เมื่อคืน บาเยิร์นเป็นรองในเชิงความสมดุลของทีม บาเยิร์นเป็นทีมที่ขับเคลื่อนโดยปีสองข้าง แต่การที่ไม่มีริเบรี่ ก็ทำให้ลดคุณภาพลงไปเยอะ ผมว่าหลุย ฟานกัล วางแผนการเล่นได้ดีแล้ว โดยการถ่ายบอลออกข้าง ซึ่งทำได้ดีในหลายๆจังหวะ ในการดึงนักเตะอินเตอร์ให้เปิดช่อง แต่ที่เกมรุกทำได้ไม่ดีนัก เข้าไปป่วนกองหลัง ตรงหน้ากรอบประตู ไม่ดีพอ เพราะกองกลางตัวรุก อย่าง ชไวสไตเกอร์ เล่นบอลช้า คิดช้า ทำช้า ไม่มีลูกโยนที่แม่นยำ ไม่มีลูกยิงหนัก ไม่มีความทะลุทะลวง (ในทีมชาติ เยอรมันอาจตกรอบแรกก็ได้) ร๊อบเบนอุตสาห์ทำทุกๆอย่างให้บาเยิร์นแล้ว แต่กองหน้าลูกรักของฟานกัล (โธมัส มุลเลอร์) ก็ช่างอ่อนเสียเหลือเกิน เป็นนักเตะเกรดบี ที่ยิง่ประตูไม่เป็นเอาซะเลย แผนของฟานกัล ทำถูกแล้ว แต่คุณภาพในเกมรุก ชไวสไตเกอร์และมุลเลอร์ ไม่ดีจริงๆ ส่่วนความผิดพลาดในเกมรับของบาเยิร์นคือ การที่ฟิลิป ลาร์ม ยืนสูงมากๆ ทำให้เกมรับฝั่งขวาหลวม และหลุดตลอด โดนอินเตอร์เจาะทางขวาตลอด นี่คือจุดผิดพลาดมหันต์ของค่ำคืนที่ผ่านมาของบาเยิร์น ถ้าให้ชี้จุดด้อยในทีมบาเยิร์นชุดนี้ กองหน้า โธมัส มุลเลอร์ กองกลางตัวรุก บาสเตียน ชไวสไตเกอร์ แบ็คซ้าย บาสสตูเบอร์.......และการยืนตำแหน่งของแบ็คขวาที่หลวมเกินไป ทั้งๆที่เจ้าของตำแหน่งอย่าง ฟิลิป ลาร์ม คือนักเตะเกรดเอ แต่เล่นชะล่าใจ เปิดเกมรุกมากเกินไป ทางขวาเลยโดนเจาะทะลุตลอดอย่างที่เห็น ตั้งแต่ต้นเกม จนสิ้นเสียงนกหวีด เมื่อยามโดนสวนกลับ ฯ์
ในฐานะแฟนบอลเก่า(แก่)ของบาเยิร์นและเยอรมัน ชไวสไตเกอร์คงไม่เลวร้ายถึงขนาดนั้นหรอกครับ
เยอรมันเป็นทีมที่มีระบบ ระเบียบ ในการวางแผนการเล่นเป็นขั้นตอน ทีมในบุนเดสลีก้ามีรูปแบบการเล่น
ใกล้เคียงกับทีมชาติมากทำให้นักฟุตบอลไม่ต้องปรับตัวมากเวลาเล่นทีมชาติ แต่ในช่วงหลังเยอรมันไม่
ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควรเพราะขาดดารา(ตัวตัดสินเกมส์)ไป ระบบอย่างเดียวคงไม่เพียงพอที่จะขึ้นเป็น
แชมปโลกได้ ผมว่าเยอรมันคงต้องพยายามหาดาราอย่างที่ตัวเองเคยมี เช่น แม็คเค่นบาว (เกิร์ด)มุลเลอร์
รุมเมนิเก้ มัทเธอุส แต่ยังไงคงไม่น่าตกรอบแรกบอลโลกหรอกครับ แฟนๆคงรับไม่ได้