ผมว่า"รูปแบบ"มันเริ่มตันล่ะครับ สังเกตุจากเมื่อเกือบๆ 10ปีก่อน ที่ DVD เข้ามาแทนที่ VHS และปัจจุบัน Blu-ray หรือ HD-DVD ที่จะมาแทน DVD เดิม (แต่สงคราม 2 ฟอร์แมตซ์แห่งอนาคตนี้ ดูเหมือนว่า BR จะเป็นผู้ชนะ เพราะค่ายหนังค่ายล่าสุดอย่าง Warner ได้ประกาศชัดเจนแล้วว่าจะมาอยู่ที่ BR) สังเกตุว่าในช่วง 10 ปีมานี้ รูปแบบของสื่อบันทึกยังคงเป็นแผ่นพลาสติกเส้นผ่าศูนย์กลางมีรูอยู่ ไม่ว่าจะ CD, DVD, BR, HD ผมว่ามันอิ่มตัวแล้วพัฒนารูปแบบอะไรไม่ได้แล้ว ขนาดแผ่น Mini-LP CD King Crimson ที่ WHD นำมาออกเมื่อ 2 ปีก่อน ยังใส่รหัส HD-CD มาด้วยเลย ผมว่าต่อให้เป็น Hyper Super Ultimate CD (หรืออะไรก็ตาม--อันนี้แค่สมมุตินะครับ) คงดึงพลังแฝงในอัลบั๊มออกมาไม่ได้อีกแล้วล่ะครับ นอกซะจากให้พวกวงดนตรีเหล่านั้นย้อนเวลากลับไปแก้ไขงานในอดีต(ที่ดีอยู่แล้ว)ให้ดีขึ้นกว่าเดิมอีก
ผมว่าถ้าจะดูที่รูปแบบการบันทึกหรือฟอร์แมตซ์แห่งอนาคต(ที่บันทึกข้อมูลได้ที 50-80GB)นั้น เรามาดูที่ตัว"ศิลปิน"ที่ผลิตงานออกมาจริงๆดีกว่าครับ ปัจจุบันนี้ผมได้ CD อะไรใหม่ๆมานี่แทบไม่ได้เอาออกมาอวดใครเลย (นอกซะจากแฟนและเพื่อนสนิทๆหน่อย) เพราะพฤติกรรมผู้ฟัง(ทั้งบ้านเราและเมืองนอก)ได้เปลี่ยนไปแล้ว ยุคนี้ใครซื้อ CD ถือเป็นเรื่องเชย ล่าหลัง ซื้อทำไม? หาโหลดเอาตาม Bit ก็ได้ นี่เป็นคำถามที่ผมได้ยิน(มาจนเบื่อ)อยู่เป็นประจำ และขี้เกียจจะตอบแล้ว ส่วนตัวผมเองนั้นก็โหลดหรือสูบเอาตามเว็ปหรือ Bit เป็นอาจิณแต่ก็ยังซื้ออยู่เป็นประจำทุกเดือน (บางเดือนซื้อจนไม่มีตังค์จะกินข้าว) ถึงแม้ว่าผมจะชอบศิลปิน(หญิง)สาวๆสวยๆ แต่การบันทึกเสียงและนำเสนอต้องมาก่อนครับ ไม่ใช่ซื้อมั่วซั่วส่งเดชซุ่มสี่ซุ่มห้าครับ (เอ..ตอบตรงประเด็นป่าวหว่า)
ประทับคำพูดครับ
ปัจจุบัน ผมแทบจะพูดกับนักเล่นเครื่องเสียงเขาไม่รู้เรื่องแล้วครับ
แต่ละคนเตพๆ กันทั้งนั้น
มีเครื่องก็ต้องโม(ดิฟาย) ถอดนู้นเปลี่ยนนี่ (ตะละตัว ก็แพ้งแพง)
นี่กระแสมาให้เลิกเล่นซีดีมาอีกแล้ว ให้ไปเล่น24/96 -24/192
แถมมายุให้ผมขายเครื่องซีดีซะอีก
ผมก็บอกว่า ผมรู้น่า... ว่าอะไรเป็นอะไร แผ่นเสียงผมก็มีฟังเทียบอยู่นิ
คนเราคงไม่กินเซอร์ลอยสเต็กทุกวันนี่ วันนี้ ผมว่าเนื้อย่างจิ้มแจ่ว ก็ไม่เลวนะ
บางทีจะไปแค่ปากซอย คงไม่ต้องขับทวินแค็ม-ทวินปลั๊ก แค่ฟีโน่ก็แหล่มสุดๆแล้ว
พอเห็นผมไม่เชื่อฟังคำสั่ง ก็แอบไปพูดกับคนอื่น หาว่าเราโง่เง่าเต่าตุ่น เฮ้อ..
คนพวกนี้ คงไม่เคยสนใจในความยากลำบากของศิลปิน ที่ต่อสู้ดิ้นรนทุ่มเทมันสมองเพื่องานเพลงที่เขารัก และอยากให้คนอื่นๆได้ยินเช่นกัน โดยแลกกับเม็ดเงินเพียงน้อยนิด
ถ้าทั้งโลก"ดูด"กันหมด ศิลปินคงไม่มีแรงใจ มนุษย์คงกลับไปหาความบันเทิงแบบกลาดิเอเตอร์กระมัง
พูดไป ก็สงสัยว่าชีวิตนี้ คนพวกนี้ เขาเคยเฝ้ารอจีบหญิงรึเปล่าหว่า..
เคยเห็นความงามของน้ำค้างบนยอดหญ้ารึไม่
เคยมองเห็นคุณค่าที่อยู่ข้างใน มากกว่าเปลือกนอกที่ห่อหุ้มรึเปล่า
ขอฝากให้เด็กๆรุ่นใหม่ ต้องมีความคิดดีและถูกต้อง(สัมมาทิฏฐิ) มากกว่ารุ่นเก่าๆ(อย่างผม)นะครับ