เรวัต พุทธินันทน์ และวงคีตกวี - เรามาร้องเพลงกัน (2525)
ขอยืมภาพปกเทปมาจาก
www.oknation.net
ปี 2530 ผมเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปี 2 เพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่งซึ่งอยู่ปี 4 เขาเรียนดนตรี (เปียโน) อยู่ที่โรงเรียนดนตรีศศิลิยะ (ซึ่งมีอาจารย์ดนู ฮันตระกูล เป็นผู้อำนวยการ) เห็นผมบ้าฟัง progressive rock จึงเอาเทปคาสเสทอัลบั้มชุด "เรามาร้องเพลงกัน" โดยเรวัต พุทธินันทน์ และวงคีตกวี มาให้ผมลองฟังดู ผมก็ฟังอยู่หลายเที่ยวแบบค่อย ๆ ซึมซาบ เป็นอัลบั้มเพลงไทยที่คนฟังในยุคนั้นอาจเรียกว่าเป็นแนวทดลอง (experimental) หรือบางคนที่ฟัง progressive ก็อาจเรียกว่าเป็นแนว progressive ก็แล้วแต่จะว่ากันไป แต่ที่แน่ ๆ คือ คนดนตรีกลุ่มนี้ (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักดนตรีจากวง Butterfly ซึ่งมีสายสัมพันธ์กับโรงเรียนดนตรีศศิลิยะ) มีหัวการทำเพลงที่ "ก้าวหน้า" และ "มาก่อนเวลา" และอาจเรียกได้ว่าถึงขั้น "ผิดเวลา" ก็ได้ เพราะยอดขายผลงานชุดนี้ ทั้งเทปคาสเสทและแผ่นเสียง ไม่ดีเลย รุ่นพี่คนที่ให้ผมยืมเทปเล่าว่า (ตอนนั้น) เทปและแผ่นเสียงอัลบั้มชุดนี้เหลือสต็อกค้างอยู่ที่โรงเรียนฯบานตะไท เพราะขายไม่ค่อยออก (แต่ปัจจุบัน มีคนถามหากันมากมาย เขาว่าราคาซื้อขายแผ่นเสียงชุดนี้ในตลาดมือสองว่ากันเป็นหลักหมื่นบาท) ผมคืนเทปม้วนนั้นให้รุ่นพี่ไปและไปหาซื้อเทปมาฟังเป็นของตนเองจากร้านโดเรมี สยามสแควร์ ในยุคนั้น ในความเห็นของผม ดนตรียอดเยี่ยมทั้งในแง่เนื้อร้องและการเล่นและเรียบเรียงดนตรี แต่โปรดักชั่น "บอบบาง" เหมือนอย่างที่ฝรั่งเขาว่า thin production รายละเอียดเกี่ยวกับอัลบั้ม (เนื้อร้อง เครดิตคนทำเพลง ฯลฯ) แทบไม่มีให้อ่านเลย เกือบจะเหมือนเทป Peacock ยังไงยังงั้น รู้จากปากคำบอกเล่าของรุ่นพี่ของผมว่า นอกจากคุณเต๋อ (RIP) ซึ่งเป็นนักร้องนำแล้ว วงคีตกวีก็ประกอบด้วยอาจารย์ดนู ฮันตระกูล, เขตต์อรัญ เลิศพิพัฒน์ (RIP), อัสนี โชติกุล, ธนวัฒ (อนุวัฒน์) สืบสุวรรณ, กฤษณ์ โชคทิพย์พัฒนา, จิรพรรณ อังศวานนท์ เป็นต้น คุณภาพการบันทึกเสียงเหมือนมือสมัครเล่น ซึ่งก็อาจเป็นเพราะมีงบประมาณในการทำไม่มากนักก็ได้ เพลงในชุดนี้ไม่ใช่ในแบบฉบับ progressive ทั่วไปที่เราคุ้น ๆ กันอย่างของ Yes, Genesis, Pink Floyd, ELP แต่มันเป็นเหมือนหม้อต้มจับฉ่ายที่รวมเพลงหลากหลายแนวไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นแนวโฟล์คร็อค พ็อพ ไซคีเดลิก เฮฟวี่เมทัล นิวเอจ เป็นต้น เนื้อหาบทเพลงลึกซึ้ง อิงหลักปรัชญาและศาสนา บางครั้งอาจต้องอาศัยการตีความ ซึ่งก็เป็นเรื่องท้าทายสำหรับคอ progressive rock น่าเสียดายที่ผลงานชุดนี้มาก่อนเวลามากเกินไป แต่กาลเวลาได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นผลงานที่ไร้ซึ่งกาลเวลา (timeless) อย่างแน่นอน แผ่นเสียงใช้แล้วในท้องตลาด ถ้าไม่มีเงินเป็นหลักหมื่นก็อย่าไปพูดถึง บางครั้งถึงแม้มีเงินก็ใช่ว่าจะหาซื้อมันได้ เทปคาสเสทที่ผมเคยมีก็หายไปไหนไม่รู้นานแล้ว ดีใจมากที่ได้อัลบั้มชุดนี้กลับมาอีกครั้งใน Collection Box Set ชุด Alive ของคุณเรวัต พุทธินันทน์ ซึ่งมีคุณภาพเสียงดีกว่าที่เคยได้ยินในเทปคาสเสทครับ
เครดิตภาพ
www.thaiticketmajor.com