ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
การค้นหาขั้นสูง

149669 กระทู้ ใน 4435 หัวข้อ- โดย 847 สมาชิก - สมาชิกล่าสุด: axlrose

28 เมษายน 2024 | 01:57:26 AM
Thai Progressive Rock CommunityThaiProgBreatheขออนุญาตส่งข่าวชมรมใหม่ครับ
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 8
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ขออนุญาตส่งข่าวชมรมใหม่ครับ  (อ่าน 54799 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
TRON
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 12866



ดูรายละเอียด
« ตอบ #45 เมื่อ: 29 มีนาคม 2012 | 11:51:35 AM »

คำคมวันนี้...ของผู้หญิงยุดไฮเทค

"ไม่หล่อ พอทน   แต่....จน...ห้ามจีบ!"

เอามาจาก Facebook ของสาวๆยุดแห่งวัฒนธรรมโลกออนไลน์


"สวยน้อย พอได้ ใส่บิ๊กอาย ไม่จีบ" ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
Sombunประธานชมรมคนรักหนังเก่า
Close To The Edge
******
กระทู้: 1409



ดูรายละเอียด
« ตอบ #46 เมื่อ: 29 มีนาคม 2012 | 11:54:01 AM »

คำคมวันนี้...ของผู้หญิงยุดไฮเทค

"ไม่หล่อ พอทน   แต่....จน...ห้ามจีบ!"

เอามาจาก Facebook ของสาวๆยุดแห่งวัฒนธรรมโลกออนไลน์

แสดงว่า " ขาย " อ๊ะ!.. เข้าทาง ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
อั๋น501
Voyage Of The Acolyte
*********
กระทู้: 4240



ดูรายละเอียด
« ตอบ #47 เมื่อ: 29 มีนาคม 2012 | 12:24:03 PM »

วันก่อนไปเข้าห้องน้ำที่ปั๊มน้ำมันแถวๆสาย 2  นั่งปล่อยทุกข์ไปอมยิ้มไปอะไรกันที่ประตูห้องน้ำกลายเป็นกระดานเว็บบอร์ดระบายอารมย์
ของคนจิตไม่ปกติที่ไม่เคยหมดไปจากสังคมเสียที  เขียนด่ากันไปมาเหมือนเคยโกธรแค้นฝั่งใจอะไรกันนักหนา  ผมว่าไม่เคยรู้จักกันส่วนตัวหรอกครับ
เพราะเล่นด่านักการเมืองเป็นสัตว์หรือด่าผู้หญิงเรื่องเพศ แถมมีการวาดรูปโป๊แบบลามกให้ดูด้วยนะ  เต็มหน้าประตูเต็มไปหมดยิ่งเบอร์โทรศัพท์
อะไรกันมากมายเหลือเกิน ว่าจะเก็บเบอร์โทรมาฝากเฮียสมบุญฯบ้าง
บันทึกการเข้า
Sombunประธานชมรมคนรักหนังเก่า
Close To The Edge
******
กระทู้: 1409



ดูรายละเอียด
« ตอบ #48 เมื่อ: 29 มีนาคม 2012 | 12:41:07 PM »

วันก่อนไปเข้าห้องน้ำที่ปั๊มน้ำมันแถวๆสาย 2  นั่งปล่อยทุกข์ไปอมยิ้มไปอะไรกันที่ประตูห้องน้ำกลายเป็นกระดานเว็บบอร์ดระบายอารมย์
ของคนจิตไม่ปกติที่ไม่เคยหมดไปจากสังคมเสียที  เขียนด่ากันไปมาเหมือนเคยโกธรแค้นฝั่งใจอะไรกันนักหนา  ผมว่าไม่เคยรู้จักกันส่วนตัวหรอกครับ
เพราะเล่นด่านักการเมืองเป็นสัตว์หรือด่าผู้หญิงเรื่องเพศ แถมมีการวาดรูปโป๊แบบลามกให้ดูด้วยนะ  เต็มหน้าประตูเต็มไปหมดยิ่งเบอร์โทรศัพท์
อะไรกันมากมายเหลือเกิน ว่าจะเก็บเบอร์โทรมาฝากเฮียสมบุญฯบ้าง
ขอบคุณคร๊าบบบบ....ผมแสวงหาเองก็ได้คร๊าบบบบ ตกใจ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม...กลัวเจอแบบโฆษณาแว่นท็อปเจริญ-สาวสวยนางหนึ่งส่งสายตายั่วยวนพร้อม เปล่งเสียง ถามชายหนุ่ม(ด้วยน้ำเสียงแบบสันติ ลุนเผ่ ตัวพ่อ!) ว่า คุณพี่ขาาาา  กี่โมงแล้วเค๊อะ ยิงฟันยิ้ม...พร้อมๆกับบริเวณใต้ท้องน้อยของเธอปรากฏ...ชฏาแหลมเปี๊ยบบบบ ยิงฟันยิ้ม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29 มีนาคม 2012 | 12:55:56 PM โดย Sombunประธานชมรมคนรักหนังเก่า » บันทึกการเข้า
Sombunประธานชมรมคนรักหนังเก่า
Close To The Edge
******
กระทู้: 1409



ดูรายละเอียด
« ตอบ #49 เมื่อ: 04 เมษายน 2012 | 03:41:00 PM »

ขออนุญาตต่อนะครับ
ค. ประชุมพงศาวดารเล่ม 40 ฉบับพันจันทนุมาศ(เจิม) หน้า 74 – 79   มีหลักฐานบันทึกไว้ดังนี้
    ครั้นปีฉลูตรีศก จ.ศ.1143 พ.ศ. 2324 เดือนยี่ ดำรัสให้จัดทัพเป็น 6 ทัพให้เจ้าพระยาสุรสีห์เป็นทัพหน้า พระเจ้ากษัตริย์ศึก
เป็นจอมพลทัพหลวง  กขุนพินนุน เป็นทัพหน้า( เข้าใจว่าพิมพ์ผิด น่าจะเป็นกรมขุนพินนุนหรือชื่ออะไรสักอย่าง เพราะคำ
“ กขุน “ ไม่เข้าใจความหมาย ไม่มีในภาษาไทยที่เคยพบ – ผู้เขียน ) กรมเจ้าพระยานครสวรรค์เป็นยกบัตร กรมขุนรามภู
เบศ เป็นทัพหลัง พระยาธรรมา เป็นกองลำเลียง ยกไปตีเมืองพุทไธเพชร( คือกรุงกัมพูชา ) ฝ่ายการแผ่นดินข้างกรุงธนบุรีนั้นก็ผันแปรไปต่างๆเหตุเพราะเจ้าแผ่นดินเสียพระจริตฟั่นเฟือนไป ฝ่ายพุทธจักร อาณาจักรทั้งปวงเล่าก็แปรปรวนไปเป็นหมู่ๆมิได้เป็นปกติเหมือนแต่ก่อน เหตุเพราะพระเจ้าแผ่นดินนั้นทรงนั่งอุรุพัทธ์ ( นั่งขัดสมาธิเจริญพระกรรมฐานลักษณะเป็นการปฏิบัติธรรมขั้นสูง เป็นสำนวนใช้อยู่ในหนังสือวิสุทธิมรรค ) โดยกรรมฐานสมาธิ และจะยังให้ภิกษุทั้งปวงให้คารวะเคารพนมัสการแก่พระองค์ ฝ่ายการในอากาศเล่าก็วิปริตต่างๆคือมีอุกาบาตร และปทุมเกษ บันดาลตก เป็นต้น
-   2   -
   ณ วันเสาร์เดือน 4 แรม 11 ค่ำ จุลศักราช 1143 ปีฉลูตรีศก ( จ.ศ.1143  พ.ศ.2324 )ไพร่พลเมืองกำเริบคิดการใหญ่กัน จะยุทธนาการปล้นเข้าเมือง ด้วยพระเจ้าแผ่นดินมิได้ตั้งอยู่ในทศพิธราชธรรม 10 ประการให้นัยแก่คนพาลให้ฟ้องร้องข้าทูลละอองฯใหญ่น้อย ข้างหน้าว่าข้างในประชาราษฎร์ทั้งหลายว่าขายข้าว ขายเกลือ ขายนอ งา เนื้อไม้ สิ่งของต้องห้ามทั้งปวง
ไม่ขายก็ว่าขายไม่ลักก็ว่าลักแต่พวกโจทก์ถึง 333 คนฯ ราษฎร์ได้รับความยากไปจนถึงหัวเมืองเอก โท ตรี จัตวา มีหน้าคล้ำไปด้วยน้ำตาที่หน้าชื่นตาบานแต่ฝ่ายคนพาลซึ่งเป็นโจทก์ อาสัยเหตุอาสัตย์ธรรมบังเกิดมีดังนี้ : -  นายบ้าน นายอำเภอ ไพร่
พลเมืองจึงคิดควบคุมกันเป็นหมวดเป็นกองพร้อมกันฆ่าอ้ายวิชิตณรงค์ผู้รักษา ซึ่งพระเจ้าแผ่นดินให้ไปพิจารณาเงินจีนนั้น
จึงเอาพระยาสรรค์ซึ่งรับสั่งใช้ขึ้นไปพิจารณาเอาตัวผู้ร้ายนั้นเป็นแม่ทัพยกลงมาตีเอาเมืองธนบุรี ณ เพลา 10 ทุ่ม เข้าล้อมกำแพงวังไว้รอบ พระยาสรรค์ตั้งอยู่ ณ บ้านกรมเมือง พระเจ้าแผ่นดินรู้เหตุ ก็เกณฑ์คนขึ้นรักษาหน้าที่ไว้ รุ่งขึ้น ณ วัน 1
ฯ(มีเลข 12 อยู่ข้างใต้) 4 ค่ำ ให้พระราชาคณะออกมาเจรจาความเมืองสารภาพว่าผิดขอชีวิตจะบรรพชาต่อพระยาสรรค์ในวันนั้น เวลา 3 ทุ่ม พระเจ้าแผ่นดินก็ทรงผนวช ณ พัทธสีมาวัดแจ้งอยู่ในราชสมบัติ 15 ปี  พระยาสรรค์จึงแต่งทหารไปพิทักษ์รักษาไว้ แล้วก็เข้าอยู่ในท้องพระโรงกับหลวงเทพน้องชาย จึงจับกรมขุนอนุรักษ์สงครามหลานเธอจำไว้แล้วเอาเงินในท้องพระคลังแจกทแกล้วทหารกรมฝ่ายในฝ่ายหน้า
     ณ. วัน 3 ฯ(มีเลข 6 อยู่ข้างบน) 5 ค่ำ จุลศักราช 1144 ปีขาล จัตวาศก( พ.ศ. 2325 ) เวลาเที่ยงเห็นดวงจันทร์ปรากฏกลาง
วัน ครั้นถึง ณ.วัน 6 ฯ(มีเลข 7 อยู่ข้างใต้) 5 ค่ำ พระยาสุริยอภัย ยกกองทัพไทย ลาว ประมาณ 1000 เศษ ลงมาจากเมืองนคร
ราชสีมา มาตั้งอยู่ ณ.บ้าน ครั้งนั้นข้าราชการเป็น 2 ฝ่าย เป็นพวกพระยาสรรค์บ้าง เป็นพวกพระยาสุริยอภัยบ้างการยุทธนาการมิได้สงบเลยฯ
      ณ. วัน 7 ฯ(มีเลข 9 อยู่ข้างใต้) 5 ค่ำ เวลาเช้า 2 โมง เสด็จพระราชดำเนินทัพมาจากเสียมราบ ประทับ ณ พลับพลาหน้าวัดโพธาราม ฝ่ายข้าทูลละอองฯ ผู้ใหญ่ ผู้น้อย พร้อมกันไปเชิญเสด็จลงเรือพระที่นั่งกราบข้ามมาพระราชวังสถิต ณ.ศาลาลูกขุน มีหมู่พฤฒามาตย์ ราชสกุล กวีมุข เฝ้าพร้อมกัน จึงมีพระราชบริหารดำรัสปรึกษาว่า เมื่อพระเจ้าแผ่นดินอาสัตย์ ละสุจริตธรรมเสีย ประพฤติการทุจริตฉะนี้ก็เห็นว่าเป็นเสี้ยนหนามหลักตออันใหญ่อยู่ในแผ่นดิน จะละไว้มิได้ ขอให้ปริวรรตออกประหารเสีย ฝ่ายทแกล้วทหารทั้งปวงมีใจเจ็บแค้นเป็นอันมาก ก็นำเอาพระเจ้าแผ่นดินและพวกโจทก์ทั้งปวงนั้นไปสำเร็จ ณ.ป้อมท้ายเมืองในทันใดนั้น แล้วสมณะชีพราหมณ์เสนาพฤฒามาตย์ราษฎรทั้งปวงก็ทูลอาราธนาวิงวอนอันเชิญเสด็จขึ้นปราบดาภิเศกเป็นอิศวรภาพผ่านภิภพสืบไปฯ
     ครั้น ณ.วัน 1 ฯ(มีเลข 10 อยู่ข้างใต้) 5 ค่ำ พระเจ้าหลานเธอให้ตำรวจคุมเอาตัวกรมขุนอนุรักษ์สงครามกับข้าหลวงซึ่งเป็นพรรคพวก 40 เศษ มีอ้ายพระยาเพชรพิชัย พระยากลางเมือง พระยามหาอำมาตย์และพระมหาเทพเหนือ หลวงคชศักดิ์ราชรินทร์เหนือ เป็นต้น เข้ามาหน้าพระที่นั่งแล้วกราบทูลความทั้งปวง จึงดำรัสให้เอาพรรคพวกไปฆ่าเสีย แต่กรมขุนอนุรักษ์สงครามสั่งให้งดไว้พิจารณา จึงให้การถึงพระยาสรรค์ พระมหาเสนา พระยารามัญวงศ์ และพระยาวิชิตณรงค์ หลวงพัศดีกลาง พระเจ้าอยู่หัวทรงพิโรธให้ประหารเสีย
ง. หลักฐานจากจดหมายเหตุโหรฉบับรามัญ ว่าไว้ : -  พระยาจักรีกลับจากเมืองญวนเข้าเมืองบางกอกแล้วฆ่าพระเจ้าแผ่นดินเก่าเสียอยู่มาสัก 10 วัน ก็ฆ่าพระยาสรรค์

***********มีต่อนะครับ โปรดอดใจรอครับ******************


    
            


ขออนุญาตแปะต่อครับ******

ง. หลักฐานจากจดหมายเหตุโหรฉบับรามัญ ว่าไว้ : -  พระยาจักรีกลับจากเมืองญวนเข้าเมืองบางกอกแล้วฆ่าพระเจ้าแผ่นดินเก่าเสียอยู่มาสัก 10 วัน ก็ฆ่าพระยาสรรค์เสียอีก ( ฟุตโน้ต (2) ประชุมพงศาวดารฉบับพันจันทนุมาศ(เจิม) หน้า 79 และฟุตโน้ต(1) หน้าเดียวกันว่าจดหมายเหตุโหรว่า “ ขุนหลวงดับขันธ์ ” ตรงกับวันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2325 )
จ. หลักฐานจากจดหมายเหตุความทรงจำกรมหลวงนรินทรเทวีและพระราชวิจารณ์รัชชกาลที่ 5 มีดังนี้
เดือนอ้าย ลุศักราช 1139 ปีระกานพศกเจ้าฟ้ากษัตริย์ศึกยกพยุหทัพไปตีเมืองป่าศัก เมืองโขง เมืองอัตปือ กลับมาเดือน 10 ปีจอสัมฤทธิ์ศก ณ เดือนอ้ายปีจอกลับไปตีเมืองศรีสัตนาคนหุต ยังตั้งมั่นล้อมอยู่แรมปี ยังไม่เข้าเมืองได้
     ฝ่ายผู้รักษากรุงเก่าเชื่อถือมหาดาว่าผู้มีบุญจะมารื้อถ่ายการน้ำจะขนทรัพย์ขึ้นสร้างวัดพระราม ผูกโครงช้างเผือกผู้งาดำผ้าขาวคลุมโครง ผ้าดำหุ้มงาเพลาเย็นรอนๆชูรูปช้างไว้วัตถมุฆราช คนที่ไม่รู้ด้วยในกลเชื่อถือมาก เมืองมือต่างโกหกอยู่วัด
-   3   -
สังขจาย ซื้อน้ำยาเสน่ห์ล่วงอาญาจักร หม้อละ 5 ตำลึงไปประสมมหาดาวัดพระรามได้แจกลงมาถึงข้างในวิเศษต้นเฒ่าแก่แม่เจ้าได้ทาด้วยกันหลายคน ผู้รั้งกรมการหลงเชื่อถือหมดจะได้รื้อถ่ายการน้ำก็หามิได้ มหาดาคิดกลล่อลวงถ่ายเททรัพย์ผู้เชื่อถือมาบูรณะทำบุญด้วยเป็นอันมากจนได้ปิดทองหลังพระเกือบแล้วกิตติศัพท์รู้ลงมาถึงท่านราชาคณะพระพนรัตน์วัดระฆังถวายพระพร รับสั่งให้นิมนต์มหาดาลงมา ณ วัดแจ้ง ให้ชุมนุมสงฆ์ไล่เลียงดูถามตามกิจสมณะ มหาดาว่าจะบูรณะวัดที่ชำรุดพม่าเผาเสีย จะบูรณปฏิสังขรณ์พระวิหาร พระอุโบสถ พระพุทธรูป เจดีย์ฐานขึ้นดังเก่าโดยสติปัญญา พระพนรัตน์ถวายพระพร แผ่นดินต้นเห็นด้วย รับสั่งให้มหาดาขึ้นไปสร้างวัด อิ่มเอิบกำเริบอิทธิฤทธิ์ว่าจะฆ่าไม่ตายได้กลับขึ้นไปผู้คนหลงใหลเชื่อว่ามหาดามีบุญจริงจะขี่ช้างเผือกผู้งาดำขึ้นปราสาทสุริยาอมรินทร์ เมื่อมหาดากลับขึ้นไป รับสั่งให้สุริยภักดีธรมาแต่งขึ้นไปดูแยบคายให้แน่ สุริยภักดีธรมาแต่งเพลาสงัดถือดาบเดินขึ้นไปบนปรางค์วัดพระรามเห็นมหาดานอนตื่นอยู่ในปรางค์แต่ 2 คนกับที่เรียกพระท้ายน้ำมหาดาตกใจกลัวยกมือคำนับผิดกิจสมณะ เขาซักว่าได้เงินทองเอาไปเสียไหน มหาดาว่าถ่ายเทกันเก่าไปใหม่มา เห็นเป็นการโกหกแน่กลับลงมาทูล จึงรับสั่งให้เจ้าลูกเธอกรมอินทรพิทักษ์ขึ้นไปจับเธอเมตตาสัตว์ที่หลงทำบุญด้วยมหาดาให้ผีพายกระทุ้งโห่ร้องขึ้นไปที่ได้ยินเสียงอื้ออึงหนีได้มากที่ยังอยู่ในบริเวณวัดนั้นจับส่งลงมาทั้งผู้รั้งกรมการกรุงเก่า (ครั้งนั้นสั่งประหารชีวิตมหาดากับพรรคพวกข้าราชการเสียทั้งหมดเว้นแต่มารดาเจ้าถิ่นอยูงาน 4 คนด้วยกันลงพระอาญาคนละ 100 จำไว้....ที่คัดเอาเรื่องมหาดามาให้ทราบ เพราะเรื่องมหาดานี้เป็นหลักฐานพะยานสำคัญอีกเรื่องหนึ่งสามารถใช้เป็นพยานพิจารณาว่าพระเจ้ากรุงธนบุรีเสียพระจริตหรือไม่ – ผู้เขียน )


*********มีต่ออีกนะครับ โปรดอดใจรอครับ ยิ้ม*******
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04 เมษายน 2012 | 03:44:26 PM โดย Sombunประธานชมรมคนรักหนังเก่า » บันทึกการเข้า
Sombunประธานชมรมคนรักหนังเก่า
Close To The Edge
******
กระทู้: 1409



ดูรายละเอียด
« ตอบ #50 เมื่อ: 10 เมษายน 2012 | 10:40:10 AM »

ขออนุญาตต่อนะครับ
ค. ประชุมพงศาวดารเล่ม 40 ฉบับพันจันทนุมาศ(เจิม) หน้า 74 – 79   มีหลักฐานบันทึกไว้ดังนี้
    ครั้นปีฉลูตรีศก จ.ศ.1143 พ.ศ. 2324 เดือนยี่ ดำรัสให้จัดทัพเป็น 6 ทัพให้เจ้าพระยาสุรสีห์เป็นทัพหน้า พระเจ้ากษัตริย์ศึก
เป็นจอมพลทัพหลวง  กขุนพินนุน เป็นทัพหน้า( เข้าใจว่าพิมพ์ผิด น่าจะเป็นกรมขุนพินนุนหรือชื่ออะไรสักอย่าง เพราะคำ
“ กขุน “ ไม่เข้าใจความหมาย ไม่มีในภาษาไทยที่เคยพบ – ผู้เขียน ) กรมเจ้าพระยานครสวรรค์เป็นยกบัตร กรมขุนรามภู
เบศ เป็นทัพหลัง พระยาธรรมา เป็นกองลำเลียง ยกไปตีเมืองพุทไธเพชร( คือกรุงกัมพูชา ) ฝ่ายการแผ่นดินข้างกรุงธนบุรีนั้นก็ผันแปรไปต่างๆเหตุเพราะเจ้าแผ่นดินเสียพระจริตฟั่นเฟือนไป ฝ่ายพุทธจักร อาณาจักรทั้งปวงเล่าก็แปรปรวนไปเป็นหมู่ๆมิได้เป็นปกติเหมือนแต่ก่อน เหตุเพราะพระเจ้าแผ่นดินนั้นทรงนั่งอุรุพัทธ์ ( นั่งขัดสมาธิเจริญพระกรรมฐานลักษณะเป็นการปฏิบัติธรรมขั้นสูง เป็นสำนวนใช้อยู่ในหนังสือวิสุทธิมรรค ) โดยกรรมฐานสมาธิ และจะยังให้ภิกษุทั้งปวงให้คารวะเคารพนมัสการแก่พระองค์ ฝ่ายการในอากาศเล่าก็วิปริตต่างๆคือมีอุกาบาตร และปทุมเกษ บันดาลตก เป็นต้น
-   2   -
   ณ วันเสาร์เดือน 4 แรม 11 ค่ำ จุลศักราช 1143 ปีฉลูตรีศก ( จ.ศ.1143  พ.ศ.2324 )ไพร่พลเมืองกำเริบคิดการใหญ่กัน จะยุทธนาการปล้นเข้าเมือง ด้วยพระเจ้าแผ่นดินมิได้ตั้งอยู่ในทศพิธราชธรรม 10 ประการให้นัยแก่คนพาลให้ฟ้องร้องข้าทูลละอองฯใหญ่น้อย ข้างหน้าว่าข้างในประชาราษฎร์ทั้งหลายว่าขายข้าว ขายเกลือ ขายนอ งา เนื้อไม้ สิ่งของต้องห้ามทั้งปวง
ไม่ขายก็ว่าขายไม่ลักก็ว่าลักแต่พวกโจทก์ถึง 333 คนฯ ราษฎร์ได้รับความยากไปจนถึงหัวเมืองเอก โท ตรี จัตวา มีหน้าคล้ำไปด้วยน้ำตาที่หน้าชื่นตาบานแต่ฝ่ายคนพาลซึ่งเป็นโจทก์ อาสัยเหตุอาสัตย์ธรรมบังเกิดมีดังนี้ : -  นายบ้าน นายอำเภอ ไพร่
พลเมืองจึงคิดควบคุมกันเป็นหมวดเป็นกองพร้อมกันฆ่าอ้ายวิชิตณรงค์ผู้รักษา ซึ่งพระเจ้าแผ่นดินให้ไปพิจารณาเงินจีนนั้น
จึงเอาพระยาสรรค์ซึ่งรับสั่งใช้ขึ้นไปพิจารณาเอาตัวผู้ร้ายนั้นเป็นแม่ทัพยกลงมาตีเอาเมืองธนบุรี ณ เพลา 10 ทุ่ม เข้าล้อมกำแพงวังไว้รอบ พระยาสรรค์ตั้งอยู่ ณ บ้านกรมเมือง พระเจ้าแผ่นดินรู้เหตุ ก็เกณฑ์คนขึ้นรักษาหน้าที่ไว้ รุ่งขึ้น ณ วัน 1
ฯ(มีเลข 12 อยู่ข้างใต้) 4 ค่ำ ให้พระราชาคณะออกมาเจรจาความเมืองสารภาพว่าผิดขอชีวิตจะบรรพชาต่อพระยาสรรค์ในวันนั้น เวลา 3 ทุ่ม พระเจ้าแผ่นดินก็ทรงผนวช ณ พัทธสีมาวัดแจ้งอยู่ในราชสมบัติ 15 ปี  พระยาสรรค์จึงแต่งทหารไปพิทักษ์รักษาไว้ แล้วก็เข้าอยู่ในท้องพระโรงกับหลวงเทพน้องชาย จึงจับกรมขุนอนุรักษ์สงครามหลานเธอจำไว้แล้วเอาเงินในท้องพระคลังแจกทแกล้วทหารกรมฝ่ายในฝ่ายหน้า
     ณ. วัน 3 ฯ(มีเลข 6 อยู่ข้างบน) 5 ค่ำ จุลศักราช 1144 ปีขาล จัตวาศก( พ.ศ. 2325 ) เวลาเที่ยงเห็นดวงจันทร์ปรากฏกลาง
วัน ครั้นถึง ณ.วัน 6 ฯ(มีเลข 7 อยู่ข้างใต้) 5 ค่ำ พระยาสุริยอภัย ยกกองทัพไทย ลาว ประมาณ 1000 เศษ ลงมาจากเมืองนคร
ราชสีมา มาตั้งอยู่ ณ.บ้าน ครั้งนั้นข้าราชการเป็น 2 ฝ่าย เป็นพวกพระยาสรรค์บ้าง เป็นพวกพระยาสุริยอภัยบ้างการยุทธนาการมิได้สงบเลยฯ
      ณ. วัน 7 ฯ(มีเลข 9 อยู่ข้างใต้) 5 ค่ำ เวลาเช้า 2 โมง เสด็จพระราชดำเนินทัพมาจากเสียมราบ ประทับ ณ พลับพลาหน้าวัดโพธาราม ฝ่ายข้าทูลละอองฯ ผู้ใหญ่ ผู้น้อย พร้อมกันไปเชิญเสด็จลงเรือพระที่นั่งกราบข้ามมาพระราชวังสถิต ณ.ศาลาลูกขุน มีหมู่พฤฒามาตย์ ราชสกุล กวีมุข เฝ้าพร้อมกัน จึงมีพระราชบริหารดำรัสปรึกษาว่า เมื่อพระเจ้าแผ่นดินอาสัตย์ ละสุจริตธรรมเสีย ประพฤติการทุจริตฉะนี้ก็เห็นว่าเป็นเสี้ยนหนามหลักตออันใหญ่อยู่ในแผ่นดิน จะละไว้มิได้ ขอให้ปริวรรตออกประหารเสีย ฝ่ายทแกล้วทหารทั้งปวงมีใจเจ็บแค้นเป็นอันมาก ก็นำเอาพระเจ้าแผ่นดินและพวกโจทก์ทั้งปวงนั้นไปสำเร็จ ณ.ป้อมท้ายเมืองในทันใดนั้น แล้วสมณะชีพราหมณ์เสนาพฤฒามาตย์ราษฎรทั้งปวงก็ทูลอาราธนาวิงวอนอันเชิญเสด็จขึ้นปราบดาภิเศกเป็นอิศวรภาพผ่านภิภพสืบไปฯ
     ครั้น ณ.วัน 1 ฯ(มีเลข 10 อยู่ข้างใต้) 5 ค่ำ พระเจ้าหลานเธอให้ตำรวจคุมเอาตัวกรมขุนอนุรักษ์สงครามกับข้าหลวงซึ่งเป็นพรรคพวก 40 เศษ มีอ้ายพระยาเพชรพิชัย พระยากลางเมือง พระยามหาอำมาตย์และพระมหาเทพเหนือ หลวงคชศักดิ์ราชรินทร์เหนือ เป็นต้น เข้ามาหน้าพระที่นั่งแล้วกราบทูลความทั้งปวง จึงดำรัสให้เอาพรรคพวกไปฆ่าเสีย แต่กรมขุนอนุรักษ์สงครามสั่งให้งดไว้พิจารณา จึงให้การถึงพระยาสรรค์ พระมหาเสนา พระยารามัญวงศ์ และพระยาวิชิตณรงค์ หลวงพัศดีกลาง พระเจ้าอยู่หัวทรงพิโรธให้ประหารเสีย
ง. หลักฐานจากจดหมายเหตุโหรฉบับรามัญ ว่าไว้ : -  พระยาจักรีกลับจากเมืองญวนเข้าเมืองบางกอกแล้วฆ่าพระเจ้าแผ่นดินเก่าเสียอยู่มาสัก 10 วัน ก็ฆ่าพระยาสรรค์

***********มีต่อนะครับ โปรดอดใจรอครับ******************


    
            


ขออนุญาตแปะต่อครับ******

ง. หลักฐานจากจดหมายเหตุโหรฉบับรามัญ ว่าไว้ : -  พระยาจักรีกลับจากเมืองญวนเข้าเมืองบางกอกแล้วฆ่าพระเจ้าแผ่นดินเก่าเสียอยู่มาสัก 10 วัน ก็ฆ่าพระยาสรรค์เสียอีก ( ฟุตโน้ต (2) ประชุมพงศาวดารฉบับพันจันทนุมาศ(เจิม) หน้า 79 และฟุตโน้ต(1) หน้าเดียวกันว่าจดหมายเหตุโหรว่า “ ขุนหลวงดับขันธ์ ” ตรงกับวันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2325 )
จ. หลักฐานจากจดหมายเหตุความทรงจำกรมหลวงนรินทรเทวีและพระราชวิจารณ์รัชชกาลที่ 5 มีดังนี้
เดือนอ้าย ลุศักราช 1139 ปีระกานพศกเจ้าฟ้ากษัตริย์ศึกยกพยุหทัพไปตีเมืองป่าศัก เมืองโขง เมืองอัตปือ กลับมาเดือน 10 ปีจอสัมฤทธิ์ศก ณ เดือนอ้ายปีจอกลับไปตีเมืองศรีสัตนาคนหุต ยังตั้งมั่นล้อมอยู่แรมปี ยังไม่เข้าเมืองได้
     ฝ่ายผู้รักษากรุงเก่าเชื่อถือมหาดาว่าผู้มีบุญจะมารื้อถ่ายการน้ำจะขนทรัพย์ขึ้นสร้างวัดพระราม ผูกโครงช้างเผือกผู้งาดำผ้าขาวคลุมโครง ผ้าดำหุ้มงาเพลาเย็นรอนๆชูรูปช้างไว้วัตถมุฆราช คนที่ไม่รู้ด้วยในกลเชื่อถือมาก เมืองมือต่างโกหกอยู่วัด
-   3   -
สังขจาย ซื้อน้ำยาเสน่ห์ล่วงอาญาจักร หม้อละ 5 ตำลึงไปประสมมหาดาวัดพระรามได้แจกลงมาถึงข้างในวิเศษต้นเฒ่าแก่แม่เจ้าได้ทาด้วยกันหลายคน ผู้รั้งกรมการหลงเชื่อถือหมดจะได้รื้อถ่ายการน้ำก็หามิได้ มหาดาคิดกลล่อลวงถ่ายเททรัพย์ผู้เชื่อถือมาบูรณะทำบุญด้วยเป็นอันมากจนได้ปิดทองหลังพระเกือบแล้วกิตติศัพท์รู้ลงมาถึงท่านราชาคณะพระพนรัตน์วัดระฆังถวายพระพร รับสั่งให้นิมนต์มหาดาลงมา ณ วัดแจ้ง ให้ชุมนุมสงฆ์ไล่เลียงดูถามตามกิจสมณะ มหาดาว่าจะบูรณะวัดที่ชำรุดพม่าเผาเสีย จะบูรณปฏิสังขรณ์พระวิหาร พระอุโบสถ พระพุทธรูป เจดีย์ฐานขึ้นดังเก่าโดยสติปัญญา พระพนรัตน์ถวายพระพร แผ่นดินต้นเห็นด้วย รับสั่งให้มหาดาขึ้นไปสร้างวัด อิ่มเอิบกำเริบอิทธิฤทธิ์ว่าจะฆ่าไม่ตายได้กลับขึ้นไปผู้คนหลงใหลเชื่อว่ามหาดามีบุญจริงจะขี่ช้างเผือกผู้งาดำขึ้นปราสาทสุริยาอมรินทร์ เมื่อมหาดากลับขึ้นไป รับสั่งให้สุริยภักดีธรมาแต่งขึ้นไปดูแยบคายให้แน่ สุริยภักดีธรมาแต่งเพลาสงัดถือดาบเดินขึ้นไปบนปรางค์วัดพระรามเห็นมหาดานอนตื่นอยู่ในปรางค์แต่ 2 คนกับที่เรียกพระท้ายน้ำมหาดาตกใจกลัวยกมือคำนับผิดกิจสมณะ เขาซักว่าได้เงินทองเอาไปเสียไหน มหาดาว่าถ่ายเทกันเก่าไปใหม่มา เห็นเป็นการโกหกแน่กลับลงมาทูล จึงรับสั่งให้เจ้าลูกเธอกรมอินทรพิทักษ์ขึ้นไปจับเธอเมตตาสัตว์ที่หลงทำบุญด้วยมหาดาให้ผีพายกระทุ้งโห่ร้องขึ้นไปที่ได้ยินเสียงอื้ออึงหนีได้มากที่ยังอยู่ในบริเวณวัดนั้นจับส่งลงมาทั้งผู้รั้งกรมการกรุงเก่า (ครั้งนั้นสั่งประหารชีวิตมหาดากับพรรคพวกข้าราชการเสียทั้งหมดเว้นแต่มารดาเจ้าถิ่นอยูงาน 4 คนด้วยกันลงพระอาญาคนละ 100 จำไว้....ที่คัดเอาเรื่องมหาดามาให้ทราบ เพราะเรื่องมหาดานี้เป็นหลักฐานพะยานสำคัญอีกเรื่องหนึ่งสามารถใช้เป็นพยานพิจารณาว่าพระเจ้ากรุงธนบุรีเสียพระจริตหรือไม่ – ผู้เขียน )


*********มีต่ออีกนะครับ โปรดอดใจรอครับ ยิ้ม*******

ขออนุญาตต่อตอนจบเลยนะครับ ยิ้ม

     เจ้าฟ้ากษัตริย์ศึกเข้าเมืองได้ ณ วันจันทร์เดือน 10 ขึ้น 3 ค่ำ เจ้าเมืองหนีได้พระแก้วพระบาง ณ เดือนอ้ายมีศุภอักษรขึ้นไปถึงเจ้าฟ้ากษัตริย์ศึกว่า สำเร็จการศึกษาแล้วให้กลับลงมา อยู่ภายหลังกรุงธนบุรีเกิดโกลี พันศรีพันลาเป็นต้นฟ้องว่าขุนนางและราษฎรขายข้าวเกลือลงสำเภาโยธาบดีผู้รับฟ้องกราบทูล รับสั่งให้เร่งเงินที่ขุนนางราษฎรขาย ขายเกลือให้เฆี่ยนเร่งเงินเข้าท้องพระคลัง ร้อนทุกเส้นหญ้า สมณประชาราษฎรไม่มีสุขยุคเข็ญเป็นที่สุดในปลายแผ่นดิน เงินในคลังในหาย 2,000 เหรียญๆละ 1 บาท 3 สลึง  1 เฟื้อง รับสั่งให้เรียกหาไม่ได้ ชาวคลังต้องเฆี่ยนใส่ไฟอย่างแสนสาหัส ท่านสงสัยว่าข้างในขโมยเงินในคลังจนมาตุฉาพระพี่นางเธอให้จำหม่อมเจ้านัดดาแทนมารดาเจ้าแทนอยู่งานคนรำใหญ่ให้เฆี่ยนคนละ 150คนละ 100 คนละ 150 คนรำเล็กให้พ่อแม่พี่น้องทาสรับพระราชอาญา 100 ให้เจ้าตัวแต่คนละ 20 ที คนละ 10 ทีตามรับสั่ง
      หลวงประชาชีพ โจทก์ฟ้องว่าขายข้าวรับสั่งให้ตัดหัวศีรษะหิ้วเข้ามาถวายที่เสด็จออกทอดพระเนตร เหตุผลกรรมของสัตว์พื้นแผ่นดินร้อนราษฎรเหมือนผลไม้เมื่อต้นแผ่นดินเย็นด้วยพระบารมีชุ่มพื้นชื่นผลจนมีแก่นปลายแผ่นดินแสนร้อนรุมสุมรากโคน โค่นล้มถมแผ่นดินด้วยสิ้นพระบารมีแต่เพียงนั้น
      ผู้รักษากรุงเก่าพระชิดณรงค์ผูกขาดขึ้นไปจะเร่งเงินไพร่แขวงกรุงเก่าให้ได้โดยจำนวน 500 ชั่ง เร่งรัดไพร่เมืองยากครั้งนั้นสาหัส
       รับสั่งให้ขุนแก้วน้องพระยาสรรค์เอาปืนขึ้นไปต่อยศิลาปากนกปืน 1,000 ไปคบคิดกับกำนันบ้านแขวงกรุงเก่า ปักหนังสือชวนพวกรักษากรุงเก่าว่าจะเข้าด้วยกันหรือไม่เข้า เพลา 2 ยาม จะเข้าเผาบ้าน ผู้รักษากรุงว่าไม่เข้าจะเผาก็เผาเสียเพลา 2 ยามผู้ร้ายเข้าล้อมบ้านได้สู้รบกันเป็นสามารถ กองผู้ร้ายทิ้งพลุระดมเผาบุตรผู้รักษากรุงโจนน้ำหนี ผู้ร้ายพุ่งหอกซัดถูกบุตรพระยาอินทรอภัยผู้รักษากรุงเก่ากับบุตรภรรยาสิ้นชีวิตในไฟ 4 คน พระยาอินทรอภัยกลับมาทูล
        ลุศักราช 1143 ปีฉลูตรีศกรับสั่งให้พระยาสรรค์ไปจับผู้ร้ายที่เผาบ้านผู้รักษากรุงเก่า พระยาสรรค์ขึ้นไปน้องพระยาสรรค์เป็นกองผู้ร้าย จับพระยาสรรค์ตั้งเป็นแม่ทัพลงมาวันเสาร์เดือน 4 แรม 11 ค่ำ เพลาตี 10 ทุ่ม ตั้งค่ายมั่นคลองรามัญยิงระดมลูกปืนตกในกำแพงเสียงสนั่นหวั่นไหวข้างในตกใจร้องอื้ออึงประทมตื่นคว้าได้พระแสงทรงเสด็จขึ้นบนที่นั่งเย็นตรัสเรียกฝรั่งที่ประจำป้อมฝรั่งได้รับสั่งยิงปืนใหญ่ออกไปถูกเรือข้าศึกล่ม เข้าไปจับบุตรภรรยาฝรั่งมาให้ฝรั่งยิงพอรุ่งสว่างเห็นหน้าว่าไทยฝรั่งโจนกำแพงลงไปหากันผู้คนเบาบางร่วงโรยนัก เสด็จออกหน้าวินิจฉัย ทราบว่าพระยาสรรค์มาปล้นตีเมืองให้จำภรรยากับบุตรไว้ เสด็จเข้ามาฟันตะรางปล่อยคนโทษข้างใน พระยาธิเบศร์ พระยารามัญ พระยาอำมาตย์ ต่อสู้
-   4    -
ลากปืนจ่ารงขึ้นป้อม ข้าศึกถอยหนี เสด็จกลับออกไปมีรับสั่งห้ามว่าสิ้นบุญพ่อแล้ว อย่าให้ยากแก่ไพร่เลย พระยาธิเบศร์ พระยารามัญ พระยาอำมาตย์ มิให้สู้อยู่ตายด้วยเจ้าข้าวแดง
          พระยาสรรค์ให้นิมนต์พระราชาคณะให้ถวายพระพรให้ทรงบรรพชาชำระพระเคราะห์เมือง 3 เดือน ทรงพระสรวลตบพระเพลาว่าเอหิภิกขุลอยมาถึงแล้วให้เชิญพระกรรบิตออกไปเพลา 3 โมงเช้าทรงพระบรรพชา วันเดือน 4 แรม 12 ค่ำอยู่ในราชสมบัติ 14 ปีกับ 4 เดือน ทรงผนวช
          ณ วันพุธเดือน 4 แรม 15 ค่ำ พระยาสรรค์ขึ้นนั่งซังแจกเงินข้างในจะฟังแต่สำเนียง ครั้นคนเสียงคลอดบุตรพระยาสรรค์ให้ประโคม ท่านให้ไปห้ามว่าอย่าทำเลยมันสุดชาติแล้ว
          พระยาสรรค์มีเทศนาให้ข้างในออกไปฟังธรรมไฟเทียนเจ้าคุณใหญ่ไหม้ม่าน ได้ยินเสียงคนอื้ออึงจึงชักหอกดาบที่ท้องพระโรงข้างในกลับเข้ามาเวลา 2 ทุ่ม 2 ยามเกิดศึกกลางเมือง พระยาสรรค์ปล่อยเจ้ารามลักษณ์ออกไปเรียกท่านที่ทรงผนวชว่าประจุออกเถิด ท่านว่าสิ้นบุญเราแล้วอย่าทำเลย เจ้ารามลักษณ์ออกไปจุดไฟบ้านไหม้ตลอดลงมาถึงวังหลังได้สู้รบกันจนแสงทองขึ้นพระยาเจ่งขุนแก้วน้องพระยาสรรค์ลากปืนใหญ่มาช่วยวังหลัง เจ้ารามลักษณ์สู้แต่ผู้เดียวโดนโมหันต์เหลือกำลังแตกหนีไปอยู่วัดยางพระวังหลังติดตามจับได้ไต่ถามได้ความจริงว่าพระยาสรรค์ปล่อยเธอออก ความก็ติดอยู่พระยาสรรค์สิ้น
           สมเด็จพระอัยกาเจ้าฟ้ากษัตริย์ศึก เสด็จอยู่กรุงกัมพูชาถอยมาประทับด่านกระบินทร์ ทราบว่ากรุงธนข้นเข็ญเป็นศึกขึ้นกลางเมือง 2 ครั้งจึงเสด็จกลับมาเข้าพระนคร ณ วันเสาร์ เดือน 5 แรม 9 ค่ำ ลุศักราช 1144 ปีขาล จัตวาศก เพลา 2 โมงเศษ สุขสวัสดิ์ฤกษ์ เสด็จเข้าพระนครปราบดาภิเษก อดิเรกเฉกชมสมบัติจักรพรรดิราธิราช พร้อมถวาย 12 พรกำนัล 12 พระคลัง แล้วมีพระราชโองการรับสั่งให้ตั้งกรุงเทพมหานครยังฝั่งบุรพทิศ พระสุริยทรงกลด 7 วันเมื่อตั้งทวาราวดี อุดมโชคเข้าเหยียบกรุงธนบุรีแรกเสด็จยั้งประทับ ณ วัดควงไม้ พระมหาโพธิ์บัลลังก์ ประจญพญามารด้วยพระบารมี 30 ทัศเป็นปฐมกษัตริย์สมเด็จเอกาทศรฐ พระเจ้าปราสาททอง เสด็จข้ามฟากมหรณพเฉลิมภพกรุงเทพทวารวดี ฯ ลฯ
            ณ กลางปีเถาะในวังหลวง เพ็ง ทองคำ มอน งานที่ทำผิดคิดมิชอบ สืบสวนเป็นสัตย์เฆี่ยนคนละ 100 ประหารชีวิตทั้งขุนแก้ว น้องพระยาสรรค์
             ณ ปีมะโรงฉศก ถวายพระเพลิงแผ่นดินต้นที่วัดบางยี่เรือ มีกรมมหรศพสมโภชพร้อมเสร็จ ( บันทึกรายนี้ไม่พูดถึงว่าพระเจ้าตากถูกสำเร็จโทษเลย และไม่พูดถึงพระยาสรรค์ถูกสั่งให้ประหารชีวิตด้วยแต่พูดถึงน้องชายถูกสั่งประหาร ส่วนพระเจ้าตากอยู่ๆก็มาพูดถึงถวายพระเพลิงที่วัดบางยี่เรือ...แปลกดี – ผู้เขียน )
หมายเหตุ : เอาเท่านี้ก่อนนะครับ ยังมีหลักฐานตอนปลายสมัยพระเจ้าตากอีกหลายแห่งหลายเล่ม สมาชิก 003 อ่านแล้วต้องพิเคราะห์ให้ดี
      อนึ่ง เห็นสมควรตั้งปุจฉา เพื่อให้ผู้สนใจวิสัชนา เพื่อแลกเปลี่ยนทัศนะกันได้เลย วิสัชนาของท่านอาจเป็นข้อมูลที่นักประวัติศาสตร์ไม่เคยคิดถึงเลยก็ได้!
       ปุจฉาที่ 1   สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ถูกประหารจริงหรือไม่?  ถ้าจริงผู้ใดคือผู้สั่งประหาร?
        ปุจฉาที่ 2   สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีมีพระสติฟั่นเฟือนหรือเสียพระจริตจริงหรือไม่?
 


                                                                                    ไพสิฏฐ์ นวลสัมพันธ์
                                                                        ประธานชมรมคนรักประวัติศาสตร์เสรี
                                                                                      7   เมษายน  2555    
            
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10 เมษายน 2012 | 10:49:39 AM โดย Sombunประธานชมรมคนรักหนังเก่า » บันทึกการเข้า
Sombunประธานชมรมคนรักหนังเก่า
Close To The Edge
******
กระทู้: 1409



ดูรายละเอียด
« ตอบ #51 เมื่อ: 10 เมษายน 2012 | 10:42:00 AM »

ขออนุญาตเพิ่มเติมครับ ยิ้ม
จดหมายข่าว
ชมรมคนรักวรรณกรรม(เก่า)
        ม.ล. ปิ่น มาลากุล อดีต รมต.กระทรวงศึกษาธิการ ได้รับการยกย่องในวงวรรณกรรมของไทยให้เป็นนักเขียน นักประพันธ์ และเป็นนักปราชญ์ผู้หนึ่งของประเทศนี้ ท่านได้แต่งหนังสือไว้หลายเล่มและแต่งบทละครไว้ก็หลายเรื่อง มีเรื่องหนึ่งเป็นบทละคร ท่านแต่งไว้ ( ท่านใช้คำว่า “ เขียน ” ) เมื่อปี พ.ศ. 2488 ตอนนั้นเมืองไทยอยู่ระหว่างภาวะสงครามใหญ่ ท่านก็ปล่อยทิ้งไว้จนกาลเวลาผ่านไปๆ จนกระทั่งถึงปี พ.ศ.2501 ท่านบอกว่าข้าพเจ้าไม่มีกิจที่จะต้องทำมากนักตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคมเป็นต้นมา จึงค้นเอาต้นฉบับเดิมของข้าพเจ้าเอามาปรับปรุงเขียนใหม่ นอกจากนั้นท่านยังแสดงสปิริตนักเขียนไทยอันสูงส่งไว้อีกด้วยว่า ข้าพเจ้าได้แจ้งไว้ที่หน้าปกแล้วว่า ข้าพเจ้าเรียบเรียงบทละครเรื่องนี้ตามโครงเรื่อง MAN AND SUPERMAN ของ GEORGE BERNARDSHAW นักวรรณคดีทั้งหลายคงจะรู้จักท่าน ยอร์ช เบอร์นาดชอว์ และเรื่อง แมน แอนด์ ซูเปอร์แมน อยู่แล้ว
            ความประสงค์ของท่านนั้นเพียงว่า การรักษารูปเรื่องและโวหารของปราชญ์ไว้ตามเดิมนั้นมิใช่เป็นของง่าย ตอนใดที่จะรักษาไว้ได้ข้าพเจ้าก็พยายามรักษาไว้ ตอนใดที่ข้าพเจ้าเห็นว่าควรดัดแปลงก็ได้ดัดแปลงให้เหมาะสมกับส่วนใหญ่ เพื่อให้เข้ากับบ้านเมืองไทย และวัฒนธรรมไทย
             พิมพ์พิไล ของ ม.ล.ปิ่น มาลากุล พิมพ์ครั้งที่สอง 1 พันเล่ม พ.ศ.2518 องค์การค้าของคุรุสภา ศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ จัดพิมพ์จำหน่าย ราคา 23 บาท  ถ้าท่านได้อ่านและ “ ศึกษา ” สำนวนและ “ ความคิด ” ของผู้ประพันธ์แล้วก็ต้องยอม “ ฟันธง ” ได้ว่า ม.ล.ปิ่น มาลากุล สมควรแล้วที่จะได้รับการยกย่องไว้ในวงวรรณกรรมไทยอย่างแท้จริง
              ครั้งแรกที่ท่านแต่งเสร็จและพิมพ์ไปครั้งที่ 1 นั้น เรื่องนี้ไม่ได้ชื่อ “ พิมพ์พิไล ” แต่เมื่อท่านตรวจทานแก้ไขใหม่จัดพิมพ์ครั้งที่ 2 จึงได้เปลี่ยนให้เหมาะสมว่า “ พิมพ์พิไล ” สำนวนร้อยแก้วเป็นบทละครของท่านนั้น ถ้าท่านไม่บอกกล่าวไว้ก่อนว่า ได้ดัดแปลงมาจากเรื่องของ ยอร์ช เบอร์นาดชอว์ ก็คงไม่มีใครจับได้ว่าท่านเอาเรื่องฝรั่งมาเรียบเรียง เพราะท่านบรรยายไว้เป็นธรรมชาติชีวิตไทยๆได้อย่างไม่มีที่จะติ และสนุกด้วยอ่านแล้วก็วางไม่ลงรวมทั้งข้อคิดความเห็นของตัวละครที่ชอบล้อเลียน เสียดสีการเมืองและระบบการเมืองแบบประชาธิปไตยที่บังเอิญประเทศไทยกำลังตั้งไข่ล้มต้มไข่กินทั้งวาทะและอารมณ์ของตัวละครเมื่อวิจารณ์กันถึงสันดาน ธรรมชาติของมนุษย์ ความรัก ฯลฯ ก็แสนจะสาแก่ใจคนอ่านดีแท้แม้ว่าจะเป็นคารมของเบอร์นาดชอว์เป็นส่วนมากก็ตาม
               เรื่องย่อๆ มีดังนี้...วิเชียร   ทวี    พิมพ์พิไล  เป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็กๆเหมือน ขุนช้าง ขุนแผน กับพิมพิลาไลย จึงสนิทสนมกันจนโตเป็นหนุ่มสาว พิมพ์พิไลนั้นบิดาเป็นคุณหลวง มีเพื่อนสนิทคือคุณพระรามคชเสถียร ซึ่งเป็นคนหัวเก่านิยมอำมาตยาธิปไตย เป็นผู้ดีมีตระกูล ซึ่งบิดาของพิมพ์พิไลก็เป็นตระกูลอำมาตย์ผู้ดีเหมือนกัน พิมพ์ จึงถูกเลี้ยงดูมาอย่างผู้ดีไทยสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 คือ ตัดสินใจเองคิดเองไม่เป็น มีเรื่องอะไรก็อ้างคุณพ่อสั่งคุณแม่บังคับ ทวีนั้น หลวงไวท์พ่อของพิมพ์เอามาเลี้ยงเป็นลูก เพราะไม่มีลูกชาย มีแค่ธิดา 2 คน ทวีก็เป็นเด็กดี คุณหลวงไวท์และภรรยาก็รักยิ่งกว่าลูกตัวเองด้วยซ้ำไป เมื่อเป็นหนุ่มเป็นสาว ทวีก็หลงรักพิมพ์พิไล  พิมพ์พิไลก็ไม่ปฏิเสธความรักของทวี ส่วนวิเชียรกับพิมพ์นั้นเป็นคู่กัดกันมาแต่เด็กๆ เล่นอะไรกันก็ชิงไหวชิงพริบกันมาตลอด ต่างคนต่างทันเกมของกันและกัน พิมพ์นั้นใช้ความสวยและความเป็นสาวผู้ดีเป็นอาวุธ แต่วิเชียรรู้เท่าทัน วิเชียรจึงจงเกลียดจงชังพิมพ์เป็นอันมาก จนเข้าไปในเส้นเลือดก็ว่าได้ เมื่อหลวงไวท์ใกล้ตายจึงทำพินัยกรรมตั้งให้คุณพระรามฯ กับ วิเชียรเป็นผู้ปกครองลูกสาว 2 คน เพราะเห็นว่าพิมพ์ยังไร้เดียงสา อ่อนโลก แม้ว่าจะเป็นสาวแล้ว การที่หลวงไวท์ตั้งพระรามฯกับวิเชียรให้เป็นผู้ปกครองพิมพ์นั้นก็เพราะหลวงไวท์ปรึกษาวิเชียรว่าจะตั้งคุณพระรามเป็นผู้ปกครองพิมพ์ดีไหม วิเชียรแนะนำว่า คุณพระรามเป็นคนหัวโบราณไม่ทันโลกควรตั้งคนหนุ่มมาประสานความคิดด้วยเพราะโลกก้าวหน้ารวดเร็ว คนหนุ่มก็หัวก้าวหน้าจึงจะทันโลก หลวงไวท์เห็นด้วยก็เลยตั้งวิเชียรเป็นผู้ปกครองอยู่กับพระรามฯเสียเลย เพราะวิเชียรเป็นนักกฎหมายและนักเขียนบทความหัวรุนแรงทางการเมืองและการปกครองและเป็นที่ไม่พึงปราถนาของคุณพระราม
-   2   -
เหตุการณ์ที่ผู้ปกครอง 2 คน  ความคิดต่างกันเหมือนฟ้ากับดินต้องมาเป็นผู้ปกครองสาวสวยน้ำนิ่งไหลลึกเช่น   พิมพ์พิไล  จึงเกิดคารมปะทะกันระหว่างคนหัวหงอกอย่างคุณพระรามฯ กับคนหัวดำรุ่นใหม่ที่คลั่งประชาธิปไตยและการเมืองอย่างวิเชียรอย่างดุเด็ดเผ็ดมันเต็มไปด้วยคำคมและปรัชญาชีวิตหลายด้านเพราะวิเชียรจงชังพิมพ์พิไลมาแต่เด็ก เพราะพิมพ์รู้ทันวิเชียร แต่ใจเย็นสุขุมลุ่มลึกกว่าวิเชียร  วิเชียรจำต้องรับภาระที่ไม่อยากเป็นผู้ปกครองตามพินัยกรรม แต่ขัดไม่ได้เพราะเคารพรักหลวงไวท์มาตั้งแต่เด็กๆ จึงพยายามบ่ายเบี่ยงผลักไสภาระนั้นออกไปให้ได้ คุณพระรามก็ชังวิเชียรเพราะเป็นหนุ่มก้าวร้าวไม่ค่อยจะมีมารยาท จึงคิดจะทำพินัยกรรมใหม่โดยอ้างว่าขณะทำพินัยกรรมหลวงไวท์มีจิตไม่ปรกติ...
     ข้าพเจ้าอยากให้ตัวอย่างอีกองก์หนึ่งของละครเป็นฉากขุนช้าง ขุนแผน นางวันทองและยมบาลมาคุยกันสนทนากัน
ถึงวัฒนธรรมและประเพณีนิยมของนรก ที่เป็นฉากภาคขุนช้าง ขุนแผนภาคนรก ล้วนแต่มีคติและทัศนะโลกนิยม การเมือง
สังคมมนุษย์ ที่แสบร้อนในโวหารแต่ละคน สนุกอย่างไรไม่ขอยกมาเป็นตัวอย่างเพราะอยากให้ท่านลองพยายามไปเสาะแสวงหาอ่านเอง..... ขอบคุณครับ    
            
                                                                  ไพสิฏฐ์   นวลสัมพันธ์
                                                     ประธานชมรมคนรักวรรณกรรม(เก่า)
                                                                  27 มีนาคม   2555      




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10 เมษายน 2012 | 10:50:17 AM โดย Sombunประธานชมรมคนรักหนังเก่า » บันทึกการเข้า
Sombunประธานชมรมคนรักหนังเก่า
Close To The Edge
******
กระทู้: 1409



ดูรายละเอียด
« ตอบ #52 เมื่อ: 11 เมษายน 2012 | 08:57:33 AM »

ขออนุญาตเผยแพร่นะครับ ยิ้ม....
จดหมายข่าว
ชมรมคนรักประวัติศาสตร์เสรี

ลำดับราชวงศ์ต่างๆที่ปกครองประเทศอังกฤษ
ก. ราชวงศ์แซกซัน  มีพระมหากษัตริย์ขึ้นครองราชบัลลังก์ 14 องค์
    1. พระเจ้าเอ็กเบิร์ต                            ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 1370   สิ้นสุดรัชกาล พ.ศ. 1382
    2.  พระเจ้าลิเธลวอล์ฟ                        ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 1382   สิ้นสุดรัชกาล พ.ศ. 1401
    3.  พระเจ้าอีเธลบอลด์                        ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 1401   สิ้นสุดรัชกาล พ.ศ. 1403
    4.  พระเจ้าอีเธลเบิร์ต                          ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 1403   สิ้นสุดรัชกาล พ.ศ. 1409
    5.  พระเจ้าอีเธลเรดที่ 1                       ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 1409   สิ้นสุดรัชกาล พ.ศ. 1414
    6.  พระเจ้าอัลเฟรดมหาราช                 ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 1414   สิ้นสุดรัชกาล พ.ศ. 1443
    7.  พระเจ้าเอเวิร์ต                               ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 1443   สิ้นสุดรัชกาล พ.ศ. 1468
    8.  พระเจ้าเอเธนสแตน                        ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 1468   สิ้นสุดรัชกาล พ.ศ. 1484
    9.  พระเจ้าเอ็ดมันที่ 1                          ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 1484   สิ้นสุดรัชกาล พ.ศ. 1489
  10.  พระเจ้าเอดเรด                               ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 1489    สิ้นสุดรัชกาล พ.ศ. 1498
  11.  พระเจ้าเอดวี                                  ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 1498    สิ้นสุดรัชกาล พ.ศ. 1500 
  12.  พระเจ้าเอดการ์                               ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 1500   สิ้นสุดรัชกาล พ.ศ. 1518
  13.  พระเจ้าเอดเวิด                                ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 1518   สิ้นสุดรัชกาล พ.ศ. 1521
  14.  พระเจ้าอิลเธลเรด                            ขึ้นครองราชย์ พ.ศ.  1521  สิ้นสุดรัชกาล พ.ศ. 1556
ข. ราชวงศ์เดนส์กับแซกซัน   ขึ้นครองประเทศอังกฤษ 8 องค์
     1.  พระเจ้าซุเอนอน                              ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 1556   สิ้นสุดรัชกาล พ.ศ. 1557
     2.  พระเจ้าอีเธลเรด                              ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 1557   สิ้นสุดรัชกาล พ.ศ. 1559
     3.  พระเจ้าเอดมันที่ 2                           ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 1559   สิ้นสุดรัชกาล พ.ศ. 1560
     4.  พระเจ้าคานุต                                  ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 1560   สิ้นสุดรัชกาล พ.ศ. 1579
     5.  พระเจ้าฮาโรลที่ 1                            ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 1579   สิ้นสุดรัชกาล  พ.ศ. 1582
     6.  พระเจ้าฮาร์ดคานุต                          ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 1582   สิ้นสุดรัชกาล  พ.ศ. 1584
     7.  พระเจ้าเอดเวิดคอนเฟลเซอร์            ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 1584   สิ้นสุดรัชกาล  พ.ศ. 1609
     8.  พระเจ้าฮาโรลที่ 2                            ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 1609   ครองได้ไม่ถึงปีสิ้นรัชกาล.
ค. ราชวงศ์นอร์แมน   ปกครองอังกฤษ 4 องค์
     1.  พระเจ้าวิลเลียมเดอะคองเกอเรอร์     ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 1609   สิ้นสุดรัชกาล  พ.ศ. 1630
     2.  พระเจ้าวิลเลียมรูฟัส                        ขึ้นครองราชย์ พ.ศ.  1630  สิ้นสุดรัชกาล   พ.ศ. 1643
     3.  พระเจ้าเฮนรี่ ที่ 1                             ขึ้นครองราชย์ พ.ศ.  1649  สิ้นสุดรัชกาล   พ.ศ. 1668
     4.  พระเจ้าลาตเฟนออพบลอยส์            ขึ้นครองราชย์ พ.ศ.  1681  สิ้นสุดรัชกาล   พ.ศ. 1723
ง.  ราชวงศ์บลังตาเชอเนต์   ปกครองอังกฤษ 8 องค์
     1.  พระเจ้าเฮนรี่ ที่ 2                              ขึ้นครองราชย์ พ.ศ.  1697 สิ้นสุดรัชกาล   พ.ศ. 1732
     2.  พระเจ้าริชาร์ด ไลออนฮาร์ต               ขึ้นครองราชย์ พ.ศ.  1732 สิ้นสุดรัชกาล   พ.ศ. 1742
     3.  พระเจ้าจอห์นแลคแลนด์                    ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 1742  สิ้นสุดรัชกาล   พ.ศ. 1759
     4.  พระเจ้าเฮนรี่ ที่ 3                               ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 1749  สิ้นสุดรัชกาล   พ.ศ. 1815
     5.  พระเจ้าเอดเวิร์ดที่ 1                           ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 1815  สิ้นสุดรัชกาล   พ.ศ. 1850
     6.  พระเจ้าเอดเวิร์ดที่ 2                           ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 1850  สิ้นสุดรัชกาล   พ.ศ. 1870     
     7.  พระเจ้าเอดเวิร์ดที่ 3                           ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 1870  สิ้นสุดรัชกาล   พ.ศ. 1920
     8.  พระเจ้าริชาร์ดที่ 2                              ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 1940  สิ้นสุดรัชกาล   พ.ศ. 1942
จ.  ราชวงศ์แลงคาสเตอร์       ครองราชย์  3  องค์
     1.   พระเจ้าเฮนรี่ ที่ 4                               ขึ้นครองราชย์ พ.ศ.  1942 สิ้นสุดรัชกาล  พ.ศ. 1955
     2.   พระเจ้าเฮนรี่ ที่ 5                               ขึ้นครองราชย์ พ.ศ.  1955 สิ้นสุดรัชกาล  พ.ศ.  1965
-   2   -
      3.   พระเจ้าเฮนรี่ที่ 6                                 ขึ้นครองราชย์  พ.ศ. 1965  สิ้นสุดรัชกาล  พ.ศ. 2003
ฉ.  ราชวงศ์ยอร์ก                ครองอังกฤษ 3 องค์
       1.   พระเจ้าเอดเวิร์ดที่ 4                           ขึ้นครองราชย์  พ.ศ. 2003  สิ้นสุดรัชกาล  พ.ศ. 2006
       2.   พระเจ้าเอดเวิร์ดที่ 5                           ขึ้นครองราชย์  พ.ศ. 2006 ได้เพียง 2 เดือนครึ่ง
       3.   พระเจ้าริชาร์ดที่ 3                              ขึ้นครองราชย์  พ.ศ. 2006   สิ้นสุดรัชกาล พ.ศ. 2028
ช. ราชวงศ์ทิวดอร์        ปกครองอังกฤษ  6  องค์
       1.   พระเจ้าเฮนรี่ที่ 7                                 ขึ้นครองราชย์  พ.ศ. 2028   สิ้นสุดรัชกาล พ.ศ. 2052
       2.   พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8                                  ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 2052   สิ้นสุดรัชกาล พ.ศ. 2090
       3.   พระเจ้าเอดเวิร์ดที่ 6                             ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 2090   สิ้นสุดรัชกาล พ.ศ. 2096
       4.   พระเจ้าเยนเกรย์                                  ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 2096   ครองราชย์เพียง 10 วัน
       5.   พระนางแมรี่                                        ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 2096   สิ้นสุดรัชกาล พ.ศ. 2101
       6.   พระนางเอลิซาเบธ                               ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 2101   สิ้นสุดรัชกาล พ.ศ. 2146
ซ. ราชวงศ์สจ๊วต      ครองอังกฤษ 9 องค์
       1.   พระเจ้าเจมส์ที่ 1                                  ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 2146   สิ้นสุดรัชกาล พ.ศ. 2167
       2.   พระเจ้าชาร์ลที่ 1                                  ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 2167   สิ้นสุดรัชกาล พ.ศ. 2191
       3.   ปกครองแบบรีปัปลิก ระหว่าง พ.ศ. 2191 – 2195
       4.    โอลิเวอร์ ครอมเวลล์ ระหว่าง พ.ศ. 2195 -  2201   
       5.    ริชาร์ด ครอมเวลล์    ระหว่าง พ.ศ. 2201 – มีอำนาจอยู่ 8 เดือน
       ราชวงศ์สจ๊วตได้กลับมาใหม่ คือ
        6.   พระเจ้าชาร์ลที่ 2                                 ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 2203   สิ้นสุดรัชกาล พ.ศ. 2227
        7.   พระเจ้าเจมส์ที่ 2                                 ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 2227   สิ้นสุดรัชกาล พ.ศ. 2231
        8.   พระเจ้าวิลเลียมที่ 3 + พระนางแมรี่       ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 2232   สิ้นสุดรัชกาล พ.ศ. 2245
        9.   พระนางแมรี่อานน์                               ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 2245   สิ้นสุดรัชกาล พ.ศ. 2257
ฌ. ราชวงศ์แฮนโนเวอร์       ครองราชย์  11  องค์
        1.   พระเจ้ายอร์ชที่ 1                                  ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 2257  สิ้นสุดรัชกาล พ.ศ. 2270
        2.   พระเจ้ายอร์ชที่ 2                                  ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 2270  สิ้นสุดรัชกาล พ.ศ. 2303
        3.   พระเจ้ายอร์ชที่ 3                                  ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 2303  สิ้นสุดรัชกาล พ.ศ. 2363
        4.   พระเจ้ายอร์ชที่ 4                                  ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 2363  สิ้นสุดรัชกาล พ.ศ. 2373
        5.   พระเจ้าวิลเลียมที่ 4                              ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 2373  สิ้นสุดรัชกาล พ.ศ. 2380
        6.   พระราชินีวิกโทเรีย                                ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 2380  สิ้นสุดรัชกาล พ.ศ. 2444
        7.   พระเจ้าเอดเวิร์ดที่ 7                              ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 2444  สิ้นสุดรัชกาล พ.ศ. 2453
        8.   พระเจ้ายอร์ชที่ 5                                  ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 2453  สิ้นสุดรัชกาล พ.ศ. 2479
        9.   พระเจ้าเอดเวิร์ดที่ 8                              ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 2479 ไม่ถึงปีก็สละราชบัลลังก์
      10.   พระเจ้ายอร์ชที่ 6                                  ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 2479  สิ้นสุดรัชกาล พ.ศ. 2495
      11.   พระนางเอลิซาเบธที่ 2                           ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 2495 ถึงปัจจุบัน

                                    จะเห็นว่าการปกครองของอังกฤษ ระบบกษัตริย์วุ่นวายพอดู กว่าจะพบกับความมั่นคงดำรงตนเป็นจอมจักรพรรดิ
              ของโลกที่มีพระอาทิตย์ไม่ตกดิน และมีหลายชาติหลายเผ่าพันธุ์ปนเปกันไปใช้ชื่อเรียกเป็นทางการว่า เกรทบริตเตน หรือคิงดอม
              ออฟ บริตเตน เขาไม่ใช้คำว่า อิงแลนด์เรียกตัวเอง เพราะคำว่าอิงแลนด์คือเกาะใหญ่เกาะเดียว ได้เปลี่ยนแปลงการปกครองเป็น
              ระบอบประชาธิปไตยมีกษัตริย์เป็นประมุขมาจนถึง ปี พ.ศ. 2495 นับได้ 100 ปี หมายความว่าใช้ระบอบประชาธิปไตยตั้งแต่ปี พ.ศ.2395
              คือตั้งแต่สมัยควีนวิกโทเรีย ตรงกับประเทศสยามรัชชสมัยรัชกาลที่ 4 และล้มลุกคลุกคลานแย่งชิงอำนาจกันแบบเงียบๆประสาเมือง
              ผู้ดี กว่าจะมีสถานะ “ เสถียร “ จนอยู่ตัวมั่นคงถึงทุกวันนี้ก็ร้อนแรงดุเดือดมาแล้วเหมือนกัน แต่ไม่ป่าเถื่อนมากนัก เพราะผ่านความ
              ป่าเถื่อนมาแล้วสมัยโอลิเวอร์ ครอมเวลล์มาพอแล้ว ดังนั้นวินัย การเมืองของอังกฤษจึงถึงขีดลงตัวมีพร้อมทั้งมารยาท+วินัย
-   3    -
              ส่วนประเทศที่เอาอย่างประเทศอังกฤษมาใช้หลายแผ่นดิน ยังมีสถานะการเมืองไม่นิ่ง ไม่เสถียร เพราะวินัย+มารยาททางการเมือง
              มีน้อย อำนาจตัณหาการเมืองครอบงำจิตใจมากกว่า เลยต้องมีการเข่นฆ่าประชาชนกลางเมืองจนเลือดนองแผ่นดิน กลายเป็นโศก
              นาฏกรรมของคนเมืองเช่นทุกวันนี้
                       ชมรมฯ ขอเปิดฉากแรกด้วยการแนะนำลำดับราชวงศ์อังกฤษเป็นการโหมโรงและเพื่อการศึกษาเพราะไทยใกล้ชิดกับอังกฤษมานานมีอะไรๆคล้ายๆกัน  ข้าฯเห็นว่าคนไทยที่จบจากประเทศอังกฤษหลายๆคนยังไม่รู้จักราชวงศ์ของอังกฤษ แต่คนผิวขาวตะวันตกมาเมืองไทยเขาศึกษาคนไทยถึงรากเหง้าและโคตร อายเขาไหม?.....ขอบคุณครับ

                                                                      ไพสิฏฐ์  นวลสัมพันธ์
                                                              ประธานชมรมคนรักประวัติศาสตร์เสรี
                                                                                                               9 เมษายน 2555 
                       
บันทึกการเข้า
Sombunประธานชมรมคนรักหนังเก่า
Close To The Edge
******
กระทู้: 1409



ดูรายละเอียด
« ตอบ #53 เมื่อ: 25 เมษายน 2012 | 02:26:55 PM »

สวัสดีครับ ขอโปรยหัวเอาไว้ก่อนนะครับ

จดหมายข่าว  ชมรมคนรักประวัติืศาสตร์เสรี

กำพืืดอังกฤษ


ความจริงนั้นคือ...  ***มีต่อนะครับโปรดอดใจรอ***
บันทึกการเข้า
Sombunประธานชมรมคนรักหนังเก่า
Close To The Edge
******
กระทู้: 1409



ดูรายละเอียด
« ตอบ #54 เมื่อ: 17 พฤษภาคม 2012 | 04:09:44 PM »

สวัสดีครับ ขอโปรยหัวเอาไว้ก่อนนะครับ

จดหมายข่าว  ชมรมคนรักประวัติืศาสตร์เสรี

กำพืืดอังกฤษ


ความจริงนั้นคือ...  ***มีต่อนะครับโปรดอดใจรอ***
ขออนุญาตต่อเลยนะครับ......
จดหมายข่าว
ชมรมคนรักประวัติศาสตร์เสรี

กำพืดอังกฤษ

ความจริงนั้นคือ คนอังกฤษไม่ได้อยู่ในอิงแลนด์เสมอไปอย่างที่พวกเราคิด เมื่อย้อนหลังไปในยุคที่ไม่สามารถนับเวลาได้นั้น ประเทศนี้มีคนอาศัยอยู่แล้วหลายเผ่าพันธุ์ เราเข้าใจได้ว่า ชนที่เข้ามาอยู่เกาะอังกฤษรุ่นล่าสุด คนอังกฤษเข้ามาอยู่ในเกาะนี้เมื่อประมาณไม่มากไปกว่า 1,500 ปี เท่านั้น
เมื่อคนอังกฤษเข้ามาอยู่ในแผ่นดินบริตเตนเมื่อแรกเริ่มนั้นทุกๆอย่างไม่เหมือนที่เป็นอยู่ในยุคปัจจุบันนี้เลย แล้วถ้าเรามองย้อนหลังกลับไปไกลออกไปและไกลออกไปสู่ยังยุคมืด คือยุคยังไร้ซึ่งอารยธรรมของมนุษย์ เราก็ยังพบเห็นสิ่งแปลกๆยังคงมีอยู่ในสภาพปัจจุบันคือ อังกฤษเต็มไปด้วยทุ่งข้าวโพดและเขียวชะอุ่มไปด้วยทุ่งหญ้ามีบึงบางและป่าดิบใหญ่ คนพื้นเมืองที่เป็นชาวูเขา ทิวเขาแห่งสก็อตปกคลุมทั่วไปกับต้นไม้ใหญ่ๆที่ยังไม่มีการตัดฟันสภาพเป็นป่าดงดิบใหญ่อุดมไปด้วยฝูงสัตว์ดุร้ายทั้งแผ่นดิน ซึ่งกระดูกของมันถูกฝังกลบอยู่ในดินมากมายมาแต่โบราณ เช่น หมี  ควายไบซัน และฝูงสุนัขป่าผู้หิวกระหาย มนุษย์เริ่มบุกรุกเข้ามาเป็นแขกของป่าดงดิบมหึมานี้เป็นครั้งแรกในตอนนั้น
            ช่วงเวลานั้นถูกเรียกว่ายุคก่อนประวัติศาสตร์( PREHISTORIC  ) ซึ่งมีความหมายว่า “ ช่วงเวลาอันยาวนานก่อนที่ประวัติศาสตร์จะเกิดมีขึ้น ” ไม่มีใครสามารถกำหนดหมายได้ว่ามันเป็นเวลาอันแน่นอนที่ผ่านมาแล้วได้สักเท่าใด แต่เป็นที่แน่นอนว่าไม่น้อยกว่าหนึ่งหมื่นปีขึ้นไป เราพบทะเลสาบสร้างด้วยฝีมือมนุษย์ ก้อนหินตั้งเรียงหมู่ที่เรียกว่า สะโตนเฮนส์ และเครื่องมือ เครื่องใช้ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่ฝังอยู่ในดินมากมาย เท่าที่พบมนุษย์ยุคแรกในอังกฤษนั้นเป็นยุคก่อนประวัติศาสตร์ตัวเล็กแต่ส่วนอกและไหล่กว้าง แขนยาว ลักษณะคล้ายลิงเอ๊ปคือลิงไม่มีหาง ขนเยอะ ส่วนมากไม่นุ่งห่มเสื้อผ้า ดวงตาเล็กเบ้าจมลึก มีกรามใหญ่ และยื่นด้วย ฟันใหญ่  นี่คือมนุษย์หรือชาวประชาของอังกฤษยุคแรก นักมานุษยวิทยาขนานนามว่าเป็น ชาวอังกฤษรุ่นแรก เรียกว่าเป็นพวกไบรตันส์( BRITONS )

********ยังไม่จบ  มีต่ออีกนะครับ *********
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 พฤษภาคม 2012 | 04:12:00 PM โดย Sombunประธานชมรมคนรักหนังเก่า » บันทึกการเข้า
Sombunประธานชมรมคนรักหนังเก่า
Close To The Edge
******
กระทู้: 1409



ดูรายละเอียด
« ตอบ #55 เมื่อ: 18 พฤษภาคม 2012 | 09:36:53 AM »

ผมเองไม่ค่อยได้สนใจประวัติศาสตร์ของชาติอื่นนัก (ยกเว้นญี่ปุ่น แต่ก็ไม่มีหนังสือที่เป็นภาษาไทยให้อ่านเลย ไม่รู้จักเลยสักเล่ม) ส่วนเรื่องที่เกี่ยวกับอังกฤษ ก็เคยอ่านแต่เรื่อง พระราชินีนาถวิคตอเรีย (เพราะความที่หลงใหลกับนักเขียนผู้นี้ กับนิยายอีกสองเรื่องที่เกี่ยวกับต่างประเทศ ได้แก่ ฤิทธีราชินีสาว คลั่งเพราะรัก) แต่อะไรเป็นยังไง ประเพณีวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ค่านิยมเป็นยังไงบ้างนั้น ลืมหมดเสียแล้ว เพราะอ่านมานานมากแล้ว คงเกือบๆ 10 ปีได้ ไม่ทราบว่า พอจะมีพงศาวดารญี่ปุ่นให้อ่านบ้างมั๊ยครับ ?.
ขอบคุณที่ให้ความสนใจครับ  ผมจะนำเรียนประธานฯ ให้หาเรื่อง ปวศ. ญี่ปุ่น มานำเสนอนะครับ ในชั้นนี้ผมขอแนะนำให้เข้าเว็บไซด์ " วิกิพีเดีย  " หรือ เว็บไซด์ที่เป็นคลังความรู้ต่างๆ หรือพิมพ์คำว่า ปวศ.ญี่ปุ่น ลงในกูเกิ้ล นะครับ....ในความคิดเห็นของผม  ปวศ. อยู่รอบๆตัวเรา แม้แต่บนถุงกล้วยแขก ยิ้ม
บันทึกการเข้า
Sombunประธานชมรมคนรักหนังเก่า
Close To The Edge
******
กระทู้: 1409



ดูรายละเอียด
« ตอบ #56 เมื่อ: 18 พฤษภาคม 2012 | 11:28:01 AM »

เมื่อวานหาเสริช์เรื่องที่สนใจอยากรู้บางเรื่อง ไปเจอบอร์ดนี้เข้าครับ ไม่ทราบว่ามีใครเคยเข้าไปเล่นไปอ่านบ้างหรือเปล่า น่าสนใจดีมากครับ ชอบสมาชิกที่ชื่อ เทาสมพู เห็นใครๆเรียกแต่อาจารย์ อาจารย์  ยิ้มเท่ห์

http://www.reurnthai.com/index.php?PHPSESSID=13b3d4c1f2aa46a22fb996611e997daa&

ขอบคุณครับ.....แผ่นดินนี้ยังมีกระบี่นิรนามอยู่อีกมากมาย ยิ้ม....และวิธีการหนึ่งในการศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของตัวผมก็คือ การดูหนังครับ  เช่น ดูเรื่อง เบนเฮอร์  ก็ได้เรียนรู้ ปวศ. เรื่องนึง/ด้านนึง/แง่นึง/มุมนึง....ดูเรื่อง สปาร์ตาคัส ก็ได้อีกหลายๆความรอบรู้เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ครับ ยิ้ม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18 พฤษภาคม 2012 | 02:13:21 PM โดย Sombunประธานชมรมคนรักหนังเก่า » บันทึกการเข้า
Sombunประธานชมรมคนรักหนังเก่า
Close To The Edge
******
กระทู้: 1409



ดูรายละเอียด
« ตอบ #57 เมื่อ: 18 พฤษภาคม 2012 | 03:02:02 PM »

สวัสดีครับ ขอโปรยหัวเอาไว้ก่อนนะครับ

จดหมายข่าว  ชมรมคนรักประวัติืศาสตร์เสรี

กำพืืดอังกฤษ


ความจริงนั้นคือ...  ***มีต่อนะครับโปรดอดใจรอ***
ขออนุญาตต่อเลยนะครับ......
จดหมายข่าว
ชมรมคนรักประวัติศาสตร์เสรี

กำพืดอังกฤษ

ความจริงนั้นคือ คนอังกฤษไม่ได้อยู่ในอิงแลนด์เสมอไปอย่างที่พวกเราคิด เมื่อย้อนหลังไปในยุคที่ไม่สามารถนับเวลาได้นั้น ประเทศนี้มีคนอาศัยอยู่แล้วหลายเผ่าพันธุ์ เราเข้าใจได้ว่า ชนที่เข้ามาอยู่เกาะอังกฤษรุ่นล่าสุด คนอังกฤษเข้ามาอยู่ในเกาะนี้เมื่อประมาณไม่มากไปกว่า 1,500 ปี เท่านั้น
เมื่อคนอังกฤษเข้ามาอยู่ในแผ่นดินบริตเตนเมื่อแรกเริ่มนั้นทุกๆอย่างไม่เหมือนที่เป็นอยู่ในยุคปัจจุบันนี้เลย แล้วถ้าเรามองย้อนหลังกลับไปไกลออกไปและไกลออกไปสู่ยังยุคมืด คือยุคยังไร้ซึ่งอารยธรรมของมนุษย์ เราก็ยังพบเห็นสิ่งแปลกๆยังคงมีอยู่ในสภาพปัจจุบันคือ อังกฤษเต็มไปด้วยทุ่งข้าวโพดและเขียวชะอุ่มไปด้วยทุ่งหญ้ามีบึงบางและป่าดิบใหญ่ คนพื้นเมืองที่เป็นชาวูเขา ทิวเขาแห่งสก็อตปกคลุมทั่วไปกับต้นไม้ใหญ่ๆที่ยังไม่มีการตัดฟันสภาพเป็นป่าดงดิบใหญ่อุดมไปด้วยฝูงสัตว์ดุร้ายทั้งแผ่นดิน ซึ่งกระดูกของมันถูกฝังกลบอยู่ในดินมากมายมาแต่โบราณ เช่น หมี  ควายไบซัน และฝูงสุนัขป่าผู้หิวกระหาย มนุษย์เริ่มบุกรุกเข้ามาเป็นแขกของป่าดงดิบมหึมานี้เป็นครั้งแรกในตอนนั้น
            ช่วงเวลานั้นถูกเรียกว่ายุคก่อนประวัติศาสตร์( PREHISTORIC  ) ซึ่งมีความหมายว่า “ ช่วงเวลาอันยาวนานก่อนที่ประวัติศาสตร์จะเกิดมีขึ้น ” ไม่มีใครสามารถกำหนดหมายได้ว่ามันเป็นเวลาอันแน่นอนที่ผ่านมาแล้วได้สักเท่าใด แต่เป็นที่แน่นอนว่าไม่น้อยกว่าหนึ่งหมื่นปีขึ้นไป เราพบทะเลสาบสร้างด้วยฝีมือมนุษย์ ก้อนหินตั้งเรียงหมู่ที่เรียกว่า สะโตนเฮนส์ และเครื่องมือ เครื่องใช้ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่ฝังอยู่ในดินมากมาย เท่าที่พบมนุษย์ยุคแรกในอังกฤษนั้นเป็นยุคก่อนประวัติศาสตร์ตัวเล็กแต่ส่วนอกและไหล่กว้าง แขนยาว ลักษณะคล้ายลิงเอ๊ปคือลิงไม่มีหาง ขนเยอะ ส่วนมากไม่นุ่งห่มเสื้อผ้า ดวงตาเล็กเบ้าจมลึก มีกรามใหญ่ และยื่นด้วย ฟันใหญ่  นี่คือมนุษย์หรือชาวประชาของอังกฤษยุคแรก นักมานุษยวิทยาขนานนามว่าเป็น ชาวอังกฤษรุ่นแรก เรียกว่าเป็นพวกไบรตันส์( BRITONS )

********ยังไม่จบ  มีต่ออีกนะครับ *********
ขออนุญาตต่อตอนจบเลยนะครับ

......จากเวลาอันยาวนานแผ่นดินนี้ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับ ชาวโรมันในยุคประวัติศาสตร์เริ่มต้น สองพันกว่าปีมาแล้ว จูเลียส ซีซาร์ ผู้พิชิตได้เข้ายึดครองเกาะอังกฤษทั้งหมด หลังจากพิชิตยุโรปทั้งมวลไว้แล้ว กาลเวลาก่อนยุคประวัติศาสตร์จนมาถึงยุคประวัติศาสตร์ เมื่อเกาะอังกฤษเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรโรมันนั่นเองชาวไบรตันส์ได้พัฒนาการจนถงระดับซิวิไลซ์มากข้น มีการค้าขายไปมาระหว่างไบรตันกับฝรั่งเศสซึ่งยุคนั้นเรียกว่าพวกกอล( GAUL ) มีการประดิษฐ์ของใช้ด้วยเหล็ก(โลหะ)เกิดขึ้นและประดิษฐ์เสื้อผ้าใช้กันแล้ว ทั้งกอลและไบรตันต่างควบคุมกันเป็นกลุ่มๆมีหัวหน้าปกครองจนรวมเป็นกลุ่มใหญ่มากๆตั้งเป็นอาณาจักรเล็กๆของตนเอง แล้วรวมหัวกันรบพุ่งอย่างองอาจกล้าหาญจนขับไล่ชาวโรมันที่จูเลียส ซีซาร์ปกรองอยู่ได้สำเร็จ
            สมัยที่รวมกลุ่มกันต่อสู้ขับไล่อำนาจโรมันออกไปนั้น แต่ละกลุ่มมีชื่อเรียกขานกันต่างๆ เช่น พวกชาวพิคท์( PICTS ) สก็อตส์ , หรือชาวคาเลโดเนียนส์ อำนาจโรมันซึ่งเป็นจอมจักรวรรดิ์ของโลกค่อยๆเสื่อมอำนาจลงอย่างช้าๆ และก็ถึงเวลาล่มสลายตามมาอย่างรวดเร็ว กลุ่มชนชาวไบรตันซึ่งมีสก็อตส์ซึ่งยุคนั้นใช้คำว่า โลว์แลนด์สแห่งสก็อตแลนด์ เป็นแนวต่อต้านโรมันอย่างเข้มแข็งที่สุด
          เมื่อจักรวรรดิโรมันพังถล่มทลาย บริเตนของชาวไบรตันเป็นกลุ่มแรกที่หลุดออกมาเป็นอิสระ นั่นคือปีค.ศ. 410 อำนาจโรมันไม่เคยคืนชีพกลับมาสู่ชาวไบรตันอีกเลย
           แต่ว่าชาวไบรตัน ยังต้องผจญกับการรุกรานของชาวเหนือ ซึ่งมีกำลังรบทางเรือยกเข้าแย่งชิงแผ่นดินเป็นของตน พวกนี้คือชาวคาเลโดเนียนเข้ายึดครองไบรตันและผสมพันธุ์ชนชาวไบรตันกลายเป็นสายเลือดชาวทะเลไป ชาวไบรตันต้องหันหน้าเข้าหาผู้ช่วยกอบกู้ชาติพันธุ์ของตน จึงไปขอร้องให้ชาวอิงลิชซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่ทรงอำนาจและไบรตันเกรงกลัวมานานได้ยินยอมเข้าช่วยเหลือขับไล่ชาวเหนือให้พ้นแผ่นดินไบรตันไป แต่ไม่ใช่ชาวอิงลิชผู้เดียวที่เข้ามาช่วยไบรตัน ยังมีชาวน้ำที่อยู่ทางทะเลเหนือที่ใช้เรือใบและเรือแจวเข้ามาร่วมวงขับไล่ศัตรูของไบรตันด้วยได้แก่ พวกแองเกลส์(ANGLES)  พวกแซกซัน( SAXONS)
และพวกจู๊ตส์(JUTES) พวกชาวทะเลเหนือที่เข้ามาขับไล่ศัตรูให้ไบรตันเมื่อเสร็จศึกก็ไม่กลับบ้านของตัว แต่ฝังตัวอยู่กับชาวไบรตันและออกรบขยายดินแดนออกไปทางทะเลและรุกขึ้นทางเหนือทางแผ่นดินสูงแผ่ไปทั้งทางตะวันตกและตะวันออกตลอดจนครอบครองชายฝั่งทะเลใต้หมดตลอดบริติชเบย์
           จากปี ค.ศ. 450 ถึงปี ค.ศ. 550 ชาวอิงลิชมีเรือรบใหญ่โตประจำอยู่ในแม่น้ำบริติชริเวอร์ตลอดอ่าวบริติชเบย์ ยุคนี้ไบรตัน
กลับสู่ความสงบและทำงานหนัก ความศิวิไลซ์เติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงปี ค.ศ. 1066 ชาวอิงแลนด์ก็ถูกกองกำลังของพวกนอร์แมนส์บุกโจมตีและเข้ายึดครองได้ทั้งแผ่นดินภายใต้การนำของกษัตริย์วิลเลี่ยมส์เดอะคองเกอเรอส์ หรือ วิลเลี่ยมส์ผู้พิชิตเป็นการโจมตีและยึดครองได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นอิงแลนด์ก็ถูกปกครองโดย วิลเลี่ยมส์ผู้พิชิต การเข้ายึดครองและปกครองของวิลเลี่ยมส์ผู้พิชิตนั้นทำให้ชาวอิงลิชมีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ แต่เดิมชาวอิงลิชใช้ภาษาเยอรมันโบราณเป็นภาษาพูด เมื่อชาวนอร์แมนส์เข้าปกครองคนอิงลิชต้องเลิกใช้ภาษาเยอรมันมาใช้ภาษาของชาวนอร์แมนส์แทน มีการเปลี่ยนแปลงทั้งความเป็นอยู่ กฎหมาย และวิถีชีวิตดั้งเดิมมาเป็นแบบนอร์แมนส์ตั้งแต่บัดนั้น.-
                                 ----------------------------------------------------------------------------------------------------------

                                                                                          ไพสิฏฐ์  นวลสัมพันธ์
                                                                               ประธานชมรมคนรักประวัติศาสตร์เสรี
                                                                                            23 เมษายน 2555
บันทึกการเข้า
Sombunประธานชมรมคนรักหนังเก่า
Close To The Edge
******
กระทู้: 1409



ดูรายละเอียด
« ตอบ #58 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2012 | 10:31:20 AM »

สวัสดีครับ...ขออนุญาตโปรยหัวเอาไว้ก่อนนะครับ
                                                                     จดหมายข่าว
                                                            ชมรมคนรักวรรณกรรม(เก่า)

            เดือนนี้คือเดือนพฤษภาคม 2555 ตามปฏิทินสุริยคติบอกว่าเป็นเดือน 6 ปีมะโรง คือวันที่ 1 พฤษภาคม ทว่าความจริงปีนี้เข้าเดือน 6 ตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน ขึ้น 1 ค่ำ เป็นวันเสาร์นะครับ เดือน 6 นั้นประเพณีชนชาติไทยเขายกให้เป็นเดือนสำหรับหนุ่มสาวจะทำพิธีสมรสกัน เพราะโบราณเขากำหนดเป็นสูตรให้แต่งงานเดือน 6
**********มีต่อนะครับ โปรดอดใจรอ  ขอบคุณครับ**************

บันทึกการเข้า
Sombunประธานชมรมคนรักหนังเก่า
Close To The Edge
******
กระทู้: 1409



ดูรายละเอียด
« ตอบ #59 เมื่อ: 31 พฤษภาคม 2012 | 08:47:22 AM »

สวัสดีครับ...ขออนุญาตโปรยหัวเอาไว้ก่อนนะครับ
                                                                     จดหมายข่าว
                                                            ชมรมคนรักวรรณกรรม(เก่า)

            เดือนนี้คือเดือนพฤษภาคม 2555 ตามปฏิทินสุริยคติบอกว่าเป็นเดือน 6 ปีมะโรง คือวันที่ 1 พฤษภาคม ทว่าความจริงปีนี้เข้าเดือน 6 ตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน ขึ้น 1 ค่ำ เป็นวันเสาร์นะครับ เดือน 6 นั้นประเพณีชนชาติไทยเขายกให้เป็นเดือนสำหรับหนุ่มสาวจะทำพิธีสมรสกัน เพราะโบราณเขากำหนดเป็นสูตรให้แต่งงานเดือน 6
**********มีต่อนะครับ โปรดอดใจรอ  ขอบคุณครับ**************


สวัสดีครับ ขออนุญาตต่ออีกนิดครับ ยิ้ม
...เดือน 9   เดือน 12   เดือน 5   เดือนอื่นๆห้ามแต่ง แต่ท่านไม่บอกว่าทำไมจึงห้ามและทำไมจึงยุ เพราะพูดแล้วเรื่องมาก ท่านก็เลยไม่บอกเหตุ แต่ที่จริงคนโบราณหรือปราชญ์ยุคโบราณของไทยท่านคำนวณวิธีโคจรแห่งจักรวาฬแล้วว่า

****มีต่ออีกครับ ยังไม่จบครับ****
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 8
พิมพ์
กระโดดไป:  

ThaiProg.net Ver 4.0 by tisanai,Shineon,kongbei
Top 10 Best Sellers in Kindle eBooks Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers In Automotive Parts And Accessories Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers in Tools and Home Improvement Under $10, Reviewer 2016
Top 10 Best Sellers in Clothing for 2017 Top 10 Best Sellers in Clothing Best Sellers in Clothing
Top 10 Best Sellers in Books reviewer 2017 Top 10 Best Sellers in Books Best Sellers in Books
Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Reviewer 2017 Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Best Sellers In Grocery