ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
การค้นหาขั้นสูง

149669 กระทู้ ใน 4435 หัวข้อ- โดย 847 สมาชิก - สมาชิกล่าสุด: axlrose

26 เมษายน 2024 | 06:14:33 PM
หน้า: 1 [2]
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: Best Albums of 2011 !  (อ่าน 13832 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
.. polotoon ..
The Snow Goose
**********
กระทู้: 18602



ดูรายละเอียด
« ตอบ #15 เมื่อ: 19 ธันวาคม 2011 | 10:13:05 AM »

คุณ undeath ฟังเพลง ชวนให้ death อีกแล้ว ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า

Fog
Blade Runner
*******
เพศ: ชาย
กระทู้: 2071



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #16 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2011 | 09:01:23 PM »

1. Devin Townsend Project – Deconstruction/Ghost
เนื่องจากปีนี้พี่เหม่งเดวินออกถึงสองอัลบั้มในคราวเดียวกัน และถือเป็นสองชุดสุดท้ายในซีรี่ส์ DTP ที่มีแนวทางแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว โดย Deconstruction นั้นจะเป็นโปรเกรสสีฟเมทัลที่สุดแสนจะบ้าพลังโดยมีออร์เคสตร้านับร้อยคอย หนุนหลัง ส่วน Ghost ก็จะเน้นแอมเบียนท์ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย แต่ก็ไม่วายที่จะสอดแทรกความเป็นอะคูสติกไว้ด้วย ทั้งสองชุดนี้จะทำให้พี่เหม่งดูเป็น Perfectionist ไปในบัดดล ด้วยความที่ไม่แกจะทำอะไรหรือร่วมงานกับใคร แกก็เต็มที่กับงานนั้นมาก บวกกับพลังสร้างสรรค์ที่เปี่ยมล้น ฉะนั้นคำว่า “อัจฉริยะ” จึงน่าจะเหมาะกับแกดี

2. Opeth – Heritage
อัลบั้มนี้แม้จะฟังไม่บ่อยเท่าอัลบั้มอื่นๆในลิสต์ แต่ยิ่งฟังก็ยิ่งให้ความรู้สึกกลมกล่อม และงานชุดนี้ก็เป็นสัญญาณสู่การเดินทางครั้งใหม่ที่เกิดจากความหลงไหลใน ดนตรีย้อนยุคของไมเคล โอเกอร์เฟลต์ รวมถึงการเลิกสำรอกโดยถาวรของเขา แม้สิ่งนี้อาจจะสร้างความผิดหวังให้แกแฟนเก่าๆที่ชอบการสำรอกของเขามาแต่ เดิม รวมถึงอิทธิพลจากยุค 70s ที่มีมากขึ้นในทุกอณูของดนตรี (ซึ่งเริ่มจะมีมาตั้งแต่ตอนทำ Watershed) คงน่าจะเรียกได้ว่าทางวงได้ทำให้ดนตรีในยุคนั้นให้กลับมามีความเข้มขลังขึ้น อีกครั้ง

3. Anthem – Heraldic Device
ความจริงผมรู้จักลุงๆกลุ่มนี้มาได้สักพักแล้ว (แม้จะช้าไปหลายปี) เนื่องจากลุงไอโซ ซาคาโมโตะซึ่งเป็นแกนนำของวงนั้นก็เป็นนักร้องนำของวงอนิเมในตำนานอย่าง Animetal ด้วย สิ่งที่ทำให้ประทับใจในอัลบั้มก็คือ ภาคดนตรีที่เร้าใจชนิดทางวงลืมความแก่กันไปเลย ด้วยดนตรีที่รวดเร็วและดุดันในแบบเพาเวอร์เมทัล ผสานกับฮาร์ดร็อคจากยุค 80s ในบางโอกาส และลุงไอโซก็ร้องได้ทรงพลังเหมือนเคย เพลงที่ผมชอบเป็นพิเศษในชุดนี้ก็เห็นจะเป็น Code of the Silence ซึ่งเป็นบรรเลงเพียงหนึ่งเดียวของอัลบั้ม ที่มีเมโลดี้ชวนฮึกเหิม และช่วงโซโลก็ทรงพลังไม่แพ้กัน พวกเขา “แก่แล้วแต่ยังไม่หมดไฟ” จริงๆ

4. Fleshgod Apocalypse – Agony
“Beauty & Brutality” (เท่านี้น่าจะพอแล้ว...)

5. Obscure Sphinx - Anaesthetic Inhalation Ritual
จากการค้นหาวงโพสร็อค/โพสเมทัลหน้าใหม่ๆตามเว็บ Bandcamp หรือตามแหล่งต่างๆที่ศิลปินเอาเพลงมาให้ฟังกันฟรีๆ (เนื่องด้วยในปีนี้ผมฟังแนวนี้ค่อนข้างมากเป็นพิเศษ) วงนี้ถือเป็นวงหนึ่งที่ทำงานออกมาได้ดีทีเดียว ด้วยสุ้มเสียงที่หนักแน่นบวกกับเมโลดี้ที่เรียบง่ายแต่ลงตัว รวมถึงนักร้องสาวที่สามารถร้องได้หลากหลายอารมณ์ โดยเธอคนนี้จะร้องเสียงสำรอกได้โดดเด่นเป็นพิเศษ ทำให้งานโดยรวมของทางวงนั้นมีความเกรี้ยวกราดมากขึ้น พวกเขาและเธอก็แทบจะทาบรัศมีวงรุ่นพี่ๆหลายๆวงได้เลยทีเดียว

6. Caroline – Verdugo Hills
ผมเห็นชื่อเธอครั้งแรกตอนที่เข้าไปดูในเว็บไซต์ของสังกัด Temporary Residence ซึ่งทีแรกก็ยังไม่เอะใจเท่าไหร่ แต่ภายหลังที่เห็นใบหน้าจริงๆก็ถึงกับอึ้งทันที เพราะหน้าตาของเธอออกไปทางเอเชียมากกว่าฝรั่งเสียอีก แถมพอมารู้ภายหลังว่าเป็นน้องสาวของโอลิเวีย ซึ่งเป็นนักร้องเจร็อคที่ดังมากอยู่ช่วงหนึ่ง ก็ยิ่งทำให้เกิดความสนใจในตัวเธอมากขึ้น นั่นก็รวมถึงงานดนตรีของเธอด้วย อัลบั้มนี้เป็นงานอิเลกโทรนิกปนอะคูสติกที่ไพเราะชวนเคลิ้ม แต่ก็แฝงไปด้วยความเหงาอยู่ในตัว และเสียงร้องที่เบาและนุ่มนวลของเธอก็ถือเป็นเสน่ห์อีกอย่างที่ขาดไม่ได้ เมื่อนำองค์ประกอบเหล่านี้มารวมกันจักทำให้เกิด “ความเหงาที่เพลิดเพลิน”

7. Dakota Suite – The Hearts of Empty/The North Green Down (with Emanuele Errante)
ช่วงนี้เป็นช่วงที่ผมแพ้เสียงเปียโนเป็นพิเศษ โดยเฉพาะงานเปียโนที่แฝงไปด้วยความเศร้าและเหงาอย่างเช่นที่วงนี้ได้ทำเอา ไว้ทั้งสองชุด โดย The Hearts… จะเน้นความเป็นแจ๊สที่เรียบง่ายแต่ยังอารมณ์เหงาๆอันเป็นเอกลักษณ์ ใช้เครื่องดนตรีเพียงไม่กี่ชิ้นก็สามารถสร้างความลงตัวได้ แต่ The North… จะแตกต่างกัน เพราะเป็นดนตรีคลาสสิกร่วมสมัยที่ให้อารมณ์ที่ดำดิ่งยิ่งกว่า โดยมีเพื่อนซี้อย่างเอมานูเอล เอร์รันเต มาร่วมงานด้วย งานชุดหลังนี้ทางวงก็ทำขึ้นมาเพื่อไว้อาลัยแก่น้องสะใภ้ของสมาชิกคนหนึ่งใน วงที่เสียชีวิตไป ดนตรีที่เหงาหงอยและดำดิ่งแบบนี้ถือเป็นของขวัญวันปวดใจสำหรับเรื่องราวที่ เกิดขึ้นกับผมในปลายปีนี้ด้วย

8. Kalafina – After Eden
หลังจากที่ได้รู้จักพวกเธอจากอัลบั้มก่อน (Red Moon) แถมยังติดใจเพลงของพวกเธออยู่หลายเพลงพอควร โดยเฉพาะ Hikari no Senritsu และ Lacrimosa (เพลงหลังเป็นเพลงจบจากอนิเมเรื่อง พ่อบ้านปิศาจ) ซึ่งชุดนั้นก็เน้นบรรยากาศแบบกอธิคอยู่พอควร แต่มาชุดนี้งานของพวกเธอแลจะสว่างไสวมากขึ้น รวมถึงเสียงร้องประสานก็มีความโดดเด่นและงดงามขึ้นด้วย ถ้าจะให้บรรยายอัลบั้มชุดนี้เพียงหนึ่งคำ ผมขอเรียกอัลบั้มว่า “เสียงสวรรค์”

9. Nujabes – Spiritual State
ไม่รู้ว่ามารู้จักยอดดีเจอย่างจุน เซบะ ช้าไปหรือเปล่า เพราะได้ฟังเพลงของเขาครั้งแรกจากอนิเมซามูไรยุคเอโดะอย่างซามูไรแชมป์ลู ที่นำเพลงที่มีบีทเรียบแต่หรูของจุนซังมาผสมกับเนื้อเรื่องได้อย่างกลมกลืน แต่เอาเข้าจริงๆ งานของเขาก็มีความเป็นทริปฮอพและแจ๊สอยู่มากพอสมควร โดยบางครั้งเขาก็จะนำแซมเปิ้ลจากศิลปินรุ่นเก่าๆ (โดยเฉพาะในสาขาคูลแจ๊ส) มาใส่ลงไปในเพลงด้วย สิ่งเหล่านี้จึงกลายเป็นเอกลักษณ์ที่หาได้ยาก ในหมู่ศิลปินฮิพฮอพด้วยกัน และงานชุดนี้ก็ให้ความรู้สึกที่ Spiritual สมชื่ออัลบั้ม แม้เขาจะเสียชีวิตไปตั้งแต่ปีก่อน เขาก็ยังทิ้งผลงานดีๆไว้ให้ฟังเป็นชุดสุดท้ายก่อนที่จะลาจากวงการเพลงไปตลอด กาล ขอให้ไปสู่สุคตินะครับ...จุนซัง...

10. Pat Metheny – What’s It All About
งวดนี้น้าแพทมาแบบเปลือยเปล่าสุดๆกับกีต้าร์โปร่งเพียงตัวเดียว (แต่อาจจะมีโชว์บรรเลงปิกัสโซกีต้าร์ด้วย) และแม้จะเป็นเพลงคัฟเวอร์ทั้งหมด แกก็สร้างอัตลักษณ์ในแต่ละเพลงได้อย่างดี โดยเฉพาะในเรื่องอารมณ์ที่ค่อนข้าง Abstract อันเด่นชัดอยู่พอสมควร ซึ่งน่าจะสังเกตได้ในบางเพลงอย่างเช่น The Girl from Ipanema ที่แต่เดิมเป็นบอสซาโนวา แต่เวอร์ในอัลบั้มนี้ค่อนข้างล่องลอยเอาการ อย่างไรก็ตาม งานชุดนี้ก็ถือเป็นอัลบั้มบรรเลงกีต้าร์ที่น่าฟังที่สุดอีกหนึ่งชุดเท่าที่ ได้ฟังมา

11. Explosions in the Sky – Take Care, Take Care, Take Care
งานชุดนี้มาแบบไม่ค่อยฟุ้งกระจายเหมือนชุดก่อน จึงมีอารมณ์ก็มีความใกล้เคียงกับ The Earth is Not a Cold Dead Place อยู่พอสมควร แม้งานชุดนี้จะพีคไม่สุดเท่าสองชุดก่อน พวกเขาก็มีความเรียบง่ายแต่ลงตัวเข้ามาแทนที่ จึงทำให้งานชุดนี้มีความรู้สึกผ่อนคลายและนุ่มนวลขึ้น

12. Ketil Bjornstad & Svarte Henryson – Night Song
“A Melancholic Serenade…”

13. Acid Mothers Temple SWR & Umezu Kazutoki – Sax & the City
ความทรงจำเมื่อครั้งคอนเสิร์ตที่ AMT มาแสดงเมื่อปีก่อนยังไม่จางหาย คราวนี้พวกเขาก็ออกอัลบั้มมาให้หายคิดถึงกันอีกแล้ว ซึ่งก็มีชุดนี้กับอัลบั้มที่เป็นของไลน์อัพหลักอีกหนึ่งชุด (AMTSWR คือไลน์อัพที่มาเล่นที่บ้านเราเมื่อปลายปีก่อนโดยมีน้าอุจิฮาชิ คาซึฮิสะ มาแจมด้วย) โดยความรู้สึกแรกหลังจากที่ได้ฟังชุดนี้จบไปก็คือ “บ้าคลั่ง” และ “ปั่นประสาท” ถึงขนาดที่ว่าผมเอาไปเปิดที่สถานีวิทยุออนไลน์แห่งหนึ่ง (ไม่ขอเอ่ยนามละกัน) แล้วถึงกับโดนด่าทันที่ว่าเปิดเพลงประสาอะไร น่ารำคาญ อะไรทำนองนี้ แต่ผมก็ไม่สนใจหรอกครับ เพราะงานชุดนี้คือสุดยอดแห่งความเพี้ยนโดยแท้จริง

14. Fjordne – Charles Rendition
ชุนอิจิโร ฟุจิโมโตะ หรือ Fjordne ได้รังสรรค์งานมินิมัลอิเลกโทรอะคูสติกที่ไพเราะนุ่มนวลมาตลอด มาชุดนี้เขาเปลี่ยนมุมมองใหม่ด้วยการใช้เปียโนเป็นหลัก โดยเขาได้รับอิทธิพลจากนิยายชื่อดังของชาร์ลส ดิคเคนส์ อย่าง Great Expectations ที่เคยนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้ว ไลน์เปียโนของเขานั้นจะเน้นทางแจ๊สเป็นหลัก โดยมีเครื่องเป่าและเครื่องสายคอยช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง โดยมีความรู้สึกที่เลื่อนลอยหงอยเหงาแฝงอยู่ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งที่ติดตัวเขาตลอดมา และงานชุดนี้อาจจะเป็นอัลบั้มที่ตอบโจทย์คำว่า Postmodernism ได้อย่างดี

15. Sunn O))) Meets Nurse with Wound – The Iron Soul of Nothing
การร่วมงานครั้งนี้ถือเป็นการร่วมงานครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของสาขาโดรน เลยก็เป็นได้ เมื่อวงโดรนรุ่นหนุ่มจากเมืองลุงแซมโคจรมาพบกับวงโดรนรุ่นเก่าจากแดนผู้ดี ผลออกมาก็คือ งานโดรนแอมเบียนท์ที่มืดมิดและดำดิ่ง ซึ่งดูเป็นกลางที่สุดสำหรับทั้งสองวง นอกจากนี้แต่ละเพลงก็ยังมีความละเลียดอยู่ในตัว จึงทำให้เกิดสุ้มเสียงที่ดูลึกลับและชวนค้นหา และถึงงานชุดนี้จะมีความมืดมน แต่กลับให้ความรู้สึกที่นิ่งสงบอย่างน่าประหลาด

16. Fennesz & Sakamoto – Flumina
หลังๆมานี้ น้าริวอิจิเริ่มเดินทางเข้าสู่สายมินิมัลมากขึ้น เนื่องด้วยเครือข่ายรอบๆตัวแกก็มีแต่บุคคลในสาขานี้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น Alva Noto ซึ่งแกก็ได้ร่วมงานด้วยอีกครั้งหนึ่งในช่วงต้นปี หรือน้าคริสเตียน เฟนเนสซ์ มินิมัลลิสต์รุ่นเก๋าจากออสเตรีย ที่ได้ร่วมงานในชุดนี้ที่จะเน้นแอมเบียนท์ผสานมินิมัลเปียโนที่เลื่อนลอย แต่ก็ให้ความรู้สึกที่ “ออร์แกนิก” (ราวกับตัวเพลงนั้นมีชีวิตอยู่) อย่างน่าอัศจรรย์ และการเดินคอร์ดของน้าริวนั้นก็เป็นไปอย่างเยือกเย็น คลอไปกับ Soundscapes ที่นิ่งสงบจากน้าเฟนเนสซ์ และด้วยจำนวนเพลงที่มากถึง 24 เพลง (แบ่งเป็นสองซีดี) เราจึงสามารถสัมผัสกลิ่นอายของธรรมชาติจากจินตนาการของพวกเขาได้อย่างเต็ม อิ่ม

17. Liliuminarium – Demolished Territory/Surgery & Mudai EPs
“The Destroyer’s Noise!!”

18. Kreng – Grimoire
มืดมน งดงาม และ คลาสสิก...

19. Sleepsmakeswaves - …And So We Destroyed Everything
ผมขอยกสี่หนุ่มจากแดนจิงโจ้กลุ่มนี้เป็นอีกหนึ่งวงม้ามืดในสาขาโพสร็อค ถึงแม้ช่วงนี้ผมจะไม่ค่อยได้ฟังวงที่มีท่อนหนักๆมากนัก แต่พวกเขาก็ทำงานออกมาได้อย่างน่าประทับใจ เนื่องด้วยการที่มีเครื่องสายและเครื่องเป่ามาแซมอยู่ในดนตรี และสุ้มเสียงของพวกเขาที่มีความหนักแน่นน้องๆโพสเมทัลกันเลยทีเดียว (อิทธิพลของพวกเขาค่อนข้างเปิดกว้าง) นอกจากนี้ พวกเขายังสร้างทำนองออกมาได้เข้มข้นและทรงพลังอีกด้วย เพียงเท่านี้พวกเขาก็สามารถครองใจผมได้อย่างอยู่หมัดแล้ว

20. Vampillia – Alchemic Heart
แม้วงนี้จะเป็นวงรวมดาราที่ทำงานค่อนข้างป่วนประสาทมาก่อน แต่เมื่อมาทำงานโดรน พวกเขาก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน รวมถึงการได้นักดนตรีระดับหัวกะทิเช่น จาร์โบ (อดีต Swans) Merzbow และวง Inswarm ที่มาเสริมทัพในส่วนของริฟฟ์กีต้าร์หนืดๆยานๆในครึ่งหลังของทั้งสองเพลง แต่งานชุดนี้ไม่ได้เป็นเพียงโดรนเมทัลเท่านั้น เพราะยังมีกลิ่นอายดนตรีคลาสสิกอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในส่วนของเครื่องสายและเปียโน การอิมโพรไวส์เสียงร้องของจาร์โบทซึ่งเสริมสร้างบรรยากาศของดนตรีให้ดูหลอน ขึ้นมาแบบพอหอมปากหอมคอ และเสียงนอยส์พื้นหลังโดย Merzbow ผลที่ออกมาก็คือ งานชุดนี้เป็นงานที่มีความลึกล้ำและชวนต้นหาในตัวมันเอง

21. Cicada – Pieces
...(ไร้ซึ่งคำบรรยายใดๆ ให้เพลงช่วยบอกเล่าแทนผมก็ละกัน)...

22. Spangle Call Lilli Line – Piano Lesson
งานที่เรียบง่าย น่ารักน่าหยิก และชวนพริ้มแบบนี้ ผมคงไม่อยากบรรยายอะไรมากอีกแล้ว...

23. Dustin O’Halloran – Lumiere
ดัสติน โอ แฮลโลแรน คือ นักเปียโนที่สามารถเรียกน้ำตาของผมออกมาได้...

24. Dragonland – Under the Grey Banner
วงนี้เป็นวงที่ค่อนข้างจะมาแรงแซงโค้งสำหรับผม แม้ว่าจะได้ยินชื่อเสียงของพวกเขามานาน และเพื่อนๆที่รู้จักบางส่วนก็ชื่นชอบฝีไม้ลายมือของวงอยู่พอสมควร ตัวผมเองก็เพิ่งได้รู้จักกับพวกเขาครั้งแรกกับอัลบั้มนี้ ซึ่งถือเป็นภาคสุดท้ายของไตรภาคอาณาจักรมังกร (Dragonland Chronicles Trilogy) ซึ่งเนื้อหาในชุดนี้ก็จะต่อจากสองอัลบั้มแรกสุด สำหรับดนตรีนั้นคงไม่ต้องบรรยายกันมากนัก เพราะพี่ท่านเล่นจั่วหัวกล่องอัลบั้มไว้เลยว่า “สำหรับแฟนเพลงของ Rhapsody of Fire และ Kamelot” ซึ่งก็น่าจะเดาทางดนตรีได้ไม่ยากเลย สิ่งที่ทำให้ผมติดใจในอัลบั้มนี้ก็คือสุ้มเสียงที่แข็งแกร่งทรงพลังและความ ต่อเนื่องของแต่ละเพลงที่ทำให้ดูเป็นอีปิกยิ่งขึ้น สองสิ่งนี้ทำให้อัลบั้มได้ขึ้นมาอยู่ในลิสต์นี้อย่างเป็นเอกฉันท์

25. ENO - -t
อีกหนึ่งผลิตผลที่หามาได้จาก Bandcamp พวกเขาเป็นวงดูโอจากสวิตเซอร์แลนด์ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับลุงไบรอัน อีโน แต่อย่างใด (แล้วชื่อนี้พวกท่านได้แต่ใดมา...) ทางวงมาพร้อมกับดนตรีโพสร็อคที่แสนจะละเลียด โดยได้อิทธิพลจากวงรุ่นพี่หลายๆวงเช่น Mono, Mogwai และ Gregor Samsa เป็นต้น แม้สมาชิกจะมีเพียงสองคือกลองและกีต้าร์ แต่รายละเอียดที่ออกมานั้นสามารถเทียบได้กับฟูลแบนด์ได้เลย โดยเฉพาะส่วนของกีต้าร์นั้นแลจะมีเลเยอร์ที่หลากหลาย เมโลดี้ที่ไพเราะชวนฝัน และการเรียบเรียงเพลงที่ชาญฉลาด ทำให้งานมีความไหลลื่นชวนติดตาม และด้วยความที่งานของพวกเขาไม่ได้เน้นพีคมากนัก จึงให้ความรู้สึกที่เบาสบายราวกับนั่งอยู่บนปุยเมฆ  

26. Steve Hackett – Beyond the Shrouded Horizon
สดใส ไพเราะ อลังการ และ อีปิกตลอดอัลบั้ม...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 ธันวาคม 2011 | 04:34:43 PM โดย Fog » บันทึกการเข้า

Fog
Blade Runner
*******
เพศ: ชาย
กระทู้: 2071



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #17 เมื่อ: 26 ธันวาคม 2011 | 04:35:37 PM »

27. Karmakanic – In a Perfect World
Karmakanic เป็นอีกหนึ่งวงที่ทำงานได้ดีมาตลอด แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไลน์อัพอยู่บ่อยครั้งก็ไม่มีผลกระทบต่อภาคดนตรีเท่าใดนัก เพราะสมาชิกแต่ละคนที่มาอยู่ในวงก็จะเป็นเครือข่ายคนกันเองทั้งนั้น งานดนตรีของพวกเขาก็ยังคงเน้นความสวยงาม โดยเสริมความหนักแน่นจากภาคกลองของมาร์คัส ลิลีควิสต์ และการมีมือคีย์บอร์ดคนที่สองเข้ามาทำให้งานดูมีมิติและสีสันมากขึ้น ผมขอนิยามงานชุดนี้ไว้สั้นๆว่า “In a Perfect Mood” ก็ละกันครับ

28. 3 – The Ghost You Gave to Me
หลังจากที่พวกเขาพยายามที่จะดันตัวเองให้เป็นโปรเกรสสีฟเมทัลแต่ทำไม่สำเร็จในชุด The End is Begun แล้วจึงหันมาทำงานที่เน้นอะคูสติกแทนในชุดก่อนอย่าง Revisions แต่มาชุดนี้พวกเขามาเลือกเดินทางสายกลาง โดยนำส่วนอะคูสติกจากชุดก่อนมาผสานกับส่วนที่เป็นเมทัลไว้อย่างสมดุลย์ ซึ่งโดยส่วนที่เป็นเมทัลนั้นพวกเขาทำออกมาได้สะอาดกว่าในชุด The End… มาก แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความหนักแน่น เรียกได้ว่าพวกเขามาถูกทางแล้วจริงๆ

29. Theocracy – As the World Bleeds
วงนี้ถือเป็นอีกหนึ่งวงเลือดใหม่ที่น่าจับตามอง โดยฉพาะในส่วนของพัฒนาการ ทั้งด้านการเพิ่มจำนวนสมาชิกและผลงานที่คุณภาพดีไม่มีตก งานชุดนี้จึงกลายสมบูรณ์แบบจนน่าจะสามารถเรียกว่ามาสเตอร์พีซได้อีกหนึ่งชุดเลยละ

30. Harold Budd – In the Mist
หลังจากที่สองจิตสองใจอยู่นานว่าจะเลือกงานชุดไหนดี เพราะปีนี้ลุงแฮโรลด์ บัดด์ออกงานมาถึงสามชุดด้วยกัน สุดท้ายผมจึงมาเลือกงานเดี่ยวของแกนี่ละ เนื่องจากงานที่ทำกับพี่โรบิน กุธรี (เจ้าประจำ) ก็แลจะฟุ้งไปหน่อย ส่วนงานที่มีเอรัลโด เบร์นอชชี มาร่วมด้วยนั้นก็เพิ่งจะออกมาไม่นาน สุดท้ายผมจึงเลือกชุดนี้ ด้วยสุ้มเสียงที่เยือกเย็นและเหมาะกับบรรยากาศหน้าหนาวในช่วงนี้ดีนั่นเอง แต่บางครั้งมันก็เย็นยะเยือกเสียจนน่าขนลุกเลยละ ซึ่งนี่ก็เสน่ห์ในไลน์เปียโนของลุงคนนี้นี่เอง

Albums Yet to Be On the List
Steven Wilson – Grace for Drowning
Bass Communion – Cenotaph
Origin – Entity
Ozric Tentacles – Paper Monkeys
Pain of Salvation – Road Salt Two
Leprous – Bilateral
Dream Theater – A Dramatic Turn of Events
Mastodon – The Hunter
Wilco – The Whole Love
White Lies – Ritual
Dale Cooper Quartet & the Dictaphones – Metamanoir
The Kilimanjaro Darkjazz Ensemble – From the Stairwell
48V – South II
Abruptum – Potestates Apocalypsis
Aethenor – En Form For Bla
New Risen Throne – Loneliness of Hidden Structures
บันทึกการเข้า

raylee
Selling England By The Pound
**
กระทู้: 246


ดูรายละเอียด
« ตอบ #18 เมื่อ: 20 มกราคม 2012 | 10:47:28 PM »

ชอบ destroyer / kaputt ครับ ขอบคุณน้องเหม่งที่แนะนำดนตรีดีๆ อีกเช่นเคยครับ
บันทึกการเข้า
PANTERISTA
Fragile
***
เพศ: ชาย
กระทู้: 471


Gonzalo PANTERISTA


ดูรายละเอียด
« ตอบ #19 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2012 | 04:41:43 AM »

\m/ MY BEST 5 ALBUM OF 2011 \m/
1.ANDY JAMES : ANDY JAMES
2.ANIMETAL USA : ANIMETAL USA
3.EUROPE : LIVE @ SHEPHERDS BUSH LONDON/LIVE LOOK @ EDEN
4.MACHINE HEAD : UNTO THE LOCUST
5.WHITESNAKE : FOREVERMORE
บันทึกการเข้า

.. polotoon ..
The Snow Goose
**********
กระทู้: 18602



ดูรายละเอียด
« ตอบ #20 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2012 | 06:57:58 PM »

ชอบ destroyer / kaputt ครับ ขอบคุณน้องเหม่งที่แนะนำดนตรีดีๆ อีกเช่นเคยครับ
เพลงอะไร ทำไม เพราะจัง ..
บันทึกการเข้า

Layla F Mulder
Administrator
Blackfield
*****
เพศ: ชาย
กระทู้: 3604


Without appreciation, the music isn't worth.

basnaphon@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #21 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2012 | 07:07:07 PM »

AFM's 12 Favourite Albums of 2011 (Not in Order)

1. Wynton Marsalis and Eric Clapton - Play The Blues (Live from Jazz At Lincoln Center)
Old School Blues/Jazz tunes are amazing. And Clapton played 335!!


2. Warren Haynes - Man In Motion
I love your bending!!


3. Tedeschi Trucks Band - Revelator
A bit too much funky for my taste. But it's still great. Grammy awards winner!!


4. Gregg Allman - Low Country Blues
Another album from Allman family. T-Bone Burnett on producer, Dr. John on piano & Doyle Bramhall II on guitar.


5. Joe Bonamassa, Beth Hart - Don't Explain
Bonamassa at his best along with soulful voice by Ben Hart. Highly recommended.


6. Alison Krauss and Union Station - Paper Airplane
Still at their/her standard. Grammy awards winner!!


7. Gillian Welch - The Harrow & The Harvest
Best Folk album of the year.


8. Vince Gill - Guitar Slinger
Well produced. His vocal is great too.


9. Starbucks 40 - A 40th Anniversary Collection
Nice compilation album. Please continue buy 1 get 1 campaign. And I love "Blended Java Chip".


10. Opeth - Heritage
Mellotron, Wurlitzer, Rhodes, Piano & Hammond with Leslie. I need more of this!!!


11. The Civil Wars - Barton Hollow


12. Willie Nelson, Norah Jones, Wynton Marsalis - Here We Go Again: Celebrating the Genius of Ray Charles


Best moment of the year
David Gilmour appeared on top of the wall on 12-May. Sung and played on Comfortably Numb with Roger Waters at O2 arena, London.
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=hUYzQaCCt2o" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=hUYzQaCCt2o</a>
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 กุมภาพันธ์ 2012 | 10:17:16 PM โดย Agent Fox Mulder » บันทึกการเข้า

 
Tsundere (ツンデレ?) (pronounced /(t)sʌnˈdɪə(r)/ in English or /t͡sun.de.ɽe/ in Japanese) is a Japanese concept of a character archetype which describes a person with a conceited, irritable, and/or violent personality that suddenly becomes modest and loving when triggered by some sort of cause (such as being alone with someone)
TRON
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 12866



ดูรายละเอียด
« ตอบ #22 เมื่อ: 27 เมษายน 2012 | 10:07:07 PM »

เมื่อใกล้สิ้นปีแล้ว ก็เช่นเคยครับ  ยิ้มกว้างๆ

Noisy's 30 Favourite Albums of 2011 (Not in Order)

11. M83 - Hurry Up, We're Dreaming
 
Genre: Synthpop / Dreampop
 
ไม่แน่ใจว่างานนี้พวกเขาอยากจะทำ Mellon Collie and the Infinite Sadness ฉบับซินธีไซเซอร์รึเปล่า แต่ที่แน่ๆต้องนับว่าหาญกล้ามากครับ ที่ริทำอัลบั้มแผ่นคู่เพลงเยอะๆแบบนี้ แล้วมันก็ฟังไพเราะดีทุกเพลงตั้งแต่ต้นแ่ผ่นแรกยันท้ายแผ่นสองเลยทีเดียว ซาวนด์อนาล็อกซินธ์พร้อมเมโลดี้หวานๆชวนฝันหอมฟุ้งกระจายทั่วอัลบั้มไปหมด นี่คือเสียงดนตรีจากสวรรค์โดยแท้




เพิ่งมาค้นเจอว่าน้องเหม่งเขียนถึงอัลบั้มนี้ไว้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ผมเพิ่งไล่ฟังวงนี้แล้วชอบมาสั่งซีดีหลายชุดรวมทั้งชุดนี้มาฟัง กลายเป็นวงโปรดไปแล้วครับ อัลบั้มนี้ยอดเยี่ยมมากมาย มีซาวนด์ 80's ที่เรียบเรียงออกมาในแบบแปลกๆ เป็นอัลบั้มที่ต้องฟังต่อเนื่องกันเพราะแต่ละเพลงเหมือนเรียงร้อยต่อกันอย่างแนบเนียน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27 เมษายน 2012 | 10:09:14 PM โดย TRON » บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2]
พิมพ์
กระโดดไป:  

ThaiProg.net Ver 4.0 by tisanai,Shineon,kongbei
Top 10 Best Sellers in Kindle eBooks Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers In Automotive Parts And Accessories Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers in Tools and Home Improvement Under $10, Reviewer 2016
Top 10 Best Sellers in Clothing for 2017 Top 10 Best Sellers in Clothing Best Sellers in Clothing
Top 10 Best Sellers in Books reviewer 2017 Top 10 Best Sellers in Books Best Sellers in Books
Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Reviewer 2017 Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Best Sellers In Grocery