ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
การค้นหาขั้นสูง

149643 กระทู้ ใน 4435 หัวข้อ- โดย 847 สมาชิก - สมาชิกล่าสุด: axlrose

28 มีนาคม 2024 | 09:02:26 PM
Thai Progressive Rock CommunityThaiProgBreatheเฮียโป่ง ออกรายการทีวี วันเสาร์ที่ 29 มีนาคม นี้ ทางช่อง 9 รายการ "บางอ้อ"
หน้า: 1 [2]
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: เฮียโป่ง ออกรายการทีวี วันเสาร์ที่ 29 มีนาคม นี้ ทางช่อง 9 รายการ "บางอ้อ"  (อ่าน 11724 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
deja vu
The Dark Side of the Moon
*****
กระทู้: 1061


ดูรายละเอียด
« ตอบ #15 เมื่อ: 02 เมษายน 2014 | 09:36:50 AM »


 ขอบคุณป่องมากครับ

 แต่สั้นมากเลย ใครเข้าห้องน้ำก่อนกลับมาคงดูไม่ทัน
 ดีใจที่ได้เห็นดารารับเชิญด้วย แว่บเดียวก็ยังดี
 ขอถามผู้รู้หน่อย ในเมืองไทยมีใครมีแผ่นเสียงมากกว่าพี่โป่งอีกครับ

มีครับ คนที่เป็นนักสะสมประเภทเก็บสะสมแผ่นเสียงอย่างเดียวไม่ได้มีไว้ฟังเพลง น่าจะมีหลายๆหมื่นแผ่นหรืออาจจะเป็นแสนแผ่นก็ได้แฮะ
เป็นนักสะสมของเก่าพวกวินเทจ ทั้งเครื่องเสียงเก่าๆด้วย เชื่อไหมว่าเค้าซื้อแผ่นเสียงครั้งละเป็นพันๆแผ่นแบบว่าซื้อเหมากับร้านให้จัดส่งไปให้
ถึงบ้านโดยที่ตัวไม่เคยมาเลือกแผ่นเองด้วย เป็นคนมีเงินเหลือใช้ แปลกดีอย่างนี้เป็นประเภทนักสะสมแผ่นเสียงที่มีแผ่นไม่ได้ไว้ฟังมีไว้เก็บ
เข้าตู้อย่างเดียวหรือมีแผ่นเสียงไว้โชว์  ยิ้มกว้างๆ บังเอิญผมรู้จักกับร้านแผ่นเสียงเก่าที่ซื้อเป็นประจำเห็นแผ่นเสียงใส่ลังเป็นสิบๆกล่อง ก็เลยถามว่า
ไปส่งให้ใคร เล่าให้ผมฟังว่าเป็นลูกค้าขาใหญ่ซื้อแผ่นเสียงกันเป็นประจำแบบนี้โดยให้เลือกแผ่นเสียงที่สภาพดีๆให้และจัดส่งจะมีคนรถมารับ
ถึงร้านซื้อแบบจำนวนแยะๆเป็นพันๆแผ่นต่อครั้ง ขาใหญ่คนนี้เหมาซื้อจากร้านแทบทุกร้าน ขนาดว่ามีรายการทีวีไปทำข่าวรวม
ทั้งลงหนังสือด้วย ไม่ต้องบอกชื่อแฮะ  น่าจะเคยลงเพจไทยพร็อกฯด้วยรู้สึกว่าผมเคยเล่าไว้แล้วเฮียลองเข้าไปหาดูซิ
https://www.facebook.com/groups/167355563438087/


 อย่างที่คุณอั๋นว่ามาผมว่าไม่ใช่นักสะสมหรอกครับ น่าจะเป็นนักเก็บแผ่นมากกว่า
 นักสะสมน่าจะต้องมีความรู้ในสิ่งที่ตัวเองเก็บไว้ด้วย
 นักสะสมแผ่นเสียงที่แท้จริงต้องเป็นอย่าง พี่โป่ง คุณปัญญรักษ์ คุณแจ็ค คุณปีศาจลายคราม คุณป่อง
 รวมทั้งนักสะสมภาค2อย่างคุณอั๋นด้วย

 ดังนั้น ตอนนี้ผมขอโมเมว่าพี่โป่งเป็นนักสะสมแผ่นเสียง ที่มีแผ่นเสียงมากที่สุดไว้ก่อนแล้วกันครับ ยิงฟันยิ้ม
 
 
บันทึกการเข้า
deja vu
The Dark Side of the Moon
*****
กระทู้: 1061


ดูรายละเอียด
« ตอบ #16 เมื่อ: 02 เมษายน 2014 | 10:07:23 AM »

อันที่จริงคุณอั๋น501แจ้งข่าวกระชั้นไปนิด ถ้าบอกล่วงหน้านานกว่านี้ เห็นทีคงต้องยอมคอยนั่งดูพี่โป่งอยู่ที่บ้านครับ ยิ้มกว้างๆ

555 อันที่จริงแล้วเฮียโป่ง ต้องมาแจ้งข่าวนี้เองจึงจะถูกแฮะ  แต่เนื่องจากเวลานี้เฮียโป่ง ไม่ค่อยว่างคุณแม่ ไม่สบายเข้าโรงพยาบาลอยู่
ต้องไปดูแลคุณแม่ ขอให้คุณแม่หายป่วยเร็วๆ  รายการให้เวลาในส่วนนักสะสมเนื้อหาน้อยเกินไป น่าจะเจาะเรื่องราวของคนที่สะสมอะไรๆที่ตัวเองรักในแบบ "นักสะสมชั้นเทพ" ตามห้วเรื่องรายการน่าจะมีเนื้อหาสาระเรื่องราวมากกว่านี้ อย่างเช่นช่วงของเฮียโป่ง บังเอิญผมรู้จักเฮียโป่งดีเพราะเป็นเพื่อนสนิทเลยรู้ลึกว่าเฮียโป่งเป็นนักฟังเพลงและหลงไหลกับแผ่นเสียงมากมายแค่ไหน เรียกว่าเป็นตัวจริงของจริงเลยแฮะ ฟังเพลงสะสมแผ่นเสียงมาตั้งแต่วัยรุ่นอายุสิบกว่าขวบเท่านั้น ผ่านทุกช่วงเวลาของยุดแผ่นเสียงทั้งเฟืองฟูหรือตกต่ำ ไม่เคยท้อแท้ไม่เคยเลิกเล่นเรียกว่าทั้งชีวิตไม่ต่ำกว่า 40 ปีเฮียโป่ง ใช้ชีวิตการฟังเพลงกับแผ่นเสียง ไม่ต้องย้อนเวลาหาอดีตเพื่อมาเก็บสะสมย้อนหลัง เหมือนบางคน สมัยก่อนใครที่เล่นแผ่นเสียงโดยเฉพาะเพลงสากลคงจะทราบกันดี มันไม่ได้หาซื้อแผ่นเสียงง่ายเหมือนกับยุดนี้ เน็ตยังไม่เกิดคอมิวสิคเลิฟเวอร์จะหาซื้อแผ่นเสียงของศิลปินที่ต้องการไม่ง่ายแฮะ หากไม่ได้อยู่เมืองนอกเองหรือมีเพื่อนฝูงญาติพี่น้องอยู่เมืองนอกคงหาอัลบั้มแผ่นเสียงที่ต้องการได้หรอกครับ จะหาซื้อร้านแผ่นเสียงในบ้านเราก็มีไม่มากพึ่งพาไม่ได้ เหมือนเช่นทุกวันนี้ เรื่องราวเหล่านี้น่าจะเป็นเกร็ดมาเล่าว่า แผ่นเสียงต่างๆที่เฮียโป่ง มีนั้นได้มาได้อย่างไร เฮียโป่ง มีแผ่นเสียงทั้งแผ่นสะสมที่ไม่ได้มีไว้ฟังแต่มีไว้เก็บด้วยแฮะ ขอบอกมากมายจริงๆแฮะ  ยิ้มเท่ห์
โอกาสและกำลังทรัพย์ของแต่ละคนในห้วงเวลาเดียวกันมีไม่เท่ากันครับ แผ่นเสียงถือเป็นสื่อการฟังเพลงของคนที่มีอันจะกินในยุคนั้น ถ้าพ่อแม่ไม่มีอันจะกินหรือหาเช้ากินค่ำ รับรองว่าไม่มีโอกาสได้ฟังแผ่นเสียงแน่นอน แผ่นเสียงใหม่ราคาเฉลี่ยแผ่นละ 300 บาทเมื่อสามสิบกว่าปีก่อน (ซึ่งเท่ากับค่าแรงขั้นต่ำต่อวันในยุคนี้) เงิน 300 บาทมูลค่าใหญ่โตนะในยุคนั้น ผมเอาไว้เป็นค่ากินอยู่และค่าไปโรงเรียนได้เกือบสองอาทิตย์เชียวนะครับ (ในขณะที่ลูกคนมีสตางค์อาจจะบอกว่าเป็นเรื่องเล็ก) ดังนั้น คนเบี้ยน้อยได้ฟังแค่เทปคาสเสทผ่านวิทยุกระเป๋าหิ้วก็ถือว่าหรูแล้ว และนี่คือเหตุผลว่าบางคนที่ไม่มีโอกาสเล่นแผ่นเสียงในตอนนั้นจึงต้องหวนกลับไปตามหาอดีตไงครับ ยิ้มกว้างๆ

 ข้อนี้ไม่จริงเสมอไปหรอกครับ ผมอยู่ต่างจังหวัดในยุคนั้นแผ่นเสียงหาง่ายกว่าเทปอีกนะครับ
 ส่วนมากจะป็นแผ่นไทยทำแผ่นเล็กๆหน้านึงมี 2 เพลง ราคา 15 บาท ตอนหลังมีแผ่นของ
 อีเอ็มไอปั้มในไทยออกมาน่าจะประมาณ 80 - 110 บาท ถ้าแผ่นนอกแท้ๆแถวชิดลมขาย
 ประมาณ 140 - 180 บาท  ยิ้มเท่ห์
 
 ผมซื้อเครื่องเล่นแผ่นเสียงแบบมีแอมป์ในตัวพร้อมลำโพงเล็กๆอีก 1 คู่ ราคาประมาณ 2,500 บาท
 ส่วนเครื่องเล่นเทปคาสเซ็ทราคา 2,900 บาท แพงกว่าอีกครับ  ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า
ปีศาจลายคราม
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 14349


Reap What You Sow


ดูรายละเอียด
« ตอบ #17 เมื่อ: 02 เมษายน 2014 | 10:19:07 AM »

อันที่จริงคุณอั๋น501แจ้งข่าวกระชั้นไปนิด ถ้าบอกล่วงหน้านานกว่านี้ เห็นทีคงต้องยอมคอยนั่งดูพี่โป่งอยู่ที่บ้านครับ ยิ้มกว้างๆ

555 อันที่จริงแล้วเฮียโป่ง ต้องมาแจ้งข่าวนี้เองจึงจะถูกแฮะ  แต่เนื่องจากเวลานี้เฮียโป่ง ไม่ค่อยว่างคุณแม่ ไม่สบายเข้าโรงพยาบาลอยู่
ต้องไปดูแลคุณแม่ ขอให้คุณแม่หายป่วยเร็วๆ  รายการให้เวลาในส่วนนักสะสมเนื้อหาน้อยเกินไป น่าจะเจาะเรื่องราวของคนที่สะสมอะไรๆที่ตัวเองรักในแบบ "นักสะสมชั้นเทพ" ตามห้วเรื่องรายการน่าจะมีเนื้อหาสาระเรื่องราวมากกว่านี้ อย่างเช่นช่วงของเฮียโป่ง บังเอิญผมรู้จักเฮียโป่งดีเพราะเป็นเพื่อนสนิทเลยรู้ลึกว่าเฮียโป่งเป็นนักฟังเพลงและหลงไหลกับแผ่นเสียงมากมายแค่ไหน เรียกว่าเป็นตัวจริงของจริงเลยแฮะ ฟังเพลงสะสมแผ่นเสียงมาตั้งแต่วัยรุ่นอายุสิบกว่าขวบเท่านั้น ผ่านทุกช่วงเวลาของยุดแผ่นเสียงทั้งเฟืองฟูหรือตกต่ำ ไม่เคยท้อแท้ไม่เคยเลิกเล่นเรียกว่าทั้งชีวิตไม่ต่ำกว่า 40 ปีเฮียโป่ง ใช้ชีวิตการฟังเพลงกับแผ่นเสียง ไม่ต้องย้อนเวลาหาอดีตเพื่อมาเก็บสะสมย้อนหลัง เหมือนบางคน สมัยก่อนใครที่เล่นแผ่นเสียงโดยเฉพาะเพลงสากลคงจะทราบกันดี มันไม่ได้หาซื้อแผ่นเสียงง่ายเหมือนกับยุดนี้ เน็ตยังไม่เกิดคอมิวสิคเลิฟเวอร์จะหาซื้อแผ่นเสียงของศิลปินที่ต้องการไม่ง่ายแฮะ หากไม่ได้อยู่เมืองนอกเองหรือมีเพื่อนฝูงญาติพี่น้องอยู่เมืองนอกคงหาอัลบั้มแผ่นเสียงที่ต้องการได้หรอกครับ จะหาซื้อร้านแผ่นเสียงในบ้านเราก็มีไม่มากพึ่งพาไม่ได้ เหมือนเช่นทุกวันนี้ เรื่องราวเหล่านี้น่าจะเป็นเกร็ดมาเล่าว่า แผ่นเสียงต่างๆที่เฮียโป่ง มีนั้นได้มาได้อย่างไร เฮียโป่ง มีแผ่นเสียงทั้งแผ่นสะสมที่ไม่ได้มีไว้ฟังแต่มีไว้เก็บด้วยแฮะ ขอบอกมากมายจริงๆแฮะ  ยิ้มเท่ห์
โอกาสและกำลังทรัพย์ของแต่ละคนในห้วงเวลาเดียวกันมีไม่เท่ากันครับ แผ่นเสียงถือเป็นสื่อการฟังเพลงของคนที่มีอันจะกินในยุคนั้น ถ้าพ่อแม่ไม่มีอันจะกินหรือหาเช้ากินค่ำ รับรองว่าไม่มีโอกาสได้ฟังแผ่นเสียงแน่นอน แผ่นเสียงใหม่ราคาเฉลี่ยแผ่นละ 300 บาทเมื่อสามสิบกว่าปีก่อน (ซึ่งเท่ากับค่าแรงขั้นต่ำต่อวันในยุคนี้) เงิน 300 บาทมูลค่าใหญ่โตนะในยุคนั้น ผมเอาไว้เป็นค่ากินอยู่และค่าไปโรงเรียนได้เกือบสองอาทิตย์เชียวนะครับ (ในขณะที่ลูกคนมีสตางค์อาจจะบอกว่าเป็นเรื่องเล็ก) ดังนั้น คนเบี้ยน้อยได้ฟังแค่เทปคาสเสทผ่านวิทยุกระเป๋าหิ้วก็ถือว่าหรูแล้ว และนี่คือเหตุผลว่าบางคนที่ไม่มีโอกาสเล่นแผ่นเสียงในตอนนั้นจึงต้องหวนกลับไปตามหาอดีตไงครับ ยิ้มกว้างๆ

 ข้อนี้ไม่จริงเสมอไปหรอกครับ ผมอยู่ต่างจังหวัดในยุคนั้นแผ่นเสียงหาง่ายกว่าเทปอีกนะครับ
 ส่วนมากจะป็นแผ่นไทยทำแผ่นเล็กๆหน้านึงมี 2 เพลง ราคา 15 บาท ตอนหลังมีแผ่นของ
 อีเอ็มไอปั้มในไทยออกมาน่าจะประมาณ 80 - 110 บาท ถ้าแผ่นนอกแท้ๆแถวชิดลมขาย
 ประมาณ 140 - 180 บาท  ยิ้มเท่ห์
 
 ผมซื้อเครื่องเล่นแผ่นเสียงแบบมีแอมป์ในตัวพร้อมลำโพงเล็กๆอีก 1 คู่ ราคาประมาณ 2,500 บาท
 ส่วนเครื่องเล่นเทปคาสเซ็ทราคา 2,900 บาท แพงกว่าอีกครับ  ยิ้มกว้างๆ
ถ้าตอนนั้นแผ่นลองเพลย์เพลงฝรั่งราคา 140-180 บาท ก็คงจะหลายปีก่อนหน้าที่ผมจะไปเดินดูราคาแผ่นที่เซ็นทรัลลาดพร้าวเมื่อปี 2526 ซึ่งตอนนั้นราคาที่ติดอยู่บนปกแผ่นเสียง เฉลี่ย 250-350 บาท แผ่นคู่ก็ 400-500 บาท จำได้ว่าตอนนั้นซีดีเริ่มรุกตลาดแล้ว ผมยังไม่มีทั้งเครื่องเล่นเทปและเครื่องเล่นแผ่นเสียง ยังฟังวิทยุทรานซิสเตอร์อยู่เลยครับ (จนจริง ๆ ร้องไห้)
บันทึกการเข้า


Daybreak Painting by Maxfield Parrish
ปีศาจลายคราม
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 14349


Reap What You Sow


ดูรายละเอียด
« ตอบ #18 เมื่อ: 02 เมษายน 2014 | 10:32:19 AM »

จำได้ว่าแผ่นเสียง Close To The Edge ของ Yes โดย Atlantic Germany ที่เซ็นทรัลลาดพร้าวขาย 300 บาท เมื่อปี 2526 ส่วนแผ่น Tubular Bells ของ Mike Oldfield ขาย 250 บาท หรือว่าเป็นเพราะแผ่นพวกนี้ถือเป็นแผ่นหายาก ต้องสั่งเข้ามาเป็นพิเศษ (คล้ายกรณีหนังสือหายากของร้านดวงกมล) จึงไม่สามารถซื้อได้ในราคา 140-180 บาทครับ
บันทึกการเข้า


Daybreak Painting by Maxfield Parrish
deja vu
The Dark Side of the Moon
*****
กระทู้: 1061


ดูรายละเอียด
« ตอบ #19 เมื่อ: 02 เมษายน 2014 | 10:41:02 AM »

  ฐานะทางบ้านของผมกับคุณปีศาจคงพอๆกันละครับ
  แต่อาศัยตื้อเก่งจนแม่ใจอ่อนยอมซื้อให้  ยิงฟันยิ้ม

  แผ่นนอกส่วนใหญ่ผมจะซื้อที่เซ็นทรัลชิดลมเพราะราคาถูกกว่าร้านทั่วไป
  ช่วงนั้นน่าจะประมาณปี 20 - 24
บันทึกการเข้า
deja vu
The Dark Side of the Moon
*****
กระทู้: 1061


ดูรายละเอียด
« ตอบ #20 เมื่อ: 02 เมษายน 2014 | 01:21:08 PM »

จำได้ว่าแผ่นเสียง Close To The Edge ของ Yes โดย Atlantic Germany ที่เซ็นทรัลลาดพร้าวขาย 300 บาท เมื่อปี 2526 ส่วนแผ่น Tubular Bells ของ Mike Oldfield ขาย 250 บาท หรือว่าเป็นเพราะแผ่นพวกนี้ถือเป็นแผ่นหายาก ต้องสั่งเข้ามาเป็นพิเศษ (คล้ายกรณีหนังสือหายากของร้านดวงกมล) จึงไม่สามารถซื้อได้ในราคา 140-180 บาทครับ

 คงไม่ใช่หรอกครับ แผ่นเยอรมัน อังกฤษ อเมริกา ราคาก็พอๆกัน
 ที่แพงหน่อยเป็นแผ่นของญี่ปุ่นครับ โดยเฉพาะพวกแผ่นไดเร็ค คัท
 ซึ่งเสียงจะคมชัด สดใสกว่าแผ่นทั่วๆไป  ขยิบตา
บันทึกการเข้า
ปีศาจลายคราม
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 14349


Reap What You Sow


ดูรายละเอียด
« ตอบ #21 เมื่อ: 02 เมษายน 2014 | 01:31:39 PM »

แผ่นเสียงเป็นดัชนีบ่งบอกฐานะของผู้เป็นเจ้าของได้อย่างดีเลยทีเดียว เพราะว่าถ้าคนเราจะมีแผ่นเสียงเป็นหมื่นเป็นแสนแผ่นนั้น เขาจะต้องมีห้องหรือมีเนื้อที่ในบ้านกว้างขวางพอที่จะรองรับแผ่นเสียงจำนวนมหึมาขนาดนั้นได้ บางคนถึงกับสร้างเรือนอีกหลังหนึ่งในอาณาบริเวณบ้านเดียวกันเพื่อให้เป็นที่อยู่ของแผ่นเสียงก็ยังมีมาแล้ว เรื่องที่อยู่อาศัยของแผ่นเสียงไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ถ้าจะเก็บแผ่นเสียงจำนวนมากก็จะต้องมีที่ว่างพอให้มันอยู่ ถ้าพื้นที่ไม่พอหรือจำกัด ในที่สุดก็จะต้องจำหน่ายมันทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย ถ้ายังซื้อแผ่นเสียงอยู่เรื่อย ๆ อย่างนี้ ในอนาคตผมคงจะต้องทำชั้นใต้ดินบ้านทาวเฮ้าส์เพื่อทำห้องเก็บแผ่นเสียงแล้วล่ะครับ (ฮา) ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า


Daybreak Painting by Maxfield Parrish
อั๋น501
Voyage Of The Acolyte
*********
กระทู้: 4240



ดูรายละเอียด
« ตอบ #22 เมื่อ: 02 เมษายน 2014 | 07:15:28 PM »

555 เว็บไม่เหงาแล้วเห็นป่าว  ยิ้มกว้างๆ เจอเหล่าสว. ย้อนเวลาหาอดีตเล่าเรื่องราวเก่าๆสมัยยังเป็นวัยรุ่นใส่ขาสั้นแล้วหนีบแผ่นเสียงเดินเข้าโรงเรียน
เท่ห์แฮะ  สมัยก่อนผมเคยเห็นรุ่นพี่มศ. 5 ที่โรงเรียนตอนนั้นผมเรียนอยู่ชั้นมศ.1 เดินถือแผ่นเสียงอัลบั้ม Bad Company (1974) ชุดแรกอย่างเท่ห์เลย
คอมิวสิคเลิฟเวอร์อย่างพวกเราเช่น เฮียโป่ง,พี่ตั๊ม,พี่ผี,พี่ปีศาจฯ,เฮียเดจาวู นั้นเคยผ่านช่วงเวลาอันสำคัญในชีวิตของการฟังเพลงในยุดนั้นจริงๆ
อาจจะมีพื้นฐานปัจจัยทางด้านครอบครัวที่แตกต่างกัน แต่นั้นไม่ใช่ปัญหาเพราะพวกเรารักการฟังเพลงเล่นแผ่นเสียง,เทป ยุดนั้นซีดียังไม่เกิด
เหมือนๆกัน ผมจึงบอกหากได้ฟังเพลงในยุดอดีตจริงๆ ไม่เคยผ่านร้อนผ่านหนาวก็ไม่มีวันเข้าใจหรอกครับว่าฟิลลิ่งการฟังเพลงเมื่อครั้นอดีตเป็นเช่นใด
เหมือนกับการเรียนลัดโดยที่ไม่เคยผ่านประสบการณ์จริงๆ มีคนมากมายในอดีตไม่เคยสัมผัสกับสิ่งที่พวกเราสนทนากันนี้ พอมีเงินก็เรียนลัด
ผมเห็นแยะไปตามหน้าเพจแผ่นเสียง ฯลฯ บางคนเล่าประสบการณ์ว่าสมัยก่อนเล่นซีดี แล้วมาเล่นแผ่นเสียงเก็บสะสมแผ่นเสียงหายากๆราคาแพงๆ
เอามาอวดโชว์กัน เรื่องของคนมีเงินแฮะ แสดงว่าเล่นแผ่นเสียงมาไม่นานสมัยก่อนไม่เคยรู้จักไม่ได้มีพื้นฐานการฟังเพลงมาก่อนเพิ่งมาชื่นชอบ
นั่นเอง เป็นแบบนี้แยะเหมือนกับกำลังย้อนเวลาหาอดีตแบบที่ผมบอกเลยแฮะ  ยิ้มกว้างๆ  พี่ปีศาจฯ ไม่ใช่เพราะเป็นคอมิวสิคเลิฟเวอร์ในยุดนั้นจริงๆ
ถึงแม้จะเล่นเทปมาก่อนแผ่นเสียงก็ไม่แปลกอะไร อย่างที่บอกปัจจัยต้นทุนทางครอบครัวต่างกันแต่หัวจิต หัวใจเหมือนกันแฮะ  ยิงฟันยิ้ม

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03 เมษายน 2014 | 06:55:17 AM โดย อั๋น501 » บันทึกการเข้า
ปีศาจลายคราม
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 14349


Reap What You Sow


ดูรายละเอียด
« ตอบ #23 เมื่อ: 03 เมษายน 2014 | 09:29:31 AM »

555 เว็บไม่เหงาแล้วเห็นป่าว  ยิ้มกว้างๆ เจอเหล่าสว. ย้อนเวลาหาอดีตเล่าเรื่องราวเก่าๆสมัยยังเป็นวัยรุ่นใส่ขาสั้นแล้วหนีบแผ่นเสียงเดินเข้าโรงเรียน
เท่ห์แฮะ  สมัยก่อนผมเคยเห็นรุ่นพี่มศ. 5 ที่โรงเรียนตอนนั้นผมเรียนอยู่ชั้นมศ.1 เดินถือแผ่นเสียงอัลบั้ม Bad Company (1974) ชุดแรกอย่างเท่ห์เลย
คอมิวสิคเลิฟเวอร์อย่างพวกเราเช่น เฮียโป่ง,พี่ตั๊ม,พี่ผี,พี่ปีศาจฯ,เฮียเดจาวู นั้นเคยผ่านช่วงเวลาอันสำคัญในชีวิตของการฟังเพลงในยุดนั้นจริงๆ
อาจจะมีพื้นฐานปัจจัยทางด้านครอบครัวที่แตกต่างกัน แต่นั้นไม่ใช่ปัญหาเพราะพวกเรารักการฟังเพลงเล่นแผ่นเสียง,เทป ยุดนั้นซีดียังไม่เกิด
เหมือนๆกัน ผมจึงบอกหากได้ฟังเพลงในยุดอดีตจริงๆ ไม่เคยผ่านร้อนผ่านหนาวก็ไม่มีวันเข้าใจหรอกครับว่าฟิลลิ่งการฟังเพลงเมื่อครั้นอดีตเป็นเช่นใด
เหมือนกับการเรียนลัดโดยที่ไม่เคยผ่านประสบการณ์จริงๆ มีคนมากมายในอดีตไม่เคยสัมผัสกับสิ่งที่พวกเราสนทนากันนี้ พอมีเงินก็เรียนลัด
ผมเห็นแยะไปตามหน้าเพจแผ่นเสียง ฯลฯ บางคนเล่าประสบการณ์ว่าสมัยก่อนเล่นซีดี แล้วมาเล่นแผ่นเสียงเก็บสะสมแผ่นเสียงหายากๆราคาแพงๆ
เอามาอวดโชว์กัน เรื่องของคนมีเงินแฮะ แสดงว่าเล่นแผ่นเสียงมาไม่นานสมัยก่อนไม่เคยรู้จักไม่ได้มีพื้นฐานการฟังเพลงมาก่อนเพิ่งมาชื่นชอบ
นั่นเอง เป็นแบบนี้แยะเหมือนกับกำลังย้อนเวลาหาอดีตแบบที่ผมบอกเลยแฮะ  ยิ้มกว้างๆ  พี่ปีศาจฯ ไม่ใช่เพราะเป็นคอมิวสิคเลิฟเวอร์ในยุดนั้นจริงๆ
ถึงแม้จะเล่นเทปมาก่อนแผ่นเสียงก็ไม่แปลกอะไร อย่างที่บอกปัจจัยต้นทุนทางครอบครัวต่างกันแต่หัวจิต หัวใจเหมือนกันแฮะ  ยิงฟันยิ้ม

 
ผมรักแผ่นเสียงมาตั้งแต่อายุ 7-8 ขวบแล้วครับ ตอนนั้น (ตั้งแต่เกิดจนถึงปี 2531) บ้านเก่าของผมอยู่แถวถนนสาทร มีรั้วบ้านติดกับรั้วโรงงานผลิตแผ่นเสียงของกมลสุโกศล ผมมีเพื่อนวัยเด็กซึ่งเป็นลูกชายคนขับรถของนายห้างกมล สุโกศล เราเรียนอนุบาลและประถมโรงเรียนเดียวกัน ในช่วงปิดเทอมเขามักจะชวนผมไปวิ่งเล่นที่บริเวณโรงงานผลิตแผ่นเสียง บางทีก็วิ่งเข้าไปเล่นใกล้กับแท่นปั๊มแผ่นเลย ทำให้ผมได้มีโอกาสเห็นว่าแท่นปั๊มแผ่นในยุคนั้นหน้าตาเป็นยังไง และไวนิลดิบสีดำก่อนจะกลายเป็นแผ่นกลม ๆ แบน ๆ นั้น รูปร่างเป็นเช่นไร บางครั้งเพื่อนของผมคนนี้ก็แอบเอาแผ่นเสียงซึ่งเป็นส่วนเกินและถูกโละทิ้งจากการผลิตมาให้ผม แต่ผมไม่มีเครื่องเล่น อยากลองฟังแผ่นพวกนี้ก็ต้องไปอาศัยฟังจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงของเพื่อนบ้านซึ่งชอบพอกับพ่อของผม ซึ่งเขาก็เมตตาให้ผมเล่นเครื่องเล่นแผ่นเสียงของเขาได้โดยไม่หวงแหนแต่อย่างใด (ทำให้ผมรู้จักวิธีหยิบจับ pick-up เล่นแผ่นเสียงตั้งแต่เล็กแต่น้อยแล้ว) ผมเก็บแผ่นเสียงเหล่านี้ไว้ใต้เตียงอยู่หลายปี ในที่สุดก็ค่อย ๆ หายไปตอนที่ย้ายบ้าน ที่เล่ามานี้ก็เพื่อเรียนว่าผมมีภูมิหลังกับแผ่นเสียงมาร่วมสี่สิบปีแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาชอบเมื่อไม่นานมานี้ รักแท้ย่อมอยู่เหนือกาลเวลาครับ ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า


Daybreak Painting by Maxfield Parrish
Pong-Wanchai
The Snow Goose
**********
กระทู้: 8464



ดูรายละเอียด
« ตอบ #24 เมื่อ: 03 เมษายน 2014 | 12:23:19 PM »

ผมรักแผ่นเสียงมาตั้งแต่อายุ 7-8 ขวบแล้วครับ ตอนนั้น (ตั้งแต่เกิดจนถึงปี 2531) บ้านเก่าของผมอยู่แถวถนนสาทร มีรั้วบ้านติดกับรั้วโรงงานผลิตแผ่นเสียงของกมลสุโกศล ผมมีเพื่อนวัยเด็กซึ่งเป็นลูกชายคนขับรถของนายห้างกมล สุโกศล เราเรียนอนุบาลและประถมโรงเรียนเดียวกัน ในช่วงปิดเทอมเขามักจะชวนผมไปวิ่งเล่นที่บริเวณโรงงานผลิตแผ่นเสียง บางทีก็วิ่งเข้าไปเล่นใกล้กับแท่นปั๊มแผ่นเลย ทำให้ผมได้มีโอกาสเห็นว่าแท่นปั๊มแผ่นในยุคนั้นหน้าตาเป็นยังไง และไวนิลดิบสีดำก่อนจะกลายเป็นแผ่นกลม ๆ แบน ๆ นั้น รูปร่างเป็นเช่นไร บางครั้งเพื่อนของผมคนนี้ก็แอบเอาแผ่นเสียงซึ่งเป็นส่วนเกินและถูกโละทิ้งจากการผลิตมาให้ผม แต่ผมไม่มีเครื่องเล่น อยากลองฟังแผ่นพวกนี้ก็ต้องไปอาศัยฟังจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงของเพื่อนบ้านซึ่งชอบพอกับพ่อของผม ซึ่งเขาก็เมตตาให้ผมเล่นเครื่องเล่นแผ่นเสียงของเขาได้โดยไม่หวงแหนแต่อย่างใด (ทำให้ผมรู้จักวิธีหยิบจับ pick-up เล่นแผ่นเสียงตั้งแต่เล็กแต่น้อยแล้ว) ผมเก็บแผ่นเสียงเหล่านี้ไว้ใต้เตียงอยู่หลายปี ในที่สุดก็ค่อย ๆ หายไปตอนที่ย้ายบ้าน ที่เล่ามานี้ก็เพื่อเรียนว่าผมมีภูมิหลังกับแผ่นเสียงมาร่วมสี่สิบปีแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาชอบเมื่อไม่นานมานี้ รักแท้ย่อมอยู่เหนือกาลเวลาครับ ยิ้มกว้างๆ

ถ้าหากคุณปีศาจฯเก็บแผ่นเสียงใต้เตียงที่เพื่อนให้ไว้จนถึงทุกวันนี้ป่านนี้นำไปขายจะสามารถสร้างห้องใต้ดินได้เลยครับ ยิ้ม
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2]
พิมพ์
กระโดดไป:  

ThaiProg.net Ver 4.0 by tisanai,Shineon,kongbei
Top 10 Best Sellers in Kindle eBooks Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers In Automotive Parts And Accessories Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers in Tools and Home Improvement Under $10, Reviewer 2016
Top 10 Best Sellers in Clothing for 2017 Top 10 Best Sellers in Clothing Best Sellers in Clothing
Top 10 Best Sellers in Books reviewer 2017 Top 10 Best Sellers in Books Best Sellers in Books
Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Reviewer 2017 Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Best Sellers In Grocery