้างแล้ว  ส่วนตัวผมยังคงใช้เครื่องเล่นซีดีตัวเก่าอยู่แล้วคงไม่คิดจะเปลี่ยนแล้ว

Denon DCD-2560 GL ตัวนี้ของผมอยู่ในประจำการมาแล้วเป็นปีที่ 14 (ซื้อต่อมาจากเพื่อน) ถึงไม่ใช่ไฮเอนด์แต่ก็ไม่ธรรมดา และเสียงดีจนผมไม่คิดจะเปลี่ยนครับ

ข้างเครื่องเป็นไม้ปะกบอยู่ใช่ไหมรุ่นนี้ รู้สึกเคยฟังเสียงเหมือนกันสภาพเครื่องเล่นซีดีของพี่ปีศาจฯ ยังดูใหม่อยู่สงสัยรักษาดี

ใช่ครับ ด้านข้างเป็นกรอบไม้มันวาวทีเดียวและน้ำหนักมากเอาเรื่องเลยล่ะครับ รู้สึกว่าจะหนักกว่าแอมป์ Roksan ของผมเสียอีก

[ปีศาจลายคราม]

ขอยืมภาพแทนมาให้ดูช่องที่มีฝาปิดด้านล่างเครื่อง ซึ่งพอเปิดออกจะมีปุ่มฟังก์ชั่นเต็มไปหมดเลยครับ

[อั๋น501]

ขอยืมภาพแทนมาให้ดูช่องที่มีฝาปิดด้านล่างเครื่อง ซึ่งพอเปิดออกจะมีปุ่มฟังก์ชั่นเต็มไปหมดเลยครับ

จำไม่ได้ว่ามีช่องสัญญาณ XLR (บาลานซ์) ด้วยใช่ไหมครับ(เห็นจากรูปหลังเครื่อง)

[ปีศาจลายคราม]

ขอยืมภาพแทนมาให้ดูช่องที่มีฝาปิดด้านล่างเครื่อง ซึ่งพอเปิดออกจะมีปุ่มฟังก์ชั่นเต็มไปหมดเลยครับ

จำไม่ได้ว่ามีช่องสัญญาณ XLR (บาลานซ์) ด้วยใช่ไหมครับ(เห็นจากรูปหลังเครื่อง)

ใช่ครับ ซีดีรุ่นนี้มีช่องบาลานซ์เอาท์พุทให้มาหนึ่งชุดด้วย แต่ผมไม่เคยใช้เลยครับ

[ปีศาจลายคราม]

ลองสังเกตบั้นท้ายเครื่องซีดีนะฮะ
สายไฟเค้าต่อติดตายมาเลย ถอดเปลี่ยนเพื่ออัพเกรดไม่ได้
เครื่องระดับนี้ (หรือแม้แต่ระดับราคาต่ำกว่า) ถ้าเป็นสมัยนี้ก็ให้ถอดเปลี่ยนสายไฟเอ/ซีได้แล้ว
ผ่านไปแค่สิบกว่าปี
จำนวนคนบ้าสายไฟเอ/ซีมีสูงกว่าแต่ก่อนอย่างเห็นได้ชัดจริง ๆ ฮะ

[ท่านผีเพลง]

เรื่องของเรื่อง ก็เพราะสายมันเก่าไง
พอเปลี่ยนสายไฟรุ่นใหม่ๆ เข้าไป กลับได้พื้นเสียงสงัดขึ้น
เลยตื่นเต้นกันใหญ่

ต้องเอาไป"เจาะท้าย" เปลี่ยนเป็นเต้าเสียบ 3ขา กันสนุกสนานเลย
ซึ่งเสียงก็เปลื่ยนจริงๆนะครัฟ ผมก็ฟังออก แต่ไม่ตื่นเต้น เพราะไม่มีตังค์ (ฮาฮะ)

[ปีศาจลายคราม]

เรื่องของเรื่อง ก็เพราะสายมันเก่าไง
พอเปลี่ยนสายไฟรุ่นใหม่ๆ เข้าไป กลับได้พื้นเสียงสงัดขึ้น
เลยตื่นเต้นกันใหญ่

ต้องเอาไป"เจาะท้าย" เปลี่ยนเป็นเต้าเสียบ 3ขา กันสนุกสนานเลย
ซึ่งเสียงก็เปลื่ยนจริงๆนะครัฟ ผมก็ฟังออก แต่ไม่ตื่นเต้น เพราะไม่มีตังค์ (ฮาฮะ)

บ้านผมยังใช้ปลั๊กสองขาอยู่เลย
เปลี่ยนสายไฟให้เครื่องไปก็เท่านั้น
แปะเอี่ย -- ไม่เห็นผลหรอกฮะ
ลงทุนเดินสายไฟใหม่ทั้งบ้านก็คงหลายหมื่น
ฮาไม่ลงฮะ

[ปีศาจลายคราม]

ขออนุญาตอัพเดท ปัจจุบันผมใช้เครื่องเล่นซีดี Audiolab 8200CD
ถึงแม้จะเล่นแผ่นเสียงเป็นส่วนใหญ่ แต่แผ่นซีดีก็ยังมีเก็บไว้จำนวนหนึ่ง เป็นแผ่นนอก ของแท้ ของดี และของหายากทั้งนั้น ก็จำเป็นต้องมีเครื่องไว้ให้เล่นสิครับ 555

[ปีศาจลายคราม]

ดิจิตอลหรือจะสู้อนาล็อก?
เครื่องเล่นซีดีของผม ซื้อใหม่แกะกล่อง ซื้อทีหลังเครื่องเล่นแผ่นเสียงด้วยซ้ำ (ซื้อห่างกันปีกว่า ๆ) ใช้ฟังเพลงไปได้ไม่กี่ครั้ง ยังไม่ทันพ้นระยะ burn in เมื่อไม่นานมานี้ กะว่าจะเล่นซะหน่อย พอกดปุ่ม Power เท่านั้น ไฟไม่ติด เครื่องไม่ทำงาน ต้องส่งเข้าศูนย์ ในขณะที่เครื่องเล่นแผ่นเสียงยังหมุนทำงานเป็นปกติ ไม่เคยเสีย ไม่เคยเข้าศูนย์ ยิ่งเล่น เสียงยิ่งดีวันดีคืนครับ

[ปีศาจลายคราม]

เครื่องเล่นซีดีเครื่องแรกในชีวิตของผมคือ Philips CD624 ราคาเท่าไหร่ผมจำไม่ได้แล้ว แต่จำได้ว่าราคาไม่แพง เพราะตอนนั้นผมยังไม่ค่อยมีทุนเล่นเครื่องเสียง เพราะเพิ่งเข้าทำงานใหม่ ๆ หลังจากเรียนจบ ที่สำคัญคือเครื่องทำในเบลเยี่ยม ไม่ใช่ชื่อฝรั่งแต่ Made in China ดังที่หลายยี่ห้อส่วนใหญ่ทำกันอยู่ทุกวันนี้โดยอ้างว่าเพื่อลดต้นทุนการผลิตเรื่องค่าแรง จะได้ขายในราคาที่เหมาะสมได้ ผมไม่ได้ดูถูกสินค้าที่ผลิตในจีนหรอกนะครับ เพราะทุกวันนี้มาตรฐานและฝีมือการผลิตของจีนไปไกลแล้ว แต่ทว่าภาพลักษณ์ในอดีตมันยังฝังใจอยู่ เพื่อนผมคนหนึ่งซื้อแอมป์หลอดของจีนมาเล่น พอจะขายทิ้ง ขายยากมาก ประกาศขายเป็นปียังไม่มีคนซื้อเลย ผมนึกถึงเครื่องเล่นซีดีสมัยที่มันยังบูมอยู่ เอาสักก่อนปี 2540 ก็แล้วกัน หลายยี่ห้อยังมีทำในยุโรป อเมริกา หรือญี่ปุ่น อย่าง NAD หรือ Marantz สมัยนั้นก็ทำในญี่ปุ่น และค่อนข้างทนทาน และผมไม่ทราบเป็นอะไร เหมือนดวงชะตาไม่ถูกกับเครื่องเล่นซีดี แม้เครื่องเล่นซีดีนั้นจะใหม่ก็ตาม พอใช้ไปได้สักพัก เครื่องเสีย ใช้งานไม่ได้ ที่ยังไม่ได้เอาไปซ่อมก็ยังมีอยู่เลย ผิดกับเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ไม่เคยซ่อม จะมีก็แต่เปลี่ยนสายพานเท่านั้นครับ

เครดิตภาพ www.bangkokaudio.com

[ปีศาจลายคราม]

ใช้ของแพง ราคาเป็นหลักหมื่น เล่นได้ไม่เท่าไหร่ ไม่รักดี ใช้การไม่ได้ รอส่งซ่อม (ขี้เกียจเอาไปซ่อมด้วย) คราวนี้ลองใช้ของราคาถูก (ไม่ถึงหมื่น) ดูบ้างครับ Denon DCD-520AE

[ปีศาจลายคราม]

ไม่ทราบมีใครคิดเหมือนผมบ้างหรือเปล่า... เทคโนโลยีดิจิทัลมีข้อดีอย่างหนึ่งคือ ยิ่งพัฒนา ยิ่งก้าวหน้า ยิ่งแพร่หลาย ยิ่งราคาถูกลง ยกตัวอย่างเครื่องเล่นซีดีประสิทธิภาพสูงระดับมิดเอนด์ถึงไฮเอนด์ ถ้าสัก 15-20 ปีก่อน ราคาก็คงจะแพงถึงแพงมาก เช่น เครื่องเล่นซีดี 24 bit รุ่นสูงหรือรุ่นท็อปของ Denon และนั่นคือเทคโนโลยีของเมื่อ 15-20 ปีก่อน เมื่อเวลาผ่านไป เทคโนโลยีดิจิทัลไม่ได้หยุดยั้งในการพัฒนา เมื่อมันสามารถพัฒนาไปไกลกว่าเทคโนโลยีเดิมเมื่อ 15-20 ปีก่อน และสามารถทำเป็น mass products ซึ่งผลิตเป็นจำนวนมากได้ ผู้บริโภคก็จะได้ใช้สินค้าที่มีราคาถูกลงและมีประสิทธิภาพสูงกว่าเครื่องยุคเก่า อย่างเครื่องเล่นซีดี Denon DCD-520AE ที่ผมได้มาในราคาไม่ถึงหมื่น (มีทอนหลายพัน) ผมว่าสุ้มเสียงดีใช้ได้เลยเมื่อแรกที่ออกจากกล่อง ผมว่าเผลอ ๆ รุ่น DCD-2560 GL ที่ผมกำลังส่งซ่อมอยู่อาจกินมันไม่ลงด้วยซ้ำ ทั้งที่ราคาแพงกว่า DCD-520AE มากมาย (ราคาหลายหมื่นเมื่อราวปี 2537) เทคโนโลยีดิจิทัล ยิ่งพัฒนา ประสิทธิภาพยิ่งสูงขึ้น และถ้าทำเป็น mass marketing ได้ ผู้บริโภคจะได้กำไร เพราะจะได้ใช้ของที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นในราคาที่ถูกลงครับ

[ปีศาจลายคราม]

ไม่ทราบใครรู้จักช่างหรือร้านซ่อมซีดีที่มีฝีมือบ้างครับ? เครื่องเล่นซีดีของผมขัดข้อง สงสัยหัวอ่านจะเสื่อม ไม่ยอมอ่านแผ่น โทรไปติดต่อที่ศูนย์หรือ authorized distributor ของเครื่องยี่ห้อนี้ เขาเพียงแต่บอกว่าไม่รับ service เครื่องรุ่นเก่าของผมแล้ว รับเฉพาะเครื่องรุ่นใหม่ ๆ เท่านั้น แต่ผมเชื่อว่าอะไหล่ไม่น่าจะหายาก เพราะเคยเป็นรุ่นดังของวงการมาก่อน ใครทราบช่วยแจ้งข้อมูลด้วยนะครับ ขอบคุณ

[ปีศาจลายคราม]

แต่ก่อนมีเครื่องเล่นซีดีเพียงเครื่องเดียวอยู่ในชุดเครื่องเสียง แต่พอมาถึงตอนนี้ผมมีเครื่องเล่นซีดี 4 เครื่อง ต่างยี่ห้อต่างรุ่นกัน นึกอยากฟังเครื่องไหนก็ยกขึ้น rack และเปลี่ยนเอาตัวเก่าลงมา - จบ - ง่ายนิดเดียวครับ (เราน่าจะคิดได้ตั้งนานแล้วนะว่าควรจะมีเครื่องสำรองไว้ 555 )

[ปีศาจลายคราม]

เครื่องเล่นซีดีที่ปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ ไม่ได้เล่น พอมาเปิดเล่นอีกทีก็รวนแล้ว เสียแล้ว ต้องส่งซ่อม (หาเรื่องเสียเงินโดยไม่รู้ตัว) มันก็เหมือนคนที่ไม่ได้ออกกำลังกายแล้วป่วยเป็นโรคนั้นโรคนี้ ผมจึงจำเป็นต้องพยายามเล่นซีดีสลับกับแผ่นเสียงบ้าง ให้มัน balance กัน เครื่องซีดีจะได้ไม่พังง่ายไงครับ 555