ต่อไป »

[noprock]

สนนราคาอยู่ที่เท่าไหร่ครับพี่โป่ง...

ไม่เกิน US$20.00 หรือว่า 600 บาทไทยครับสำหรับอัลบั้มซีดีทั้ง 5 ชุด แต่ยังไม่รวมค่าส่งซึ่งก็จะไม่น่าเกิน US$5.00
สรุปแล้วรวมราคาประมาณ 700 บาทเฉลี่ยแผ่นละ 140 บาทเท่านั้น !!

น่าสนครับ  แต่ราคานี้ยังไม่รวมภาษี(ถ้าโดนเรียกเก็บ)นะครับพี่...   

[Pong-Wanchai]

รูปภาพอัลบั้มลำดับที่สองในนามคณะ Black Oak Arkansas ครับ ซึ่งมือเอนจิเนียร์ไม่ใช่ใครที่ไหน Tom Dowd นั่นเอง!

[Pong-Wanchai]

แม้จะทำการบันทึกเสียงในสตูดิโอปล่อยอัลบั้มมาแล้วถึงสองชุดแ่ต่ว่าในขณะนั้นคือประมาณปี ค.ศ. 1972 พวกเค้าถือว่ากำลังไต่เต้า
ขึ้นอันดับบัลลังก์โลกอยู่ แล้วที่สำคัญก็คือ นายทอมมี่ อัลดริดจ์ มือกลองสองกระเดื่องผู้เรืองนาม ยังไม่ได้เข้ามาเป็นสมาชิกนักดนตรี
ของวงนี้เลยครับ...

[Pong-Wanchai]

จุดเด่นของวงดนตรีสไตล์ Southern "Hard" Rock จากเมือง Black Oak มลรัฐ Arkansas คณะนี้อยู่ที่มือกีตาร์สามคน
และเสียงร้อง "สำราก" ของนักร้องนำที่ชื่อว่า Jim Dandy ที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใครในสมัยนั้น เพราะว่าใครเลยจะล่วงรู้
อนาคตได้ว่าบุคคลคนนี้กลายเป็น "ต้นฉบับ" ของนักร้องวงเดธที่เกิดขึ้นเป็นดอกเห็ดในยุคต่อมารวมทั้ง การแสดงสดและลีลาบนเวที
ของเค้าหรือแม้แต่การแต่งกายได้ถูกนำไปลอกเลียนแบบโดยนักร้องนำระดับชื่อเสียงก้องโลกหลายต่อหลายคน อย่างเช่น David Lee Roth
แห่งคณะ Van Halen นี่ขโมยซีนแบบหน้าตาเฉยซ้ำยังไม่เคยให้เครดิตคุณลุงแดนดี้แม้แต่น้อย หรือว่าแต่ Axl Rose ก็ตามทีที่ได้
รับอิทธิพลในการขับร้องไปพอสมควร!  

หน้าปกเปิดกางออกได้ทั้งสองด้านอย่างนี้ คุณปู่ Alice Cooper ของบรรดาสาวกหูเหล็กทั้งหลายได้ทำเหมือนกันกับอัลบั้มชุด "From
The Inside"(1978) สำหรับแนวโปรเกรสซีพคณะ ELP กับอัลบั้มชุด "Brain Salad Surgery"(1973) ก็ออกแบบมาคล้ายๆ
กัน แต่ว่าคณะ Black Oak Arkansas ออกอัลบั้มชุด "Keep The Faith" นี้ในปี ค.ศ. 1972 ขอรับ  

[Pong-Wanchai]

แนวดนตรี "เข้มข้น" ขึ้นเยอะครับด้วยการรับมือกลองสองกระเดื่องผมหยิกฟูนามว่า Tommy Aldridge มาแทนที่ Wayne Evans      

ในโลกดนตรีร๊อคใบนี้สามารถนับมือกลองได้เพียงไม่กี่คนหรอกครับที่พอเข้ามาร่วมเป็นสมาชิกของวงดนตรีคณะใดแล้วมีส่วนทำให้กลายเป็นจุดเด่น
พอๆกับมือกีตาร์หรือนักร้องนำและทำให้บทเพลง "แข็งแกร่ง" ขึ้นอย่างฟังได้ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างแรกนี่ผมเห็น คุณลุงทอมมี่ คนนี้แหละครับ
ที่เหมาะสมที่สุด

สำหรับมือกลองอย่างหลังซึ่งมีส่วนทำให้บทเพลงน่าฟังและดุดันกว่าเดิมก็อย่างเช่น Nicko McBrain ในการเข้าไปแทนที่ Clive Burr  (Iron Maiden)
หรือไม่ก็ Scott Travis ที่กระโดดเข้าไปหวดกลองแทน Dave Holland (Judas Priest) เป็นต้น

ด้วยเหตุประการฉะนี้ อัลบั้มชืออันยาวเหยียดว่า "If An Angel Came To See You, Would You Make Her Feel At Home?"(1972)
จึงเป็นการ "เปิดศักราช" ใหม่ให้แ่ก่วงดนตรีคณะนี้อย่างไม่ต้องสงสัย  

[noprock]

สนนราคาอยู่ที่เท่าไหร่ครับพี่โป่ง...

ไม่เกิน US$20.00 หรือว่า 600 บาทไทยครับสำหรับอัลบั้มซีดีทั้ง 5 ชุด แต่ยังไม่รวมค่าส่งซึ่งก็จะไม่น่าเกิน US$5.00
สรุปแล้วรวมราคาประมาณ 700 บาทเฉลี่ยแผ่นละ 140 บาทเท่านั้น !!

ราคานี้ยังไม่รวมภาษี (ถ้าโดนเรียกเก็บ) ใช้มั้ยครับพี่...

[Pong-Wanchai]

ราคานี้ยังไม่รวมภาษี (ถ้าโดนเรียกเก็บ) ใช้มั้ยครับพี่...

ไม่รวมครับ แต่ว่าตามกฏของการเรียกเก็บภาษีทางไปรษณีย์เท่าที่ทราบและสอบถามกันมา ถ้าหากราคาหน้าซองหรือกล่อง
ไม่เกิน GBP 20.00 จะำผ่านได้ "ฉลุย" เลยครับผม!

[Pong-Wanchai]

ก๊อปปี้ของผมเป็นแผ่นเสียงสำหรับแจกดีเจสถานีวิทยุ ด้านหน้าจึงมีสติคเกอร์ติดชื่อวงและชื่ออัลบั้มแปะเอาไว้ด้านบน ส่วนทางด้านขวามือก็มี
สติคเกอร์อีกหนึ่งอันบอกว่า Promotional DJ Copy - Not For Sale พร้อมบทเพลงแนะนำสองสามแทร็คพิมพ์กำกับมาด้วยอย่าง
ที่เห็นในรูปเมื่อกี้นี้

และสำหรับหน้าปกของผลงานลำดับที่สามเปิดกางออกได้อย่างสง่างาม  

[Pong-Wanchai]

แผ่นไวนิลถูกสอดใส่ไว้ด้านในนะครับ และโปรดสังเกตุว่าเลเบิ้ลของแผ่นไม่ใช่สีขาวเพราะว่าไม่ใช่แผ่นโปรโมชั่นที่ปั้มออกมาก่อนหน้านี้ ซึ่งราย
ละเอียดแตกต่างกันเล็กน้อย เอาไว้ค่อยรออ่านในหนังสือ Audiophile ก็แล้วกัน ถ้าหากใครสนใจเรื่องนี้อย่างจริงจัง     

[Pong-Wanchai]

ด้านหลังมีภาพสมาชิกนักดนตรีของคณะ Black Oak Arkansas ในสมัยนั้นที่ยังดูหนุ่มแน่นกันทุกคน มีหนวดเครารุงรังแต่งตัวเป็นฮิปปี้
ดีๆนี่เอง ซึ่งในความคิดของผมตอนนั้นพวกเค้าเท่ห์มากเลยครับ!  

มาถึงตรงนี้แล้ว อยากบอกว่าหากใครได้ฟังดนตรีและเสียงร้องของ มิสเตอร์จิม แดนดี้ แล้วไม่เข้าหูก็คงจะไม่ชอบแนวดนตรีของพวกเค้าค่อนข้าง
แน่นอน ถึงแม้จะกระเดียดออกไปทาง Southern Rock แต่ว่าเอกลักษณ์ของวงอยู่ที่เสียง "สำราก" นี่แหละครับและมีเพียงแค่หนึ่งเดียวคนนี้
ถ้าฟังแล้ว ทนไม่ไหว หรือ รับไม่ได้ ผมบอกได้เลยว่า อย่าไปฟังมันให้เสียเวลาเปล่าๆ  

บางทีอาจ "ฟันธง" ได้เลยว่า...วงดนตรีคณะนี้ไม่เหมาะกับรสนิยมของคุณและยากที่จะทำใจควักสตางค์ออกมาซื้อผลงานมาเก็บสะสม ...มองผ่าน
ไปเลยก็ได้ครับ เราไม่ว่ากันอยู่แล้ววววว      

[Pong-Wanchai]

บรรดานักฟังเพลงและท่านที่ลองฟังผลงานของคณะ B.O.A. แล้วพอเห็น "เสน่ห์" ในเสียงร้องของมิสเตอร์ จิม แดนดี้ ก็มาร่ายกันต่อ
ได้เลยครับ! 

หลังจากสตูดิโอสามชุดผ่านไปพร้อมกับการตระเวณแสดงทัวร์เล่นเป็นวงดนตรีเปิดรายการให้กับพี่บิ้กแห่งโลกดนตรีร็อคอย่างเช่น Grand Funk
Railroad, James Gang, Mountain, Humble Pie หรือแม้แต่ Alice Cooper เป็นต้น ด้วยความที่มีลีลาโดนเด่นบนเวทีของนัก
ร้องนำคือ Jim Dandy ประกอบกับดนตรีอันเมามันส์ของพรรคพวกมีผลเป็นอย่างมากกับชื่อเสียงที่ได้มาอย่างน่าภาคภูมิใจตลอดระยะเวลาที่หมด
ไปกับการแสดงสดบนเวที

ดังนั้นทางบริษัทต้นสังกัดจึงปล่อย live album ออกมาวางจำหน่ายพร้องตารางทัวร์อันยาวเหยียด ต่อด้วยสตูดิโออัลบั้มอีกหนึ่งชุดที่ใช้ชือว่า
"High On The Hog" (1973)

[Pong-Wanchai]

และประมาณระหว่างช่วงปี ค.ศ. 1973-1975 นี่เองแหละครับ ที่แฟนเพลงยอมรับว่าคณะ Black Oak Arkansas กำลังถึงจุดสูงสุด สมาชิกนักดนตรี
ยุคนี้ก็ถือว่าอยู่ในระดับ Classic Line-Up แล้วก็เพลง Jim Dandy ที่ร่วมร้องกับ Ruby Starr ได้ไต่เต้าเข้าอันดับชาร์ทบิลบอร์ด Top 100
สูงถึงลำดับที่ 25 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ทางคณะมีเพลงฮิทติดอันดับชาร์ทดั่งเช่นวงดนตรีร๊อคคณะอื่นๆกันบ้าง

[Pong-Wanchai]

ผมซื้ออัลบั้มชุดนี้มาจากร้านบนชั้นสองของโรงหนังลิโด้ครับ ซึ่งต่อมาคนขายที่ชื่อว่าปราโมชได้ย้ายไปที่ร้านไทยอินทราผมก็ตามแกไปที่นั่นอีก
เหมือนกัน และที่ผมยอมเสียเงินตัดใจไม่กินขนมก็เพราะหน้าปกเป็น Gatefold อย่างหนาแถมมีโปสเตอร์ขนาดใหญ่แนบมาให้อีกต่างหาก...

[Pong-Wanchai]

ถ้าผมจำไม่ผิด อัลบั้มชุดนี้ผมซื้อมาก่อนอัลบั้มบันทึกการแสดงสดที่ห้างเซ็นทรัลเสียอีก จำได้คร่าวๆว่าพอเห็นโปสเตอร์มีมือกลองตีสองกระเดื่อง
แค่นั้นแหละ พอไปเดินที่ห้างเจอ live album ของพวกเค้าก็รีบคว้ามาฟังทันทีทั้งๆที่ผมเองไม่เคยมีเครื่องเล่นแผ่นเสียงระบบสี่ทิศทางกับเค้า
หรอกครับ แค่ให้ได้เป็นเจ้าของแผ่นเสียงชุดนั้นก็เพียงพอแล้วจริงๆ     

[เมตัลลิก้าเมก้าเดธ]

อ่านเพลินดีครับ เคยฟังชุดเดียว  High On The Hog ครับ