ต่อไป »

[ไอ้ใบ้ตาเดียว]

รวดเร็วปานกาม(นิต)หนุ่มเลยนะพวกเรา

ขอประวัติวงนี้หน่อยครับ Sniper
ชอบการทำเพลงพวกเขามากเลย ทีมเวิร์คแข็งปั้ก

ผมมีแผ่นแรกแผ่นเดียว

         นี่ครับคุณผีเพลงวงนี้ผมเคยฟังแค่ 2 เพลงมั้ง แหล่มเลยทีเดียว ทีฟังเพราะผมชอบวง สไมล์ บัฟฟาโล่ มาก โดยเฉพาะชุดแรกนี่สุดๆ ชอบเสียงคุณดิษ และมือกลองที่ผมชอบที่สุดในไทย(เป็นการส่วนตัว)อย่างคุณเชษ คนบ้าไรตีกลองได้โคตรมัน อย่างงี้ผมรักตายเลย

      สไน เปอร์ (Sniper) วงร็อกชื่อใหม่ แต่ฝีมือเก๋า เมื่อสมาชิกในวงล้วนแต่เป็นนักร้องนักดนตรี ซึ่งเป็นที่รู้จักหรือมีประสบการณ์ในวงการเพลงมานาน ได้แก่ เต็น - ธีรภัค มณีโชติ เจ้าของเพลงดัง นับหนึ่ง และ ดิด - ประดิษฐ์ วรสุทธิพิสิทธิ์ อดีตนักร้องนำวง สไมล์ บัฟฟาโล่ โดยทั้งคู่รับหน้าที่ร้องนำ ร่วมด้วยสองนักดนตรี แอม - ณัฐวุฒิ ลี้กุล ตำแหน่งเครื่องเคาะและคีย์บอร์ด กับ หลิว - สาริกข์ หลิวอุดมสินชัย ตำแหน่งกลอง

      ที่มาของชื่อวงมาจากคำว่า สไนเปอร์ ซึ่งเป็นหน่วยซุ่มยิงในการต่อสู้เพื่อโจมตีหัวหน้าของอีกฝ่ายหนึ่ง อันเป็นชื่อแบบฟังดูแล้วให้ความรู้สึกแข็งแรง เหมาะกับวงร็อก หรืออีกความหมายหนึ่ง คือพวกเขา 4 คนเป็นหน่วยเล็กๆ ไม่ได้มีกำลังมาก แต่ก็ทุ่มเททำงานเพลงกันอย่างเต็มที่ กับการเป็นวงดนตรี ในสังกัดเล็กๆ ชื่อ H2O Records ค่ายสนามหลวง ในเครือจีเอ็มเอ็มแกรมมี่

      แนวเพลงของ สไนเปอร์ เป็นแบบร็อก ที่ไม่ใช่จะมีแค่ร็อกหนักๆ แต่ยังมีเพลงฟังสบายแบบอะคูสติก หรือบางเพลงจะมีเสียงเครื่องเคาะที่จะมาทำให้เพลงดูอ่อนลง ขณะที่บางเพลงอาจเน้นแค่เสียงคีย์บอร์ดไปเลย เพื่อให้ดูหนักขึ้น

      ในส่วนของเนื้อเพลงในอัลบั้มก็ต้องการนำเสนอความแตกต่าง กับการสื่อในทุกมุมมองของความรัก อาทิ หนึ่งในล้าน ที่เรียกหาใครสักคนว่าหนึ่งในล้านคนที่อยู่รอบกายนั้น จะมีใครสักคนไหมที่จะมาเข้าใจคนเหงาๆ แค่คนหนึ่ง และ ไม่เสียชาติเกิด อีกหนึ่งเพลงแทนคำขอบคุณ ที่บอกว่าไม่เสียชาติเกิดเลย ถ้าเกิดมาแล้วได้เจอกับเธอ

[ไอ้ใบ้ตาเดียว]

รวดเร็วปานกาม(นิต)หนุ่มเลยนะพวกเรา

ขอประวัติวงนี้หน่อยครับ Sniper
ชอบการทำเพลงพวกเขามากเลย ทีมเวิร์คแข็งปั้ก

ผมมีแผ่นแรกแผ่นเดียว

วงนี้ไม่เคยฟังครับพี่ สังเกตุว่าส่วนใหญ่จะพูดถึงอินดี้กัน พวกอยู่ค่ายใหญ่มีดีๆบ้างไหมครับเนี่ย 

Sniper ชุดนี้เป็นป๊อปร๊อคฟังง่ายและเล่นได้ปึ๊กอย่างที่พี่แจ๊คว่าจริงๆครับ (โดยเฉพาะกลองนี่เล่นได้แน่นมาก) การบันทึกเสียงก็เข้าขั้นเพอร์เฟคต์ครับ ผมชอบเพลง ล่ามโซ่ กับ อวกาศ ที่สุดเลยครับ แต่น่าเสียดายที่มีผลงานออกมาแค่ชุดเดียวแล้วหายไปเลย

ส่วนวงค่ายใหญ่ที่น่าสนใจก็มีไม่น้อยนะครับ วงที่ผมชอบๆก็เช่น Paradox, Zeal, Silly Fools, Venus, จิระศักดิ์ ปานพุ่ม, ป้าง นครินทร์ กิ่งศักดิ์, ลุลา, ฟอร์ด สบชัย, สุเมธแอนด์เดอะปั๋ง, ArtFloor และ The Papers เป็นต้นครับ

+10

         อันนี้เป็นความคิดส่วนตัวผมนะครับ ผมว่าวงร็อคในค่ายแกรมมี่นี่ก็มีดีๆเยอะนะครับ โดยเฉพาะ บอดี้แสลม/บิ๊กแอ๊ส/พี่ป้าง/แคลช หรือวงรุ่นใหม่อย่าง Retrospect  นี่ผมชอบมากทีเดียวถึงแม้บางวงจะไม่ได้แต่งเพลงหรือทำนองเองทั้งหมด
แต่ผมว่าการทำเพลงป๊อปร็อคหรือร็อคให้ออกมาไพเราะติดหู มันเป็นเรื่องยากมากทีเดียวครับ
         โดยเฉพาะการทำเพลงที่หาจุดกึ่งกลางคือให้ติดตลาด(คือต้องไพเราะติดหู)กับการความเป็นตัวตนของวง(โชว์ฝีมือของวง การเรียบเรียง ไม่ได้กะขายท่าเดียว) ยิ่งยากขึ้นเป็นทวีคูณ แต่วงเหล่านั้นล้วนทำออกมาได้สุดยอด วงแคลชนี่ผมเคยดูเล่นสดทีนึงอึ้งไปเลยครับซาวด์ดีโคตรๆ เล่นโคตรแน่น เอนเตอเทนต์ดี ครบเครื่องจริงๆครับ

*แก้ข้อความ กลับมาอ่านแล้วงง เขียนเองงงเองประจำ

[.. polotoon ..]

แต่ผมว่าการทำเพลงป๊อปร็อคหรือร็อคให้ออกมาไพเราะติดหู มันเป็นเรื่องยากมากทีเดียวครับ
         โดยเฉพาะการทำเพลงที่หาจุดกึ่งกลางของตลาด(คือต้องไพเราะติดหู)กับการความเป็นตัวตนของวง(โชว์ฝีมือของวง การเรียบเรียง ไม่ได้กะขายท่าเดียว) ยิ่งยากขึ้นเป็นทวีคูณ

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
ผมคงตก ArtFloor และ The Papers ไป ชุดไหนหรือครับที่ว่าเยี่ยม 

[ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ]

จริงๆฟังเพลงไทยไว้นี่ก็ดีครับ เวลาไปตู้คาราโอเกะจะได้ไปแหกปากกับเพื่อนได้ เพลงที่ผมร้องเป็นประจำเวลาไปคาราโอเกะคือ เพลงนี้เกี่ยวกับความรัก (Silly Fools), โง่ (Silly Fools), ทางใครทางมัน (แมว จิระศักดิ์), นักโทษประหาร (แมว จิระศักดิ์), กุมภาพันธ์ (ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล), เศษ (Paradox), ตัดใจ (Venus), ทุกสิ่ง (พรู), วันที่ฉันป่วย (Armchair), อยากอยู่ตรงนี้ตลอดไป (Day Tripper) และ... ดาวเสาร์ (ลุลา) ครับ!!!

[ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ]

แต่ผมว่าการทำเพลงป๊อปร็อคหรือร็อคให้ออกมาไพเราะติดหู มันเป็นเรื่องยากมากทีเดียวครับ
         โดยเฉพาะการทำเพลงที่หาจุดกึ่งกลางของตลาด(คือต้องไพเราะติดหู)กับการความเป็นตัวตนของวง(โชว์ฝีมือของวง การเรียบเรียง ไม่ได้กะขายท่าเดียว) ยิ่งยากขึ้นเป็นทวีคูณ

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
ผมคงตก ArtFloor และ The Papers ไป ชุดไหนหรือครับที่ว่าเยี่ยม 

ArtFloor ยังไม่มีอัลบั้มเต็มออกมาครับ ตอนนี้มีอีพี After War แค่ชุดเดียว ส่วน The Papers ก็เพิ่งมีสตูดิโออัลบั้มแค่ชุดเดียวกับอีพีอคูสติกอีกหนึ่งชุด ซึ่งสองวงนี้เป็นวงหน้าใหม่ที่น่าจับตามองของอาร์เอสเลยทีเดียว ไว้เดี๋ยวจะมาแนะนำแบบเต็มๆอีกครั้งก็แล้วกัน เพราะกะจะเขียนถึงอยู่แล้วครับ สองวงนี้พลาดไม่ได้ 

[.. polotoon ..]

ผมชอบอัลบั้มของ คีตกวี ชุด " เรามาร้องเพลงกัน " มากครับ เพราะมีคุณภาพทั้งในแง่ของเนื้อร้อง ทำนองเพลง และฝีมือการบรรเลงมาก รวมทั้งมีความเป็นพร็อกอยู่สูงทีเดดียว ถ้าใครไม่เคยฟังเพลงของกลุ่มดนตรีนี้ ก็ให้ลองนึกถึงเพลงที่มีเนื้อร้องและทำนองแปลกๆที่สอดแทรกอยู่ในอัลบั้มของ อัสนี-วสันต์ อัลบั้มละเพลง เช่นเพลง ไม่เป็นไร ขลุ่ยผิว วีณาแกว่งไกว ดูนะครับ ต้นฉบับล้วนมาจากอัลบั้มนี้ทั้งนั้น วันก่อนผมหยิบแผ่นเสียงชุดนี้มาฟังอีกครั้ง พบว่าสุ้มเสียงเริ่มเปลี่ยนไปตามอายุแผ่นเสียแล้ว ใครมีต้นฉบับดีๆ ขอ ด้วยคนนะครับ ขอบคุณครับ 

อยากฟังมานานแล้วครับชุดนี้ น่าแปลกที่ไม่มีการรีมาสเตอร์ใหม่เสียที

มีให้ลองฟังได้นะครับ เสียงดีเหมือนกัน

http://www.imeem.com/bluesmith/playlist/Oj7y-CnD/music-playl/

 

เครดิตศิลปิน
ร้อง : เรวัต พุทธินันทน์
คำร้อง ทำนอง เรียบเรียง :
วงคีตกวี (ดนู ฮันตระกูล, เขตต์อรัญ เลิศพิพัฒน์, อัสนี โชติกุล, อนุวัฒน์ สืบสุวรรณ,
กฤษณ์ โชคทิพย์พัฒนา, จาตุรนต์ เอมซ์บุตร, จิรพรรณ อังศวานนท์, สินนภา สารสาส,
กรเณศร์ วสีนนท์, เทวัญ ทรัพย์แสนยากร, โสฬส ปุณกะบุตร, วีระศักดิ์ ทิพย์ธวัชวงศ์)
ผู้อำนวยการผลิต : ดนู ฮันตระกูล
ผู้บันทึกเสียง : กฤษณ์ โชคทิพย์พัฒนา
ห้องบันทึกเสียง : บัตเตอร์ฟลาย


มี Link ให้ Download อยู่นะครับ Search ดูแป๊ปเดียว เดี๋ยวก็เจอครับ เสียงดีพอใช้ด้วยครับ 

[จ่าวิส]

ถ้าพูดถึงศิลปินค่ายใหญ่ที่ทำเพลงแล้วไม่ดังก็นึกถึงนี่เลยครับ

โอ๋ ศรุตยา อัลบั้ม อธิษฐาน



สมัยนั้นพวก เจร็อค กำลังมาแรง แกรมมี่เลยส่งศิลปินเจร็อคสาว โอ๋ ศรุตยา ออกมาซะเลย ตัวเพลงได้คนเก่งๆในวงการมาช่วยทำเยอะครับ เลยออกมาเป็นอัลบั้มร็อคเข้มข้นที่มีกลิ่นอายของเจร็อคและพังค์ โดยเฉพาะเพลงสุดท้ายชื่อ รถเธอ น่าจะเป็นเพลงที่ดีที่สุดในอัลบั้ม กอปรกับสมัยนั้นศิลปินไทยส่วนใหญ่นิยมร้องเพลงแบบกระซิบกระซาบ แต่โอ๋มาร้องแบบสุดเสียงเลย แต่อาจจะเป็นเพราะว่าเพลงหนักไปหน่อย รวมถึง โอ๋ก็ไมไ่ด้น่ารัก ขายหน้าตาไมไ่ด้ด้วย เลยทำให้เจ๊งไปอย่างน่าเสียดาย

[.. polotoon ..]

ถ้าพูดถึงศิลปินค่ายใหญ่ที่ทำเพลงแล้วไม่ดังก็นึกถึงนี่เลยครับ

โอ๋ ศรุตยา อัลบั้ม อธิษฐาน



สมัยนั้นพวก เจร็อค กำลังมาแรง แกรมมี่เลยส่งศิลปินเจร็อคสาว โอ๋ ศรุตยา ออกมาซะเลย ตัวเพลงได้คนเก่งๆในวงการมาช่วยทำเยอะครับ เลยออกมาเป็นอัลบั้มร็อคเข้มข้นที่มีกลิ่นอายของเจร็อคและพังค์ โดยเฉพาะเพลงสุดท้ายชื่อ รถเธอ น่าจะเป็นเพลงที่ดีที่สุดในอัลบั้ม กอปรกับสมัยนั้นศิลปินไทยส่วนใหญ่นิยมร้องเพลงแบบกระซิบกระซาบ แต่โอ๋มาร้องแบบสุดเสียงเลย แต่อาจจะเป็นเพราะว่าเพลงหนักไปหน่อย รวมถึง โอ๋ก็ไมไ่ด้น่ารัก ขายหน้าตาไมไ่ด้ด้วย เลยทำให้เจ๊งไปอย่างน่าเสียดาย

ชุดนี้ได้ฟังครับ ชอบอยู่เหมือนกัน ว่าแต่ มีคนรู้จักและจำได้ น้อยมากเลยครับ 

[จ่าวิส]

ไม่รู้มีใครจำวงนี้ได้มั้ย ออกมาท่ามกลางกระแสเจร็อคเหมือนกัน แต่ดุเหมือนจะอยู่ RS



Jiwa

เพลงดังก็มีเช่น หลักฐานบนใบหน้า, ซึกิดาโย (รักเธอซะิอย่าง) นักร้องนำไม่ถือไมค์ แต่จะเหน็บข้างหูแทน

ไม่รู้ตอนนี้หายไปไหนแล้ว

[ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ]

The Papers - Dead/Ended Human Action

อัลบั้มเต็มชุดแรก (และชุดเดียว) ในเวลานี้ของวงดนตรีที่นำโดยเชษฐ์ ลูกชายของเฮียฮ้อ แห่งค่าย RS นั่นเอง โดยงานชุดนี้เขาได้นำความชื่นชอบในดนตรีอังกฤษ (โดยเฉพาะ Radiohead) มาใส่ไว้อย่างเต็มเปี่ยม แค่แทร๊คเปิดอัลบั้มอย่าง Dead/Ended ก็ได้กลิ่นอายของ Radiohead ยุคกลางฉุนกึกแล้วครับ (แต่เสียงร้องยังไม่ใช่นะ) เพลงส่วนใหญ่ในชุดนี้อยู่ในเกณฑ์ดีมากทีเดียว แต่ซาวนด์ของแต่ละเพลงยังหลากหลายและกระจัดกระจายไปหน่อย เลยฟังดูไม่ค่อยเนียนเท่าไรนัก แต่ถ้าฟังแยกเป็นเพลงๆก็ถือว่าน่าฟังทุกเพลงล่ะครับ แทร๊คที่ผมชอบที่สุดในชุดนี้คือแทรีคปิดอัลบั้มอย่าง Manikin's Bone ที่มืดหม่น หลอน เยือกเย็น ชวนขนลุกดีครับ

The Papers - Add an Inch to the Depth EP

อีพีฉบับอคูสติกแบบ Live in Studio ที่ทำออกมาขายในงาน Fat Festival ครั้งที่เก้านี้เท่านั้น ทำเพลงเด่นๆจากอัลบั้มเต็มมาเล่นแบบอคูสติกเป็นจำนวนห้าเพลงด้วยกัน ก็ฟังเพลินดีครับ ซึ่งการบันทึกเสียงแบบ Live in Studio นี่ฟังแล้วให้ความรู้สึกเหมือนนักดนตรีมานั่งเล่นให้ฟังในห้องจริงๆ แต่ที่เป็นไฮไลท์จริงๆอยู่ที่แทร๊คสุดท้าย Traffic Lights for No One ที่เป็นเพลงใหม่ความยาวเฉียดสิบนาทีนี่แหละครับ ทั้งสวยงาม หมองเศร้า และล้ำลึก ได้อารมณ์พร๊อกหม่นๆเนิบๆแบบ Porcupine Tree เลยครับ โดยเฉพาะช่วงตั้งแต่กลางเพลงเป็นต้นไปที่เล่นกีตาร์ไฟฟ้าใส่เอฟเฟคต์และดีเลย์หลอนๆคลอไปกับอคูสติกกีตาร์ตีคอร์ดไปตลอดจนจบเพลงนี่มันสุดยอดจริงๆครับ ผมได้ดูไลฟ์ของเพลงนี้เป็นเวอร์ชั่นไฟฟ้าที่งานแฟตแล้ว เหนือคำบรรยายครับ หวังว่าอัลบั้มเต็มชุดถัดไปพวกเขาคงจะบรรจุเวอร์ชั่นไฟฟ้านี้ลงไปด้วยนะครับ

[ไอแอมตองสาม]

ชอบ
Silly Fools ยุคพี่โต
Sweet Mullet
อพาร์ตเมนต์คุณป้า
จุ๋ย จุ๋ยส์
Penguin Villa
Artfloor

ผมฟังประมาณนี้ครับ ที่เหลือก็ทั่วไป ตามเพื่อน 5555

[ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ]

ArtFloor - After War EP

หากเอ่ยถึง The Papers ไปแล้วก็ต้องไม่ลืมที่จะกล่าวถึงวงเพื่อนร่วมค่ายอย่าง ArtFloor นี้ด้วย (รู้สึกเวลาแสดงสดสองวงนี้จะแชร์มือกีตาร์ร่วมกันด้วยครับ) แต่แนวทางของ ArtFloor จะต่างออกไป คือจะเป็นป๊อปร๊อคที่ไพเราะ ฟังง่าย แต่เปี่ยมไปด้วยชั้นเชิง บางทีก็ได้กลิ่นอายของวงอย่าง Coldplay เข้ามาแทรกอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ทั้งหกเพลงในอัลบั้มนี้ (ไม่รวมสอง Interlude) ล้วนแต่เป็นเพลงร๊อคที่ละเมียดละไม แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียดดนตรี ซึ่งแทร๊คเด็ดในอัลบั้มนี้จะเป็นเพลงใหนไปไม่ได้เลยนอกจากเพลงบัลลาดอย่าง เปียโน ที่ไพเราะสละสลวยทั้งตัวดนตรีและคำร้อง อีกทั้งยังมีการเรียบเรียงเสียงเครื่องสายอันสุดประณีต ทำให้ฟังแล้วนึกถึงเพลงของ Blackfield ได้เหมือนกัน ส่วนเพลงอื่นๆก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากถึงดีที่สุดเลยทีเดียว

ป.ล. วงนี้เล่นสดได้สนุกมากครับ ผมว่าน่าจะเป็นวงที่เล่นสดได้น่าประทับใจที่สุดในงาน Fat Festival # 9 เลยครับ ในความคิดของผม

[ไอ้ใบ้ตาเดียว]

ArtFloor - After War EP

หากเอ่ยถึง The Papers ไปแล้วก็ต้องไม่ลืมที่จะกล่าวถึงวงเพื่อนร่วมค่ายอย่าง ArtFloor นี้ด้วย (รู้สึกเวลาแสดงสดสองวงนี้จะแชร์มือกีตาร์ร่วมกันด้วยครับ) แต่แนวทางของ ArtFloor จะต่างออกไป คือจะเป็นป๊อปร๊อคที่ไพเราะ ฟังง่าย แต่เปี่ยมไปด้วยชั้นเชิง บางทีก็ได้กลิ่นอายของวงอย่าง Coldplay เข้ามาแทรกอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ทั้งหกเพลงในอัลบั้มนี้ (ไม่รวมสอง Interlude) ล้วนแต่เป็นเพลงร๊อคที่ละเมียดละไม แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียดดนตรี ซึ่งแทร๊คเด็ดในอัลบั้มนี้จะเป็นเพลงใหนไปไม่ได้เลยนอกจากเพลงบัลลาดอย่าง เปียโน ที่ไพเราะสละสลวยทั้งตัวดนตรีและคำร้อง อีกทั้งยังมีการเรียบเรียงเสียงเครื่องสายอันสุดประณีต ทำให้ฟังแล้วนึกถึงเพลงของ Blackfield ได้เหมือนกัน ส่วนเพลงอื่นๆก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากถึงดีที่สุดเลยทีเดียว

ป.ล. วงนี้เล่นสดได้สนุกมากครับ ผมว่าน่าจะเป็นวงที่เล่นสดได้น่าประทับใจที่สุดในงาน Fat Festival # 9 เลยครับ ในความคิดของผม

ชุดนี้นี่ผมชอบจริงๆครับ โดยเฉพาะเพลงบทกวี ที่ได้น้องเนย ขวัญใจผมมาฟีต55+

[ไอแอมตองสาม]

ผมลืมไป
ตอนนี้ผมติด The Richman Toy มากครับ
เพราะมันโจ๊ะได้ใจผมจริงๆ
มือกลองมือเบส เก่งมากครับ
แถมมือกีตาร์เล่นคล้ายๆ ผมอีก (คือออกสำเนียงบลูส์ประยุกต์ ผสมความทันสมัย แต่ผมอ่อนกว่าเขาเยอะนะ 55)

ชุดใหม่นี่ ติดหูทุกเพลงเลยครับ ฟังคลายเครียด ฮาจริงๆ 

[ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ]

กลับมาสายเครียดต่อ



Thom Aj. Madson - II

จริงๆแล้ว Thom Aj. Madson ก็คือนามแฝงของพี่ต้อม มือกีตาร์สุดเซอร์แห่งวงอัศจรรย์จักรวาลนั่นเอง ซึ่งระหว่างที่วงหลักของเขาเงียบหายไปแบบแทบไม่ได้ยินข่าวคราว พี่ต้อมก็ออกอัลบั้มเดี่ยวของตัวเองมาสองชุดแล้ว โดยงานเดี่ยวของเขาจะเน้นไปที่ดนตรีแอมเบียนท์และดนตรีทดลองเป็นหลัก ซึ่งงานชุดแรกของเขานั้นเหมือนว่าจะยังสะเปะสะปะจับจุดอะไรไม่ค่อยจะเจอ มาในชุดที่สองนี้เขาก็ได้ผลิตงานที่มีคอนเซปต์ชัดเจนมากขึ้น รวมถึงชั้นเชิงในการทำงานที่มากขึ้นตามวัยวุฒิ เขาได้แบ่งเพลงในอัลบั้มออกเป็นสองช่วงคือช่วงสามเพลงแรก จะเป็นดนตรีแอมเบียนท์โทนหม่นที่เขาเล่นกับเสียงต่างๆนาๆที่บางทีแทบไม่น่าเชื่อว่ามาจากกีตาร์ สร้างบรรยากาศอันน่าพรั่นพรึงแต่ก้ท้าทายชวนให้สดับรับฟังเป็นอย่างยิ่ง และช่วงห้าเพลงหลังที่จะมีจะหวะจะโคน มีโครงสร้างดนตรีที่ชัดเจน ฟังแล้วออกไปทางโพสต์ร๊อคมากขึ้น แต่บรรยากาศโดยรวมก็ยังคงจ่อมจมอยู่กับความหดหู่สิ้นหวังและความเงียบงันชวนให้สะเทือนใจ เมโลดี้และท่วงทำนองที่มืดหม่นคลุมเครือนั้นถูกสื่อออกมาราวกับหนังเมโลดราม่าชั้นดีที่ค่อยๆดำเนินเรื่องแบบเอื่อยเฉื่อยเจื้อยแจ้ว แต่กลับทำให้เราต้องเสียน้ำตาโดยไม่รู้ตัว นับเป็นงานศิลป์ทางเสียงที่ทำออกมาได้พอเหมาะพอเจาะและเต็มอารมณ์ดีครับ (แต่ยังไงผมก็ยังรออัลบั้มเต็มของอัศจรรย์จักรวาลอยู่นะ)

Track Listing

Part 1 The Silent Man - Experimental / Noise (noise-ambient-sound ทั้งหมดสร้างจากกีตาร์และเอ็ฟเฟ็คกีตาร์)

1.1 Ma rendi pur contento (feat. Boy)
1.2 สถานสงบในโลกลดลงทุกวันแต่ยังพอค้นพบ ความสงัดในจิตเกิดได้ยากกว่านัก (จากบทความเรื่อง ในความสงัด โดย ระวี ภาวิไล)
1.3 Lied der Suleika (feat. Orn)

Part 2 In My Room (Bonus Track) - Ambient / Rock

2.1 You & Me
2.2 Bed of Roses
2.3 คนที่เคยเคียงข้างครานั้น เพียงฝนพรำเขาก็จากไป Thom's Version (feat. Teung)
2.4 Alone On A Hill
2.5 ใบหญ้าเอนอ่อนตามแรงลม (feat. Mom)

Part 3 Live @ Spinefinch (VDO) - Ambient / Noise

3.1 แล้วฉันจะตามไป (ต้อม...พี่รอเราอยู่อีกข้างของจักรวาล...จากถ้อยคำของพี่พราย)