ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
การค้นหาขั้นสูง

149685 กระทู้ ใน 4435 หัวข้อ- โดย 847 สมาชิก - สมาชิกล่าสุด: axlrose

02 พฤษภาคม 2024 | 05:05:17 PM
Thai Progressive Rock CommunityThaiProgKeep Talkingรายงานสด Dream Theater Live in Bangkok ๑๙ มกราคม ๒๕๕๑
หน้า: [1] 2 3
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: รายงานสด Dream Theater Live in Bangkok ๑๙ มกราคม ๒๕๕๑  (อ่าน 16148 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เพชร วิปลาส
Oxygene
********
เพศ: ชาย
กระทู้: 2982


วันนี้จะฟังเพลงอะไรดีน้อ...


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 20 มกราคม 2008 | 08:48:44 AM »

สัญญาไว้กับคุณ mushroomcloud เมื่อหลายวันก่อน
ผมก็ขอมารีวิวคอนเสิร์ตนี้เอามันครับ       

ปล. เอาเสื่อมานั่งแล้วก็หาอะไรมากินด้วยก็ได้ครับ เพราะยาวมากๆหรือใครขี้เกียจอ่านก็ข้ามไปอ่านกระทู้อื่นก่อนแล้ววันหลังค่อยกลับมาใหม่ก็ได้ครับ เพราะตอนผมเขียนมันพรั่งพรูและพร่ำเพ้อไปนิดนึง

ผมเริ่มต้นวันนี้ด้วยการไปร่วมกิจกรรม Meet and Greet (จริงๆงานปั้มมือต่างหาก) ที่ร้าน Overtone ของอาจารย์ปราชญ์ประมาณบ่ายสามโมง ผมไปก่อนเวลานิดนึงก็เจอเจ้าหน้าที่กรมแรงงานเอาพาสสปอตกับเวิร์กเพอมิตมาเช็ค ตอนนั้นพยายามจะแอบดูข้อมูลส่วนตัวของเค้าครับว่าจริงๆแล้วน้าเมียงกับน้าจอร์แดนมีเชื้อสายอะไรกันแน่แต่ไม่กล้าขอเค้าครับ กลัวเค้าด่าเช็ดเพราะว่าเค้ามาทำงานและก็เป็นเอกสารส่วนตัวของพวกเค้าก็เลยได้แค่แอบมองตอนเค้าเปิดเช็คดูข้อมูล (ผมเคยทราบมาว่าน้าเมียงเป็นคนเกาหลีหรือเวียดนามนี่แหละส่วนน้าจอร์แดนเป็นคนอิสราเอล ใครรู้จริงก็บอกผมด้วย) แต่พยายามเล็งอยู่นานก็แห้วครับ ดังนั้นความสงสัยจึงยังคงอยู่ต่อไป

15:24 น. กับอีก 20 วินาที ทางวงก็มาถึงที่ร้านครับ เหล่าสาวกก็ตั้งแถวรอรับกันนิดหน่อย ทางวงแต่งตัวกันแบบตามสบายมากๆ ถึงมากที่สุด น้าเจมส์มาในเสื้อยืดสีขาวกางเกงยีนส์ขาสั้น น้าเมียงมาชุดดำทั้งชุดเหมือนเดิม น้าจอร์แดนมากับหมวกแ๊ก๊บสีดำเสื้อยืดกางเกงยีนส์ ดูแล้วไม่น่าเชื่อว่าอายุ 51 แล้วนะเนี่ย น้าเปตรุตซี่เท่โคตรๆมัดผมใส่แว่นดำ ส่วนน้าไมค์ก็เแต่งมาชุดแบบเด็กแนวเด็กฮิพฮอพ
พักกันซักพัก 15:43 กับอีก 26 วินาทีทางวงก็เดินมานั่งประจำที่

 John Petrucci ให้สัมภาษณ์เล็กๆน้อยๆ ซึ่งแทงกั๊กอีกแล้วว่าจะมาครั้งที่ 3 หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับพลังของสาวกเมืองไทยว่าจะเร่งเร้าเค้าได้ขนาดไหน หลังจากนั้นก็เข้าสู่พิธีการปั๊มมือครับ

ผมสังเกตอากัปกิริยาของแต่ละคนแล้วดูเป็นมิตรดีครับ นึกว่าจะออกเถื่อนๆ แต่น้าเจมส์แกออกแนวพวกติสต์แตกนิดๆ ทำหน้าบึ้งตึงมองเพดานมองกำแพง แต่อยู่ดีๆก็แยกเขี้ยวซะงั้น น้าจอร์แดนก็ยิ้มอารมณ์ดีโบกไม้โบกมือตลอด แต่น้าJohn Petrucciกับ Portnoy นั่งเก๊กทั้งงาน ส่วนน้าเมียงนั่งมือประสานยิ้มๆ ไม่พูดกับใครทั้งงานเช่นกัน ดูช่างสงบเสงี่ยมเจียมตัวดีแท้


ตอนปั๊มอนุญาตให้เข้าใกล้ได้ สาวกก็กรูกันเข้าไป จนทางทีมงานช่างกล้องของโอเวอร์ไดรฟ์ถ่ายรูปไม่ถนัดกันเลยทีเดียว

มาเร็วไปเร็วครับ 15:56 น. กับอีก 30 วินาทีก็กลับโรงแรมเตรียมตัวทำ sound check
ปล. รูปไม่ค่อยชัดนะครับ เพราะมือสั่น มันตื่นเต้นน่ะครับ เพราะเจอตัวเป็นๆในระยะที่ใกล้มากๆ
เดี๋ยวมาต่อกันกับภาคที่ 2 ในส่วนของคอนเสิร์ตกันครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22 มกราคม 2008 | 03:18:24 PM โดย crazy diamond » บันทึกการเข้า


เป็นความทรงจำดีๆที่ครั้งนึงเราเคยไปถึงแกรมมี่มาแล้ว...

เชิญชม collection โมเดลของผม  
ขายซีดี, ดีวีดีเพลง  .  .
kongbei
Administrator
The Snow Goose
*****
เพศ: ชาย
กระทู้: 6534


ขงปี่

pink_floyd@thaiprog.net
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 20 มกราคม 2008 | 08:57:39 AM »

ตอนนั้นผมและสหาย ไปดู Across The Universe ครับ ซึ่งถือว่าคุ้มเช่นกันครับ
บันทึกการเข้า
เพชร วิปลาส
Oxygene
********
เพศ: ชาย
กระทู้: 2982


วันนี้จะฟังเพลงอะไรดีน้อ...


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 20 มกราคม 2008 | 11:07:19 AM »

ภาคต่อครับ ในส่วนของคอนเสิร์ต

หลังจากไป meet and greet เรียบร้อบแล้วก็ตรงดิ่งไปสวนลุมทันทีกะไปเอาบรรยากาศครับ แต่รู้สึกจะถึงเร็วไปหน่อย ประมาณ 4โมงกว่าๆเนี่ย คนยังไม่มากันเลยแทบจะนับหัวได้เลยครับ

แต่แล้วอยู่ดีๆก็มีชาวญี่ปุ่นมาทักผมครับ เค้าชื่อนายโคจิ บอกว่าเป็นแฟนดรีมเข้าสายเลือดว่าแล้วก็งัดหลักฐานออกมาให้ดูเป็นรูปถ่ายกับวง, คลิปที่แอบถ่ายมาแล้วก็บัตรคอนเสิร์ตที่ดูแล้วผมก็คงไม่ต้องบรรยายอะไรมากว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้จริงๆ

บรรยากาศในงานเรียบง่ายมากๆ จนแทบจะพูดได้ว่าไมมีอะไรเลย นอกจากโปสเตอร์แปะตามเสาและกำแพง มีแผงหนังสือและซีดีของทางโอเวอร์ไดรฟ์ ปีนี้ไม่มีงานของดรีมมาขายแฮะ แต่ว่ามีของที่ระลึกเป็นเสื้อทัวร์2ลายกับwrisband ผมเลือกถอยเสื้อที่เป็นปกซีดีมาหนึ่งตัว พร้อมถอนหายใจ ได้กินมาม่าเป็นเพื่อนพี่ไม่ประสงค์ออกนามอีกคนครับ

ร่วมๆทุ่มนึงคนก็ต่อแนวกันเพื่อแลก wrisband เพื่อจะเข้างาน อันนี้ผมขอตำหนิทางผู้จัดนิดนึงนะครับ ว่าทำไมแลก wrisband ได้แล้วต้องกลับไปต่อแถวจากด้านหลังเพื่อเข้างานอีกทีด้วยละ (เฟ้ย) เดินกลับไปกลับมามันก็ยิ่งมั่ว เพราะว่าตอนนั้นคนมารุมดูทางคุณเอ๋ วิซาร์ดเค้ามาเป็น Presenter ลองแอมป์กีตาร์เพื่อส่งเสริมการขายอยู่

ที่ฮาสุดๆครับมีชาวต่างประเทศ 2 คนเอาบัตร Maroon 5 มาต่อคิวเข้าดูคอนเสิร์ต บ้าหรือเมาครับเนี่ย ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย....

ตอนตรวจคนเข้าเมือง เอ้ย..เข้างานไม่ค่อยเข้มเหมือนครั้งก่อนเลยนะครับ ผมเดินเข้าไปโดนเจ้าหน้าที่ตรวจแค่พุงเท่านั้น ไม่เห็นเหมือนคราวที่แล้วที่บังคับดูของในกระเป๋ากางเกงด้วย ผมเห็นคนถือกล้องเข้าไปในงานเต็มเลย รู้งี้เอามามั่งดีกว่า

สักทุ่มนิดๆก็ปล่อยคนเข้าไปยืนรอ ผมก็ยึดที่พึ่งทางด้านหน้าทันที รู้สึกเหมือนผมมั้ยว่ามันใกล้มากๆเหมือนมีดรีม เธียเตอร์มาเล่นให้ฟังที่บ้านเลยฮิๆ
ในส่วนของเวทียังขึงผ้าดำบังเวทีไว้เหมือนเคยครับ มีคนดูแลเครื่องเสียงของทางวงมาเล่นกับคนดูเป็นระยะ ไม่ว่าจะเป็นดีดกีตาร์ หรือเขย่าม่านหลอกๆ ซึ่งทำให้สาวกที่รออยู่ถึงกับครึกครื้นขึ้นมาทันที

2ทุ่มนิดๆเพลงสรรเสริญพระบารมีก็ดังขึ้น ชาวไทยร่วมใจกันร้อง จากนั้นไปก็ดับลง พร้อมกับเงาตะคุ่มๆของทีมงานที่ยกม่านออกไป
ยังครับทางวงยังไม่ขึ้นมา แต่ว่าบนเวทีมีการฉายวีดีโอไล่ประวัติทางวงจาก Studio อัลบั้มมาจนถึงชุดล่าสุดเป็นการเรียกน้ำย่อย
แล้วก็ตูม!!! สมาชิกในวงออกมาเริ่มด้วย 1. Constant Motion โดยมีมิวสิควิดีโอที่เป็นการ์ตูนอยู่ข้างหลัง
เอาแล้วไงครับผมได้ยินเสียงน้าเจมส์เบามาก แกะได้ว่า ฮัลโหลบางกอก ย้า........

น้าเจมส์ระเบิดพลังคอสโม่

ในส่วนของอุปกรณ์จอห์น เมียงมากับเบสตัวใหม่ที่ไม่ใช่ยามาฮ่า สีดำสวยมาก, ไมค์ พอร์ตนอยกลองมาไม่ครบมีแค่ 2 ถัง, น้าจอร์แดนมีคีย์บอร์ดกับ Continum finger เหมือนคราวที่แล้ว, จอห์น เปตรุตซี่ มากับกีตาร์ตัวใหม่ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่าสวยมากๆ ส่วนน้าเจมส์แกเล่นกับขาไมค์ทั้งทั้งงาน พาลจะกลัวไปฟาดหัวเพื่อนๆในบางจังหวะ
ในส่วนของซาวน์ผมไม่ค่อยได้ยินเสียงกระเดื่องกับเบสชัดนัก คีย์บอร์ดจะมาชัดๆเอาตอนโซโล่ เสียงร้องก็เบา เซ็งนิดๆ เพราะคราวที่แล้วผมอยู้ไกลกว่านี้เสียงเจมส์ชัดและเทพมากๆ แต่กีตาร์นี้มาทุกเม็ดทุกเสียง

รู้สึกเหมือนผมมั้ยครับว่าถ้าเราเลือกดู John Petrucci เนี่ยเราจะเสียโอกาสในการดูอีก 4 คนที่เหลือ เพราะแกยืนห่างจากเพื่อนพ้องค่อนข้างเยอะ ถ้าอยากดูแบบครบองค์สงสัยตาจะเหล่ฮะ แต่ก็ยังดีที่ถ้าเป็นช่วงโซโล่ยาวๆที่ไม่ต้องเปลี่ยนซาวน์กีตาร์แกจะมายืนตรงกลางให้เลย ได้ใจผมไปเต็มๆอีกหนึ่งดอก สังเกตให้ดีมีที่เหยียบที่ให้เสียงแบบวาวๆกลางเวทีให้ด้วย (ถ้าผิดขอโทษด้วยครับ ผมไม่เล่นดนตรีเลยไม่รู้จักอุปกรณ์ครับ)


แล้วก็อัดแหลกไม่พูดไม่จาตาม set list
2.Never enough - 7:00
ตอนนี้ผมเริ่มเหลือบไปมองด้านบนที่เป็นวีไอพีพลางคิดในใจว่ามันจะมันเท่าข้างล่างได้ไงฟะเนี่ย เพราะผมเริ่มจะมันจนขาดสติแล้ว เห็นบางคนเริ่มออกมายืนตรงขอบๆไม่นั่งกันแล้ว
3.Surrounded - 13:00
Improvise พอหอมปากหอมคอ พอได้ยินโน๊ตท่อนอินโทรอันคุ้นหูก็เฮกันลั่นเลยครับตอนขึ้นมา นึกถึงบรรยากาศในดีวีดี Live in Tokyo ขึ้นมาทันใด
เพลงนี้ช่วงท่อนโซโล่อยู่ดีน้าจอร์แดนก็วิ่งมาหน้าเวทีพร้อมกับสิ่งนี้


หลังจากน้าจอร์แดนทำการแจมกับ Petrucci พักนึง เจมส์กลับมาร้องต่ออีกนิด John Petrucci ก็ดำเนินการ Improvise ยาวเหยียดโดยมีการแทรกเพลง Mother ของพิงค์ฟลอยด์พร้อมกับภาพกำแพงด้านหลัง

สำหรับคนอยากดูทั้งภาพและเสียงจริง
http://uk.youtube.com/watch?v=Xqn-Kx_ko0Q
ถูกใจน้องๆในบอร์ดแน่นอนครับ เห็นตะโกน "the wall" ,  "David Gilmour" กันใหญ่

4.The dark eternal night - 9:00 ในช่วงอินโทรมีการแทรก Riff A Passage to Bangkok ของวง Rush (เนียนมากๆ) ไม่รู้ว่าเอาใจคนไทยตรงชื่อเพลงหรือว่าต้องการสดุดีวงโปรด (น่าจะเป็นอย่างหลังนะ) ในเพลงนี้มีมิวสิควิดีโอเป็นการ์ตูนลายเส้นเดียวกับชุด Octavatium animation  เรื่องราวก็ประมาณมีปิศาจมาจับตัวชาวบ้านไป เหล่าสมาชิกดรีมเห็นเข้าก็เลยเข้าไปช่วย แต่ละคนมีพลังพิเศษเป็นของตัวเอง น่าติดตามทีเดียวครับ ที่แน่ๆคือเรียกเสียงฮือฮาจากแฟนๆได้เยอะทีเดียวครับ โดยเฉพาะฉากปราบปีศาจ (ไม่ใช่ปีศาจลายครามนะครับ)

ช่วงท้ายของเพลงนี้ น้าจอร์แดนขยี้ Continum finger board อย่างเมามันและโดดเด่นเป็นสง่าอยู่คนเดียว

5.Lines in the sand - 15:00 เรียกวันเวลาเก่าๆได้ดีทีเดียวครับ ผมสังเกตเห็นว่าน้าจอร์แดนแกจะส่งซิกกับ John Petrucci ขณะเล่นกันตลอดประมาณว่ากีตาร์เอ็งดังไปนาเว้ย เอาลงหน่อยดิ ส่วน Portnoy ก็จะเล่นกับคนดูตลอดไม่ว่าผุดลุกผุดนั่ง หรือโยนไม้กลองให้กับคนดู (คนที่ได้ไม้กลองไปเป็นเด็กชาวต่างประเทศคนนึง ได้ไปตั้ง 2 อัน ไมค์เองยังแอบยิ้มเลย คงสงสัยว่าทำไมตูโยนไปที่เดิมทุกทีฟะ

6.Forsaken - 6:00 มีมิวสิควิดีโอออกแนวการ์ตูนญี่ปุ่นเลยครับ เรื่องราวประมาณพระเอกถูกขังอยู่คุกใต้ดินไม่รู้ว่าเป็นมนุษย์ทดลองหรือเปล่าแล้วก็คิดถึงหรือฝันเห็นนางเอกหน้าตาน่ารักคนนึง แล้วก็อยากไปหาไปเจอประมาณนี้มั้ง? น้าเจมส์เล่นเป็นพระเอก มีคนแซวด้วยบอกว่าน้าเจมส์ในการ์ตูนผอมเกินไป ฮิๆ

เพลงนี้น้าเจมส์พยายามเล่นกับคนดูตรงท่อนร้องว่า I have come for you tonight ประมาณชี้หน้าคนดูแล้วก็ตะโกนว่าพวกอั๊วมาเพื่อพวกลื้อโดยเฉพาะนาเฟ้ย และแน่นอนผมก็ทำแบบนั้นกับแกกลับไปเหมือนกัน

7.The ministry of lost souls - 16:00 พักเหนื่อย(หรือเปล่า)กับเพลงบัลลาดช้าๆซึ้งๆ แต่เห็นเฮกันแหลกเหมือนเดิม เพราะไมค์ควงไม้กลองแล้วหลุดมือต้องเรียก John Petrucci มาเก็บให้ น้าไมค์ ก็ขี้เล่นเหลือเกิน พอ Petrucci โยนให้แกดันโยนกลับให้อีก โยนกลับไปมา 2-3 รอบได้ ขณะเล่นอยู่นะเนี่ย ไม่หลุดด้วยเทพจริงๆ จากนั้นไมค์เล่นโยนไม้กลองกับทีมงานอีกแล้วครับ สนุกแกล่ะ



ภาพวิดีโอประกอบ สวยมากๆ

3 หนุ่มในมุมเหงาๆ

หลังจากเพลงนี้ก็มีพัก 15 นาทีครับ จริงๆน้าเจมส์บอกก่อนเข้าไปแล้วล่ะครับ แต่ฟังไม่ออกอย่างที่บอกว่ามันเบามากๆ แล้วก็มีภาพวิดีโอตอนปิดแถมท้ายนิดนึง สาวกถึงได้โล่งใจครับ เพราะบางคนไม่เข้าใจมุขคิดว่าต้องอังกอร์

ช่วงพักครึ่งเหล่าสาวกก็สลายตัวออกไปบางส่วน ผมไม่ออกไปไหนครับเพราะกลัวเสียอาณาเขต ช่วงนี้เห็นบางคนถือแก้วเบียร์เข้ามา หน้าตาเอาเรื่องทีเดียวครับ ผมภาวนาในใจว่าอย่าให้มีใครที่ดื่มมากเกินไปแล้วคึก แล้วทำตัววุ่นวายถึงขนาดขว้างแก้วเบียร์เหมือนครั้งที่แล้วเลย วงระดับนี้มาเล่นทั้งทีให้เค้ารู้สึกดีๆกันดีกว่า อย่าให้ประเทศของเราต้องโดนประจานว่าเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน เดี๋ยวเค้าไม่มาอีกจะเสียใจกันทีหลัง

ตอนพักครึ่งมีเปิดเพลงคลอเบาๆ เข้าใจว่าเป็นการนำเพลงของดรีม ในแบบออเครสต้า เท่าที่จับได้น่าจะเป็น Lifting shadows off a dream กับ Hell's kithchen เปิดเบาไปนิดนึงนะ ผมเกือบง่วงเลย อาศัยว่านั่งอ่านตารางทัวร์หลังเสื้อคนข้างหน้าแล้วก็สนทนากับเพื่อนฆ่าเวลาไปพลางๆ

15 นาทีกับเศษอีกนิดหน่อย ไฟก็ดับลง ตอนนี้ผมรู้สึกกดดันเล็กน้อยครับ เพราะบางคนอาศัยจังหวะนี้แทรกเข้ามาด้านหน้า เอาน่าหยวนๆแค่คน 2คนพอทำเนาแต่พอรู้ตัวอีกทีรอบตัวผมไม่ใช่ Line up ชุดเดิมสักคนครับ มีฝรั่งรุ่นยักษ์คนนึง กับสาวๆที่ไหนก็ไม่รู้ แต่งตัวอย่างกับมาดูคอนเสิร์ตเพลงป๊อป เข้าใจว่าแฟนหนุ่มคงพาเบียดเข้ามา ไม่เป็นไรให้อภัย ฮิๆ... แสดงว่าผมหน้าตาท่าทางไว้ใจได้ครับ เค้าถึงให้สาวๆมาอยู่ด้านผม

          เห็นเงาตะคุ่มๆของ 4 สมาชิกขึ้นมาแล้วครับ รู้สึกทางวงจะเริ่มคึกเป็นพิเศษ เริ่มมาก็อัดกันยาวๆครึ่งชั่วโมงกับ  In the Presence of Enemies ทั้งภาคต้นภาคจบ เล่นเหมือนในซีดีเป๊ะๆ อย่างกับเปิดจากแผ่น ซาวน์ดีขึ้นกว่าครึ่งแรกเล็กน้อย เบสเริ่มมาละ คีย์บอร์ดก็ชัดขึ้นอีกนิด เพลงนี้มี graphic ขึ้นประกอบตลอดยิ่งในภาคจบนี้ยิ่งมันส์ครับ เพราะแฟนร้องได้กันเยอะ รวมไปถึงการตะโกนในช่วง Instrumental จำพวก "ฮึ...โย่" หรือช่วงเนื้อร้องต้นประโยคที่เป็นคำว่า Don't, Fight, Lord, Soul ถ้าสังเกตให้ดีบนจอวิดีโอจะมีคำร้องพวกนี้ขึ้นมาด้วย คล้ายๆในคอนเสิร์ต Lives Scene From New York เลยทีเดียว

         มันส์ต่อกันแบบไม่มีหยุดหายใจกับ Home ก่อนที่จะมาพักหยุดหายใจกับ Misunderstood แฟนหลายคนพยายามบิวท์อารมณ์โดยการจุดไฟแช็คและเปิดไฟมือถือ แต่ว่าบิวท์ไม่ค่อยขึ้นเหมือน The spirit carries on อย่างคราวที่แล้วครับ เนื่องจากบรรยากาศของเพลงไม่ค่อยให้เท่าไหร่ เพลงนี้น่าจะเป็นเพลงที่เงียบที่สุดในคอนเสิร์ตแล้วมั้ง

         ยิงยาวต่อมาที่ Take the time ตอนต้นเพลงน้าเจมส์ขึ้นมาร้องไม่ทัน ผู้ชมก็งง ทางวงเองก็งงไปชั่วขณะ น้าไมค์หัวไวสุดชิงร้องแทนไปก่อนแบบเพี้ยนนิดๆ ก่อนที่น้าเจมส์จะรีบวิ่งขึ้นมาโหนเสียงรับในท่อน "I think it's time for a change...."

            ครึ่งหลังนี้น้าเมียงกับน้าเปตรุตซี่มักจะเดินมายืนคู่กัน หรือชวนกันไปเล่นหน้าน้าไมค์บ่อยครั้ง เห็นอย่างนี้ผมรู้สึกว่าเค้ารักกันดีจังนะ 3 คนนี้เนี่ย แล้วระหว่างเล่นก็มักจะหยอกกัน เช่นน้าไมค์ตีกลองไปเอาไม้กลองทิ่มรูจมูกตัวเองพลางหยอกกับทั้งสองจอห์น หรือทั้งสองจอห์นพากันไปโยกอยู่หน้ากลองแล้วพยักหน้าใส่กัน น่ารักดีแท้

           เพลงนี้แฟนๆก็มีส่วนร่วมอีกครั้งด้วยการร้องสนับสนุนในท่อน "Take the time" โดยน้าเจมส์เป็น Conductor

           ช่วงโซโล่น้าจอร์แดนสะพายคีย์บอร์ดมาแจมด้านหน้าอีกครั้ง พอจบเพลงนี้ทางวงก็ยกมือบ๊ายบายกันหมด ตอนนี้เป็นอันรู้กันแล้วล่ะว่าต้องอังกอร์ แหมทำซะเนียนเลยนะให้ทีมงานมาปิดไฟหน้าจอมอนิเตอร์คีย์บอร์ด มาเช็คฉาบกับกลอง และก็เก็บกีตาร์กับเบส

           อังกอร์กันสนั่นลั่นทุ่งได้ไม่นานเท่าไหร่ น้าจอร์แดนก็ขึ้นมาบนเวทีก่อน (สงสัยจะรีบมาเปิดมอนิเตอร์) ตามด้วย Petrucci จากนั้นก็ชวนกัน improvise กันพักใหญ่ ตอนนี้ Petrucci คึกแบบหยุดไม่อยู่ ดีดก็แล้ว ขูดสายก็แล้ว จิ้มก็แล้ว เอามือลูบสายกีตาร์เล่นก็แล้ว หันหน้าเข้าหาแอมป์ให้เสียงมันหอนเล่นก็แล้ว ถูกีตาร์กับขอบแอมป์ก็แล้ว ยังไม่สะใจเดินเอากีตาร์ไปให้น้าจอร์แดนจิ้ม เรียกเสียงเฮลั่นฮอลล์เลยทีนี้  เท่านั้นยังไม่พอ แกเห็นน้าไมค์กำลังเดินขึ้นมาจะเข้าประจำที่ แกเลยเรียกมาโชว์สักนิด น้าไมค์ก็รับมุขอย่างไว โชว์ Tapping ซะชุดใหญ่ เสร็จแล้วยังถลกเสื้อโชว์กางเกงมวยไทยสีน้ำเงินของเวทีลุมพีนี ยิ่งทำให้สาวกเฮหนักขึ้นไปอีก

ไมค์ พอร์ตนอย โชว์ดรรชนีเทพ เรียกเสียงกรี๊ด
http://uk.youtube.com/watch?v=CZxwvCAdZes


           Petrucci ยังอารมณ์ค้างไม่หายถอดสายสะพายกีตาร์ออกแล้วหิ้วกีตาร์เดินมาหน้าเวที แล้วกวักมือเรียกผู้ชมจะให้ขึ้นไปเล่นอีก จะเอาใจกันไปถึงไหนครับเนี่ย แค่นี้ก็คลั่งจนจะไม่มีใจไปรักวงอื่นแล้วนะ

           ก่อนจะเกิดเหตุจลาจล เนื่องจากจะปล่อยไว้นานอาจโดนรุมทึ้ง แกก็ถอยไปประจำตำแหน่งแล้วอินโทรเพลง Trial of Tears ก็ขึ้นมา จากนั้นก็ร้องกันสนุกเลยครับกับท่อน It's Raining.... Raining deep in heaven ต่อด้วย  Finally Free และ อินโทรของ Learning to Live แล้วอยู่ดีๆก็ตัดเข้าเพลง In the name of god ในท่อน 100 of belivers ที่มีมิวสิควิดีโอแบบเดียวกับในดีวีดีที่เล่นที่บูโดกัน ยาวไปจนถึงท่อนโซโล่อันลือลั่นที่เป็นการห่ำหั่นกันระหว่าง Jordan กับ Petrucci อย่างดุเด็ดเผ็ดร้อน ถ้าสังเกตบนจอมอนิเตอร์จะเห็นภาพตัดสลับไปมาหรือของสองคนนี้ระหว่างโซโล่ (น้าจอร์แดนแอบเล่นหน้าเล่นตากับกล้องระหว่างโซโล่อีกด้วย) จบโซโล่ชุดนี้ปุ๊ปก็ตัดเข้าท่อนสุดท้ายของ Octavarium - Razor's Edge น้าเจมส์พอร้องจบปุ๊ปก็รีบวิ่งไปขอบคุณแฟนๆทันที ตอนนี้ Petrucci เดินมากลางเวทีแล้วก็โซโล่ยาวจนจบเพลง ซึ่งเป็นเพลงสุดท้ายในการแสดงของวันนี้

           จากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันไปขอบคุณแฟนๆ ระหว่างนั้นน้าเจมส์ท่าทางเหนื่อยแอบนั่งพักข้างๆชุดกลองซะงั้น (ลองดูหลังน้าไมค์จะเห็นน้าเจมส์นั่งข้างหน้าชุดกลอง) น้าไมค์กลัวคนดูไม่รู้ว่าใส่กางเกงมวยไทยมาก็ถลกเสื้อโชว์อีกครั้งเพื่อเรียกเสียงเฮอีกคำรบ

ไมค์ แสบสนิท ศิษย์ส่ายหน้า ตกใจ

           หลังจากขอบคุณเป็นการส่วนตัวเสร็จ ทุกคนก็เดินมากลางเวทีเพื่อโค้งขอบคุณแฟนๆอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ซึ่งตามธรรมเนียมก่อนเข้าไป น้าไมค์ต้องหยอดคำหวานทุกครั้ง ซึ่งคราวนี้เป็น "Thank you Bangkok. You've done so fu...king great. Thank you so much" ก่อนจะหายลับไปหลังเวที เป็นการจบโชว์ในคืนนี้อย่างสมบูรณ์อย่างประทับใจทั้งคนเล่นและคนดู

          โดยสรุปผมว่าครั้งนี้การแสดงครั้งนี้ทางวงเตรียมตัวมาดีมาก ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของงาน Production, Set list ของเพลง โดยเฉพาะช่วงอังกอร์นี่ถูกใจผมสุดๆ, แสง สี เสียงของวิดีโอบนมอนิเตอร์ที่ทำให้โชว์น่าสนใจขึ้น, ภาพของสมาชิกขณะเล่นบนเวทีบนจอมอนิเตอร์ที่เทคนิคการนำเสนอดีกว่าครั้งก่อนมาก ส่วนทางสมาชิกของวงก็เล่นกันเต็มที่จนไม่อยากจะเชื่อว่าทางวงเพิ่งจะได้พักมาแค่วันเดียว (เอาเรี่ยวแรงมาจากไหน) ส่วนในเรื่องของเสียงนั้นทำใจล่วงหน้าไว้แล้วจึงไม่ได้หวังอะไรมากนัก แต่ก็นับว่าดีกว่าครั้งที่แล้วพอสมควร ในทางตรงกันข้ามผมคิดว่าการตอบรับของแฟนๆครั้งนี้ดีกว่าครั้งก่อนทั้งในเรื่องความสนุก เพราะไม่ต้องถูกบังคับให้นั่ง ทำให้มีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ จำนวนผู้ชมที่ดูหนาตากว่าครั้งก่อน ทำให้ผมค่อนข้างเชื่อว่าทัวร์ต่อๆไปทางวงคงจะไม่มองข้ามสยามประเทศของเราไปแน่นอน และอาจจะได้รับการบรรจุเป็นขาประจำเช่นเดียวกับที่ญี่ปุ่นหรือเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นนิมิตรหมายอันดีสำหรับชาวไทยและแฟนดรีม เธียเตอร์ในบ้านเราอย่างแน่นอน

                                      ขอขอบคุณที่ทนอ่านจนจบครับ

          ปล. จบโชว์แล้ว ไม่เห็นเล่น The spirit carries on เลยอ้ะ
                 


โอกาสหน้าพี่จะมาหาใหม่...


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27 มกราคม 2008 | 10:42:08 PM โดย crazy diamond » บันทึกการเข้า


เป็นความทรงจำดีๆที่ครั้งนึงเราเคยไปถึงแกรมมี่มาแล้ว...

เชิญชม collection โมเดลของผม  
ขายซีดี, ดีวีดีเพลง  .  .
kongbei
Administrator
The Snow Goose
*****
เพศ: ชาย
กระทู้: 6534


ขงปี่

pink_floyd@thaiprog.net
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 20 มกราคม 2008 | 11:15:21 AM »

ไอ้คนตะโกน The Wall กับ David Gilmour นั่นผมเองครับ
บันทึกการเข้า
Floydian_Oak
Global Moderator
Fragile
*****
เพศ: ชาย
กระทู้: 385


Webmaster


ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: 20 มกราคม 2008 | 11:23:26 AM »

วิดิโอ Mother ถ้ามีส่งมาให้หน่อยนะครับผม

skbeegees@gmail.com
บันทึกการเข้า

ขอบคุณสมาชิกและผู้เยี่ยมชมเว็บทุกท่าน ที่ให้การตอบรับเว็บไซต์ของเราด้วยดีเสมอมาครับ
The child is grown, the dream is gone.
Floydian_Oak
Global Moderator
Fragile
*****
เพศ: ชาย
กระทู้: 385


Webmaster


ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #5 เมื่อ: 20 มกราคม 2008 | 11:33:56 AM »

ไอ้คนตะโกน The Wall กับ David Gilmour นั่นผมเองครับ

ผมด้วยครับ หุหุ ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า

ขอบคุณสมาชิกและผู้เยี่ยมชมเว็บทุกท่าน ที่ให้การตอบรับเว็บไซต์ของเราด้วยดีเสมอมาครับ
The child is grown, the dream is gone.
mushroomcloud
In The Court Of The Crimson King
*
กระทู้: 59


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #6 เมื่อ: 20 มกราคม 2008 | 12:45:59 PM »

ขอบคุณมากครับคุณ Sid 
รายงานได้ขนาดนี้น่าจะไปหากินเป็นนักข่าวบันเทิง ( ในบ้านเราคนทำข่าวบันเทิงเทศหาที่คนรู้จริงยากมากๆ)

ผมมีโอกาสเข้าไปถ่ายรูปหน้าเวที 15 นาที ,  ได้ฟังเสียงจากลำโพง monitor ของนักดนตรีแต่ละคน , เสียงสุดยอดไปเลยครับ ( แม้กระทั่ง bass ของ John Y. ยังฟังออกมาเป็นเม็ดๆ ) 

ชอบวิดิโอเพลง Dark Eternal Night  เหมือนกันตอน Portnoy ขี่รถถัง (ชุดกลองกระเดื่องคู่ ) ไล่ปีศาจ , เป็ดตูดชี้ solo จนไฟแลบ

solo เพลง Sorrounded ก็สุดยอด (มันกว่าดู DVD)

ตอน intermission  , มีสาวกของ DT อารมณ์ค้างผิวปากทำนองของท่อน intro Misnistry of Lost Soul แข่งกันในห้องน้ำ

ผมว่าพวกเขาเรียง set list ได้ฉลาดมาก  และยังพยายามเล่นเพลงไม่ให้ซ้ำกับเที่ยวที่แล้ว  น่าชมเชยมากครับ

จะรออ่านตอน 2 ครับ

บันทึกการเข้า
kongbei
Administrator
The Snow Goose
*****
เพศ: ชาย
กระทู้: 6534


ขงปี่

pink_floyd@thaiprog.net
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 20 มกราคม 2008 | 12:58:14 PM »

ก่อนคอนเสิร์ตจะเริ่ม มันเปิดเพลง Knights Of Cydonia ของ Muse จะได้ยินเสียงคนตะโกนร้องตาม นั่นก็ผมอีกแล้วครับ
บันทึกการเข้า
koh_oldskool
Selling England By The Pound
**
กระทู้: 174

udomsak_p@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #8 เมื่อ: 20 มกราคม 2008 | 02:06:48 PM »

ไอ้คนตะโกน The Wall กับ David Gilmour นั่นผมเองครับ

ผมด้วยครับ หุหุ ยิงฟันยิ้ม
ก่อนคอนเสิร์ตจะเริ่ม มันเปิดเพลง Knights Of Cydonia ของ Muse จะได้ยินเสียงคนตะโกนร้องตาม นั่นก็ผมอีกแล้วครับ
....น้องอั้ม...วีรกรรมเยอะนะ ยิ้มกว้างๆ เสียดายที่ผมไม่ได้แจมกับน้องๆที่ 2500 แค่ 1500 ก็ยืนขาแข็งแล้วต้องแอบพิงกำแพงอยู่หลายครา...ก่อนม่านดำจะถูกเปิดออกผมว่าเค้าเปิดเพลงซึ่งเพลงประกอบหนังเรื่อง Re-Animator ด้วยนะถ้าจำไม่ผิด
บันทึกการเข้า
kongbei
Administrator
The Snow Goose
*****
เพศ: ชาย
กระทู้: 6534


ขงปี่

pink_floyd@thaiprog.net
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 20 มกราคม 2008 | 02:23:17 PM »

ไอ้คนตะโกน The Wall กับ David Gilmour นั่นผมเองครับ

ผมด้วยครับ หุหุ ยิงฟันยิ้ม
ก่อนคอนเสิร์ตจะเริ่ม มันเปิดเพลง Knights Of Cydonia ของ Muse จะได้ยินเสียงคนตะโกนร้องตาม นั่นก็ผมอีกแล้วครับ
....น้องอั้ม...วีรกรรมเยอะนะ ยิ้มกว้างๆ เสียดายที่ผมไม่ได้แจมกับน้องๆที่ 2500 แค่ 1500 ก็ยืนขาแข็งแล้วต้องแอบพิงกำแพงอยู่หลายครา...ก่อนม่านดำจะถูกเปิดออกผมว่าเค้าเปิดเพลงซึ่งเพลงประกอบหนังเรื่อง Re-Animator ด้วยนะถ้าจำไม่ผิด

แหมพี่ ถ้าพี่ซื้อ 2500 คงได้ดูรวมกันทั้งแก๊ง มันโคตรๆแน่ๆ
บันทึกการเข้า
kongbei
Administrator
The Snow Goose
*****
เพศ: ชาย
กระทู้: 6534


ขงปี่

pink_floyd@thaiprog.net
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 20 มกราคม 2008 | 02:28:39 PM »



Kongbei , Lillium , - [Unamed]



Kongbei, อาจารย์ปราชญ์, Floydian_Oak (เว็บมาสเตอร์สุดหล่อแต่มีพุง)



Lillium, Kongbei, Phil_wc, Koh_Oldschool
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 มกราคม 2008 | 02:34:03 PM โดย kongbei » บันทึกการเข้า
kongbei
Administrator
The Snow Goose
*****
เพศ: ชาย
กระทู้: 6534


ขงปี่

pink_floyd@thaiprog.net
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 20 มกราคม 2008 | 02:35:28 PM »

จะว่าไป Shineon กับ iamtong3 ไม่ได้อยู่ถ่ายรูปครับ เสียดายมากๆ
บันทึกการเข้า
ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 8547


nagoya_mega_snake@windowslive.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #12 เมื่อ: 20 มกราคม 2008 | 02:48:03 PM »

Dream Theater: Chaos in Motion World Tour 2007/2008 - Live in Bangkok

Complete Set-List:

1. Intro Tape / Constant Motion
2. Never Enough
3. Surrounded 2007 (w/ Extended Guitar Solo) / Mother (Pink Floyd)
4. A Passage to Bangkok's Riff (Rush) / The Dark Eternal Night (w/ Extended Continuum Solo)
5. Lines in the Sand (w/ Extended Keyboard Solo)
6. Forsaken
7. The Ministry of Lost Souls
-Intermission-
8. In the Presence of Enemies (Pt. 1 & 2)
9. Home
10. Misunderstood (Short Version)
11. Take the Time
-Encore-
12. Medley: I. Trial of Tears (Pt. 1): It's Raining
                 II. Finally Free
                III. Learning to Live
                 IV. In the Name of God
                  V. Octavarium (Pt.5): Razor's Edge

- The End -

 ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า


Stay cheap, praise the explicit, embrace the scuzz, be true to art and yourself, eat shit, keep music evil.
lilivm's self-indulgence: https://rateyourmusic.com/~potatahtapapoh
koh_oldskool
Selling England By The Pound
**
กระทู้: 174

udomsak_p@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #13 เมื่อ: 20 มกราคม 2008 | 03:37:22 PM »

....คุณพระ !! โดนประจานหน้าจนได้ ทีหลังขอแถบสีดำคาดตรงลูกกะตาด้วยนะคร๊าบ ยิงฟันยิ้ม  ปกติผมเป็นคนไม่ชอบถ่ายรูปสิให้ดิ้นตาย ตอนถ่ายนึกจะฉากหลบเหมือนกัน กลัวน้องๆจะหาว่าพิลึกคน
....ขืนซื้อ 2500 จะยืนระยะแย้วกับน้องๆลำบ๊ากคับ
....ดีใจคับได้เจอน้องๆหลายคน ผมไปใกล้เวลาเล่นไปหน่อยเลยมีโอกาสได้คุยแลกเปลี่ยนกันน้อยนิด ไว้โอกาสหน้าคับ
บันทึกการเข้า
Layla F Mulder
Administrator
Blackfield
*****
เพศ: ชาย
กระทู้: 3604


Without appreciation, the music isn't worth.

basnaphon@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #14 เมื่อ: 20 มกราคม 2008 | 05:39:14 PM »

อิจฉาจังเลย

ขออนุญาตนำรูปและรีวิวของคุณ crazy diamond ไปลงในหน้า gallery นะครับ
บันทึกการเข้า

 
Tsundere (ツンデレ?) (pronounced /(t)sʌnˈdɪə(r)/ in English or /t͡sun.de.ɽe/ in Japanese) is a Japanese concept of a character archetype which describes a person with a conceited, irritable, and/or violent personality that suddenly becomes modest and loving when triggered by some sort of cause (such as being alone with someone)
หน้า: [1] 2 3
พิมพ์
กระโดดไป:  

ThaiProg.net Ver 4.0 by tisanai,Shineon,kongbei
Top 10 Best Sellers in Kindle eBooks Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers In Automotive Parts And Accessories Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers in Tools and Home Improvement Under $10, Reviewer 2016
Top 10 Best Sellers in Clothing for 2017 Top 10 Best Sellers in Clothing Best Sellers in Clothing
Top 10 Best Sellers in Books reviewer 2017 Top 10 Best Sellers in Books Best Sellers in Books
Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Reviewer 2017 Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Best Sellers In Grocery