ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
การค้นหาขั้นสูง

149643 กระทู้ ใน 4435 หัวข้อ- โดย 847 สมาชิก - สมาชิกล่าสุด: axlrose

28 มีนาคม 2024 | 11:11:35 PM
Thai Progressive Rock CommunityThaiProgTreasure Boxesพูดคุยเรื่องแผ่นเสียง
หน้า: 1 ... 45 46 [47] 48
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: พูดคุยเรื่องแผ่นเสียง  (อ่าน 232991 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ปีศาจลายคราม
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 14349


Reap What You Sow


ดูรายละเอียด
« ตอบ #690 เมื่อ: 05 เมษายน 2023 | 03:49:19 PM »

เข้า Facebook ไปดูแผ่นเสียงทีไร รู้สึกเหมือนไปตอนที่ "ตลาดวาย" แล้วทุกที คือเวลาได้ผ่านไปแล้วหลายชั่วโมง หรือบางทีก็ผ่านไปเป็นวันหรือสองวัน นับตั้งแต่ที่ผู้ขายเริ่มลงขายแผ่นเสียง แล้วทีนี้จะเหลืออะไรให้ซื้อล่ะครับ คนที่เข้าไปดูแต่เนิ่น ๆ ก็มีโอกาสได้ซื้อได้จับจองแผ่นที่ตัวเองต้องการก่อนใคร ไม่ได้เข้า Facebook บ่อย ๆ (อย่างผม) ก็เสียโอกาสอย่างนี้แหละครับ แต่ก็ช่างมันเถอะ... เรื่องนี้แล้วแต่ดวง คิดเสียว่า ก็ดี ไม่เปลืองตังค์ครับ 5555 ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า


Daybreak Painting by Maxfield Parrish
ปีศาจลายคราม
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 14349


Reap What You Sow


ดูรายละเอียด
« ตอบ #691 เมื่อ: 18 เมษายน 2023 | 03:47:58 PM »

ช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา ผมไปอ่านเจอข้อความที่ใดสักแห่ง ระบุทำนองว่า ต่อให้หัวเข็มราคาเป็นแสน ๆ ถ้าแผ่นเสียงบันทึกเสียงมาไม่ดีก็เปล่าประโยชน์...

ใช่ครับ โดยหลักการควรจะเป็นอย่างนั้น คือ แผ่นดี อุปกรณ์เยี่ยม เสียงที่ได้ก็ย่อมต้องดี ถึงได้เกิดมีพวกแผ่นเสียง audiophile สารพัดแนว (แต่ส่วนใหญ่เป็นพวกเพลงพ๊อพ แจ๊สส์ และคลาสสิก) สารพัด label สารพัดค่าย สารพัดสังกัดทุกวันนี้ไงครับ แต่อย่างไรก็ดี ผมเชื่อว่าในการบันทึกแผ่นเสียงโดยทั่วไป วิศวกรบันทึกแผ่น producer และบุคลากรที่เกี่ยวข้องคงต้องใช้ความสามารถอย่างดีที่สุดของพวกเขาในการผลิตแผ่นเสียงที่มีคุณภาพดีออกมา แต่จะดีแค่ไหนนั้น มันมีปัจจัยและพารามิเตอร์กำหนดหลายอย่าง บ่อยครั้งเพลงดี แต่โชคร้าย คุณภาพการบันทึกเสียงไม่ดี ก็มีให้เห็นถมไป (ไม่ใช่ว่าเขาตั้งใจบันทึกมาไม่ดี) กระนั้น เพลงที่ดี ต่อให้บันทึกเสียงมาไม่ดี ยังไงก็ยังมีคนอยากฟัง...

ตรงกันข้าม แผ่นเสียงที่บันทึกมาดีเยี่ยมในระดับ audiophile แต่เป็นเพลงอะไรก็ไม่รู้ที่เป็นแนวที่เราไม่รู้จักและไม่ชอบฟัง เสียงดีจริง แต่เราจะซื้อเก็บไว้ฟังหรือ

ผมคนหนึ่งล่ะครับที่ไม่เก็บแผ่นพวกนี้ -- แผ่นที่บันทึกเสียงดี เป็นแผ่น audiophile แต่ไม่ใช่แนวที่ผมชอบ -- เคยหลงทาง "บ้า" อยู่พักหนึ่ง แต่นานมาแล้ว ในที่สุดก็ขายแผ่นพวกนี้ทิ้งหมด เช่น แผ่นอะไรไม่ทราบ จำชื่อไม่ได้แล้ว เป็นพวกเพลงแจ๊สส์เล่นในบาร์ มีเสียงแก้วเหล้าชนกัน ไม่รู้จะเก็บไว้ทำไม เพราะผมไม่ชอบเพลงแจ๊สส์ พวกบลูส์ผมก็ไม่ชอบ ต่อให้บันทึกเสียงดีขนาดไหน ผมก็ไม่เอา แต่ถ้าเป็นเพลงที่ชอบที่รู้จัก ต่อให้บันทึกเสียงมาไม่ดี ผมเจอผมก็เก็บ เพราะเชื่อว่าเครื่องเล่นดี หัวเข็มดี ก็สามารถดึงเสียงที่อยู่ในร่องออกมาได้อย่างดีที่สุดเท่าที่มันทำได้ แค่นั้นจบครับ
บันทึกการเข้า


Daybreak Painting by Maxfield Parrish
ปีศาจลายคราม
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 14349


Reap What You Sow


ดูรายละเอียด
« ตอบ #692 เมื่อ: 02 มิถุนายน 2023 | 10:29:50 AM »

ยุค 1990s นักฟังเพลงและนักสะสมเพลง (แผ่นเสียง, ซีดี) ต่างก็ทราบกันดีว่าเป็นยุคทองของซีดี ตลาดเพลงส่วนใหญ่เป็นของซีดี ร้านค้าก็ขายแต่ซีดี และแทบไม่มีที่ยืนให้แผ่นเสียง ใคร ๆ ในสมัยนั้นต่างพากันคิดว่าแผ่นเสียงคงจอดไม่ต้องแจว ไปต่อไม่ได้แล้ว...

ยุคนั้นผมชอบอ่านคอลัมน์ถาม-ตอบในหนังสือ (นิตยสาร) เครื่องเสียงฉบับหนึ่ง ซึ่งมักจะมีคนอ่านหรือคนเล่นเครื่องเสียงเขียนจดหมายไปถามบรรณาธิการเกี่ยวกับเครื่องเสียงกัน มีคนหนึ่งถามบรรณาธิการว่าเขาอยากจะเล่นแผ่นเสียง และยังมีแผ่นเสียงให้เล่นอยู่ไหม? บรรณาธิการก็ตอบว่ายังมีให้เล่นแน่นอน ทั้งเครื่องและแผ่นเสียง ยิ่งถ้ายอมลงทุนกับแผ่นเสียงที่ผลิตใหม่ (แผ่น 180 กรัม แผ่นรีอิชชู่) นะ (คนเล่น) จะไปได้สวยเลย...

จากคำตอบของผู้ตอบ วิเคราะห์ในมุมมองของนักเล่น audiophile ได้ว่า จะเล่นแผ่นเสียงให้ได้ดี ต้องยอมลงทุน (ใช้เงิน) โดยเฉพาะกับแผ่นที่ผลิตใหม่ แผ่นรีอิชชู่ ซึ่งราคาก็ว่ากันเป็นหลักพันขึ้นไป จะพันกว่า สองพัน หรือกี่พันก็แล้วแต่ ถ้าซื้อมาแล้ว เก็บกันได้เป็นร้อยปี คนฟังและหรือเจ้าของแผ่นจะตายเสียก่อน (ทั้งฮาทั้งเรื่องจริง ยิ้มกว้างๆ ยิงฟันยิ้ม) แผ่นเสียงเก่าที่ผมเก็บอยู่ส่วนใหญ่ก็มีอายุ 40-50 ปีขึ้นไป สภาพยังดีอยู่ แผ่นเสียงเป็นอะไรที่คนทั่วไปมองว่าแพงและสิ้นเปลือง แต่เป็นสื่อเก็บดนตรีที่ถาวรและยั่งยืน ขอเพียงแต่ดูแลรักษามันไว้ให้ดีก็พอครับ
บันทึกการเข้า


Daybreak Painting by Maxfield Parrish
ปีศาจลายคราม
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 14349


Reap What You Sow


ดูรายละเอียด
« ตอบ #693 เมื่อ: 14 กรกฎาคม 2023 | 09:43:41 AM »

ประเทศญี่ปุ่นเคยโดนมหันตภัยสึนามิ (tsunami) เล่นงานหลายครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งก็ได้สร้างความเสียหายให้แก่ทรัพย์สินทั้งของส่วนบุคคลและของรัฐ ตลอดจนชีวิตของประชาชนไม่มากก็น้อย และสึนามิครั้งรุนแรงครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2011 หรือ พ.ศ. 2554 ซึ่งเป็นปีที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ในบ้านเราในสมัยที่ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี

จากคลิปวีดิโอตามลิงค์ข้างล่างนี้โดย YouTube เมื่อเห็นกองทัพมวลน้ำมหึมาที่กวาดเอารถยนต์และรถบรรทุกให้ลอยไปเหมือนรถเด็กเล่น อีกทั้งยังดันบ้านเรือนที่ดูแข็งแรงให้พังพินาศย่อยยับได้ ผมรู้สึกสลดใจ และจินตนาการไปว่า บางบ้านหรืออาจจะหลายบ้านที่เขาเล่นแผ่นเสียงและเก็บแผ่นเสียงไว้ เมื่อเกิดสึนามิ แผ่นเสียงเหล่านั้นคงถูกสึนามิพัดเสียหายกลายเป็นขยะ ผมเชื่อว่าแผ่นเสียงจำนวนไม่น้อยในประเทศญี่ปุ่นต้องเสียหายและสูญเสียไปเพราะสึนามิครับ

https://www.youtube.com/watch?v=ULCheNmNxYI
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14 กรกฎาคม 2023 | 02:19:43 PM โดย ปีศาจลายคราม » บันทึกการเข้า


Daybreak Painting by Maxfield Parrish
ปีศาจลายคราม
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 14349


Reap What You Sow


ดูรายละเอียด
« ตอบ #694 เมื่อ: 14 กรกฎาคม 2023 | 03:35:28 PM »

ย้อนไปอ่านสองกระทู้ก่อน กระทู้แรกผมลงท้ายว่าแผ่นเสียงคือสื่อเก็บดนตรีที่ถาวรและยั่งยืน ขอเพียงแต่รักษามันไว้ให้ดี ส่วนกระทู้ต่อมาผมพูดถึงสึนามิที่คงจะสร้างความเสียหายให้แก่แผ่นเสียงที่เก็บไว้ตามบ้านเรือนของคนญี่ปุ่นที่โดนสึนามิถล่ม...

โอมเพี้ยง... ขอสึนามิจงอย่าได้มาเยือนกรุงเทพก็แล้วกันนะครับ ขยิบตา ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า


Daybreak Painting by Maxfield Parrish
ปีศาจลายคราม
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 14349


Reap What You Sow


ดูรายละเอียด
« ตอบ #695 เมื่อ: 04 กันยายน 2023 | 05:35:57 PM »

เคยรับทราบข้อมูลมาว่า แผ่นเสียงร่องที่อยู่รอบนอกจะมีคุณภาพเสียงดีกว่าร่องที่อยู่ด้านใน ยิ่งใกล้ label เท่าไร คุณภาพเสียงก็ยิ่งแย่ลงเท่านั้น เพราะร่องมันบีบอัดเล็กลง ผมก็ลองนั่งฟังอย่างตั้งใจ ถ้าจะให้บอกว่ามันเป็นอย่างที่เขาว่ามั้ย ผมว่าก็เป็นนะครับ รู้สึกได้ ไม่เช่นนั้นคงไม่มีคนพยายามออกแบบโทนอาร์มให้มีความยาวขนาดต่าง ๆ หรอก คือ ยิ่งยาวมาก เสียงเพี้ยนร่องใน ๆ ยิ่งลดลง โทนอาร์มความยาว 9 นิ้ว กับโทนอาร์ม 12 นิ้ว ให้คุณภาพเสียงต่างกัน ราคาก็มักจะต่างกัน คือ ยาวกว่า ย่อมแพงกว่า โทนอาร์มที่เดินเป็นเส้นตรง หรือ linear tracking tonearm เช่น Eminent Technology 2 เหล่านี้ ล้วนถูกสร้างขึ้นเพื่อจัดการกับปัญหาความเพี้ยนจากร่องเสียงด้านใน แต่ในความเป็นจริงไม่อาจจัดการกับความเพี้ยนของร่องในสุดได้ 100% บางท่านอาจจะเคยได้ยินเสียงบ่นจากเพื่อนที่เล่นแผ่นเสียงด้วยกันว่า เสียงมักจะแตกพร่า เมื่ออาร์มขยับเข้าไปร่องในของแผ่นเสียง นั่นแสดงว่าเสียงได้เกิดความพร่าเพี้ยนขึ้นแล้ว ถ้าเซ็ตอัพหัวเข็มไว้อย่างถูกต้องก็ไม่น่าจะกังวล เพราะเป็นข้อจำกัดของโทนอาร์มขนาดสั้น จนกว่าจะได้เครื่องเล่นใหม่และหรืออาร์มใหม่ที่มีคุณสมบัติเหนือกว่าของเดิม ก็จะได้เสียงที่มีคุณภาพยิ่งขึ้น (ตามราคาที่จ่าย) ขอสรุปตรงนี้ว่า ทุกครั้งที่ฟังแผ่นเสียง เราฟังเพลง ไม่ได้ฟังเครื่อง ข้อบกพร่องอาจมีบ้างในทุกเครื่อง ไม่มีอะไรในโลกสมบูรณ์ 100% ลืม ๆ มันเสียบ้าง แล้วปล่อยอารมณ์ไปกับเพลงที่เราฟังครับ
บันทึกการเข้า


Daybreak Painting by Maxfield Parrish
ปีศาจลายคราม
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 14349


Reap What You Sow


ดูรายละเอียด
« ตอบ #696 เมื่อ: 05 กันยายน 2023 | 05:27:18 PM »

ในกระทู้ก่อนผมได้พูดถึงความแตกต่างของคุณภาพเสียงระหว่างร่องนอกกับร่องในของแผ่นเสียงไปโดยคร่าว ๆ แล้ว โดยสรุปคือ ร่องที่อยู่ด้านใน ยิ่งใกล้ label คุณภาพเสียงยิ่งลดลง เพราะร่องจะแคบลงไปเรื่อย ๆ เพลง Hoedown ของ Emerson Lake & Palmer ในอัลบั้มชุด Trilogy เป็นเพลงสุดท้ายในหน้าแรกของแผ่นเสียงและเป็นแทร็คในสุด เมื่อฟังเทียบกับชุดรวมเพลง The Best of Emerson Lake & Palmer ซึ่งเพลง Hoedown ถูกวางเป็นเพลงแรกของหน้าแรก เพลง Hoedown ของชุดรวมเพลงเสียงดีกว่า Hoedown ในชุด Trilogy อย่างเห็นได้ชัด ผมไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องของร่องนอก-ร่องในของแผ่นเสียงหรือเปล่า หรือ material ในอัลบั้มชุด The Best of... อาจถูกนำมารีมาสเตอร์ให้เสียงดีขึ้นก็ได้ จึงเพียงแต่ตั้งไว้ให้เป็นข้อสังเกตเท่านั้นครับ

ปัญหาเรื่องร่องนอก-ร่องในของแผ่นเสียงนี่เป็นเรื่องท้าทายของวิศวกรผลิตแผ่นเสียงและ producer ซึ่งโดยมากหรือโดยทั่วไป ถ้าเป็นการ play safe พวกเขามักจะนำเอาเพลงที่คิดว่าจะฮิตติดตลาดหรือเป็นเพลงเอกของอัลบั้มไปไว้ในร่องแรกของแผ่นเสียง ไม่ว่าจะเป็นหน้าแรกหรือหน้าสองก็ตาม แต่ก็เห็นอยู่บ่อย ๆ ว่ามี producer หรือ engineer บางคนนำเพลงที่ (คิดว่าจะ) ฮิตหรือเพลงที่คนฟังอยากฟังไปไว้ในร่องสุดท้ายของแผ่น มีไม่น้อยนะครับที่ทำอย่างนี้ ลองช่วยกันนึกดู ที่ผมนึกออกตอนนี้ก็อัลบั้มชุด Toto IV อัลบั้มที่ได้รับรางวัล (ไม่แน่ใจว่าเป็นรางวัลแกรมมี่หรือเปล่า) ซึ่งเพลงสุดฮิตที่ใคร ๆ ก็รู้จัก คือ Africa ถูกนำไปวางไว้เป็นเพลงสุดท้ายของอัลบั้มและอยู่ในหน้า 2 หรือหน้า B ของแผ่นเสียง ผมว่าคนจะทำเช่นนี้ได้ มือต้องถึงและเข้าใจจิตวิทยาคนฟังด้วยอีกต่างหาก เพราะการนำเอาเพลงเด่น เพลงดัง ไปไว้ท้ายอัลบั้ม เท่ากับเรียกให้คนฟังต้องฟังเพลงอื่น ๆ ก่อนที่จะไปถึงเพลงที่เป็นไฮไลต์ที่คนฟังอยากฟัง และยิ่งถ้าจัดการให้ร่องในสุดมีปัญหาเรื่องคุณภาพเสียงให้น้อยที่สุด ก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงฝีมือของ engineer และ producer ผู้นั้นด้วยครับ ผมอาจจะมั่วก็ได้ แต่ผมคิดอย่างที่ว่ามานี้ครับ 5555 ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า


Daybreak Painting by Maxfield Parrish
ปีศาจลายคราม
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 14349


Reap What You Sow


ดูรายละเอียด
« ตอบ #697 เมื่อ: 07 กันยายน 2023 | 09:02:10 AM »

จากกระทู้สองข้อก่อน สรุปได้ว่า แม้แต่แผ่นเสียงเองก็ยังเป็นสื่อดนตรีที่มีข้อจำกัด และไม่ถือว่าดีที่สุดในฟากฝั่งอนาล็อก แล้วอะไรที่เป็นฟอร์แมทที่ดีกว่าแผ่นเสียง? ผมคิดว่าคำตอบคือเทปรีล หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า reel-to-reel หรือ open reel tape ครับ แต่ถึงแม้จะดีกว่าแผ่นเสียงในแง่คุณภาพเสียงโดยรวมที่ดีกว่า มีความต่อเนื่องลื่นไหลและความเพี้ยนที่ต่ำกว่า เทปรีลก็ยังมีข้อจำกัดบางประการ เช่น ความแพงของเครื่องเล่น เพราะถ้าจะเอาให้เหนือชั้นกว่าหรือกินขาดแผ่นเสียง เครื่องเล่นเทปต้องดี เที่ยงตรง และความเที่ยงตรงมักจะมาพร้อมความแพง ถ้าอยากจะเห็นความเหนือชั้นของไฮไฟ ผมว่าต้องตั้งงบไว้อย่างน้อยสักสองสามแสนจึงจะเห็นเนื้อเห็นหนัง และข้อจำกัดประการต่อมาของเทปคือความ practical หรือการเล่นในทางปฏิบัติ โดยเฉพาะม้วนเทปเพลงที่จำหน่ายกันอยู่นั้น มีไม่มากที่จะให้หาซื้อมาเล่น และราคามักจะแพงถึงแพงมาก เทปอัลบั้มชุดหนึ่งราคาเป็นหลักหมื่น ผมว่าคนจะเล่นเทปรีลได้นี่ นอกจากจะมีใจรัก มีความบ้าพอที่จะเล่นแล้ว ยังจะต้องมีเงินเหลือใช้ด้วย ซึ่งคุณสมบัติประการหลังสุดนี่สำคัญและจำเป็นที่สุด และผมก็กำลังรอมันอยู่ "คงจะมีสักวัน" และหวังว่าวันนั้นคงจะมาถึงครับ 5555 ยิ้มกว้างๆ ยิงฟันยิ้ม

https://www.theverge.com/2015/10/5/9409563/reel-to-reel-tape-retro-audio-trend
บันทึกการเข้า


Daybreak Painting by Maxfield Parrish
ปีศาจลายคราม
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 14349


Reap What You Sow


ดูรายละเอียด
« ตอบ #698 เมื่อ: 25 กันยายน 2023 | 11:02:44 AM »

เวลาดูหนังผมมักจะรู้สึกดีเมื่อได้เห็นแผ่นเสียงและเครื่องเล่นแผ่นเสียงเข้าฉากในหนังเรื่องนั้น ๆ ด้วย อย่างเมื่อสองสามวันที่ผ่านมานี้เผอิญได้ดูหนังเรื่อง Nobody (2021) ซึ่งเป็นหนังบู๊แนว John Wick ตอนแรกก็ไม่ตั้งใจจะดู เพราะฉากแรก ๆ ปูพื้นดูเอื่อย ๆ เนิบ ๆ แต่ค่อย ๆ เริ่มมันส์ตอนใกล้ถึงกลางเรื่อง และมีฉากที่เห็นแผ่นเสียงและเครื่องเล่นแผ่นเสียงในบ้านพระเอกอยู่ 2-3 ฉาก แต่เสียดายที่ฉากสุดท้ายแผ่นเสียงและเครื่องเล่นแผ่นเสียงรวมทั้งบ้านโดนพระเอกเผาวอดวายหมดเลยครับ

https://www.imdb.com/title/tt7888964/?ref_=nv_sr_srsg_0_tt_8_nm_0_q_nobody
บันทึกการเข้า


Daybreak Painting by Maxfield Parrish
ปีศาจลายคราม
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 14349


Reap What You Sow


ดูรายละเอียด
« ตอบ #699 เมื่อ: 27 กันยายน 2023 | 11:51:19 AM »

ซื้อแผ่นเสียงในเฟซบุ๊กบางทีก็มีอะไรให้เห็นแปลก ๆ โดยเฉพาะในเรื่องราคาแผ่นเสียง แต่อันนี้ก็ว่าไม่ได้ เพราะขึ้นอยู่กับผู้ขายว่าจะตั้งราคาแต่ละแผ่นที่ขายไว้เท่าไหร่ คนจะซื้อต้องค่อย ๆ พิจารณาดูดี ๆ ผมเคยซื้อแผ่นเสียงของ ABBA 2 แผ่น ซึ่งเป็นแผ่นญี่ปุ่นมี obi จากผู้ขายรายหนึ่ง ในราคาแผ่นละ 250 บาท ต่อมามีผู้ขายอีกรายหนึ่งนำเอาแผ่นอย่างที่ผมเคยซื้อนี้มาลงขาย แต่ไม่มี obi และขายในราคาแผ่นละ 500 บาท ซึ่งแพงกว่าที่ผมเคยซื้อเป็นเท่าตัว...

อืมม์... ขายแพงกว่า แถมไม่มี obi ด้วย แต่ก็ช่างเถอะ เพราะทุกวันนี้ผมไม่ซื้อแผ่นญี่ปุ่นที่ไม่มี obi อยู่แล้วครับ 5555
บันทึกการเข้า


Daybreak Painting by Maxfield Parrish
ปีศาจลายคราม
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 14349


Reap What You Sow


ดูรายละเอียด
« ตอบ #700 เมื่อ: 27 กันยายน 2023 | 03:24:34 PM »

เมื่อมองย้อนหลังไป 3 ทศวรรษ หรือประมาณ 30 ปีกว่า ๆ ตีเสียว่าเป็นต้นยุค 1990s หรือประมาณปี 2533-2534 ตอนนั้นใคร ๆ ต่างพากันคิดว่าแผ่นเสียงจะต้องตายสนิทแน่นอน เพราะมีซีดีมาแทนที่ ตอนนั้นผมทำงานประจำมาได้ประมาณ 2 ปีแล้ว เริ่มเล่นเครื่องเสียง ซื้อ integrated amp ลำโพง และเครื่องเล่นซีดีชุดแรกในชีวิตของการเล่นเครื่องเสียงอย่างจริงจัง แต่ไม่คิดจะทอดทิ้งแผ่นเสียง จึงหาเครื่องเล่นแผ่นเสียงรุ่นเล็ก ๆ ของ Sansui และต่อมาเป็นเครื่องระบบ direct drive ยี่ห้อ Technics เอามาไว้ในระบบเครื่องเสียงด้วย ซึ่งในขณะนั้นเป็นยุค "ซีดีครองเมือง" ผมเดินหาซื้อแผ่นเสียงย่านสะพานเหล็กและตามที่ต่าง ๆ หลายแห่ง เชื่อไหมครับว่าแทบไม่ได้แผ่นแนวที่ตัวเองต้องการเลย (pop, rock, progressive rock) มีแต่พวกแนวสตริงของไทย นึกแล้วก็เจ็บใจ ถ้าตอนนั้นผมมีวิสัยทัศน์ไกลซะหน่อย จะเก็บแต่แผ่นเสียงเพลงไทย ซึ่งซื้อขายกันในขณะนั้นแผ่นละเป็นหลักร้อยเท่านั้น บางแผ่นราคาร้อยห้าสิบ สองร้อย ฯลฯ สภาพใหม่ ๆ เก็บไว้แล้วมาปล่อยขายในยุคนี้ บางอัลบั้มได้ราคาหลายพันหรืออาจจะเป็นหมื่น อย่างที่เขาขายกันในเฟซบุ๊ก แล้วตอนนั้นแผ่นเสียงอัลบั้มที่ผมต้องการหรืออยากได้ ไม่รู้มันหายไปไหนหมด หาซื้อยากมาก หรือว่าผมไม่รู้แหล่งซื้อเองก็มิอาจทราบได้... ลำบากครับ เริ่มเล่นแผ่นเสียงในยุคของซีดี และเริ่มซื้อหาสะดวกขึ้นหน่อยก็ตอนที่มีอินเทอร์เน็ต มีอีเบย์ และเว็บขายแผ่นเสียงออนไลน์ สั่งซื้อจากเมืองนอกเลย ในเมื่อที่เมืองไทยหาได้ยากนัก จนกระทั่งมีเฟซบุ๊ก คนก็ไปซื้อขายแผ่นเสียงในเฟซบุ๊กกันมากขึ้น ประกอบกับเป็นยุคการกลับมาของแผ่นเสียง เมื่อลมพัดหวน ซึ่งเล่นกันทั้งคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ ใครมีแผ่นเสียงเก็บไว้แล้วต้นทุนก็ดีหน่อย ส่วนใครที่เพิ่งเริ่มเล่นแต่พอมีต้นทุน อนาคตก็พอไปได้สวย แผ่นเสียงที่ซื้อขายกันในยุคนี้ ถ้าเป็นอัลบั้มหรือผลงานหัว ๆ และเป็นแผ่นปั๊มแรก โดยมากราคาแพง มีทั้งแผ่นรุ่นเก่าและแผ่นผลิตใหม่ แผ่น reissue พากันออกสู่ท้องตลาด ผมว่าเป็นยุคที่มีสีสันของการเล่นแผ่นเสียง ซึ่งไม่แต่เฉพาะคนรุ่นเก่าเท่านั้น หากแต่คนรุ่นใหม่ยังสนใจเล่นแผ่นเสียงด้วย ก็ดูกันต่อไปครับว่ากระแสการเล่นแผ่นเสียงจะคงอยู่ต่อไปอีกนานเท่าใด
บันทึกการเข้า


Daybreak Painting by Maxfield Parrish
ปีศาจลายคราม
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 14349


Reap What You Sow


ดูรายละเอียด
« ตอบ #701 เมื่อ: 28 กันยายน 2023 | 10:25:50 AM »

ResurRec ว่ากันว่าเป็นโรงงานผลิตแผ่นเสียงแห่งเดียวที่มีอยู่ในประเทศไทยในขณะนี้ ในขณะที่แผ่นเสียงของศิลปินและวงดนตรีในบ้านเราส่วนใหญ่ส่งมาสเตอร์ไปปั๊มทำแผ่นรีอิชชู่กันใหม่ที่โรงงานต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เยอรมนี ครับ

https://www.facebook.com/resurrecvinyl/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 กันยายน 2023 | 04:02:51 PM โดย ปีศาจลายคราม » บันทึกการเข้า


Daybreak Painting by Maxfield Parrish
ปีศาจลายคราม
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 14349


Reap What You Sow


ดูรายละเอียด
« ตอบ #702 เมื่อ: 28 กันยายน 2023 | 06:34:53 PM »

ป๋าเต็ด (ยุทธนา บุญอ้อม) พาบุกโรงงานทำแผ่นเสียง ResurRec เพื่อดูกรรมวิธีผลิตไวนิล ขอบคุณ YouTube ครับ

https://www.youtube.com/watch?v=0GCOVVjV2e0
บันทึกการเข้า


Daybreak Painting by Maxfield Parrish
ปีศาจลายคราม
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 14349


Reap What You Sow


ดูรายละเอียด
« ตอบ #703 เมื่อ: 28 กันยายน 2023 | 06:56:19 PM »

เผลอแป๊บเดียว วงการแผ่นเสียงของไทยเราพัฒนาไปไกลเสียจนกระทั่งมีเครื่องเล่นแผ่นเสียงของไทยยี่ห้อ Gadhouse แล้ว ผมจึงขอนำคลิปรีวิวเปรียบเทียบเครื่องเล่นแผ่นของ Gadhouse สองรุ่นด้วยกัน คือ Mathis ซึ่งเป็นรุ่นเรือธงในขณะนี้ และรุ่น Henry ซึ่งเป็นรุ่นเล็กกว่า มาให้ชมกัน เห็นสนนราคาของรุ่น Mathis ผ่าน ๆ ตา น่าจะอยู่ที่หมื่นกลาง ๆ สองรุ่นนี้สามารถต่อลำโพงโดยตรงเพื่อเล่นได้เลยและมีฟีเจอร์อื่น ๆ ที่เข้ากันได้กับสื่อดิจิทัลในปัจจุบัน ดูหุ่นแล้วผมนึกถึงเครื่องเล่นแผ่นเสียงของเมืองนอกบางยี่ห้อ เช่น Rega, Pro-Ject ก็นับเป็นนิมิตหมายอันดีที่ไทยเรามีเครื่องเล่นแผ่นเสียงยี่ห้อของตัวเองแล้ว และหวังว่าในอนาคตคงจะพัฒนาออกรุ่นอื่น ๆ ที่สูงขึ้นไปหรือไฮเอนด์ออกมาอวดโฉมนักเล่นนักฟังกัน ขอสนับสนุนสินค้าของไทย ขอบคุณ YouTube ครับ

https://www.youtube.com/watch?v=mHgRswH97d0
บันทึกการเข้า


Daybreak Painting by Maxfield Parrish
ปีศาจลายคราม
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 14349


Reap What You Sow


ดูรายละเอียด
« ตอบ #704 เมื่อ: 21 พฤศจิกายน 2023 | 02:37:28 PM »

ปีนี้วงการแผ่นดำของไทยคึกคักกันมาก มีการนำอัลบั้มเพลงไทยเก่า ๆ หลายชุดมารีอิชชู่เป็นแผ่นเสียงกันใหม่ และบางชุดก็ขายหมดอย่างรวดเร็ว (ไปอยู่ในมือพ่อค้าเพื่อเก็งกำไร) ส่วนตัวผมเฉย ๆ ถ้าเป็นเพลงไทย โดยเฉพาะพวกเพลงสตริง ผมจะซื้อเฉพาะชุดที่ชอบจริง ๆ เท่านั้น อีกไม่ถึงสองเดือนก็จะหมดปีเก่าแล้ว เดี๋ยวมาดูกันว่าปีหน้าจะมีทีเด็ดอะไรออกมาอีก แต่ที่แน่ ๆ ผมจองแผ่นเสียงรีอิชชู่ชุด Butterfly I (ยุโรป) และ Butterfly II ของ Butterfly ไว้กับร้านขาประจำแล้ว กำหนดออกประมาณช่วงต้นปีหน้า ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดนะครับ
บันทึกการเข้า


Daybreak Painting by Maxfield Parrish
หน้า: 1 ... 45 46 [47] 48
พิมพ์
กระโดดไป:  

ThaiProg.net Ver 4.0 by tisanai,Shineon,kongbei
Top 10 Best Sellers in Kindle eBooks Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers In Automotive Parts And Accessories Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers in Tools and Home Improvement Under $10, Reviewer 2016
Top 10 Best Sellers in Clothing for 2017 Top 10 Best Sellers in Clothing Best Sellers in Clothing
Top 10 Best Sellers in Books reviewer 2017 Top 10 Best Sellers in Books Best Sellers in Books
Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Reviewer 2017 Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Best Sellers In Grocery