
บนสมมติฐานว่า ข้อมูลตามรูปนี้เป็นความจริง (ซึ่งก็มีแนวโน้มจะเป็นจริงสูง อเมริกาวิเคราะห์ข้อมูลไม่ค่อยผิด) แต่ก็อย่าซีเรียสมาก แค่วิเคราะห์กันเล่น ๆ สนุก ๆ ครับ

1. ช่วงปีพ.ศ. 2515-2525 หรือต้นยุค 1970s ถึงต้น 1980s แผ่นเสียงครองตลาด
2. ต่อมา พ.ศ. 2526-2534 หรือประมาณต้นยุค 1980s ถึงต้น 1990s เป็นยุคของเทปคาสเสท (ช่วงนี้ในบ้านเราจะได้เห็นเทปคาสเสทขายกันเกลื่อน ทั้งในร้าน ในห้าง หรือแม้แต่ตามแผงในตลาด ตามตรอกซอกซอย เรียกว่าเทปคาสเสทเป็นฟอร์แมทที่ครองใจมหาชนทุกระดับ แม้แต่วิทยุกระเป๋าหิ้วในยุคนั้นก็ยังมีหลุมไว้ใส่เทปคาสเสทเลยครับ)
3. ตั้งแต่ปี 2535 ถึง 2563 เป็นยุคทองของซีดี แต่อันที่จริงซีดีมันเริ่มก่อตัวมาตั้งแต่ต้นยุค eighties แล้วมาบูมสุดขีดในช่วงปี nineties จนถึงช่วงปี 2000s แล้วหลังจากนั้นจึงเป็นช่วงขาลงของซีดี เพราะโดนฟอร์แมทอื่นเข้ามาตี คือ ไฟล์เพลง hi res แต่ตามข้อมูลในรูป อเมริกาไม่พูดถึงไฟล์เพลงเลย มีแต่พูดถึงแผ่นเสียง เทป และซีดีเท่านั้น อ้าว ขอโทษที ลืมดูหัวข้อเรื่องไป เพราะเขาระบุว่า physical formats ซึ่งหมายถึงรูปแบบที่มีรูปร่างจับต้องได้เท่านั้นครับ 5555
4. ปี 2563-2565 แผ่นเสียงกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง แต่ก็ให้จับตาดูต่อไปว่าจะได้รับความนิยมอีกนานสักแค่ไหน เพราะแผ่นเสียงถือเป็นสิ่งฟุ่มเฟือย เป็นเรื่องของคนมีสตางค์ หรือคนที่มีฐานะพอที่จะจับจ่ายแผ่นเสียงมาฟังได้
5. และโดยความเห็นส่วนตัว ปัจจุบันการโหลดเพลงผ่านแอปแล้วใส่หูฟังผ่านมือถือหรือสมาร์ทโฟน เป็นฟอร์แมทที่ได้รับความนิยมสูงสุด เพราะสะดวกและลงทุนน้อยมากเมื่อเทียบกับหาต้องหาซื้อแผ่นเสียงมาฟังแผ่นละเป็นหลักร้อยถึงหลักพันโดยทั่วไป ไม่ฮานะครับ นี่เรื่องจริง 5555
