ต่อไป »

[noprock]

...ผมอยากได้ชุดเครื่องเสียงขนาดกลาง ๆ ไว้ฟังในบ้านครับ  งบประมาณไม่เกิน 3 หมื่นบาท

ประกอบด้วย  DVD Player (ใช้ฟัง CD ด้วย) +  อินทิเกรดแอมป์ + ลำโพง   

อ้อ...ผมฟัง Rock ,Blues เป็นส่วนใหญ่ครับ  นาน ๆ ถึงจะมี Jazz เสริมบ้างนิดหน่อย... 

ขอความเห็นผู้ช่ำชองช่วยจัดชุดให้หน่อยสิครับ...ขอบคุณครับ

[deja vu]

  ถ้า DVD ที่ใช้ฟังเพลงผมขอเสนอ OPPO เลยครับ
  แอมป์ถ้า ROCK กับ JAZZ น่าจะเป็นพวก NAD  ROTEL
  ลำโพงต้องลองฟังเองครับมีเยอะมาก  ดูรุ่นตามงบที่มี

[ปีศาจลายคราม]

ในงบ 30,000 บาท
ลำโพง ลองดูรุ่นวางหิ้งของ Mordaunt-Short หรือ Wharfedale Diamond Series ราคาไม่ถึงหมื่น
งบที่เหลือสองหมื่นนิด ๆ เฉลี่ยไปให้แอมป์มากหน่อย เพราะถือเป็นศูนย์กลางของระบบ ให้ลองดูยี่ห้อ NAD หรือ Marantz รุ่นเล็ก (ของใหม่) แต่ถ้าอยากได้ยี่ห้ออื่นหรือพวกรุ่นใหญ่ในงบหมื่นกว่า ๆ ต้องหมั่นไปเดินตลาดเครื่องเสียงเก่า
แหล่งโปรแกรมที่เล่นได้ครอบคลุมทั้งดูหนังและฟังเพลงในเครื่องเดียว ควรหาเครื่องเล่นบลู-เรย์ ซึ่งสมัยนี้เครื่องที่มีสมรรถนะดีในงบประมาณห้าหรือหกพันบาทก็มีให้เลือกหลายยี่ห้อครับ

[อั๋น501]

ในงบ 30,000 บาท
ลำโพง ลองดูรุ่นวางหิ้งของ Mordaunt-Short หรือ Wharfedale Diamond Series ราคาไม่ถึงหมื่น
งบที่เหลือสองหมื่นนิด ๆ เฉลี่ยไปให้แอมป์มากหน่อย เพราะถือเป็นศูนย์กลางของระบบ ให้ลองดูยี่ห้อ NAD หรือ Marantz รุ่นเล็ก (ของใหม่) แต่ถ้าอยากได้ยี่ห้ออื่นหรือพวกรุ่นใหญ่ในงบหมื่นกว่า ๆ ต้องหมั่นไปเดินตลาดเครื่องเสียงเก่า
แหล่งโปรแกรมที่เล่นได้ครอบคลุมทั้งดูหนังและฟังเพลงในเครื่องเดียว ควรหาเครื่องเล่นบลู-เรย์ ซึ่งสมัยนี้เครื่องที่มีสมรรถนะดีในงบประมาณห้าหรือหกพันบาทก็มีให้เลือกหลายยี่ห้อครับ

เครื่องเล่นดีวีดียุดนี้หาดีๆและเอามาใช้ฟังเพลงไม่ได้แล้วครับ  ถ้าต้องการเครื่องเล่นดีวีดีชั้นดีไว้ฟังเพลงต้องหารุ่นสัก 3-5 ปีที่แล้ว
แบบ Universal เล่นได้ทั้ง DVD/ SACD/ DVD-Audio/ CD อย่างของยี่ห้อ Marantz หรือ Denon รุ่นท็อปๆ สมัยก่อนราคาหลายๆหมื่น
หรือราคาเป็นแสนบาทเวลานี้อาจจะซื้อได้ในราคาไม่กี่พันบาท  เครื่องเล่น Universal แบบนี้จะใช้ฟังเพลง(ซีดี)ได้ดีด้วยครับ
วันก่อนมีรุ่นพี่ให้ผมฟรีๆเครื่องเล่นยี่ห้อ Denon รุ่น 3910 เป็นเครื่องเล่น Universal ราคาสมัยนั้น 3-4 ปีก่อน 50,000 กว่าบาท
ผมเอามาใช้ฟังเพลงกับฟอร์แม็ต SACD / DVD-Audio และ CD สบายไปเลยครับ  ส่วนที่เป็น DVD นั้นผมไม่ได้ใช้(มีช่องสัญญาณ HDMI)
เพราะผมเล่นแต่บูลเรย์  น่าจะเป็นเครื่องเล่นดีวีดีรุ่นสุดท้ายหลังจากรุ่นนี้แล้วจะเป็นเครื่องเล่นบูลเรย์ 

คำถาม ทำไมไม่ใช้เครื่องเล่นบูลเรย์เป็นต้นทางไปเลยล่ะ เครื่องเล่นบูลเรย์ก็ใช้เล่นดีวีดีและซีดีได้อยู่แล้ว

[อั๋น501]

ในงบ 30,000 บาท
ลำโพง ลองดูรุ่นวางหิ้งของ Mordaunt-Short หรือ Wharfedale Diamond Series ราคาไม่ถึงหมื่น
งบที่เหลือสองหมื่นนิด ๆ เฉลี่ยไปให้แอมป์มากหน่อย เพราะถือเป็นศูนย์กลางของระบบ ให้ลองดูยี่ห้อ NAD หรือ Marantz รุ่นเล็ก (ของใหม่) แต่ถ้าอยากได้ยี่ห้ออื่นหรือพวกรุ่นใหญ่ในงบหมื่นกว่า ๆ ต้องหมั่นไปเดินตลาดเครื่องเสียงเก่า
แหล่งโปรแกรมที่เล่นได้ครอบคลุมทั้งดูหนังและฟังเพลงในเครื่องเดียว ควรหาเครื่องเล่นบลู-เรย์ ซึ่งสมัยนี้เครื่องที่มีสมรรถนะดีในงบประมาณห้าหรือหกพันบาทก็มีให้เลือกหลายยี่ห้อครับ

เครื่องเล่นดีวีดียุดนี้หาดีๆและเอามาใช้ฟังเพลงไม่ได้แล้วครับ  ถ้าต้องการเครื่องเล่นดีวีดีชั้นดีไว้ฟังเพลงต้องหารุ่นสัก 3-5 ปีที่แล้ว
แบบ Universal เล่นได้ทั้ง DVD/ SACD/ DVD-Audio/ CD อย่างของยี่ห้อ Marantz หรือ Denon รุ่นท็อปๆ สมัยก่อนราคาหลายๆหมื่น
หรือราคาเป็นแสนบาทเวลานี้อาจจะซื้อได้ในราคาไม่กี่พันบาท  เครื่องเล่น Universal แบบนี้จะใช้ฟังเพลง(ซีดี)ได้ดีด้วยครับ
วันก่อนมีรุ่นพี่ให้ผมฟรีๆเครื่องเล่นยี่ห้อ Denon รุ่น 3910 เป็นเครื่องเล่น Universal ราคาสมัยนั้น 3-4 ปีก่อน 50,000 กว่าบาท
ผมเอามาใช้ฟังเพลงกับฟอร์แม็ต SACD / DVD-Audio และ CD สบายไปเลยครับ  ส่วนที่เป็น DVD นั้นผมไม่ได้ใช้(มีช่องสัญญาณ HDMI)
เพราะผมเล่นแต่บูลเรย์  น่าจะเป็นเครื่องเล่นดีวีดีรุ่นสุดท้ายหลังจากรุ่นนี้แล้วจะเป็นเครื่องเล่นบูลเรย์ 

คำถาม ทำไมไม่ใช้เครื่องเล่นบูลเรย์เป็นต้นทางไปเลยล่ะ เครื่องเล่นบูลเรย์ก็ใช้เล่นดีวีดีและซีดีได้อยู่แล้ว

ขอโทษอ้างข้อความผิด

...ผมอยากได้ชุดเครื่องเสียงขนาดกลาง ๆ ไว้ฟังในบ้านครับ  งบประมาณไม่เกิน 3 หมื่นบาท

ประกอบด้วย  DVD Player (ใช้ฟัง CD ด้วย) +  อินทิเกรดแอมป์ + ลำโพง   

อ้อ...ผมฟัง Rock ,Blues เป็นส่วนใหญ่ครับ  นาน ๆ ถึงจะมี Jazz เสริมบ้างนิดหน่อย... 

ขอความเห็นผู้ช่ำชองช่วยจัดชุดให้หน่อยสิครับ...ขอบคุณครับ

[ปีศาจลายคราม]

ทราบมาว่า เครื่องเล่นบลู-เรย์ในยุคนี้เล่นได้ทั้งบลู-เรย์, ดีวีดี, วีซีดี และซีดีเพลง ราคาประมาณห้าหรือหกพันบาทก็พอใช้การได้แล้ว ถ้าไม่ติดว่าจะต้องฟังเพลงในแบบออดิโอไฟล์

ดังนั้น จากงบสามหมื่น เกลี่ยไปให้แอมป์หมื่นกว่า ๆ (ไม่เกินหมื่นห้า) ลำโพงไม่เกินหนึ่งหมื่น ที่เหลือเป็นค่าตัวเครื่องเล่นบลู-เรย์ ผมคิดว่าก็พอจะ "เอาอยู่" ครับ

[deja vu]

  ผมเคยฟัง ดีวีดี OPPO 980 ราคาประมาณ 5 - 6 พันบาท เทียบกับซีดี CARY (มือสอง) ราคาตอนออกใหม่
  เกือบ 6 หมื่นบาท เสียงที่ได้ต่างกันไม่มากเลยครับ (ต่างกันตรงรายละเอียดและความสะอาดของเสียงเล็กน้อย)

[noprock]

คำถาม ทำไมไม่ใช้เครื่องเล่นบูลเรย์เป็นต้นทางไปเลยล่ะ เครื่องเล่นบูลเรย์ก็ใช้เล่นดีวีดีและซีดีได้อยู่แล้ว
[/quote]

...คำตอบ  ผมอยู่บ้านนอกครับ  เลยไม่ค่อยคุ้นเคยกับเครื่องเล่นบลูเรย์   เพราะคิดว่ามันยังมีราคาแพงเป็นหลักหมื่นอยู่ครับ  

ทราบมาว่า เครื่องเล่นบลู-เรย์ในยุคนี้เล่นได้ทั้งบลู-เรย์, ดีวีดี, วีซีดี และซีดีเพลง ราคาประมาณห้าหรือหกพันบาทก็พอใช้การได้แล้ว ถ้าไม่ติดว่าจะต้องฟังเพลงในแบบออดิโอไฟล์

ดังนั้น จากงบสามหมื่น เกลี่ยไปให้แอมป์หมื่นกว่า ๆ (ไม่เกินหมื่นห้า) ลำโพงไม่เกินหนึ่งหมื่น ที่เหลือเป็นค่าตัวเครื่องเล่นบลู-เรย์ ผมคิดว่าก็พอจะ "เอาอยู่" ครับ

...ผมเพิ่งทราบนะครับว่าเดี๋ยวนี้เครื่องเล่นบลูเรย์ราคาแค่ห้าหกพันก็มี  เสียงพอจะไปได้ใช่มั้ยครับ   ผมไม่ใช่หูทองอะไรหรอก   เอาแค่เปิดฟังแล้วรู้สึกเพราะเท่นนั้นเองครับ...  

[noprock]

...งั้นถ้าเลือกได้ระหว่างใช้เครื่องเล่นดีวีดี  กับ  เครื่องเล่นบลูเรย์ เป็นต้นทาง   อย่างไหนน่าจะดีกว่าครับ  (ในแง่ของเสียงและความคุ้มค่า) ...   

[ปีศาจลายคราม]

คำถาม ทำไมไม่ใช้เครื่องเล่นบูลเรย์เป็นต้นทางไปเลยล่ะ เครื่องเล่นบูลเรย์ก็ใช้เล่นดีวีดีและซีดีได้อยู่แล้ว

...คำตอบ  ผมอยู่บ้านนอกครับ  เลยไม่ค่อยคุ้นเคยกับเครื่องเล่นบลูเรย์   เพราะคิดว่ามันยังมีราคาแพงเป็นหลักหมื่นอยู่ครับ   

ทราบมาว่า เครื่องเล่นบลู-เรย์ในยุคนี้เล่นได้ทั้งบลู-เรย์, ดีวีดี, วีซีดี และซีดีเพลง ราคาประมาณห้าหรือหกพันบาทก็พอใช้การได้แล้ว ถ้าไม่ติดว่าจะต้องฟังเพลงในแบบออดิโอไฟล์

ดังนั้น จากงบสามหมื่น เกลี่ยไปให้แอมป์หมื่นกว่า ๆ (ไม่เกินหมื่นห้า) ลำโพงไม่เกินหนึ่งหมื่น ที่เหลือเป็นค่าตัวเครื่องเล่นบลู-เรย์ ผมคิดว่าก็พอจะ "เอาอยู่" ครับ

...ผมเพิ่งทราบนะครับว่าเดี๋ยวนี้เครื่องเล่นบลูเรย์ราคาแค่ห้าหกพันก็มี  เสียงพอจะไปได้ใช่มั้ยครับ   ผมไม่ใช่หูทองอะไรหรอก   เอาแค่เปิดฟังแล้วรู้สึกเพราะเท่นนั้นเองครับ... 
[/quote]
เพื่อนผมบอกมาอย่างนั้น แต่ผมไม่เคยมีหรือเคยใช้หรอกครับ เครื่องเล่นบลู-เรย์
สิ่งใดที่ได้รับความนิยมมาก ๆ เดี๋ยวราคามันก็ถูกลงเรื่อย ๆ แหละครับ ตามกลไกของตลาด

[deja vu]

...งั้นถ้าเลือกได้ระหว่างใช้เครื่องเล่นดีวีดี  กับ  เครื่องเล่นบลูเรย์ เป็นต้นทาง   อย่างไหนน่าจะดีกว่าครับ  (ในแง่ของเสียงและความคุ้มค่า) ...   

  คุณ nop เล่นแผ่นบลูเรย์ด้วยหรือเปล่า ถ้าเล่นก็ตัดดีวีดีออกไป
  แล้วลองไปฟังเครื่องเล่นบลูเรย์(เอาแผ่นซีดีของเราไปด้วย) แอมป์ ลำโพง สัก 2-3ชุดที่คนแนะนำ
  แล้วค่อยมาคุยกันใหม่ว่าชอบไม่ชอบยังไงจะได้ตรงตามความต้องการมากที่สุด

  ผมขอเสนออีกทางเลือก เครื่องเล่นบลูเรย์(ดีวีดี)  5000 บาท
                                  แอมป์                        10000 บาท
                                  ลำโพง                        15000 บาท

[อั๋น501]

คำถาม ทำไมไม่ใช้เครื่องเล่นบูลเรย์เป็นต้นทางไปเลยล่ะ เครื่องเล่นบูลเรย์ก็ใช้เล่นดีวีดีและซีดีได้อยู่แล้ว

...คำตอบ  ผมอยู่บ้านนอกครับ  เลยไม่ค่อยคุ้นเคยกับเครื่องเล่นบลูเรย์   เพราะคิดว่ามันยังมีราคาแพงเป็นหลักหมื่นอยู่ครับ   

ทราบมาว่า เครื่องเล่นบลู-เรย์ในยุคนี้เล่นได้ทั้งบลู-เรย์, ดีวีดี, วีซีดี และซีดีเพลง ราคาประมาณห้าหรือหกพันบาทก็พอใช้การได้แล้ว ถ้าไม่ติดว่าจะต้องฟังเพลงในแบบออดิโอไฟล์

ดังนั้น จากงบสามหมื่น เกลี่ยไปให้แอมป์หมื่นกว่า ๆ (ไม่เกินหมื่นห้า) ลำโพงไม่เกินหนึ่งหมื่น ที่เหลือเป็นค่าตัวเครื่องเล่นบลู-เรย์ ผมคิดว่าก็พอจะ "เอาอยู่" ครับ

...ผมเพิ่งทราบนะครับว่าเดี๋ยวนี้เครื่องเล่นบลูเรย์ราคาแค่ห้าหกพันก็มี  เสียงพอจะไปได้ใช่มั้ยครับ   ผมไม่ใช่หูทองอะไรหรอก   เอาแค่เปิดฟังแล้วรู้สึกเพราะเท่นนั้นเองครับ... 
[/quote]

เครื่องเล่นบูลเรย์เวลานี้ราคาถูกมากแล้วครับ อย่างของยี่ห้อ LG รุ่นที่พี่ผีพึ่งซื้อราคาไม่ถึง 3000 บาท เล่นแผ่นได้ทั้ง บูลเรย์ ดีวีดี ซีดี แถมยัง
สามารถเล่นไฟล์ได้อีกคุ้มสุดๆครับ  ยิ่งอยู่บ้านนอกควรจะใช้เพราะราคาถูกยี่ห้อตลาด ส่วนแผ่นบูลเรย์เล่นแผ่นก็อปสมัยนี้สั่งซื้อตามเน็ตราคา
แผ่นไม่ถึงร้อยบาท(ไม่ต้องเอาปก)ส่งให้ถึงบ้านสะดวกไม่ต้องเสียเวลาค่ารถมาซื้อด้วยครับ

[Sombunประธานชมรมคนรักหนังเก่า]

คำถาม ทำไมไม่ใช้เครื่องเล่นบูลเรย์เป็นต้นทางไปเลยล่ะ เครื่องเล่นบูลเรย์ก็ใช้เล่นดีวีดีและซีดีได้อยู่แล้ว

...คำตอบ  ผมอยู่บ้านนอกครับ  เลยไม่ค่อยคุ้นเคยกับเครื่องเล่นบลูเรย์   เพราะคิดว่ามันยังมีราคาแพงเป็นหลักหมื่นอยู่ครับ  

ทราบมาว่า เครื่องเล่นบลู-เรย์ในยุคนี้เล่นได้ทั้งบลู-เรย์, ดีวีดี, วีซีดี และซีดีเพลง ราคาประมาณห้าหรือหกพันบาทก็พอใช้การได้แล้ว ถ้าไม่ติดว่าจะต้องฟังเพลงในแบบออดิโอไฟล์

ดังนั้น จากงบสามหมื่น เกลี่ยไปให้แอมป์หมื่นกว่า ๆ (ไม่เกินหมื่นห้า) ลำโพงไม่เกินหนึ่งหมื่น ที่เหลือเป็นค่าตัวเครื่องเล่นบลู-เรย์ ผมคิดว่าก็พอจะ "เอาอยู่" ครับ

...ผมเพิ่งทราบนะครับว่าเดี๋ยวนี้เครื่องเล่นบลูเรย์ราคาแค่ห้าหกพันก็มี  เสียงพอจะไปได้ใช่มั้ยครับ   ผมไม่ใช่หูทองอะไรหรอก   เอาแค่เปิดฟังแล้วรู้สึกเพราะเท่นนั้นเองครับ...  

เครื่องเล่นบูลเรย์เวลานี้ราคาถูกมากแล้วครับ อย่างของยี่ห้อ LG รุ่นที่พี่ผีพึ่งซื้อราคาไม่ถึง 3000 บาท เล่นแผ่นได้ทั้ง บูลเรย์ ดีวีดี ซีดี แถมยัง
สามารถเล่นไฟล์ได้อีกคุ้มสุดๆครับ  ยิ่งอยู่บ้านนอกควรจะใช้เพราะราคาถูกยี่ห้อตลาด ส่วนแผ่นบูลเรย์เล่นแผ่นก็อปสมัยนี้สั่งซื้อตามเน็ตราคา
แผ่นไม่ถึงร้อยบาท(ไม่ต้องเอาปก)ส่งให้ถึงบ้านสะดวกไม่ต้องเสียเวลาค่ารถมาซื้อด้วยครับ
[/quote]+1 กับคุณอั๋นครับ เครื่องของผม(ซัมซุง) ราคาแค่เกือบ 4 พัน ซื้อตอนเซลส์ล้างสต็อค ราคาเดิมตอนออกใหม่= 9,000 บาท ปุ่มกดเป็นระบบสัมผัสด้วย และบลูเรย์ก็เป็นตามที่คุณอั๋นบอกครับ 

[noprock]

...เครื่องเล่นบลูเรย์ถ้าใช้เล่นแผ่นดีวีดีแล้วเป็นยังไงบ้างครับ   เพราะแผ่นส่วนใหญ่ของผมเป็นดีวีดีครับ...

[Sombunประธานชมรมคนรักหนังเก่า]

...เครื่องเล่นบลูเรย์ถ้าใช้เล่นแผ่นดีวีดีแล้วเป็นยังไงบ้างครับ   เพราะแผ่นส่วนใหญ่ของผมเป็นดีวีดีครับ...

เฉพาะจากการใช้ของเครื่องผม นั้นผมสังเกตุได้ว่า ถ้าเป็นแผ่นดีวีดีมาสเตอร์ของบริษัท แคททาลิสท์ฯ และ แปซิฟิคฯ จะคมชัดดีครับ แต่ถ้าเป็นแผ่นของบริษัทเล็กๆอื่นบางแผ่นไม่คมชัดเท่า แต่ก็ไม่แน่ครับบางแผ่นก็คมชัดดี แต่อย่างไรก็แล้วแต่ความคมชัดสู้เล่นแผ่นบลูเรย์ไม่ได้แน่ครับ